ชื่อเรื่อง : Satan’s Tear
ช่วงเวลา : ท้ายภาค 4
ประเภท : ไม่ระบุ
Note : เนื่องจากเรื่องของสองผู้คุมกฎขวัญใจใครหลายๆ คนยังเป็นปริศนาว่าตายจริงหรือไม่ ทางพี่แรบบิทเองก็ไม่ได้ตอบให้ชัดเจน ก็เลยตัดสินใจเองซะเลย หุๆ ก็ดูละกันว่าผมคิดว่าผู้คุมกฎทั้งสองคนจะตายหรือเปล่า อ้อ เป็นฟิกซีรี่ส์เดียวกับซาตานเดสทินี่นะครับ หุๆ แต่ไม่ต้องอ่านเรื่องนั้นก็ได้ รู้เรื่องเหมือนกัน
น้ำตาซาตาน...
น้ำตาจากบุรุษที่มีจิตใจอำมหิต ผู้ชื่นชอบการทำลายล้างและฆ่าฟัน
น้ำตาจากบุรุษที่แทบจะเรียกได้ว่าไร้ความรู้สึก
แต่ว่ากันว่า หากน้ำตานั่นหลั่งออกมาเมื่อใด...
น้ำตาที่หลั่งมาจากใจ...
มัน... จะก่อให้เกิดปาฏิหาริย์...
ปาฏิหาริย์อย่างที่ไม่มีใครสามารถคาดเดาได้...
เพราะว่า... มันยังไม่เคยมีปรากฏว่าซาตานจะหลั่งน้ำตาออกมาแม้เพียงหยดเดียว...
+ + + +
ซาตาน...
ฉันเกิดมาเพื่อเป็นซาตาน...
ร่างกาย จิตใจ ฝีมือ... ทุกอย่างที่ฉันมีและทุกสิ่งที่ฉันเป็น มันทำให้ฉัน...เป็นผู้ที่ยินดีกับการทำลายและความตาย
ความสูญเสีย... เป็นสิ่งที่ไม่เคยกระเทือนจิตใจของฉันได้แม้แต่น้อย
ความเสียใจ... ก็เป็นสิ่งที่ฉันไม่รู้จัก
ฉันไม่เคยได้รู้... ถึงความสะเทือนใจ ความเศร้า
ความทรมานและความหวาดกลัวจากการสูญเสียที่ใครหลายๆ คนคงรู้สึกเพราะฉันเป็นคนทำ
บัดนี้ ฉันได้รู้จักกับมันแล้ว
เป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกเหมือนหัวใจสีดำสนิทของฉันถูกบีบอย่างแรง
ทันทีที่ฉันหันไปเห็นนาย... นอนนิ่งอยู่กับพื้น...
นาย... ผู้ที่เปลี่ยนแปลงฉัน...
เปลี่ยนให้ฉันผู้ที่สนุกสนานกับการฆ่าเพียงอย่างเดียว กลายเป็นผู้ที่ยินดีกับมิตรภาพ
ฉัน... ที่เปรียบเสมือนกับความมืดดำ ที่ไม่มีวันส่องสว่าง
นาย... ที่เปรียบเสมือนกับแสงเจิดจ้า ที่จะไม่มีวันดับมอด
คราวนี้... วันนี้... แสงของนายที่ได้ดับมอดลงไปต่อหน้าต่อตาของฉัน...
มันทำให้ความมืดอย่างฉันที่อาศัยแสงสว่างอย่างนายเพื่อการคงอยู่... รู้สึกเคว้งคว้าง
หากไม่มีซึ่งความมืดก็จะไร้แสงสว่าง...
หากขาดแสงสว่าง... ความมืดก็ไม่อาจคงอยู่ได้อย่างเดียวดาย...
แสงสว่าง... ความมืด...
สองสิ่งที่เกิดมาเพื่อคู่กัน... สองสิ่งที่เกิดมาเพื่อรวมเป็นหนึ่ง...
