ฉั น อ ย า ก เ ขี ย น นิ ย า ย

ลำดับตอนที่ #4 : เมื่อบ้านฉันเป็นจุดวาร์ป 1-แรกพบสบตา

           A แรกพบสบตา

“อืม..” เสียงตอบรับเบาหวิวเหมือนหัวใจที่กำลังจะแตกสลาย...จริงๆก็อยากจะมีความรู้สึกอะไรแบบนั้นอยู่หรอกนะ ถ้าไม่ติดที่เธอมันพวกแปลกประหลาดน่ะ

          คนที่เพิ่งวางสายไปเป็นอดีตแฟนของเธอเอง ใช่เขาเป็น ‘อดีต’ เพราะเขาเพิ่งโทรมาบอกเลิกยัยเฉิ่มแว่นหนาอย่างเธอเมื่อครู่นี้เอง

          ขี้ขลาดชะมัด..ขอคบต่อหน้าได้ แต่ไม่สามารถมาขอเลิกกันซึ่งๆหน้า คงกลัวจะเสียเรตติ้งหรืออะไรก็ช่างมันเถอะตอนนี้ต้องไปโรงเรียนแล้ว

          คนเรามันจะคบกันที่หัวใจไม่ได้หรือไงนะ ทำไมกะอีแค่เธอเฉิ่มแบบครบสูตรถึงกับไม่กล้าที่จะควงออกไปเที่ยวห้างได้ คงคิดว่าตัวเองหล่อลากดินมากสินะ

เฮอะ...เออยอมรับ..เธอเองก็คบเขาที่หน้าตาเหมือนกัน แสดงว่าข่าวลือที่เขาทำไปเพราะเกมลงทัณฑ์มันจริงสินะ

          สาวสวยในกระจกรำพึงรำพัน จริงๆเธอหมายถึงสวยใต้แว่นกรอบหนากับผมที่มันปิดหน้าเหมือนผีซาดาโกะที่คลานออกมาจากบ่อน้ำแล้วทะลุจอออกมาน่ะ

แต่จริงๆแล้ว ‘ดารญา’ ก็คิดว่าเธอสวยนะ แค่เธอปิดหน้าปิดตาหน่อยทำไมเขาถึงไม่ชอบกันนะ เธอไม่ได้ไปใส่แว่นบนหัวคนอื่นเสียหน่อย คิดแล้วก็หงุดหงิดจริงๆ

          เอาเถอะ ไปโรงเรียนดีกว่า~

          ปิดบ้าน ปิดน้ำ ปิดไฟ เรียบร้อย ก็ล็อกประตูรั้วหน้าบ้าน แล้วสวมหมวกกันน็อคขึ้นฟีโน่คู่ใจบึ่งไปโรงเรียน เพราะระยะทางที่ไม่ไกลเท่าไรขับบิดมอไซค์แรงๆแซกไปแซกมาก็มาได้สิบนาทีก็ถึง

          มอเตอร์ไซค์ฟีโน่ขับเข้ามาจอดที่จอดรถมอไซค์สำหรับนักเรียน จอดเสร็จก็ล็อกคอให้เรียบร้อย คว้ากระเป๋านักเรียนเดินไปยังห้องเรียนด้วยท่าทางลัลล้า

          ก็แหม..จะมีอะไรให้ซีเรียสล่ะ ถึงเธอจะเพิ่งเลิกกับแฟนแต่ก้นหม้อข้าวยังไม่ทันดำใช่ว่าเธอจะปักใจรักเขาหรอกนะ แหงล่ะสิเพราะเธอเพิ่งคบกับเขาแค่ห้าวัน การที่หนุ่มฮอตอย่างเขามาคบกับยัยเฉิ่มกับเธอมันเป็นเพราะเกมลงทัณฑ์ที่เล่นกันในหมู่เพื่อนสินะ งั้นก็ช่างมันเถอะ การมีแฟนอย่างปุบปับถึงมันจะตื่นเต้นในช่วงแรกๆแต่หลังๆมาเธอกลับเริ่มรู้สึกเบื่อไปซะงั้น

