ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วิจารณ์นิยาย

    ลำดับตอนที่ #8 : เทพธิดาข้างถนน

    • อัปเดตล่าสุด 9 ส.ค. 55


    ลิงก์นิยาย http://writer.dek-d.com/pundara/story/view.php?id=517371

              นิยายแฟนตาซีกึ่งดรามาขนาดยาว  ขณะนี้ลงถึงตอนที่ 51 (บทที่ 17)  เรื่อง เทพธิดาข้างถนน  ของ พระจันทร์, พันดาว  เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นพร้อมๆกันระหว่างชีวิตในโลกมนุษย์ของริน เด็กสาววัย 15 ปี กับเรื่องราวของนิรันตนครอันลึกลับ   รินต้องออกจากโรงเรียนมาลักขโมยเหมือนเด็กข้างถนน  เพื่อหาเงินไปรักษาแม่ที่นอนป่วยด้วยโรคประหลาด  และต้องจ่ายค่าคุ้มครองให้กับแห้ว  ลูกน้องคนสำคัญของเสี่ยทำนุผู้ทรงอิทธิพลในละแวกนั้น  เสี่ยทำนุเองก็พยายามหาทางฮุบที่ดินผืนงามขนาด 200 ไร่ของแม่ที่เต็มไปด้วยไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ขณะเดียวกันก็เกิดเหตุชักนำให้รินเข้าไปอยู่ในนิรันตนคร อาณาจักรไพรเพียงแห่งเดียวที่หลงเหลืออยู่ในเมืองไทย ที่
    อมรารานีแห่งเทพยดาใช้พลังชีวิตทั้งหมดของตนจำลองนิรันตนครให้เป็นโลกเสมือนจริงเพื่อปกป้องไม่ให้มนุษย์บุกรุกเข้าไปได้  จากนั้นก็ค่อยๆเผยความลึกลับของนิรันตนคร  ไปพร้อมเรื่องราวความเป็นไปในโลกมนุษย์  ผ่านเรื่องราวชีวิตของริน แม่  และเสี่ยทำนุ

              นิยายเรื่องนี้นับว่าแปลกกว่านิยายแนวแฟนตาซีเรื่องอื่นๆ   เพราะผู้เขียนพยายามผสานแนวคิดเรื่องนิเวศสำนึก  โดยการนำเสนอผลกระทบของการตัดไม้ทำลายป่าของผู้ทรงอิทธิพลในประเทศไทย เข้ากับความเป็นดรามาของเรื่องราวชีวิตตัวละครต่างๆในโลกมนุษย์ และยังเสนอความเป็นแฟนตาซีผ่าน นิรันตนคร ซึ่งเป็นนครของเหล่าเทพยดา นางไม้ คนแคระ  พลสัตว์ และภูตต่างๆ   นครแห่งนี้ต้องเผชิญภัยพิบัติต่างๆอันเกิดจากน้ำมือมนุษย์จนเกือบล่มสลายไปตั้งแต่ 15 ปีก่อน  หากไม่ได้ อมรา รานีแห่งเทพยดาใช้พลังทั้งหมดของตนปกป้องนครแห่งนี้ไว้  เมื่ออาณาจักรไพรอยู่ในประเทศไทยจึงไม่น่าแปลกใจที่เทพยดา นางไม้ในเรื่องส่วนใหญ่จะมีชื่อเป็นภาษาไทยด้วย เช่น ตระการ ผู้พิทักษ์ป่าไม้  มัณทนา  ยอดพธูแห่งคิมหันต์  รัตติกาล  นางครวญ และ ทิพย์อาภา นางไม้รับใช้ในตำหนักคิมหันต์  ขณะเดียวกันก็ยังมีบางตนที่มีชื่อเป็นภาษาต่างประเทศ  ไม่ว่าจะเป็นภูตสาว มิว  หรือผู้ธำรงนิวาสถานทั้งสอง คือ ยูเซนา และผู้เฒ่าฮาลาบี   ไคน์  ชีล่า และ ฮันนี่ เหยี่ยวหัวหน้าหน่วยสื่อสาร  อาจกล่าวได้ว่าตัวละครและความเป็นไปต่างๆในนิรันตนครทำให้นึกย้อนไปถึงแฟนตาซีแบบไทยๆ โดยเฉพาะเรื่องแนวจักรๆ วงศ์ๆ และนิทานพื้นบ้าน  ซึ่งลักษณะแฟนตาซีเช่นนี้ไม่ค่อยพบมากนักในงานวรรณกรรมออนไลน์ในปัจจุบัน

