คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : After Party รักอินดี้...พี่จัดให้! - ตอนที่ 2
[Fiction : After Party รักอินดี้...พี่จัดให้!] (Joongsik Joongki*Ahin) ตอน 2
Author : bluesherbet
หลังจากวางสายโทรศัพท์นรกนั่น ผมก็ต้องรีบออกจากบ้านโดยเร็วที่สุด ไม่ได้กลัวหมอนั่นจะฆ่าตัวตายหรอกครับ... เมาทีไรก็เห็นพูดอย่างนี้ทุกที แล้วก็ไม่เคยตายสักครั้ง... และก็เพราะแกไม่ตายอ่ะแหละเลยน่ากลัวกว่า ถ้าผมไปถึงช้า ก็จะโดนแกโทรมาฟูมฟาย จิกๆๆๆๆ ทุก 2 นาที... แค่ให้รับโทรศัพท์ปกติๆ ผมก็ระแวงจะแย่ ดันมาเจอสายแบบนี้ พูดได้คำเดียวครับว่าโคตรหลอน!
ก่อนออกจากบ้าน ผมก็ต้องหยิบอุปกรณ์สื่อสารที่ใช้เป็นประจำ อันประกอบไปด้วย ไอโฟน , ไอพอด , ไอแพด , ไอทัช , แบล็กเบอรี่ , มือถือโมโตโรล่า , กาแล็กซี่แท็บ , แอลจี ออพติมัส แบล็ก (อันหลังนี่บริษัทกำชับมาว่าให้พกไว้ตลอด เดี๋ยวเค้าไม่จ้างเป็นพรีเซ็นเตอร์ ปกติงานก็ไม่ค่อยจะมี) แล้วก็มาบูโร่ซองแดงพร้อมไฟแช็ก ก็มีคนถามนะ ว่าผมจะบ้าหอบฟางอะไรนักหนา พกอุปกรณ์สื่อสารราวกับ Tribute ให้กับการจากไปของศาสดาสตีฟ จ๊อบส์ ... คนรู้จักบางคนก็เรียกผม ‘ไอ้มาบุญครองเคลื่อนที่’ แต่ทำไงได้อ่ะครับ... ทุกสิ่งล้วนสำคัญต่อการใช้ชีวิตในเมืองหลวงทั้งนั้น.. ผมไม่พกกล้อง DSLR พร้อมเลนส์ไวด์ออกจากบ้านด้วยก็บุญแค่ไหนแล้ว...
จุงกิฮยองโทรมาจิกผมถี่ๆ จนผมตัดสินใจไม่รอรถแท็กซี่ธรรมดา (ที่ค่าโดยสารสตาร์ทที่ 2200 วอน) มาขึ้นแท็กซี่ดำ ที่สตาร์ทที่ราคา 4500 วอนแทน TT___TT (คันนี้ผ่านหน้าคอนโดผมก่อนพอดีอะ...) พอขึ้นแท็กซี่ได้ ผมก็ตัดสินใจปิดมือถือ...ขอเวลาให้โลกสงบสุขบ้างเถ้อะ... แล้วก็หยิบ...อะไรดีฟะ... เอาไอแพดละกัน.. ขึ้นมาอัพทวิต เชื่อว่า Follower กว่าหนึ่งแสนห้าหมื่นคน กำลังรอข้อความเจ๋งๆ อินดี้ๆ ของผมอยู่หน้าไทม์ไลน์...
... เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างแท็กซี่... อ้า.... ทิวทัศน์แม่น้ำฮันยามค่ำคืน...
... แสงไฟจากตึกรามบ้านช่อง เมื่อมองจากไกลๆ มันสวยมากครับ...แต่ก็แฝงความเศร้าอยู่จางๆ
เอาล่ะ... ผมต้องรวบรวมอารมณ์ศิลปิน สร้างสรรค์บทกวีที่มีความยาวไม่เกิน 140 ตัวอักษรขึ้นมา
‘…ชีวิตคนเราสั้นเหมือนแสงไฟราตรี หากผ่านคืนนี้ ก็จะมีแสงตะวันฉายยามเช้า เราคงมอดไป…’
.