          พอขึ้นมาถึงห้องทุกคนหันมามองเธอเป็นสายตาเดียว อ่า...แสดงว่าอดีตแฟนเธอโพสต์ลงเฟสบุ้คว่าเลิกกับเธอแล้วสินะก็คงไม่แปลกที่หนุ่มฮอตอย่างเขาข่าวมันไปไวกว่าไฟลามทุ่ง

          สองเพื่อนสนิทตรงดิ่งมาหาเธอพร้อมสำรวจ

          “ไอซิส แกไม่เป็นไรใช่ไหมวะ ฉันเพิ่งดูเฟสเมื่อกี้..” สิริสาหรือริสาถามเธอพร้อมทั้งจับแขนสองข้างของเธอเขย่าไปมา

          นั่นทำให้ดารญานั่งลงกับโต๊ะเรียนตัวเองแล้ว แย้มยิ้มเป็นทำนองว่าไม่มีอะไร เพื่อนทั้งสองคนนั่งลงคอยฟังคำพูดจากปากของเธอเอง

          “เขาโทรมาบอกเลิกฉันว่ะ เขาบอกว่าฉันเฉิ่มมากแล้วมันก็เป็นเกมลงทัณฑ์” ไอซิสบอกกับเพื่อนแล้วถอนหายใจ

          “ฉันขี้เหร่ขนาดนั้นเลยหรือวะ” เธอถามเพื่อนทั้งสองคนอีกครั้งพลางจะถอดแว่นแล้วก็เปิดหน้าม้าที่มันคลุมใบหน้าเธอเอาไว้ แต่ก็โดนเพื่อนทั้งสองห้ามเอาไว้เสียก่อน

          “อย่าเลยนะยะแม่สาวงามล่มเมือง เดี๋ยวก็ได้มีเรื่องหรอก” เอวาน่าเพื่อนสนิทอีกคนหนึ่งพูด เอวาน่าหรือเอน่าเป็นเด็กนักเรียนที่ย้ายมาจากโรงเรียนนานาชาติเช่นเดียวกับไอซิส เอน่ารู้ดีที่สุดว่าคนอย่างไอซิสนั้นได้ฉายาว่าสาวงามล่มเมืองจากโรงเรียนอันดับหนึ่งมาได้อย่างไร และย้ายมาที่โรงเรียนนี้ทำไม

          “เออ..รู้แล้วน่า ป่ะไปเข้าแถวกันเถอะ” ไอซิสพูดตัดบทแล้วลากเพื่อนทั้งสองที่เบื่อการเข้าแถวหน้าเสาธงออกจากห้องไปเคารพธงชาติ

          นักเรียนหลายคนโอดครวญเมื่อข้อสอบภาคเช้ายากสุดหิน วันนี้เป็นวันสอบปลายภาคเรียนที่หนึ่งวันแรก เอวาน่าทำหน้าขัดใจนิดหน่อยที่สิริสาได้คำตอบไม่เหมือนเธอ แล้วทั้งสองก็มานั่งคุยระหว่างพักกลางวัน

          ไอซิสหยิบไอแพดของตัวเองขึ้นมาแล้วชวนเพื่อนทั้งสองมานั่งใกล้ๆเพื่อ..ติวหรือ? ไม่ใช่แน่นอน มันเป็นการดูการ์ตูนระหว่างกินข้าวต่างหาก โดยไอซิสเสนอข้อแลกเปลี่ยนสุดยั่วยวนว่าหากมาร่วมดูการ์ตูนกับเธอ เธอจะช่วยติวของช่วงกลางวันให้

          “อันนี้เป็นสรุปวิชาประวัติศาสตร์ หน้าแรกถ้าจำได้น่าจะสอบได้สักหกสิบเปอร์เซน หน้าสองเป็นยี่สิบเปอร์เซนต์ที่เหลือจากฉันจะพูดต่อจากนี้เป็นยี่สิบเปอร์เซนต์ ถ้าพวกแกไม่ผ่านฉันจะบังคับให้เรียนเสริม” ไอซิสพูดหน้าตายเสียงเรียบทำเอาทั้งสองสยอง เพราะการเรียนเสริมกับไอซิสนั้นถือว่าเป็นอะไรที่ไม่อยากทำสุดๆ

