ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Will you be mind ? เตี้ยคนนี้ผมขอ [ Donghyun x Minwoo ]

    ลำดับตอนที่ #1 : เตี้ยแล้วยังไง ?

    • อัปเดตล่าสุด 19 เม.ย. 55


    THE★FARRY
     


     

     

    1

     

    เตี้ยแล้วยังไง ?

     

     



    ส่วนสูงคือสิ่งคนเราเกิดมามีไม่เท่ากัน

    แล้วทำไมผมมีถึงมีมันน้อยจัง -*-

     

     

     

     

     

    สวัสดีครับ ผม โนว มินวู ผู้ชายหน้าตาดี มีการศึกษา ครอบครัวอบอุ่น เพื่อนรักทะลักห้อง ฮ่าๆๆ ทุกอย่างเกือบดี เน้นว่าเกือบดีครับ เพราะพระเจ้าเล่นตลกอะไรกับผมก็ไม่รู้ถึงให้ส่วนสูงผมมาเพียงน้อยนิด ใจร้ายจริงๆครับ  ผมโคตรจะเกลียดคำว่าเตี้ยเลย ใครเรียกเตี้ยมีเคืองแน่ๆครับ - -+ มันช้ำครับมันช้ำ  อีกอย่าง ใครๆก็ชอบหาว่าผมน่ารัก ความจริงผมน่ะออกจะเท่ห์นะ ทำไมไม่เห็นความแมนของผมบ้างวะ! ก็แค่ไม่เก่งกีฬา บางคนบอกว่าเป็นที่หน้าตากับหุ่น ที่มันค่อนไปทางหวานๆตัวเล็กๆน่ารักๆ อะไรทำนองนั้น  จะบ้าหรอไง -*- ผมไม่ใช่ผู้หญิงนะ  เหอะๆ ผมจับไม้กวาดปัดทำความสะอาดพื้น  ส่วนคนอื่นๆหรอครับ อ้างโน่นอ้างนี่ทิ้งภาระให้ผมทำอยู่คนเดียว ชิ! คนเดียวก็ได้คนอย่าง โนว มินวู เก่งอยู่แล้ว~  

    ว่าแต่แปรงลบกระดานอยู่ไหนวะเนี่ย ผมกวาดสายตามองหารอบๆห้องแต่กลับไม่เห็นซักอัน  ปกติมันต้องอยู่หลังห้องนี่  พลันสายตาก็สะดุดกับแผ่นกระดาษสมุดที่เขียนด้วยลายมือตัวโตติดอยู่บนตู้เหล็ก แถมยังอยู่ในระดับสายตาของผมอย่างพอดิบพอดี

     

    ทำให้สะอาดนะเตี้ย มันอยู่ข้างบนน่ะ  ปย๊ง~ ’

     

    ไอ้…!  ผมแหงนหน้ามองตู้เหล็กขนาดเล็กแต่สูง มันคือที่เก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดจำพวกไม้กวาด ไม้ถูพื้นและถังน้ำ  แล้วไอ้ตู้เนี่ยดันสูงเลยหัวผมไปอีกสองไม้บรรทัด ที่แย่กว่านั้น แปรงลบกระดานมันเสือกถูกแอบวางไว้บนตู้ใบนี้  นี่ผมโดนแกล้งใช่มั้ย?? ต้องเป็นไอ้สองแฝดหัวทองดำนั่นแน่ๆเลย - -*ฮึ่ย! อยากเพิ่มสีแดงให้หัวสองคนนั้นจริงๆ 

    ผมมองตู้สลับกับหน้าต่างที่มันอยู่เกือบติดกัน ถ้าให้ปีนหน้าต่างไปหยิบ ถามว่าถึงไหม มันหยิบถึงครับแต่คงจะตกลงมาขาแข้งหักพอดี เพราะฉะนั้นไม่เสี่ยงดีกว่า 55 ผมจับไม้กวาดในมือเอื้อมไปปัดบนตู้เพื่อให้แปรงตกลงมา แต่ทำไมแปรงมันอยู่ลึกจังวะ ผมเขย่งเท้าขึ้นแล้วออกแรงปัดซ้ายขวาแรงๆ จนแปรงลบกระดานลอยออกมา แล้วก็ลอยออกไปนอกหน้าต่าง

     

    “ เฮ้ย! ”  

     

    “ ปั่ก! โอ้ย!!!

