คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : ก็แค่พี่ชาย...
11
ก็แค่พี่ชาย…
ร่างสูงที่ดูเหมือนคนไม่แรงเดินมาวางกระเป๋าอย่างเนือยๆ ใบหน้าดูอิดโรยอย่างกับไม่ได้หลับไม่ได้นอนมาทั้งคืน ผมทักเขาเพราะท่าเดินที่ดูไม่ปกติ
“ ท่าเดินใหม่หรอวะ? ”
“ ก็มัน … ช่างมันเถอะ แล้วนี่กระเป๋าใครวะ ” ร่างสูงมองกระเป๋าฟีบๆแบนๆที่วางอยู่บนโต๊ะ เอ่อ เจ้าของมันเอาอะไรมาเรียนบ้างวะนั่น
“ ของพี่ดงฮยอน ”
“ ทำไมมาอยู่นี่ได้วะ ” กวังมินเขี่ยๆมันดูก่อนจะนั่งลง
“ สอยมามั้ง ”
“ สอยฟันนายออกมาดีกว่าไหม ” แล้วฉันจะเอาอะไรกินข้าววะ?
“ เหอะ แล้ว…โดนใครสอยมาล่ะกวังมิน~ ” ผมพูดแหย่อีกคน มันก็น่าคิดใช่ม๊า ดูมันเดินดิ
“ ติวเหอะ ” ร่างสูงหลบตาแล้วทำเป็นหยิบหนังสือขึ้นมา
“ ขาไม่ดีหรือไปโดนอะไรสะกิดประตูหลังมาวะ 55 ถ้าลำบากขนาดนั้น นอนอยู่บ้านก็ได้นะเว้ย ”
“ ก็ไอ้เตี้ยที่ไหนไม่รู้ ส่งข้อความมาว่ามีสอบฉันเลยต้องแบกสังขารมานี่ไง ” นี่ผมผิดเรอะ? -[ ]-
“ ทำคุณ บูชาโทษแท้ๆ ถ้าไม่มีไอ้คนที่นายว่าเตี้ย ส่งข้อความไปบอกนี่จะรู้เรื่องว่าสอบไหม? ใครจะไปรู้ว่านายมีสภาพแบบนี่ ถามจริงๆนะ เป็นอะไร? ” อยากรู้จริงๆเลย ดูมันสิ เลี่ยงไม่ตอบผมเลยนะ
“ โอ้ย ไม่อยากจะพูดถึงมันเลยให้ตายสิ ” กวังมินเม้มริมฝีปากแล้วกลอกตาไปมา ยิ่งทำให้ผมคิดเข้าไปใหญ่ เฮ้ย .. อย่าบอกนะว่านาย โดน อะจึ๊กๆจริงๆ -[ ]-
“ O.O! ” ผมจ้องหน้ามันอย่างอยากรู้อยากเห็น
“ เดี๋ยวค่อยคุยกัน มาติวก่อนๆ ” แหนะ มันปัดประเด็นวุ้ย ผมมองหน้ามันซักพัก เห็นว่ามันนิ่งไม่ปริปากอะไรเลย สงสัยคงไม่อยากจะพูดจริงๆ งั้นผมก็ไม่ควรไปบังคับสินะ
“ หลังสอบ! เพื่อนกันห้ามเบี้ยว ” เปล่าบังคับนะครับ ~
“ -0- เออๆ ก็ได้วะ ” เมื่อมีการตกปากรับคำ ผมก็ยื่นแนวข้อสอบกับโจทย์ที่ทำมาก่อนหน้านี้ให้กวังมิน ผมนั่งมองไปตามปลายดินสอกดของมันที่วาดเป็นตัวเลขต่างๆ บรรยากาศดูตรึงเครียดยังไงชอบกล แล้วยิ่งเครียดเข้าไปใหญ่เมื่อคนหัวแดงเดินถือแก้วน้ำเข้ามาแล้วมองมาที่กวังมินด้วยสายตาไม่พอใจ
“ ทำไมมันถึงอยู่นี่ได้ ” ลืมไปเลยว่าเพิ่งมีเรื่องกันไป - -