          “โหย ไอซิส แกไปเอามาจากไหนวะ”ริสาพูดเสียงทึ่งๆเมื่ออ่านกระดาษใบที่ไอซิสให้มาคร่าวๆ สรุปสงครามเกือบทั่วโลกด้วยสองหน้ากระดาษเอสี่..สุดยอดแฮะ

          “ฉันนั่งทำเมื่อคืนเพื่อพวกแกสองคนเลยนะเว่ย เห็นว่าไม่อยากให้พ่อกับแม่บังคับเรียนเสริม” ไอซิสบอกพลางยักคิ้วใต้หน้าม้าหนา

          “ไอซิส..ฉันรักแกจริงๆ” ทั้งคู่พูดแล้วเข้ามากอดไอซิสจนเธอจั้กจี้

          แล้วสองคนก็นั่งติวโดยมีไอซิสเป็นติวเตอร์ชั่วคราว ทั้งสิริสาและเอวาน่ารู้ดีว่าถึงไอซิสจะได้เกรดแค่พออยู่ในเจ็ดสิบห้าเปอร์เซนต์แต่ไม่ได้หมายความว่าเธอจะทำให้มันมากกว่านี้ไม่ได้

          ‘ฉันเก็บเกรดไว้ขอพ่อขอแม่น่ะ’ นั่นป็นสิ่งที่ดารญาบอกทั้งคู่ ไอซิสนั้นร้ายกาจเพราะเธอชอบใช้เกรดต่อรองในการขอซื้อของแพงๆจากพ่อแม่ หัวการค้าใช้ได้นี่นา...

          วันแรกของการสอบผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว นักเรียนหลายคนดูเหนื่อยล้าจากการใช้สมองรวมไปถึงสิริสากับเอวาน่าด้วย แต่ทั้งคู่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไอซิสจะเป็นเช่นนั้นด้วยหรือเปล่าตอนเดินลงจากอาคารเรียนหล่อนยังเปรยๆอยู่เลยว่าอยากไปกินขนมที่ร้านนั้นร้านนี้ โดยไม่ได้คิดเลยว่ามันจะขัดๆกับการเตรียมตัวสอบวิชาชีววิทยาพรุ่งนี้หรือเปล่า

          “พวกแกจะไม่ไปกับฉันจริงๆหรอ” ไอซิสถามเสียงละห้อย เธออยากไปกินไอศกรีมกับเพื่อนๆเธอนี่นา เธอเพิ่งเลิกกับแฟนนะ ทำไมทั้งสองคนไม่ปลอบใจเธอด้วยการพาไปเลี้ยงขนมอร่อยๆหน่อยล่ะ

          “โธ่ ไอซิสแกก็น่าจะเข้าใจว่าพวกฉันยังไม่ได้อ่านสรุปชีวะที่แกให้มาเลย มันไม่ได้จำกันง่ายๆนะเว้ย”ริสาโอดครวญเมื่อนึกไปถึงชีตสรุปวิชาชีวะที่ไอซิสสรุปให้พวกเธออ่านก่อนสอบ

          “ใช่ ถ้าเกรดฉันตกพ่อฉันฆ่าตายแน่” เอน่าบอกพลางทำหน้าสยองประกอบตอนพูดถึงพ่อตัวเอง

          “เออๆ ก็ได้ เชอะ คราวหลังฉันจะให้ชีตแกแบบวันต่อวัน จะได้ไม่ต้องดองไว้แล้วค่อยอ่าน ฉันอุตสาห์ให้พวกแกก่อนสอบตั้งอาทิตย์นึงแล้วทำไมต้องมาอ่านก่อนสอบคืนนึง มันจะจำได้ไหมฮะ!!” ไอซิสบอกพร้อมสะบัดหน้าไปทางอื่นเป็นทำนองว่าเธอกำลังงอนเพื่อนทั้งสองของตัวเองอยู่

