ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    M E S S A F T E R S T O R M "

    ลำดับตอนที่ #96 : DEBRIS II

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 15
      0
      28 พ.ย. 59








    บทที่ 2 รับ(น้อง)กับครู

    เสียงฝีเท้าที่มากกว่าหนึ่งคนนั้นทำให้คนที่กำลังเก็บกวาดห้องเก็บของนั้นหันไปมอง แล้วก็ต้องกรอกตาอย่างรำคาญและเลิกสนใจเมื่อเห็นว่าผู้มาใหม่เป็นใครพร้อมกับที่มีเสียงวี้ดว้ายของปีหนึ่งตามมาเป็นระยะจากนอกห้องเก็บของจนอดบ่นไม่ได้

    โอ่ย ไอ้พวกนี้นี่... เจอผู้ชายทีวิ่งเข้าหาอย่างกับไฮยีน่าล่าเหยื่อ แล้วปล่อยรุ่นพี่แกนั่งทำความสะอาดคนเดียวเนี่ยนะ?!

    “เธอไม่มาตามที่ฉันสั่ง”

    ประโยคที่ดังมาจากด้านหลังนั้นทำให้เธอถอนหายใจขณะที่ทำหูทวนลมและมือก็ยังถือไม้กวาดกวาดฝุ่นไปเรื่อยอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนที่จะมีประโยคอีกคนแต่คนละเสียงดังต่อมา “ประธานพูดกับเธออยู่นะ”

    แต่กระนั้นเธอก็ยังคงไร้ซึ่งความสนใจ หนำซ้ำยังหยิบเก้าอี้แถวนั้นมาและขึ้นเหยียบเพื่อที่จะกวาดหยากไย่ที่อยู่ตรงเพดานอีกต่างหาก และนั่นคงทำให้คนฟังหมดความอดทนเพราะได้ยินเสียงกร้าวตอบกลับมา “นี่เธอจงใจยั่วโมโหพวกฉันใช่ไหมฮะ?!”

    “หือ?” เธอยอมหันกลับไปมองทั้งที่ในมือยังถือไม้กวาด เธอหรี่ตาก่อนจะยักไหล่แล้วถาม “ฉันยั่วโมโหตอนไหนไม่ทราบ”

    “แล้วทำไมถึงไม่ตอบ ทำหูทวนลมอีกต่างหาก”

    “อ้าว? นั่นคุยกับฉันเหรอ?” คนที่ยืนบนเก้าอี้เอียงคอมองก่อนจะถือไม้กวาดในมือชูขึ้น “ฉันไม่ว่างนะ มีธุระอะไรก็พูดมาก่อนที่จะมีใครเป็นภูมิแพ้ไปซะก่อน”

    “เธอไม่คิดรึไงว่าควรลงจากเก้าอี้มาคุย นี่ยืนค้ำหัวคุยแบบนี้เสียมารยาท”

    “ใครกันแน่ที่เสียมารยาท ก็รู้อยู่ว่าคนเขาไม่ว่างยังมากวน” เธอหันหลังให้และหันไปปัดกวาดตามเดิม แต่แล้วก็ต้องหันไปมองเมื่อเสียงแรกที่ได้ยินพูดขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า

    “เอาจริงๆนะ มันก็ไม่ค้ำหัวเท่าไหร่ เก้าอี้นั่นมันก็ไม่ได้ทำให้เธอสูงเลยฉันเท่าไหร่หรอก จริงไหม”

    “ไอ้…..!!” และเมื่อหันไปก็พบกับรอยยิ้มยียวนนั่น มันทำให้เธอพ่นลมหายใจออกมาอย่างหงุดหงิดแล้วถามเสียงแข็ง “มีอะไรว่ามา ท่านประธานนักเรียนผู้ยิ่งใหญ่”

    “ถ้ายิ่งใหญ่จริงเธอคงไม่โดดกล้านัดหรอก” ประธานนักเรียนหนุ่มกลับดูจะเคยชินถ้อยคำประชดประชันนั่นแล้ว ก่อนจะพูดต่อ “ฉันบอกให้เลิกเรียนมาหาที่ห้องกรรมการนักเรียนไม่ใช่รึไง”

    “ฉันมีซ้อม และเอาจริงๆมันก็ไม่มีอะไรสำคัญอยู่แล้วนี่” เธอกระโดดลงมาจากเก้าอี้และนั่นยิ่งทำให้เห็นความต่างของส่่วนสูงชัดเจน แต่กระนั้นคนตัวเล็กกว่าก็ดูไม่ได้ใส่ใจนอกจากพาดไม้กวาดที่บ่าและแหงนหน้ามองร่างสูงตรงหน้า “ก็คงเรื่องสีผมฉัน รึจะหาเรื่องไม่ให้ฉันลงแข่งครั้งนี้อีกล่ะ”

