ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : After Party รักอินดี้...พี่จัดให้! - ตอนที่ 5 Drunken Truth
[Fiction : After Party รักอินดี้...พี่จัดให้!] (Joongsik Joongki*Ahin) ตอน 5
Author : bluesherbet
เวลาแสดงคอนเสิร์ตใกล้เข้ามาถึง ผมคงต้องเดินเข้าไปหาที่นั่งในสนามแล้วล่ะครับ..
"ย่าาาาห์... อาอิน" เฮือกกกก...จุงกิฮยองเข้ามาตบบ่าผมไม่ให้ตั้งตัว "นายนั่งโซนไหนน่ะ"
"วะ....วาย...วาย หกสิบเก้าครับ"
ใช่แล้วครับ... เลขที่นั่งของผมคือ Y69 โคตรเป็นมงคลกับประตูหลังตรูเลย ฮืออ TT____TT
"ดีเลยของชั้น Y68 ป่ะ เราไปด้วยกัน"
"เดี๋ยวก่อน... ผมไม่ได้นั่งกับพี่แจมินหรอกเหรอ?"
"ผู้จัดการนายนั่งกับผู้จัดการฉัน ส่วนเราก็นั่งด้วยกันไง" จุงกิฮยองพูดพลางยิ้มแฉ่ง "รีบไปได้แล้วน่า คอนเสิร์ตจะเริ่มแล้ว"
จุงกิฮยองไม่พูดพร่ำทำเพลง จะดึงมือผมเข้าสนามท่าเดียว
ลำพังจะแลกที่นั่งกับผู้จัดการพี่จุงกิก็ไม่ทันแล้ว คนอะไรหายตัวไวยังกับนินจา...
จุงกิฮยองลากผมมาถึงหน้าโคลิเซียม ผมเองก็เพิ่งรู้ว่าแขกระดับ VVIP เยี่ยงเราๆก็ต้องเบียดเสียดเข้าสนามกับฝูงแฟนคลับด้วยเช่นกัน นึกว่าจะมีทางเข้าพิเศษให้ดูเซเล็บๆซะอีก... ถ้ารู้ว่าต้องรอนานอย่างนี้ ผมพกถุงมือหนาๆมาก็ดี... อุณหภูมิกว่าลบสิบองศาบวกกับแรงลมที่ยังมีควันหลงของพายุเมื่อวันก่อนมันทำให้ผมหนาวไปถึงขั้วหัวใจ
"หนาวเหรอ?" เหมือนพี่จุงกิจะดูออกจากสีหน้าผม
"กะ...ก็ นิดหน่อยครับ" ขืนบอกว่าหนาวมากจะดูไม่แมนอะ ต้องรักษาภาพพจน์
"โกหกฉันไม่ได้หรอก ดูสิ... ปากแดงๆของนายซีดไปหมดแล้ว ไหนบอกว่าจะเก็บริมฝีปากอิ่มๆนี้ให้ฉันไงล่ะ"
"ฮย๊องงงงงง....?????"
ผมอุทานเสียงหลง เพราะสาบานว่าผมพูดอะไรไม่ออกจริงๆเอ่าะ ทำไมพี่จุงกิจะต้องย้ำเรื่องนี้นักหนาก็ไม่รู้...
"ฮ่าๆๆๆๆๆ... ฉันล้อเล่นน่ะ... แค่นี้ก็ต้องหน้าแดงด้วย แต่ก็ดีนะ ให้เลือดสูบฉีดบ้างนายจะได้ไม่เป็นลมเป็นแล้งไป"
ไม่ทันขาดคำ... จุงกิฮยองก็ดึงมือผมไปกุมไว้ซะแน่น
"มือนายเย็นเจี๊ยบเลย... เดี๋ยวฉันจะถ่ายเทความร้อนจากมือฉันไปให้นะ..."
แต่มือจุงกิฮยองก็อุ่นจริงๆล่ะครับ... อุ่นมากจนผมสงสัยว่าเขาไม่ได้คลี่(ขี้)ในช่วง 5-7 วันนี้หรือเปล่า
"นายต้องหัดออกกำลังกายบ้างรู้มั้ย...อาอิน วันๆเอาแต่อยู่หน้าคอมพ์ ร่างกายก็เลยปรับสภาพกับอากาศไม่ได้ สนใจมาเข้าสโมสร FCMEN มั้ยล่ะ...จุนซูบอกว่าตอนนี้กำลังขาดคนเลย...นี่ฉันก็เพิ่งเข้าไปเสริมทีมในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุก"
"แล้ว...ขาดตำแหน่งไหนบ้างล่ะครับ?" ผมถามไปทั้งๆที่ไม่เคยดูฟุตบอลมาก่อนเลยในชาตินี้
"เห็นว่าขาดมิดฟิลด์ตัวรับอยู่นะ... "
ตำแหน่งอะไรของมันฟะ??
"ผะ...ผมคงเล่นไม่ได้หรอกครับ"
"ฮึ่ยยยย ไม่เป็นไรน่า...ฟุตบอลดารา เน้นหน้าหล่อๆเข้าว่า ที่เหลือเฮียสอนให้เอง... 'นาซงจุงกิย่าาาา' ฉันซงจุงกิซะอย่าง"
คือ...ประเด็นที่ตรูไม่อยากเล่นก็เพราะชื่อมันไม่เป็นมงคลนี่แหละครับ รุกๆ รับๆ อะไรกันเนี่ย บรึ๋ยยย...
