คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ก็คนมัน(โดน)หวง
6
ก็คนมัน(โดน)หวง
หลังจากนั่งรอมาได้ซักพัก บรรยากาศภายในห้องก็ดูผ่อนคลายขึ้นเมื่อร่างสูงโผล่หัวมาจากประตูแล้วพานักเรียนคนอื่นๆเข้ามา ทุกสายตามองไปที่ผู้มาใหม่ ยกเว้นผมกับแทบิน ที่จ้องตาจนจะท้องกันไปข้างอยู่แล้ว แต่ชื่อบุคคลที่ถูกเรียกทำให้ผมต้องละสายตาหันไปมอง
“ ดงฮยอนนายช้านะ ”
“ บ่นอีกแล้ว เดี๋ยวจะแก่ไวนะท่านประธาน ”
“ พาน้องไปนั่งไป คนอื่นเข้ารอนานแล้ว ”
“ คร๊าบนายหญิง ” ดงฮยอนจัดแจงชี้มือชี้ไม้ไปที่เก้าอี้ตัวว่างๆ แล้วตัวเองก็เดินมานั่ง
ข้างผม =_____= เหมือนรู้อยู่แล้วว่าผมอยู่ที่นี่งั้นแหละ
“ ทำหน้าให้มันดีๆหน่อยสิ ” ฉันเบื่อหน้านาย ไอ้บ้า! -*- ผมแบะปากใส่ก่อนจะหันไปสนใจสิ่งที่ประธานนักเรียนพูด เธอบอกว่าจะเช็คชื่อว่าขาดใครไหม
“ จอง ซูจอง”
“ ค่ะ ” เสียงขานรับดังขึ้นเป็นระยะๆจนถึงชื่อผม
“ โนว มินวู ” ผมยกมือขึ้นตอบรับเป็นเชิงว่าอยู่
“ ขานด้วยสิมินวู ” ดงฮยอนพยักเพยิดหน้าไปทางหัวโต๊ะซึ่งมีประธานหน้าตาน่ารักยืนอยู่
“ มาครับ ” ผมขานรับก่อนจะแยกเขี้ยวใส่อีกคน “ ทำเป็นมาสั่ง ” คิดว่าตัวเองเป็นใครวะ
“ สต๊าฟต้องน่าจะมีมนุษยสัมพันธ์ดีไม่ใช่หรอ เด็กไม่มีสัมมาคาราวะอย่างแกทำไมถึงโผล่หัวมานี่ได้ ” แทบินเห่า เอ้ย! พูดกัดขึ้นมา กัดใครล่ะ ก็ผมนี่ล่ะ
“ แล้วคนเถื่อนๆชอบรังแกรุ่นน้องอย่างแก ทำไมถึงเสร่อมาเป็นกรรมการนักเรียนได้ก็ไม่รู้ ” ยองมินโต้กลับไปแทนผม นั่นดิ กรรมการนักเรียนนิสัยห่วยแบบนี้ได้ไง
“ เอาน่า อย่าทะเลาะกันนี่ที่ประชุมนะ ” ดงฮยอนปรามขึ้น ที่ประชุม? พูดซะดูหรู เหอะ ผมเท้าคางเลิกสนใจคนข้างๆกับฝั่งตรงข้าม
“ สำหรับคนที่ได้ไปแลกเปลี่ยนกับโรงเรียนอื่น เตรียมตัวซะ อีกสองวันก็จะเริ่มโครงการแล้ว ตอนไปถึงที่นู้นจะต้องตามหาพาร์ทเนอร์ ซึ่งเขาจะไม่บอกว่าเป็นใครแล้วแต่ว่าจะมีวิธีบอกใบ้ยังไง ”
“ ต้องไปกี่วันครับ ” ยองมินถามขึ้น
“ จนกว่าจะหาพาร์ทเนอร์เจอ แต่ต่อให้คุณฉลาดกันแค่ไหน ฉันเชื่อว่าไม่ต่ำกว่าสองวัน ”
