ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วิจารณ์นิยาย

    ลำดับตอนที่ #9 : Because, you’re my friend

    • อัปเดตล่าสุด 5 ต.ค. 52


    Because, you’re my friend  ของ IIคนตาลูป เป็นนิยาย yaoi ยาว 56 ตอน (รวมตอนพิเศษ)  ผู้วิจารณ์เห็นว่าเนื้อเรื่องที่นำเสนอไม่ต่างจากนิยายเรื่องอื่นๆในแนวนี้ เท่าใดนัก เรื่องราวและเหตุการณ์ส่วนใหญ่เน้นการพัฒนาความสัมพันธ์ของตัวละครเหล่านี้ที่มีทั้งความรักและความแค้น  ที่ยังคงวนเวียนอยู่ในรั้วโรงเรียน  เรื่องราวของ ไผ่ นักเรียนมัธยมปลายที่แอบรักเพื่อนสนิทของตน  แต่ไม่กล้าบอกรักเพราะกลัว เซน เพื่อนรักจะรังเกียจและสูญเสียมิตรภาพที่ยาวนานมาตั้งแต่ชั้นอนุบาล  ท้ายที่สุดด้วยความเข้าใจผิดและไม่รู้ใจตัวเองของเซนก็เป็นเหตุให้ความรักของทั้งสองต้องจบสิ้นลง  ในขณะเดียวกันไผ่ก็พบกับรักแท้ที่ แทมิน มอบให้มาเยียวยาหัวใจและร่างกายที่บอบช้ำจากการกระทำของเซน   

    การนำเสนอเรื่องก็ยังคงเน้นบทสนทนามากกว่าบทบรรยาย แม้ผู้เขียนจะออกตัวไว้แล้วเกี่ยวกับความอ่อนด้อยในการเขียนบทบรรยาย  แต่การมีบทสนทนามากกว่า 80% ในแต่ตอนนั้นทำให้นิยายเรื่องนี้เหมาะที่จะเป็นบทละครมากกว่า   จึงเห็นว่าผู้เขียนน่าจะปรับสัดส่วนของบทบรรยายให้เพิ่มขึ้น  อย่างน้อยก็น่าจะมีสัดส่วนสักครึ่งต่อครึ่งกับบทสทนาก็ยังดี    นอกจากนี้  การเลือกใช้อีโมติคอนของผู้เขียนอาจจะเหมาะที่จะอยู่ในบทสนทนาที่นำเสนอก็จริง แต่ด้วยปริมาณอีโมติคอนจำนวนมากนี้กลับทำให้บางตอนดูรกและน่ารำคาญ  เพราะอีโมติคอนบางตัวสามารถตัดออกได้    โดยเฉพาะการใช้ติดๆกันเมื่อจบประโยค หรือขึ้นต้นประโยคใหม่   ลักษณะที่พบบ่อยมากอีกประการหนึ่งคือ การใช้อีโมติคอนลอยๆ ขึ้นมาโดยไม่มีทั้งบทบรรยายหรือบทสนทนาใดๆ รองรับนั้น  ผู้เขียนสามารถแก้ปัญหานี้ด้วยการใช้บทบรรยายความรู้สึกของตัวละครแทนการใช้สัญลักษณ์อีโมติคอน  ก็จะช่วยให้สามารถสื่อความกับผู้อ่านได้ชัดเจนขึ้น    ยิ่งไปกว่านั้นยังพบว่าเรื่องนี้มีภาษาวิบัติอยู่เป็นจำนวนมาก  ซึ่งเป็นทั้งความตั้งใจของผู้เขียนที่จงใจนำมาใช้ในบทสนทนา  และบางครั้งก็เกิดจากการสะกดผิดของผู้เขียนเอง  โดยเฉพาะคำว่า อ้าว จะเขียนเป็น อ่าว  คำว่า เอ่ย จะเขียนเป็น เอ๋ย หรือ แป๊บ เขียนเป็น แปบ ทุกครั้ง  และยังมีคำที่สะกดผิดอยู่เป็นจำนวนมาก  จึงอยากเสนอให้ผู้เขียนกลับไปตรวจแก้อีกครั้ง 

