THE★FARRY
2
กอด จูบ ลูบ
(?)
แสงอรุณสว่างเข้าเปลือกตา เสียงปลุกให้ตื่นไปโรงเรียนอย่างนุ่มนวลดังข้างตัว คงเป็นพี่ฮยอนซองที่กำลังปลุกผมกับมินอา ผมลุกขึ้นช้าๆก่อนจะปรับม่านตาให้รับแสงยามเช้า มินอายังคงงัวเงียไม่ยอมตื่น ขี้เซาซะยิ่งกว่าผมอีกรายนี้ เมื่อคืนเราดูหนังกันจนหลับ แต่กว่าจะได้หลับนี่ทั้งสะดุ้ง ทั้งร้องเสียงดังเพราะกลัวผี ยัยมินอาก็กรี๊ดแตก ทำเป็นว่าเขาตอนแรก ก็กลัวพอๆกันแหละวะ -3-
“ มินอา~ ตื่นเร็ว ยองมินมาหา ” ผมแกล้งพูด เพราะน้องสาวตัวดีกำลังปลื้มเจ้าแฝดหัวทองห้องผมอยู่
“ หา?!! ” ได้ผล มินอากระเด้งตัวขึ้นนั่งทันที ผมกับพี่ฮยอนซองหัวเราะเบาๆ
“ ไปอาบน้ำๆ ” คนโตสุดไล่ผมเข้าห้องน้ำ ส่วนมินอาก็ออกไปอาบอีกห้องหนึ่ง พอเราสองคนแต่งตัวเสร็จ พี่ฮยอนซองก็ตั้งโต๊ะวางกับข้าวเสร็จสรรพ ส่วนแม่ก็นั่งยิ้มกริ่มสบายที่มีลูกชายมาทำให้ทุกอย่าง แต่ผมว่าเหมือนพ่อบ้านมากกว่านะ 555 วันนี้พี่ฮยอนซองมาส่งมินอากับผมที่โรงเรียนแต่เราอยู่คนล่ะโรงเรียนกันนะครับ เพราะมินอาชิงทุนได้คนล่ะที่กับผม ฮ่าๆ เก่งทั้งพี่ทั้งน้องเลยใช่ไหมล่ะ -..-
“ ตั้งใจเรียนนะเตี้ย ”
“ ครับฮยอง ขับรถดีๆนะครับ ^-^ ”ผมโค้งให้ก่อนจะเดินเข้าโรงเรียน วันนี้อารมณ์ดี อยากกินไอศกรีม~ ไปซื้อกินดีกว่า ว่าแล้วก็เลี้ยวตัวกลับเดินออกไปร้านสะดวกซื้อ ^O^ ผมชะโงกหัวมองเหล่าไอศกรีมในตู้แช่ อันนี้ก็น่ากิน อันนั้นก็น่าลอง อันนู้นก็น่ารัก เอ้ย! ไม่ใช่ละ
“ อันไหนดีจ้ะมินวู ” พี่สาวลูกเจ้าของร้านเดินมาพร้อมรอยยิ้ม เธอมีลักยิ้มด้วยล่ะ นั่นชวนให้คนที่เห็นต้องยิ้มตอบไปตามๆกันเลยทีเดียว
“ อันนี้ครับนูนา ^^ ” ผมชูแท่งไอศกรีมแล้วยิ้มตามแบบฉบับ
“ >///< พี่ให้ฟรีเลยจ้ะ ”
“ จะดีหรอครับ ” ผมมู่ริมฝีปากเข้าหากันพลางเหลือบมองแท่งไอศกรีมในมือ ท่าเด็ดที่เอาไว้ใช้กับพวกนูนาเลยล่ะ -..-
“ งั้นนูนาขอกอดทีนึง ”
“ ก็ได้ครับ ” ถ้าไม่น่ารักไม่ให้กอดนะเนี่ย -.- แถมไอศกรีมฟรี~ ยอม! 55 เธอโผเข้ากอดผมเต็มๆรัก ก่อนจะบีบแก้มผมเบาๆ -/-