          “น่าๆ เอาไว้หลังสอบเสร็จนะ เราค่อยไปกินกัน ฉลองไง น้าๆๆ”สิริสาออดอ้อนเพื่อนรักของเธอ

          “ใช่ๆ ไว้สอบเสร็จ นะไอซิสสุดสวย”เอน่าบอกพร้อมทำหน้าน่าสงสาร

          “เฮ้อ พวกแกนี่น้า ก็ได้ๆ อย่าลืมนัดล่ะ” จนสุดท้ายเธอก็ต้องยอมให้สองสาว

          ทั้งสามแยกกันตรงหน้าอาคาร ไอซิสเดินไปที่จอดรถของโรงเรียนแล้วขับรถกลับบ้าน เธอรู้ตัวว่าวันที่มีแต่คนมองเธอทั้งวัน แต่นั่นไม่ใช่เพราะสวยหรืออะไรหรอกนะ มันเป็นเพราะเธอเพิ่งเลิกกับอดีตแฟนเธอต่างหาก เฮ้อขี้เหร่ขนาดขี้เหร่ยังมีคนมอง ถ้าสวยเมื่อไรไม่อยากจะคิด จินตนาการอย่างหลงตัวพลางขับรถกลับบ้านไปอย่างอารมณ์ดี

          เพราะอากาศประเทศไทยมันร้อนเหลือเกินไหนจะควันจากท่อไอเสีย ควันจากรถเข็นไก่ปิ้ง ควันจากร้านไก่ย่าง แล้วก็สารพัดมลพิษทางอากาศ ทำให้คนที่เพิ่งกลับจากโรงเรียนหมาดๆอย่างไอซิสนั้นเหนียวตัวเป็นที่สุด และด้วยนิสัยของเธอจึงมักจะอาบน้ำทันทีที่กลับจากโรงเรียน

          ผมที่ถูกรวบเป็นเปียสองข้างถูกแกะออกอย่างรวดเร็ว โบว์สีน้ำตาลวางไว้ที่ประจำของมัน แว่นตาหนาเตอะถอดเก็บไว้ในกล่องอย่างดี หน้าม้ายาวเฟื้อยถูกรวบไปขึ้นไปอย่างรำคาญ

          ไอซิสจ้องมองสาวสวยในกระจกที่เป็นเธอเองไม่ใช่ใครอื่น รบกวนอย่าคิดว่าเธอซ่อนใครไว้ในกระจกล่ะ แค่นึกก็สยองแล้ว บรึ๋ย~ สาวสวยในกระจกนั้นเป็นเธอเองใบหน้ารูปไข่คิ้วโก่งคันศร จมูกโด่งเชิดรั้นพองาม แก้มสองข้างแดงระเรื่ออย่างคนสุขภาพดี ผิวหน้าเกลี้ยงเกลาไม่มีฝ้าหรือกระใดๆมาเยือน ดวงตาสองข้างสีน้ำตาลอ่อนนั่นดูคมเฉียบ แค่เพียงตวัดสายตาสองก็แทบจะฆ่าคนได้เพราะมันคม(เว่อร์) นั่นอาจจะเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เธอใส่แว่นตาอยู่ตลอดก็ได้

          ส่วนสาเหตุอื่นนอกจากเป็นคนตาคมน่ะหรือ..