    นิยายเรื่องนี้ไม่เพียงแต่เน้นเรื่องราวความรักและความแค้นของเหล่าตัวละครเท่านั้น  แต่ยังนำเสนอปัญหาชีวิตครอบครัวที่ตัวเอกต้องเผชิญเพื่อเพิ่มความน่าสงสารให้กับไผ่  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  ฉากที่ไผ่ถูกพ่อแม่ลืมทั้งๆที่มีตัวตนและอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกันมาตลอดสิบกว่าปี  เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา พ่อกับแม่ต้องทำงานหนักเพื่อสร้างรายได้และความมั่นคงในชีวิต เพื่อไปรับ ทิว ฝาแฝดของไผ่ที่ต้องแยกไปให้ย่าเลี้ยงตั้งแต่เด็กมาอยู่ร่วมเป็นครอบครัวเดียวกันให้เร็วที่สุด   และตลอดเวลาพ่อแม่ก็มุ่งแต่จะชดเชยความขาดของทิว  โดยพยายามโทรหา  ไปเยี่ยมและฉลองวันเกิดให้โดยตลอด  ยิ่งพ่อแม่สนใจทิวมากเท่าใด  ก็ยิ่งละเลยและหลงลืมไผ่มากขึ้นเท่านั้น  จะเห็นได้ว่าเรื่องราวของครอบครัวของไผ่ที่ทวีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ นี้  สร้างความสะเทือนอารมณ์ให้ผู้อ่านได้อย่างมาก  

    แต่ในสายตาของผู้วิจารณ์เห็นว่าเรื่องราวชีวิตครอบครัวของไผ่ที่ผู้เขียนนำเสนอมีข้อบกพร่องอยู่  นั่นคือ  ถ้าจะให้ฉากที่แม่และพ่อรู้ตระหนักถึงความจริงที่น่าเศร้า  ว่าพวกเขาลืมและทอดทิ้งลูกที่อยู่กับตนมาตลอด 10 กว่าปี  พ่อกับแม่ก็ต้องลืมไผ่ให้ตลอด  ไม่ใช่ว่าลืมไปบ้าง จำได้บ้าง  เพราะในช่วงประมาณหนึ่งเดือนก่อนหน้านั้น  แม่ยังจำไผ่ได้อยู่เลย เช่น ตอนที่ 5 เมื่อพ่อแม่ไปรับทิวมาก็ยังแนะนำให้ไผ่รู้จักกับทิว  หรือตอนที่ 12 พ่อกับแม่ก็ยังแสดงความไม่พอใจและดุไผ่ที่ทำกิริยาไม่ดีขณะที่พวกเขาจัดงานวันเกิดให้ทิว   ความขัดกันของเหตุการณ์ในเรื่องทำให้คนอ่านสับสนว่าแท้ที่จริงแล้วพ่อกับแม่ลืมว่ามีไผ่  หรือพ่อกับแม่ลืมว่าไผ่กับทิวเป็นฝาแฝดกันแน่

    โดยส่วนตัวผู้วิจารณ์คิดว่าพ่อกับแม่ที่ยอมทำงานหนักเพื่อให้ครอบครัวได้อยู่พร้อมหน้ากัน  ไม่น่าที่จะละเลยและทอดทิ้งลูกชายวัย 5 ขวบให้อยู่ตามลำพัง  และปล่อยให้ไผ่เติบโตมาด้วยการต้องช่วยตัวเองตั้งแต่อายุเท่านั้นจนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6  โดยพ่อแม่ไม่เหลียวแล ทั้งในเรื่องชีวิตความเป็นอยู่  อาหารการกิน  หรือแม้กระทั่งการศึกษา  ขณะเดียวกันการที่แม่ต้องนำทิวไปฝากย่าเลี้ยงเพราะไม่สามารถเลี้ยงลูกเล็กๆ พร้อมกันสองคน  ก็ไม่น่าทำให้แม่เสียใจจนถึงขั้นปิดกั้นจิตตนเองจนหลงลืมไผ่ไปได้  หรือถึงแม้แม่จะเสียใจ  แต่พ่อก็ไม่น่าลืม  จึงเห็นว่า วิธีแก้ง่ายที่สุดเพื่อสร้างความสมจริงให้กับเรื่องคือการเปลี่ยนภูมิหลังของตัวละคร   ให้สลับกันระหว่างชีวิตของ ไผ่ กับ ทิว  โดยให้ไผ่เป็นลูกชายที่พ่อแม่นำไปฝากไว้  จนลืมไปว่ามีลูกชายคนนี้  ซึ่งอาจจะไม่ได้อยู่กับคุณย่าที่สอนให้เขาเข้าใจความจำเป็นที่พ่อแม่ต้องนำมาฝากไว้  แต่อาจจะไปอยู่กับญาติคนอื่นที่ไม่ดูแล  ขณะเดียวกันก็ให้พ่อแม่รัก ทิว ลูกชายที่อยู่กับตนเองมากเพื่อชดเชยความรักที่ลูกชายอีกคนไม่ได้รับ   จนท้ายที่สุด ไผ่กลายเป็นเด็กที่มีเกิดปมในชีวิต  รู้สึกไม่ผูกพันกับพ่อแม่ และเกลียดทิว เพราะเป็นผู้ที่มาแย่งความรักและพรากทุกอย่างไปจากเขา  น่าจะสมจริงและตรงกับความต้องการของผู้เขียนมากกว่า