"ย่าาาาห์...อาอินนา..." จุงกิฮยองโอบบ่าผม "นายรู้ไหมว่าตั้งแต่เข้าวงการมาฉันออกเดทมาแล้วกี่ครั้ง"
อะไรของเค้าวะเนี่ย? อยู่ๆก็เปลี่ยนเรื่อง แล้วมาถามในเรื่องที่ตรูไม่อยากรู้อีกตะหาก
"ไม่ทราบครับ"
"ฉันนะออกเดทมาแล้วนับไม่ถ้วน แล้วก็ไม่เคยถูกสื่อจับได้เลยสักครั้ง เพราะเวลาที่ออกเดทฉันจะไม่พรางตัว ใส่หมวกใส่ฮู้ดแบบที่ดาราทั่วไปทำกัน เชื่อไหมว่าถ้าดาราอย่างเราแต่งตัวธรรมดาๆ ออกเดทกับแฟน คนเห็นก็จะคิดว่าเราเป็นแค่เพื่อนกัน"
ฉลาดดีแฮะ... สมแล้วที่เป็นแชมป์รายการควิซโชว์
"อาอินนา...แล้วนายรู้ไหมว่าทำไมวันนี้ฉันต้องใส่ทั้งฮู้ดทั้งหมวก"
"ก็มันหนาวไม่ใช่เหรอครับ?" ผมถามกลับไปงงๆ
"หนาวแค่นี้ไม่สะเทือนผิวนักสเก็ตน้ำแข็งทีมชาติอย่างฉันหรอก... แต่ฉันอยากให้สื่อจับได้ว่าเรามาออกเดทกันไง"
"ฮย๊องงงงงงงง~~~~"
ลำพังแค่เวิร์ดดิ้งคงไม่ทำให้ผมร้องเสียงหลงเป็นครั้งที่สอง แต่จุงกิฮยองขยิบตาวิ้งให้ผมเป็นอะไรที่เหนือความคาดหมายจริงๆ
"ฮ่าๆๆๆๆ.... อาอิน... นายนี่น่ารักจริงๆ เพราะอย่างนี้แหละฉันถึงได้ชอบอำนาย"
เอ่อ... นี่อำหรอกเหรอครับ อย่าเล่นแบบนี้บ่อยๆ นะหัวใจจะวาย TT____TT
และแล้วก็มาถึงที่นั่ง Y69 จนได้... พอเข้ามาด้านในแล้วบรรยากาศอบอุ่นกว่าที่คิดครับ อุ่นด้วยพลังความรักของแฟนคลับ ผมเองไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า คอนเสิร์ตที่ประสบปัญหาทุลักทุเลนานาประการ ทั้งเรื่องโปรโมต สถานที่ และดินฟ้าอากาศ จะมีคนมาดูล้นหลามขนาดนี้ ถ้าไม่นับพฤติกรรมแปลกๆที่พวกเขาทำกับผม ก็ต้องยอมรับว่า JYJ เป็นสุดยอดศิลปินแห่งเอเชียจริงๆ... นี่แหละการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของพวกเขา....
พูดยังกะผมเป็นแฟนบอยของวงนี้... ความจริงผมฟังแต่เพลงอินดี้นะครับ ทงบงทงบังอะไร ไม่รู้จั๊กกก 'ฮารุมันเนบังเยชิมแดกาทเวโกชิบพอ...โอ้เบเบ้' (เออ...ฟังตั้งแต่เริ่มเดบิวต์เลยนิตรู)
ระหว่างที่ผมกำลังโยกคลอนไปตามจังหวะพริ้วไหวและท่าเต้นสวิงขาไมค์ในเพลง Be My Girl อยู่นั้น ... จุงกิฮยองที่นั่งข้างๆก็รำพึงขึ้น
"ทั้งแดง ทั้งอวบน่ารักจัง...จะเป็นไรมั้ยถ้าฉันจะขอกัดมันเบาๆ"
ผมปิดปากตัวเองและกระถดตัวหนีไป 2 เซ็นต์ (มากกว่านี้ไม่ได้อ่ะ คนที่นั่งเก้าอี้ Y70 ตรูดแอบใหญ่)
"ฮะ....ฮยอง... จะกัดอะไรนะครับ"
"ฮ่าๆๆๆ แท่งไฟไง...สีแดงน่าหม่ำดีจัง...งั่ม..."
ฮู่ว... โล่งอก นึกว่าปากผมจะไม่รอดเสียแล้ว แต่พิลึกคนดีจริงๆ คนอะไรอยากกินแท่งไฟคอนเสิร์ต
"วันนี้ก็ต้องขอบคุณทุกคน ที่มาคอนเสิร์ตของ JYJ... ทราบว่าการเดินทางของแฟนๆ หลายคนนั้นไม่ง่ายเลย... บางคนก็มาจากต่างประเทศ เอ้า!! ขอเสียงแฟนคลับจากประเทศไทยหน่อยครับ ฮิ้ววว..."
บ๊ะ!! ออร่าของมิคกี้ยูชอนบนเวทีนั้นเจิดจรัสจริงๆ (ออร่าศิลปินนะครับไม่เกี่ยวกับหน้าผากเขา)
"...แฟนญี่ปุ่นล่ะครับ? อยู่ไหนกันบ้าง.... แฟนจีนล่ะ....ว่าแต่เอ๊... วันนี้เรามีเกสต์พิเศษด้วย จุงกิชี่... อาอินชี่... นั่งอยู่ตรงไหนนะครับ?"
เห้ยยยย... นั่น....ไม่ได้เตี๊ยมกันไม่ใช่??
