ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Will you be mind ? เตี้ยคนนี้ผมขอ [ Donghyun x Minwoo ]

    ลำดับตอนที่ #9 : ไม่ได้เป็นอะไรกัน...

    • อัปเดตล่าสุด 24 ก.ค. 55


    THE★ FARRY



     

                                                                           9

     

                                                           



                                                                         

     

                                                                 ไม่ได้เป็นอะไรกัน

     

     

     

     

     

     




     

     

       ผมหลับตาแน่นในขณะที่ความรู้สึกโหวงเกิดขึ้น มีเพียงลมแผ่วเบาพัดผ่านใบหน้าผมไปทำให้ลืม ตามองเหตุการณ์ตรงหน้าที่ตอนนี้กวังมินถูกใครบางคนกำคอเสื้อไว้แน่น ก่อนจะต้องเบิกตากว้างเมื่อคนนั้นง้างหมัดขึ้นก่อนจะปล่อยหมัดใส่หน้าอีกคนจนล้มไปกับพื้น นี่มันบ้าอะไรกัน





     

    “ กวังมิน! ” ผมรีบโดดลงไปประคองร่างสูงที่ปากแตกจากการโดนชก

     

    “ จะไปปกป้องมันทำไม ” แรงกระชากจากต้นแขนให้ผมลุกไปยืนข้างเขา สายตาที่มองกวังมินดูโกรธจนแทบจะมีรังสีแผ่ออกมา ทำไมต้องโมโหขนาดนี้วะ

     

    “ กวังมินเป็นเพื่อนผม ” นัยน์ตาสีดำมองผมอย่างไม่เข้าใจ

     

    “ เพื่อนที่ไหนเขาทำแบบนี้กัน  แล้วปากไปโดนอะไรมา ”  

     

    ! ” ผมสะดุ้งกับเสียงที่กดต่ำบ่งบอกอารมณ์โกรธจัด  




     

    “ ไม่น่าถาม ก็น่าจะรู้ดีนี่ครับรุ่นพี่ดงฮยอน ”





                   กวังมินจ้องตาคนข้างๆผมโดยที่ยังนั่งอยู่ที่เดิม พอคนข้างๆผมได้ยินอย่างนั้นก็คิ้วกระตุกเลยครับ มือหนาที่จับแขนผมไว้บีบแน่นขึ้นจนผมต้องนิ่วหน้า  เจ็บ..  ผมได้แต่กัดฟันอย่างอดทน สังเกตสีหน้าอารมณ์ของร่างสูงที่นิ่งอย่างกับรูปปูนปั้น  ปูนซีเมนต์ด้วยเหอะ จะโวยวายใส่ผมยังไม่กล้า  แผ่รังสีทะมึนขนาดนี้ 

     

    “ อย่าบอกนะว่านาย

     

    “ ใช่ ผมจูบมินวู ปากนุ่มชะมัด ” ไอ้บ้า ดูมันพูด -/- (ควรจะเขิน?) 

     

    “ ไอ้กวังมิน!! ” ดงฮยอนปล่อยแขนผมแล้วถลาเข้าไปจะต่อยซ้ำอีกรอบแต่ผมดึงแขนเขาเอาไว้สุดแรงเกิด ย้ำว่าสุดแรง!แทบเกือบจะปลิวตาม นี่ก็จะบ้าหรอไง ทำไมชอบใช้ความรุนแรงนักวะ 

     

    “ รุ่นพี่คิดว่าทำอะไรอยู่ หวงมินวู หึงมินวูงั้นหรอ ” คำพูดของกวังมินทำให้ผมฉุกขึ้นได้ นั่นสิ หึงหวง? เขามีสิทธิ์อะไรกัน   

     

    “ ถ้าใช่แล้วจะทำไม ”

     

    “ รุ่นพี่เป็นอะไรกับมินวู ก็ไม่ได้เป็นไม่ใช่หรอไง ” ใช่ ไม่ได้เป็น เราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลยด้วยซ้ำ  ผมคิดตามที่กวังมินพูด เงยหน้าขึ้นมองหน้าดงฮยอน

