ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ความทรงจำบทที่1 ตอนที่2 (100%)
บรรยาการกลางห้องโถงในป้อมอัศวิน วันนี้ค่อนข้างน่ากลัวเป็นพิเศษเนื่องมาจากชาวป้อมอัศวินปีสาม ต่างก็มีหน้าตาที่แตกต่างออกไปจากเดิม และรังศีอาฆาตที่แผ่ออกมาจนทั่วห้องโถง บวกกับใบหน้าที่บูดบึ้งราวกับจะไปฆ่าคนที่ไหน ทำให้เหล่ารุ่นพี่รุ่นน้องทั้งหลายไม่กล้าเข้าใกล้ ได้แต่คอยเมียงมองเหตุการณ์ตรงหน้า อยู่ห่างๆด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ขณะที่ตัวตนเรื่องกำลังนั่งจ๋องอยู่กลางวงล้อม ของเหล่าเพื่อนผองที่กำลังแผ่รังศีอาฆาตออกมาเต็มพิกัด ทำเอาเจ้าตัวถึงกับสะดุ้งแล้วสะดุ้งอีกไม่เลิก ก็จะไม่ให้หญิงสาวกลัวได้ยังไง ในเมื่อไม่ว่ามองไปทางไหนก็เจอแต่สายตาแค้นเคือง ของเพื่อนฝูง ซึ่งมันบอกเธอได้ว่า ยังไงยังไงวันนี้เธอก็คงไม่รอดพ้นจากบทลงโทษ ที่เหล่าเพื่อนฝูงคิดขึ้นเป็นแน่ แล้วดูแต่ละคนซิ คิดอะไรเหมือนชาวบ้านเขาเป็นกันที่ไหน เธอตายแน่
"เอ่อ....แหมพวกแกไม่เห็นจะต้องทำหน้าน่ากลัว...แบบนั้นเลยนี่หว่า..."เฟรินตัดสินใจรวบรวมความกล้าขึ้น ต่อรองกับเพื่อนๆหวังลดหย่อนผ่อนโทษลงสักเล็กน้อย แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือการถลึงตาใส่อย่างเคืองๆ ที่พร้อมใจกันส่งมาให้เธอ เอาแล้วไงไม่น่าหาเรื่องเลยเรา เฟรินคิดขณะกำลังก้มหน้าก้มตาทำหน้าสำนึกผิดสงบเสงี่ยมเจียมตัว หวังให้เจ้าพวกลิงทโมนทั้งหลายสงสาร
"เอาเถอะค่ะ มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เรนอนว่าพอคุณเฟรินเอาแหวนออกให้ทุกคนก็น่าจะเลิกโกรธได้แล้วนะค่ะ" เรนอนสาวน้อยแสนน่ารักประจำกลุ่มพูดขึ้น หวังช่วยแม่ตัวแสบที่อยู่ในอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
"โธ่เรนอนเธอไม่มาเป็นพวกเราไม่รู้หรอก ยังไงยังไง...แต่ที่จริงแล้วชั้นก็ไม่ใช่พวกชอบรังแกผู้หญิงปล่อยไปสักครั้งก็ได้" คิลน้อยทำท่าจะเอ่ยคัดเรนอน หมายจะแก้แค้นแม่ตัวยุ่งให้สะใจ แต่เมื่อปะทะเข้ากับ ดวงตากลมโตที่จ้องอยู่ก่อนแล้วด้วยสายตาเอาเรื่อง จากเรนอน ทำให้คำประท้วงทั้งหมดหายกลับเข้าไปในคอทันที
ผู้ชายคนอื่นก็มีสภาพไม่ต่างจากคิลนัด เนื่องจากแต่ล่ะคนเป็นโรคขี้เกรงใจผู้หญิง ซึ่งคราวนี้ผู้หญิงแต่ล่ะคนก็ดูท่าจะเข้าข้างเฟรินไปซะทุกคน และสาเหตุก็มาจากว่า ยัยพวกสาวน้อยทั้งหลายมันกลัวเฟรินจะเอาคืนถ้าไม่ยอมช่วย คราวนี้รอดมาได้ก็ดีแค่ไหนแล้ว ไมม่อยากนึกสภาพยัยพวกนั้นเป็นแบบพวกเราตอนนี้เลยให้ตายสิ
"เอ่อทุกคนชั้นมีเรื่องจะบอก" เฟรินตัดสินรวบรวมความกล้าอีกครั้งแล้วเอ่ยคำต้องห้ามที่เห่าผู้ชายไม่อยากได้ยินออกมา "คำสาปที่ร่ายไว้มันแก้ไม่ได้ จนกว่าจะครบหนึ่งเดือนถึงจะหายไปเอง......"คำพูดของเฟรินค่อยๆเบาลงไปเรื่อยๆ ตามลำดับ เนื่องมาจากสายตาของเหล่าตัวผู้ป้อมอัศวินปีสามที่จ้องมองมานั้น มันเป็นสายตาที่บอกถึงความอาฆาตชนิดฝังลึกที่สุด
อ้าวแล้วน้องหนูเฟรินจะรอดมั้ยเนี้ย (น่าฉงฉาน)
