ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วิจารณ์นิยาย

    ลำดับตอนที่ #61 : บ่วงรัก วิวาห์ใจ และ บ่วงรัก หน้ากากลวงใจ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 302
      0
      9 ส.ค. 55

      หน้านิยายของ Black Chip http://writer.dek-d.com/inmy/writer/

    Black Chip  เจ้าของผลงานนิยายชุดที่นำเสนอเรื่องราวความรักของแม่ทัพทั้งห้าผู้หล่อเหลาและเก่งกาจของแคว้นเฟิง   อันได้แก่  หยางเฟยเยี่ย  แม่ทัพรูปงามที่สุดของแคว้น  กับ เจิ้งเยี่ยอิง จากเรื่องบ่วงรัก  วิวาห์ใจ  ว่านเหวิ่นจิ้ง หรือ ฉีเปี้ยน  ผู้บัญชาการทหารองค์รักษ์ กับ หลี่เม่ยเยวี่ย  จากเรื่อง บ่วงรัก  หน้ากากลวงใจ  เหวินม่อหราน แม่ทัพผู้โหดเหี้ยม ผู้ได้ชื่อว่าเป็นเทพสงคราม  กับ หงเหมย จากเรื่อง  บ่วงรัก  มายาเสน่หา  อวี๋เจิงเฉิง  หมอเทวดา  กับ ลู่ฝูหรง  จากเรื่อง บ่วงรัก  เล่ห์ร้าย  แต่ยังขาดเรื่องของ
    เจิ้งหย่งหนิง  ที่ยังไม่ได้กล่าวถึง

    จากนิยายทั้ง 4 เรื่องในชุดที่  Black Chip   ที่โพสต์ไว้มีนิยายจำนวน 2 เรื่องที่เขียนจบแล้วคือ  บ่วงรัก  วิวาห์ใจ  (25  บท) ขณะนี้ผู้เขียนลบตอนที่เคยลงไว้ทั้งหมดออก และนำเสนอเรื่องในรูปเล่มหนังสือแทน  แต่เสนอไว้เพียง 29 หน้าเท่านั้น  และ บ่วงรัก  หน้ากากลวงใจ (29 บท) ในที่นี้  ผู้วิจารณ์เห็นว่าสามารถที่จะวิจารณ์นิยายทั้งสองเรื่องนี้ไปพร้อมกันได้   เนื่องจากนิยายทั้งสองเรื่องมีโครงเรื่องที่คล้ายคลึงกันในหลายประเด็น   นับตั้งแต่เงื่อนไขที่นักเขียนใช้สร้างความสัมพันธ์ของตัวเอกในเรื่อง   โดยการผูกเรื่องด้วยการให้ถูกบังคับให้แต่งงานกัน  แม่ทัพหยางเฟยเยี่ย ต้องแต่งงานกับ เจิ้งเยี่ยอิง หลานสาวของเสนาบดีฝ่ายซ้ายตามบัญชาของจักรพรรดิที่คัดสรรเจ้าสาวและจัดงานสมรสพระราชทานครั้งนี้ให้  ในขณะที่ผู้บัญชาการทหารองครักษ์ ว่านเหวิ่นจิ้ง หรือ ฉีเปี้ยน  ที่ต้องแต่งงานกับ หลี่เม่ยเยวี่ย ลูกสาวของเสนาธิการฝ่ายขวา เพื่อปกป้องชื่อเสียงของนาง

    การให้พระเอกถูกท้าทายจนเขารู้สึกว่าถูกหมิ่นเกียรติจากนางเอกในคืนแรกของการแต่งงาน
    เจิ้งเยี่ยงอิงเสนอต่อหยางเฟยเยี่ยว่าเมื่อเขาและเธอไม่ได้ผูกใจสมัครรักใคร่กันมาก่อน  จึงเสนอให้เขาทำให้การแต่งงานครั้งนี้เป็นโมฆะ  หรือหากเขาเกรงคำครหาก็ให้เขาเขียนหนังสือหย่าให้นาง และนางจะจากเขาไปทันที  ขณะที่ว่านเหวิ่นจิ้ง ก็ได้ยินเจิ้งชิงจื่อ (สหายสนิทของหลี่เม่ยเยวี่ยที่ปลอมตัวเป็นชาย) บอกว่าจะพาเธอหนี แต่นางปฏิเสธและบอกว่าจากนี้ไปนางจะลืมชายที่เธอแอบรักให้ได้  เขาจึงเข้าใจว่านางมีคนรักอยู่แล้ว