มันเป็นสองสิ่งที่ไม่อาจแยกจากกันได้
เมื่อสิ้นแสงสว่างอย่างนาย...
ความมืดอย่างฉัน... ก็จะขอดับลงตามนาย...
ลอเรนซ์ ดอร์น แสงสว่างเพียงผู้เดียวของฉัน...
+ + + +
ศึกตัดสินครั้งสำคัญแห่งสงครามระหว่างเอเดนและเดมอส ผู้คนมากมายพากันหลั่งไหลเข้ามาชม เพื่อรอผลการตัดสิน...
ผลที่จะตัดสินชีวิตของผู้คนทั่วทั้งเอเดน...
ขณะนี้ ศัตรูเบื้องหน้า คือราชาเมืองยักษ์ที่ถึงแม้จะออกมานอกเมืองแล้วก็ยังมีรูปร่างที่ใหญ่ผิดมนุษย์อยู่ดี
เป็นยักษ์ที่มนตร์ดำ มิอาจกล้ำกราย
“เลิกใช้มนตร์ดำซะเถอะ ไร้ประโยชน์” ดำรัสท้วงจากราชาเกรเซอร์ให้ผู้ที่ได้รับฉายาว่าเป็นซาตานแสยะยิ้มอย่างน่ากลัว
“ก็จริง... ลองมานานแล้วก็รู้สึกว่าจะทำอะไรท่านไม่ได้เลย” ลูคัส ซาโดเรียตอบเสียงเครียด
“คราวนี้ ต่อให้หลานเฟลิโอน่าส่งพ่อนักบวชนั่นมาก็ไม่มีทางชนะหรอก ยอมแพ้ซะเถอะ” ราชาเกรเซอร์เสนอเสียงเรียบ
“ควีน ดีห้า กำจัดเบี้ย” เสียงสั่งบุกจากจ้าวปีศาจเอวิเดส ให้ควีนแห่งเดมอสเข้าปะทะกับนักบวชแห่งเอเดน
“ตอนนี้คงไม่ว่างมาช่วยเจ้าแล้วล่ะ” ราชาเกรเซอร์แย้มพระโอษฐ์เล็กน้อย
เพียงชั่วเวลาที่ลูคัสกำลังรวบรวมสติเพื่อหาทางออกกับการต่อสู้ตรงหน้า ก็พลันสัมผัสได้ถึงความรู้สึกหนึ่ง
ความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน... หวาดกลัว...
ไม่ใช่... ไม่ได้กลัวราชายักษ์ตรงหน้า... แต่กลัว... เพราะห่วงคนที่อยู่ด้านหลังมากกว่า...
ลูคัสที่ประจำช่องเอฟเจ็ด หันหลังไปหาภาพการต่อสู้ที่ช่องดีห้า
ร่างของนักบวชคนสำคัญถูกเพลิงมรณะเผาท่วมกาย สิ่งที่ออกมาจากเพลิงนั่นมีเพียงพายุกริชสีเงิน
พายุกริช... ที่รับรู้ได้ว่า... มันเต็มไปด้วยไอวิญญาณ... พลังชีวิตของผู้เป็นเจ้าของ...
สิ่งที่คนอยู่ด้วยกันมานาน รู้ดีว่า...
นั่น... คือพายุกริชครั้งสุดท้ายในชีวิตของนักบวชผู้ที่จะถูกจารึกไว้ในใจของซาตานคนนี้ไปตลอด
ลอเรนซ์ ดอร์น...
“ลอเรนซ์.............................................................................................................................................................”
เสียงตะโกนลั่นสนาม หากแต่ไร้ผู้ฟัง เนื่องจากความสนใจถูกพุ่งตรงไปยังร่างที่ถูกเผาจนเกรียมของนักบวชผู้องอาจ
ความตายที่มาถึงตัวผู้เข้าแข่งขันเร็วเกินไป... มันเร็วเกินกว่าที่จอมเวทย์อย่างราชินีจันทราและมหาปราชญ์เลโมธีจะช่วยไว้ทัน
ฉันเรียกชื่อนายว่าลอเรนซ์อย่างที่นายต้องการแล้วยังไงล่ะ...