“ กวังมินเป็นเพื่อนผม ฮยองมีปัญหาอะไรไหม ” ตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์จะอธิบายหรือเคลียร์ให้เขาเข้าใจเรื่องตอนนั้น เห็นหน้าไหมว่าเครียดเว้ยเครียด
“ ไม่มี แต่ไม่พอใจ ”
“ ฮยอง ตอนนี้มันไม่มีอะไรแล้วเข้าใจไหม ” ผมถอนหายใจมองหน้าอีกคนหน่ายๆ เพื่อนผมกำลังเครียด เข้าใจม๊ายยยยย!! แล้วทำไมผมต้องมาแก้สถานการณ์ด้วยวะ
“ พี่จะพยายามเข้าใจ เอ้าน้ำ ): ” ดงฮยอนทำหน้าบูดก่อนจะยื่นน้ำให้ผม ส่วนอีกแก้วในมือ…
“ กินซะ สมองจะได้ทำงาน ” เขาก็วางให้กวังมิน
“ -0- ” ผมมองคนหัวแดงแบบงงๆ กวังมินก็เงยหน้าขึ้นมาขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ อะไรของผู้ชายคนนี้กันวะ
“ ก็ไม่มีอะไรแล้วไง อ่านหนังสือไปสิ ” ดงฮยองพูดกับกวังมินที่พยักหน้ารับน้อยๆ “ แล้วนายล่ะทำเสร็จรึยัง ”
“ เสร็จตั้งนานแล้ว ” ผมชูสมุดขึ้นมาเกือบติดหน้าอีกคนก่อนที่เขาจะรับไปมองตรวจ
“ เก่งนี่ สงสัยจะอยากกินข้าวกับพี่มากเลยนะเนี่ย ”
“ หลงตัวเอง ” เพราะได้กินข้าวฟรีต่างหาก =w=
“ พี่หลงนายมากกว่า (: ”
“ ไอ้บ้า! ” เดี๋ยวก็ปิดทางออกไม่ให้หาเจอซะเลยนี่ จากนั้นก็วางเพลิงให้ตายในกองไฟไปเลย (ก็โหดไป)
“ กรุณาเงียบก่อนได้ไหมครับ ” คนที่อ่านหนังสืออยู่พูดเสียงเรียบๆ เอ่อ แม่งขรึมน่ากลัวว่ะ
“ ซอรี่ครับเพื่อน เอานี่ไปลองทำดิ ลบดินสอออกก่อนนะ ” ผมเอาโจทย์เมื่อกี้ที่ทำไปยื่นให้กวังมิน เจ้าตัวพยักหน้าแล้วทำตามที่บอก เวลาแม่งอ่านหนังสือทีไรอย่างกับคนละคน ผมเคยกวนตีนตอนมันอ่านหนังสือด้วยแหละ จำได้ว่าโดนด่าซะจนต้องหุบปากเงียบกริบ แม่งโคตรโหดอะ
เมื่อกวังมินกำลังมีสมาธิอยู่ ดงฮยอนก็เพียรพยายามที่จะคุยกับผมมาก! - -; โดยการเขียนข้อความลงไปในสมุด
‘ ไม่อ่านหนังสือหรอ ’
‘ ก็บอกไปแล้วไง ว่าเข้าใจแล้ว ’
‘ น่ารักแล้วยังเก่งอีกนะ ’
‘ ถ้าไม่เก่งแล้วจะทำไม ’
‘ ก็น่ารักไง (: ’
‘ ถ้าไม่น่ารักแล้วจะทำไม ’
‘ ก็ชอบอยู่ดีไง ’ คนกะล่อน ใครจะไปเชื่อ -3-
‘ ไม่เชื่อหรอก ;P ’
‘ ต่อให้นายจมูกหักพี่ก็ชอบนาย ’ เฮ้ย! ใครจะยอมให้จมูกหักวะ ผมค้อนใส่อีกคน
‘ แช่งกันรึไง? ): ’
