ภายในห้องนั่งเล่นที่อยู่ภายในตัวห้องสูทของโรงแรมชื่อดัง หญิงสาวกำลังนั่งรอบางอย่างอยู่ที่เก้าอี้เบาะนุ่ม แล้วซักพักเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
" ก๊อกๆ รูมเซอร์วิสครับ"
หญิงสาวค่อยๆลุกขึ้นไปเปิดประตู และทันทีที่สายตาของเธอมองไปยังพนักงานโรงแรม เธอก็ต้องนิ่งงันไปด้วยเพราะ...
" ณรงค์... "
เสียงอุทานชื่อของคนที่อยู่ตรงหน้าดังออกมาจากปากของหญิงสาวอย่างแผ่วเบา และก็ไม่ใช่เพียงเธอคนเดียวหรอกนะที่ชะงักงันไปเมื่อเห็นหน้าของอีกฝ่ายน่ะ บุคคลที่อยู่ตรงหน้าของเธอก็มีอาการเช่นเดียวกัน
" อร... "
ก็ไม่ผิดหรอกนะที่ทั้งคู่จะมีอาการเช่นนี้เมื่อพบกันน่ะ หลังจากเรื่องราวเมื่อครั้งนั้น
ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดได้ง่ายๆ ผู้คนที่เดินอยู่บนท้องถนนนั้นต่างก็รีบวิ่งเข้าหาที่กำบังเพื่อหลบฝน แต่ทว่ามีเพียงสองร่างเท่านั้นที่ยังคงยืนเฉย และสักพักหนึ่งในสองคนนั้นก็เอ่ยขึ้นมาว่า
" อร ผมว่าเรารีบไปหลบฝนจะดีกว่านะ เดี๋ยวคุณจะไม่สบาย "
น้ำเสียงที่แสดงความเป็นห่วงเป็นใยนี้ หากเป็นเมื่อก่อน...ก่อนที่เขาจะเรียกเธอออกมาเพื่อบอกบางสิ่งบางอย่างแก่เธอในวันนี้เธอคงจะดีใจและอบอุ่นในใจเป็นอย่างมาก แต่ทว่าในยามนี้มันกลับยิ่งทำให้เธอปวดร้าวมากยิ่งขึ้น อรนุชหันไปมองหน้าชายหนุ่มด้วยแววตาว่างเปล่า และก็พูดออกมาอย่างเย็นชาว่า
" เป็นห่วงรึไง... "
ชายหนุ่มนิ่งงันไปเมื่อได้ยินน้ำเสียงแบบนั้นออกมาจากปากของเธอ ณรงค์ไม่แปลกใจหรอกนะที่เธอจะโกรธเขา เพราเขาเองที่เป็นฝ่ายทำร้ายจิตใจของเธอ แล้วอรนุชก็หันหลังให้กับเขา และก็ค่อยๆเดินจากไป... จากเดินก็เริ่มเปลี่ยนมาเป็นวิ่ง.... แล้วน้ำตาที่ถูกสะกดกลั้นไว้ก็ไหลทะลักออกมาจากดวงตาสวย
อรนุชวิ่งไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย เธอยังทำใจไม่ได้กับการที่ณรงค์บอกกับเธอว่า ' เขากำลังจะหมั้น '
ใช่แล้ว วันนี้เขานัดเธอออกมา และทั้งคู่ก็ไปเที่ยวกันตามปกติโดยที่เธอไม่รู้เลย ว่านี่จะเป็นการเที่ยวระหว่างเธอกับเขาเป็นครั้งสุดท้าย
ในตอนเย็น ณรงค์พาอรนุชมาที่สวนสาธารณะที่อยู่กลางเมือง อรนุชแปลกใจเล็กน้อยเมื่อณรงค์บอกเธอว่า เขามีเรื่องบางอย่างที่จะบอกกับเธอ เขาพาเธอมาที่มุมหนึ่งที่ลับตาคนหน่อยเพื่อจะบอกเรื่องสำคัญกับเธอ และเขาก็เอ่ยขึ้นมาว่า
" อร เราอย่าพบกันอีกเลยนะ "
หญิงสาวค้างไปเมื่อได้ยินประโยคนี้ออกจากปากของเขา และเธอก็ถามเขาซ้ำอีกครั้งเพื่อจะได้แน่ใจว่าสิ่งที่เธอได้ยินนั้น หูของเธอแค่ฝาดไป เป็นไปไม่ได้หรอกที่ณรงค์จะบอกเลิกกับเธอน่ะ แต่ประโยคที่ย้ำคำเดิมขึ้นมาอีกครั้งก็ทำให้เธอแน่ใจได้ว่า เธอได้ยินไม่ผิดไปแน่ๆ
" หมายความว่ายังไงกัน ณรงค์ อย่าพบกันอีก นี่คุณล้ออรเล่นใช่มั้ยค่ะ "
หญิงสาวถามสีหน้าซีดเผือก
" เปล่าหรอกนะอร ผมพูดจริง เราอย่าพบกันอีกเลยนะ "
" ทำไม... "
