คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : After Party รักอินดี้...พี่จัดให้! - ตอนที่ 1
[Fiction : After Party รักอินดี้...พี่จัดให้!] (Joongsik Joongki*Ahin) ตอน 1
Author : bluesherbet
มีคนบอกว่า ...ผมไม่ต้องกังวลเรื่องโลกแตก เพราะผมมีโลกส่วนตัว
แล้วก็ไม่ต้องกังวลว่าน้ำจะท่วมโลก.. เพราะโลกส่วนตัวผมมันสูง...
ฉายาของผม ‘ผู้ชายอินดี้อันดับหนึ่งของเกาหลี’
อั๊ยยะ!!
อันนี้ขอแก้ข่าวเน้นๆ เลยครับ ความจริงผมก็เหมือนผู้ชายทั่วไปแหละ.. แค่หล่อกว่าทั่วไปนิดหนึ่ง แล้วก็ตามตัวยากอีกนิดหนึ่ง เท่านั้นเอง.. จริงแหละ ผมเคยพูดว่าผมไม่ถนัดเรื่องผูกมิตรกับเพื่อนใหม่ แต่ผมก็ไม่บอกว่าจะตีตัวออกห่างจากเพื่อนเก่าซะหน่อย... สมัยนี้ช่องทางการติดต่อมันช่างสะดวกสบาย... เฟซบุคผมก็สมัครไว้ ทวิตเตอร์ผมก็มี แล้วก็ยังมีไซเวิร์ล มีทูเดย์ สไคป์ ว๊อทแอ๊บ บีบีแชท เอ็มเอสเอ็น.... อ้อ...กระทั่งไฮไฟว์กับไอซีคิวผมก็ยังไม่ปิดบริการนะครับ... เพื่อนฝูงจะเรียกตัวผมก็แค่ฝากข้อความไว้ งานเสร็จเมื่อไหร่ผมไปหาเอง ส่วนมือถือเหรอครับ...บอกตรงๆ ผมค่อนข้างกลัวอุปกรณ์สื่อสารชนิดนี้แฮะ... ไม่รู้มีคนเป็นแบบผมหรือเปล่า คือผมกลัวการพูดโต้ตอบกับคนที่ไม่เห็นหน้า มันเดาอารมณ์ไม่ถูกน่ะ ... ที่จริงผมจะไม่พกมือถือเลยก็ย่อมได้ ถ้าไม่ติดว่าคุณนายออม... เอ่อ.. คุณแม่ผมน่ะครับ แกเล่นเฟซบุคไม่เป็น ผมก็เลยซื้อมือถือรุ่นธรรมดาๆ เอาไว้โทรคุยกับแม่ก่อนนอนทุกคืน ช่วงเวลา 5 ทุ่ม – ตีหนึ่ง ผมจะเปิดมือถือไว้รอคุณนายแม่ครับ... แต่นอกจากนั้นถ้ามีอะไรก็โทรเข้ามือถือพี่แจมินละกัน ...ผู้จัดการส่วนตัวผมน่ะ ได้ฉายาว่า ‘เข้าถึงทุกคนในวงการยกเว้นยูอาอิน’ เลยนะครับ (ว่าแต่ผมจะภูมิใจเพื่อ?)
คืนนี้ก็เหมือนเดิมครับ ผมนั่งกินมาม่าแกล้มไวน์ขาวอยู่ที่ห้อง ... แล้วก็มีเสียงโทรศัพท์เข้ามา... เสียงเรียกเข้าผมก็ยังเป็นริงโทนพื้นฐานของโมโตโรล่าอยู่นะ ไม่รู้จะเปลี่ยนทำไม คนที่โทรเข้าเป็นประจำก็มีแค่ 2 คน คนแรกคุณนายแม่ คนที่สอง... เป็นเพื่อนคนหนึ่งที่เคยเล่นละครด้วยกัน อ๊ะ... เดี๋ยวค่อยเล่าต่อ ขอตัวรับสายคุณนายแม่ก่อนนะครับ
“...หวัดดีฮะแม่..”