     

    อูยยย เจ็บฉิบ ครับเสียงอันหลังน่ะของผมเอง ก็มือเจ้ากรรมดันเผลอปล่อยด้ามไม้กวาดจนมันตกลงมาฟาดโดนกบาลจังๆเลยอะ หัวจะโนไหมวะเนี่ย ผมลูบๆคลำๆหัวตัวเอง พบว่ามันยังคงปกติดีไม่มีอะไรปูดหรือบุบสลาย ฟู่ววว โล่งอกไป = = 

    แล้วเสียงเฮ้ยเมื่อกี้มันของใครกัน? ผมลองชะโงกหน้าออกไปดูนอกหน้าต่างว่ามีใครซวยโดนแปรงลบกระดานตกใส่หัวรึเปล่า แต่กลับไม่มีคนที่มีท่าทางว่าจะใช่ เลยพยายามมองหาวัตถุที่ลอยละลิ่วออกไปก่อนหน้านี้ แต่ก็ไม่เจอ

     

    “ หายไปไหนวะ ”

     

    “ หาไอ้นี่อยู่รึเปล่า? ”  เสียงทุ้มดังขึ้นจากประตูห้อง ผมหันขวับไปยังผู้มาเยือนทันที ชายคนหนึ่ง ใบหน้าขาวตัดไรผมสีแดงไวน์ผิดระเบียบ ดูเหมือนจะไม่ใช่ชั้นเรียนเดียวกันแน่ๆ ยิ่งสีหัวนั่นยิ่งไม่ใช่ใหญ่ ระดับผมมีแค่เจ้าแฝดยองมินที่ย้อมหัวทองผิดระเบียบเท่านั้นแหละ  

     

    คนตรงหน้าประตูยืนชูวัตถุสี่เหลี่ยมผืนผ้าแกว่งไปมา นั่นมันแปรงลบกระดาน… O.O

     

    “ มะมาได้ยังไง ”  

     

    “ เฮอะ ” เขากระตุกยิ้มเล็กน้อยก่อนจะขยับนิ้วลากสั้นๆที่หน้าแปรงลบกระดาน ซึ่งมันเขียนเลขชั้นกับห้องเรียนไว้อยู่ “ สงสัยมันจะลอยกลับขึ้นมามั้งครับ ” เออ คนมันลืมได้ไหมล่ะ -3-

     

     “ จริงดิ งั้นขอคืน ” ผมเดินไปจะคว้าแปรงลบกระดาน แต่มืออีกคนกลับชูมันขึ้นสุดแขนเลยทำให้คว้าได้แค่อากาศ  นี่จะกวนตีนกันใช่ป้ะ  - -*  ผมจ้องหน้าอีกคนอย่างหาเรื่องและเขาก็จ้องกลับเช่นกัน แต่เหมือนจะจ้องผมนานไปหน่อยนะ มีอะไรติดหน้าผมหรอไง

     

    “ อะไร ” ราวกับดึงสติอีกคนให้กลับมา คนหัวแดงปรับสีหน้ากลับอย่างเดิมทันที

     

    “ จะไม่ขอโทษหน่อยหรอไง เด็กอะไรว๊า ” อะไรนะ !

     

    “ ขอโทษอะไร ไม่ใช่เด็กนะเว้ย เอามา! ”  ผมกระตุกแขนคนตรงหน้าให้ลดลง ทว่าเขาเกร็งแขนไว้ แถมยังยื่นหน้าลงมายกยิ้มที่คงจะคิดว่าหล่อเหลือล้น !  ผมหล่อกว่าตั้งเยอะ !

     

    “ ก็เห็นตัวเตี้ยๆ ”  ฉึก! ตัวเตี้ยๆ เตี้ยๆ เตี้ยๆ ราวกับมีเสียงแอคโค่ก้องอยู่ในหูผม  ไอ้หัวแดงนี่มันเป็นใคร บังอาจมาว่าผมเตี้ย ชั่วมาก!(?)

