ลิงก์เรื่องสั้น http://writer.dek-d.com/jojokus38/story/view.php?id=501209
งานเรื่องสั้น แด่เธอ...ผู้เสียสละ ของ ไต้สู่จัง Kus38 นับเป็นงานวิจารณ์เรื่องสั้นเรื่องแรก เพราะบทวิจารณ์ที่ผ่านๆมาจะเป็นการวิจารณ์นวนิยายทั้งหมด เหตุผลประการสำคัญที่นำเรื่องสั้นเรื่องนี้มาวิจารณ์มิใช่เป็นเพราะความประทับใจเรื่องสั้นเรื่องนี้เป็นการส่วนตัว แต่เป็นเพราะ ไต้สู่จัง Kus38 ขอให้ช่วยวิจารณ์ผลงานเรื่องนี้ให้
แด่เธอ...ผู้เสียสละ เรื่องสั้นขนาดสั้นที่มีความยาวไม่เกิน 7 หน้า A4 หากพรินต์ออกมาอ่านนั้น มุ่งเสนอแนวคิดหลักของการเสียสละส่วนตัวเพื่อความสุขของผู้อื่น ในที่นี้ ผู้แต่งใช้การสละชีวิตของ อัน น้องสาวที่ให้แก่ อิน พี่สาวฝาแฝด นับเป็นความเสียสละสูงสุด เพื่อมาตั้งคำถามผู้อ่านถึงความเสียสละที่หดหายไปในสังคมปัจจุบัน แม้จะเป็นความเสียสละง่ายๆ คือการสละเงินเพียงบาทเดียวเพื่อทำบุญแก่ผู้ยากไร้ก็แทบจะหาได้ยากแล้วในสังคม จึงไม่อาจเทียบกับความเสียสละสูงสุดของอันได้
ความน่าสนใจในอีกด้านหนึ่งของเรื่องสั้นนี้คือ ฉากเปิดที่เป็นบันทึกความรู้สึกของพี่ที่มีต่อน้อง แต่น่าเสียดายว่าผู้เขียนน่าจะขยายบันทึกนี้ให้ยาวขึ้น เพราะผู้วิจารณ์เห็นว่าหากเรื่องสั้นเรื่องนี้สื่อหรือเล่าเรื่องด้วยบันทึกจากมุมมองของอิน น่าจะจับใจผู้อ่านมากขึ้น และน่าจะตอบโจทย์ประเด็นความเสียสละได้ชัดเจนและกินใจมากขึ้น
ผู้วิจารณ์เห็นว่าแนวคิดหลักที่ผู้เขียนต้องการนำเสนอต่อผู้อ่านนั้นน่าสนใจ แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าสารที่ผู้เขียนต้องการสื่ออาจจะไปถึงผู้อ่านได้ไม่แรง และไม่ชัดเจนอย่างที่ผู้เขียนต้องการ นั่นอาจเป็นเพราะการบรรยายเรื่องที่ค่อนข้างเยิ่นเย้อส่งผลให้โทนของเรื่องอืดเนือยมากเกินไป เพราะเรื่องสั้นส่วนใหญ่เป็นการเขียนเพื่อแสดงความคิดหลักเพียงความคิดเดียว หรือบางครั้งก็เป็นการนำเสนอฉากเพียงฉากเดียว เพื่อส่งสะท้อนความคิดหลักที่ต้องการนำเสนออย่างเด่นชัด จะเห็นได้ว่าประโยคบรรยายของผู้แต่งจำนวนหนึ่งหากทำให้กระชับขึ้นก็จะช่วยแก้ปัญหาความเนิบเนือยของเรื่องได้ส่วนหนึ่ง เช่น “กลับมาแล้วค่ะ” เสียงของเด็กสาวคนหนึ่งดังขึ้นก่อนที่ประตูบ้านจะถูกเปิดออกด้วยมือข้างหนึ่งของเด็กสาวคนเดิม อาจจะเปลี่ยนเป็น ““กลับมาแล้วค่ะ” เสียงของเด็กสาวคนหนึ่งดังขึ้นก่อนที่เธอจะเปิดประตูบ้านเข้ามา” หรือ ส่วนอันขณะนี้ก็ได้เปิดบันทึกประจำวันหน้าถัดจากเมื่อวานออก แล้วลงมือจดบันทึกเรื่องราวของวันนี้ลงไป อาจจะเปลี่ยนเป็น ส่วนอันก็จดบันทึกเรื่องราวของวันนี้ต่อจากบันทึกประจำวันหน้าเมื่อวาน อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าทุกประโยคในเรื่องจะต้องตัดหรือทำให้กระชับไปทั้งหมด แต่ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในเนื้อความช่วงนั้นๆ