“ มินวูน่ารักที่สุดเลย ” ถ้าเปลี่ยนเป็นหล่อที่สุดจะดีมากครับนูนา
“ ขอบคุณครับ ” ผมยิ้มให้ เธอโบกมือบายๆเล็กน้อย รู้สึกวันนี้ผมจะยิ้มเยอะนะ แต่มันก็ปกติของผมนี่นะ อากาศตอนเช้านี่มันดีจัง สาวน้อย สาวใหญ่ เพื่อนสาวพากันมองตามผม บางคนก็ยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป ผมก็พอจะรู้ว่าป๊อบกับเขาอยู่เหมือนกัน ก็คนมันหล่ออ่ะ
“ ไงมินวู ” เสียงประสานกันทักผมพร้อมทั้งพาดแขนคนละข้างวางบนไหล่ หนักเฟ้ย ! เสียงกรี๊ดจากสาวแท้และเทียมดังขึ้นเมื่ออีกสองหนุ่มแฝดตระกูลโจโผล่มา โจ ยองมินและโจ กวังมิน
“ หวัดดีคู่แฝด อ้อ น้องฉันฝากความคิดถึงมาให้นายด้วยยองมิน ”
“ วันนี้นายดูอารมณ์ดีนะ ” แฝดหัวดำ โจ กวังมิน ทักขึ้น
“ ก็ปกติ ”
“ หรอ เมื่อวานนายได้ลบกระดานไหม ” ยองมินหัวทองส่งยิ้มขี้เล่น พวกนายสินะที่แกล้งฉันเมื่อวาน เดาไว้ไม่เคยผิดอะ
“ คิดว่าไม่ ” ก็วิ่งหนีออกมาก่อนอะดิ
“ อ้าว ! ” สองแฝดร้องพร้อมกัน
“ ไม่ต้องกลัวอ้าว ได้ยกถังน้ำแน่ ^^ ”
“ ใจร้ายว่ะ ” << กวังมิน
“ นายทำกับพวกเราได้ยังไง ” << ยองมิน
ผมยักไหล่แล้วเดินนำขึ้นห้องเรียนอย่างไม่สนใจ ก็ดันแกล้งแบบไร้สมองเอง 555 หน้าที่ลบกระดานน่ะมันของนายสองคนนี่หว่า ก็ไปโดนทำโทษกันเอาเองแล้วกัน สมน้ำหน้า ;P
“ สวัสดีตัวเล็ก ”
เจ้าของเส้นผมสีแดงยกมือแล้วยิ้มให้ ผมมองซ้ายมองขวาก่อนจะเดินผ่าน ทักใคร? คงไม่ใช่ผมหรอกเผอิญไม่ได้ชื่อตัวเล็กว่ะ
“ เฮ้ ฉันทักนายนะ ” คนเมื่อกี้เดินมายืนตัดหน้า ผมหยุดก่อนจะมองหน้าอีกคน อ้อ ดงฮยอนหัวแดงคนเมื่อวาน โผล่ทำไม จะมาแก้แค้นหรอไง
“ ไม่เรียกชื่อจะไปรู้หรอ ”
“ นายเมินฉัน ”
“ ไม่เคยบอกว่าสนใจนี่ ^^ ”
“ กวนหรอครับเตี้ย ” ผมหุบยิ้มทันที - - มาอีกละคำนี้
“ ถอยไปเลยไป ”
“ ล้อเล่นน่ามินวู เมื่อวานโทษทีที่เรียกแบบนั้น ”
“ นายรู้จักฉัน? ”
“ นายออกจะดัง ไม่รู้หรอไงพ่อเด็กทุน ”
“ ขอบใจ ” ผมเบี่ยงตัวจะเดินเข้าห้อง แต่ดงฮยอนก็ขยับตัวขวางอีก โอ้ยย อะไรของเขาเนี่ย ผมจิ๊ปากขัดใจ
