ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    M E S S A F T E R S T O R M "

    ลำดับตอนที่ #79 : [Fic AU KHR] Wills of the gems (MC)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 98
      0
      29 ต.ค. 59

    Application Form



    1 2 3

     

    ชื่อ : GelFajrian เกลเฟอเรียน

    ชื่อเล่น : เกล

    ความหมายของชื่อ : รุ่งอรุณสีทอง / จุดเร่ิมต้นสีทอง

    รูปร่างลักษณะภายนอก :  เกลนั้นเป็นคนที่รูปร่างค่อนข้างเล็ก(แต่ก็ไม่ได้เล็กไปกว่าเจตจำนงความกล้าหาญ) สูง 153 ซม. หนัก 49 กก. อันที่จริงก็คงบอกได้ว่าหนักสำหรับคนสูงระดับเกล แต่นางสนที่ไหนเล่า? เรือนผมสีทองสว่างเป็นลอนธรรมชาติยาวเลยกลางหลังมาที่หลายต่อหลายคนอิจฉา เพราะทั้งที่นางเองก็ไม่เคยบำรุงอะไร แต่มันลอนสวยโดยเฉพาะเมื่ออาบน้ำเสร็จและแห้งหมาดๆ(?) เธอชอบที่จะผูกเปียด้านข้างข้างขวาเป็นเอกลักษณ์ แต่ถามว่าทำไมผูกข้างเดียว เกลก็ตอบไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่จะตอบว่าเพราะมันเมื่อยแขนเลยผูกได้แค่ข้างเดียว ผิวขาวละเอียดที่บางครั้งก็จะคล้ำได้ง่ายเพราะการที่ชอบอยู่กลางแสงแดด แต่กระนั้นก็ใช้เวลาไม่นานที่จะมาขาวเหมือนเดิม ดวงตาสีอำพัน(บางรูปเป็นสีฟ้า แต่ขอเขียนสีอำพันนะคะ)กลมโตที่มีแววเป็นมิตรอยู่เสมอ

    บทบาท Will of Faith & Hope เจตจำนงแห่งความศรัทธาและความหวัง

    นิสัย : ถ้าถามว่ารู้จักเกลเฟอเรียนรึเปล่า? คงต้องตอบว่าไม่ แต่ถ้าถามว่ารู้จักเกลไหม ก็คงตอบได้เลยว่ารู้ เกลนั้นเป็นคนที่จะว่ามีนิสัยคล้ายกับเจตจำนงคนอื่นก็ไม่ผิดนัก เกลมีความเป็นเด็กคล้ายกับเจตจำนงความเปลี่ยนแปลง แต่กระนั้นก็ไม่ได้อยากรู้อยากเห็น ขี้แกล้งแต่ไม่มากไปกว่าเจตจำนงความกล้าหาญ เข้าอกเข้าใจคนอื่นคล้ายกับเจตจำนงแห่งความการเข้าใจและยอมรับตัวตน แต่ก็ไม่ได้อ่านคนขาดเหมือนนั่งอยู่กลางใจ อาจจะว่าได้ว่าเป็นคนที่ธรรมดาแต่กระนั้นก็มีอะไรบางอย่างที่รู้สึกว่าไม่ธรรมดา เป็นคนที่มองโลกในแง่ดีและมองทุกอย่างเป็นบวกจนโดนด่าโลกสวยประจำ แต่เธอก็เป็นคนที่ยึดถือในความเชื่อมั่นของตัวเอง ที่ชนิดที่ว่าแม้ตายก็จะขอเชื่ออย่างที่เคยเชื่อมาตลอด รักพวกพ้องและเพื่อนฝูงและให้ความสำคัญกับทุกคน เป็นคนที่ไม่ค่อยชอบสู้จริงจังเสียเท่าไหร่เพราะมีความเห็นส่วนตัวที่ว่าการต่อสู้ไม่ใช่หนทางแก้ปัญหาที่ดี แต่ถ้าต้องการให้เป็นคู่ฝึกเกลจะเป็นคนแรกที่ยินดีเป็นคู่ฝึกให้ และอย่างที่บอกไป เธอเป็นคนที่โดนด่าว่าโลกสวย เพราะอะไรล่ะ เพราะเธอเชื่อว่า บนโลกนี้ไม่มีใครเป็นคนดีและไม่มีใครเป็นคนเลว เกลเชื่อเช่นนั้นมาตลอด ไม่มีใครดีพร้อม คนที่ทำร้ายและโดนว่าเป็นคนเลวอย่างไรเขาก็ต้องมีเหตุผลของเขาที่ทำให้เป็นแบบนั้น เพียงแต่เขาคิดหาทางอื่นไม่เป็นนอกจากทำร้ายคนอื่นก็เท่านั้น เกลมักจะพูดอยู่เสมอว่า "สิ่งที่ชีวิตทุกอย่างต้องการสิ่งที่มาเติมเต็ม และพวกเขาก็แค่ตามหาสิ่งนั้น เพียงแต่วิธีการอาจจะเลวร้ายไปหน่อยก็เท่านั้น"

