ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บันทึกถึงจันทราในค่ำคืนไร้แสงดาว

    ลำดับตอนที่ #3 : วันที่4-6

    • อัปเดตล่าสุด 15 มี.ค. 50


    วันที่4

                    วันนี้ก็อีกครั้ง ที่เธอจะต้องลากผมมาที่ห้องสมุดหลังจากกระดิ่งเลิกเรียนแผดเสียงร้อง ผมไม่เคยเข้าใจความคิดของเธอ ท่าทางที่บางครั้งดูราวเด็กเล็กช่างขัดกับความคิดอ่านของจีนทร์เสียจริง เธอเป็นคนมองการณ์ไกล สามารถเข้าใจสิ่งที่ลึกซึ้งได้อย่างทะลุปรุโปร่งหากแต่ร่าเริงแจ่มใส ไร้ความกังวลใดราวเด็กไร้เดียงสา

                    "จันทร์ไม่เบื่อบ้างรึ? ต้องมานั่งติวผมเนี่ย"

                    สิ้นคำถาม ริมฝีปากได้รูปคู่นั้นก็คลี่ยิ้มทันที เธอละสายตาจากหนังสือบทสรุปในมือก่อนจะหันมาสบตากับผม

                    "ไม่เบื่อหรอกค่ะ ก็จันทร์บอกแล้วไม่ใช่รึว่าจันทร์ชอบนะ การอยู่กับคนที่เราชอบน่ะไม่เบื่อหรอก"     

                    เธอพูดออกมาอย่างไม่เขินอายจนคนฟังแทบจะเขินแทน ไม่รู้ว่าเธอไปเอาความกล้ามาจากไหนมากมายนัก ความกล้าที่ผมไม่เคยมี

                "อีกอย่างคือ มันเป็นความปรารถนา…"

                    "ปรารถนา?"

                    "ค่ะ ปรารถนา"

                    แววหม่นหมองในดวงตากับรอยยิ้มน้อยๆนั่นทำให้ยากที่จะอ่านความรู้สึกของเจ้าหล่อน ความปรารถนารึ? ผู้ชายอย่างผมมีค่ากับใครบางคนถึงขนาดนั้นได้รึ หรือจะเป็นเพียงเพราะรูปร่างหน้าตาที่ดีกว่าค่าเฉลี่ย

                    "แล้วทำไมถึงเป็นผมล่ะจันทร์?"

                    "… เพราะจันทร์ชอบนะไงล่ะ"

                    หลายครั้งหลายคราที่ผมไม่อาจเข้าใจหล่อนได้ ว่าแล้วทุกสรรพสิ่งก็เหลือแต่ความเงียบเมื่อผมก้มลงมองแบบฝึกหัดต่อและดำดิ่งลงสู่ห้วงความคิดของตนเอง

    วันที่ 5

                    จากปกติที่หลับในห้องเรียนประจำ วันนี้ผมกลับตื่น ถือเป็นเรื่องแปลกเลยทีเดียว แต่คนที่เห็นมันเป็นเรื่องแปลกนั้นไม่ใช่ผมแต่เป็นเหล่าเพื่อนและอาจารย์ น่าแปลกใจ

                    ผมเพิ่งรู้จักกับเธอได้แค่แปดวันแล้วทำไมผมต้องฟังที่เธอพูด ?

                    ผมจบความคิดไว้นั้นและหันไปจดตัวหนังสือต่างๆบนกระดานลงสู่กระดาษสีขาวลายเส้นฟ้า ผมแค่ ทำตามคำขอร้องของเธอเท่านั้น

                "นี่เรียนรู้เร็วนะเนี่ย วันก่อนยังบวกลบเลขผิดอยู่เลย!" น้ำเสียงร่าเริงนั้นทำให้ผมละสายตาจากจานข้าวไปจับจ้องยังใบหน้าของเธอทันที ปกติแล้วผมจะกินข้าวกับกลุ่มเพื่อนอย่างสนุกสนาน แต่วันนี้กลับโดนลากมานั่งทานบริเวณศาลาในสวนสวย อากาศช่างสดชื่นและเย็นสบายเพราะลมหนาวเพิ่งพัดลงมาจากทางเหนือ แดดอ่อนๆทอประกายลงบนบ่อปลาข้างศาลา กลิ่นดอกไม้อ่อนๆลอยขึ้นมาเตะจมูก เป็นความงดงามที่ผมไม่เคยสังเกตเห็นมาก่อน

                    "แน่นอนอยู่แล้ว"

                    "จ้า พ่อคนเก่ง!!" แต่แล้วผมก็สังเกตไปที่รอยฟกช้ำบริเวณแขนขาว ผมเลิกคิ้วขึ้นสูงพลางมองแขนนั้นอย่างพิจารณา

                    "ไปโดนอะไรมาน่ะจันทร์" สิ้นคำถาม เจ้าหล่อนอึกอักอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเผยยิ้มและส่ายหน้า

                    "จันทร์ซุ่มซ่ามตกบันไดน่ะ ไม่เป็นอะไรมากหรอกไม่ต้องเป็นห่วง…" ว่าแล้วเสียงนั้นก็ขาดช่วงไปชั่วระยะก่อนจะเอ่ยขึ้นใหม่ "นะ นะรำคาญจันทร์หรือเปล่า? ที่มาคอยวุ่นวาย"

                "หืม? ไม่นี่ ทำไมรึ?"