     

    “ นายจะหมายถึงอะไร ”

     

    “ พอเถอะรุ่นพี่ มันจริงอย่างที่กวังมินพูด ”

     

    “ มินวู ”ผมปล่อยแขนอีกคนลงแล้วเดินไปพยุงกวังมินให้ลุกขึ้น นั่งสบายเชียวนะ =___=

     

    “ พี่มีสิทธิ์อะไรที่มาทำแบบนี้ เหอะ ตลกชะมัด ”

     

    “ พี่ขอโทษ ” ดงฮยอนนิ่งไป คงจะแทงใจสินะ ทำอย่างกับว่าผมเป็นของเขาอย่างงั้นแหละ ทีตัวเองล่ะ ทำอะไรไว้กับผมบ้างไม่คิดบ้างหรอว่ามันไม่ควร ทั้งที่เราไม่ได้เป็นอะไรกันซักหน่อย ที่ผ่านมาทำไมผมถึงปล่อยให้เขามาทำแบบนั้นนะ มันเพราะอะไรกัน ผมบ้าไปแล้วแน่ๆ   

     

    “ ไปกันเหอะกวังมิน ” ผมจับมือคนตัวสูงแล้วเดินผ่านร่างที่ยืนแข็งเป็นหินออกมา ต่อจากนี้ มันต้องไม่มีอะไรแบบนั้นเกิดขึ้นอีก



             


                   ...ผมไม่ได้ง่ายนะ  

     

     

     

     

     

     

     

    ณ สวนหลังอาคาร

     

     

    ต้นหญ้าสีเขียวครอบคลุมพื้นที่กว้างที่ไม่ใหญ่มากนัก ผมทิ้งตัวลงกับพื้นหญ้าก่อนจะฉุดมืออีกคนให้นั่งตามลงมา มือแตะที่มุมริมฝีปากอีกคนที่ช้ำอย่างเห็นได้ชัด

     

    “ เจ็บไหม ”

     

    “ เจ็บดิวะ แม่งหมัดหนักโคตรอะ ”

     

    “ ก็ดันเล่นอะไรไม่รู้เรื่อง เปลืองตัวฉันจริงๆ ” แม่งเล่นไซร้คอซะ ขี้ไคลติดจมูกเลยมั้ง

     

    “ ไม่ทำอย่างนี้หมอนั่นจะรู้ตัวหรอ ” ก็จริง เมื่อกี้มันก็แค่จัดฉากตามแผนกวังมินกระซิบบอกในตอนแรกที่ออกมาจากห้องน้ำเท่านั่นล่ะ หมอนี่แกล้งคนเก่งใช่ไหมล่ะ   

     

    “ เออ ขอบใจละกัน ”

     

    “ เหอะ ดีใจไหมล่ะ หวงนายน่าดู ”

     

    “ ดีใจบ้าอะไรล่ะ ทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของฉันไปได้ แฟนก็ไม่ใช่ ”

     

    “ พูดแบบนี้ หวังอะไรอยู่รึเปล่า ”

     

    “ เปล่า ” หวัง? อย่างผมจะไปหวังอะไร

     

    “ งั้นก็ดี... ” กวังมินพึมพำก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง “ นี่ถ้ายองมินเห็นสภาพปากฉันต้องโกรธแน่ๆเลย ”

     

    “ ก็คงงั้น ”

     

    “ ไม่คิดจะช่วยฉันมั้งหรอ นี่มันผลพวงจากการช่วยนายนะเว้ยไอ้เตี้ย ”

     

    “ ไม่ได้ขอให้ช่วยนี่หว่า ;P ” 

     

    “ พูดงี้ได้ไง รู้งี้ขังนายไว้กับรุ่นพี่ในห้องน้ำสองคน ปล่อยให้โดน แหวะ! ” ยังไม่ทันที่กวังมินจะพูดจบก็โดนผมยัดหญ้าที่ดึงจากพื้นยัดปากเต็มๆ

     

    “ สมน้ำหน้า ฮ่าๆๆๆ ”

     