                  เกลเป็นคนที่มักจะชอบมองท้องฟ้าโดยเฉพาะยามที่พระอาทิตย์ขึ้น เธอมักจะไปนั่งเฝ้าตรงทางทิศตะวันออกก่อนตะวันขึ้นเกือบชั่วโมงและนั่งอยู่แบบนั้นเพื่อที่จะรอพระอาทิตย์ขึ้น แม้จะพูดด้วยแต่เกลคงต้องขอเสียมารยาทที่จะไม่มองคู่สนทนา เพราะเธอไม่อยากจะพลาดทุกวินาทีที่พระอาทิตย์กำลังจะโผล่พ้น ไม่ว่าจะผิวน้ำ ขอบฟ้า หรืออะไรก็ช่าง แต่ทุกวันเธอต้องมองพระอาทิตย์ขึ้น แต่ถ้าไม่มองก็ไม่เป็นไร แต่แค่รู้สึกว่ามันไม่ใช่วันใหม่ก็เท่านั้น

                   เกลเป็นคนที่ชอบสังเกตโดยเฉพาะการเจริญเติบโตของสิ่งรอบตัวและชื่นชอบสิ่งมีชีวิตทุกอย่าง จริงใจให้กับทุกๆคนโดยที่ไม่สนว่าคนๆนั้นจะเป็นใคร เธอก็ยังคงเป็นของเธออยู่แบบนั้น รู้วิธีเอาใจคนอื่นและไม่ค่อยเครียดอะไรมากมายแต่ก็ไม่ได้เอื่อยเฉื่อย ถ้าเปรียบเทียบกับตัวละครในเกม เธอก็เป็นประเภทที่เหมือนกับว่าไม่ใช่ทักนักสู้หรือนักรักษา เป็นตัวละครที่ไม่เด่นอะไรมากมายแต่มอบพลังและความกล้าและเชื่อมั่นให้ได้ เพราะแม้ว่าจะสิ้นหวังและหมองเศร้าท้อแท้อย่างไร เธอก็จะอยู่ตรงนั้นคอยให้กำลังใจและเคียงข้าง และแม้ว่าจะถูกทำไม่ดีใส่ก็จะยังคงยิ้มอยู่แบบนั้น เป็นพวกที่ไม่เคยโทษคนอื่นเลย หากโดนหลอกเธอก็จะบอกว่ามันเป็นความผิดของเธอเองที่มองคนไม่เป็น ไม่เคยเลยสักครั้งจริงๆที่จะโทษคนอื่น นั่นเป็นเพราะว่าเธอศรัทธาในตัวของคนๆนั้น และยอมรับที่ว่าตัวเองเป็นแค่ทางผ่าน นี่กระมังที่บอกว่าความศรัทธากับโง่มันต่างกันแค่เส้นบางๆขวางกั้น และเธอก็ยังคงทำตัวปกติๆกับคนๆนั้น โดยที่เชื่อว่าสักวัน คนๆนั้นจะเห็นและเปลี่ยนตัวเองได้เอง ในบรรดาเจตจำนงทั้งหมด กล้าพูดได้เลยว่าเกลนั้นเป็นคนสุดท้ายบนโลกที่คิดจะทรยศหรือหักหลังใคร 

