ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วิจารณ์นิยาย

    ลำดับตอนที่ #52 : มีอา-มังกรน้อยปาฏิหาริย์ - (Master And The Little Dragon) -

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 199
      0
      9 ส.ค. 55

    ลิงก์นิยาย http://writer.dek-d.com/digikwe/story/view.php?id=602930

                 นิยายเรื่อง มีอา มังกรน้อยปาฏิหาริย์ ผลงานของ K.W.E. ที่นำมาฝากไว้ให้วิจารณ์ เป็นเรื่องราวของฟิล เด็กหนุ่มอายุสิบแปดปีที่เป็นเกษตรกร อาศัยอยู่ตัวคนเดียว เนื่องจากแม่และน้องสาวที่ชื่อมีมี่เสียชีวิตไป และเครนี่ผู้เป็นพ่อ ก็กลับไปเป็นอัศวินมังกร อาชีพเก่าของเขา ด้วยเหตุผลที่ยังไม่เปิดเผย  นอกจากฟิลจะเป็นเกษตรกรขายผักและไวน์แล้ว เขาก็ยังมีความสามารถพิเศษคือ การสื่อสารกับสัตว์ต่างๆ และสามารถใช้เวทมนตร์ได้เป็นอย่างดี  นอกจากนี้ ถึงแม้ฟิลจะต้องอาศัยอยู่ตัวคนเดียว แต่เขาก็ยังมีหลวงพ่อโรเบิร์ต เพื่อนของบิดา คอยช่วยเหลืออยู่ห่างๆ

                เนื่องจากเครนี่ทิ้งครอบครัวไปเป็นอัศวินมังกร จึงทำให้ฟิล “เกลียด” พ่อและมังกรตลอดมา แต่แล้ววันหนึ่งก็มีสาวน้อยนาม “มีอา” ตกลงมาจากท้องฟ้า เรื่องราวมาเฉลยภายหลังว่าเธอคือมังกรน้อยที่ถูกส่งมาจาก “อีเทอร์โร่” ดินแดนที่เหล่ามังกรอพยพหนีไปเมื่อหลายพันปีก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงการมีความสัมพันธ์กับมนุษย์ที่ชอบใช้ประโยชน์จากมังกร... การมาของมีอาคือสิ่งที่ “อีวา” มารดาของมังกรทั้งปวง หวังว่าเธอจะนำความสัมพันธ์อันดีหวนคืนสู่มนุษย์และมังกร อีกทั้งสร้างสันติภาพกลับคืนสู่ “เคลเฟอร์” โลกมนุษย์ในเรื่องนี้อีกด้วย

                หลังจากที่ได้อ่านนิยายเรื่องนี้จนจบ 21 ตอน ตามที่ผู้เขียนได้โพสต์ไว้ และได้ตามไปอ่านบทความ “ก่อนจะมาเป็นนิยายเรื่อง มีอา-มังกรน้อยปาฏิหาริย์”แล้วก็พบว่า ตัวละครที่โดดเด่นที่สุดในเรื่องนี้คือมีอา มังกรน้อยนั่นเอง เพราะผู้แต่งกล่าวไว้อย่างชัดเจนว่าได้รับแรงบันดาลใจจาก “มิลรีฟ” มังกรน้อยในเกม Summon nights 4 และนำเอาภาพของมิลรีฟมาใช้แทนมีอาอีกด้วย รองลงมาคือฟิล เด็กหนุ่มที่มีความสามารถหลากหลายดังที่กล่าวมา     ในช่วงต้นของนิยายเรื่องนี้ เป็นการบรรยายถึงวิถีชีวิตของตัวละครเอกทั้งสองตัว ไม่ว่าจะเป็นการทำการเกษตร ทำอาหาร นำพืชผักและไวน์ไปขายในเมือง ต้องต่อสู้กับหมาป่าและคนร้าย ฯลฯ  ระหว่างที่บรรยายวิถีชีวิตของทั้งสองคน ผู้เขียนก็ถือโอกาสบรรยายภาพของโลกเคลเฟอร์ไปด้วยว่ามีสภาพแวดล้อมอย่างไร มีเมืองและป่าเป็นแบบใด มีสิ่งมีชีวิตแบบใดอาศัยอยู่บ้าง ซึ่งก็ถือว่าทำได้อย่างแนบเนียนดี