“ เตี้ย ฉันไม่เคยห่างกับกวังมินเกินสองวันเลยนะเว้ย ” เตี้ย เต็มๆหน้าผมเลยครับ เออใช่สิ ฝาแฝดอย่างพวกนายมันตัวติดกันตลอดเวลา - -; แล้วจะทำไงได้ล่ะ
“ จะได้เคยแล้วนี่ไง ”
“ ไม่ตลก ” ยองมินเขกหัวผมแรงๆ ไม่ตลกแล้วมันเกี่ยวอะไรกับหัวฉันเล่า -*-
“ อ่อก! ” มันล็อกคอผมแบบไม่ให้ตั้งตัว สายตาจากรอบห้องทำให้ผมต้องพยายามกระซิบด่ามันเบาๆ “ อะไรของนายวะไอ้โย่งคนอยู่ตั้งเยอะนะเว้ย ”
“ อะแฮ่ม -.- ” แล้วเสียงกระแอมจากคนข้างๆผมก็ดังขึ้น ยองมินเลยยอมปล่อยผมแต่โดยดี
“ ถ้าใครปฏิเสธโครงการนี้ เกรดกิจกรรมจะเท่ากับศูนย์ ”
“ - -! ” ประโยคข้างบนทำเอาคนหัวทองเหมือนโดนหินหล่นทับหัวยังไงอย่างงั้น ผมกลั้นขำอีกคนที่งานนี้คงจะได้แยกกับแฝดจริงๆล่ะ
“ หมดธุระแล้วเชิญกลับห้องได้เลยค่ะ ส่วนคนที่เป็นสต๊าฟอยู่ที่นี่ก่อน ”
“ คิดมากน่ะ ยังไงก็เจอกันที่บ้านอยู่ดี ” ผมตบบ่าให้กำลังใจ ก่อนที่ยองมินจะลุกออกจากห้องไป
“ ทุกคนสงสัยใช่ไหมว่าทำไมถึงได้เป็นสต๊าฟ ” เสียงของประธานสาวทำให้ผมและอีกหลายๆพยักหน้ารับ
“ น้องที่อยู่ที่นี่คือคนที่คณะกรรมการนักเรียนเสนอชื่อมาโดยเฉพาะ โดยไม่ต้องผ่านการคัดเลือก เพราะพี่รู้ถึงความสามารถของน้องๆที่จะเป็นพาร์ทเนอร์ให้กับเด็กนักเรียนแลกเปลี่ยนได้ ”
“ อ้าว แล้วสต๊าฟล่ะคะ ”
“ พาร์ทเนอร์ก็เป็นส่วนหนึ่งของสต๊าฟ ระดับชั้นพี่ก็มีคนเป็นพาร์ทเนอร์เหมือนกัน (: ”
“ ส่วนนี่
” ประธานหยิบซองเอกสารสีน้ำตาลชูขึ้น “ ประวัติคนที่พวกคุณจะต้องเป็นพาร์ทเนอร์ ”
วัตถุคล้ายคลึงกับที่ชูให้เห็นเมื่อครู่ถูกวางตรงหน้า ผมเปิดมันออกมาดู รูปชายผมสีน้ำตาลบลอนด์ ใบหน้ามีดวงตาเล็กเป็นเอกลักษณ์ ชื่อของเขาคือ
“ อี จองมิน? ” ผมหันขวับมองดงฮยอนที่แอบอ่านข้อมูล
“ แอบอ่านได้ยังไงไม่มีมารยาท - -+ ”
“ ก็อยากรู้เฉยๆอะ หวง ” หือ?
“ หวง
หวงอะไร ”
“ ไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งไม่รู้ ” นัยน์ตาสีดำวาวจ้องลึกเข้ามาในตาผม อะ เอ่อ...
“ ไม่รู้ ไม่อยากรู้ด้วย หุบปากไปเลย ” ผมตอกกลับรัวๆ ผมไม่ได้หวั่นไหวนะ เปล่าเลยนะ ._.