                    หากพูดถึงทั่วๆไป เธอเองก็เหมือนหญิงสาวเด็กสาวทั่วไปที่มีงานอดิเรก แต่เพราะเธอเป็นวิญญาณที่ไม่สามารถจับต้องสิ่งของได้ทำให้ไม่อาจที่จะปลูกต้นไม้ได้อย่างใจนึก แต่กระนั้นเธอก็ชอบวาดรูปและแน่นอนว่าสามารถวาดรูปได้ และเธอวาดได้สวยมากด้วย เธอชอบที่จะจดบันทึดการเปลี่ยนแปลงของคนและสิ่งรอบตัว และมีบันทึกการเจริญเติบโตของเหล่าพืชและสัตว์ไว้ด้วย แน่นอนว่าวาดวันแต่ละวันของเจตจำนงคนอื่นๆไว้ก็มีไม่น้อยเช่นกัน และเธอชอบที่จะฮัมเพลงยามที่วาดรูป 

                   เธอมักจะพูดอยู่เสมอว่าพระอาทิตย์เป็นสิ่งที่มอบพลังและเป็นจุดเริ่มต้นของวันใหม่ ฉะนั้นถ้ายังมองเห็นพระอาทิตย์ ก็ยังคงมีพลังและความหวังต่อไป จนหลายๆครั้งโดนแซวตลอดว่าเธอเหมือนดอกทานตะวันที่เอาแต่หันหน้าไปหาพระอาทิตย์ ซึ่งเธอก็ไม่ปฏิเสธ ก็เธอชอบพระอาทิตย์จริงๆนี่ ต่อให้บางครั้งมันจะร้อนยังไงแต่ก็ชอบ และเป็นคนที่รับมุกคนอื่นได้ดีและแหย่บ้างเป็นครั้งคราว และที่สำคัญ เธอมักจะชอบตั้งชื่อให้กับสิ่งที่ไม่มีชื่อ เพราะไม่งั้นเธอคิดว่ามันคงดูน่าสงสารแย่ถ้าไม่มีชื่อ และบางครั้งเธอก็ชอบคุยกับต้นไม้ใบหญ้าอะไรต่างๆจนโดนหาว่าบ้า แต่ใครเล่าจะรู้ เพราะความศรัทธาและความเชื่อและการที่เธอทำกับทุกอย่างอย่างเท่าเทียม มันทำให้เธอสามารถได้ยินและสัมผัสได้ถึงสิ่งเหล่านั้นจริงๆ และเธอเป็นคนที่มีความอดทนสูงมากจนเรียกได้ว่าถึกเกินไปด้วยซ้ำ (หัวเราะลั่น) และเอาจริงๆ ถ้าเป็นทั่วๆไปเธอขี้บ่นนะ บ่นแบบให้กำลังใจตัวเองได้ แบบ ทำไมมันเยอะแบบนี้ ก็จะพูดต่อ เอาเถอะ เดี๋ยวก็หมด ง่ายๆคือน่าจะบรรลุวิชาการพูดคนเดียวได้แล้วมั้ง.. และเป็นคนที่เปิดเผยกับทุกคนจนเดาทางได้ง่ายเหมือนหนังสือที่เปิดอยู่ และไม่เคยโกหกใครแต่กระนั้นก็เป็นคนที่เก็บความลับได้ดีเช่นกัน ถ้าหากว่าพูดไปแล้วจะเป็นผลเสียก็จะไม่พูด ใจเย็นและไม่เคยโกรธใคร สิ่งที่เดียวที่จะทำให้เธอโกรธ ก็คือการที่คนที่เธอรู้จักไปทำตัวเองเจ็บโดยที่ไม่บอกเธอ แน่นอนอันนี้โกรธแน่ และอีกประการคือคนที่มาทำลายต้นไม้และธรรมชาติ สิ่งนี้ก็เป็นสิ่งที่ทำให้เธอฟิวส์ขาดได้เหมือนกัน