    การสร้างปมในเรื่องความรัก  จะพบว่าตัวเอกของทั้งสองเรื่องนี้ต่างขาดศรัทธาในเรื่องความรักทั้งสิ้น  ไม่ว่าจะเป็น  หยางเฟยเยี่ย  ที่ถูกอดีตคู่หมั้นที่รักกันมากทอดทิ้ง  จนทำให้เขาเป็นคนที่ไม่ไว้ใจคน และเกลียดคำรักและการเสแสร้งของสตรี  เจิ้งเยี่ยอิง  ผู้ไม่ศรัทธาและละทิ้งความรัก  เพราะความรักทำให้พ่อตรอมใจตายตามแม่ และทิ้งเธอให้อยู่ลำพังมาตั้งแต่อายุ 16 ปี จึงไม่คิดว่าจะรักใครในชีวิตนี้   ว่านเหวิ่นจิ้ง หรือ ฉีเปี้ยน  ไม่ยินดียินร้ายในความรัก  และ หลี่เม่ยเยวี่ย  ที่รู้ว่าตนเองเป็นโรคร้ายที่จะต้องตายในไม่ช้า  จึงไม่อยากที่จะรักใคร  เพราะไม่ต้องการให้เขาต้องเสียใจกับการจากไปของเธอ   นอกจากนี้  เมื่อพระเอกและนางเอกใกล้ชิดผูกพันจนก่อให้เกิดความรักในที่สุด  นักเขียนยังสร้างจุดพลิกผันให้เกิดความคลางแคลงใจในความรักและความสัมพันธ์ครั้งนี้  โดยให้หลี่เม่ยเยวี่ยเข้าใจว่าว่านเหวิ่นจิ้งไม่ได้รักเธอแต่ยังคงรักชิงหงน้องสาวต่างมารดาที่เป็นอดีตคู่หมั้นของเขาอยู่   ขณะที่ว่านเหวิ่นจิ้งเมื่อรู้ว่าหลี่เม่ยเยวี่ยรักเขาในฐานะที่เขาเป็นฉีเปี้ยน  แต่ก็ไม่คิดจะบอกความจริงกับหลี่เม่ยเยวี่ยว่าว่านเหวิ่นจิ้ง และ ฉีเปี้ยน เป็นคนเดียวกัน   จึงทำให้ตลอดเวลาที่หลี่เม่ยเยวี่ยรักฉีเปี่ยน  เธอยังรู้สึกผิดที่นอกใจว่านเหวิ่นจิ้ง   เช่นเดียวกับหยางเฟยเยี่ยที่รู้ตัวว่ารักเจิ้งเยี่ยอิงเข้าแล้ว แต่ไม่กล้าถามเธอว่ารักเขาหรือไม่  เพราะกลัวเธอจะบอกว่าไม่รักเขาเหมือนวันแรกที่พบกัน  อีกทั้งเขายังคงกลัวคำว่ารักและการเสแสร้งของสตรี  และ เจิ้งเยี่ยอิงก็กลัวว่าถ้าแสดงความรู้สึกว่ารักหยางเฟยเยี่ย  เพราะเกรงว่าเขาจะโกรธเธอ

    ในช่วงท้ายเรื่อง   นักเขียนได้สร้างเหตุการณ์ให้นางเอกต้องเผชิญหน้ากับอันตรายถึงชีวิต   ซึ่งปัจจัยดังกล่าวทำให้พระเอกที่ปิดกั้นตัวเองจากความรัก  เปิดใจของตนเพื่อยอมรับว่ารักนางเอกมากเพียงใด   โดยเฉพาะว่านเหวิ่นจิ้งหรือฉีเปี้ยน  เมื่อทราบว่าหลี่เม่ยเยวี่ยถูกพิษร้ายและอาจจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน  เขาก็พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาและยื้อชีวิตเธอไว้ให้ได้    แม้ว่าการกระทำของเขาจะทำให้ความรักที่นางมีต่อเขากลายเป็นความเกลียดตลอดไปก็ตาม   เช่นเดียวกับ หยางเฟยเยี่ย  ที่เพิ่งรู้ตัวว่าเขารัก เจิ้งเยี่ยอิง มากเพียงใดก็เมื่อเธอถูกสนมซูเฟยจับตัวไป 