“ ห้ามบอกใครถึงเรื่องนี้ พวกคุณจะต้องพยายามใบ้ให้เขาตามหาคุณเวลาสิ้นสุดคือวันงานใหญ่ คืออีกห้าวันข้างหน้าถ้าเขาไม่หาคุณเจอซะก่อนน่ะนะ ”
“ แล้ว
ผมจะได้อะไร? ” ผมถามขึ้น มันก็ต้องมีของล่อใจให้บ้างสิ ถึงมันจะน่าสนุกก็เถอะนะ (:
“ พาร์ทเนอร์ที่ไม่ถูกหาเจอก่อนวันงาน รับเต็มๆเกรดสี่กิจกรรม ภาษาหลัก ประวัติศาสตร์ แล้วก็วิชาเลือกอีกวิชา น่าสนใช่ไหม ” มากๆเลยล่ะครับท่านประธาน เสียงปรบมือในห้องดังขึ้นอย่างชอบใจ
ผมยิ้มอย่างพอใจแล้วมองประวัติตรงหน้าคร่าวๆ อี จองมิน เป็นพี่ผมปีหนึ่ง การเรียนก็ดีมากเลยล่ะ ชอบกินช็อกโกแลต? โอ้ เจออะไรเด็ดๆด้วย แบบว่าเขาเตี้ยกว่าผมล่ะ ฮ่าๆๆ >< (มันน่าดีใจ??)
“ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่นั่นแหละ ” มือหนาขยี้ลงมาบนหัวผม “ อย่าทำให้ผิดหวังล่ะ พี่อุตส่าห์เลือกนายนะ ”
“ นี่นายเองหรอที่ให้ฉันมาเป็นสต๊าฟ ” ดงฮยอน นายจะบ้าหรอไง ฉันเกือบจะโดนไอ้หัวเกรียนมันงาบกบาลนะเว้ย
“ ถูกต้องนะครับ ^^ ”
“ ยังมีหน้ามายิ้มอีก - - ”
“ รึว่าไม่สนเกรดสี่ล่ะ ”
“ เออ ไม่พูดละ ” =_____=;
พอประชุมเสร็จ ผมก็เดินออกมาโดยมีดงฮยอนตามมาติดๆ - -* นี่วันนี้มาแปลกนะ มันน่าสงสัยนะเนี่ย โดนอะไรกระแทกหัวรึเปล่าหว่า ?
“ อะไรอีก ”
“ จะไปส่ง ”
“ ไม่ต้อง ผมไม่ใช่เด็ก ” นี่ผมพูดแทนตัวเองว่าผมกับมัน? บ้าไปแล้วมินวู!
“ แล้วนายไม่กลัวหมอนั่นฉุดไปกลางทางหรอมินวู ” ดงฮยอนใช้ลูกกะตาชี้หน้าคู่กรณีผม เออ ไอ้หัวเกรียนนั่นแหละ
“ ไม่กลัว! ” ผมก้าวขาให้พ้นจากที่เดิม แต่
เมื่อกี้ว่าอะไรนะ ฉุด? ไอ้เกรียนแม่งคิดชั่วๆแบบนี้กับผมด้วยงั้นหรอ ผมหันไปมองหาแทบินที่ยืนคุยกับคนอื่นอยู่ oO! อ๊ากกก ถึกขนาดนี้ยังไงผมก็ไม่รอด ไม่รอดแน่ๆอะ ผมก้าวขาถอยหลังกลับไปที่เดิมก่อนจะกระตุกชายแขนเสื้อคนหัวแดงเบาๆ “
กลัวก็ได้ ”
“ หืม? ” โอ้ย ยังไม่แก่เลยหูตึงแล้วรึไงวะ - -+
“ ไปส่งผมหน่อย(โว้ย) ” อยากตะโกนกรอกหูอีกคนจริงๆ ท่าเยอะนักนะ เฮ้ย! แทบินมันกำลังเดินมาแล้ว เร็วๆดิเว้ยไอ้หื่น!