    อาวุธประจำตัว : มันคือรูบิคค่ะ! รูบิคอันขนาดวางบนฝ่ามือได้ขนาด 5x5 บอกเลยว่ามันเป็นสิ่งที่ทำให้เกลมีสมาธิสุดๆ แต่ต่างที่ว่ารูบิคของเกลนั้นมันจะเป็นโทนสีทองใสเหมือนคริสตัลทึบ ซึ่งถ้าจะใช้ เธอก็แค่บิดมันด้วยสัญชาตญาณและมันก็จะออกมาเป็นอาวุธอย่างที่ใจนึก อันที่จริงมันมีแพทเทิร์นของมันแต่เกลจำไม่ได้ รู้แค่ว่าต้องบิดไปทางไหนและอย่างไรเท่านั้น มันก็เหมือนกรุอาวุธขนาดย่อมๆนั่นแล.. เพราะมีทั้งดาบ มีดสั้น กริช หอก ทวน สนับมือ ทุกอย่างยกเว้นอาวุธประเภทใช้แล้วทิ้งอย่างระเบิด และอาวุธทุกชิ้นที่เธอเปลี่ยนมันจะมีสีใสเหมือนคริสตัลสีทองที่มองเห็นทะลุได้ เห็นเหมือนแตกง่ายแบบนี้แต่มันก็อยู่กับเกลมาตั้งแต่จำความได้เลยนะ... และอาวุธที่เกลชอบใช้ที่สุดคือหอกเล่มขนาดเท่าตัวที่มีปลายแหลมสองข้างค่ะ (นึกภาพอาวุธราชินีหิมะในเรื่องนาร์เนียภาคแรกนะคะ... แบบนั้นเลยค่ะแต่ของเกลเป็นโทนสีทองแทนสีฟ้าเท่านั้น)

    ชอบ : ท้องฟ้า พระอาทิตย์โดยเฉพาะตอนเช้าและหลังฝนตก อาหาร เมฆ วาดรูป มนุษย์ การเติบโตของทุกอย่าง

    ไม่ชอบ / เกลียด : กลางคืน(โดยเฉพาะเวลาที่ไม่เห็นดาวหรือพระจันทร์) ที่มืด ที่แห้งแล้ง

    กลัว การต้องอยู่คนเดียวที่มืดนานๆซึ่งรวมถึงการถูกกักขังในที่แคบๆมืดๆ ตอนแรกก็จะเดินวนไปมาเพื่อหาแสงสว่าง และจะเริ่มมีอาการเพ้อจนต้องนั่งลงและกอดตัวเอง ปลอบตัวเองไว้ว่าไม่เป็นไรและให้อดทน มันจะเป็นอยู่แบบนั้นแต่ถ้านานมากเท่าไหร่เธอก็มีสิทธิ์ที่จะกลายเป็นคนบ้าเสียสติได้เช่นกัน และนอกจากนั้นสิ่งที่เกลกลัวที่สุดคือการสูญเสียการมองเห็น ซึ่งเธอบอกได้เลยว่ายอมตายหากต้องมองไม่เห็นสิ่งต่างๆรอบตัว 

    วิธีการพูดจา : เกลจะแทนตัวเองว่า ข้า และทุกคนจะเรียกแทนว่าเจ้า ยกเว้นก็แต่เจตจำนงแห่งการเข้าใจและยอมรับตัวตนเท่านั้นที่เกลจะเรียกแทนว่าท่าน เป็นคนที่ไม่มีคะขาลงท้ายแต่กระนั้นก็ไม่ได้พูดห้วนอะไรมากมาย และเธอเป็นคนที่ยิ้มเก่งและมักจะมีรอยยิ้มซื่อๆแบบเห็นฟันประดับใบหน้า จะยิ้มทั้งทีก็ต้องกว้างๆให้เห็นฟันสิ! และเธอมักจะยิ้มแบบนั้นอยู่ตลอดจนพูดได้เลยว่าถ้ายิ้มไม่เห็นฟันเมื่อไร เกลผิดปกติ และเธอมักจะมีเรื่องเล่าที่เกี่ยวกับสิ่งรอบตัวสิ่งแวดล้อมแต่กระนั้นกับไม่ค่อยเล่าเรื่องตัวเอง และเวลาพูดเยอะๆก็จะเบรคตัวเองและถามแบบ "พูดเยอะเกินไปรำคาญรึเปล่า บอกให้เงียบก็ได้นะข้าจะเงียบ"