    “ ไอ้เตี้ย! ” ผมหุบปากแล้วลุกขึ้นวิ่งทันที เราวิ่งไล่กันอีกแล้ว = =^ ไม่ต้องเรียนมันละวันนี้ โดดยาวยันเย็นเหอะ สมองผมตอนนี้ก็ไม่มีอารมณ์จะรับอะไรเข้าหัวแล้วเหมือนกัน

     


     

    เลิกเรียน ผมกับกวังมินไปรับยองมินกัน โรงเรียนแม่งใหญ่มากกก นักเรียนในยูนิฟอร์มโรงเรียนนี้มองผมกับกวังมินที่ยืนอยู่หน้าประตู คงจะเป็นเพราะชุดน่ะ


     

    “ กวังมิน รอนานไหม ” เจ้าของเรือนผมสีทองที่ตอนนี้ดูหม่นลงเดินออกมาจากรั้วโรงเรียน ย้อมผมใหม่? โอ้โหแหะ คนน้องก็ตัดผม คนพี่ก็ย้อมหัว เพื่ออะไร?   

     

    “ ไม่นานหรอก นั่นปากไปโดนอะไรมา ” ยองมินเหลือบมองริมฝีปากน้องชายฝาแฝดที่ตอนนี้ช้ำจนเห็นได้ชัด

     

    “ เอ่อ” กวังมินอึกอัก

     

    “ ฉันทำเองแหละ พอดีมันเป็นอุบัติเหตุน่ะ ” ผมก้มหน้าทำท่าสำนึกความผิดเต็มที่ ฉันช่วยนายแล้วนะเว้ยกวังมิน

     

    “ ไอ้เตี้ย รังแกน้องฉันหรอ ” ฉันสิโดนรังแก - -^ แหกตาดูไหม รอยเขี้ยวยังอยู่ที่ปากอยู่เลย โอ้ย จะไปนึกถึงทำไมวะเนี่ย

     

    “ อย่าไปโกรธมินวูเลย ก็แค่อุบัติเหตุไง ผมยังไม่ว่าอะไรเลย ”

     

    “ เอางั้นก็ได้ ”

     

    ^[++++]^ ” เพราะยิ้มหน้าบานเลยโดนมือยองมินขยี้หัวแรงๆ “ ไอ้บ้า ไม่ใช่เด็กนะเว้ย ”

     

    “ เฮ้ย ยองมิน นั่นแฟนนายหรอน่ารักจัง ” ชายคนหนึ่งเดินมาตบหลังแฝดคนพี่ดังปึก  ฟะ..แฟน?

     

    “ เพื่อนต่างหาก - -; ” ผมรีบปฏิเสธ จะบ้าหรอไม่มีตารึไง “ ขอตัวก่อนนะ ว่าจะแวะซื้อของก่อน ”

     

    ผมแยกตัวออกมาก่อนจะเดินไปที่ร้านเค้กผสมไอศกรีม สายตามองป้ายชื่อร้าน ที่นี่เองสินะ ที่รุ่นพี่จองมินชอบมาซื้อเค้กไปกินบ่อยๆ แต่ไม่รู้แฮะว่าซื้อแบบไหนไปกิน เสี่ยงดีไหม ยังไงก็แค่ต้องให้เจ้าตัวสงสัย แล้วมาตามตัวพาร์ทเนอร์อย่างผมล่ะนะ

     

    ผมมองเจ้าพวกเค้กช็อกโกแลตในตู้กระจก หน้าตาน่ากินทุกอันเลย แบบไหนดีนะ ซื้อเจ้านี้เสร็จแล้วซื้อไอศกรีมกลับไปด้วยดีกว่า ^O^

     

    “ พี่ครับ เอาแบบนี้ชิ้นนึงครับ ” ผมชี้เค้กช็อกโกแลตที่มีหน้าตาเรียบๆ แต่มันดูน่ากินมากเลย แอบอยากกินบ้างแฮะ =w=

     

    “ เปลี่ยนเป็นสองชิ้นดีกว่าครับพี่ ^-^

     