          สองมือถอดชุดออกเตรียมอาบน้ำ ร่างกายเปลือยเปล่าสมส่วนแค่บางส่วนเกินมาหน่อยๆ ผิวขาวอย่างคนไม่ชอบออกแดด แผ่นหลังนวลเนียนตรงปีกด้านซ้ายสักเป็นลวดลายอ่อนช้อยสีทองอ่อนจนแทบมองไม่เห็น เอวคอดกิ่วบิดไปมาอย่างอารมณ์ดีพลางกดรีโมตเปิดแอร์แล้วเดินเข้าห้องน้ำในตัวห้องนอนไปโดยไม่ลืมหยิบไอแพดคู่ใจเข้าไปเล่นด้วย

          พอเปิดประตูเข้าไปก็ต้องแปลกใจเมื่อบางอย่างที่ไม่เคยมีตรงนี้มันกลับมาปรากฏอยู่ด้วย

          มันคือประตูมิติ..

          นี่เป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้เธอยอมสวมแว่นตาเลนส์หนาที่คุณพ่อซื้อให้ มันทำให้เธอไม่เห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น ตอนเด็กๆเธอมักสงสัยอยู่ตลอดว่าไอ้วงที่จะกลมไม่กลมจะรีไม่รีที่ขยับวูบไปมาอยู่กับที่นั่นมันมีเอาไว้ทำอะไร จนวันที่เธอถามคุณพ่อเพราะความอยากรู้นั่นแหละ เขาก็มอบแว่นตากรอบหนามาให้พร้อมกำชับว่าให้ใส่ตลอดเวลา

          คิ้วโก่งของเธอขมวดเข้าหากันแทบผูกเป็นปม เมื่อไรที่เธอถอดแว่นเธอจะเห็นประตูมิติแบบนี้โผล่มาเต็มไปหมด หลากสีเสียด้วย แต่เธอก็ไม่เคยคิดจะเข้าไปหรอกนะ เพราะรู้ดีว่าหากเข้าไปแล้วออกมาไม่ได้เธออาจจะต้องติดอยู่ที่นั้นไปตลอดน่ะสิ แค่คิดว่านั่นเป็นสถานที่ทุรกันดารไม่มีอะไรมารองรับความสะดวกสบายเธอก็ขยาดแล้ว

          แต่...ประตูมิติสีม่วงเธอเห็นไม่ค่อยบ่อยนัก เคยมีอยู่หลายครั้งที่เธอลองสำรวจประตูมิติพวกนี้ดูว่ามันอยู่ตรงไหนบ้างและมีลักษณะเป็นยังไง สีที่เธอพบได้น้อยที่สุดคือสีม่วงนี่แหละ

ถึงเธอเห็นมันบ่อยแต่เธอไม่เคยเห็นพวกสัตว์ประหลาดมันโผล่ออกมาสักครั้งเลยนะ แล้วเธอก็ยังใช้ประตูมิติพวกนี้ไม่ได้ด้วย เพราะเธอลองแหย่มือเข้าไปดูมันก็ทะลุอีกฝั่งอยู่ดี ไม่เห็นจะทะลุไปยังอีกมิติแบบที่คุณพ่อบอกเลยสักนิด

คิดได้ดังนั้นเธอก็ไหวไหล่อย่างไม่สนใจเดินไปแขวนผ้าเช็ดตัวกับราวแขวนแล้วหยิบซองกันน้ำสำหรับเล่นวันสงกรานต์มาใส่ไอแพดมินิของเธอ จะได้หายห่วงเรื่องเปียกน้ำ เธอมักจะเอามันมาเล่นตอนกำลังอาบน้ำเสมอและซองนี้ก็ช่วยได้เยอะทำให้เธอไม่ต้องคอยหันไปเช็ดมือแล้วค่อยมาจิ้ม

“สระผมดีกว่า~” ว่าแล้วก็เปิดฝักบัวลงมาราดรดศีรษะตัวเอง มืออีกข้างหนึ่งก็ถือไอแพดของตัวเองกดเล่นเกมที่เล่นเป็นประจำอย่าง Candy Crush น่าหงุดหงิดตอนนี้ที่เธอติดแหง็กอยู่ด่าน 410 เล่นเป็นอาทิตย์ก็ไม่ผ่านสักที