     ความสัมพันธ์ระหว่างฟิลกับมีอาแสดงออกผ่านการอ่านนิทานให้ฟังก่อนนอน การทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน  ผู้อ่านจะเห็นว่าฟิลเปิดใจรับมีอามากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเหตุเพราะความน่ารักของมีอา และยังเป็นเพราะความคล้ายกันระหว่างมีอาและมีมี่ น้องสาวที่ฟิลเคยสูญเสียไป  ทว่าสิ่งที่ผู้อ่านมองเห็นไม่ชัดนักคือความเกลียดชังมังกรของฟิลซึ่งผู้เขียนพยายามย้ำด้วยคำพูดตลอดเวลาว่า ฟิลเกลียดมังกร ทว่าเท่าที่อ่านเห็นเขาเพียงแต่พร่ำพูด และมีตัวละครอื่นเช่นหลวงพ่อโรเบิร์ตคอยย้ำเตือนกับผู้อ่านเท่านั้น  แต่พฤติกรรมของเขาที่แสดงออกว่าเกลียดมังกรนั้นยังไม่ได้แสดงออกอย่างชัดเจน  ผู้เขียนน่าจะต้องเพิ่มเติมส่วนนี้ให้มากขึ้นทั้งก่อนที่ฟิลจะได้พบมีอา และในช่วงต้นของการอยู่ร่วมกันระหว่างสองคน เช่น อาจจะให้ฟิลมองมังกรในตลาดอย่างเกลียดชัง หรือให้เขาทำร้ายมังกร หรือไม่อยากให้มังกรเข้าใกล้บ้าง   แต่ในเนื้อเรื่องฟิลรับมีอาเข้ามาอยู่ด้วยอย่างง่ายดายตั้งแต่ตอนแรก ถึงแม้ว่าในขณะนั้นยังไม่เป็นที่ประจักษ์ในเรื่องว่าสาวน้อยคนนี้เป็นมังกร แต่เมื่อเธอเอ่ยออกจากปากตัวเองว่า “มีอาเป็นมังกรค่ะ” แล้ว  หากเป็นผู้ที่เกลียดชังมังกรก็ควรจะมีการ “ทำใจลำบาก” บ้าง ก่อนที่จะรับเธอมาอยู่ด้วย อีกทั้งยังจะต้องมีการปรับตัวในช่วงแรกๆ เช่น ฟิลอาจจะต้องให้มีอาไปอยู่ในคอกม้า หรือใช้ให้มีอาทำงานหนักๆ ก่อน  แล้วค่อยๆ เห็นความน่ารักของมีอา หรือความเหมือนน้องสาวของตน จึงค่อยๆ เปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อมีอา

                ในด้านของการบรรยายลักษณะของตัวละคร นอกจากมีอาที่ผู้เขียนให้ผู้อ่านได้เห็นภาพจากในเกมแล้ว การบรรยายตัวละครอื่นยังไม่ค่อยชัดเจนนัก แม้แต่ฟิลเอง ผู้อ่านก็ยังไม่เห็นว่า ฟิลมีรูปร่างหน้าตาอย่างไร  ผู้เขียนต้องไม่สับสนระหว่างการบรรยายพฤติกรรม ลักษณะนิสัยของตัวละคร ที่ทำได้ดีอยู่แล้ว (มีการบรรยายว่าฟิลเป็นลูกใคร มีนิสัยอย่างไร ชอบทำอะไร เป็นต้น) กับการบรรยายรูปร่างลักษณะของตัวละคร เมื่อผู้อ่านไม่เห็นหน้าตาของตัวละครเอกเสียแล้ว ตัวละครอื่นๆ เช่นหลวงพ่อโรเบิร์ต ลอร่า เครนี่ ฯลฯ ก็ไม่ต้องพูดถึง เพราะได้เห็นเพียงภาพอันรางเลือนเท่านั้นเอง  แม้แต่มีอาที่รู้สึกว่าเห็นภาพชัดเจน ก็เป็นเพราะภาพที่นักเขียนนำมาให้ดูต่างหาก ไม่ใช่จากคำบรรยายของนักเขียน เพราะคำบรรยายมีอาในร่างมังกรนั้นก็เห็นภาพแค่ “มังกรขนาดเล็กสีชมพู” เท่านั้นเอง จึงอยากให้ผู้เขียนบรรยายรูปร่างหน้าตา ตลอดจนการแต่งกายของตัวละครให้มากกว่านี้

