ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วิจารณ์นิยาย

    ลำดับตอนที่ #17 : No Hero รัตติกาล... อันตราย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 399
      0
      3 ธ.ค. 52

    นิยายเรื่อง No Hero รัตติกาล... อันตราย ของสำนักพิมพ์ Enter books แต่งโดย Yu Wo ชาวไต้หวัน ผู้แปลคือ scimmietta เป็นนิยายที่ทางสำนักพิมพ์ส่งมาให้วิจารณ์ ในขณะนี้ตามร้านหนังสือมีวางจำหน่าย 3 เล่มแล้ว แต่ที่ผมได้รับมีเพียงเล่ม 1 เล่มเดียว มีชื่อตอนว่า Vampire Chamberlain จึงขอวิจารณ์เนื้อหาเฉพาะในเล่ม 1 เท่านั้น

    เรื่องราวของ No Hero เกิดขึ้นในโลกอนาคตปี 2112 มนุษย์ที่ใช้ชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ต่างชื่นชอบการดัดแปลงอวัยวะต่างๆของร่างกาย ให้มีรูปร่างแปลกๆ (ส่วนมากจะดูเหมือนเครื่องจักร) และมีพละกำลังเพิ่มขึ้น เพื่อใช้ในการต่อสู้ ทำให้มีคนกลุ่มหนึ่งออกมาประกาศตัวเป็นฮีโร่ ช่วยจัดการอาชญากรรมที่เกิดจากการดัดแปลงร่างกายและการต่อสู้ แต่ก็มีฮีโร่ที่เป็นตัวจริง ไม่มากนัก เพราะในเมื่อทุกคนต่างมีพลังเหนือมนุษย์ ก็ย่อมสามารถจัดการกับฮีโร่ได้อย่างง่ายดาย

    ในโลกยังมีแวมไพร์อาศัยอยู่ด้วย แต่ดูเหมือนว่ามนุษย์จะไม่ค่อยสนใจการมีตัวตนอยู่ของแวมไพร์มากนัก รวมถึงไม่สนใจการมีอยู่ของกันและกันอีกด้วย โจชัว เอนด์เลส แวมไพร์ระดับห้า ซึ่งถือว่าเก่งกาจที่สุด เพราะแวมไพร์ที่มีระดับสูงกว่านี้ได้เสียชีวิตไปหมดแล้ว ออกหางานที่ตนเองอยากทำทุกค่ำคืน นั่นคือการเป็นพ่อบ้าน ตามอาชีพของบิดาที่เป็นมนุษย์ ถึงแม้โจชัวจะเป็นแวมไพร์ระดับสูง แต่เมื่ออยากเป็นพ่อบ้าน เหล่าแวมไพร์จึงไม่คบด้วยเพราะถือว่าต่ำต้อย ส่วนมนุษย์เมื่อเห็นว่าเป็นแวมไพร์ก็หวาดกลัวจนไม่กล้ารับเข้าทำงาน (ผมคิดว่าการจ้างแวมไพร์ทำงานคงจะเป็นคนละเรื่องกับการเห็นแวมไพร์เดินอยู่ตามท้องถนน)

    เมื่อเป็นเช่นนี้จึงไม่มีใครรับโจชัวเข้าทำงานเป็นพ่อบ้าน   งานที่เขาเคยได้ทำมักจะเป็นงานประเภทนักฆ่าหรือมือปืน ซึ่งเขาไม่ชอบ จนกระทั่งเขาบังเอิญได้เข้าช่วยเด็กหนุ่มคนหนึ่งไม่ให้ถูกทำร้าย และเด็กคนนั้นจ้างเขาไว้ด้วยค่าจ้างที่สูงลิบลิ่วทั้งๆ ที่รู้ว่าเขาเป็นแวมไพร์  เจ้านายคนใหม่ของโจชัวชื่ออันเซียร์ เป็นนักศึกษาสาขาการต่อสู้   ชอบดัดแปลงอาวุธและชอบรับประทานอาหารคราวละมากๆ  รวมทั้งมีห้องลับที่ไม่ยอมให้ใครเข้าไป อันเซียร์มีบอดี้การ์ดหลายร้อยคนที่พี่ชายจ้างมาให้คุ้มครองเขาด้วย ภารกิจพลีชีพ คือถ้าคนที่ต้องคุ้มครองตายหรือหายตัวไปนานถึง 24 ชั่วโมง บอดี้การ์ดจะต้องฆ่าตัวตาย และเขาก็ทำให้เหล่าบอดี้การ์ดต้องหวาดเสียวด้วยการหายตัวไปอยู่บ่อยครั้ง