‘ เปล่าซักหน่อย พี่ชอบนายจนจะเป็นบ้าแล้วนะ ’
‘ ไม่ได้เป็นบ้ามาตั้งนานแล้วหรอกหรอ ’ ฮ่าๆ =w= ผมปิดปากหัวเราะ
‘ ขำอะไรพี่ครับ? ’
‘ ไม่รู้ไม่ชี้ ’
‘ ยิ้มให้ดูหน่อยสิ ’ อะไรของเขาอีกเนี่ย ผมเงยหน้ามองอีกคน ดงฮยอนเอานิ้ววาดเป็นรูปตัวยิ้มกลางอากาศแล้วยกยิ้ม แต่ผมวาดรูปหน้าบึ้งกลับแล้วเบ้ปากให้
“ อ้าวๆ คุยภาษาใบ้กันแทนเลยหรอ ” กวังมินแซวขึ้นมา ผมรีบปิดสมุดแล้วยัดเก็บใส่กระเป๋าทันที
“ ทำเสร็จแล้ว?? ” ผมถามถึงโจทย์ที่ให้ไป
“ ยัง แต่ทำตรงนี้ต่อไม่ได้ ” กวังมินเคาะตรงสมการที่ค้างไว้
“ ตรงนั้นหรอ นายก็แค่แทนค่าดูให้มันง่ายขึ้น… ” ดงฮยอนหยิบแท่งดินสอของกวังมินมาเขียนให้ดูแล้วยังอธิบายให้ฟังจนคนที่นั่งฟังอยู่แทบตรัสรู้ ราวกับเรื่องเมื่อวานไม่เคยเกิดขึ้น ราวกับทุกอย่างหายไปจากสมองของดงฮยอน ผมคิดว่าเขาคงมีความคิดเป็นผู้ใหญ่พอที่พูดแล้วรู้เรื่องน่ะนะ ดีแฮะ (:
“ ยิ้มแล้วหรอ ”
“ เปล่า ปากมันแค่กระตุก ” ผมรีบหุบยิ้มที่มันเผลอเผยขึ้นมาบนใบหน้าตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
“ ก็แค่ยิ้ม หวงจัง ”
“ อะแฮ่ม! ทำไมไม่เป็นแฟนกันให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยล่ะคร๊าบบบ ”
“ ไอ้กวังมิน!! ” -[ ]-! พ่นอะไรออกมาฟร๊าาาาา!!
“ คนแถวนี่มันปากแข็งจะตาย ไม่งัดออกมาก็ไม่พูดหรอกครับรุ่นพี่ ”
“ แล้วจะใช้อะไรงัดดีล่ะ ” ดงฮยอนว่าพลางมองมาที่ริมฝีปากผม
“ พูด…พูดอะไรกัน ไม่เห็นจะรู้เรื่อง! ” ผมหยิบกระเป๋าเป้แล้วก้าวขาออกมาฉับๆ ปากแข็งอะไรกัน ตกลงนายต้องการอะไรจากฉันวะ โจ กวังมิน แล้วทำไมทุกคนดูไปอยู่ข้างไอ้หัวแดงกันหมด บ้ากันไปใหญ่แล้ว!
กระเป๋าถูกวางลงกับพื้นโต๊ะแรงๆอย่างระบายอารมณ์ ฮึ่ย! อารมณ์เสียกับตัวเองนี่แหละ ผมเป็นบ้าอะไรวะ ตกลงผมชอบเขาหรอ? มันเป็นไปได้หรอ? บางทีมัน…อาจจะแค่พี่น้องกัน ใช่! ผมอาจจะคิดกับเขาแค่พี่ชายไง
“ หนีปัญหาไม่ใช่ทางออกที่ดูดีเลยนะมินวู ” ร่างสูงเดินเข้ามาเผชิญหน้ากับผม นายดูมาช้านะ สงสัยเพราะมีปัญหากับท่าเดิน -..-
“ ใครหนีปัญหา ” อะไรคือปัญหาที่ว่า ผมเนี่ยนะหนีปัญหา?