ฟื้นขึ้นมาสิ... ลุกขึ้นมา...
หรือจะให้ฉันเรียกนายว่าลอรี่ดีล่ะ นายจะได้ฟื้นขึ้นมาปามีดใส่ฉัน เหมือนทุกครั้งที่นายทำ...
เหมือนที่นายทำมาตลอด...
“ลอรี่.........................................................................................................................................................................”
ซาตานที่ห้าวหาญทรุดตัวลงนั่งกับพื้นอย่างหมดหวัง
อยากจะวิ่งเข้าไปหาร่างนั่นเต็มหัวใจ... แต่หมดเรี่ยวแรง...
ฉันไม่เหลือเรี่ยวแรงใดๆ อีกแล้ว ไม่อาจทำอะไรได้อีก... ถ้าขาดนาย...
“ซาตาน... มีหัวใจให้โศกเศร้ากับการสูญเสียด้วย... อย่างนั้นหรือ” คำถามจากราชายักษ์ที่ทำให้คนไร้สติหันมาสบตามองอย่างเหม่อลอย
“ฆ่าฉันสิ... ฆ่าฉัน...” เสียงพึมพำจากลูคัสที่คนฟังรู้สึกแปลกใจ น้ำเสียงสั่นเครือ ลมหายใจแรงๆ ที่ดูจะไม่ค่อยเป็นจังหวะ ลูคัสก้มหน้าลงก่อนที่จะลุกขึ้นตะโกนเสียงลั่น “ฆ่าฉัน... ฆ่าฉันสิ...”
พรึ่บ!!!
ในเมื่อคู่ต่อสู้ตรงหน้าไม่เมตตา... คนที่เพิ่งจะรู้จักความสูญเสียจึงจัดการเอง...
กองเพลิงสีน้ำเงินที่ผุดจากความไม่มีดังเช่นที่เคยเกิดขึ้นกับร่างของมนุษย์หมาป่า...
หากแต่คราวนี้กลับลุกท่วมร่างของผู้เป็นเจ้าของ...
ร่างทั้งร่างดิ้นอย่างทรมานก่อนจะล้มลงกับพื้น
ฉันจะตามไปอยู่กับนาย ลอรี่...
ความมืดจะตามแสงสว่างไปทุกที่...
ภาพสุดท้ายที่ลูคัสรับรู้ ก็คือร่างที่ค่อยๆ หายวับไปของเพื่อนที่ซาตานอย่างเขารักที่สุด...
....
....
“ลูคัส...” เสียงเพรียกเบาๆ ที่คุ้นเคยปลุกให้ผู้สลบไสลฟื้นคืนสติ
นัยน์ตาสีดำค่อยเปิดออกช้าๆ ก่อนจะกระพริบตาถี่ๆ เพื่อปรับสายตารับกับแสงไฟ
“ชิวาส โซมาเนีย ลูคัสฟื้นแล้ว” บุรุษคนที่ปลุกเขา เรียกเพื่อนอีกสองคนที่นั่งหน้าเครียดอยู่ด้านข้างให้ลุกขึ้นมาดู
“ลูคัส เป็นยังไงบ้าง” ชิวาสถามอย่างร้อนใจ
“เธอไม่น่าทำอย่างนี้กับตัวเองเลยนะ พวกเราเป็นห่วงแทบแย่” โซมาเนียแย่งพูดต่อ
คนเพิ่งฟื้นตัวมองไปรอบๆ ตัวอย่างงงๆ ราวกับยังลำดับเหตุการณ์ไม่ถูก
