คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #28 : Bad Tomboy ร้ายกี่ครั้งฉันก็รักเธอ
Bad Tomboy ร้ายกี่ครั้งฉันก็รักเธอ ของ น้ำมันออยล์ เป็นเรื่องราวความรักในวัยเรียนของกลุ่มเด็กวัยรุ่นชั้นมัธยม ซึ่งมีตัวละครสำคัญที่นำเสนอเรื่องราวความรักที่แตกต่างกัน 2 คู่ คือ โดมกับยุนอา เป็นความรักของชายหนุ่มที่เริ่มจากเกลียดทอมบอยสาวที่แย่งแฟนสาวของเขาไปเป็นกิ๊กของเธอ แต่คนทั้งคู่ก็ตกหลุมรักกันในที่สุด และเซไคกับโพรี เด็กหนุ่มนักเลงรุ่นน้องที่หลงรักสาวสวยขี้อายข้างบ้าน
ขณะนี้เรื่องเพิ่งดำเนินมาถึงตอนต้นเท่านั้น จึงเป็นเพียงการแนะนำให้รู้จักตัวละครสำคัญๆ ในเรื่องว่ามีรูปร่างหน้าตา บุคลิกลักษณะ และอุปนิสัย อย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยุนอา นางเอกของเรื่อง ที่ทำหน้าที่เป็นตัวดำเนินเรื่องหลักอยู่ในขณะนี้ ผู้วิจารณ์เห็นว่าผู้แต่งสร้างตัวละครแต่ละตัวได้เด่นชัดและมีลักษณะเฉพาะตน ซึ่งช่วยให้ผู้อ่านแยกแยะและจดจำตัวละครเหล่านั้นได้ ไม่ว่าจะเป็นยุนอา ทอมบอยสาวแสนหล่อ เท่และเก่ง โดม ประธานนักเรียนรูปหล่อ รักเดียวใจเดียวและหวงแฟนเป็นที่สุด เซไค หนุ่มนักเลงรุ่นน้องผมแดง หน้านวลใสกว่าผู้หญิง หรือ โพรี สาวสวย หวาน แสนขี้โรคและขี้อาย
แม้ว่าผู้แต่งจะสร้างตัวละครได้อย่างชัดเจนเพียงใด แต่สิ่งที่ขาดไปคือ เหตุผลเบื้องหลังที่ส่งให้ตัวละครตัวนั้นมีบุคลิกเช่นนั้น หรือการเลือกกระทำเหตุการณ์บางอย่าง โดยเฉพาะยุนอา ผู้อ่านพอจะเดาได้ว่าเหตุใดยุนอาถึงตั้งตนเป็นหัวหน้าแก๊งอันธพาลในโรงเรียน ทั้งๆที่เธอเป็นลูกสาวผู้อำนวยการ นั่นเป็นเพราะเธอต้องการประชดพ่อที่ห่วงแต่การทำธุรกิจ จนละเลยไม่สนใจดูแลห่วงใยลูกเลย แต่เมื่อยุนอาเลือกที่จะสร้างปัญหาเพื่อประชดพ่อก็ไม่น่าจะต้องกลัวว่าพ่อจะรู้ เพราะเธอดูจะกังวลว่ามะนาว (สาวใช้) หรือ เฮียวจู (แม่เลี้ยง) จะไปฟ้องพ่อเกี่ยวกับการกระทำอันไม่เหมาะสมของตน ทั้งๆที่ในความเป็นจริงเมื่อยุนอาเป็นเด็กในโรงเรียนที่พ่อเป็นผู้อำนวยการ พ่อก็น่าจะรู้การกระทำแย่ๆของเธอที่โจษขานกันทั่วโรงเรียนดีอยู่แล้ว โดยไม่ต้องให้ผู้ใดไปฟ้อง ไม่ว่าจะเป็นการชนะหัวหน้าแก๊งอันธพาลประจำโรงเรียนคนเก่า และแต่งตั้งตัวเองเป็นหัวหน้าแก๊งแทน หรือการแย่งแฟนของโดม ประธานนักเรียนผู้เป็นที่รักของอาจารย์และเพื่อนๆ
นอกจากนั้น เหตุผลที่ผลักดันให้ยุนอาตัดสินว่าตนเองเป็นโรคเกลียดผู้หญิงทุกคนบนโลกก็ไม่ชัดเจน แม้ว่าตลอดมายุนอาจะแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเธอไม่เคยรักผู้หญิงคนใดจริง และที่เธอจีบผู้หญิงแต่ละคนนั้นก็เป็นเพียงเกมเท่านั้น เพราะผู้หญิงทุกคนคือของเล่นสำหรับเธอ ทั้งเค้ก พลอย และ ปอ นอกจากยุนอาจะแก้แค้นผู้หญิงด้วยวิธีจีบเล่นแล้วทิ้ง ผู้แต่งยังให้ยุนอาแก้แค้นผู้หญิงที่เธอไม่รู้สึกชอบจริงๆด้วยวิธีที่ต่างออกไป นั่นคือ มะนาว เพราะมะนาวเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวในเรื่องที่ไม่เคารพ ไม่นับถือยุนอา และอยากให้ยุนอาเลิกทำตัวแย่ๆ ที่ทำให้พ่อเสียใจเสียที เมื่อมะนาวจะเป็นเพียงลูกของคนใช้ในบ้าน ยุนอาจึงแก้แค้นด้วยการทำร้ายให้บาดเจ็บและท้ายที่สุดก็บีบให้เฮียวจู (แม่เลี้ยง) ไล่มะนาวออกจากบ้านไป แต่เมื่อยุนอามาพบโพรี สาวน้อยอ่อนแอ ขี้โรค และถูกเพื่อนแกล้งตลอดเวลา จนไม่คิดจะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป ยุนอากลับละทิ้งความตั้งใจเดิมที่เธอเกลียดผู้หญิงทั้งโลก โดยยอมเป็นเพื่อนสนิทของโพรี และตั้งใจปรับเปลี่ยนบุคลิกภาพของโพรีจากสาวเฉิ่มให้เป็นสาวสวย ขณะเดียวกันก็ให้กำลังใจเพื่อเตือนสติให้โพรีเห็นค่าของตัวเอง ผู้วิจารณ์เห็นว่าการเปลี่ยนทัศนคติยุนอาต่อโพรีอย่างกะทันหันเกินไปนี้ ยังกลายเป็นเปิดเผยความอ่อนโยนที่แฝงไว้ภายใต้ความแข็งกร้าวของยุนอาแทน จนทำให้ความชัดเจนของลักษณะเด่นที่สุดอันเป็นตัวขับเคลื่อนการกระทำและการตัดสินใจของยุนอาอ่อนลง แม้ว่าผู้แต่งจะต้องการหาเหตุให้โพรีและยุนอาเป็นเพื่อนกันเพื่อเชื่อมยุนอาไปหาเซไคคู่แค้นของแจมินพี่ชายที่รักของเธอก็ตาม
นิยายเรื่องนี้มีกลิ่นอายของนิยายแนว Yuri อยู่นิดๆ โดยเฉพาะการเน้นความสัมพันธ์ระหว่างยุนอากับตัวละครหญิงที่เธอจีบ ข้อสังเกตอีกประการหนึ่งที่พบ คือ ตัวละครเรื่องนี้มีความรักได้อย่างง่ายดาย และมีช่วงเวลาพัฒนาความสัมพันธ์ของคู่รักสั้นมาก จากความรู้สึกชอบไปสู่ความรักที่ยอมรับอย่างเต็มใจว่ายุนอาคือคนรักที่สำคัญที่สุดในชีวิตของพวกเธอ ส่วนใหญ่จะใช้เวลาพัฒนาความรักจนกระทั่งบอกเลิกไม่เกินหนึ่งสัปดาห์ จนอดสงสัยไม่ได้ว่าคนเราจะรักกันเพียงแค่พบหน้ากันครั้งแรก และพัฒนาจนกลายเป็นความรักที่ลึกซึ้งภายในระยะเวลาอันสั้นเช่นนี้ได้จริงหรือ
แม้ว่าเรื่องจะเพิ่งดำเนินไปเพียง 14 ตอน ผู้วิจารณ์ก็พอจะเห็นว่าผู้แต่งสามารถใช้ภาษาไทยในระดับดี นับตั้งแต่การเขียนบทบรรยายทั้งขนาดยาวและสั้น ซึ่งสื่อความกับผู้อ่านได้ชัดเจน เช่นเดียวกับการเลือกใช้คำในบทสนทนาที่ช่วยสร้างสีสันและความสนุกให้กับเรื่องได้ดีทีเดียว จึงส่งผลให้เรื่องดำเนินไปอย่างราบรื่น ไม่สะดุดติดขัด แม้ว่าจะมีคำผิดให้เห็นบ้าง แต่ก็น้อยมาก คำผิดที่พบเช่น พิเรนทร์ เขียนเป็นพิเรน ขัดขืน เขียนเป็น ขัดขื่น ชาญฉลาด เขียนเป็น ชานฉลาด ข่มขืน เขียนเป็น ข่มขื่น ขมขื่น เขียนเป็น ข่มขืน และ ขย้ำเหยื่อ เป็น ขยำเหยื่อ
ข้อสังเกตประการต่อไป คือ นิยายแนวนี้จำนวนมากมักจะให้ตัวละครเป็นชาวต่างชาติหรือไม่ก็ลูกครึ่งที่มีชื่อเป็นฝรั่ง ญี่ปุ่น หรือ เกาหลี เป็นส่วนใหญ่ เรื่องนี้ก็เช่นกัน แม้ว่าผู้แต่งจะกำหนดให้เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นที่โรงเรียนเซนจูเนียร์ ในประเทศไทย แต่ว่าตัวละครสำคัญส่วนใหญ่ไม่ใช้ชื่อไทยเลย โดยเฉพาะยุนอากับแจมิน (พี่ชาย) แม้จะบอกว่าเป็นลูกครึ่งไทย-เกาหลี ตอนแรกคาดว่าพ่อน่าจะเป็นคนเกาหลี และแม่เป็นคนไทย จึงตั้งชื่อลูกเป็นภาษาเกาหลี แต่เมื่ออ่านต่อมาพบว่าพ่อน่าจะเป็นคนไทยมากกว่า เพราะว่าเจน (อานางเอก) ซึ่งเป็นน้องสาวพ่อก็ไม่ได้มีชื่อเกาหลี และมีอาชีพเป็นครูผู้เสียสละด้วยการสอนเด็กในต่างจังหวัด จึงสงสัยเหตุผลของผู้แต่งว่ามีหลักเกณฑ์อย่างไรในการตั้งชื่อตัวละคร