ผมตัดสินใจลากแขนอีกคนเดินกลับห้องทันที ขาก้าวฉับๆอย่างเร่งรีบเมื่อใกล้ผ่านหน้าไอ้แทบิน แต่ร่างสูงดึงแขนตัวเองกลับ ทำให้ผมหยุดชะงักมองอย่างไม่เข้าใจ ปากอ้าจะถามแต่เสียงก็ถูกกลืนกลับลงมาเมื่อดงฮยอนดึงผมเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดต่อหน้าต่อตาไอ้แทบินมันเลย เฮ้ย!
“ คนนี้ห้ามแตะ รู้ไว้ซะแทบิน
” โห้ ประมาณว่าของข้าใครอย่าแตะเลยนะ =___= แต่เฮ้ย! พูดงี้หมายความว่างไงวะ ผมอ้าปากจะถามแต่อีกคนก็กดหัวผมลงซุกกับแผงอกอย่างรู้ทัน
“ อ่อยอ้ะเอ้ยยย (ปล่อยนะเว้ย) !! ” เสียงอูอี้ไม่เป็นภาษาเป็นผลจากการดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขนแกร่ง ไอ้บ้า จะกด(หัว)ผมไว้ทำไมเนี่ย
“ ทำไม? ” แทบินถามขึ้น เหมือนไม่เห็นผมอยู่ตรงนี้ ช่วยกันบ้างเซ่!
“ ของหวง ” กึก! ผมหยุดดิ้นเมื่อได้ยินสิ่งที่ดงฮยอนพูด ก่อนจะสัมผัสอะไรบางอย่างใต้แผงอกอีกคน มันเต้นดัง ตุ้บ ตุ้บ ตุ้บ
“ เรื่องที่แล้ว ให้มันแล้วไป ”
“ โอเค ถ้านายต้องการอย่างนั้นดงฮยอน ” มือหนาปล่อยหัวผมให้เงยหน้ามองแทบิน ไหงยอมง่ายจังวะ “ แต่! อย่าให้มีคราวหน้า เจอหน้าฉันก็หัดพูดให้มันสมเป็นรุ่นน้องหน่อย เข้าใจไหมไอ้เตี้ย ”
“ ก็เลิกเรียกเตี้ยซักทีสิวะ ” ผมผละตัวออกจากดงฮยอนแล้วจ้องแทบินตาเขม็ง นี่ตกลงจะเอายังไงกับฉันวะ
“ แทบิน! ”
“ เออๆ ไม่เรียกก็ได้หวงจริงนะแก ” คนหัวเกรียนยอมถอยออกไปแต่โดยดี นี่ผมชักสงสัยแล้วนะว่าทำไมหัวแดงนี่ถึงได้ดูมีอิทธิพลนัก พ่อเป็นมาเฟียอ่อ? คงไม่ใช่มั้ง ถ้าใช่คนก็ต้องรู้กันทั่วโรงเรียนแล้วดิ แล้วทำไมเขาต้องมาปกป้องผมด้วยล่ะ แล้วเขาจะไม่กลับมากวนประสาทอีกใช่ไหม และอีกหลายๆแล้วก็มะรุมมะตุ้มอยู่ในหัวผม
“ มีอะไรข้องใจหรอเตี้ย ” เตี้ย? อ้อ เรียกว่าเตี้ยหรอครับ ^^
“ ไอ้หัวแดงหน้าหื่นโรคจิต ใครอนุญาตให้กอดฉันห๊ะ ” ผมใส่เต็มหน้าอีกคน - -* ดีได้ไม่ถึงครึ่งวันจริงๆ
“ กอดให้รู้ว่าหวง จบไหมครับ ” -0-!