“โรเวน ชิวาส โซมาเนีย” ลูคัสพึมพำออกมาเบาๆ แต่ดังที่สุดเท่าที่คนเพิ่งฟื้นสภาพจะสามารถเปล่งเสียงออกมาได้ “ที่นี่ที่ไหน”
“ห้องพยาบาลน่ะ ท่านเลโมธีกับราชินีจันทราพานายมาไว้ที่ห้องพยาบาลนี่” โรเวนตอบ
“จริงสินะ มหาปราชญ์กับราชินีจันทรา” ลูคัสเบือนสายตาขึ้นไปเพ่งมองเพดานเพื่อรวบรวมความคิด
“ใช่ เธอไม่น่าเผาตัวเองเลย” โซมาเนียท้วงอย่างเป็นห่วง
“เผาตัวเอง... ฉันเผาตัวเอง” ลูคัสพึมพำ ก่อนที่ภาพเหตุการณ์ทั้งหมดจะแล่นเข้าสู่สมองราวกับเพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ แล้วคนหมดแรงก็กลับลุกพรวด โวยวายอย่างขาดสติ “ใช่ๆ ลอรี่ล่ะ ลอรี่อยู่ที่ไหน ฉันจะไปหาลอรี่” ไม่พูดเปล่ายังจะลุกลงจากเตียงทั้งๆ ที่สภาพร่างกายก็ไม่อำนวย เพื่อนทั้งสามต่างจับลูคัสไว้ไม่ให้ไปไหน
“ลูคัส ลอเรนซ์ตายแล้ว นายเข้าใจไหม” โรเวนจับบ่าลูคัสแน่น พลางจ้องตาเขม็ง “พวกเราเสียลอเรนซ์ไปแล้ว ไม่อยากจะต้องเสียนายไปอีกคนนะลูคัส”
“ไม่... ไม่...” ลูคัสส่ายหัววืดพลางอาละวาด “ฉันไปหาลอรี่ ฉันจะอยู่กับลอรี่ ฉันต้องตามไป พวกนายอย่ามาห้ามฉัน”
“ไม่ได้นะลูคัส” ชิวาสห้าม และช่วยโรเวนจับให้ลูคัสลงไปนอนตามเดิม โซมาเนียที่ยืนอยู่ข้างๆ กำลังร่ายเวทย์อย่างเร่งด่วน
เพียงแค่วูบเดียว ลูคัสก็กลับไปหลับตามเดิม โซมาเนียร่ายเวทย์หลับเพื่อให้ลูคัสได้ผ่อนคลายจิตใจ
“ให้ลูคัสนอนต่อไปอย่างนี้ก่อนแล้วกัน” โรเวนพูดอย่างอ่อนใจ
“ยังดีนะ ที่มนตร์ของฮีลเลอร์สามารถทำให้คนที่มีพลังเวทย์สูงอย่างลูคัสหลับลงได้” ชิวาสชมโซมาเนีย แต่เธอกลับทำหน้าเศร้า
“ถึงจะเป็นฮีลเลอร์ ก็รักษาได้แค่เพียงแผลภายนอก ถึงยังไง ฉันก็ไม่สามารถช่วยรักษาแผลที่เกิดขึ้นในใจของลูคัสได้” น้ำตาแห่งความเศร้าโศกพังทำนบออกมาจากนัยน์ตาของสาวน้อย
“เวลาจะเป็นเครื่องช่วยรักษาให้ลูคัสเอง พวกเราก็ได้แค่ช่วยคุมไม่ให้เขาทำอะไรเกินเลย อย่างเผาตัวเองกลางสนามต่อสู้นั่นอีก” โรเวนปลอบพลางตบบ่าโซมาเนียเบาๆ แล้วทั้งสามก็ผลัดเวรกันนั่งเฝ้าลูคัสต่อไป
หลายครั้งหลายคราที่ลูคัสฟื้นขึ้นมาแล้วก็อาละวาดอย่างเดิม จนเวลาผ่านไปเกือบหนึ่งสัปดาห์ อาการอาละวาดของลูคัสก็ค่อยๆ ลดลง หรือพูดให้ถูก ลูคัสแทบจะไม่มีการตอบรับใดๆ นอกจากนั่งเหม่อลอยอย่างคนไร้สติ