แต่นึกถึงเมื่อวานแล้วก็แอบเสียววาบที่หลัง แม่งแอบโรคจิตรึเปล่าก็ไม่รู้ ทางที่ดีควรจะเลี่ยงมันให้พ้นๆจะปลอดภัยที่สุด
“ กลัวอะไรพี่หรอ ” ดงฮยอนยกยิ้มเหมือนเขารู้ทันผม หน้าอย่างงี้มันดูหื่นๆยังไงไม่รู้ แถมแทนตัวเองว่าพี่อีก อ๊ากกกก สยอง ! มันทำให้ผมไม่สามารถตอบกลับได้เต็มคำ
“ อ
อะไร กลัวอะไร ”
“ แต่นายดูจะหลบหน้าพี่นะ มินวู ” ใบหน้าขาวยื่นลงมาจ้องตาเหมือนจะแกล้ง ผมสะดุ้งผงะน้อยๆเพราะจมูกผมมันจะชนกับเขาอยู่แล้ว วินาทีที่สายตาเราประสานกัน มันคือสงครามประสาทดีๆนี่เอง คิดจะต้อนกันงั้นหรอ ง่ายไปมั้งดงฮยอน คอเสื้ออีกคนถูกผมดึงลงมาโดยไม่ให้ตั้งตัวก่อนจะกรอกเสียงข้างใบหูอย่างถือดี
“ ฉันไม่เคยกลัวอะไรอยู่แล้ว
ดงฮยอน ” ผมผละตัวออกห่างจากอีกคน แล้วเดินเลี่ยงเข้าห้องไป
ฟู่ววว -.- ลมหายใจถูกถอนออกเบาๆหลังจากที่บุคคลนั้นเดินกลับไป ความรู้สึกโหวงๆในอกบอกว่าลางไม่ดีจะเกิดขึ้นกับตัวผม อ๊ากกก ผมทำอะไรลงไปวะ ซักพักร่างโปร่งของกวังมินก็ก้าวเข้ามาเท้ามือลงบนโต๊ะผม
“ มินวู -*- ”
“ อะไรของนาย ” ผมมองกวังมินที่ทำหน้ามู่ทู่เหมือนใครเอาอะไรเสียบก้นมันอยู่งั้นแหละ -..- ช่วยดึงมะ 555
“ นายเป็นอะไรกับรุ่นพี่ดงฮยอน ” อ้อ~ เป็นอะไรหรอ เป็นอะไรดีนะ ชักอยากแกล้งคนว่ะ
“ ถามทำไมอ่ะ ชอบหรอ ”
“ นาย
! ” กวังมินเบิกตากว้าง ยันตัวยืนเต็มความสูงด้วยความตกใจ หึหึ แทงใจล่ะสิ ใช่ว่าฉันจะไม่รู้ว่านายชอบรุ่นพี่ดงฮยอนอะไรนั่นอยู่ ก็ว่าชื่อดงฮยอนนี่มันเคยได้ยินที่ไหน เฮ้อออ หมอนั่นมีดีตรงไหนกัน - -; หรือถึงเวลาที่นายควรจะตัดแว่นใส่วะกวังมิน ? ผมหลุดหัวเราะกับท่าทางเหมือนเด็กโดนจับได้ของอีกคน
“ นายแกล้งฉันหรอมินวู - -+ ” ยิ่งเห็นหน้าอาฆาต ผมยิ่งหัวเราะเขาไปใหญ่ ฮาเป็นบ้า!สงสัยมันคงจะคิดว่าผมจะแย่งจริงๆมั้ง ฝาแฝดอีกคนเหลือบมามองก่อนจะเดินมาเข้ามาอีกคน
“ อะไรกันหรอกวัง ”
“ มินวูแกล้งผมอะ ” ผมมองฝาแฝดคนพี่ที่หน้าสวยแต่นิสัยแมนอย่างหวั่นๆ
“ ไม่ได้ทำนะเว้ย ”