    “ไม่ใช่ทั้งสอง แต่มันก็เกี่ยวกับแข่งอาทิตย์นี้” ประธานนักเรียนเอียงคอโดยไม่สนใจสายตามองเขม็งเอาเรื่องตรงหน้านี่ “ถ้าเธอโดดเรียนอีกแม้แต่คาบเดียวฉันมีสิทธิ์สั่งมุราคาวะไม่ให้เอาเธอลงแข่ง”

    “ไหงงั้นเล่า?!”

    “เธอเป็นคนเดียวที่สอบได้ต่ำกว่าสิบห้าในการสอบประวัติศาสตร์ระดับชั้นเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว จากคะแนนเต็มร้อย”

    “นี่ประธานว่างขนาดมานั่งตามดูคะแนนของนักเรียนทุกคนเลยเหรอเนี่ย?”

    “สรุปเธอจะไม่ฟังที่ฉันพูดและจะไม่ลงแข่งใช่ไหม เรย์เซย์ เซ็ตสึยะ”

    “มีอะไรพ่นมาให้ไว ก่อนที่ฉันจะเอาไม้กวาดนี่ฟาดหัวโทษฐานเข้ามาในอาณาเขตของฉัน” ดวงตาสีน้ำตาลเข้มคล้ายโกโก้นั่นมองอย่างหงุดหงิดก่อนจะถามต่อ “เงื่อนไขแค่โดดเรียนรึไง”

    “สำหรับการแข่งอาทิตย์ที่จะถึงนี้ ใช่” 

    “พูดมาให้หมดโทระ แกพูดแบบนี้หมายความว่าแข่งครั้งครั้งหน้ามีเงื่อนไขอื่นรึไง!”

    “ถ้าคะแนนเธอยังไม่ดีขึ้น เธอคงหมดสิทธิ์ร่วมแข่งขัน” ดวงตาสีเฮเซลดั่งคนมีสายเลือดชาวยุโรปนั่นมองเข้าไปในดวงตาสีเข้มอย่างเอาจริงและว่าต่อ “และคราวนี้มันคงไม่จบแค่โดนแบนแน่”

    “เออๆ เข้าใจแล้ว” เซ็ตสึยะขัดก่อนจะเดาะลิ้นอย่างขัดใจ “หมดธุระแล้วก็ไสหัวไปซะ”

    “นี่ประธานนักเรียนนะเรย์เซย์ การกระทำนั่นมันอะไร” 

    “เขาไม่ใช่พ่อฉัน” เซ็ตสึยะตวัดสายตาไปมองคนพูดที่สวมแว่นอย่างหงุดหงิด “ฉันฟังที่หมอนี่พูด ฉันลงจากเก้าอี้ จะเอาอะไรอีกไม่ทราบ”

    “อย่างน้อยๆเขาก็เป็นรุ่นพี่เธอ”

    “งั้นเหรอ” ดวงตานั้นมองไปยังใบหน้าหล่อเหลาของประธานนักเรียนที่ดูไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับคำพูดของเธอก่อนที่อยู่ดีๆร่างเล็กๆนั่นจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างไม่เกรงใจใครและไม่มีสัญญาณจนคนรอบข้างงง เธอหัวเราะออกมาจนตัวงอแต่กระนั้นก็ยังไม่มีใครเข้าใจ จนในที่สุดก็มีเสียงคนมาใหม่แทรก

    “เธอหัวเราะอะไรของเธอดังไปถึงในคอร์ท” ชายหนุ่มผิวสีเข้มถอนหายใจก่อนจะโบกมือทักทายกับคนที่ยืนอยู่หน้าห้องเก็บของสองคน แต่สายตาไปหยุดที่คนที่อยู่หน้าสุดแล้วก็พอเดาได้ “เรื่องการแข่งเหรอโทระซัง?”

    “ใช่” มือใหญ่นั้นลูบเรือนผมสีบลอนด์ทองของตนอย่างอ่อนใจก่อนจะว่า “ผลเป็นไง?”

    “ก็อย่างที่รู้กัน” มุราคาวะเปิดแฟ้มของตนออกมา ก่อนที่จะนึกอะไรออก “โทระซังรู้เรื่องที่ปรึกษาคนใหม่แล้วใช่ไหม?”