     

    “ ทำไม เตี้ยแล้วทำไมวะ ” ผมผลักอกอีกคนอย่างหาเรื่อง เสียงปึดๆของเส้นอารมณ์โกรธบ่งบอกเลยว่า โมโหโว้ย!!

     

    “ เฮ้ยๆ ให้มันน้อยๆหน่อย ฉันเป็นรุ่นพี่นายนะไอ้เตี้ย ” ผมพ่นลมในปากอย่างหมดความอดทน คำก็เตี้ย สองคำก็เตี้ย จะเล่นกับมินวูคนนี้ใช่มะ ได้เล้ยยยย

     

    “ ใครสนวะ ” ผมฟาดขาเข้าที่หน้าแข้งอีกคน จนมันต้องทิ้งแปรงลบกระดานแล้วกระโดดกอดแข้งโหยงๆชี้หน้าผมอย่างคาดโทษ ผมรีบเดินเข้าห้องไปหยิบกระเป๋าที่เก็บของเข้าไว้ก่อนหน้าทำเวรแล้ววิ่งออกประตูหลังห้องทันที จะอยู่ให้โดนกระทืบทำไมล่ะครับ 555

     

    “ หยุดนะเว้ย!55 สมน้ำหน้า สูงกว่านิดหน่อยก็มาว่าคนอื่นเขาเตี้ย หึ! ผมหันกลับไปมองกิริยาอีกคนแว๊บนึง ก่อนจะเร่งสปีดความเร็วขาทันที ก็แม่งเสือกวิ่งตามน่ะเซ่ อ๊ากกก !! ตามมาทำม๊ายยยย ผมไม่ได้ทำอะไรให้มันเลยนะ (หรอ?)

     

    “ เลิกวิ่งตามสิโว้ยยยย ” ผมตะโกนโต้ลมกลับ ก่อนจะกระโดดลงบันไดทีล่ะสามขั้น  อ้อ ผมเคยบอกว่าไม่เก่งกีฬาใช่ไหม เว้นเรื่องวิ่งไว้อย่างหนึ่งละกัน ^o^

     

     “ คนหรือลิงเนี่ย ” เสียงมันบ่นขณะที่กระโดดตามมา เฮ้ย ได้ยินนะเว้ย - -* ผมวิ่งไปเรื่อยๆ เป้าหมายของผมน่ะหรอ ประตูโรงเรียนไงครับ

     

    แต่ถึงผมจะพยายามวิ่งเร็วยังไง ไอ้คนที่วิ่งตามก็กำลังจะเข้าใกล้ตัวผมมากขึ้นทุกที ทำไมมันไวงี้วะ  ผมหันไปมองมันบ่อยมาก พอหันกลับมาอีกทีก็เบรคขาไม่ทันแล้ว

     

    พลั่ก! ตุ้บ!

     

    เฮ้ยยย ใครมันยืนขวางวะคนยิ่งรีบๆอยู่ ตัวผมกระแทกเข้ากับอีกคนอย่างจัง แล้วผมเองที่เป็นฝ่ายกระเด็นออกมาก้นจ้ำเบ้ากับพื้น   ผมมองขวางไปที่อีกคน เคืองเว้ย คนบ้าไรถึกฉิบ

     

    “ เดินยังไงวะ ไม่เห็นคนยืนอยู่รึไง ”

     

    “ บังเอิญวิ่ง ไม่ได้เดิน ” ผมรีบลุกขึ้นสวนกลับทันควัน  แม่งมายืนขวางเองนี่หว่า

     

    “ จะยังไงก็ช่าง นายก็เป็นฝ่ายชนฉัน ” 

     