แสงสปอตไลท์ส่องมาที่โซนคนดู... ลงกบาลผมกับจุงกิฮยองพอดี T^T หนีไม่พ้นแล้วครับ
คือ...ผมไม่ได้กลัวที่ยูชอนมันตะโกนเรียกหรอก... แต่ผมเสียวว่าจะมี 'กอลริมอิสเรียลลลลล' ของเซียจุนซูตามมาน่ะสิ
จุงกิฮยองชูสองนิ้ว แล้วชี้มาที่ผม จากนั้นก็ลุกขึ้นยืน ฉุดผมให้ยืนเป็นเพื่อนด้วย... ผมยิ้มแห้งๆและโบกมือให้กล้องจับภาพ....
สภาพที่เห็นก็เป็นอย่างนี้ครับ.. อ๊ายยย อาย >///< http://www.youtube.com/watch?v=Hvp6YqMQDWI
รู้กันหมดทั้งปฐพีแล้วครับ ว่าผมมานั่งดูคอนเสิร์ตนี้สองต่อสองกับจุงกิฮยอง... สมใจฮยองแล้วล่ะสิ
แฟนคลับในสนามกรี๊ดเรา 2 คนดังยิ่งกว่ากรี๊ด JYJ อีกครับ T^T นี่มันคอนเสิร์ต JYJ นะ ไม่ใช่งานแต่งกอลริม
เอ๊ะ.. หรือว่าจะใช่???
จบจากคอนเสิร์ต JYJ ก็ชวนให้ผมกับพี่จุงกิไปงาน After Party ต่อ.... ช่วงหลังๆมานี่แค่ได้ยินคำว่า 'After Party' ผมก็หลอนแล้วครับ
ไม่ว่าจะงานที่ไปกับจุงกิฮยอง... หรือจุงกิฮยองไปคนเดียวแล้วโทรมาตามผมไปรับซาก... สิ่งที่ตามมาก็คือความซวยทั้งสิ้น
วันนี้อยากเลี่ยงแต่ก็เลี่ยงไม่ได้ ไม่งั้นเดี๋ยวนักข่าวจะเม้าท์ว่าผมกินเกาเหลากับซูเปอร์สตาร์หัวเหม่งคนนั้นอีก...เฮ้อ...
ทางเดียวที่จะทำให้ผมอยู่รอดปลอดภัยได้ก็คือ จำกัดลิมิตการดื่มของเขาครับ...
ลำพังผมเองดูเหมือนคอทองแดงใช่มั้ย? คุณอาจจำภาพกอลโอว่าเป็นอย่างนั้น แต่เอาเข้าจริงผมดื่มโซจูไม่ถึงขวดก็เมาแอ๋แล้ว ถึงกระนั้นผมก็ดื่มบ่อยๆนะครับ ชอบบรรยากาศของการดื่ม แต่จะเมานิ่งๆ เมากับตัวเองที่บ้าน ดื่มเสร็จก็เข้านอนอะไรแบบนี้ ผมไม่ค่อยชอบดื่มตามงานน่ะ เพราะรู้ว่าถ้าเมาแล้วจะควบคุมตัวเองไม่ได้ (แต่คนแถวนี้เขาไม่รู้ตัวน่ะสิครับ...ดื่มเอาๆ สุดท้ายใครซวย ก็ผมอีก)
วงเหล้างาน After Party คืนนี้ แบ่งออกเป็น 5 โต๊ะย่อยๆ 3 โต๊ะเป็นของทีมงาน อีกโต๊ะหนึ่งมีขาโจ๋อย่าง มิคกี้ยูชอน ยองอุงแจจุง และพี่คังซองพิล คุมอยู่ จุงกิฮยองดีดดิ้นอยากจะร่วมก๊งไมโลกับแก๊งนี้เสียเต็มประดา ซึ่งผมดูหน่วยก้านแต่ละคนแล้ว ถ้าปล่อยจุงกิฮยองไว้ต้องเละแน่ๆ คุณเองก็รู้ใช่ไหมครับว่า ชื่อของแจจุงกับมิคกี้นั้นติดอันดับไอดอลเกาหลีที่คอแข็งที่สุด... เห็นว่าดื่มโซจูได้ตั้ง 7-8 ขวด คุณพระ!! ปริมาณเท่านั้นทำผมเมาต่อเนื่องได้ครึ่งเดือนเชียวนะ... ไม่ไหวๆ เพื่อความปลอดภัยในชีวิต ผมจึงแยกตัวออกมาอยู่วงที่ห้า กลุ่มที่แทบไม่แตะต้องแอลกอฮอล์เลย
ผมวางเหยือกเบียร์ลงบนโต๊ะ...
"คืนนี้เราสองคนดื่มเหยือกเดียวพอนะ... ฟังคำผมไว้ดีๆ พี่-ห้าม-เมา" ผมกำชับเสียงเข้ม
"อ๊ายยยยยย... น่ารักจังเลย เป็นห่วงสุขภาพคนรักด้วยเหรอเนี่ย???"