    “ที่มาแทนอาจารย์คุซุโนริสินะ”

    “ใช่” มุราคาวะปิดปากหาวก่อนที่จะหันมามองคนที่เริ่มหยุดหัวเราะได้แล้วพลางว่า “ไปซ้อมได้แล้วเรย์เซย์”

    “เออๆ” เซ็ตสึยะรับคำขณะที่เตรียมเดินออกจากห้องเก็บของโดยที่หันหลังกลับมาแล้วยักคิ้วใส่ประธานนักเรียนหนุ่มพร้อมกับว่าด้วยการฉีกยิ้มจนเห็นฟัน “ตอนแรกฉันว่าจะประชดด้วยการพูดแบบที่พวกนักเรียนหญิงคนอื่นชอบ แต่พอดีมันขนลุกไป แค่นึกแล้วมันก็ขำ จริงไหมคะ รุ่นพี่โทระ คาสึกิ~”

    “ยัยเด็กบ้านี่....” ชายหนุ่มสวมแว่นผู้เป็นรองประธานรู้สึกหมั่นไส้ท่าทางนั้นอย่างบอกไม่ถูก แต่คล้ายจะได้ยินเสียงหัวเราะลอยมาเข้าหูของคนที่โดนแหย่จนต้องหันไปมองอย่างดุๆ “เพราะนายเป็นแบบนี้ด้วย เด็กนั่นถึงไม่กลัวนาย โทระ”

      “นายเลิกคิดเล็กคิดน้อยได้แล้วอาริวะ” มุมปากของประธานหนุ่มยกยิ้มขำขณะเดินผละนำจากหน้าห้องเก็บของ และเป็นจังหวะเดียวกับที่มีผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งเข้ามา

    “สวัสดีค่ะโทระซัง”

    “มีอะไรรึเปล่าโทริอิ” คาสึกิยิ้มให้เล็กน้อยจนผู้จัดการสาวหน้าขึ้นสีเล็กๆ ก่อนจะถาม “รุ่นพี่อิซานางิไม่มาซ้อมเหรอคะ”

    “อ๋อ เห็นหมอนั่นบอกมีธุระน่ะ ไม่ได้บอกเธอหรอกเหรอ?” คนเป็นรุ่นน้องสั่นหน้า คาสึกิยิ้มเล็กๆพร้อมกับว่าต่อ “นิสัยไม่ดีเลยแฮะเพื่อนฉัน ขอโทษแทนด้วยนะ”

    “มะ… ไม่เป็นไรค่ะ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรมากมาย เพราะทีมชายเพิ่งจะแข่งเสร็จไปเมื่อวันก่อนเอง” โทริอิเกาแก้มตัวเองอย่างเขินๆ ก่อนจะถามต่อ “แล้วโทระซังไม่คิดจะมาอยู่ทีมบาสเกตบอลบ้างเหรอคะ???”

    “อืม เป็นข้อเสนอที่น่าสนใจนะ แต่ฉันคงต้องปฏิเสธ” คาสึกิเอียงคอเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจออกมา “ขอโทษนะ”

    “โทระซังไม่ต้องขอโทษหรอกนะคะ! ฉันเข้าใจค่ะว่าเด็กปีสามก็ยุ่งพออยู่แล้ว ยิ่งอย่างโทระซังด้วย” โทริอิบอกปัดเมื่ออีกฝ่ายพูดขอโทษเป็นรอบท่ีสอง ก่อนที่เธอจะขอตัวกลับไปที่คอร์ทเหมือนเดิม คาสึกิยกมือข้างหนึ่งปิดปากตัวเองและมีเสียงหัวเราะลอยออกมา ก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลาจะหันไปมองรองประธานข้างตัวแล้วว่า 

    “ลองนึกภาพเรย์เซย์พูดกับฉันแบบนั้นสิ”

    ดวงตาหลังกรอบแว่นสีเหลี่ยมเหล่มองเพื่อนของตัวเองแล้วก็ต้องถอนหายใจออกมาแล้วสั่นหน้า “เด็กนั่นคงมีเขินบ้างแหละ ไม่ก็เรียกร้องความสนใจจากนาย เพราะยอมรับว่านายหล่อแต่กลับปากแข็งแบบนั้น”

