คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : Ai-wa Ai-shi-te-ru! คำสาปรักทักหัวใจนายตัวร้าย
นิยายรักหวานแหววของ kyomu เรื่อง Ai-wa Ai-shi-te-ru! คำสาปรักทักหัวใจนายตัวร้าย ในขณะนี้ เพิ่งโพสต์ถึงตอนที่ 10 แต่เนื้อเรื่องจริงๆ เพิ่งจะถึงตอนที่ 7 เท่านั้น เรื่องนี้นับเป็นนิยายที่เกริ่นเรื่องด้วยบทนำได้อย่างน่าสนใจและน่าติดตาม เนื่องจากผู้เขียนเปิดเรื่องด้วยเรื่องราวของ คาเรีย ชายผู้รักมั่นในเฟียร์น่า หญิงสาวอันเป็นที่รักเพียงคนเดียวเท่านั้น แม้ว่าเธอจะตายไปแล้ว จนทำให้องค์ลาซ ผู้ปกครองดินแดน
เนื้อเรื่องจึงถูกกำหนดให้ต้องดำเนินไปตามกรอบของคำสาปที่ผู้เขียนเกริ่นไว้แล้วตั้งแต่บทนำ แต่เมื่ออ่านเรื่องจบถึงตอนที่ 7 กลับพบว่าผู้เขียนละเลยโจทย์ที่ตัวเองสร้างไว้เป็นแกนเรื่องหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเงื่อนไขของคำสาปหลายประเด็น นับตั้งแต่การไม่อาจแตะต้องผู้หญิงที่ไม่รักเขา ผู้วิจารณ์เข้าใจว่าคำสาปจะต้องเริ่มต้นมีผลกับยากิ (ชื่อใหม่ของคาเรียเมื่อลงมาเกิดในโลกมนุษย์) นับตั้งแต่เขาเกิด เพราะในคำสาปไม่ได้ระบุเงื่อนไขว่าผลของคำสาปจะเกิดขึ้นเมื่อเขาเริ่มมีความรัก แต่ในเรื่องผู้เขียนกลับให้ยากิได้รับผลของคำสาปนี้เมื่อเขาอายุได้ 15 หลังจากฝันเห็นลูนาริต้า ขณะที่เฝ้าอาการของขนมผิง (แฟนสาวของเขาในชาตินี้) หน้าห้อง ICU ลูนาริต้าถามเขาอีกครั้งว่า “ท่านรักข้าได้หรือยัง คาเรีย” และเมื่อลูนาริต้าให้เขาเลือกระหว่างชีวิตของเขาเองกับขนมผิง เขาก็ยังยืนยันคำเดิมว่า “ข้าเลือกนาง...ข้ารักนาง” นับตั้งแต่นั้นมาคำสาปก็เริ่มต้น เพราะหลังจากนั้นเมื่อเขาสัมผัสหรือเฉียดเข้าใกล้ผู้หญิงทุกคน เขาจะทุรนทุราย เจ็บปวดราวกับจะถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ และจะสัมผัสได้เฉพาะผู้หญิงที่รักเขาด้วยใจจริงเท่านั้น ซึ่งในขณะนี้ก็เหลือเฉพาะผู้หญิงในครอบครัวเขานั่นเอง
ประเด็นที่ 2 คือ เขาต้องกลายเป็นผู้หญิงในวันที่ 14 ของทุกเดือน และต้องได้รับความเจ็บปวดทางกายแสนสาหัส นับตั้งแต่เกิดจนอายุ 20 ปีก็ยังไม่มีเหตุการณ์ในตอนใดเลยที่ระบุไว้ว่าเขาได้กลายเป็นผู้หญิงแม้สักเดือนเดียว แต่วันที่ส่งผลกับชะตาชีวิตของเขามากที่สุดกลับ เป็นวันที่ 28 พฤษภาคมซึ่งเป็นวันเกิดของเขาเพียงวันเดียวเท่านั้น ที่ยากิมักจะต้องประสบกับความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นวันเกิดตอนอายุ 15 ที่ขนมผิงถูกไม้ร่วงลงมากระแทก ขณะที่ให้ของขวัญวันเกิดเขา จนต้องกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา วันเกิดตอนอายุ 18 ปี ที่ขนมผิงเสียชีวิตขณะที่เขาไปเยี่ยมและนั่งกุมมือเธอไว้ หรือแม้แต่วันเกิดตอนอายุ 20 ปี ในขณะที่เขาไปที่สุสานของขนมผิง เขาก็ได้พบกับบาร์เลย์ หญิงสาวนอกครอบครัวเขาคนแรกหลังจากที่ขนมผิงตาย ที่สามารถแตะต้องตัวเขาได้โดยที่ไม่ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวด
ประเด็นที่ 3 คือ เงื่อนไขของคำสาปที่ระบุว่า เขาไม่สามารถสัมผัสผู้หญิงคนใดได้ หากหัวใจของผู้หญิงเหล่านั้นไม่มีเขาอยู่ ในเรื่องมีผู้หญิงหลายคนที่หลงรักยากิ แม้ว่าจะเป็นเพียงการหลงรูปก็ตาม ทว่าผู้หญิงเหล่านั้นก็มีคุณสมบัติตรงกับข้อยกเว้นในคำสาปที่ว่า มีเขาอยู่ในหัวใจ ก็ไม่น่าที่จะทำให้เขาต้องเจ็บปวด แต่ผู้หญิงเหล่านั้นก็ไม่สามารถแตะต้องตัวยากิได้เช่นกัน ถ้าเป็นเช่นนี้น่าจะระบุเงื่อนไขเพิ่มเติมในคำสาปต่อไปว่า เขาไม่สามารถแตะต้องผู้หญิงคนใดได้เลย หากเขาและเธอไม่ได้รักกันด้วยใจจริง ก็น่าจะชัดเจนมากขึ้น สิ่งที่น่าแปลกอีกประการคือ เมื่อระบุว่าผู้ที่สามารถแตะต้องยากิได้ ต้องมีเขาในหัวใจ แต่เหตุใดบาร์เลย์ถึงแตะต้องตัวยากิได้ โดยไม่สร้างความเจ็บปวดใดๆ ให้เขาเลย ทั้งๆที่เธอก็ไม่ได้รักเขาหรือไม่มีเขาในหัวใจ ด้วยเหตุนี้ ฤทธิ์ของคำสาปจึงไม่ได้เป็นไปตามข้อกำหนดขององค์ลาช แต่เป็นไปตามความต้องการของผู้เขียนในช่วงเวลาต่างๆ มากกว่า ว่าเวลานี้ต้องการให้ยากิได้รับหรือไม่ได้รับผลของคำสาปนั้น ทำให้คำสาปที่เป็นหัวใจของเรื่องดูจะด้อยความศักดิ์สิทธิ์ลง เพราะไม่มีบรรทัดฐานที่แน่นอนในการออกฤทธิ์ จึงอยากเสนอให้ผู้เขียนทบทวนคำสาปที่ได้ตั้งเงื่อนไขไว้ในบทนำอีกครั้ง ว่าต้องการให้คำสาปมีผลต่อการดำเนินเรื่องอย่างไรแน่ เพื่อสร้างความชัดเจนให้กับเนื้อเรื่องมากขึ้น
ในแง่ของเนื้อเรื่องโดยรวมนั้น ยังไม่สามารถที่จะกล่าวถึงได้อย่างชัดเจนในขณะนี้ เพราะเรื่องเพิ่งจะดำเนินไปเพียงช่วงเริ่มต้น ซึ่งเรื่องมีแนวโน้มว่าจะดำเนินไปพร้อมๆ กับการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างยากิ กับ บาร์เลย์ รุ่นพี่สาวปีสี่ ผู้หญิงคนแรกที่ยากิสนใจหลังจากที่ขนมผิงแฟนเก่าตายไปเมื่อสองปีก่อน และระหว่างยากิกับหมี่ฟั่น รุ่นน้องปีหนึ่งที่แอบชอบเขามาตั้งนานแล้วแต่ยากิไม่รู้ตัว อีกทั้งยากิและหมี่ฟั่นต้องผูกพันและเป็นแฟนกันไปจนกว่าจะจบการศึกษาตามกฎที่ประเพณีหอพัก..รักเธอ กำหนดไว้ว่า ถ้าผู้ชายที่อยู่หอชายคนใดสามารถสารภาพรักและพาหญิงสาวที่พักอยู่ในหอมาลงชื่อได้ภายในเวลา 5 นาทีที่กำหนด คนทั้งคู่จะต้องเป็นแฟนกันและมีสิทธิได้อยู่หอพักมหาวิทยาลัยต่อไปจนกว่าจะสำเร็จการศึกษา