                การดำเนินเรื่องในช่วงต้นนอกจากการเล่าเรื่องชีวิตประจำวันของฟิลและมีอาแล้ว ยังมีการสลับไปเล่าเรื่องประวัติศาสตร์ในอดีต สาเหตุที่อีวาพาเหล่ามังกรระดับสูงอพยพไปจากเคลเฟอร์ โดยผู้เขียนเล่าผ่าน “นิทานภาพ” ที่มีอานำมาให้ฟิลอ่านให้ฟังก่อนนอน ซึ่งก็ถือได้ว่าเป็นข้ออ้างที่ดีที่จะสลับไปเล่าเรื่องนี้ อีกทั้งยังเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศจากชีวิตประจำวันบ้าง แต่คำว่า “นิทานก่อนนอน” ย่อมหมายถึง หนังสือที่ไม่มีรายละเอียดมากนัก เป็นการเล่าด้วยการบรรยายอย่างง่าย เพื่อให้เด็กฟัง  นอกจากนี้ผู้เขียนยังบอกไว้อีกด้วยว่าเป็น “นิทานภาพ” ซึ่งก็คือ หนังสือที่แสดงภาพเป็นหลัก ซึ่งแตกต่างจากการบรรยายยาวยืดของผู้เขียนที่เขียนไว้ถึงสองตอน จึงขอแนะนำว่า หากยังคงต้องการจะเล่าผ่านนิทานภาพ ก็ควรจะวาดภาพจริงๆ ไปเลย อาจเป็นภาพแบบเด็กๆ เป็นมุมมองของมีอา ก็ได้ หรือหากจะบรรยายยาวๆ ก็อาจจะหาข้ออ้างอื่น เช่น ฟิลได้พบหนังสือเล่มนี้โดยบังเอิญ หรือหาเหตุอื่นที่ทำให้เขาได้รู้เรื่องนี้  อีกทางเลือกหนึ่งคืออาจจะยังไม่ต้องเล่าประวัติศาสตร์ในตอนนี้ แต่ค่อยๆ เล่าผ่านมีอาก็ได้