กรรมเวร... ผมเองก็ลืมว่าแก๊ง non-alcohol นั้นมีเซียจุนซูอยู่ด้วย TT___TT หมอนี่ไม่เมาก็เหมือนเมาดิบ
"มะ...ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับจุนจัง T^T"
"ผมว่าดีออกนะครับ ถนอมสุขภาพไว้คนที่เรารักจะได้อยู่กับเรานานๆ ยังเสียใจอยู่เลยว่าผมคอนโทรลยูชอนไม่ไหวครับ... ดื้อ.. ทั้งเหล้า ทั้งบุหรี่"
"ผมเองก็อยากให้อาอินเลิกสูบบุหรี่เหมือนกันนะจุนซู ถนอมริมฝีปากสวยๆ ให้อยู่กับเรานานๆ ฮ่าๆๆ" แกรจะเสริมให้มันยิ่งส่อทำม้ายยย... ซงจุงกิ T^T
จากนั้นวงสนทนาก็ตกเป็นของสองหนุ่มช่างจ้ออย่างจุงกิและจุนซูไปโดยปริยาย ปล่อยให้ผมละเลียดเบียร์เบาๆ ไปพร้อมๆกับทำหน้าที่ผู้ฟังที่ดี เอาจริงๆเลยนะ ผมแทบไม่ได้พูดอะไรออกมาซักพยางค์... เพราะสองคนนี้คุยกันในประเด็นที่ผมไม่อาจเข้าถึงได้ อาทิ เรื่องฟุตบอล เรื่องหมาแมว เรื่องดอทเอ ผมหาแนวร่วมที่จะเข้าไปแจมไม่ได้เลย
"เออ อาอินครับ?" จุนซูเอ่ยถามเสียงใส อะแฮ่มม...ผมอาจจะได้ซีนบ้างแล้ว
"ผมเพิ่งชวนจุงกิเข้ามาเป็นมิดฟิลด์ตัวรุก... สนใจเข้ามารับตำแหน่งตัวรับมั้ยครับ??"
หอยหลอดจริงๆ.... พอประเด็นมาถึงตรูก็กลายเป็นอะไรรุกๆรับๆอีกแล้ว T^T
"คือ...ผม... ขอโทษจริงๆ ผมเล่นฟุตบอลไม่เป็นละ............"
ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบ จุงกิฮยองก็ดึงผมมาตบไหล่แปะๆ
"หายห่วงเลยจุนซู... ผมจะสอนให้เขาเป็นตัวรับที่เจ๋งที่สุดในฤดูกาลให้ได้ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ"
"ว้าววว... เยี่ยมไปเลยครับพี่จุงกิ... คนหนึ่งเป็นรุก..คนหนึ่งเป็นรับ...สมกันแบบนี้สินะที่เรียกว่ากอล....."
"กอล....ซาเลซ ใช่มั้ยครับจุนจัง!!!!" ผมตะโกนทะลุกลางปล้อง ไม่รู้เหมือนกันว่าไอ่กอลซาเลซที่หลุดปากออกไปนี่เป็นนักบอลหรือนักมวยหรือปัญจสีลัต อะไรก็ได้วะที่ไม่ต้องวกเข้า 'กอลริมอิสเรียล'
"อ้าาาาา.... ราอูล กอนซาเลซ ทีมรีล มาดริด คนนี้ผมก็ชอบครับ...ว่าแต่เขาเป็นกองหน้านี่นา.."
โอเคแหละ... อย่างน้อยๆก็ยังเป็นนักบอล... อาเมน -*-
เพื่อไม่ให้กลับมาที่ กอลริมอิสเรียล ผมจึงพยายามหาท็อปปิคต่างๆมาหว่านล้อมเซียจุนซู... แต่จะคุยเรื่องอะไรดี...
"อ้า...จุนจัง เห็นว่าปีหน้า JYJ จะไปร้องเพลงในพิธีปิดกีฬาที่จังหวัดแทกูบ้านเกิดผม จุนจังเคยไปเที่ยวแทกูมั้ยครับ?" เออ.... ประเด็นตรูสิ้นคิดสุดๆ
"เคยแต่นั่งรถผ่านนะอาอิน ไอดอลก็แบบนี้ล่ะครับ ทำแต่งานๆๆๆ ไม่ได้เที่ยวสักที ฮิยะๆ"
"น่าเสียดายนะครับที่ไม่เคยไป...ไปครั้งนี้ถ้ามีโอกาสก็ลองแวะเที่ยวดูนะครับ แทกูมีวัดศักดิ์สิทธิ์เยอะเลย เป็นสถานที่ที่ยังเก็บอารยธรรมสมัยชิลลาไว้อย่างครบถ้วน แล้วก็มีธรรมชาติสวยงามมากครับ ทั้งป่าเขาและน้ำตก อาหารก็อร่อย นอกจากนี้ก็ยังมีเคเบิ้ลคาร์ที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 800 เมตร เรียกว่าเป็นความภูมิใจของชาวแทกูครับ ผมกับอิลอูเคยขึ้นไปชมวิวบนนั้น...มันสวย...จริงๆนะ"
โอยสาบานว่านี่คือการพูดประโยคหว่านล้อมที่เลื่อนเปื้อนและยาวที่สุดในชีวิตผม เหนื่อยจริงๆแฮะ
"ว้าว... ดีจัง... จุงกิว่ายังไงครับ" จุนซูหันไปถามจุงกิฮยองอย่างตื่นเต้น
แต่ปฏิกิริยาที่ได้จากจุงกิฮยองคือสีหน้าที่เรียบเฉย
"นายจะไปไหนกับใคร ไม่เห็นจะต้องรายงานฉันเลย ไม่ใช่เรื่องที่ฉันสนใจซักนิด"
เออ....นี่?? คือตรูผิด
"คือว่า....จุงกิฮยอง...."
"พอๆ อาอิน... จำไว้นะ พูดเยอะใช่ว่าจะดีเสมอไป...วันหลังปรับปรุงพฤติกรรมเสียด้วย"
คือแบบ.... ตรูไม่ดีตรงไหนเนี้ยยยยย T^T
ในขณะที่ผมหน้าเจื่อนด้วยความสับสน ก็มีอีกคนหนึ่งที่หน้าตาเบิกบานสุดฤทธิ์
"กรี๊ดดดดดดด..... กอลริม อิส เรียล... มีงอนโชว์ด้วยอ๊าาาา...สุดยอดมากเลยครับพวกคุณสองคน ฮิยะๆๆๆๆ"
After Party วันนี้... ต่อให้ไม่เมา ผมก็หลอนครับ.. บรื๋อ TT___________TT
Author : bluesherbet
เวลาแสดงคอนเสิร์ตใกล้เข้ามาถึง ผมคงต้องเดินเข้าไปหาที่นั่งในสนามแล้วล่ะครับ..