    No Hero เล่มหนึ่ง ปิดฉากลงด้วยการเฉลยว่าอันเซียร์คือตะวันรัตติกาล ฮีโร่ที่เก่งเป็นอันดับหนึ่งในเรื่อง นอกจากจะมีความสามารถด้านการต่อสู้แล้ว อันเซียร์ยังมีความสามารถด้านวิศวกรคอมพิวเตอร์ สามารถประดิษฐ์ร่างเทียมของตนเองได้ และยังมีร่างกายที่เกือบจะเป็นอมตะเพราะเป็นของสังเคราะห์แทบทั้งหมด แต่เขาก็ยังต้องเชื่อฟังพี่ชายที่เป็นผู้มีอิทธิพล เรื่องในเล่มหนึ่งนี้ ยังเปิดตัวเมโลดี้ แวมไพร์สาวระดับแปด อดีตบอดี้การ์ดของอันเซียร์  เมโลดี้นับถือพี่ชายของอันเซียร์จึงหาทางเข้ามาทำงานด้วยเพื่อจะได้หาโอกาสใกล้ชิด  คาดว่าในเล่มต่อๆ ไป เมโลดี้และพี่ชายของอันเซียร์คงจะมีบทบาทมากขึ้น  พร้อมทั้งปฏิบัติการของอันเซียร์ในฐานะฮีโร่ด้วย

     

    เมื่ออ่านเรื่อง No Hero ตอน Vampire Chamberlain จบลง ผมคิดถึงภาพยนตร์เรื่อง Batman เพราะตัวละครที่เป็นฮีโร่คืออันเซียร์ มีลักษณะเป็นอัจฉริยะที่ร่ำรวย ฉากหน้าดูเป็นคนไม่ค่อยเอาจริงเอาจัง แต่เบื้องหลังเขาคือฮีโร่ที่ปราบปรามเหล่าร้ายในยามค่ำคืน และเอกลักษณ์ของชุดฮีโร่ตะวันรัตติกาล คือ ปีกเหล็กขนาดใหญ่ เปรียบได้กับแบทแมน    ที่เป็นฮีโร่มีผ้าคลุมที่ดูเหมือนปีก ออกปฏิบัติการยามค่ำคืนเช่นกัน ในขณะที่โจชัว เอนด์เลส ที่เป็นพ่อบ้านนั้น ก็เป็นผู้ช่วยที่เก่งกาจ สามารถช่วยได้ทุกด้านตั้งแต่การทำอาหาร ทำความสะอาด ไปจนถึงช่วยเจ้านายดัดแปลงอาวุธ อีกทั้งฝีมือการต่อสู้ก็ไม่ด้อยกว่าใคร เพราะเป็นแวมไพร์ระดับสูง เปรียบได้กับอัลเฟรด พ่อบ้านของบรูซ เวย์น  มหาเศรษฐีผู้มีงานอดิเรกเป็นฮีโร่  สิ่งนี้น่าจะแสดงถึงแรงบันดาลใจของผู้แต่งได้ แต่หากจะเปรียบเทียบมิติของตัวละครแล้ว แน่นอนว่าแบทแมนย่อมมีหลายมิติกว่า  และยังมีปัญหาที่ต้องตัดสินใจอย่างยากลำบาก ต้องตั้งคำถามกับคุณธรรมของตนเอง ซึ่งตะวันรัตติกาลยังไม่แสดงจุดนี้ให้เห็นชัดเจนนัก

    ความเป็นนิยายฮีโร่ของ No Hero ดูไม่ค่อยเด่นชัด   จริงอยู่ที่มีการเขียนถึงตะวันรัตติกาลและฮีโร่อีกสองสามคน  แต่ศัตรูของพวกเขาก็มีเพียงโจรหรือนักเลงธรรมดาเท่านั้น จึงต่างจากการ์ตูนฮีโร่ทั่วไป ซึ่งจะต้องมีตัวร้ายที่มีความโดดเด่นและมีฝีมือสมน้ำสมเนื้อกับพวกตัวเอก  ดังเช่นแบทแมนก็มีโจ๊กเกอร์  ซูเปอร์แมนมีเล็กซ์ ลูเธอร์   สไปเดอร์แมนมีกรีน ก็อบบลิน ฯลฯ เมื่อตัวร้ายไม่มีฝีมือที่ทัดเทียมกับฮีโร่ พวกเขาจึงต้องพ่ายแพ้อย่างง่ายดาย   สิ่งนี้เองที่ทำให้ No Hero มีฉากต่อสู้ที่ไม่ค่อยน่าตื่นเต้นเท่าไรนัก  ยกเว้นในช่วงหลังที่โจชัวและเมโลดี้ต้องต่อสู้กับบอดี้การ์ดที่พี่ชายอันเซียร์จ้างมา   เพราะโจชัวไปบอกให้อันเซียร์แยกตัวออกจากครอบครัว   นี่เป็นเหตุการณ์เดียวที่พวกตัวเอกเพลี่ยงพล้ำ  แต่ก็เป็นเพราะบอดี้การ์ดมีจำนวนมากเหลือเกิน  และอันเซียร์ยังถูกลูกหลงจากความเข้าใจผิดจนทำให้พวกตัวเอกเกิดความพะว้าพะวงอีกด้วย