    ผู้เขียนเปิดเรื่องด้วยเทพนิยายเรื่อง เจ้าหญิงนิทรา และให้ ริน  ตัวละครเอกแสดงความรู้สึกต่อต้านความสุขสมหวังในตอนจบของเทพนิยายเรื่องนี้และเรื่องอื่นๆ อย่างรุนแรงมาก เพราะเห็นว่าเทพนิยายเป็นเรื่องหลอกเด็ก  ไม่มีทางที่จะเกิดขึ้นได้ในชีวิตจริง  แต่ต่อมาโชคชะตาก็เล่นตลกให้เธอต้องมาใช้ชีวิตในอาณาจักรแห่งไพรที่เต็มไปด้วยเทพยดา นางฟ้า ภูต นางไม้ คนแคระ และเรื่องเหลือเชื่อต่างๆ ที่เธอปฏิเสธมาโดยตลอดว่าไม่มีอยู่จริง ความขัดแย้งและสับสนในจิตใจเช่นนี้สร้างความโดดเด่นให้กับรินอย่างมาก  โดยเฉพาะเมื่อรินเข้าไปในนิรันตนครก็คิดเพียงว่าตัวเองหลงทาง  แต่ไม่ได้คิดไกลไปถึงว่าหลงเข้าไปยังดินแดนของโลกอื่น เพราะคนแปลกหน้าที่พบก็มีรูปร่างลักษณะไม่ต่างจากมนุษย์โลก และยังสามารถพูดจาสื่อสารกันรู้เรื่องด้วย  จึงไม่น่าแปลกใจที่รินจะยังคงมีความรู้สึกต่อต้าน  ไม่เชื่อ และดูไม่ตกใจมากนัก  เมื่อมีใครเล่าถึงความเป็นมาที่เหมือนเทพนิยายของพวกเขาและของนครแห่งนี้ให้เธอฟัง  ซึ่งต่างจากความรู้สึกของคนในนิรันตนครที่ดูจะตื่นตระหนกกับการปรากฏตัวของริน  เพราะพวกเขาต่างเชื่อมั่นว่าไม่มีมนุษย์คนใดที่จะสามารถผ่านเข้ามาในดินแดนของพวกตนแห่งนี้ได้  

              บทบรรยายนับว่าเป็นจุดเด่นที่สร้างเสน่ห์ให้กับเรื่องอย่างมาก  เพราะพระจันทร์, พันดาว  นำเสนอเรื่องราวโดยอาศัยบทบรรยายและบทพรรณนาเป็นหลัก  ไม่ว่าจะเป็นการเล่าเรื่องราวภูมิหลังตัวละครในแง่ต่างๆ  การบรรยายฉาก หรือรูปร่าง ลักษณะนิสัยของตัวละคร ก็สามารถนำเสนอได้อย่างลื่นไหล และยังช่วยสร้างจินตนาการให้ผู้อ่านได้เป็นอย่างดี  อีกทั้งผู้เขียนยังสามารถสร้างตัวละครหลายตัวได้อย่างสมจริง  มีชีวิตชีวา และมีเสน่ห์น่าติดตาม โดยเฉพาะตัวละครในนิรันตนคร  ไม่ว่าจะเป็น ชีล่า  เหยี่ยวรุ้งหัวหน้าหน่วยสื่อสารของรานีแห่งตำหนักเหมันต์  มิว ภูตสาวรับใช้ของผู้เฒ่าฮาลาบี  หรือ วัลคิน คนแคระอัจฉริยะผู้นำช่างฝีมือคนใหม่  แต่อย่างไรก็ดี  ในบทบรรยายเหล่านี้ก็ยังมีคำผิดให้เห็นอยู่ประปราย และมี 2-3 คำที่ผู้เขียนมักจะสะกดผิดอยู่เสมอๆ คือ กะพริบตา เขียนเป็น กระพริบตา  สาส์น  เขียนเป็น สาสน์  เวทมนตร์  เขียนเป็น เวทมนต์ 