.
.
ไม่แนวเลยว่ะ วู้ว!! ลบๆ
เอาใหม่....
‘ไฟราตรีดุจดั่งหิ่งห้อย... สะท้อนเงาน้ำกระเพื่อมพราย หยาดฝนโปรยปรายตกไม่ทั่วฟ้า แต่น้ำตากลับท่วมถึงหัวใจ.. นับประสาอะไรกับคนไร้ค่า.. พรุ่งนี้คงถูกโลกลืม’
.
.
.
เอาอันนี้ล่ะวะ...แนวดี
กดปุ่ม send โช๊ะเด๊ะ!!!
สไตล์การทวิตของผมนะครับ ใช้ภาษาให้มันกำกวมๆ เหมือนจะเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจ (แม้กระทั่งผมเองก็ไม่เข้าใจ ฮ่าๆ) แต่ keyword ของทวิตคือ ทำยังไงก็ได้ให้ชาวบ้านรับรู้ว่าเรากำลัง ‘นอยด์’ อยู่ คอยดูนะ .. เดี๋ยวก็มีเมนชั่นเพียบ...
@lovekengverymuch โอป้า... แม้ฉันจะไม่เข้าใจว่าพี่ทวิตอะไร แต่อย่านอยด์นะคะ
@sikfannnn สู้ๆต่อไปค่ะ เป็นกำลังใจให้
@youareout แค่อ่านทวิตพี่ น้ำตาฉันก็แทบไหลแล้ว ฉันไม่มีวันเลิกรักพี่เด็ดขาด
@bluesherbetJYA อินดี้มากเข่งขา ขออนุญาต RT
ฯลฯ ... (คือเยอะมากครับ พันกว่าเมนชั่น)
กำลังใจท่วมท้นกันเลยทีเดียว .. (เฮ้ย แต่ผมก็นอยด์จริงๆนะ มีอย่างที่ไหนต้องไปเก็บซากคนเมาดึกๆดื่นๆ)
เอาล่ะ... ถึงฮงอิกซะที (ปล. ค่าแท็กซี่ขูดเลือดขูดเนื้อผมมาก ...ฮือ...) ผมเปิดมือถืออีกครั้ง แล้วโทรหาจุงกิฮยอง
“...ฮัลโหล.. ฮยองครับ... จะให้ผมไปรับที่ผับไหน?”
แม้มือถือโมโตโรล่าไม่มี app กลิ่นตามสาย แต่ก็ดูเหมือนผมได้กลิ่นละมุดลอยออกมาจากปลายสายอีกฝั่ง
“เอ้ยยยยย...เรา.....คือ.....เรา....”
“เราอะไรครับฮยอง?” คุยกับคนเมานี่มันลำบากจริงวุ้ย
“เราอยู่ร้านคาราโอเกะที่คังนัมอ่ะ อาอินนา... เราอกหากกกกก เราอยากร้องเพลงงงง...เอิ๊กกก..”
ชิบหอย... เปลี่ยนร้านก็ไม่บอก (โอเค ตรูผิดเองที่ปิดมือถือตะกี้ T^T)
ผมก้าวขาตะเกียบกลับเข้าไปในแท็กซี่อีกครั้ง... เรื่องอกหักนี่ได้ยินจนเบื่อแล้วครับ ก่อนละคร Sungkyunkwan Scandal ออกอากาศซัก 3-4 เดือน คงยังจำกันได้นะครับว่าจุงกิฮยองออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเพิ่งเลิกกับแฟนสาวนอกวงการที่คบกันนานนนนน...หลายปี เดาว่าเฮียแกคงเฮิร์ทมากอะ... เพราะผ่านมาครึ่งปีแล้วก็ยังอมทุกข์อมโศกอยู่แต่เรื่องนี้...น่าสงสารจริงๆ... (คือสงสารตัวเองนะครับ...ตรูไม่ได้มีเอี่ยวอะไรกับเค้าเลย ทำไมต้องมารับกรรมฟะ T^T)ี
ว่าแต่..คังนัมกับฮงอิกมันไม่ได้อยู่ใกล้ๆ กันเลยนะ T^T คืนนี้ผมจะต้องเสียค่าแท็กซี่ทั้งหมดกี่วอนเนี่ย? หยุดเถอะครับฮยอง... หยุดทำร้ายทรัพย์สินนักแสดงอินดี้รับละครสองปีต่อหนึ่งเรื่องอย่างผมเถอะ... ฮือๆ...