    ความไม่สมเหตุผลยังมีอีกประเด็นที่พบคือ  ความแค้นของ เอฟ ที่มีต่อแทมิน  จนถึงกับออกมาประกาศกร้าวว่า หากแทมินยังไม่ตาย ความแค้นของผมมันก็ยังไม่จบ จึงเป็นเรื่องน่าแปลกมากที่ความแค้นเหล่านั้นของเอฟหมดไปทันทีที่ เซน เสนอตัวยอมเป็นเครื่องเล่นของเอฟ  เพื่อแลกกับความปลอดภัยของไผ่ที่กลายเป็นเป้าหมายในการแก้แค้นแทมิน  เพราะในความเป็นจริง เซนไม่ได้มีความผูกพันกับแทมินจนทำให้แทมินเสียใจถ้าเอฟจับเซนไป  และการจับเซนไปน่าจะเป็นการช่วยแทมินทางอ้อมด้วยซ้ำไป เพราะเซนคือศัตรูความรักอันดับหนึ่งของแทมิน  จึงไม่มีเหตุผลใดที่เอฟจะมาช่วยสนับสนุนความรักของแทมิน  แม้จะเป็นทางอ้อมก็ตาม  ยิ่งไปกว่านั้น ตลอดเวลาที่เซนอยู่กับเอฟ  ทั้งแทมินและไผ่ก็ไม่รู้เลยว่าเซนหายไปไหน  ด้วยเหตุนี้  ข้อตกลงระหว่างเอฟกับเซนจึงไม่น่าจะมีผลต่อการแก้แค้นของเอฟดังที่ผู้เขียนตั้งประเด็นไว้ ประกอบกับเรื่องราวที่ปูพื้นไว้นั้นก็มีเพียงแต่ความแค้นของแทมินที่มีต่อเอฟเท่านั้น  เพราะเอฟเป็นสาเหตุให้แทยองพี่ชายของแทมินต้องตายไปก่อนวัยอันควร  ไม่มีตอนใดในเรื่องระบุให้เห็นเลยว่าเอฟแค้นแทมินเรื่องอะไร   ผู้วิจารณ์เห็นว่าการสร้างเรื่องราวระหว่างเซนกับเอฟนั้นเป็นความตั้งใจของผู้เขียนที่จะแสดงให้เห็นว่า ท้ายที่สุดเซนและเอฟก็หนีผลกรรมไม่พ้น (จนดูเหมือนว่าเป็นการแก้แค้นแทนไผ่และแทยองมากกว่า)  เมื่อเซนทำร้ายไผ่ไว้  เขาก็ถูกกระทำเช่นเดียวกัน  แต่รุนแรงกว่าจนเขาทนไม่ได้ต้องพึ่งยาเสพติด จนกลายเป็นคนบ้าไปในที่สุด   เช่นเดียวกับเอฟที่ทำให้แทยอนพี่ชายแทมินต้องตรอมใจตายเพราะความรักที่มอบให้แต่ไม่ได้รับความใยดี ก็ได้รับผลกรรมด้วยเช่นกัน  กล่าวคือเอฟต้องมาคอยดูแลเซนที่ป่วย  โดยหวังว่าสักวันหนึ่งเซนจะหายดีและรับรู้ความรักที่เขามีให้

    ประเด็นสุดท้ายที่เสนอแนะคือ เสนอให้ตัดเครื่องหมาย comma (,) ในชื่อเรื่องออก  เพราะตามหลักไวยากรณ์ภาษาอังกฤษนั้น because สามารถตามด้วยประโยคได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องมี comma (,) คั่นระหว่าง because ซึ่งเป็นคำสันธานกับประโยคที่ตามมา  และเห็นว่าชื่อเรื่องที่เหมาะสมน่าจะเป็น Because you’re my love ที่เป็นความรู้สึกที่แท้จริงของไผ่ที่มีต่อแทมิน และสารภาพไว้ในบรรทัดสุดท้ายของเรื่อง (ภาคปกติ)  ซึ่งจะตรงกับเรื่องที่นำเสนอมาทั้งหมดมากกว่า Because you’re my friend

     

    ---------------------------------

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×