“ อะ ไอบ้า ไม่จบเว้ย แล้วเรียกเตี้ยนี่หมายความว่ายังไง ”
“ มันดูน่ารักดี ” นะ
น่ารัก? “ ทีนี้จะกลับห้องกันได้ยัง ”
“ ก็กลับดิ จะ
จะให้ยืนอยู่หาพระแสงอะไรล่ะ ” ผมรีบก้าวขาเดินนำออกมาโดยไม่รออีกคน นาทีนี้ผมได้รับรู้ว่าหัวใจกำลังเต้นรัวไม่หยุด หน้าผมไม่ได้แดงอยู่ใช่ไหม -///- จะบ้าหรอไง แค่เขาหยอดคำหวานนายก็หวั่นไหวแล้วรึไงมินวู
“ รอด้วยดิ ไหนว่าให้ไปส่งไง ”
“ ส่งวิญญาณตัวเองลงนรกไปก่อนเหอะ ”
“ ไปกับพี่ไหมล่ะน้อง แต่พี่จะพาไปสวรรค์แทนนะ (: ” อะไรนะ ส...สวรรค์ ?
“ อ๊ากกก !! ไอ้หื่น อย่ามาใกล้ฉันนะโว้ย ” วิ่งครับ ผมวิ่งหนีอีกคนที่จิตกลับมาปกติแบบไม่ปกติแล้ว แม่งน่ากลัวกว่าไอ้แทบินเยอะเลยเหอะ ว๊ากกก !!
“ ไอ้ตัวแสบ ” ดงฮยอนตามรวบตัวผมทันแล้วกอดเอาไว้ (ทำไมขาผมมันสั้นงี้วะTT ) ใครจะยอมกันเล่า!
“ แสบก็ปล่อยดิวะ ” ผมดิ้นสุดฤทธิ์ แรงผมก็ไม่ใช่น้อยๆแต่ทำไมมันไม่หลุดวะเนี่ย ขนาดพยายามเหยียบเท้าก็ดันหลบได้อีก
“ ปล่อยไม่ได้ เพราะนายคือคนสำคัญ ” เสี่ยวว้อยย ย ต้องใส่เอฟเฟ็คระยิบระยับเหมือนในการ์ตูนไหม นึกถึงเสียงแบบว่าโอเว่อร์แอคติ้งดูนะครับ ขนลุก ..
“ อย่ามาเสี่ยวแถวนี้ไอ้บ้า จะอ้วก ”
“ ที่พูดไปน่ะ ฉันพูดจริงนะ ”
“ ใช่ไง เป็นความจริง นายเป็นคนพูด ” ผมยังคงเถียงบวกแถใส่
“ นี่เงียบก่อนได้ไหม - -* ” ดงฮยอนเอามือปิดปากผมอย่างขัดใจ “ ฉันหมายถึงที่ว่าหวงนาย เพราะนายเป็นคนสำคัญของฉัน ...ทั้งหมดนี่พี่พูดจริงนะครับ ”
“ oxo! ” ทันทีที่สรรพนามที่อีกคนเรียกตัวเองเปลี่ยนไป มือที่ปิดปากผมมันถูกแทนที่ด้วยริมฝีปากอีกคน แค่ได้ยินประโยคข้างบนผมก็ทำอะไรไม่ถูกแล้ว! ยังมาจูบกันแบบนี้อีก กะจะให้ผม อ้ะ! ลิ้นหนาแทรกเข้ามาช่วงชิงพื้นที่ในโพรงปากของผมโดยไม่ทันให้ได้ตั้งตัวแต่ก็ไม่ได้ฉาบฉวย กะจะให้ผมหัวใจเต้นจนหลุดไปจากอกเลยรึไงนะ
ลิ้นอุ่นยังคงซุกซนลิ้มความหวาน ริมฝีปากหนาประกบลงมาอย่างไม่เลิกรา สมองผมควบคุมอะไรไม่ได้เลย อือ..เสียงถูกส่งอื้ออึงในลำคอ ตาพริ้มลงตอบรับสัมผัสก่อนที่มือจะค่อยเลื่อนขึ้นกำคอเสื้ออีกคนอย่างหาที่ยึด ไม่มีอะไรบังคับห้ามผมปฏิเสธเขาอย่างครั้งก่อน