กว่าจะสระผมได้หัวใจก็หมดพอดี ถึงยังงั้นเธอก็ยังไม่ผ่านด่านนี่เสียที คิดแล้วก็บีบโฟมมาล้างหน้า พร้อมกับกดเข้าเกมประเภทเลี้ยงหมูปลูกผัก แต่มันเป็นเกมที่ไว้เลี้ยงมังกร

“อะไรเนี่ย ได้มังกรซ้ำอีกและ” ไอซิสบ่นเมื่อกดดูของที่เจ้าเขี้ยวกุดมันไปหามาได้เป็นไข่มังกรซ้ำกับตัวที่เธอมีอยู่แล้วก่อนกดให้มันไปหาอีกรอบ กดเก็บนั่นเก็บนี่สักพักเธอก็ล้างหน้าเสร็จพอดี

“เมื่อกี้เราสระผมกี่รอบวะ” เสียงเธอถามตัวเองพร้อมนึกว่าตัวเองสระครบสามรอบหรือเปล่า จากนั้นใบหน้างามก็เกิดการสับสนในตัวเองขึ้นมา

          “สระอีกรอบก็แล้วกัน..” แล้วก็ลงมือสระผมอีกรอบ โดยปกติแล้วเธอมักจะสระผมสามครั้ง เพราะเป็นคนที่ไม่ชอบใช้ตัวครีมนวดเลยต้องเน้นที่แชมพูแทน

          พอล้างผมเสร็จหมดแล้วก็ปิดฝักบัวคว้าผ้าเช็ดตัวมาเช็ดหน้าก่อนเป็นอันดับแรก ต้องเช็ดหน้าเบาๆไม่งั้นใบหน้าที่แสนภาคภูมิใจของเธออาจจะเสียหายได้ ถึงแม้ว่าทั้งสิริสากับเอวาน่ามักจะบอกว่าเธอหน้าหนาก็เถอะ มันก็แค่คำอุปมาน่า

          จ๋อม..แจ๋ม..

          เสียงเท้ากระทบน้ำที่ยังระบายไม่หมดเพราะเธอยังไม่ได้เขี่ยเส้นผมตัวเองที่ไม่ไปอุดท่อ แต่ตอนนี้เธอยืนอยู่เฉยๆนะ แล้วเสียงที่ว่านั่นมายังไง

          ทันใดนั้นเธอก็ลดผ้าเช็ดตัวที่เช็ดหน้าอยู่ลงอย่างรวดเร็ว เธอเห็นคนใส่ชุดเกราะซอมซ่อจะพังแหล่มิพังแหล่ค่อยๆก้าวออกมาจากประตูมิติสีม่วงที่อยู่ในห้องน้ำของเธอ!!

          ในตอนที่โผล่พ้นประตูมิติมาจนหมด ไอซิสซึ่งกำลังตะลึงกับการค้นพบครั้งใหม่ก็ได้สติทันทีเมื่อคนที่พ้นออกมาเป็นผู้ชาย และเธอยังแก้ผ้าอยู่เลย!!!

          ไอซิสอ้าปากหวอไม่ต่างจากชายคนที่ออกมาจากประตูมิตินั้น ดวงตาคู่คมของเธอสบประสานเข้ากับนัยน์ตาสีฟ้าสว่างชวนน่าหลงใหล แถมสายตาของเขายังจ้องมาที่หน้าอกเธออีกด้วย!! พระเจ้าช่วยกล้วยปิ้ง อ้อ เธอไม่ชอบกินกล้วยทอดน่ะ น้ำมันมันเยอะแถมยังอ้วนอีกต่างหาก เดี๋ยว!!ใช่เวลาไหมเนี่ย!!