    นอกจากนี้ผมยังสงสัยว่าชื่อ No Hero นั้น ผู้แต่งต้องการจะสื่อถึงอะไรหรือไม่ น่าจะเป็นการดี หากชื่อนี้มีความหมายมากกว่าการตั้งขึ้นมาเท่ๆ เท่านั้น  ถ้าในที่สุดแล้ว เนื้อเรื่องดำเนินไปว่าไม่มีผู้ใดเป็นวีรบุรุษที่แท้จริง เพราะต่างฝ่ายต่างก็มีด้านมืดในจิตใจ  ก็คงจะดีมากและสมกับชื่อเรื่อง หวังว่าคงจะเป็นเช่นนั้น 

    ในช่วงที่ผมเขียนบทวิจารณ์นี้ เป็นเวลาที่มีกระแสนิยมตัวละครแวมไพร์ อาจเป็นเพราะมีนิยายหลายเรื่อง รวมทั้งภาพยนตร์เรื่อง Twilight ที่ได้รับความนิยมสูงสุดก็เป็นได้   แต่ Twilight ก็ทำให้ภาพของแวมไพร์เปลี่ยนจากรูปลักษณ์ที่สง่างามน่าเกรงขามพร้อมกับน่าสะพรึงกลัว และเป็นสิ่งชั่วร้าย กลายเป็นชายหนุ่มหรือหญิงสาวรูปงาม มีฐานะและชาติตระกูล อาจชั่วร้ายหรือไม่ก็ได้ แต่หากชั่วร้าย ก็เป็นความชั่วที่หญิงสาวยอมสยบภายใต้คมเขี้ยวของแวมไพร์รูปงามด้วยความเต็มใจ แม้แวมไพร์ในเรื่อง No Hero นี้ จะไม่ได้แสดงความหล่อสวยมากเท่า Twilight  แต่ก็ดูจะมีเสน่ห์ไม่น้อยจากฝีมือการทำอาหาร และพฤติกรรมการเป็นพ่อบ้านมืออาชีพของโจชัว  ขณะเดียวกันโจชัวทดแทนการมีความรัก(หรืออยากดูดเลือด)กับหญิงสาว ด้วยความภักดีต่อผู้เป็นนาย   ถึงแม้จะมีแวมไพร์สาวที่ชื่อเมโลดี้ปรากฏตัวในตอนท้าย  แต่ก็ไม่ได้มีพฤติกรรมด้านความรักที่เด่นชัด  ภาพความใกล้ชิดอย่างมากระหว่างโจชัวกับอันเซียร์ส่งผลให้ผู้อ่านบางคนคิดว่า โจชัวกับอันเซียร์อาจจะมีพฤติกรรมรักร่วมเพศ ซึ่งก็เป็นธรรมดาสำหรับนิยายแนวนี้ในยุคปัจจุบัน หากผู้อ่านหวังจะได้อ่านเรื่องราวของแวมไพร์ที่ทรงพลัง และมีประเด็นสาระด้านอื่นๆ แอบแฝงอยู่ ก็อาจจะต้องผิดหวัง

    นอกจากนี้ ยังมีความไม่สมจริงอยู่ที่การหักมุมในตอนท้ายของเล่ม การที่ร่างกายของอันเซียร์เป็นของสังเคราะห์  ช่างตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิงกับความประทับใจเมื่อแรกพบของโจชัว ที่เขาเห็นว่าอันเซียร์แตกต่างกับคนอื่น เพราะไม่ได้ดัดแปลงร่างกาย เข้าใจว่าผู้แต่งต้องการให้คำอธิบายถึงสาเหตุที่อันเซียร์ต้องรับประทานอาหารคราวละมากๆ และหายจากการบาดเจ็บได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็น่าจะมีทางออกที่สมจริงมากกว่าการให้ร่างกายของเขาเป็นเช่นที่ระบุไว้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×