“ลูคัส พรุ่งนี้ศพของลอเรนซ์จะถูกฝังแล้วนะ ถ้านายเป็นอย่างนี้พวกอาจารย์คงไม่ยอมให้นายออกไปร่วมพิธีฝังศพแน่ๆ” ชิวาสพูดอย่างเป็นห่วง เขาเข้าใจความรู้สึกของลูคัส ลอเรนซ์เป็นคนที่ช่วยให้ลูคัสหลุดจากการเป็นซาตาน หลุดจากชีวิตที่มีแต่การฆ่าฟัน ลอเรนซ์คือคนที่สำคัญที่สุดสำหรับลูคัส ดังนั้น เมื่อวันพรุ่งนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่ลูคัสจะได้เห็นหน้าลอเรนซ์ ชิวาสจึงพยายามเต็มที่เพื่อให้เพื่อนคนนี้อยู่ในสภาพที่ปกติที่สุด
“เหรอ” ลูคัสตอบสั้นๆ แล้วก็กลับไปนั่งเหม่อตามเดิม
“นายจะไปไหม ฉันจะพาไปเอง” ชิวาสถาม ลูคัสพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะทิ้งตัวลงนอน
“เฮ้อ พวกปีสองก็วุ่นกับการตามตัวเฟริน นี่เราก็ต้องมาวุ่นกับเรื่องของเพื่อนเราอีก สงคราม... ไม่ได้มีอะไรดีเลยจริงๆ” ชิวาสพึมพำอย่างหน่ายๆ
วันรุ่งขึ้น พิธีสวดศพถูกจัดขึ้น ณ กลางลานที่จัดงานแข่งหมากกระดาน ก่อนที่จะนำร่างไปฝัง ที่ที่ทุกคนจะได้พบกับลอเรนซ์เป็นครั้งสุดท้าย แสงแดดยามเช้ากลับทอลงมาเป็นลำอย่างอ่อนโยน ราวกับจะนำวิญญาณของลอเรนซ์ขึ้นสู่สวรรค์
โซมาเนีย โรเวน ชิวาส ค่อยๆ พยุงตัวลูคัสออกมาจากปราสาทเอดินเบิร์กไปยังสถานที่จัดพิธี ในขณะที่คนอื่นต่างพากันแยกย้ายไปเตรียมงานอย่างเร่งด่วน
“พาฉันไปหาลอรี่” คำสั่งห้วนจากลูคัสที่เพื่อนๆ ต้องยอมทำตาม แม้แต่คนที่หยิ่งในศักดิ์ศรีอย่างโรเวน
ทั้งสามพยุงร่างของลูคัสไปไว้ที่หน้าแท่นวางศพของลอเรนซ์ แล้วถอยหลังไปยืนห่างๆ
สภาพศพที่ยังดูเหมือนมีชีวิต เนื่องจากได้รับการร่ายมนตร์จากมหาปราชญ์เลโมธี ให้ร่างที่ไหม้ไฟ กลับคืนสู่สภาพเดิม และไม่เน่าเปื่อย จนกว่าจะเลยพิธีสวดศพและฝังศพ
ผมสีทองที่ขับกับใบหน้าสีขาว มือใหญ่ของลูคัสค่อยลูบไล้ใบหน้าของเพื่อนรักเบาๆ อย่างไม่อยากเชื่อ...
ไม่อยากเชื่อจริงๆ ว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้พบกับนาย...
ครั้งสุดท้าย... ที่จะได้สัมผัสนาย...