จูบที่นุ่มนวลต่างจากครั้งแรกที่หนักหน่วง มันทำให้แทบจะละลายไปกับรสจูบที่เขามอบให้ อืมม
ท้ายสุด ริมฝีปากอุ่นก็ผละจูบออกไปอย่างอ้อยอิ่ง
“ เคลิ้มเชียวนะ ^^ ”
“ o///o!!! อ
อะไร ใครเคลิ้มกัน ฉวยโอกาส!! ” ตามองสภาพที่ตัวเองยืนเกาะคอเสื้ออีกคนแล้วผละตัวเว้นระยะห่างทันที พระเจ้า! อีกแล้ว เขาจูบผมอีกแล้วเว้ยย!! ผมถูปากแรงๆ ออกไปนะ ไอ้จูบบ้าบอนั่น ฮึ้ย!...ทำไมหัวใจผมมันเต้นแรงเหมือนโดนจับเขย่าแบบนี้วะ
“ โอกาสจูบคนน่ารักๆอย่างนายน่ะหรอ ไม่ฉวยไว้ก็อดสิ ”
“ โรคจิต! ”
“ แต่ก็ยอมให้จูบนี่ ไม่เห็นขัดขืนซักแอะ ”
“ ก็
ก็ มันตกใจเว้ย ” ใช่ ผมไม่ได้ยอมซักหน่อย จริงๆนะ! โอ้ย แล้วทำไมหน้ามันรู้สึกร้อนๆขึ้นมานะ
“ ขึ้นวะขึ้นเว้ยมันไม่ดีนะครับมินวู ” เปลี่ยนมาพูดเพราะอีกละ ไอ้กะล่อน ต้องเพิ่มนิยามให้ผู้ชายคนนี้อีกแล้วมั้งเนี่ย โว้ยยย โนว มินวูจะประสาทแดก ไม่ถงไม่เถียงมันแล่ว !
ผมกระแทกเท้าเดินออกมาอย่างหัวเสีย รีบกลับห้องดีกว่า ก่อนที่จะโดนคนหื่นลวนลามไปมากกว่านี้ แต่เดินมาได้ไม่เท่าไรข้อมือก็ถูกคว้าเอาไว้ก่อนจะเลื่อนมาเป็นจับมือแทน
“ พี่ไปส่ง ถ้าดิ้นจับปล้ำ ” ดงฮยอนจ้องหน้าราวให้รู้ว่า โดนจริงแน่.
“ -0-! ”
เผด็จการอีกต่างหาก ผู้ชายคนนี้มันยังไงกันเนี่ย!!! ผมเผลอหวั่นไหวไปกับเขาได้ยังไงกันนะ ไหนยังจะหลงไปกับรสจูบนั่นอีก เฮ้ย! ไม่ใช่สิ ผมไม่ได้หลงนะ ไม่จริง! ก็...ก็แค่ช็อกไปเท่านั้นแหละ =//=
“ คิดอะไรอยู่หน้าแดงใหญ่แล้ว ” ดงฮยอนพูดขณะที่เดินจูงมือผมอยู่ นี่แอบหันมามองผมหรอ
“ ไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นก็แล้วกัน ”
“ แบบนั้นน่ะแบบไหน -..- ” นี่คิดไปถึงไหนของหมอนี่กัน ดูทำหน้า...ส่อมาก -_-;
“ ไม่รู้ ไม่ได้คิด! ”
“ งั้นอย่าไปทำหน้าอย่างนั้นให้ใครเห็นนะ ” หา?
“ อย่างไหนอ่ะ ’ ’? ”
“ อย่างแรก อย่างนี้ก็ห้าม ”
“ อ้าว ทำไมต้องห้ามด้วยเนี่ย ” ไม่เข้าใจ ทำแล้วมันผิดหรอไง มันตลกหรอ?
“ หวง! ” ชัดเจน -0- ว่าแต่ มีสิทธิ์อะไรมาหวงวะ (ได้แต่โวยในใจ -3-)
ความคิดเห็น