“ นายจะปากไม่ตรงกับใจไปถึงไหน ”
“ เรื่องอะไร ”
“ ความรู้สึกนายไง เลิกโกหกตัวเองซักทีเหอะ ” ร่างสูงบีบไหล่สองข้างของผม นัยน์ตากลมมองราวกลับจะค้นหาอะไรบางอย่างในตาผม บางอย่างที่อยู่ลึกเข้าไปอีก…
“ ฉันกับเขา… ” ผมเม้มปากแน่น “ เขาก็แค่พี่ชาย ”
“ พี่ชาย? ”
“ มันคือสิ่งที่ฉันคิดตอนนี้ แต่มัน…นายเห็นว่ามันเป็นยังไงวะกวังมิน ” เอาตามตรงผมก็ไม่แน่ใจในความรู้สึกของตัวเองเหมือนกัน
“ เขาชอบนาย แล้วที่ฉันเห็นคือนายก็ชอบเขา หรือไม่ก็ยอมรับเขาไปแล้วส่วนหนึ่ง อาจหมายถึงคำว่าพี่ชายที่นายว่ามั้ง แต่ว่า…สถานะสำคัญคือ เขาชอบนาย แล้วไอ้ที่นายกำลังทำอยู่มันก็คือให้ความหวัง ”
“ ให้ความหวัง? ”
“ ถ้านายคิดกับเขาแค่พี่ชายก็ต้องบอกให้เขารู้นะเว้ย จะปล่อยให้เขาชอบนายต่อไปไม่ได้มินวู นายจะทำให้เขาเจ็บเปล่าๆ ” ผมมองหน้ากวังมินด้วยสายตาที่อ่อนลง นั่นสิ หมอนั่นจะเจ็บเพราะผมถ้ามันยังเป็นแบบนี้
“ ก็ได้กวังมิน…แล้วฉันจะบอกเขา ”
[ Kim Donghyun talk ]
‘ เขาก็แค่พี่ชาย ’
‘ พี่ชาย? ’
‘ มันคือสิ่งที่ฉันคิดตอนนี้ ’
พี่ชาย…ผมคงเป็นได้แค่นี้สินะ ทุกอย่างที่มินวูพูดมาผมได้ยินทั้งหมด เป็นเพราะกวังมินต่อสายโทรศัพท์กับผมตอนที่เข้าห้องไป มันจุกจนพูดอะไรไม่ออกเลยล่ะ นายใจร้ายมากนะมินวู มือที่แนบโทรศัพท์กับหูตกลงมาอย่างไร้เรี่ยวแรง ผมก้มหน้าข่มอารมณ์ก่อนจะบังคับขาให้เดินกลับห้องไป ราวกับมีกระสอบทรายผูกขาเอาไว้ ทำไมแต่ล่ะก้าวมันดูหนักอึ้งเหลือเกิน
ทั้งๆที่ผมเข้าใจว่าอีกคนกำลังเปิดใจให้ ผมกำลังมีพื้นที่ในชีวิตเขาทีละน้อย แล้วเรื่องเมื่อวาน มันคือการเล่นตลกอะไรอย่างงั้นหรอ หรือความรู้สึกผมยังส่งไปไม่ถึง หรือมินวูจะไม่ได้รู้สึกอะไรกับผมเลยจริงๆ
แต่ไม่รู้ว่าทำไม อีกใจหนึ่ง…มันไม่เชื่อว่าจะจบแค่นี้ มินวูอาจจะยังไม่แน่ใจ เพราะเจ้าตัวชอบไม่พูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา แต่กลับพูดในสิ่งที่คิด ทำยังไงนะ ฉันถึงจะรู้ใจจริงๆของนาย พี่ยังมีความหวังรึเปล่ามินวู?
“ อ้าว ดงฮยอนทำไมดูซึมๆวะ ” ยูน ดูจุน เพื่อนผมเองแหละครับ
“ ช้ำใจว่ะ ” เหมือนกำลังตอกย้ำตัวเองเวลาตอบ จี๊ดเลยจริงๆ
“ ทำไมอะ เรื่องไอ้เด็กหน้าหวานนั่นอีกหรอ ” มันหมายถึงมินวูนั่นแหละครับ
“ อ้าว กินแห้วหรอเพื่อน ” จาง อูยอง สหายคนที่สอง
“ เฮ้ย อุตส่าห์ถือป้ายไฟเชียร์มาตั้งนานนะเว้ย ” และอี จินกิ สหายคนที่สาม แม่งเชียร์ผมกันยิ่งกว่าเชียร์บอลโลกอีก ผมให้เพื่อนแค่ดูห่างๆ ไม่เคยแนะนำให้มินวูรู้จักเลย แต่พวกมันรู้จักมินวูกันทุกคน ไอ้ที่ผมโผล่ๆหน้าไปให้มินวูเห็นบ่อยๆส่วนใหญ่ก็ไอ้พวกนี้แหละที่สนับสนุนซะเหลือเกิน
“ ฉันก็ยังไม่แน่ใจ แต่เขาคิดกับฉันแค่พี่ชายว่ะ ” เสียงผมอ่อนลงตรงคำสุดท้าย ไม่อยากจะพูดย้ำตัวเองเลยเหอะ
“ โหย แค่นี้ก็ถอดใจแล้วรึไง ” ไอ้จินกิเดินเข้ามากอดคอผม
“ ยังหรอกเว้ย ก็แค่เฮิร์ท ” ก็แค่… มั้ง (คอตก)
“ เออเฮิร์ทไป เดี๋ยวสู้กันใหม่ สถานะมันเลื่อนกันได้ ” จินกิชูสองนิ้วสู้ๆให้ผม ทำไมเคะขนาดนี้แล้วยังไม่โดนใครงาบไปอีกวะมัน
“ ตอนน้องเขายิ้มนะ ไม่อยากบอกว่าฉันเห็นแล้วยังติดใจ ” อูยองเริ่มเพ้อ เฮ้ย! ผมหวงนะเว้ย
“ เด็กอะไรก็ไม่รู้ แม่งน่ากอดฉิบ ” ดูจุนก็เอาอีกคน ไม่ให้กอดโว้ย!