“ลูกชิกเหรอลูก....ที่โซลหนาวหรือยัง” โอ้..แม่ผมสำเนียงแทกูจัดจ้านมาก แม่เรียกผมว่า ‘ลูกชิก’ ตามชื่อ ‘ออมฮงชิก’ ที่เป็นชื่อจริงของผม มาแต่ไหนแต่ไรแล้วครับ น่ารักขัดกับหนวดผมยังไงไม่รู้สิ
“ก้อ...นิดๆแล้วฮะ”
“อย่านุ่งกางเกงขาสั้นบ่อยนักสิลูก ประเดี๋ยวก็เป็นหวัด อีกสองสามวันลุงคิมข้างบ้านจะไปโซล แม่จะฝากเอาผ้านวมกับกางเกงกันหนาวไปให้ที่บริษัทนะลูกชิก”
“แม่ครับไม่ต้อง...”
“เอาน่าลูก... เราเป็นนักแสดง สุขภาพของเราสำคัญที่สุดนะลูก”
เอิ่ม...แม่ครับ จะบอกว่าสิ่งที่สำคัญสุดของนักแสดงก็คือ ‘แฟชั่น’ นะครับ T^T เสื้อผ้าแต่ละตัวที่แม่ส่งมาจากแทกูน่ะ มันทำลายอิมเมจแฟชั่นนิสต้าของผมหมดเกลี้ยง โฮ... T^T
“ว่าไงลูกชิก... อย่าให้แม่เสียกำลังใจสิ...กว่าจะเลี้ยงลูกมาจนเติบใหญ่ แม่ก็ต้อง...”
ก่อนที่คุณนายแม่จะนอยด์ผมไปมากกว่านี้ ผมก็เออออไปตามเรื่อง (เอ้อ..ความนอยด์นี่ถ่ายทอดผ่านพันธุกรรมนะครับ แม่กับผมเหมือนกันเดี๊ยะ)
“อ่าครับๆ ส่งมาก็ได้ครับแม่”
“เอายาสมุนไพรด้วยมั้ยลูก”
“อ่า...ครับๆ”
“เอาพระเครื่องด้วยมั้ยลูก...จะได้แคล้วคลาดเวลาเข้าฉากแอ็กชั่น”
“อ่าครับๆ”
“เอ...วัดที่ไปวันนั้นชื่ออะไรแม่ก็ลืม แป๊บนะลูกชิก... แม่โทรถามเพื่อนก่อน...อย่าเพิ่งปิดเครื่องนะลูกนะ...เดี๋ยวแม่โทรกลับ”
ตู๊ดๆๆๆ.....
คุณนายแม่วางสายไปละ...
ยังไม่ทันจะได้บอกแกเลยว่าฉากแอ็กชั่นของผมก็แค่ปีนหลังคากับชกมวยเท่านั้นแล... ไม่ต้องลำบากหาพระเครื่องหรอกครับ ไม่ได้แสดงผาดโผนบนเฮลิคอปเตอร์เสียหน่อย แต่ก็นั่นล่ะ.. ลูกกตัญญูชวนป๋วยปี่แป่กออย่างผมไม่ควรขัดศรัทธาแก...
เล่าเรื่อง ‘เพื่อน’ คนนั้นต่อดีกว่า เฮียแกเป็นคนที่แปลกสุดๆ อายุมากกว่าผมแค่ปีเดียว แต่กลับใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กไม่เป็นสักอย่าง เรียกโลว์เทคก็ไม่ถูกครับ ต้องเรียก ‘หลงยุค’ ถึงจะถูก ผมก็สงสัยว่าคณะบริหารธุรกิจ ที่แกเรียนเขาคิดเลขกันลูกคิดกันเหรอ? ใช้กระดานชนวนแทนคอมพ์หรือเปล่า? การถ่ายทำเดือนสุดท้ายนักแสดงในเรื่องเริ่มจะเข้าขากัน ต่างคนก็เลยฟอลโลว์ทวิตเตอร์กันบ้าง... แอดเฟซบุคกันบ้าง... มีแต่หมอนี่ล่ะครับ เดินดุ่มๆ เข้ามา..