"ย่าาาาห์... อาอิน" เฮือกกกก...จุงกิฮยองเข้ามาตบบ่าผมไม่ให้ตั้งตัว "นายนั่งโซนไหนน่ะ"
"วะ....วาย...วาย หกสิบเก้าครับ"
ใช่แล้วครับ... เลขที่นั่งของผมคือ Y69 โคตรเป็นมงคลกับประตูหลังตรูเลย ฮืออ TT____TT
"ดีเลยของชั้น Y68 ป่ะ เราไปด้วยกัน"
"เดี๋ยวก่อน... ผมไม่ได้นั่งกับพี่แจมินหรอกเหรอ?"
"ผู้จัดการนายนั่งกับผู้จัดการฉัน ส่วนเราก็นั่งด้วยกันไง" จุงกิฮยองพูดพลางยิ้มแฉ่ง "รีบไปได้แล้วน่า คอนเสิร์ตจะเริ่มแล้ว"
จุงกิฮยองไม่พูดพร่ำทำเพลง จะดึงมือผมเข้าสนามท่าเดียว
ลำพังจะแลกที่นั่งกับผู้จัดการพี่จุงกิก็ไม่ทันแล้ว คนอะไรหายตัวไวยังกับนินจา...
จุงกิฮยองลากผมมาถึงหน้าโคลิเซียม ผมเองก็เพิ่งรู้ว่าแขกระดับ VVIP เยี่ยงเราๆก็ต้องเบียดเสียดเข้าสนามกับฝูงแฟนคลับด้วยเช่นกัน นึกว่าจะมีทางเข้าพิเศษให้ดูเซเล็บๆซะอีก... ถ้ารู้ว่าต้องรอนานอย่างนี้ ผมพกถุงมือหนาๆมาก็ดี... อุณหภูมิกว่าลบสิบองศาบวกกับแรงลมที่ยังมีควันหลงของพายุเมื่อวันก่อนมันทำให้ผมหนาวไปถึงขั้วหัวใจ
"หนาวเหรอ?" เหมือนพี่จุงกิจะดูออกจากสีหน้าผม
"กะ...ก็ นิดหน่อยครับ" ขืนบอกว่าหนาวมากจะดูไม่แมนอะ ต้องรักษาภาพพจน์
"โกหกฉันไม่ได้หรอก ดูสิ... ปากแดงๆของนายซีดไปหมดแล้ว ไหนบอกว่าจะเก็บริมฝีปากอิ่มๆนี้ให้ฉันไงล่ะ"
"ฮย๊องงงงงง....?????"
ผมอุทานเสียงหลง เพราะสาบานว่าผมพูดอะไรไม่ออกจริงๆเอ่าะ ทำไมพี่จุงกิจะต้องย้ำเรื่องนี้นักหนาก็ไม่รู้...
"ฮ่าๆๆๆๆๆ... ฉันล้อเล่นน่ะ... แค่นี้ก็ต้องหน้าแดงด้วย แต่ก็ดีนะ ให้เลือดสูบฉีดบ้างนายจะได้ไม่เป็นลมเป็นแล้งไป"
ไม่ทันขาดคำ... จุงกิฮยองก็ดึงมือผมไปกุมไว้ซะแน่น
"มือนายเย็นเจี๊ยบเลย... เดี๋ยวฉันจะถ่ายเทความร้อนจากมือฉันไปให้นะ..."
แต่มือจุงกิฮยองก็อุ่นจริงๆล่ะครับ... อุ่นมากจนผมสงสัยว่าเขาไม่ได้คลี่(ขี้)ในช่วง 5-7 วันนี้หรือเปล่า
"นายต้องหัดออกกำลังกายบ้างรู้มั้ย...อาอิน วันๆเอาแต่อยู่หน้าคอมพ์ ร่างกายก็เลยปรับสภาพกับอากาศไม่ได้ สนใจมาเข้าสโมสร FCMEN มั้ยล่ะ...จุนซูบอกว่าตอนนี้กำลังขาดคนเลย...นี่ฉันก็เพิ่งเข้าไปเสริมทีมในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุก"
"แล้ว...ขาดตำแหน่งไหนบ้างล่ะครับ?" ผมถามไปทั้งๆที่ไม่เคยดูฟุตบอลมาก่อนเลยในชาตินี้
"เห็นว่าขาดมิดฟิลด์ตัวรับอยู่นะ... "
ตำแหน่งอะไรของมันฟะ??
"ผะ...ผมคงเล่นไม่ได้หรอกครับ"
"ฮึ่ยยยย ไม่เป็นไรน่า...ฟุตบอลดารา เน้นหน้าหล่อๆเข้าว่า ที่เหลือเฮียสอนให้เอง... 'นาซงจุงกิย่าาาา' ฉันซงจุงกิซะอย่าง"
คือ...ประเด็นที่ตรูไม่อยากเล่นก็เพราะชื่อมันไม่เป็นมงคลนี่แหละครับ รุกๆ รับๆ อะไรกันเนี่ย บรึ๋ยยย...