    “ ก็ไม่เห็นว่าจะสะเทือนตรงไหนนี่ ” ผมยักไหล่อย่างไม่ยี่ระ  มองหน้าคนข้างหน้าที่สูงกว่า(อีกแล้ว  - -*) ผมต่างหากที่เป็นฝ่ายเจ็บตัวไม่ใช่หรอ หมอนี่กำมือแล้วจ้องหน้าผมไม่วางตาก่อนจะเลื่อนสายตามองเลยผมไป พลันสมองนึกได้ว่าว่ามีใครอีกคนตามมาข้างหลัง  

     

    “ หาเรื่องคนเก่งจริงๆนะ ” คนข้างหลังหัวเราะขึ้นจมูกเล็กน้อย ผมเลยพูดออกมาลอยๆว่า“เสือก ” ก่อนจะเบี่ยงความสนใจไปที่คู่กรณีอีกคน  55 ท่าทางได้ผลดีนะ ไอ้คนหัวแดงเงียบกริบไปเลยว่ะ

     

    “ จะเอาไง ”

     

    “ โฮ่ ตัวแค่เนี่ยทำเก่ง น่าหัวเราะจริงๆ ” คนตรงหน้าเค้นยิ้ม กอดอกมองผมอย่างพิจารณา ถ้าจะมองหัวจรดเท้ากันแบบนี้ หมายความว่าไงฟะ

     

    “ ทำไม กลัวฟันไม่ร่วงหรอไง ”

     

    “ ห่วงฟันตัวเองดีกว่าไหม ไอ้หนู ”  หะ ไอ้หนู??

     

    “ อย่ามาเรียกแบบนั้นนะเว้ย - -* ” ผมเงยหน้าปะทะสายตากับอีกคนตรงๆ  เหมือนมีเอฟเฟคกระแสไฟฟ้าฟาดฟันกันดังเปรี๊ยะๆ

     

    “ ทำไม ไอ้หนู ก็ตัวแค่นี้จะให้เรียกอะไรล่ะวะ หรือจะให้เรียกว่า

     

    “ หยุด! ” ผมยกนิ้วชี้หน้าอีกคน ก่อนที่มันจะหลุดพูดคำที่ได้ยินแล้วไม่สบอารมณ์อย่างแรงออกมา 

     

     “ อะไรกัน ยังไม่ทันพูดก็ห้ามแล้วหรอไอ้เตี้ย ”  - -* นั่น! ผมไม่ได้เตี้ยโว้ยยยย

     

    “ ใครเตี้ย เตี่ยนายหรอ ” ผมพยายามตอบอย่างใจเย็น  แต่แอบกวน -.-

     

    “ แกว่าพ่อฉันหรอวะ ”

     

    “ ไม่ได้ว่า มันเป็นประโยคคำถามน่ะ ^^

     

    “ พูดงี้อยากอายุสั้นตามความสูงใช่มั้ยวะ ” ลามปามส่วนสูงอีกละ - -+

     

    “ ก็ไม่สั้นเท่าเส้นหัวแกหรอก ” ผมมองหัวเกรียนๆที่เส้นผมยาวไม่ถึงเซนของมันแล้วขำ คิดว่าดูดีหรอวะ ไว้ทรงนี้เนี่ย ตัวก็ถึก แม่งอย่างกับนักโทษแหกกรงเหล็กออกมา

     

    “ ขำไรวะ ” มันกระชากคอเสื้อผมจนตัวปลิวไปตามแรงของมัน เน้นว่าตัวปลิวเลยจริงๆ -0-ผมหลุดหน้าเหวอด้วยความตกใจ  อ๊ากกก ชอบใช้กำลังรังแกคนอื่นนี่หว่า -3-

     

    “ ใจเย็นน่า แทบิน ” บุคคลหัวเลือด เอ้ย! หัวแดงเดินเข้ามาตบบ่าอีกฝ่าย เหอะ นี่ยังไม่ไปอีกหรอเนี่ย ยุ่งไม่เข้าเรื่อง  ผมขมุบขมิบปากบ่น ตากลอกไปมาอย่างรำคาญ

     

    “ ดงฮยอน แกไม่เห็นหรอว่ามันกวนตีนฉัน ” ไอ้หัวเกรียนหันไปพูดอย่างหัวเสีย ชื่อดงฮยอนงั้นหรอ คุ้นๆนะ  ผมว่าผมเคยได้ยิน จากใครซักคนแหละ