          ทันทีที่ไอซิสตั้งสติได้เธอก็โยนผ้าเช็ดตัวไปคลุมหน้าของชายคนนั้นเอาไว้พร้อมกับกระโจนเข้าไปหาอย่างรวดเร็วแล้วพันผ้าเช็ดตัวเข้ากับหัวของชายคนนั้นไว้ทำให้เขามองไม่เห็น และใช้จังหวะที่เขาเผลอใช้แรงศิษย์มวยไทยของเธอกระแทกศีรษะเขาเข้ากับขอบชั้นวางที่ยื่นออกมาจากส่วนอ่างล้างหน้า

          ได้ผล..ร่างนั้นแน่นิ่งไปทันที ไอซิสรีบแก้ผ้าเช็ดตัวออกแล้วทิ้งเขาไว้ในนี้ก่อนออกไปรีบแต่งตัวแล้วพาชายคนนั้นออกมาจากห้องน้ำด้วยท่าทางทุลักทุเล เห็นว่าเธอสามารถทำให้เขาสลบได้อย่าเพิ่งคิดว่าเธอเป็นแม่สาวแกร่งล่ะ ยังไงเธอก็ยังเป็นสาวน้อยบอบบางอยู่นะอย่าลืมกันสิ!!

          พอลากชายคนนั้นออกมาจากห้องน้ำได้ก็หาอะไรมามัดก่อนที่เขาจะตื่น...เอาอะไรล่ะ บ้านเธอไม่มีเชือกหรอกนะ จะมีก็แต่เชือกป่านสีรุ้งไว้ทำงานส่งครูเท่านั้นแหละ เอ..จะว่าไปเธอมีกุญแจมือแบบของตำรวจอยู่นี่นา

          “เก็บไว้ไหนน้า..อ้ะ เจอละ” เพราะเป็นคนจำแม่นเลยไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องของหายเท่าไร อ้อ แล้วที่มาของกุญแจมือก็อย่าไปคิดมากกับมันเลยว่าเธอมีมันได้ยังไง ตอนนั้นคลั่งนิยายวายที่มันทารุนล่ะนะ เลยหาซื้อมาเก็บไว้เป็นที่ระลึก ยังมีชื่อเรื่องติดอยู่เลย กุญแจมือสีชมพู~ ส่วนอีกอันเป็นสีม่วง~ เอาไว้ติดขาจะได้วิ่งไม่ได้

          พอจัดการกับคนนั้นเสร็จเธอก็หันไปมองน้ำจากตอนที่พยายามลากเขาออกมา พร้อมกับหงุดหงิดเล็กๆเมื่อมันเลอะเทอะห้องนอนเธอมากเสียเหลือเกิน แต่บ่นไปคงไม่ได้อะไรขึ้นมาดังนั้นเรารีบทำความสะอาดมันดีกว่า

          รอไปสิบนาที.. สลบนานจังแฮะ เล่นเกมรอก็ได้ จากนั้นไอซิสก็หยิบไอแพดขึ้นมาเล่นคุกกี้รันรอชายคนนั้นตื่น

          ยี่สิบนาทีผ่านไป ยังไม่มีทีท่าว่าเขาจะตื่นเลย.. เธอเล่นจนทำลายสถิติเก่าได้แล้วนะ..

          ศีรษะของเขาพลิกไปมาเหมือนไม่สบายตัว ไอซิสจึงวางไอแพดลงแล้วตัดสินใจหยิบหมอนจากบนเตียงมา แล้วยกหัวเขาขึ้นรองหมอน เฮ้อจะมีใครสวยแล้วก็ใจดีแบบเธอบ้างเนี่ย นอนก็ปูให้นอนหมอนก็เอามาให้หนุน

          พอได้มองเขาใกล้ก็พบว่าใบหน้าของเขาเปรอะฝุ่นไปหมด เห็นแล้วเธอก็อดรำคาญไม่ได้เพราะส่วนตัวแล้วเธอเป็นคนค่อนข้างรักความสะอาดพอสมควร ไอ้การจะให้นอนทั้งที่ตัวยังเขรอะอยู่น่ะลืมไปได้เลย