แค่เห็นราคาในมิเตอร์ผมก็นอยด์... จนไม่อยากทวิตอะไร...
.
.
.
อัพสเตตัสในเฟซบุคแทนดีกว่า
‘ยอดเงินคงเหลือของท่านใกล้จะหมด...’
หมายถึงเงินในบัตรเอทีเอ็มนะครับ... จ่ายค่าแท็กซี่จนซีด...
เอาล่ะ..ในที่สุดผมก็มาถึงคังนัมจนได้ ย่านนี้ทุกคนคงรู้กันนะครับว่าเป็นย่านไฮโซ มีแต่คลับราคาแพงระยับ แต่ถ้าเทียบกับความปลอดภัยของคนบันเทิงอย่างเราๆแล้วก็ต้องบอกว่าคุ้มครับ เพราะหลายๆร้านจะมีห้อง private room ให้ ไม่ว่าคนบันเทิงจะพาสาวมาเดท เมาหยำเป หรือว่าจะเปิดตัวเป็นเก้งกวาง ...รับรองครับว่าความลับทุกอย่างจะถูกรักษาไว้เป็นอย่างดี แต่ก็แน่นอนว่าต้องแลกกับค่าบริการที่สูงลิ่วเช่นกัน แต่ตัวผมที่ไร้ซึ่งสแกนดัลและทุนทรัพย์ ไม่มีโอกาสได้ใช้บริการคลับพวกนี้หรอกครับ... ถ้าจะมาก็มารับเพื่อนนี่แหละ...
และถ้าพูดถึงร้านคาราโอเกะที่มีห้อง private room แบบ VVIP ทั้งย่านคังนัมก็คงมีร้านเดียว ผมจึงพุ่งตรงไปที่นั่นโดยไม่ได้โทรไปบอกจุงกิฮยองก่อน.. คุยกับคนเมาคุยยังไงก็ไม่รู้เรื่องครับ... เมื่อพนักงานเห็นว่าเป็นผมก็ยื่นคีย์การ์ดให้ (เพราะจำได้ว่าผมมารับศพจุงกิฮยองหลายหนแล้ว) ผมเดินไปตามทาง ไม่ได้ชำเลืองดูเลขห้องบนคีย์การ์ดด้วยซ้ำ... เพราะได้ยินเสียงดังมาก่อนตัวเลยเชียววว...
“หั่น น้ามจากาอิ๊ซซ้อออ...นอลนอมู่ซารังฮานนนน หั่น น้ามจากาอิ๊ซซ้อออ... ส่ารางเฮม๊าลโดหมดฮัดนึนนน...”