     

    “ เออน่า ก็เด็กมันไม่รู้ประสา ”

     

    “ นี่เด็กแก?? ” ผมว่าผมเริ่มรู้สึกตะหงิดๆกับบทสนทนาของคนหัวเกรียนกับหัวแดงแล้วนะ

     

    “ ก็ …^^ ” ดงฮยอนป้องปากกระซิบสั้นๆกับเกรียน เอ้ย !แทบิน ก่อนจะยกยิ้มอย่างรู้กันแล้วปล่อยมือที่กุมคอเสื้อผมออก ไม่สิ ต้องเรียกขยุ้มคอเสื้อต่างหากถึงจะถูก  แม่งกระซิบกระซาบไรกัน  - -? อย่าทำให้อยากรู้ได้มั้ยวะ บอกมั้งเด้

     

    “ หัดกระแทกปากสั่งสอนบ้างนะ ปากดีฉิบหาย ” แทบินมองหน้าผมก่อนจะเลื่อนสายตามาที่ปาก  หมายความว่าไงง่ะ 

     

    “ กะอยู่ว่ะ ” ดงฮยอนเลียริมฝีปาก หน้าแม่งอย่างโรคจิตอ่ะ   ผมมองหน้าสองคนสลับกันไปมา

     

    “ กระแทกกันเองไปเหอะพวกแก แบร่! ;P ” ผมแลบลิ้นใส่ก่อนจะชิ่งออกมาด้วยความไวแสง ลาก่อน อย่าเจอกันอีกเลย เดี๋ยวจะอุทิศส่วนอกุศล เอ้ย! ส่วนกุศลไปให้ ฮ่าๆๆๆ แฮ่กๆ  วิ่งมากเหนื่อยอะ = =^

     

     

     

     

     

    ในที่สุด ผมก็กลับถึงบ้านโดยปราศจากรอยรองเท้าบนตัว 555 ก็ไม่เข้าใจ ทำไมถึงมีปัญหากับส่วนสูงผมกันจัง มันไปบั่นทอนความฉลาดหรืออายุไขของใครหรอไง - -+ ช่างแม่งเหอะ คิดไปก็อารมณ์เสียเปล่าๆ ผมเปิดประตูบ้านด้วยรอยยิ้มอันเบิกบานโคตร มีใครกลับมารึยังนะ

     

    “ กลับมาแล้วหรอ ช้านะเสียงทุ้มต่ำดังขึ้น  บ้านผมไม่มีผู้ชายอยู่นอกจากผมนะ นอกนั้นคือแม่แล้วก็น้องสาว  

     

    “ ใคร? ” ผมมองตรงไปข้างหน้าแทนการมองไปรอบๆ ถ้าเจออะไรแบบนั้นเข้าผมก็กลัวนะ T^T

     

    “ พี่เอง ^^ ” ชายร่างสูงเดินมาหยุดตรงหน้าพร้อมรอยยิ้มอบอุ่นที่คุ้นเคย นัยน์ตาผมเบิกกว้างเมื่อได้เห็นใบหน้าของอีกคน

     

    “ ฮยอง!! ”

     

     “ ทำหน้าอย่างกับเห็นผีเลยนะเตี้ย ” 

     

     

    คนเดียวที่เรียกผมว่าเตี้ยแล้วให้ความรู้สึกอบอุ่น

    คนเดียวที่ผมยอมให้เขาเรียกว่าเตี้ยแล้วไม่โกรธ

    คนเดียวที่ผมไม่เถียงและทำตัวดีด้วย

    เขากลับมาแล้ว   มาถึงก็เรียกเตี้ยเลยด้วยเหอะ 

     

     

    -*- ตลอดอะ ”  ผมทำหน้ามุ่ยใส่อีกคน ชิม ฮยอนซอง พี่ชายไม่แท้ของผมเองครับ ใจดี อบอุ่น สูง หล่อ เท่ห์ ต้นแบบผมสุดๆเลย ><d 555  ตั้งแต่เขาเข้ามหาลัย ผมเจอเขาน้อยแทบนับครั้งได้ นึกว่าลืมน้องชายไปแล้วซะอีก 