    เมื่อพิจารณาอย่างละเอียดแล้วจะพบว่าโครงสร้างหลักๆ  ของนิยายทั้งสองเรื่องนี้มีความคล้ายคลึงกันอย่างมาก   ซึ่งจะต่างกันก็แต่รายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ เท่านั้น  จึงเป็นที่น่าเสียดายว่าหากนิยายทั้งสองมีโครงสร้างเรื่องที่กำหนดกรอบหรือแนวทางในการดำเนินเรื่องที่ต่างกันมากกว่านี้  ก็จะช่วยให้เรื่องทั้งสองมีทิศทางหรือสร้างอารมณ์ที่ต่างกันออกไป  ทั้งยังช่วยให้นิยายในชุดนี้มีความหลากหลายทั้งแนวเรื่อง  มิติและมุมมองเกี่ยวกับความรักที่น่าติดตามมากขึ้น

    นอกจากนี้  จุดเด่นของนิยายทั้งสองเรื่องที่เห็นคือ   ในทางหนึ่ง ผู้เขียนสามารถที่จะสร้างเรื่อง บ่วงรัก  วิวาห์ใจ  และ  บ่วงรัก  หน้ากากลวงใจ  ให้เนื้อหามีเอกเทศต่อกัน  ขณะเดียวกันก็ไม่ทิ้งความตั้งใจเดิมที่ให้นิยายทั้งสองเรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งของนิยายรักของแม่ทัพทั้งห้าแห่งแคว้นเฟิงชุด บ่วงรัก เพราะนิยายทั้งสองเรื่องต่างก็เชื่อมโยงและอ้างถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอีกเรื่องหนึ่งด้วย  เช่น ใน บ่วงรัก  วิวาห์ใจ  เนื่องจากเป็นนิยายเรื่องแรกของชุด  จึงมีหน้าที่ช่วยปูพื้นและให้ภาพของแม่ทัพทั้งห้าไว้อย่างกว้างๆ เพื่อสร้างความคุ้นเคยให้ผู้อ่านที่จะติดตามนิยายเรื่องอื่นๆ ในชุดนี้ต่อไป   ขณะที่เรื่อง บ่วงรัก  หน้ากากลวงใจ  ก็เอ่ยถึงเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเรื่อง บ่วงรัก  วิวาห์ใจ   ทั้งเหตุการณ์ที่แม่ทัพทั้งห้าและจักรพรรดิไปรอดูอาการของเจิ้งเยี่ยอิง หลังจากที่หยางเฟยเยี่ย ไปช่วยนางกลับมาแล้ว  หรือ การกล่าวถึงอวี๋เจิ้งฉิงที่ต้องไปทำคลอดลูกฝาแฝดให้หยางเฟยเยี่ย  (แต่โดยส่วนตัว  ผู้วิจารณ์เห็นว่านิยายชุดนี้จะสมบูรณ์หากเพิ่มเรื่องที่ 6  ซึ่งเรื่องราวความรักระหว่างจิ้งหรงจักรพรรดิหนุ่มจอมวางแผน  กับ เจิ้งชิงจื่อสาวน้อยเจ้าปัญหา  ลูกสาวของเสนาบดีฝ่ายขวา ก็น่าจะสมน้ำสมเนื้อกัน  เพราะเธอนับเป็นตัวละครเด่นตัวหนึ่งที่ได้รับการกล่าวถึงโดยตลอดไว้แล้วในนิยายทั้งสองเรื่องนี้  และผู้เขียนได้ปูพื้นไว้แล้วว่าเธอเองก็ไม่ชอบหน้าจักรพรรดินับตั้งแต่ครั้งแรกที่พบด้วย) 