    อาริวะเหล่มองใบหน้าด้านข้างของเพื่อน โทระ คาสึกิเป็นคนที่ทั้งโรงเรียนยกให้เป็นราชา เพราะการที่สมบูรณ์แบบในทุกๆด้านไม่ว่าจะฐานะชาติตระกูล ที่เป็นลูกชายคนเดียวของประธานบริษัทซอฟแวร์ขนาดใหญ่และรู้จักเป็นการส่วนตัวกับอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียน รูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลาและเคยเห็นบนหน้าปกนิตยสารวัยรุ่น คาสึกิเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นโดยที่แม่เป็นชาวแคนาดา ทำให้ได้ผมสีบลอนด์กับสีตามาแบบไม่ผิดเพี้ยน และนั่นเป็นสีผมธรรมชาติที่โดดเด่นที่สุดในโรงเรียน

    และคงไม่ต้องบอก ว่าประธาตนักเรียนปีสามคนนี้จะฮอตขนาดไหนในหมู่ผู้หญิง

    “นายคิดว่าเรย์เซย์เรียกร้องความสนใจของฉันรึไง?”

    “แล้วไม่ได้ผลรึไง นายถึงกับต้องลงทุนมาหาเธอถึงที่นี่”

    เขาไม่คิดหรอกนะว่าจะไม่มีผู้หญิงที่ไม่ชอบคนอย่างคาสึกิน่ะ เพอร์เฟ็คแมนประจำโรงเรียนขนาดนั้น และครั้งแรกที่เจอเมื่อปีที่แล้ว เด็กปีหนึ่งที่เจอหน้ากับประธานนักเรียนแล้วมีอาการขมวดคิ้วไม่ได้เขินอาย หนำซ้ำยังพูดอีกด้วยว่า ‘พวกอวดหล่อ...’ คล้ายกับพึมพำแต่เขาที่อยู่ใกล้เธอสุดนั้นได้ยิน อาริวะค่อนข้างปักใจเชื่อว่าเซ็ตสึยะเองก็สนใจคาสึกิแต่แค่วิธีเข้าหาไม่เหมือนคนอื่น

    และบอกเลยว่ามันได้ผล 

    แต่ถ้าถามความรู้สึกส่วนตัวเขา เขาไม่ค่อยชอบเด็กคนนั้นมากนัก เพราะดูจะชอบเหลือเกินที่จะเป็นความสนใจของคนรอบข้าง และเด็กคนนั้นก็มีชื่อเสียงด้านแย่ๆในโรงเรียน แค่ผมสีทองเด่นหรานั่นก็น่าจะพอรู้แล้ว

    “คนนั้นใช่ไหม?”

    เสียงนั้นทำให้รองประธานออกจากความคิดของตัวเองก่อนจะหันไปมอง และพยักหน้าพร้อมว่า “น่าจะใช่ ถ้าฉันจำไม่ผิด รู้สึกจะชื่อโควโจว”

    คาสึกิไม่ได้ตอบอะไรนอกจากเดินเข้าไปหาคนที่ยืนอยู่ข้างคอร์ท ซึ่งอีกฝ่ายก็หันมามอง และนั่นทำให้คิ้วสีบลอนด์กดลงเล็กน้อย แต่กระนั้นก็ยังว่า “อาจารย์โควโจวใช่ไหมครับ”

    “ใช่ แล้วเธอคือ?”

    “โทระ คาสึกิ ประธานนักเรียนครับ” เขาแนะนำตัว แล้วถามต่อ “ทำไมอาจารย์ถึงมาเป็นที่ปรึกษาชมรมบาสล่ะครับ?”

    “รู้จักกับครูคุซุโนริ เขาเลยขอให้มาช่วย” อาจารย์หนุ่มตอบ “อันที่จริงก็เป็นแค่ครูแนะแนว เวลาก็เลยเหลืออยู่น่ะ”

    “อาจารย์โควโจว!!!”

    เสียงตะโกนนั้นทำให้เจ้าของชื่อหันไปมอง ก็พบว่าคนเรียกเป็นมุราคาวะ ฮิเดโอะ ผู้จัดการทีมบาสเกตบอลหญิงนั้นกำลังมองมาทางนี้ ก่อนจะหันไปพยักหน้ากับโทริอิ ฮารุ ผู้จัดการทีมชาย ก่อนที่เธอจะถาม “อาจารย์เล่นบาสเป็นใช่ไหมคะ?”

    คิ้วสีดำนั้นกดลงเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า ขณะออกตัว “แต่คงไม่เก่งเท่าพวกเธอหรอกนะ”

    “ไม่จำเป็นหรอกครับ อันที่จริงไม่จำเป็นต้องเล่นเป็นก็ได้” มุราคาวะหัวเราะขณะรับลูกบาสมาจากคนในทีมหญิงคนหนึ่งแล้วว่า “เรามีพิธีรับน้องกันสำหรับสมาชิกใหม่ของทีม ฉะนั้นรบกวนอาจารย์มาที่สนามด้วยครับ!!”