ส่วนการใช้ภาษานั้น พบว่าผู้เขียนให้ความสำคัญกับความถูกต้องของภาษา ไม่ว่าจะเป็นการสะกดคำหรือการใช้สำนวนภาษา พบว่าไม่ค่อยมีที่ผิดมากนัก จะมีเพียงบางคำที่เขียนผิดซ้ำๆ หลายครั้ง จนทำให้เชื่อว่าผู้เขียนอาจคิดว่าคำนี้เขียนเช่นนี้จริงๆ เช่น สาส์น เขียนเป็น สาสน์ นอกจากนี้ยังพบว่าผู้เขียนให้สัดส่วนระหว่างบทสนทนาและบทบรรยายในปริมาณที่เกือบเท่ากัน แต่ในบางครั้งบทสนทนามีสัดส่วนมากกว่าบทบรรยาย ผู้วิจารณ์เห็นว่าผู้เขียนควรจะเพิ่มสัดส่วนของบทบรรยายให้มากขึ้น โดยให้มีปริมาณบทบรรยายประมาณ 2 ใน 3 ของเรื่อง ก็จะช่วยให้การดำเนินเรื่องมีความน่าสนใจมากขึ้น ซึ่งผู้เขียนดูจะมีศักยภาพในการปรับเปลี่ยนอยู่แล้ว เพราะเมื่อพิจารณาจากบทนำก็เห็นได้ว่าผู้เขียนสามารถเขียนบทบรรยายได้ดี เป็นต้นว่าตอนที่อธิบายถึงประเพณีแห่ง Sacred หรือ จดหมายที่เป็นบทลงโทษขององค์ลาช
อีกประการหนึ่ง ผู้เขียนควรตัดอีโมติคอนแสดงอารมณ์ในตอนท้ายประโยคออกบ้าง เนื่องจากผู้เขียนใช้วิธีการดังกล่าวบ่อยครั้ง บางครั้งก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องใช้อิโมติคอนเพื่อปิดท้ายประโยคเสมอไป และเมื่อตัดทิ้งก็ไม่ได้ทำให้ประโยคเสียความแต่อย่างใด แต่ยังช่วยให้รู้สึกสบายตามากขึ้นด้วย เพราะเนื้อหาที่มีอีโมติคอนปิดท้ายเรียงกันหลายๆ ประโยคนั้นดูรกตาน่ารำคาญ เช่น
เจอกับพลุลอยขึ้นแสกหน้า -_-
“กรี๊ดดดด”
เสียงกรี๊ดแปดหลอดดังจนหอพักแทบระเบิด -_-*
………….
พลุอีกดอกลอยขึ้นแสกหน้า -_-**
“Happy Birthday ค่าพี่ยากิ >O<//” หญิงสาวคนแรกพูดขึ้น .....
“มีความสุขมากๆนะค้า ^O^” หญิงสาวคนที่สองพูดต่อ ......
แต่ขอโทษ...ผมเป็นคนไม่มีมารยาท -_-**
ผมยังคงยืนนิ่งและมองหน้าเธอทั้งสอง คิดว่าวันนี้ชีวิตจะปกติสุขแล้วแท้ๆ แต่นี่กลับหนักว่าทุกวัน -_-! …… เฮ้อ... เด็กผู้หญิงสมัยนี้รักบุพการีกันดีจริงๆ =_=
อีกประเด็นหนึ่งที่เป็นข้อสงสัยค้างใจของผู้วิจารณ์อยู่และยังไม่สามารถหาคำตอบได้ในขณะที่อ่านเรื่องนี้ คือ ชื่อเรื่องที่คาดว่าน่าจะเป็นภาษาญี่ปุ่นที่ว่า Ai-wa Ai-shi-te-ru! มีความหมายว่าอย่างไร จะมีความหมายเช่นเดียวกับประโยคภาษาไทยที่ตามมาว่า คำสาปรักทักหัวใจนายตัวร้าย หรือไม่ และมีเหตุผลใดที่ต้องตั้งชื่อเป็นภาษาญี่ปุ่น เพราะเนื้อหาทั้งหมดก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับญี่ปุ่น ทั้งในเรื่องของสถานที่ และตัวละคร จะมีก็เพียงแต่พ่อแม่ของพระเอกที่กล่าวถึงเพียงว่าไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น และชื่อของคนในครอบครัวพระเอกที่ได้รับอิทธิพลมาจากภาษาญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็น ยากิ ข้าวปั้น (น้องสาว) และ โซบะ (น้องชาย) นอกจากนั้นก็ไม่เห็นว่าจะมีสิ่งใดเกี่ยวข้องกับความเป็นญี่ปุ่นอีกเลย
-------------------------------
ความคิดเห็น