“ ฉันจะบอกโยซอบ - - ” ไอ้นี่มีแฟนอยู่แล้วยังจะเจ้าชู้อีก
“ เฮ้ย แค่ล้อเล่นน่า!ถึงมันจะมีเค้าความจริงก็เหอะ -..- ” ผมโบกหัวไอ้ดูจุนมันไปหนึ่งที ถ้าผมได้มินวูเป็นแฟนนะ ผมจะไม่ให้มันเข้าใกล้มินวูเด็ดขาด - -*
“ ก็รู้ว่าของเขาหวงแรง ดูดิ สีหัวมันยังแรงเลย ” จินกิชี้หัวผม เออ ผมสีแดงแล้วมันทับกระโหลกใครไม่ทราบ
“ เปลี่ยนลุคหน่อยไหมเพื่อน ” อูยองยืนกอดอกมองผมอย่างใช้ความคิด เปลี่ยนลุคหรอ ไอ้สีแดงนี่ก็อยู่กับผมมานานแล้วสิ
“ ก็ไม่เลวนะ ย้อมหัวย้อมใจ โว้ย แซดโคตร!! ” ยิ่งพูดเหมือนยิ้งเศร้า ก็เรื่องแซดนี่หว่า TT พอเห็นผมเริ่มสติแตกพวกมันก็เลยปล่อยให้ผมอยู่คนเดียวซักพัก ทำไมผมดูงี่เง่าอย่างงี้วะ
“ ฉันจะเป็นบ้าเพราะนายแล้วมินวู ” เสียงพึมพำที่พูดให้ได้ยินคนเดียว แค่เห็นหน้าก็อยากจะดึงเข้ามากอด เสียงยียวนที่ชอบเถียงทำให้ผมต้องห้ามใจไม่ให้จูบริมฝีปากนั่น แม้แต่ตอนนี้ผมก็ยังคิดถึงแต่เขา ผมควรจะทำยังไงดีนะ…?
สภาพของผมตอนนี้คือนอนหมอบลงไปกับโต๊ะ มือถือโทรศัพท์ที่หน้าจอมีรูปภาพคนๆนั้นปรากฎอยู่
“ ฉันไม่ได้อยากเป็นแค่พี่ชาย นายรู้ไหม ” ผมทัชหน้าจอเลื่อนรูปภาพที่มีเป็นสิบ ผมแอบถ่ายเก็บไว้น่ะ ส่วนใหญ่เป็นรูปหมอนั่นตอนที่ยิ้ม รูปล่าสุดก็เมื่อเช้าก่อนที่ผมจะปลุกเขา หน้าตอนหลับนี่น่าลักหลับสุดๆ
“ เฮ้อ… ” ผมถอนหายใจเป็นรอบที่สามแล้วมั้ง ท้อจนไม่รู้จะท้อยังไงเลย
ใบหน้าทุกอิริยาบถที่มินวูเคยแสดงออกมันแล่นเข้ามาราวกับถูกฉายอยู่ตรงหน้า สัมผัสหวานและนุ่มที่ริมฝีปาก เสียงครางในลำคออื้ออึงในหูของผม รสชาติหวานฝาดของน้ำสีขาวขุ่น นึกไปนึกมาชักติดเรทแฮะ ก็ผมทำเรื่องไม่ดีกับเขาไว้เยอะนี่
...ได้แค่พี่ชายมันก็ดีเท่าไหร่แล้วไอ้ดงฮยอน
“ หึ! ” ผมแค่นหัวเราะในคออย่างสมเพชตัวเอง
“ พี่ขอโทษนะมินวู… ”
ความคิดเห็น