"ย่าาาาห์...อาอินนา..." จุงกิฮยองโอบบ่าผม "นายรู้ไหมว่าตั้งแต่เข้าวงการมาฉันออกเดทมาแล้วกี่ครั้ง"
อะไรของเค้าวะเนี่ย? อยู่ๆก็เปลี่ยนเรื่อง แล้วมาถามในเรื่องที่ตรูไม่อยากรู้อีกตะหาก
"ไม่ทราบครับ"
"ฉันนะออกเดทมาแล้วนับไม่ถ้วน แล้วก็ไม่เคยถูกสื่อจับได้เลยสักครั้ง เพราะเวลาที่ออกเดทฉันจะไม่พรางตัว ใส่หมวกใส่ฮู้ดแบบที่ดาราทั่วไปทำกัน เชื่อไหมว่าถ้าดาราอย่างเราแต่งตัวธรรมดาๆ ออกเดทกับแฟน คนเห็นก็จะคิดว่าเราเป็นแค่เพื่อนกัน"
ฉลาดดีแฮะ... สมแล้วที่เป็นแชมป์รายการควิซโชว์
"อาอินนา...แล้วนายรู้ไหมว่าทำไมวันนี้ฉันต้องใส่ทั้งฮู้ดทั้งหมวก"
"ก็มันหนาวไม่ใช่เหรอครับ?" ผมถามกลับไปงงๆ
"หนาวแค่นี้ไม่สะเทือนผิวนักสเก็ตน้ำแข็งทีมชาติอย่างฉันหรอก... แต่ฉันอยากให้สื่อจับได้ว่าเรามาออกเดทกันไง"
"ฮย๊องงงงงงงง~~~~"
ลำพังแค่เวิร์ดดิ้งคงไม่ทำให้ผมร้องเสียงหลงเป็นครั้งที่สอง แต่จุงกิฮยองขยิบตาวิ้งให้ผมเป็นอะไรที่เหนือความคาดหมายจริงๆ
"ฮ่าๆๆๆๆ.... อาอิน... นายนี่น่ารักจริงๆ เพราะอย่างนี้แหละฉันถึงได้ชอบอำนาย"
เอ่อ... นี่อำหรอกเหรอครับ อย่าเล่นแบบนี้บ่อยๆ นะหัวใจจะวาย TT____TT
และแล้วก็มาถึงที่นั่ง Y69 จนได้... พอเข้ามาด้านในแล้วบรรยากาศอบอุ่นกว่าที่คิดครับ อุ่นด้วยพลังความรักของแฟนคลับ ผมเองไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า คอนเสิร์ตที่ประสบปัญหาทุลักทุเลนานาประการ ทั้งเรื่องโปรโมต สถานที่ และดินฟ้าอากาศ จะมีคนมาดูล้นหลามขนาดนี้ ถ้าไม่นับพฤติกรรมแปลกๆที่พวกเขาทำกับผม ก็ต้องยอมรับว่า JYJ เป็นสุดยอดศิลปินแห่งเอเชียจริงๆ... นี่แหละการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของพวกเขา....
พูดยังกะผมเป็นแฟนบอยของวงนี้... ความจริงผมฟังแต่เพลงอินดี้นะครับ ทงบงทงบังอะไร ไม่รู้จั๊กกก 'ฮารุมันเนบังเยชิมแดกาทเวโกชิบพอ...โอ้เบเบ้' (เออ...ฟังตั้งแต่เริ่มเดบิวต์เลยนิตรู)
ระหว่างที่ผมกำลังโยกคลอนไปตามจังหวะพริ้วไหวและท่าเต้นสวิงขาไมค์ในเพลง Be My Girl อยู่นั้น ... จุงกิฮยองที่นั่งข้างๆก็รำพึงขึ้น
"ทั้งแดง ทั้งอวบน่ารักจัง...จะเป็นไรมั้ยถ้าฉันจะขอกัดมันเบาๆ"
ผมปิดปากตัวเองและกระถดตัวหนีไป 2 เซ็นต์ (มากกว่านี้ไม่ได้อ่ะ คนที่นั่งเก้าอี้ Y70 ตรูดแอบใหญ่)
"ฮะ....ฮยอง... จะกัดอะไรนะครับ"
"ฮ่าๆๆๆ แท่งไฟไง...สีแดงน่าหม่ำดีจัง...งั่ม..."
ฮู่ว... โล่งอก นึกว่าปากผมจะไม่รอดเสียแล้ว แต่พิลึกคนดีจริงๆ คนอะไรอยากกินแท่งไฟคอนเสิร์ต
"วันนี้ก็ต้องขอบคุณทุกคน ที่มาคอนเสิร์ตของ JYJ... ทราบว่าการเดินทางของแฟนๆ หลายคนนั้นไม่ง่ายเลย... บางคนก็มาจากต่างประเทศ เอ้า!! ขอเสียงแฟนคลับจากประเทศไทยหน่อยครับ ฮิ้ววว..."
บ๊ะ!! ออร่าของมิคกี้ยูชอนบนเวทีนั้นเจิดจรัสจริงๆ (ออร่าศิลปินนะครับไม่เกี่ยวกับหน้าผากเขา)
"...แฟนญี่ปุ่นล่ะครับ? อยู่ไหนกันบ้าง.... แฟนจีนล่ะ....ว่าแต่เอ๊... วันนี้เรามีเกสต์พิเศษด้วย จุงกิชี่... อาอินชี่... นั่งอยู่ตรงไหนนะครับ?"
เห้ยยยย... นั่น....ไม่ได้เตี๊ยมกันไม่ใช่??
แสงสปอตไลท์ส่องมาที่โซนคนดู... ลงกบาลผมกับจุงกิฮยองพอดี T^T หนีไม่พ้นแล้วครับ
คือ...ผมไม่ได้กลัวที่ยูชอนมันตะโกนเรียกหรอก... แต่ผมเสียวว่าจะมี 'กอลริมอิสเรียลลลลล' ของเซียจุนซูตามมาน่ะสิ
จุงกิฮยองชูสองนิ้ว แล้วชี้มาที่ผม จากนั้นก็ลุกขึ้นยืน ฉุดผมให้ยืนเป็นเพื่อนด้วย... ผมยิ้มแห้งๆและโบกมือให้กล้องจับภาพ....