“ขอเบอร์มือถือหน่อยดิ่”
ฮึ่ยยยย....ขนลุกนะครับ อยู่ดีๆผู้ชายมาขอเบอร์ผู้ชาย
“เอาไป’ไมอะพี่”
“ปิดกล้องแล้วชั้นจะได้ติดต่อนายไงล่ะ ชวนไปดื่มไรเงี้ย”
“เอาทวิตเตอร์ไปละกัน เดี๋ยวผมฟอลโลว์กลับ @seeksik เอสสิงคโปร์... อีอียิปต์สองตัว...เคแคงการู...”
หมอนั่นตอบผมเสียงเรียบเชียบ... “เออ...ไม่ได้เล่นนาน เฮียลืมพาสเวิร์ดไปแล้วว่ะ”
ห๊ะ!!!!!!!!!!!!! ทวิตเตอร์นี่มันโซเชียลเน็ตเวิร์กคู่บุญไอดอลเลยนะขอรับ... ไปทำอีท่าไหนถึงลืมพาสเวิร์ด
“ฮึ่ย...แล้วเวลาพี่จะโพสต์รูปเซอร์วิสแฟนคลับอะ... ทำไง”
“ก็ส่งแมสเสจบอกให้กวางซูช่วยทวิตบ้าง... กึนซอกบ้าง... บางทีไปเที่ยวกับแจจุงก็ถ่ายรูปคู่เค้าซะเลย”
เออ...แปลกดีเนอะ...ทวิตเตอร์เอื้ออาทร
“งั้นเฟซบุคมาก็ได้พี่... ไม่ก็มีทูเดย์...”
“โอยยุ่งยากซับซ้อน... เคยลองเล่นแล้วไม่ไหว”
“เอางี้...เอาแบบเล่นง่ายสุด และเป็นส่วนตัวสุด บีบีแชทมั้ยครับ? เดี๋ยวผมพาไปซื้อ”
“เรื่องอะไรชั้นต้องตามใจนาย...”
“ในกองถ่ายเราใครๆ เขาก็เล่นบีบีกันทั้งนั้นแหละพี่” ผมหันไปถามคนในกอง “พวกเราในที่นี้มีใครใช้บีบีบ้างครับ”
พรึ่บ!! ยกมือกันเพียบ... ยูชอนก็ยก มินยองก็ยก แทซูฮยองหรือพี่ประธานก็ยก ฮโยริมนี่ไม่ต้องบอก รายนี้แชทบีบีด้วยความเร็วแสง (ว่าแต่เป็นพิธีกร Music Bank ด้วยกันเป็นปีๆ ทำไมไม่สอนเฮียแกเข้าโซเชียลเน็ตเวิร์กบ้างหา)
“โอเคๆ... ซื้อก็ได้ๆ เอารุ่นเดียวกับนายละกัน... สอนเล่นด้วยนะ..”
ผมว่าเหตุผลที่จุงกิฮยองตัดสินใจซื้อ ก็เพราะเห็นแจจุงที่มาเยี่ยมกองถ่ายร่วมยกมือกับเขาด้วย...อย่างชัวร์...คู่นี้พักหลังๆ เห็นตัวติดกันเป็นตังเม ยูชอนยังบอกเลยว่าแจจุงอ่ะมีสกิลในการจิ๊กเพื่อนคนอื่นมาเป็นเพื่อนตัวเอง ตอนที่สนิทกับยองแซง SS501 ก็ไปจิ๊กฮยอนจุงของเขามา เอ้อ...ว่าก็ว่าเหอะ ทำไมแจจุงไม่จิ๊กผมไปจากยูชอนบ้างล่ะ ผมก็เพื่อนยูชอนเหมือนกันนะ เอ๊ะ! หรือยูชอนก็ไม่คบผมเหมือนกันหว่า?
แล้วผมก็ต้องพาจุงกิฮยองไปซื้อบีบีจนได้ ไปถึงที่ร้านพนักงานก็ถามว่าเอารุ่นไหน รู้มั้ยครับพี่แกตอบว่าไง แกชี้มาที่ผม ‘เอารุ่นเดียวกับอาอินนี่แหละ...’ โอยยยย แล้วแกเป็น mc ไง เสียงแกก็จะดังฟังชัดใช่ป่ะ... ได้ยินกันทั้งร้านเลย หูยยย... อายแทบแทรกแผ่นดินหนี คนก็หัวเราะคิกคักๆ ว่าผู้ชายคู่นี้มาซื้อ Couple BB กันหรา...