“ ฉันเห็นนายหัวเราะกวังมิน ”
“ ก็มันตลกนี่หว่า
! ” ผมเม้มปากทันที ดันหลุดความจริงไปซะได้ ฮ่าๆ ซวยแล้วไง ไอ้มินวูเอ้ยยย ผมลุกขึ้นวิ่งหนีทันทีที่ฝาแฝดกระตุกยิ้มขึ้นพร้อมกัน เราวิ่งไล่จับกันรอบห้องยันเสียงกริ่งเข้าเรียนดังขึ้น
คาบแรกเป็นคาบโฮมรูม ผมโดดออกมาได้ทันท่วงทีส่วนเจ้าคู่แฝดคงจะโดนทำโทษเรื่องเวรเมื่อวาน 555 ขอสมน้ำหน้าหน่อยเหอะ ชอบแกล้งผมดีนัก -3-
บรรยากาศช่วงเช้าทำให้รู้สึกอยากปล่อยให้สมองโล่ง ผมพาร่างกายมาสูดลมที่ดาดฟ้า วันนี้ฟ้าสวยดีแฮะ
“ โอ้ นักเรียนทุน โดดตั้งแต่คาบแรกเลยนะ ” ผมหันหลังขวับ มองคนที่เดินออกมาจากประตู ดงฮยอน ...อีกแล้ว?? นี่มันบังเอิญหรือจงใจกันแน่ เขามีอะไรกับผมมากรึเปล่า - -*
“ ยุ่งไรด้วย ”
“ ฉันควรจะโทรบอกสารวัตินักเรียนดีไหมนะ ”
“ แล้วคิดว่านายจะรอดหรอ ” ถ้าผมโดนจับได้ หมอนี่ก็ต้องโดนด้วยล่ะวะ
“ ก็แค่บอกว่าตามนายมา ” ดงฮยอนยักไหล่อย่างไม่ยี่ระ คิดจะสร้างเรื่องง่ายๆเลยนะแต่ฉันไม่ยอมหรอก
“ อ่าหะ ผมมีโรคจิตตามมาด้วยนะเนี่ย ^^ ”
“ โรคจิตหรอ แบบไหนล่ะ ” รู้สึกว่าผมจะโดนกวนประสาทนะ นี่อุตส่าห์จะขึ้นมาทำให้สมองปลอดโปร่งนะเฮ้ย ทำไมต้องเจอแม่งด้วยเนี่ย
“ ว่าไงไอ้ตัวเล็ก ” เมื่อเห็นผมไม่ตอบ ลำขายาวก็ก้าวเข้าประชิดตัวผมทันที และนาทีนี้เองแขนแกร่งฉวยโอกาสรวบกอดตัวโดยไม่ให้ผมได้ตั้งตัวทัน “ ตัวเล็กจริงๆด้วย (: ”
“ O_O! ”
“ เฮ้ย! ปล่อย ” ผมดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอดอีกคน มากอดผมทำไม! ไอ้โรคจิต ไอ้หน้าหื่น อ๊ากกกก !!
“ ก็ตอบสิครับ ^^ ” แม่งยิ้มกรุ่มกริ่มอะไรวะ เสียวนะเว้ย TT
“ พอใจจะไม่ตอบ มีไรป้ะ ” ปากมันไปเองนะครับ ผมสาบาน
“ ไม่ตอบ หรือตอบไม่ได้ ”
“ ก็กลัวรับความจริงไม่ได้ ”
“ ความจริงอะไร ”
“ ความจริงที่ว่าแกหื่นไง ไอ้บ้า ปล่อยโว้ยย!! ” แม่งแรงเยอะอะ ดิ้นไม่หลุดซักที
“ หึหึ น้อมรับคำชม ”
“ เชี่ย โรคจิต! ” ผมสบธคำหยาบ น้อยครั้งที่ผมจะพูดมันออกมา ยอมรับว่าแกกวนประสาทได้เก่งมาก ดงฮยอน!