หญิงสาวหันมาถามเขาด้วยน้ำเสียงเครือ ใกล้จะร้องไห้
" ผมกำลังจะหมั้น... "
" ไม่จริง บอกอรสิค่ะว่ามันไม่จริง แล้วเรื่องระหว่างเรา... "
" อร เรื่องระหว่างเราน่ะ มันไม่มีอีกแล้ว "
ได้ยินเพียงแค่นั้นเธอก็ค้างไป เป็นไปไม่ได้ใช่มั้ย ทำไม ทำไมณรงค์ถึงทำกับเธอแบนี้ เขาบอกเธอมาเสมอว่าเขารักเธอ และเขาก็ไม่เคยทำให้เธอต้องผิดหวังเลยตลอดสี่ปีที่ผ่านมา แต่นี่..อยู่ดีๆเขาก็มาบอกเลิกกับเธอ มันเพราะอะไรกัน เขากำลังจะหมั้น...มันเป็นไปไม่ได้ ทำไมเธอไม่เคยรู้มาก่อนล่ะ เขาไม่เคยมีท่าทีว่าจะนอกใจเธอมาก่อนนี่ แล้วทำไม...มันเป็นไปไม่ได้
ณรงค์ดูเหมือนกับจะเดาความคิดของเธอออก เขาจึงบอกกับเธอว่า
" อร เรื่องที่ผมพูดมาทั้งหมดมันเป็นความจริง ผมกำลังจะหมั้น และมันไม่ใช่เพราะความผิดของคุณหรอกนะ ผมรักคุณมาก แต่คุณรู้มั้ยว่าถึงผมจะรักคุณมากซักแค่ไหน แต่ผมก็ไม่อาจทำร้ายครอบครัวของผมได้ คนที่ผมกำลังจะหมั้นด้วย เค้าเป็นลูกสาวของบริษัทส่งออกขนาดใหญ่ และเค้าก็สามารถที่จะช่วยครอบครัวของผมจากการล้มละลายได้ ผมหวังว่าคุณคงจะเข้าใจผมนะ "
ได้ยินเพียงแค่นั้นก็เกินพอแล้วสำหรับข้ออ้างที่เขามี เธอนิ่งไปและสักพักสายฝนก็โปรบปรายลงมา เขาชวนเธอหลบฝนด้วยน้ำเสียงที่แสดงความเป็นห่วงเป็นใย แต่บัดนี้ มันไม่มีความหมายกับเธอเสียแล้ว
เธอหันหลังและเดินออกมา แล้วก็เปลี่ยนเป็นวิ่ง วิ่งไปอย่างไร้จุดหมายอย่างคนที่หัวใจแตกสลาย ตอนนี้ความรู้สึกของเธอมันด้านชา และก็ไม่ที่จะสามารถรับรู้อะไรได้อีก มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่เธอเข้ามาอยู่ในห้องพักของเธอโดยที่เธอก็ไม่รู้เช่นกันว่าเธอเข้ามาได้อย่างไร และเธอก็พบกับโน้ตที่วางไว้ข้างโทรศัพท์ มันเป็นข้อความจากมารดาของเธอที่กรุงเทพ มีใจความหลักว่าอยากให้เธอกลับไปทำงานที่เมืองไทยหลังจากที่เธอออกมาทำงานที่ประเทศอังกฤษนี้เป็นเวลาถึงห้าปีเต็ม
อรนุชตัดสินใจที่จะกลับมายังประเทศไทยภายในหนึ่งสัปดาห์หลังจากเรื่องราวในครั้งนั้น เธอใช้เวลาอยู่นานสำหรับการเยียวยาหัวใจ จากการช้ำในในครั้งนั้น และบัดนี้เวลาก็ผ่านมากว่าห้าปี เธอและเขาก็กลับมาพบกันอีกครั้งในภาพลักษณ์ที่เธอคาดไม่ถึง
" ณรงค์... "
อรนุชอุทานเมื่อเห็นหน้าเขา และเขาก็เช่นกัน แต่สิ่งที่ทำให้เธอแปลกใจมากที่สุด ก็คือทำไมคนที่เธอคาดว่าตอนนี้คงจะนั่งบริหารงานในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่อังกฤษ กลับกลายมาเป็นพนักงานโรงแรมที่กรุงเทพนี่ได้ล่ะ
" อร ผมขอถามอะไรหน่อยได้มั้ย "
ชายหนุ่มเอ่ยถามขึ้นมาหลังจากที่ทั้งสองต่างก็ค้างไปครู่หนึ่ง
" อืมม เข้ามาก่อนสิ "
และทั้งสองก็เดินเข้าไปในห้องสูทขนาดใหญ่ของโรงแรม ทั้งคู่นั่งลงตรงข้ามกัน และอรนุชก็เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ
" มีอะไรก็พูดมาสิ "
" เอ่อ คือ ตอนนี้อรสบายดีมั้ย "