ข้อบกพร่องที่พบ คือ การใช้อีโมติคอนแสดงสีหน้าของตัวละครประกอบบทบรรยายหรือบทสนทนา แม้ว่าอีโมติคอนจะเป็นแสดงอารมรณ์ผ่านภาพสัญลักษณ์ได้ ซึ่งนับเป็นเสน่ห์เฉพาะตัว แต่เมื่อผู้แต่งนำอีโมติคอนมาต่อท้ายประโยคที่แสดงอารมณ์ของตัวละครทุกประโยค ก็ทำให้หมดเสน่ห์ไปโดยปริยาย เพราะมีจำนวนมากเกินพอดี เช่น “ว้าย~ อยากได้ทั้งสองคนเลย *0*” หรือ “ย...ยุนอา O///O” หรือ “=__=;” สีหน้าเหนื่อยอ่อนของฉันทุกครั้งที่ได้ยินเสียงร้องโอดครวญของผู้หญิงที่ชอบวิ่งเข้ามาถาม ซักไซ้ฉันเพื่อต้องการสอบถามความจริง” จึงเห็นว่าผู้แต่งควรจะตัดให้เหลือเฉพาะตำแหน่งที่คิดว่าสำคัญและจำเป็นจริงๆ จนไม่อาจตัดได้ หากเป็นไปได้เสนอว่าผู้แต่งควรจะเพิ่มบทบรรยายแสดงความรู้สึกทางสีหน้าแทนการใช้อีโมติคอนก็จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้อย่างตรงจุดที่สุด ขณะเดียวกันก็ช่วยสื่ออารมณ์ของตัวละครได้ชัดเจนมากขึ้น และลดความสับสนและความไม่รู้สำหรับผู้อ่านที่ไม่สันทัดมากพอที่จะตีความหมายอีโมติคอนแสดงอารมณ์เหล่านี้ได้ครบถ้วน
นอกจากนี้ ผู้วิจารณ์พบว่าสามารถตัด sound effect บางแห่งออกได้ เช่น ฉากทะเลาะกันระหว่างยุนอากับหัวหน้าแก๊งอันธพาลประจำโรงเรียน ซึ่งบรรยายโดยเริ่มที่ sound effect ว่า
ผลัวะ! ตุ้บ !!
หนุ่มร่างยักษ์ที่ถูกเรียกว่า “หัวหน้า” กระโจนเข้าไปประทุษร้ายยุนอาเพื่อแก้แค้นแทนลูกน้องที่ตอนนี้ลงไปนอนสลบกับพื้นอย่างหมดสภาพ แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะล้มสาวร่างสูงคนนี้ได้ เพราะทุกหมัดที่เขาซัดใส่มาไม่ยั้งนั้นถูกยุนอาหยุดไว้ได้ และหลบหลีกอย่างคล่องแคล่วว่องไว เล่นทำเอาผู้คนที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ห่าง ถึงกับตะลึงอ้าปากค้างและลุ้นระทึกไปตามๆ กัน
ตัวอย่างข้างต้น หากตัด sound effect คำว่า “ผลัวะ! ตุ้บ !!” ออกไปก็ไม่ได้ทำให้เนื้อความของบทบรรยายเสียไปแต่อย่างใด และ ถ้าใช้ sound effect นำ ข้อความที่ตามมาน่าจะเป็นการอธิบายขยายความที่มาของเสียง sound effect โดยทันที ก็จะสื่อความได้ชัดเจนขึ้น เช่น ผลัวะ! ตุ้บ!! หมัดที่ยุนอาซัดออกไปนั้นถูกปลายคางคู่ต่อสู้อย่างจัง จนทำให้เขาสลบแน่นิ่งกับพื้นทันที
นิยายเรื่องนี้น่าติดตามต่อไปว่าผู้แต่งจะสามารถแก้โจทย์อันท้าทายที่ตัวเองสร้างไว้อย่างไร การแปรเปลี่ยนความเกลียดชังของโดมที่มีต่อยุนอาผู้แย่งแฟนตนไป ให้เป็นความรักนั้นจะใช้วิธีการใด เช่นเดียวกัน การที่จะเปลี่ยนยุนอาจากทอมบอยให้หันกลับมาชอบผู้ชายก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก แม้ว่าในความจริงยุนอาจะเกลียดผู้หญิงก็ตาม
----------------------------------------------------
ความคิดเห็น