                ช่วงต่อมาผู้เขียนเริ่มเล่าถึงการทำสัญญาระหว่างฟิลและมีอา ประกอบกับเรื่องของการทำสงครามระหว่างไฮแลนด์กับประเทศที่ฟิลและมีอาอาศัยอยู่  สาเหตุที่ฟิลและมีอาต้องทำสัญญากันก็เป็นเพราะหากมังกรไม่ทำสัญญากับมนุษย์แล้วก็จะต้องป่วยจนถึงแก่ชีวิต ซึ่งก็เป็นสาเหตุที่ผู้เขียนได้เกริ่นเอาไว้และย้ำอย่างสม่ำเสมอ จึงไม่รู้สึกแปลกหรือขัดเมื่อมีอาเริ่มเกิดอาการป่วยจนต้องทำสัญญา และเมื่อมีอาป่วยก็ทำให้ฟิลนึกถึงอาการป่วยของน้องสาวก่อนที่จะเสียชีวิต ทำให้เขาไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบเดิมขึ้นอีก  เหตุผลสองประการนี้ถือเป็นความสมเหตุสมผลที่ยอมรับได้ จึงขอชื่นชมผู้เขียนที่ได้ปูเรื่องนี้มาเป็นอย่างดี (หากจะไม่นับเรื่องการเล่าประวัติศาสตร์ผ่าน “นิทานภาพ” ที่ได้กล่าวไปแล้ว)  นอกจากนี้ในช่วงที่ผู้เขียนเริ่มพูดถึงแม่และน้องสาวของฟิล กับสาเหตุที่ผู้เป็นพ่อต้องหนีจากครอบครัวไป ว่าเป็นเพราะน้องสาวเป็น “มังกรเชื้อสายมนุษย์” ที่ไม่อาจจะอยู่ร่วมกับมนุษย์ได้ และอาจจะไม่สามารถทำสัญญาได้ด้วย เนื่องจากเป็นมังกรที่ไม่สมบูรณ์ที่ไม่สามารถแปลงร่างเป็นมังกรได้ ก็ถือว่าเป็นคำอธิบายที่สมเหตุสมผลดี  ส่วนการที่นักเขียนให้น้องสาวของฟิลยังคงป่วยตายทั้งที่พ่อไม่อยู่แล้ว เพื่อให้ฟิลโทษตัวเองว่าอาจจะเป็นเพราะตนนั้น ผู้วิจารณ์ก็ยังอยากจะทราบว่าผู้เขียนจะหาทางออกให้กับเรื่องนี้อย่างไร เพราะเท่าที่อ่านดูยังไม่เห็นสาเหตุอื่นที่ทำให้น้องสาวฟิลตายนอกจากเชื้อสายผู้บังคับมังกรของฟิล  เมื่อเครนี่ต้องจากครอบครัวไปเพราะเรื่องนี้ เขาเองก็น่าจะพาฟิลไปด้วยเพราะอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้มีมี่ต้องตายเช่นกัน แต่กลับปล่อยฟิลไว้กับน้องสาว  หากผู้เขียนยังรักษามาตรฐานเดิม คือมีคำอธิบายที่สมเหตุสมผลกับเรื่องนี้ได้ ก็จะเป็นการดีมาก

                อีกประเด็นหนึ่งที่เริ่มพูดถึงคือการทำสงครามระหว่างประเทศของฟิลกับไฮแลนด์ ซึ่งจะเป็นการดึงเหล่ามังกรเข้าสู่สมรภูมิรบที่กำลังจะมาถึง  เรื่องราวอยู่ในระหว่างการปูทางให้ผู้อ่านเข้าใจว่าสงครามเกิดขึ้นได้อย่างไร และให้ภาพประเทศไฮแลนด์อย่างคร่าวๆ ว่าเป็นประเทศที่ต้องการแย่งชิงทรัพยากรจากผู้อื่น และนิยมใช้มังกรที่มีขนาดใหญ่ พละกำลังสูง แต่มีความเร็วต่ำ  และผู้เขียนเริ่มพาฟิลกับมีอาเข้ากองทัพ ด้วยการพาไปฝึกในฟาร์มมังกร ที่แห่งนั้นฟิลได้เรียนรู้ว่าเขามีความสามารถทำสัญญากับมังกรหลายตัวได้ เรื่องราวเท่าที่อ่านก็จบลงแต่เพียงเท่านี้  แต่การที่ฟิลทำสัญญากับมังกรได้หลายตัว โดยอาจจะไม่นำมีอาเข้าสู่สนามรบ ก็ทำให้ผู้วิจารณ์นึกไปถึงเหตุการณ์หลายเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นหลักฐานชัดเจนว่า ผู้เขียน “รัก” ตัวละครที่ชื่อมีอามากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นช่วงที่มีอาติดอยู่ในเหมือง หาทางออกไม่ได้ นอกจากจะพ่นไฟใส่กองเหล็กจนหลอมละลายเท่านั้น ในขณะนั้นมีอายังพ่นไฟได้แค่แบบธรรมดา แต่ทันใดนั้นเอง เธอกลับพ่นไฟ “บลูเฟลม” ที่มีความรุนแรงสูงมากได้ทันที   หรือในตอนที่ต้องต่อสู้กับทหารมังกรสามคน มีอาก็ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ทั้งที่ตนเองเป็นเพียงมังกรเด็กที่ต้องสู้กับทหารที่มีประสบการณ์รบ  หรือตอนที่ฟิลแอบหนีไปกองทัพเพียงคนเดียว มีอาก็ใช้เวลาเพียงวันเดียวก็สามารถตามตัวพบ เป็นต้น  การที่ผู้เขียนให้ฟิลสามารถทำสัญญากับมังกรได้หลายตัวก็แสดงว่า ผู้เขียนอาจจะใช้มังกรบางตัวมาสังเวยเพื่อให้มีอายังคงมีสวัสดิภาพที่ดีในชีวิตต่อไป  จึงขอแนะนำว่า ผู้เขียนควรลดความ “รัก” มีอาให้น้อยลง และพยายามเขียนเรื่องอย่างสมจริงมากขึ้น อยากให้ลองคิดดูว่าฟิลกับมีอา ควรจะได้ร่วมชีวิตและร่วมรบกันอย่างเต็มที่ ร่วมทุกข์ร่วมสุขซึ่งกันและกัน เป็นคู่หูที่แท้จริง  เพราะในขณะนี้ความเศร้าโศกที่เกิดขึ้นกับมีอา เป็นเพียงการร้องไห้ของเด็กๆ แค่ไม่ทันข้ามคืน ความเศร้าก็หายไปเท่านั้น ยังไม่ใช่ความสัมพันธ์ระหว่าง “คู่ทำสัญญามังกร” ที่ควรจะเป็น  ผู้วิจารณ์ขอแนะนำว่า ผู้เขียนควรจะไปอ่านหนังสือนิยายที่เป็นแนวนี้ เช่น Eragon หรือ Dragon Delivery หรือภาพยนตร์เรื่อง How to train your dragon ที่แต่ละเรื่อง มังกรที่เป็นตัวเอกก็ล้วนเป็นมังกรในตำนาน แต่พวกเขาหรือเธอก็ต้องเผชิญกับผยัญตราย
    อย่างแท้จริงร่วมไปกับคู่หูที่เป็นมนุษย์