อีกอย่างหนึ่งคือ การบรรยายของผู้เขียนที่ให้ความสำคัญกับการให้ข้อมูลภูมิหลังของตัวละคร โดยการแสดงให้เห็นความแตกต่างในรายละเอียดของฝาแฝดคู่นี้ ไม่ว่าจะเป็นความชอบ นิสัย หรือแม้แต่อาชีพในอนาคต ผู้วิจารณ์เห็นว่าข้อมูลดังกล่าวไม่ได้มีส่วนช่วยสนับสนุนแนวคิดหลักที่ผู้เขียนต้องการนำเสนอในเรื่องนี้ ในทางตรงกันข้าม เหตุการณ์สำคัญอันถือว่าเป็นไคลแม็กซ์หรือจุดสูงสุดของเรื่องผู้เขียนกลับไม่ได้เน้น หรือขยายความให้ชัด เพราะผู้เขียนกล่าวถึงเหตุการณ์ตอนนั้นอย่างลวกๆ หากจะเปรียบเทียบให้เห็นอย่างชัดเจนคือ ผู้เขียนเขียนถึงภูมิหลังแวดล้อมประมาณ 6 หน้า แต่เขียนถึงฉากที่สะท้อนแนวคิดหลักเพียงหน้าเดียวเท่านั้น จึงทำให้ความเสียสละของอันจมไปกับข้อมูลภูมิหลังของตัวละคร และไม่โดดเด่นขึ้นมา ในที่นี้ หากต้องการสร้างหรือย้ำความแรงทางอารมณ์เพื่อสื่อความคิดเกี่ยวกับความเสียสละของอัน ผู้เขียนจำเป็นต้องขยายหรือให้รายละเอียดเกี่ยวกับฉากนี้ให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นขณะที่อินจะถูกรถยนต์ชนแล้วอันเข้ามาช่วย หรือเพิ่มมุมมองหรือการสะท้อนความคิดเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ทั้งจากมุมมองของอิน ของอัน หรือแม้แต่ของแม่ให้มากขึ้น ก็น่าที่จะทำให้เรื่องสั้นเรื่องนี้น่าสนใจมากขึ้น และอาจจะต้องลดฉากที่ไม่ช่วยส่งแนวคิดหลักลงบ้าง เช่น ฉากเปิดที่อินเป็นแผลและอันทำแผลให้ ฉากการเดินทางไปเรียนพิเศษ
ข้อบกพร่องอีกลักษณะที่เห็นชัดในเรื่องสั้นเรื่องนี้คือ ความถูกต้องของการเขียน ผู้วิจารณ์เห็นว่าผู้เขียนยังมีปัญหาทั้งในเรื่องการสะกดคำ และการเลือกคำให้เหมาะกับบริบท เพราะพบว่ามีการสะกดคำผิดอยู่จำนวนหนึ่ง เช่น เขียน “แส้” เป็น “แซ่” หรือ “ทมัดทะแมง” เป็น “ทะมัดทะแมง” หรือ เขียน “ปฐมพยาบาล” เป็น “ประถมพยาบาล” ในขณะเดียวกันผู้เขียนก็มีปัญหาการเลือกใช้คำที่เหมาะสมกับบริบทด้วย เพราะมีการเลือกใช้คำที่ผิดบริบทอยู่หลายครั้ง เช่น ท่อนไม้ท่อนใหญ่คอยค้ำจุน ควรจะใช้ว่า ท่อนไม้ท่อนหนึ่งคอยค้ำยัน หรือ โดยที่มีอันคอยจับท่อนไม้ไว้ได้อย่างทันท่วงทีก่อนที่มันจะตกไปทับเด็กสาวตรงหน้า ควรจะใช้ว่า โดยที่มีอันคอยจับท่อนไม้ไว้ได้อย่างทันท่วงทีก่อนที่มันจะหล่นไปกระแทกเด็กสาวตรงหน้า
เมื่ออ่าน แด่เธอ... ผู้เสียสละ จบลง ก็ได้ข้อยืนยันกับตนเองว่าเหตุผลที่ไม่เคยวิจารณ์เรื่องสั้น เพราะเรื่องสั้นที่เขียนได้อย่างลงตัวนั้นหายาก จึงอาจจะต่างความเข้าใจของผู้เริ่มเขียน หรือนักเขียนมือใหม่ที่อาจจะเข้าใจผิดว่างานเรื่องสั้น เขียนได้ง่ายกว่านิยายเพราะสั้นกว่า แต่ในความจริง เรื่องสั้นนับเป็นประเภทงานวรรณกรรมที่เรียกร้องความสามารถในการเขียนที่สูงมาก ไม่ว่าจะเป็นแนวคิดที่ชัดเจน การเขียนที่กระชับ ตรง และสื่อแนวคิดอย่างเฉียบคม และการสร้างตัวละครได้อย่างน่าสนใจ ซึ่งจะทำให้เรื่องสั้นเรื่องนั้นประทับใจผู้อ่านไปอีกนาน
---------------------------------
ความคิดเห็น