     

    “ คิดถึงนายมากน้องเตี้ย ” คนตัวโตสวมกอดผมก่อนจะขยี้หัวแรงๆ พี่ครับเดี๋ยวเสียทรงแล้วน้องจะหล่อกว่าเดิมนะเออ -..-      

     

    “ คิดถึงฮยองเหมือนกันแหละ มาได้ไงครับ ” ผมยิ้มหวานให้อีกคนตามปกติ ประโยคมีหางเสียงเหมือนเด็กพูดกับผู้ใหญ่ ก็เวลาอยู่กับเขาทีไรผมดูเหมือนเด็กทุกที  มิติมันต่างกันเว่อร์ ~

     

     

     บทสนทนาเป็นไปตามธรรมชาติของพี่น้อง แต่ถ้าคนอื่นมาเห็นคงแปลกไปนิดหน่อยที่ผมดูเชื่อฟังพี่เขามาก ก็เขาเปรียบเสมือนตัวแทนพ่อผม เราเจอกันตอนผมอายุได้สิบขวบจนตอนนี้ผมสิบหกแล้ว แต่ผมก็ยังเป็นเด็กสำหรับพี่ฮยอนซองตลอดเวลา จะลูบหัว ขยี้ผม หรือแม้แต่จะเรียกคำที่ผมเกลียด ผมก็ไม่เคยว่าหรือเถียง เพราะว่าผมสัมผัสความอบอุ่นจากคนๆนี้ได้ทุกครั้งที่อยู่ด้วยกัน ผมอยากเป็นแบบเขาบ้าง มีลุคแบบพี่ชายแต่คงยากมันเลยเป็นแค่สิ่งที่เคยคิด  ผมเป็นแบบผมน่ะดีแล้วเขาบอกแล้วยิ้มให้เบาๆ ภาพนั้นมันอยู่ในความจำอย่างดี 

     

     

    ตกเย็น

     

     

    ผมกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียงนอนรอพี่ฮยอนซองเปิดหนังให้ดู โนว มินอา น้องสาวตัวแสบของผมนั่งกอดหมอนอยู่ข้างๆยังเลือกหนังไม่ได้ซักที เธอมองแผ่นดีวีดีในมือสองข้างอย่างลังเล เฮ้ยย รอนานแล้วนะเว้ย จะได้ดูชาติไหนเนี่ย

     

    “ ซักอันดิ๊มินอา ” ผมยู่หน้าใส่ด้วยความหมั่นไส้ 

     

    “ แค่นี้บ่น ” มินอาปาหมอนมาทางผม ก่อนจะยัดแผ่นดีวีดีในมือซ้ายของเธอให้พี่ฮยองซอง

     

    “ รอบนี้หนังผีหรอนี่ ”

     

    “ ห๊ะ หนังผี? ”

     

    “ กลัวหรอคะโอป้า ” มินอาหันมากระตุกคิ้วให้ ตามด้วยยิ้มกวนๆ ก็รู้ทั้งรู้ว่าผมกลัวผี ไอ้น้องบ้า ! - -+

     

    “ ไม่ได้กลัวเว้ย ” ผมยืนขึ้นเท้าเอวจ้องหน้ามินอา

     

    “ ยืนซะเหมือนจะสูงเลยอ่ะ ” เจ็บครับเจ็บ มินอาาาา ทำไมแกรักพี่จังหะ TT

     

    “ นั่งลงเถอะเตี้ย ” พี่ฮยอนซอง!  

     

    -0-

     

    “ ฮ่าๆๆๆๆๆ ”  เสียงหัวเราะของมินอากับพี่ฮยอนซองถูกปล่อยออกมาพร้อมกันทันทีที่ผมทำหน้าเหวอ  ช่วยด้วยยย ผมถูกรุมทำร้าย TT__TT เตี้ยแล้วมันผิดตรงไหน บอกผมที

     

















    เม้นเพื่อตอนต่อไป  -..- 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×