    ความโดดเด่นอีกประการของนิยายทั้งสองเรื่องคือ  การสร้างตัวละคร  จะพบว่าผู้เขียนสามารถที่จะสร้างให้ตัวละครแต่ละตัวมีบุคลิกเฉพาะตัวที่ช่วยให้ผู้อ่านจดจำได้ง่าย  และไม่สร้างความสับสนให้ขณะที่อ่าน  แม้ว่าในแต่ละเรื่องจะมีตัวละครจำนวนมากก็ตาม  เช่น  หยางเฟยเยี่ย  แม่ทัพผู้มีใบหน้างดงามยิ่ง มีคิ้วเข้มพาดดุจกระบี่  จมูกโด่งตรงเป็นสัน  เรียวปากหยักได้รูป  ผิดขาวผุดผ่องดุจหยกงดงาม  ใบหน้ามักฉาบไปด้วยรอยยิ้ม  กิริยาสุภาพอ่อนโยน  แต่แท้ที่จริงเป็นเพียงหน้ากากที่พรางตัวตนที่แท้จริง  ซึ่งเป็นผู้มีอารมณ์รุนแรงน่าสะพรึงกลัว ไม่ไว้ใจคนและขี้หึงอย่างมาก    จักรพรรดิจิ้งหรง  ใบหน้าหล่อเหลางดงามเปี่ยมด้วยบารมี  และมีประกายขี้เล่น   เหวินม่อหราน  นัยน์ตาเรียบเย็บ  บุคลิกเย็นชา นิสัยเฉียบขาด ชวนให้ผู้คนรู้สึกหวาดหวั่น  ว่านเหวิ่นจิ้ง  ใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้ม  นัยน์ตาสีดำวาววามเต็มไปด้วยอารมณ์ขัน  และเป็นผู้ที่ยากจะคาดเดาอารมณ์  เจิ้งเยี่ยอิง  งดงามหมดจด  ใบหน้าเล็กดูไร้เดียงสา  นัยน์ตาสุกใสไร้เล่ห์เหลี่ยม  ผมดำยาวสลวย  ท่าทางน่ารักน่าเอ็นดู   หากมีแววตามุ่งมั่นและเด็ดเดี่ยว  ทั้งยังไม่แยแสต่อความรัก  หลี่เม่ยเยวี่ย  งดงามอย่างหาตัวจับยาก  สุขภาพไม่ดี  มักจะเก็บอารมณ์และไม่แสดงความรู้สึกจนดูเย็นชาไร้ชีวิต  แต่จะเปลี่ยนเป็นผู้ที่มีชีวิตชีวา  มีรอยยิ้มที่สดใสงดงาม  และอ่อนโยน  เฉพาะกับผู้ที่คุ้นเคยเท่านั้น  และ อวี๋เจิ้งฉิน  บุคลิกอบอุ่น  นุ่มนวล  ใจเย็น  และเปี่ยมเมตตา

    นอกจากนี้  บทบรรยายและบทสนทนาในเรื่องก็นับว่าช่วยส่งผ่านและถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกต่างๆ ของตัวละครได้เป็นอย่างดี  จนสามารถกระตุ้นให้ผู้อ่านเกิดอารมณ์ร่วมไปกับตัวละครไม่ยากนัก  โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบรรยายความรู้สึกภายในจิตใจของตัวละครต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความดีใจ  ความเสียใจ  ความเศร้า  ความอัดอั้นตันใจ  หรือ ความสุข    แต่เสียดายว่ายังมีคำผิดที่พบหลายแห่ง  จึงทำให้เนื้อเรื่องสะดุดเป็นช่วงๆ ขณะที่อ่าน เช่น  ในเรื่อง  บ่วงรัก  วิวาห์ใจ  เช่น  คัดสรร  เขียนเป็น  คัดสรรค์ กะพริบ  เขียนเป็น  กระพริบ  ใหลหลง  เขียนเป็น  ไหลหลง  วาวโรจน์  เขียนเป็น  วาวโรจ  สัญชาตญาณ  เขียนเป็น  สัญชาติญาณ  เวทมนตร์  เขียนเป็น  เวทมนต์   คฤหาสน์  เขียนเป็น  คฤหาสต์    หรือในเรื่อง  บ่วงรัก  หน้ากากลวงใจ  เช่น พ่อค้าวาณิช  เขียนเป็น  พ่อค้าวานิช  อัสดง  เขียนเป็น  อัศดง  จักษุ  เขียนเป็น  จักสุ  ปรากฏ  เขียนเป็น  ปรากฎ  อาภรณ์  เขียนเป็น  อาภร  องครักษ์  เขียนเป็น  องค์รัก  และ พระกรรณ  เขียนเป็น  พระกัณฑ์  และคำผิดที่พบอีกส่วนหนึ่งจะเป็นการใช้วรรณยุกต์ผิด โดยเฉพาะการใช้สลับกันระหว่างไม้เอกกับไม้โท  ซึ่งทำให้ความหมายที่ต้องการสื่อสับสนได้  ในเรื่อง  บ่วงรัก  วิวาห์ใจ  เช่น  จิ้มลิ้ม  เขียนเป็น  จิ้มลิ่ม  หนักอึ้ง  เขียนเป็น  หนักอึ่ง  มิใช่  เขียนเป็น  มิใช้  ชะล้าง  เขียนเป็น  ชะล่าง  ลึกซึ้ง  เขียนเป็น  ลึกซึ่ง    หรือ ในเรื่อง บ่วงรัก  หน้ากากลวงใจ  เช่น  ใช่ เขียนเป็น  ใช้   และ ใช้ เขียนเป็น ใช่  รกร้าง  เขียนเป็น  รกร่าง  ลิ้ม  เขียนเป็น ลิ่ม  ชื้น  เขียนเป็น  ชื่น  แม้  เขียนเป็น  แม่  นั่น เขียนเป็น นั้น  และ  ห้วง  เขียนเป็น  ห่วง   หากแก้ไขคำผิดทั้งหมดได้ก็จะช่วยให้เรื่องน่าอ่านยิ่งขึ้น