มือใหญ่เลื่อนไปลูบหัวเบาๆ แทรกมือเข้าไปท่ามกลางผมสีทองสลวย ความแตกต่างกับตอนมีชีวิต ก็คือ ถ้าคนตรงหน้าไม่ตายก็คงได้โดนมีดบินปาเข้าใส่ไปตั้งนานแล้ว
“ลอรี่ ฉันคิดถึงนาย...” ลูคัสกระซิบเบาๆ ที่ข้างหู แม้จะรู้ว่าคนตรงหน้าไม่มีวันรับรู้อีกต่อไป
“ลูคัส ถอยออกมาเถอะได้เวลาแล้ว” โรเวนขยับเข้าใกล้เพื่อจะพยุงร่างเพื่อนออกมา
“นายจะอยู่... ในใจของฉันตลอดไป...” ลูคัสเอ่ยออกมาได้อย่างยากเย็น เพราะเมื่อนึกไปว่าจะไม่ได้เห็นหน้าอีกต่อไปแล้ว ความรู้สึกแปลกๆ ก็เกิดขึ้นมามากมายอย่างไม่อาจกลั้นไว้อยู่
ทันทีที่กระพริบตา น้ำใสๆ ก็ไหลรินลงอาบสองแก้ม สิ่งที่คนเป็นซาตานไม่เคยได้รู้จักมาก่อน
น้ำตาซาตาน...
มันไหลรินอย่างไม่อาจห้าม ลูคัสร้องไห้...
มันเป็นครั้งแรก... ที่โรเวน ชิวาส และโซมาเนียก็ไม่อยากเชื่อ...
น้ำตาแห่งความเศร้า... ความเศร้าจากใจ... ไหลลงอาบร่างไร้วิญญาณ...
พลันแสงเจิดจ้าก็ส่องขึ้นมาจากรอยน้ำตาที่หยาดลงบนใบหน้าของลอเรนซ์ ทั้งสี่คนต่างมองภาพตรงหน้าอย่างประหลาดใจ แล้วแสงนั่นก็ค่อยๆ ดับลง
“มันเกิดอะไรขึ้น” โรเวนถามอย่างประหลาดใจ
“มันคงจะเป็นแสงแห่งชีวิตของลอรี่ แสงที่ดับลงคงบอกให้ฉันตัดใจ” ลูคัสเช็ดน้ำตาพลางกลืนเสียงสะอื้นไห้ของตนลงลำคอ “นี่น่ะหรือ น้ำตา...”
ลูคัสลุกขึ้นและหันหลังเดินจากออกมาช้าๆ แต่แล้วโซมาเนียก็ร้องขึ้น
“ว้าย ลูคัส”
คนถูกเรียกหันกลับไปมอง ก็พบว่ามือขาวของร่างที่นอนอยู่บนแท่นขยับเบาๆ เมื่อตวัดนัยน์ตาขึ้นมองใบหน้า ก็พบว่าเปลือกตาของลอเรนซ์ขยับน้อยๆ ก่อนจะเปิดออกช้าๆ
“ลอรี่!!!” ลูคัสอุทานอารามดีใจ คนที่ท่าทางหมดแรงกลับมามีชีวิตชีวาขึ้นทันที เขาเดินเข้าไปประคองร่างของลอเรนซ์มาไว้ในอ้อมแขน
“ไอ้ที่เรียกอย่างนั้น อยากตายหรือไง ลูคัส” ลอเรนซ์พูดเสียงเครียด แม้เจ้าตัวจะยังขยับไม่ค่อยได้ก็ตาม ลูคัสฉุดร่างของลอเรนซ์เข้ามากอดแน่น
“เอาสิ นายจะฆ่าฉันก็ได้ แค่นายฟื้นก็พอแล้ว” ลูคัสพูดอย่างดีใจ
“ปล่อยฉันสักที อึดอัด เล่นอะไรเนี่ย” ลอเรนซ์พยายามจะแกะมือลูคัสออกแต่ไม่มีแรง ลูคัสรัดร่างคนตรงหน้าแน่นกว่าเดิม “โอ๊ย! เจ็บ”
เสียงร้องที่ทำให้คนดีใจจนลืมตัวกลับได้สติ รีบปล่อยคนในอ้อมกอดทันที