สุดท้ายจุงกิฮยองก็ได้ Couple BB เอ๊ย BB Bold 9700 รุ่นเดียวกับบีบีเน่าของผม (ที่แป้นเลือนไปแถบนึง) เฮียแกให้เหตุผลว่า ‘ชั้นซื้อรุ่นเดียวกะนายจะได้ฝึกเล่นง่ายๆ’ แลกพินกันเสร็จสรรพ แกก็มานั่งงุ่มง่ามๆ หัดแชทบีบีตอนพักกอง ก็เห็นขยันฝึกอยู่นะครับ คงมีแจจุงฮยองเป็นแรงบันดาลใจ... จนมาถึงวันละครปิดกล้อง (วันเดียวกับที่ละครออนแอร์อวสานนั่นแหละ T^T) ในงาน After Party จุงกิฮยองก็เดินมาหาผม (อีกแระ) พร้อมกับบอกว่า...
“อาอิน...ขอเบอร์มือถือหน่อยดิ่” (อีกแระ)
“แชทบีบีคุยกันก็ได้พี่” ผมยังไม่ได้บอกเขาว่าผมเป็นโรคกลัวการรับโทรศัพท์
“เฮ้ยเนี่ย...ปุ่ม Qwerty มันไม่’ใจเลยหว่ะ...ซ่อนนู่นซ่อนนี่เต็มไปหมด ชั้นว่าจะเลิกใช้ละ”
จุงกิฮยองเริ่มเขยิบตัวมาใกล้ผมเรื่อยๆ จนหน้าแทบแนบหน้า โอ..กลิ่นเหล้าหึ่งเลยครับ
“อาวเบอร์โทรนายมา... หรือจะให้ชั้นใช้กำลัง...”
นั่น...น่านนน... มือน่ะมือ อย่าเอื้อมไปตรงนั้นสิฮยอง... อย่าลงต่ำขนาดนั้น...นั่นมันก้นผมนะ...อะ...อะ..โอวว..”
“ศูนย์ แปด เก้า!!!.... “ ผมตะโกนเสียงดังให้จุงกิฮยองตกกะใจ ผละมือจากบั้นท้ายผม...
ระหว่างเสียตรูด (??) กับเสียเบอร์โทร.. ผมก็เลือกเสียเบอร์โทรล่ะครับ TT_____TT
ใครเลยจะรู้ว่า... การให้เบอร์โทรกับผู้ชายคนนี้ จะทำให้ผมต้องผจญกับฝันร้ายหลายเดือนคอนตินิว...
หลังจากปิดกล้องแล้ว นอกจากสายของคุณนายออม.. ก็จะมีหมอนี่แหละ... โทรมาป่วนทุกคืน...
นั่น...พูดไม่ทันขาดคำ... เขาโทรมาแล้วครับ
ว่าแต่ทำไมมือผมต้องเอื้อมไปรับด้วยนะ....
“ฮัลโหล...มีอะไรครับจุงกิฮยอง”
“ฮึก...ฮึก...อาอินนา....”
เสียงโหยหวนแบบนี้ไม่ใช่อิเม้ยต่อสายผิดหรอกครับ... จุงกิฮยองเจ้าชายรอยยิ้มของทุกคนนั่นแหละ... ใครเลยจะเชื่อผู้ชายร่าเริงตลอดศกอย่างเขา พอเหล้าเข้าปากก็จะร้องไห้เป็นผีบ้า โทรมาตามให้ผมไปเก็บศพทุกที... ผมก็แค่รอฟังว่าเขาจะให้ผมไปรับตัวที่ไหน...”
“ผับฮงอิก....อาอินนา.... มารับชั้นหน่อย ไม่งั้นชั้นจะฆ่าตัวตายยย....ฮือๆๆๆๆ”
เหนื่อยตรูอี๊กกกก....คนอินดี้อย่างผมเคยเอาใจใครซะที่ไหนล่ะ?
To Be Continue…
ความคิดเห็น