สภาพที่เห็นก็เป็นอย่างนี้ครับ.. อ๊ายยย อาย >///< http://www.youtube.com/watch?v=Hvp6YqMQDWI
รู้กันหมดทั้งปฐพีแล้วครับ ว่าผมมานั่งดูคอนเสิร์ตนี้สองต่อสองกับจุงกิฮยอง... สมใจฮยองแล้วล่ะสิ
แฟนคลับในสนามกรี๊ดเรา 2 คนดังยิ่งกว่ากรี๊ด JYJ อีกครับ T^T นี่มันคอนเสิร์ต JYJ นะ ไม่ใช่งานแต่งกอลริม
เอ๊ะ.. หรือว่าจะใช่???
จบจากคอนเสิร์ต JYJ ก็ชวนให้ผมกับพี่จุงกิไปงาน After Party ต่อ.... ช่วงหลังๆมานี่แค่ได้ยินคำว่า 'After Party' ผมก็หลอนแล้วครับ
ไม่ว่าจะงานที่ไปกับจุงกิฮยอง... หรือจุงกิฮยองไปคนเดียวแล้วโทรมาตามผมไปรับซาก... สิ่งที่ตามมาก็คือความซวยทั้งสิ้น
วันนี้อยากเลี่ยงแต่ก็เลี่ยงไม่ได้ ไม่งั้นเดี๋ยวนักข่าวจะเม้าท์ว่าผมกินเกาเหลากับซูเปอร์สตาร์หัวเหม่งคนนั้นอีก...เฮ้อ...
ทางเดียวที่จะทำให้ผมอยู่รอดปลอดภัยได้ก็คือ จำกัดลิมิตการดื่มของเขาครับ...
ลำพังผมเองดูเหมือนคอทองแดงใช่มั้ย? คุณอาจจำภาพกอลโอว่าเป็นอย่างนั้น แต่เอาเข้าจริงผมดื่มโซจูไม่ถึงขวดก็เมาแอ๋แล้ว ถึงกระนั้นผมก็ดื่มบ่อยๆนะครับ ชอบบรรยากาศของการดื่ม แต่จะเมานิ่งๆ เมากับตัวเองที่บ้าน ดื่มเสร็จก็เข้านอนอะไรแบบนี้ ผมไม่ค่อยชอบดื่มตามงานน่ะ เพราะรู้ว่าถ้าเมาแล้วจะควบคุมตัวเองไม่ได้ (แต่คนแถวนี้เขาไม่รู้ตัวน่ะสิครับ...ดื่มเอาๆ สุดท้ายใครซวย ก็ผมอีก)
วงเหล้างาน After Party คืนนี้ แบ่งออกเป็น 5 โต๊ะย่อยๆ 3 โต๊ะเป็นของทีมงาน อีกโต๊ะหนึ่งมีขาโจ๋อย่าง มิคกี้ยูชอน ยองอุงแจจุง และพี่คังซองพิล คุมอยู่ จุงกิฮยองดีดดิ้นอยากจะร่วมก๊งไมโลกับแก๊งนี้เสียเต็มประดา ซึ่งผมดูหน่วยก้านแต่ละคนแล้ว ถ้าปล่อยจุงกิฮยองไว้ต้องเละแน่ๆ คุณเองก็รู้ใช่ไหมครับว่า ชื่อของแจจุงกับมิคกี้นั้นติดอันดับไอดอลเกาหลีที่คอแข็งที่สุด... เห็นว่าดื่มโซจูได้ตั้ง 7-8 ขวด คุณพระ!! ปริมาณเท่านั้นทำผมเมาต่อเนื่องได้ครึ่งเดือนเชียวนะ... ไม่ไหวๆ เพื่อความปลอดภัยในชีวิต ผมจึงแยกตัวออกมาอยู่วงที่ห้า กลุ่มที่แทบไม่แตะต้องแอลกอฮอล์เลย
ผมวางเหยือกเบียร์ลงบนโต๊ะ...
"คืนนี้เราสองคนดื่มเหยือกเดียวพอนะ... ฟังคำผมไว้ดีๆ พี่-ห้าม-เมา" ผมกำชับเสียงเข้ม
"อ๊ายยยยยย... น่ารักจังเลย เป็นห่วงสุขภาพคนรักด้วยเหรอเนี่ย???"
กรรมเวร... ผมเองก็ลืมว่าแก๊ง non-alcohol นั้นมีเซียจุนซูอยู่ด้วย TT___TT หมอนี่ไม่เมาก็เหมือนเมาดิบ
"มะ...ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับจุนจัง T^T"
"ผมว่าดีออกนะครับ ถนอมสุขภาพไว้คนที่เรารักจะได้อยู่กับเรานานๆ ยังเสียใจอยู่เลยว่าผมคอนโทรลยูชอนไม่ไหวครับ... ดื้อ.. ทั้งเหล้า ทั้งบุหรี่"
"ผมเองก็อยากให้อาอินเลิกสูบบุหรี่เหมือนกันนะจุนซู ถนอมริมฝีปากสวยๆ ให้อยู่กับเรานานๆ ฮ่าๆๆ" แกรจะเสริมให้มันยิ่งส่อทำม้ายยย... ซงจุงกิ T^T
จากนั้นวงสนทนาก็ตกเป็นของสองหนุ่มช่างจ้ออย่างจุงกิและจุนซูไปโดยปริยาย ปล่อยให้ผมละเลียดเบียร์เบาๆ ไปพร้อมๆกับทำหน้าที่ผู้ฟังที่ดี เอาจริงๆเลยนะ ผมแทบไม่ได้พูดอะไรออกมาซักพยางค์... เพราะสองคนนี้คุยกันในประเด็นที่ผมไม่อาจเข้าถึงได้ อาทิ เรื่องฟุตบอล เรื่องหมาแมว เรื่องดอทเอ ผมหาแนวร่วมที่จะเข้าไปแจมไม่ได้เลย
"เออ อาอินครับ?" จุนซูเอ่ยถามเสียงใส อะแฮ่มม...ผมอาจจะได้ซีนบ้างแล้ว
"ผมเพิ่งชวนจุงกิเข้ามาเป็นมิดฟิลด์ตัวรุก... สนใจเข้ามารับตำแหน่งตัวรับมั้ยครับ??"