" อืมม สบายดี แล้ว คุณล่ะ ทำไมคุณถึงมากลายเป็นพนักงานโรงแรมของที่นี่ได้ "
" เอ่อ คือตอนนั้น หลังจากที่ผมหมั้นกับโรซานแล้ว ทางฝ่ายนั้นเค้าเกิดสืบทราบมาได้ว่าบริษัทของพ่อผมกำลังจะล้มละลาย พวกนั้นเค้ารับไม่ได้เค้าก็เลยขอถอนหมั้นผม บริษัทของเราจึงล้มละลาย ครอบครัวผมก็เลยกลับมาตั้งหลักกันใหม่ที่เมืองไทยนี่ล่ะ แล้วก็อย่างที่เห็น ผมก็มาเป็นพนักงานที่โรงแรมนี้ยังไงล่ะ "
" หรอ ชั้นเสียใจด้วยนะที่เรื่องมันเป็นแบบนี้ "
" อร.... ความรู้สึกของผมตอนนี้ มันยังไม่เปลี่ยนไปจากเดิมนะ "
หญิงสาวได้ฟังก็รู้ความหมายที่เขาต้องการจะสื่อทันที แต่มันสายไปแล้ว เรื่องระหว่างเธอกับเขามันไม่มีทางที่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ หลังจากที่เขาเป็นฝ่ายทำลายมันลง และในตอนนี้หัวใจของเธอก็ไม่รู้สึกอะไรกับเขาอีกแล้ว
" ณรงค์ ชั้นรู้นะว่าคุณหมายถึงอะไร แต่เรื่องระหว่างเรามันจบลงไปแล้ว มันจบลงตั้งแต่ตอนที่คุณบอกเลิกกับชั้นแล้ว "
" แต่อร เราสามารถเริ่มต้นกันใหม่ได้นะอร "
" แต่สำหรับอร แก้วที่แตกไปแล้ว มันไม่สามารถที่จะกลับมาเป็นแบบเดิมได้หรอกนะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แก้วใบนั้นมันแตกละเอียด "
" อร จิตใจคนเรามันไม่ใช่แก้วน้ำนะ เราสามารถสร้างมันขึ้นมาใหม่ได้นี่ "
" ไม่หรอกนะ เพราะตอนนี้ อรไม่ได้คิดอะไรกับคุณแล้ว หัวใจของอรมันเปลี่ยนไปแล้วล่ะ และก็ไม่มีทางที่มันจะกลับมาเป็นแบบเดิมด้วย "
ได้ฟังคำของเธอ ความหวังที่ซ่อนอยู่อย่างเลือนรางลึกๆภายในใจของณรงค์ก็แตกสลายไป ใช่สิ เขาเป็นฝ่ายที่ทำร้ายจิตใจเธอนี่ เธอคงจะไม่อภัยให้เขาสินะ ก็สมควรแล้วล่ะสำหรับคนอย่างเขา
" ผมคงต้องไปแล้วล่ะ ดูแลตัวเองดีๆนะอร "
ชายหนุ่มกล่าวอำลาเธอ แล้วเขาก็เดินออกจากห้องของเธอไป ทิ้งไว้เพียงบรรยากาศมัวหม่องที่ตนเป็นผู้ก่อไว้
จริงอยู่ว่าแผลใจของอรนุชนั้นได้รับการเยียวยาแล้ว ด้วยเวลา แต่นั้นก็มิได้หมายความว่าเมื่อเธอเจอเขาเธอจะไม่รู้สึกแย่ การได้เจอเขาในสภาพที่ผิดไปจากที่เธอคิดไว้นั้นมันสร้างความรู้สึกบางอย่างให้เธอ
ใช่จะเป็นความเจ็บปวด แต่มันคือความสงสาร เวทนา และสมเพชอดีตคนที่ได้ชื่อว่าเป็นคนรักต่างหาก...
*********************************************************************
คำฝากจากคนเขียน ... : ) ...
ความรักเป็นสิ่งที่ทุกคนมีได้และควรจะมี แต่หากในบางที่ถ้าคุณไม่รักษาหรือดูแลรักนั้นให้ดี ความรักของคุณก็อาจจะหลุดลอยไปอย่างที่อาจจะไม่มีวันที่จะได้มันกลับคืนมาอีกเลย อย่าดูถูกคำว่ารักว่าเป็นเพียงคำๆหนึ่งว่าเป็นเพียงแค่คำพูดลอยๆว่าไม่มีค่าและความหมายใดๆ เพราะในบางที คำว่ารักคำนี้แหละที่จะเป็นสิ่งที่ทำให้คุณมีความสุขอย่างสุดจะหาใดเปรียบและมันก็อาจจะทำให้คุณต้องทรมานหัวใจไปจนตาย.....
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น