    “ ได้ครับ (: ” พนักงานยิ้มตอบ บริการดีเนอะ บรรยากาศในร้านก็ดี ผมซื้อไอศกรีมเพิ่มแล้วยิ้มให้พี่พนักงานอีกทีหลังรับเงินทอน   

     

    พลันสายตาสะดุดกับเส้นผมสีแดง เห็นแล้วนึกนึกใครอื่นไม่ได้เลย ทั้งเรื่องมันก็มีอยู่คนเดียวนั่นแหละ! -3-   แต่คงไม่ใช่มั้ง ถึงจะใช่ มันก็ไม่เกี่ยวกับผมซักหน่อย ผมหยุดมองแล้วไล่ความคิดออกไป จะไปนึกถึงเขาทำไมวะ ผมก้าวขาจะเดินออกแต่ทว่าเห็นคนตาหยีผมสีน้ำตาลบลอนด์กำลังจะเข้าร้านมา

     

    “ พี่ครับฝากให้ผู้ชายตาหยีๆที่กำลังเข้ามาด้วยนะครับ ตรงนั้นน่ะ  บอกว่าจากพาร์ทเนอร์นะครับ ^^ ” ผมหยิบชิ้นเค้กให้พนักงานแล้วส่งยิ้มตาปิดให้ ก่อนจะเดินไปหลบมุมหลังป้ายไอศกรีมที่อยู่ทางด้านซ้ายของตู้กระจก พอคนตาหยีเดินเข้ามาข้างใน ผมก็รีบเดินออกไปแบบเนียนๆ เพราะตาไวมองเห็นว่าร้านนี้มีประตูอยู่อีกทางข้างๆนี้เอง ผมเลยใช้เป็นทางออกโดยไม่โป๊ะเช๊ะกับพี่จองมินแต่อย่างใด

     

    ผมรอข้ามถนนพร้อมคนอื่นๆ แถวนี้นักเรียนเยอะเหมือนกันแฮะ ผมเดินไปทางหน้าโรงเรียน จากตรงนี้ก็

     

    “ อ้าว เพื่อนยองมินนี่ ยังไม่กลับอีกหรอ ” มือหนาของคนร่างสูงแตะไหล่ผมก่อนจะยิ้มให้ ผมมองหน้าอีกคนแบบงงๆ ใครวะ? “ เอ่อ ฉันเพื่อนยองมินไงคนเมื่อกี้ที่ฉันทักนายว่า ” เป็นแฟนยองมิน - - เหอะ จำได้ละ

     

    “ โทษทีไม่ได้จำ มีอะไรหรอ ^^ ” ผมยิ้มบางๆให้คนตรงหน้า  

     

    “ จะบอกว่ายองมินกับฝาแฝดกลับไปแล้วน่ะ ” รู้อยู่แล้วล่ะ ก็ไม่ได้บอกให้สองคนนั้นรอนี่

     

    “ ฉันกำลังจะกลับเหมือนกัน ไปนะ ”

     

    “ เดี๋ยวสิ ” ผมหันกลับมาใหม่ตามเสียงเรียกแล้วเลิกคิ้วขึ้นเป็นเควสชั่นมาร์ก แต่อีกคนก็ยังยืนนิ่ง “ ไปส่งไหม? ”

     

    “ ไม่ต้องหรอก ขอบใจ ” คิดไงจะไปส่ง มุกเห่ยชะมัด ผมรีบเดินออกมาราวกับกลัวว่าจะโดนเรียกอีก ผมมองป้ายรถประจำทางที่อยู่ห่างไปไม่ไกลนัก ยังดีที่มีสายรถประจำทางที่ผ่านแถวบ้านอยู่ เดี๋ยวลงแล้วก็เดินอีกหน่อยละกัน

     

    ทว่ามีแรงดึงกระเป๋าเป้จากข้างหลังทำให้ผมต้องเซถอยลงมา ก่อนจะหันไปมองคนที่ทำให้ผมหยุดเดิน ใครอีกล่ะเนี่ย  




     

    “ พี่ดงฮยอน!




                     โผล่มาได้ไงวะ
    -0-! รึว่าหัวแดงๆที่เห็นก่อนหน้านี้นี่….เขาเองหรอ?

     

    “ จะไปไหน ”

     

    “ ทำไมต้องบอก ” จะไปไหนมันก็เรื่องของผม เกี่ยวไรด้วยอ่ะ -3-

     

    “ เป็นห่วงเลยอยากรู้ ” เหอะ ฉันไม่หวั่นไหวกับคำของนายหรอก

     

    “ งั้นไม่ต้องรู้ จะได้ไม่ต้องมาห่วง ^^

     

    “ งั้นไปด้วย กำลังว่างพอดี ” หะ? นี่หาเรื่องจะอยากรู้ให้ได้เลยใช่ไหม

     

    “ ว่างก็กลับบ้านไปดิ ”

     

    “ อยากอยู่กับนาย ไม่ได้เป็นอะไรกัน ก็อยู่ได้ใช่ไหม? ” เอ่อ  อารมณ์ไหนกันวะ ผมตามเขาไม่ทัน จะทำเสียงเศร้าทำไมเนี่ย

     

    “ เอ่อ ก็ได้มั้ง ”

     

    “ งั้นถือให้ ”

     

    -_-?

     

    “ ถุงในมือน่ะ ไม่ได้เป็นอะไรกันก็ถือให้ได้ใช่ไหม? ” -0-! อะไรของเขาวะ

     

    “ เออๆ เอาไป ” ผมยัดถุงเค้กกับไอศกรีมให้คนหัวแดงไป “ อย่าแกว่งนะ เดี๋ยวมันเละ ”

     

    “ อืม ”  อืม? อืมสั้นๆเนี่ยนะ เฮ้ยมาโหมดไหนเนี่ย?? ปกติไม่ใช่แบบนี้นี่หว่า ไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้นะ ผมเดินนำไปที่ป้ายรถประจำทาง สมองกังวลกับท่าทางอีกคนที่ดูแปลกๆไป ไม่สบายรึเปล่า เครียดอยู่? เมนส์มาไม่ปกติ? อันหลังนี้คงไม่ใช่ - -;

     

    “ ขึ้นรถเร็ว ” ผมดึงแขนอีกคนพาขึ้นรถประจำทางที่มาจอดเทียบป้าย กลัวว่าอีกคนจะยืนนิ่งขยับไม่ทันน่ะสิ ดีนะยังเหลือที่นั่งว่างอยู่ เราสองคนเลยไม่ต้องยืนให้เมื่อย

     

    “ ไม่ได้เป็นอะไรกันนั่งข้างๆได้ใช่ไหม ” เอ่อ ถ้าทางจะอาการหนักนะ ก็นั่งไปแล้วไง ยังจะอะไรอีกวะเนี่ย

     

    “ เป็นอะไรกับไอ้คำว่า ไม่ได้เป็นอะไรกันมากรึเปล่า? ” ทนไม่ไหวแล้วนะ เอาแต่พูด ไม่ได้เป็นอะไรกันอย่างนั้นอย่างนี้ได้ใช่ไหม? เป็นบ้าอะไรกับคำนี้นักหนา

     

    “ พี่แค่กลัวนายไม่พอใจ เพราะเราไม่ได้เป็นอะไรกัน ” อย่าบอกนะว่าคิดเรื่องตอนนั้นอยู่น่ะ ตกลงหมอนี่เป็นคนประเภทไหนกันวะ หื่น กะล่อน เผด็จการ อบอุ่น คิดมาก? บ้าชะมัด !

     

    “ ผมไม่พอใจที่รุ่นพี่มัวแต่พูดแบบนี้นี่แหละ นึกว่าไม่สบายซะอีก ”

     

    “ เป็นห่วงด้วยหรอ ”

     

    “ ใครเป็นห่วง ไม่ได้ห่วงซักหน่อย หลงตัวเองไง๊? แค่คิดว่าผีบ้าที่ไหนมาสิงรึเปล่าต่างหาก ” พูดรัวเสร็จก็เสหน้าไปอีกทาง อะไรกัน ทึกทักไปเองทั้งนั้น ผมเนี่ยนะห่วง ไม่จริงหร๊อก -.- 

     

    “ นี่มินวู ” ดงฮยอนเรียกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาทำให้ผมหันกลับไปมองเขา

     

    …?