    เพิ่มเติม : เกลเป็นคนที่ชอบกินอาหารและชอบลองหลายๆอย่าง อันที่จริงชอบทำอาหารด้วยเช่นกัน ซึ่งมีสูตรต่างๆเก็บไว้ซึ่งบอกเลยว่ามีทั้งอร่อยและไม่อร่อย... และเกลเป็นคนที่รู้จักสมุนไพรเกี่่ยวกับการรักษาได้ดีมากและรู้ด้วยว่าจะหาได้ที่ไหน



     

    Interview Character



    ดวงตาค่อยๆ ลืมขึ้น เมื่อตาปรับสภาพได้ก็พบว่าตนเองนั่งอยู่ในห้องหน้าตาไม่คุ้นเคย และมีใครบางคนในชุดผ้าคลุมสีเข้มที่มองไม่เห็นหน้านั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ริมฝีปากที่โผล่พ้นผ้าคลุมระบายยิ้มบาง

    “สวัสดี...ข้ามีนามว่าลูนัวร์...แนะนำตัวให้ข้าฟังหน่อยสิ”

    - "ข้าชื่อเกล" เธอตอบก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อร่างตรงหน้ายังคงยิ้ม นี่จะบอกว่าสั้นไปเหรอ? พูดต่อก็ได้ "ชื่อเต็มข้าคือเกลฟาเรียน มันเป็นชื่อที่เอาคำสองคำมารวมกันเป็นคำนั้น เกลลาที่แปลว่าสีทอง กับฟาร์จที่แปลว่ารุ่งเช้า แต่พอดีข้าไม่ชอบเลยเป็นเกลเฟอเรียน แต่ก็มีคนบอกว่าแปลกอยู่ดีทั้งที่ข้าเองก็นั่งรวมกันตั้งหลายชื่อกว่าจะได้ชื่อนี้มา เลยบอกชื่อเกลน่าจะง่ายกว่า" เธอยิ้มแห้ง "จริงๆข้าก็อยากตั้งชื่ออื่นให้ตัวเองนะ แต่ว่าติดอยู่ที่สองคำนั้นมันอยู่ในหัวไม่หยุดจนต้องเอามาเป็นชื่อ และข้าคิดว่ามันอาจจะเป็นชื่อข้าก่อนที่จะมาเป็นผีแบบนี้ก็เลยเอามารวมๆกัน และข้าว่าตัวเองรวมชื่อได้แย่มากเลยแหละ"

    ร่างในผ้าคลุมขยับเล็กน้อย ยกชาขึ้นจิบด้วยท่าทีอ้อยอิ่ง “งั้นรึ...อืม...งั้นเข้าเรื่องเลยแล้วกัน เคยคิดบ้างรึเปล่าว่าคนที่จะผ่านการทดสอบของเจ้าได้จะเป็นคนแบบไหน”

    - "คิดสิ" เธอพยักหน้าก่อนจะพูดด้วยท่าทางกระตือรือร้นตื่นเต้นจนสัมผัสได้ผ่านน้ำเสียง "อยากจะรู้ว่าเขาเป็นใคร ผู้หญิงหรือผู้ชาย เป็นคนแบบไหน นิสัยอย่างไร และที่ข้าอยากรู้ที่สุด คือคำพูดและความประทับใจแรกที่เขามีต่อข้า! ไม่ว่าจะเป็นด้านบวกหรือด้านลบก็เถอะแต่ข้าชอบฟังคำวิจารณ์ที่เกี่ยวกับข้านะ"

    แบบนี้นี่เอง...แต่เจ้าคงจะไม่เผลอหลงรักเขาหรอกใช่ไหม...คนที่ผ่านบททดสอบของเจ้าได้น่ะ? แล้ว...หากเขาจากไป เจ้าจะทำเช่นไรต่อไป?”