"ปล่อยช้านออกปายน้า เจ้าเพื่อนงี่เง่า เจ้าคิดเจ้าแค้น ฉอดๆๆๆๆๆๆๆๆ"เฟรินโวยวายดังลั่น เมื่อเหล่าเพื่อนๆพากันพิพากษาโดยการจับเธอขังเดี่ยว ไว้ในคุกใต้ดินเพียงลำพัง มันเป็นสถานที่อีกหนึ่งที่ให้ตายยังไงเฟรินก็ไม่กล้าย่างกรายเข้ามาคนเดียวเป็นอันขาด ซึ่งสาเหตุนั้นมีเพียงสาเหตุเดียว จะอะไรซะอีกล่ะถ้าสถานที่นี้ไม่ได้ขึ้นชื่อว่า ผีดุ
"เราทำแบบนี้กับคุณเฟรินดีแน่เหรอค่ะ"เรนอนเอ่ยขึ้นด้วยความสงสาร "ไม่ต้องไปสงสารแม่นั้นเลยนะเรนอน โดนซะบ้างวันหลังจะได้เข็ด"คิลพูดขัดขึ้นมาอย่างไม่เห็นด้วย เมื่อแม่สาวน้อยตรงหน้ากำลังจะใจอ่อน เขาไม่ยอมซะหรอก ถ้าจะให้เขามาอยู่ในสภาพสาวน้อยอย่างนี้ตลอดหนึ่งเดือน เฟรินเองก็ต้องอยู่ในนั้นไปอีกหนึ่งเดือนเหมือนกัน
ขณะที่เหล่าเพื่อนๆกำลังปรึกษาเพื่อหาทางแก้ปัญหาอยู่นั้นเอง เฟรินก็กำลังพยายามอย่างสุดชีวิต เพื่อหาทางออกมาจากห้องขังสุดสยอง ที่ดูยังไงก็ไม่น่าอยู่สักนิด พ่อจ๋าแม่จ๋าเค้าผิดไปแล้ว หญิงสาวนึกคร่ำครวญอยู่ในใจ เธอเข้าใจแล้วว่าคำว่ามานั้งเสียใจทีหลังมันเป็นยังไง ทำไมเพื่อนๆของเธอถึงได้ใจร้ายกันอย่างนี้
จะกักบริเวณเธอก็ไม่ว่าอะไรหรอก แต่มาขังกันไว้ที่นี้มันหมายความว่าไง เธอยอมให้ขังเธอไว้สักสองเดือนด้วยซ้ำถ้ามันไม่ใช่ที่นี้ เฟรินได้แต่คิดฟุ้งซ่านอยู่ตามลำพัง เธอกอดเข่าเ้ข้าหากัน พร้อมมองสำรวจไปรอบๆห้องอย่างเกรงๆ หวังว่าคงไม่มีอะไรโผล่ออกมานะ สิ้นความคิดของหญิงสาว สายตาของเธอก็ไปสะดุดกับอะไรบางอย่าง
"กะ...กรี๊ด............"เสียงร้องแหลมดังกังวานไปทั่วห้องขัง (แต่เนื่องจากเป็นห้องเก็บเสียง คนข้างนอกจึงไม่ได้ยิน) ก็จะไม่ให้เธอกรี๊ดได้ยังไงในเมื่อสิ่งที่เธอเจอคือโครงกระดูกของนักโทษ ที่คนทำความสะอาดคงเอาออกไปไม่หมด หลังจากเจ้าของห้องคนก่อนเดี้ยงไปแล้วหลายเดือน
หลังจากที่ทุกคนพากันเข้านอนไปจนหมด เจ้าคนที่คิดจะลองใจแข็งดูสักหน่อย ก็เกิดอาการใจอ่อนกำเริบ พลิกตัวไปมาบนเตียงอยู่นานสองนาน แต่ก็ยังหลับไม่ลงสักที ในหัวมีแต่เรื่องของแม่ตัวยุ่ง ที่ชอบก่อเรื่องให้เขาและตัวเองเดือดร้อนเสมอๆ ว่าจะสั่งสอนให้หลาบจำ แต่ดูท่าทางเขาคงใจแข็งต่อไปไม่ไหวแล้ว
เมื่อคิดได้ดังนั้น เจ้าชายแห่งคาโนวาลก็ค่อยๆพาร่างเล็กๆของตัวเอง ออกจากห้อง แล้วเดินไปตามทางเดินที่จะนำทางลงไปสู่ชั้นใต้ดิน ใครๆต่างก็รู้ดีว่าเฟรินกลัวผีมากแค่ไหน ไปขังไว้ในนั้นไม่ใช่ว่าแม่ตัวดีของเขาจะร้องลั่นห้องขังไปแล้วเหรอ แล้วไหนจะเรื่องที่แม่ตัวดียังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เช้านั้นอีก ปกติก็เป็นคนกินเก่งอยู่แล้ว มาหาเรื่องให้อดตั้งแต่เช้ายันเย็นแบบนี้ ก็ได้ตายกันพอดีซิ
ขณะที่ร่างเล็กของเจ้าชายน้อยแห่งคาโนวาล กำลังเดินไปตามทางเดินเรื่อยจนใกล้จะถึงจุดหมายอยู่แล้วนั้นเอง เขาก็ได้ยินเสียงแว่วๆ เจ้าตัวรู้สึกได้ว่าเป็นเสียงของหญิงสาวที่เขากำลังจะไปหาอยู่แน่ๆ แต่ทำไมมันฟังดูโหยหวนชอบกลแหะ หรือว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับเฟริน คิดได้ดังนั้นคาโลจึงรีบผลักประตูเข้าไปทันที และสิ่งที่เขากลับทำให้เขาถึงกลับตะลึงค้าง
แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันล่ะเนี้ย ไว้คราวหน้าจะมาต่อให้จบล่ะกันน้อ หุหุ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น