                    "ไม่มีอะไรหรอก แต่จันทร์อยากให้นะรู้ไว้ว่าที่ขอเวลาสามเดือนน่ะ จันทร์ไม่ได้คิดจะเหนี่ยวรั้งนะไว้ และไม่ได้หวังว่านะจะชอบันทร์ภายในเวลาแค่สามเดือน จันทร์มีจุดม่งหมายของตัวเองท่ยังบอกนะไม่ได้"

                    ท่าทางของเจ้าหล่อนดูแปลกประหลาดจนทำให้ผมฉงน แต่หลายสิ่งในตัวเธอทำให้ผมฉงนเสมอ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นสีหน้าเศร้าหมองบนดวงหน้ากระจ่างนั่น แต่แล้วสีหน้านั้นก็อยู่ได้ม่าน มันกลับสว่างไสวขึ้นมาอีกครั้ง

                    "ใกล้ปิดคริสต์มาสแล้วนะ วันคริสต์มาสนะไปไหนหรือเปล่า"

                    ผมนิ่งเงียบไปชั่วขณะ ปกติแล้วคริสต์มาสทุกปีผมจะไปฉลองที่ผับไม่ก็ไปเดินสยามกับเพื่อน แต่ปีนี้

                "ไม่ล่ะ จันทร์จะชวนผมไปไหนรึ"

                    รอยยิ้มกว้างบนใบหน้านั่นทำให้ผมสงสัย และคำต่อมาที่หล่อนเอ่ยยิ่งทำให้ผมสงสัยมากขึ้นไปอีก

                    "ความลับค่ะ" 

                   

    วันที่6

                    "ไอ้นะ ช่วงอาทิตย์นี้แกดูเหมือนจะห่างเหินเพื่อนมากเลยนะเว้ย คนไปเที่ยวกันแกก็ไม่ไป" ไอ้เข็มเดินมาคุยกับผมแต่เช้า คำพูดเหล่านั้นทำให้ผมเลิกคิ้วขึ้นสูง "ผู้หญิงคนนั้นเขารั้งแกไม่ให้คบค้าสมาคมกับเพื่อนเลยหรือไงวะ?"

                    "เปล่า…"

                    "แล้วทำไมช่วงนี้แกไม่ไปเที่ยวเลยวะ" สีหน้าเคร่งเครียดของเข็มทำให้ผมรู้สึกผิด ผมอาจจะละเลยเพื่อนฝูงอย่างที่มันว่าก็ได้

                    "ก็ ดูหนังสือ"

                    "แกเปลี่ยนไปมากเลยนะเว้ยไอ้นะ ไหนบอกจะไม่ต่อมหาลัย??" ผมรู้สึกเหมือนกำลังถูกเพื่อนกดดัน

                    "คนเราเปลี่ยนใจกันได้นี่ อีกอย่าง การตั้งใจเรียนไม่ได้หมายความว่าจะต้องเรียนต่อเสมอไป…"

                    "ไอ้นะ แกคิดว่าพวกเราหูหนวกตาบอดหรือไงวะ? ยัยนั่นทำอะไรกับแกน่ะถามจริง?!"

                    "แกนี่ชักจะไปใหญ่แล้วนะไอ้เข็ม"

                    ผมหันหลังพร้อมจะเดินหนี เพราะรู้ดีว่าหากคุยต่อจะต้องได้มีเรื่องกันแน่ๆ

                "แล้วแกจะไว้ใจผู้หญิงคนนี้ได้สักแค่ไหนเชียว แกเพิ่งจะรู้จักเขาได้เท่าไหร่กันห๊ะไอ้นะ!! แล้วเพื่อนน่ะแกคบมากี่ปีแล้ว?"

                    ไม่รู้ว่าเข็มพยายามจะบอกอะไรผม แต่ถึงกระไรผมก็ไม่ยอมหันหลังกลับไป

                    "ที่เตือนเนี่ยเพราะหวังดีหรอกนะไอ้บ้า!"

                    เสียงตะโกนไล่หลังทำให้ผมฉุกคิดถึงบางสิ่งบางอย่าง ความหวาดระแวงที่ฝังรากหยั่งลึกอยู่ในสัญชาตญาณของสัตว์ทุกชนิดเหมือนกับจะตื่นขึ้น

                    ที่เข็มพูดมันก็ถูก เธอเป็นใคร? อยู่ดีๆเธอก็เดินเข้ามาในชีวิตผม และเธอเองก็บอกด้วยว่ามีจุดประสงค์บางอย่างที่บอกผมไม่ได้แล้วผมจะไว้ใจเธอได้แค่ไหนกัน?...


     

    แสงจันทร์เอยหรือจะเป็นเพียงมายา

    หลอกลวงตาลวงใจให้ลุ่มหลง

    อาจแค่เพียงแสงสลัวไร้ตัวตน

    อันคนนั้นยากนักจะเข้าใจ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×