    - "ข้าน่ะรักมนุษย์ รักสิ่งมีชีวิตทุกอย่าง ฉะนั้นแน่นอนว่าข้าย่อมรักเขาในแบบที่เขาเป็น และต่อให้เขาเสแสร้งอย่างไรข้าก็จะฉีกหน้ากากออกมาให้ดู เฮ้อ... อันที่จริงก็มีคนเคยบอกนะว่าข้าน่ะน่าเบื่อ... ข้าพูดเยอะเกินไปรึเปล่านะ" ท้ายประโยคเธอพึมพำเล็กน้อยก่อนจะว่าต่อด้วยรอยยิ้มบางๆที่ไม่ได้ฉีกยิ้มเห็นฟันอย่างทุกครา "เขาเป็นมนุษย์ ข้าเป็นวิญญาณ ถึงอย่างไรเขาก็ต้องจากไปตามทางของเขา ข้าจะทำอย่างไรได้นอกจากเฝ้ามองและอวยพรกัน?"

    “น่าสนใจ...แล้วหากเจ้ารู้ล่วงหน้าว่าจะมีคนอื่นที่เหมาะสมยิ่งกว่าคนปัจจุบัน แม้จะต้องรอคอยยาวนานเป็นร้อยเป็นพันปี เจ้าจะตัดสินใจอย่างไร? จะเลือกคนปัจจุบัน...หรือเฝ้ารอคนในอนาคต?”

    - "คนปัจจุบัน" เกลตอบโดยที่ไม่คิด "มันไม่มีหรอกว่าใครเหมาะสมกว่าใคร แล้วสิ่งที่เจ้าบอกว่าเหมาะสม เจ้าใช้สิ่งใดเป็นบรรทัดฐานล่ะว่าเขาเหมาะสม" ดวงตาสีอำพันนั้นหรี่ลงอย่างไม่ค่อยชอบใจเท่าใดนัก "อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน และข้าเชื่อว่าคนปัจจุบันนั้นก็ย่อมมีสิ่งที่เป็นตัวของเขา ที่เหมาะสมและบ่งบอกถึงตัวตนของเขาแบบที่คนอนาคตไม่มี"

    ร่างนั้นโคลงหัวเล็กน้อยเหมือนไม่ค่อยใส่ใจ แต่อะไรบางอย่างกลับทำให้รู้สึกว่าคนๆนี้ไม่ธรรมดา แต่ยังไม่ทันจะคิดอะไรมากกว่านั้น ผ้าคลุมก็เปิดออก เผยให้เห็นใบหน้าที่เหมือนกันทุกประการกำลังส่งยิ้มไม่น่าไว้วางใจมาให้

    - "....เจ้าชื่อลูนัวร์ใช่ไหม?" เกลงึมงำ "ถ้าข้าจำไม่ผิดมันแปลว่าดวงจันทร์... แสงจากดวงจันทร์อะไรเทือกนั้น เจ้าเป็นพี่น้องฝาแฝดกับข้ารึเปล่าเนี่ย? แต่เจ้าก็ดูไม่เหมือนวิญญาณเท่าใดนะ"

    “อา...” ลูนัวร์ยิ้มพลางคลุมผ้าดังเดิม มุมปากมีรอยยิ้มสนุกสนาน “ขอโทษด้วยแล้วกัน พอดีว่าข้าไม่ชอบให้ใครเห็นใบหน้าที่แท้จริงสักเท่าไหร่...มาต่อกันเถอะ” อีกฝ่ายเปลี่ยนเรื่องทันที “หากเปรียบตัวเจ้าเป็นดอกไม้...เจ้าคิดว่าตัวเองเหมาะสมกับดอกไม้ชนิดไหน เพราะอะไร?”