หอยหลอดจริงๆ.... พอประเด็นมาถึงตรูก็กลายเป็นอะไรรุกๆรับๆอีกแล้ว T^T
"คือ...ผม... ขอโทษจริงๆ ผมเล่นฟุตบอลไม่เป็นละ............"
ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบ จุงกิฮยองก็ดึงผมมาตบไหล่แปะๆ
"หายห่วงเลยจุนซู... ผมจะสอนให้เขาเป็นตัวรับที่เจ๋งที่สุดในฤดูกาลให้ได้ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ"
"ว้าววว... เยี่ยมไปเลยครับพี่จุงกิ... คนหนึ่งเป็นรุก..คนหนึ่งเป็นรับ...สมกันแบบนี้สินะที่เรียกว่ากอล....."
"กอล....ซาเลซ ใช่มั้ยครับจุนจัง!!!!" ผมตะโกนทะลุกลางปล้อง ไม่รู้เหมือนกันว่าไอ่กอลซาเลซที่หลุดปากออกไปนี่เป็นนักบอลหรือนักมวยหรือปัญจสีลัต อะไรก็ได้วะที่ไม่ต้องวกเข้า 'กอลริมอิสเรียล'
"อ้าาาาา.... ราอูล กอนซาเลซ ทีมรีล มาดริด คนนี้ผมก็ชอบครับ...ว่าแต่เขาเป็นกองหน้านี่นา.."
โอเคแหละ... อย่างน้อยๆก็ยังเป็นนักบอล... อาเมน -*-
เพื่อไม่ให้กลับมาที่ กอลริมอิสเรียล ผมจึงพยายามหาท็อปปิคต่างๆมาหว่านล้อมเซียจุนซู... แต่จะคุยเรื่องอะไรดี...
"อ้า...จุนจัง เห็นว่าปีหน้า JYJ จะไปร้องเพลงในพิธีปิดกีฬาที่จังหวัดแทกูบ้านเกิดผม จุนจังเคยไปเที่ยวแทกูมั้ยครับ?" เออ.... ประเด็นตรูสิ้นคิดสุดๆ
"เคยแต่นั่งรถผ่านนะอาอิน ไอดอลก็แบบนี้ล่ะครับ ทำแต่งานๆๆๆ ไม่ได้เที่ยวสักที ฮิยะๆ"
"น่าเสียดายนะครับที่ไม่เคยไป...ไปครั้งนี้ถ้ามีโอกาสก็ลองแวะเที่ยวดูนะครับ แทกูมีวัดศักดิ์สิทธิ์เยอะเลย เป็นสถานที่ที่ยังเก็บอารยธรรมสมัยชิลลาไว้อย่างครบถ้วน แล้วก็มีธรรมชาติสวยงามมากครับ ทั้งป่าเขาและน้ำตก อาหารก็อร่อย นอกจากนี้ก็ยังมีเคเบิ้ลคาร์ที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 800 เมตร เรียกว่าเป็นความภูมิใจของชาวแทกูครับ ผมกับอิลอูเคยขึ้นไปชมวิวบนนั้น...มันสวย...จริงๆนะ"
โอยสาบานว่านี่คือการพูดประโยคหว่านล้อมที่เลื่อนเปื้อนและยาวที่สุดในชีวิตผม เหนื่อยจริงๆแฮะ
"ว้าว... ดีจัง... จุงกิว่ายังไงครับ" จุนซูหันไปถามจุงกิฮยองอย่างตื่นเต้น
แต่ปฏิกิริยาที่ได้จากจุงกิฮยองคือสีหน้าที่เรียบเฉย
"นายจะไปไหนกับใคร ไม่เห็นจะต้องรายงานฉันเลย ไม่ใช่เรื่องที่ฉันสนใจซักนิด"
เออ....นี่?? คือตรูผิด
"คือว่า....จุงกิฮยอง...."
"พอๆ อาอิน... จำไว้นะ พูดเยอะใช่ว่าจะดีเสมอไป...วันหลังปรับปรุงพฤติกรรมเสียด้วย"
คือแบบ.... ตรูไม่ดีตรงไหนเนี้ยยยยย T^T
ในขณะที่ผมหน้าเจื่อนด้วยความสับสน ก็มีอีกคนหนึ่งที่หน้าตาเบิกบานสุดฤทธิ์
"กรี๊ดดดดดดด..... กอลริม อิส เรียล... มีงอนโชว์ด้วยอ๊าาาา...สุดยอดมากเลยครับพวกคุณสองคน ฮิยะๆๆๆๆ"
After Party วันนี้... ต่อให้ไม่เมา ผมก็หลอนครับ.. บรื๋อ TT___________TT
To be continue...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น