          ดังนั้นไอซิสผู้สวยและใจดีอย่างถึงที่สุดจึงหาผ้าขนหนูพร้อมกะละมังใส่น้ำมาเช็ดหน้าเช็ดตัวทำความสะอาดให้ชายคนแปลกหน้าที่เพิ่งเจอ เขาสวมเกราะสีทองลวดลายปราณีตวาดลวดลายงดงามจนเธอแอบชื่นชมถ้าไม่ติดว่ามันอยู่ในสภาพใกล้พังเธอก็คงจะชื่นชมความงามของมันตรงๆอยู่หรอก ยังไงก็เถอะเธอต้องถอดมันออกก่อนล่ะนะถ้านอนทั้งอย่างนี้ต้องไม่สบายตัวแน่ๆ

          เธอเริ่มด้วยการเช็ดหน้าของเขาแหงสิ มันก็ต้องเช็ดหน้าก่อนอยู่แล้วจะให้เช็ดทั้งตัวแล้วค่อยมาเช็ดหน้ามันก็กะไรอยู่ จะว่าไปแล้วเขาก็หน้าตาดีเหมือนกันนะเนี่ย ผมสีทองด้วยแฮะ น่ามันไส้ชะมัด..ว่าแล้วก็ขยี้ไปทีหนึ่ง

          ไอซิสเห็นเสื้อข้างในชุดเกราะแล้วอึดอัดแทน อืม..ถอดเสื้อนอนก็คงไม่เป็นไรล่ะมั้ง แค่ถอดเสื้อเองนะอย่าคิดอะไรสิ ดังนั้นเธอจึงใช้พละกำลังอย่างมากในการถอดเสื้อของผู้ชายคนนี้พอเสื้อของเขาถูกถอดออกแล้วกล้ามเนื้อเป็นมัดก็ประจักแก่สายตาของเธอ ท่าทางเขาหุ่นดีไม่หยอกนะเนี่ย

แต่สิ่งที่ดึงสายตาเธอได้มากกว่าก็คงไม่พ้นรอยแผลเป็นต่างๆกับแผลสดในตอนนี้..น่าแปลกที่รอยแผลพวกนั้นมันกำลังซ่อมแซมตัวเองอย่างรวดเร็วจนเธอรู้ว่าเขาไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาแน่ๆ หนึ่งแผลใหญ่เหมือนถูกแทงทะลุที่พยายามซ่อมแซมตัวเอง แต่มันช้าจนเธอนึกแปลกใจ เธอก็คงไม่ใจร้ายถึงกับปล่อยให้ตายทั้งอย่างนี้หรอกนะ คิดได้ดังนั้นจึงเดินไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลมาทำแผลให้เขา ก็ยังโชคดีที่มาโผล่ที่บ้านเธอล่ะนะถ้าไปโผล่ที่อื่นคงถูกจับขูดหาหวยไปนานแล้ว

หลังจากทำแผลทำความสะอาดเสร็จพร้อมกับตรวจดูให้แน่ใจว่าไม่มีแผลตรงไหนเล็ดลอดจากการเช็ดแอลกอฮอล์ไปได้เธอก็เก็บอุปกรณ์ทำแผล

          รอให้ชายแปลกหน้าตื่นจนแล้วจนรอดแอร์ที่เปิดไว้ก็ทำงานได้ดีมาก หลังอาบน้ำเราก็จะรู้สึกสบายตัวพอผมเริ่มแห้งเราก็รู้สึกเบาหัว แล้วพอสองอย่างนี้รวมกันเราก็จะง่วงนอน

          ไอซิสมองดูคนที่ยังคงหลับพริ้มอยู่ เธอจัดให้เขานอนข้างๆเตียงของเธอ ไอซิสลูบต้นแขนที่เริ่มเย็นเพราะเปิดแอร์แรงพลางหันไปมองคนที่นอนอยู่ ก่อนถอนหายใจออกมาแล้วเปิดตู้หยิบผ้ามาห่มให้เขา

          หลังจัดแจงห่มผ้าให้คนแปลกหน้าเสร็จก็เป็นตาเธอบ้างที่จะนอนหลับไม่ต่างจากเขา ยังไงเธอก็พอหายห่วงเรื่องความปลอดภัยได้บ้างล่ะนะ เล่นใส่กุญแจมือทั้งมือทั้งขาเลยนี่นา