เสียงร้องเพลงคิมจงกุ๊กแบบไม่เอาอ่าวแบบนี้มีคนเดียวครับ จุงกิฮยองแน่ๆ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ จุงกิเป็นพิธีกรรายการ Music Bank มาเป็นปีๆ แต่กลับร้องเพลงไอดอลสมัยใหม่ไม่ได้ซ้ากกกกะเพลง (ขนาดผมยังร้องได้หลายเพลงเลยอ่ะ ... เมสิก..เม๊สิก...เม๊สิกกกก... โอมอ โอมอๆ โอมอ โอมอๆ เมสิก.. เม๊สิกกก... ) เพลงที่เฮียแกร้องได้นอกเหนือจากยุค 1990-2005 แล้ว ก็มีเพลงอาเฮียคิมจงกุ๊กนี่แหละครับ เห็นว่าโดนขู่บังคับให้ฝึกร้องให้ได้ ไม่งั้นเฮียจงกุ๊กจะตามล่าให้ไปนั่งรอในคอก Running Man คนแรก (เดาว่าคงฝึกนาน เพราะเข้าคอกคนแรกซะเกือบทุกเทป) แล้วคิดภาพตามผมนะครับ เสียงเฮียจงกุ๊กตอนร้องเพลงจะเล็กๆหวานๆใช่ป่ะ แต่เสียงพูดจุงกิฮยอง.. เป็นยังไง.. เสียงร้องแกก็เป็นแบบนั้นครับ ห้าวหาญเสียยังกะแม่ทัพโครยอยามออกศึก... เป็นมหันตภัยต่อกระดูกค้อน ทั่ง โกลน ในหูผมมากๆ T^T
หมายเหตุ :: ฟังเสียงร้องจุงกิฮยองแล้วก็ไม่รู้เรื่อง บวกกับเพลงนี้ก็เก่ามากแล้ว ผมมีคลิปของจริงให้ฟังนะครับ... สบายหูกว่าเยอะเลยอ่ะ http://www.youtube.com/watch?v=2MVq2RgskJQ เจ้าพ่อไซเบอร์อย่างผมเรื่องคุ้ยยูทู๊บนี่ถนัด...
ผมแตะคีย์การ์ดเข้าไปในห้อง...น่าน...คิดไว้ไม่ผิด ซงจุงกิ Rising Star ขวัญใจชาวเกาหลี เมาแประหมดสภาพ ผมเข้าไปตบบ่าเขาเบาๆ แต่เจ้าตัวกลับไม่ละสายตาจากจอคาราโอเกะข้างหน้า
“กลับบ้านได้แล้วครับฮยอง”
....ไม่สน...
“ฮยอง...เมาแล้วนะครับ...”
จุงกิหันมากอดผมพร้อมกับน้ำตานองหน้า โอยฮยองครับตัวหนักมากๆ
“อาอินนา...ช่วยด้วย...เรา...อกหักกกก....”
“ครับๆ รู้แล้วว่าอกหัก แต่เมาแล้วก็ต้องกลับบ้านนะ”
“นี่นายไม่เห็นใจคนเมาเลย...ขอย้อมใจอีกเพลงหนึ่งค่อยกลับ”
ผมรู้ว่าการขัดขืนจุงกิผู้เมามายในที่ลับตาคนจะนำมาซึ่งอะไร (บรื๋อ..) ผมก็เลยปล่อยให้เฮียแกร้องต่อ
“ได้ๆ แต่เพลงสุดท้ายแล้วนะครับ”
ว่าแล้วจุงกิฮยองก็เลือกเพลง.... ซารัง ซือรอวอ ... ของ เอ่อ..... คิมจงกุ๊ก -*-
เพลงนี้นะครับ เผื่อจะไม่รู้จักกัน http://www.youtube.com/watch?v=r7OJ9LnboCY&NR=1
“โว้...มอรีพูทอ พันกึ๊ดกาจี ซารังซือรอว่อออ... โว้...นีกา นาเย ยอจารานึน เก ซารังซือรอว่อ”
ร้องอย่างเดียวไม่พอ...ยังเต้นอีกด้วย =[]= พร้อมกับส่งสายตาปิ๊งปั๊งมาทางผม เหมือนจะถามว่า ‘เสียงดีมั้ยจ๊ะฮงชิกกก’
คือ....จะให้พูดไงดี... เสียงร้องของซงจุงกิไพเราะมากกกก จนผมอยากสนับสนุนให้เขาออกเทป (เทปพันสายไฟ) , ออกซีดี (ซีดีล้างหัวอ่าน) , ออกดิจิตัลดาวน์โหลด (โหลดโปรแกรมเถื่อน) พูดง่ายๆคือ เฮียทำอะไรก็ได้ครับ แต่อย่างร้องเพลงเลย จอร์ชชชชช... TT_____TT
ช่วงเวลาทรมาน 4.24 นาทีของเพลง “ซารัง ซือรอว่อ” จบลงไป...ได้เวลากลับบ้านแล้วครับจุงกิฮยอง คืนนี้ผมต้องรีบกลับไปดูรายการ We Got Married ที่โหลดไว้ที่บ้านอะ -*-
“กลับกันนะครับฮยอง”
สายตาเว้าวอนนั่นกลับมาอีกแล้วครับ หนนี้จะมาไม้ไหนเนี่ย
“อาอินนา... ร้องเพลงคู่เราเพลงนึงเส่... เราอกหากกกก... ฮืออออ...”