    - "ทุกคนมักจะบอกว่าข้าเหมือนดอกทานตะวัน และข้าเองก็ชอบดอกทานตะวันนะ" เกลยิ้มร่าโดยที่ไม่ได้ใส่ใจเรื่องที่อีกฝ่ายมีใบหน้าเหมือนตน "ดอกทานตะวันนั้นมักจะหันมองพระอาทิตย์ไม่ว่าจะอยู่ทางไหน ร้องเรียกหาแสงสว่าง ข้าว่าเหมือนข้าดีออก ถึงคนอื่นๆจะบอกว่ามันไม่หอม แต่ข้าว่าดอกทานตะวันมันก็ซื่อตรงกับพระอาทิตย์ดี เหมือนข้าที่ชอบไปนั่งรอดูพระอาทิตย์ขึ้น ฮ่ะๆ" ท้ายประโยคหัวเราะกับตัวเอง

    ลูนัวร์ไม่ได้พูดอะไรหลังจากได้ฟังคำตอบ ผ่านไปชั่วอึดใจรอีกฝ่ายก็ลุกขึ้นโค้งคำนับ ทิ้งคำพูดสุดท้ายก่อนจะหายตัวไป

    “คำถามของข้ามีเพียงเท่านี้...ขอให้โชคดีและหวังว่าเจ้าจะพบคนที่เจ้าเฝ้ารอในไม่ช้า ลาก่อน...”

    - "ข้าหวังว่าเราจะได้สนทนากันอีกนะลูนัวร์" เกลโบกมือให้ ก่อนจะชะงักไปเมื่อนึกอะไรขึ้นได้จึงพึมพำกับตัวเอง "สรุปแล้วก็ลืมเอาคำตอบเลยแฮะว่าเป็นฝาแฝดกับข้ารึเปล่า... ชื่อเพราะกว่าข้าตั้งหลายขุม แต่เอาเถอะ" เธอฮัมเพลงออกมาอย่างไม่ใส่ใจพลางคิด ถึงอย่างไรสักวันก็คงได้เจอเอง





    Interview


    สวัสดีค่ะ เรา “อนาเตอร์ มี” ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ

    - พายุสีน้ำเงินค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ xD

    เริ่มด้วยคำถามยอดนิยม...ทำไมถึงมาสมัครเรื่องนี้เหรอคะ?

    - คำตอบยอดนิยมเช่นกัน เพราะพล็อตดูน่าสนใจค่ะ 55555 จริงๆคือก็มีสมัครบ้างและรีบอร์นนี่เคยสมัครแค่เรื่องรึสองเรื่องถ้าเห็นว่าน่าสนใจ และเรื่องนี้ก็น่าสนใจค่ะ ;D

    คิดว่าจะได้คู่กับใครคะ? ถ้าไม่ได้คนที่เล็งไว้คงไม่มาระเบิดบ้านเราใช่ไหมคะเนี่ย 555

    - คิดว่าจะได้คู่กับใครอันนี้ตอบเลยว่าไม่รู้ค่ะ แต่ถ้าถามว่าชอบใคร ชอบพรีโม่ จี และอลาดิค่ะ โดยเฉพาะพรีโม่กับอเลาดิที่บอกเลยว่าชอบทั้งคู่ ถ้าไม่ได้สามคนนี้.... ขอที่อยู่บ้านได้ไหมคะ //โดนตบ

    เรื่องวิจารณ์ออริ อยากให้เราวิจารณ์ไหมคะ? (ถ้ามีเวลา) บอกไว้ก่อนว่าเราสับแหลกเลยนะคะ

    - เชิญเลยค่ะ ชอบมาก 55555

    คนเขียนเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว เรียนหนัก งานเยอะ โอกาสดองสูง แต่ไม่ทิ้ง รับได้ไหมคะ?

    - เข้าใจค่ะ เพราะก็เป็นนักเรียนมหาลัยเหมือนกัน 

    แล้วถ้าไม่ติด...จะมาตามฆ่าเราไหมคะเนี่ย?

    - ติดแต่ไม่ได้คู่สามคนนั้นนี่อยากร้องไห้มากกว่าไม่ติดนะคะ 555555 แต่เอาจริงๆรู้สึกเขียนจับฉ่ายเกินไปเลยทำใจว่าจะไม่ติด....

    สุดท้ายนี้ ขอบคุณทุกคนที่มาสมัครนะคะ ขอให้โชคดีค่ะ // ยิ้มแล้วโบกมือ

    - คงต้องขอให้เกลเข้าตากรรมการล่ะมั้งคะ ไว้อาจจะมาสมัครอีกถ้าหากมีเวลาค่ะ !

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×