“นายยังไม่ตาย ฉันนึกว่านายตายไปแล้วเสียอีก” ลูคัสยิ้มร่า เป็นรอยยิ้มที่ออกมาใจจริงที่ไม่เคยมีใครได้เห็น
“หืม ฉันตาย” ลอเรนซ์นั่งนึกสักพัก “อ้อ จริงสิ ทำไมฉันไม่ตายล่ะ”
“อ้าว แล้วฉันจะไปถามใครล่ะเนี่ย” ลูคัสตอบ ส่วนโรเวน ชิวาส โซมาเนียก็ได้แต่ยืนงง
“น้ำตาซาตาน...” เสียงเอ่ยขัดดังมาจากทางด้านหลัง เมื่อทุกคนหันไปก็ได้พบกับมหาบุรุษแห่งเอดินเบิร์ก “สิ่งวิเศษที่ยิ่งกว่าน้ำตานกฟีนิกซ์ น้ำตาที่หลั่งออกมาจากใจ สามารถช่วยให้คนที่ตายแล้วฟื้นคืนชีพได้”
“ท่าน...” โรเวนกล่าวอย่างตกใจก่อนจะถอยออกและโค้งคำนับให้ เช่นเดียวกับชิวาสและโซมาเนีย
มหาปราชญ์เลโมธีเดินเข้าไปยังแท่นวางศพ ที่บัดนี้กลายเป็นที่นั่งของลอเรนซ์ และมีลูคัสนั่งเกาะอยู่กับพื้นด้านข้าง
“ที่ฉันเก็บศพของลอเรนซ์ รอจนถึงวันนี้ ก็เพราะเธอนั่นล่ะนะ ลูคัส” มหาปราชญ์กล่าว
“น..นี่ท่านรู้อยู่แล้วหรือไงครับว่าผมจะต้องร้องไห้” ลูคัสถามอย่างแปลกใจ
“เปล่าเลย เพียงแต่ฉันคิดว่า นักบวชคนนี้อาจจะเปลี่ยนจิตใจของซาตานจากสีดำสนิทได้ ฉันอยากที่จะคิดว่าความสัมพันธ์ มิตรภาพระหว่างที่เธออยู่ในโรงเรียนนี้ มันจะมีอานุภาพพอที่จะทำให้เธอมีหัวใจที่ขาวสะอาดอย่างคนอื่นเขาบ้าง” มหาปราชญ์ตอบ “ตอนที่ฉันกำลังสิ้นหวังที่ช่วยเธอไม่ได้ ราชินีจันทราเป็นคนสะกิดเรื่องน้ำตาซาตานขึ้นมา ฉันจึงรีบช่วยเธอทันทีที่เธอเผาตัวเอง”
“เผาตัวเอง...” ลอเรนซ์เอ่ยทวนอย่างประหลาดใจ ขณะสะบัดแขนไปมาเพื่อให้ร่างกายที่ไม่ได้ออกแรงมานานพอจะใช้การได้ “ทำไปทำไมกัน”
“ก็คงจะตามไปกวนนายในนรกล่ะมั้ง” ลูคัสตอบอย่างกวนๆ “ฉันเคยบอกนายแล้วว่าฉันจะตามนายไปทุกที่นะ ลอรี่”
เฟี้ยว! ฉึก!
กริชสีเงินที่ถูกซ่อนไว้บินฝ่ากระแสอากาศ เฉี่ยวใบหน้าซาตานขี้เล่นไปปักที่ต้นไม้ด้านหลังที่ห่างไปไม่ไกลนัก
“ไม่มีทางโดนหรอก” ลูคัสแซว แล้วสงครามย่อยๆ ระหว่างซาตานกับนักบวชก็เริ่มขึ้น พร้อมด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ
+ + + +
น้ำตาซาตาน...
สิ่งวิเศษที่มีอำนาจสามารถปลุกชีพคนตายให้ฟื้นคืน...
สิ่งวิเศษที่หาได้ยาก...
เพราะน้ำตาของซาตาน...
มีไว้ให้นักบวชผู้นี้ผู้เดียว ตลอดไป...
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น