    ยิ่งไปกว่านั้น   ปมขัดแย้งบางปมที่สำคัญของเนื้อเรื่องกล่าวถึงอย่างคร่าวๆ ซึ่งบางครั้งก็ก่อให้เกิดคำถามและข้อสังสัยค้างคาใจผู้อ่าน   โดยเฉพาะการเปิดตัวสนมซูเฟยที่เป็นอดีตคนรักของ หยางเฟยเยี่ย  ในตอนท้ายเรื่อง บ่วงรัก  วิวาห์ใจ  ก็ยังไม่ชัดเจนว่าเธอวางแผนที่จะก่อการใหญ่เพื่อล้มอำนาจของจักรพรรดิอย่างไร  จนจักรพรรดิต้องซ้อนแผนเพื่อยืมมือหยางเฟยเยี่ยกำจัดสนมซูเฟย  และสาเหตุที่สนมซูเฟยเพิ่งหวนกลับมาหาหยางเฟยเยี่ยนั้นเป็นเพียงแค่ไม่ต้องการจะยอมรับว่าหยางเฟยเยี่ยหมดรักเธอแล้วเท่านั้นหรือ  เพราะผู้เขียนเปิดความสัมพันธ์หยางเฟยเยี่ยต้องระมัดระวังตัว  เพราะสนมซูเฟยตามเล่นงานเขามาโดยตลอด   และในเรื่อง  บ่วงรัก  หน้ากากลวงใจ   ที่ผู้เขียนปูพื้นไว้ว่า  จางฮูหยินไม่ชอบลูกเลี้ยง หลี่เม่ยเยวี่ย  และพยายามทำให้เธอไม่มีความสุขด้วยวิธีการต่างๆ นานา  แม้กระทั่งการทำให้หยางเฟยเยี่ยถูกพิษจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด  ซึ่งน่าจะแสดงว่าเธอรังเกียจหลี่เม่ยเยวี่ยอย่างมาก   แต่เหตุใดการกระทำที่เธอแสดงออกมากลับดูเหมือนว่าเธอสนับสนุนและวางแผนให้หลี่เม่ยเยวี่ยได้แต่งงานกับว่านเหวิ่นจิ้งชายผู้เพียบพร้อมด้วยรูปร่างหน้าตา  หน้าที่การงาน และสถานภาพทางสังคม   และยังเป็นคู่หมั้นของชิงหงลูกสาวของเธอเอง  ซึ่งการกระทำเช่นนี้เป็นผลร้ายต่อตนเองมากกว่า  เพราะเท่าเป็นการฉีกหน้าทั้งตนเองและบุตรสาว  ขณะเดียวกันก็เหมือนกับช่วยส่งเสริมให้หลี่เม่ยเยวี่ยแยกไปใช้ชีวิตนอกบ้านตระกูลจางได้อย่างอิสระ   จึงเห็นว่าหากผู้เขียนขยายความในประเด็นเหล่านี้ก็จะช่วยขจัดข้อสงสัยและทำให้เรื่องชัดเจนยิ่งขึ้น 

     

     

    ----------------------------

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×