                ประเด็นสุดท้ายที่อยากจะพูดถึง คือ การหาทางออกอย่างง่ายๆ ของผู้เขียนเมื่อเกิดปัญหาขึ้น เช่น การออกจากเหมืองที่ได้พูดไปแล้ว จู่ๆ มีอาก็มี “บลูเฟลม” ได้ตอนนั้นพอดี  ตอนต่อสู้กับทหารมังกรทั้งสาม ก็ให้บังเอิญว่าหลวงพ่อโรเบิร์ตเคยเป็นรองแม่ทัพมาห้ามไว้ได้พอดี  หรือตอนที่ฟิลหลบหลีกไปตามป่าเพื่อไม่ให้มังกรมองเห็นได้ง่าย ก็ให้บังเอิญว่ามังกรของแลนซาร์ดมี “หูทิพย์” ที่ทำให้ความพยายามของฟิลไร้ประโยชน์  แม้แต่เรื่องที่ควรจะเน้นย้ำเป็นเรื่องสำคัญ อย่างความสัมพันธ์ระหว่างเครนี่และฟิล ทั้งๆ ที่เกลียดกันมานานหลายปี แต่กลับคืนดีกันได้อย่างง่ายดาย เพียงเพราะการปลอบโยนของมีอา และการเล่าเรื่องของโรเบิร์ต  ถึงแม้ว่ามีอาจะสามารถเยียวยาจิตใจได้เพียงใด และโรเบิร์ตจะมีความน่าเชื่อถือแค่ไหนสำหรับฟิล แต่สำหรับพ่อที่ฟิลเกลียดฝังใจ และเป็นคนที่ทำให้ตนเองต้องอยู่คนเดียวมานานแสนนานนั้น  ถึงแม้มีอาและโรเบิร์ตจะพยายามช่วย และฟิลก็รับรู้สิ่งเหล่านั้น แต่เขาก็น่าจะมีทิฐิที่ทำให้การคืนดีกับพ่อต้องใช้เวลามากกว่านี้ ไม่ใช่คืนดีกันในชั่วข้ามคืนอย่างที่เป็นอยู่

                สำหรับการสะกดผิดเท่าที่มองเห็น ส่วนมากเป็นการสะกดผิดที่เกิดขึ้นจากการรีบพิมพ์ จึงขอแนะนำให้ผู้เขียนตรวจทานให้ดีก่อนที่จะโพสต์ก็จะช่วยได้

     

    ------------------

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×