    อากิโยชิเลิกคิ้วเล็กน้อยเพราะนั่นเป็นเรื่องที่เกินคาดไปนิด แต่กระนั้นก็เดินลงสนามขณะที่ฟังคำอธิบายจากเหล่าผู้จัดการทีมทั้งสอง

    “นี่เป็นธรรมเนียมชมรมเราค่ะ กฎง่ายๆ แค่ดวลลูกโทษกับนักกีฬาชายหญิงเรียงคน”

    “ปกติถ้าใครแพ้ต้องทำตามคำสั่งคนชนะ แต่เพราะว่าอาจารย์เป็นอาจารย์ เลยลดเหลือแค่ถามคำถามได้ทุกอย่างก็แล้วกันครับ ง่ายๆเบาะๆ” มุราคาวะโยนลูกบาสไปให้กับคนในทีมชายคนหนึ่ง ก่อนจะว่า “แต่อาจารย์ต้องโยนสามแต้มนะครับ แต่คนอื่นโยนตรงจุดโทษ แล้วถ้าเสมอก็เจ๊าก็แล้วกันครับ”

    “เอาลูกมาให้ฉันก่อนเลยโยชิซากิ” ผู้หญิงรูปร่างสูงที่ถูกผมเป็นมวยคนหนึ่งในทีมว่าขณะที่ยักคิ้วให้กับอีกฝ่าย “เลดี้เฟิร์สสิ”

    “ทีอย่างนี้ล่ะมาเลดี้เฟิร์ส ยัยอิโนะ” แม้จะพูดแบบนั้นแต่ก็ยอมส่งลูกไปให้ ซึ่งเธอรับมาด้วยรอยยิ้มกว้างก่อนจะว่าขณะเดาะลูกบาสในมือ “อิโนะ ยูโกะ ปีสาม กัปตันชมรมบาสเกตบอลหญิง ขอเป็นคนเปิดนะคะ!”

    อากิโยชิยิ้มให้เล็กน้อย ก่อนที่อิโนะจะโยนไป ลูกตรงไปที่แป้นแต่กระนั้นกับหมุนรอบห่วงและกระดอนออกมาอย่างน่าเสียดาย

    “อะไรเนี่ย”

    “เปิดได้แย่มากอิโนะ เสียชื่อกัปตันจริงๆ” โยชิซากิหัวเราะเยาะจนโดนสายตาไม่พอใจไปเต็มๆขณะที่ถูกเถียง

    “ฉันเป็นเซ็นเตอร์นะ ฉันถนัดบล็อคมากกว่า!”

    “ข้ออ้างน่าอิโนะ” เขายังคงหัวเราะไม่หยุดขณะที่โยนลูกให้กับที่ปรึกษาชมรมคนใหม่ ก่อนที่จะว่า “อ้อ ผมบอกก่อนนะอาจารย์ กฎของชมรมเรา ห้ามมีคำลงท้ายต่อชื่อทุกกรณี และอีกอย่างอาจารย์ไม่ต้องแทนตัวเองว่าครูก็ได้ มันดูห่างเหินเกินไป”

    “…ได้” อากิโยชิพยักหน้าขณะเดาะลูกหนังในมือเล็กน้อย ก่อนจะหันไปหาผู้จัดการทีมหญิงแล้วว่า “ถ้าสมมุติว่าฉันชนะใคร คำถามเป็นอะไรก็ได้งั้นเหรอ?”

    “แล้วอาจารย์จะเอาอะไรล่ะถ้าชนะ” โยชิฮากิเป็นคนถามแทน “ก็พอรู้ว่าอาจารย์อาจจะไม่มีอะไรถามพวกเรา แต่เอาเป็นว่าถ้าอาจารย์ชนะก็สิทธิ์อาจารย์เลยก็แล้วกัน จะถามจะสั่งก็ได้”

    “แต่บางคนฉันอาจจะต้องขอติดไว้ก่อนก็แล้วกัน” อากิโยชิพยักหน้าขณะที่มองลูกบาสในมือ “เพราะฉันคิดไม่ออกหรอกตอนนี้”

    “งั้นก็โอเค” โยชิฮากิยิ้มร่าก่อนจะผายมือไปทางแป้น “เชิญเลยครับอาจารย์”

    ดวงตาคมเรียวนั้นมองแป้นตรงหน้าขณะที่ในมือยังคงเดาะลูกหนังสีน้ำตาลแดง และเมื่อกะจังหวะได้ก็โยนไปทันที

    สวบ!


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×