เอาวะ...เพื่อความปลอดภัยของเมืองหน้าด่าน จะให้ร้องนกเขาคูรักหรืออะไรก็ต้องร้อง
“สัญญานะครับ...ว่าเพลงนี้เป็นเพลงสุดท้ายแล้ว...”
จุงกิฮยองพยักหน้าหงึกๆ แล้วก็กดเลือกเพลงอย่างคล่องแคล่ว....
“และยังคงคิดถึงเธอนะ...อ๊ะ..อ๊ะ...อ๊ะ...”
ใช่แล้วครับ...จุงกิฮยอง เลือกเพลง “คิดฮอด” ของบอดี้สแลม ...แล้วให้ผม feat. เป็นศิริพร อำไพพงศ์
“เป็นจั๋งได๋เล่าน่อความฮัก...เป็นจั๋งได๋เล่าน่อความฮัก...ที่เคยหอม..เคยกอด...”
น่าน... เจือกร้องได้อีกตรู TT____TT
สุดท้ายผมก็ลากจุงกิฮยองขึ้นแท็กซี่กลับบ้านจนได้.. ก่อนที่อาเฮียแกจะสิ้นสติสัมปชัญญะไป ผมได้ถามว่าบ้านแจจุงก็อยู่ใกล้ๆแค่นี้ ทำไมถึงโทรตามผมมาเล่า จุงกิก็บอกว่า... ครั้งก่อนแจจุงโมโหมาก ที่จุงกิเมาแล้วอ้วกใส่แลมโบกินี่คันงามของเขา.. พูดจบก็อ้วกกก... ใส่แท็กซี่... ใช่แล้วครับ คืนนี้นอกจากเป็นภาระจ่ายค่าโดยสารแล้วก็ยังต้องมีค่าล้างรถให้เขาด้วย...ลาก่อนตังค์ผม TT.TT
วันนี้จุงกิฮยองเมามากกว่าทุกครั้ง ผมก็เลยต้องหิ้วปีกไปส่งถึงที่คอนโด เสร็จแล้วก็เช็ดหน้าเช็ดตาให้เขาเสียหน่อย เดี๋ยวจะหาว่าไม่มีน้ำใจ เสร็จสิ้นภารกิจแล้วก็ขอตัวกลับบ้าน แต่เอ๊ะ...
“ฮยองครับ...ประตูมันล็อกอ่ะ...”
“อ่า.... ปราตูนั้นล็อกสองชั้นต้องใช้คีย์การ์ดน้า....” เสียงยังอ้อแอ้ๆอยู่เลยครับ
ผมก็เลยเดินไปค้นในกระเป๋าหิ้ว กระเป๋าเสื้อ กระเป๋ากางเกง...ค้นทั้งตัวจุงกิฮยองก็ว่าได้ แต่ไม่เจอการ์ดซักใบ เลยเขย่าๆตัวเขาเรียกสติ
“เก็บคีย์การ์ดไว้ไหนครับ...อย่าให้ผมเหนื่อยสิ...”
จุงกิฮยองดึงมือผมกลับมา
“อยู่หนายก็ไม่รู้อ่า... อาอินนา... คืนนี้ค้างที่ห้องช้านน้า......”
อั่ก...ผมโดนทุ่มลงผมบนเตียงด้วยแรงควาย...แล้วจุงกิฮยองก็กลิ้งตัวมาทับแขนจนกระดิกไปไหนไม่ได้ TT__TT
แม่ก๊าบบบบบ... ช่วยผมด้วยยย... คืนนี้น้องลูกชิกต้องการวัตถุมงคลลลล
จะแคล้วคลาดจากมันมั้ยเนี่ยตรู... ฮือ TT_________________________TT
ความคิดเห็น