     

    “ ไม่ต้องเรียกว่ารุ่นพี่ก็ได้ เรียกพี่เฉยๆก็พอ ”

     

    “ ฮยอง…? ” ผมลองเรียกตามที่ดงฮยอนบอก มือหนาก็ขยี้หัวผมก่อนจะชะงักแล้วผละมือออกไป

     

    “ โทษที ”

     

    “ เอ่อ ไม่เป็นไร ” ความรู้สึกอึดอัดนี่มันอะไรกัน เราสองคนเงียบไม่พูดกันอีกมาตลอดทาง ไม่ชอบให้เขาเป็นแบบนี้เลยเหอะ ราวกับคนแปลกหน้าที่เพิ่งเคยเจอกันครั้งแรก มีใครมาสิง คิม ดงฮยอน คนนี้รึเปล่า ออกไปเลยนะเว้ย ชิ่วๆ -3-  

     

    “ ลงกันได้แล้วรุ่นพี่ เอ้อ ฮยอง! ” ผมบอกอีกคนให้ลุกเพราะมันถึงป้ายแล้ว

     

    “ ไปทางไหนต่อล่ะ ”

     

    “ ตามมาดิ เดี๋ยวจะหลงนะ ” ผมยักคิ้วให้แล้วเดินนำอีกคนเข้าซอยไป ก่อนจะพาเดินลัดไปถึงบ้าน

     

    “ สรุปก็คือกลับบ้าน? ” คนหัวแดง

     

    “ ใช่ เห็นเป็นอะไรล่ะ ”  

     

    “ แล้ว

     

    “ ไม่ได้เป็นอะไรกัน เข้าบ้านได้ใช่ไหม? ก็เข้ามาเหอะ ” ผมชิงพูดตัดหน้า

     

    “ รู้ทันอีกนะเรา ” ก็เห็นพูดแต่แบบนี้นี่หว่า

     

    “ ไม่ได้เป็นอะไรกัน รู้ทันได้ไหมล่ะ ”

     

    “ เฮ้ ย้อนพี่หรอ ”

     

    “ เปล่าย้อน ก็แค่พูดมั่ง -3-  ”  ให้มันรู้มั่งว่าอึดอัดนะ ถามอยู่ได้

     

    “ คร๊าบๆ เข้าบ้านกัน (:

     

    “ เหอะ ยิ้มออกแล้วหรอ ” ผมพึมพำเบาๆแล้วพาอีกคนเข้าบ้าน  กลับมาเป็นเหมือนเดิมเถอะ แบบนี้ไม่รู้จะตอบโต้ยังไงดีเลยว่ะ

     

    “ โอป้า~ อ้ะ พี่ดงฮยอนสวัสดีค่ะ ^^ ” มินอาโค้งให้คนหัวแดงพร้อมรอยยิ้ม

     

    “ สวัสดีครับ มินอา ^^ อ้อ พี่ซื้อนี่มาฝากด้วย ” ดงฮยอนชูถุงในมือขึ้น -0- ไอ้บ้า มาแอบอ้างได้ไง

     

    “ ผมซื้อต่างหากล่ะ ขี้โมเมว่ะ ”

     

    “ แต่มันอยู่ในมือพี่ ก็เป็นของพี่ดิครับ ” ฮึ กลับมาเป็น คิม ดงฮยอน แล้วสินะ

     

    “ งั้นเอาเค้กไปใส่จานให้ด้วย จะกิน! ” ผมกระแทกเท้าเดินขึ้นบ้านก่อนจะนึกอีกอย่างขึ้นได้ “ เอาไอศกรีมแช่ตู้เย็นให้ด้วย!!

     

















       จะพยายามเข้ามาอัพเร็วกว่าเดิมนะครับ ไรท์เตอร์ใกล้น็อค 555 

     

        

        

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×