              ผู้วิจารณ์เห็นว่าความซับซ้อนของเรื่องที่มีทั้งเรื่องราวในโลกมนุษย์ และในอาณาจักรไพร ทำให้ผู้เขียนต้องค่อยๆ เปิดความลับและนำเสนอเรื่องราวที่ผ่านมาของทั้งสองโลกสลับกันไปมา  ซึ่งบางครั้งผู้เขียนก็พยายามอธิบายเรื่องราวของตัวละครแต่ละตัวมากเกินไปจนส่งผลต่อเรื่องโดยรวม  เพราะทำให้เรื่องดำเนินไปได้ช้ามาก ขาดความกระชับ  บางตอนก็เยิ่นเย้อเกินไป  จากที่อ่านมาถึง 51  ตอน นับว่ายังเป็นเพียงช่วงต้นๆ ของเรื่องเท่านั้น   สาเหตุประการสำคัญที่ส่งผลให้เรื่องเยิ่นเย้อนั้นน่าจะมาจากการเขียนที่แบ่งออกเป็นบทสั้นๆ 2-3 บท  ในตอนใหญ่หนึ่งตอน   จึงเห็นว่าผู้เขียนน่าจะรวมบทสั้นๆ นแต่ละตอนเหล่านั้นให้เป็นตอนใหญ่ตอนเดียว  และควรปรับการดำเนินเรื่องให้กระชับขึ้นอีกสักหน่อย  ก็น่าจะแก้ปัญหานี้ได้ 

              การเปิดตัวละครใหม่ๆ จำนวนมากของผู้เขียนอาจจะกลายเป็นปัญหาต่อการเขียนในช่วงต่อไป  จะเห็นว่าเรื่องเพิ่งดำเนินมาเพียงช่วงต้น  แต่มีตัวละครมากถึง 30 - 40 ตัวแล้ว   และบางตอนยังเปิดตัวละครใหม่จำนวนมากถึง 6 ตัว  โดยส่วนตัวเห็นว่าตัวละครบางตัวก็ไม่จำเป็นต่อเรื่องมากนัก  โดยเฉพาะในการเปิดตัวนางไม้ถึง 3 ตัวในย่อหน้าเดียว   ผู้วิจารณ์เป็นห่วงว่า  ผู้เขียนอาจจำเป็นต้องหาวิธีกำจัดตัวละครไม่สำคัญจำนวนมากเหล่านี้ในช่วงต่อมาก็เป็นได้  จึงอยากเสนอให้ผู้เขียนเลือกเฉพาะตัวละครสำคัญๆไม่ต้องมากนัก  ที่เป็นตัวดำเนินเรื่องหลักซึ่งไม่สามารถตัดออกได้  หรือเป็นตัวที่สร้างความเข้มข้นให้กับเรื่องจริงๆ   น่าจะดีกว่าสร้างตัวละครประกอบจำนวนมากที่แทบจะไม่มีบทบาทใดๆ ในเรื่องเลย  ตัวละครไม่สำคัญเหล่านี้นอกจากจะสร้างปัญหาให้กับการดำเนินเรื่องต่อไปแล้ว  ยังสร้างความสับสนให้ผู้อ่านด้วย  เนื่องจากผู้อ่านต้องจำว่าตัวละครแต่ละตัวนี้ชื่ออะไร  มาจากเมืองใด  ลักษณะเฉพาะเช่นไร  และมีความสำคัญกับเรื่องอย่างไร

              ยิ่งไปกว่านั้น  การสร้างปมปัญหา  ความลับ และเรื่องราวเบื้องหลังของตัวละครที่มีแนวโน้มว่าจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยยังไม่เริ่มคลี่คลายบางประเด็นที่เปิดไว้  นับตั้งแต่ที่ว่าแม่ของรินแท้จริงแล้วเป็นใคร  ตายไปแล้วหรือหนีไปไหน  ใครคือภาณ  แท้ที่จริงแล้วรินคือใคร มีความสำคัญกับนิรันตนคร อย่างไร  รินจะเป็นผู้นำสันติมาสู่นิรันตนครได้ตามคำทำนายหรือไม่  มัณทนาผู้เกลียดมนุษย์จะเป็นผู้ที่พารินกลับมายังโลกมนุษย์จริงหรือ ความขัดแย้งระหว่างโลกมนุษย์กับอาณาจักรไพรจะดำเนินต่อไปอย่างไร   จะสามารถประสานให้ทั้งสองโลกอยู่ร่วมกันอย่างสันติได้หรือไม่  หรือจะกำหนดให้ทั้งสองโลกต้องเข้าต่อสู้ห้ำหั่นกันเอง เสี่ยทำนุจะได้ครอบครองที่ดินของแม่รินตามที่หวังไว้หรือไม่  เรื่องราวเหล่านี้จึงเป็นสิ่งที่น่าติดตามดูต่อไปว่า   ท้ายที่สุดแล้วผู้เขียนจะยังจดจำและคลี่คลายปมปัญหาจำนวนมากที่ผูกไว้อย่างไม่ตกหล่นและครบถ้วนหรือไม่ อย่างไร 

     

    -----------------------------------

             

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×