“ ปากนาย
”
“ รู้ว่าปากดี ไม่ต้องชม ”
“ มันน่าโดนกระแทกอย่างที่ไอ้แทบินมันว่าจริงๆ ” มือหนายกขึ้นมาบีบกรามผมแน่น เจ็บ! ผมมองหน้าอีกคนอย่างหวาดๆ ก็ดูมันจ้องปากผมดิ
“ คิดจะทำอะไร ”
“ ไม่คิดก็ได้ แต่ จะ ทำ เลย ! ” สิ้นน้ำเสียง ริมฝีปางหนาก็บดขยี้ลงมาทันที ผมปิดปากแน่นตามสัญชาตญาณ กลีบปากล่างของผมถูกขบแรงๆบังคับให้อ้าปากออก ลิ้นสากดันลิ้นผมเข้ามาก่อนจะตวัดสำรวจไปทั่วโพรงปากอย่างฉวยโอกาส ริมฝีปากผมถูกดูดเม้มครั้งแล้วครั้งเล่าโดยที่ขัดขืนไม่ได้ รสจูบหนักหน่วงไม่ปล่อยให้ได้หายใจเลยแม้แต่วินาทีเดียว
“ อื้อๆๆ ” ผมครางประท้วงในลำคอ ริมฝีปากหนาผละออกในเวลาสั้นๆก่อนจะทาบมันลงมาอีกครั้งราวกับยังไม่พอใจ แม่งจะจูบอะไรนักหนาวะ ตัณหาเยอะนักรึไง
มือของแขนข้างที่กอดผมไว้เริ่มซุกซน ขยับล้วงเขาใต้สาบเสื้อข้างหลังที่มันหลุดออกมาตอนผมดิ้น เฮ้ยๆ นี่มันจะมากไปแล้วนะโว้ย ความรู้สึกเสียววาบที่หน้าท้องแล่นเข้ามาเมื่อมืออีกคนไล้ขึ้นช่วงเอวผม ทำเอาสะดุ้งตัวแรงจนอีกคนรู้สึกได้
เสียงหัวเราะในลำคอของคนตรงหน้าเป็นสัญญาณว่าเริ่มจะไม่ปลอดภัยแล้ว กอด จูบ ลูบ เหลืออีกหนึ่งก็จะครบสูตรแล้วนะเฮ้ย เสร็จกันพอดีแม่งเอ้ย! ผมผลักอกอีกคนแล้วสะบัดตัวออกอย่างแรง ก่อนจะปล่อยหมัดลุ้นๆใส่ใบหน้าขาวที่กำลังเผลอ
พลั่ก!
“ หมัดหนักดีนี่ ”
“ -0- ” ดงฮยอนแค่หน้าเซไปเท่านั้น นี้หน้าคนใช่ไหม? ทำไมมันดูไม่ค่อยกระทบกระเทือนเลยวะ TT
“ เอาเถอะ แต่ปากนายก็หวานดีนะ ”
“
!! ”
“ ไว้จะมาชิมใหม่ละกัน อยากรู้จังว่าจะหวานทั้งตัวเลยรึเปล่า ” เจ้าของผมสีไวน์เลียริมฝีปากมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า อย่าแม้แต่จะคิดเลยนะเว้ย
“ อะ
ไอ้ ไอ้หื่น !!! ”
“ หื่นแต่รับประกันความพอใจนะครับน้อง ” ดงฮยอนยกยิ้มกวนประสาทก่อนจะเดินล้วงกระเป๋ากางเกงออกไป ฮึ่ย!! ผมทึ้งผมตัวเองอยากหัวเสีย ผมถูกขโมยจูบแถมยังเป็นคนที่ไอ้กวังมินมันชอบด้วย ไม่หน้าหาเรื่องมันเลยโว้ย เอาไงดีล่ะทีนี้ โนว มินวู!
ปากกาด้ามสีแดงถูกควงไปมาด้วยนิ้วมือทั้งห้า บทเรียนในห้องเหมือนเสียงที่ประสาทรับรู้ได้ไม่ชัดนัก ดวงตาเหม่อลอยออกไปนอกหน้าต่าง
จูบ
ทำไม มันดูง่ายดายจังนะ แม้ว่ามันจะไม่ใช่ครั้งแรกของผม แต่คนๆนั้นถ้าคิดจะจูบ
ก็ทำเลยงั้นหรอ มันแปลกไปไหม ภาพใบหน้าขาวรับเส้นผมสีไวน์ลอยเข้ามาตรงหน้า จมูกนั่นดูดีเข้ากับโครงปาก และปากนั่น ให้ความรู้สึกวาบหวิวแต่หนักหน่วง ผมเผลอสัมผัสริมฝีปากอย่างลืมตัว อ้ะ! นี่ผมคิดอะไรอยู่เนี่ย มันก็แค่จูบห่วยๆเท่านั้นแหละ ผมไม่ได้เคลิ้มไปกับมันเลยนะ ไม่มีทาง! แถมยังเป็นคนที่กวังมินชอบอีก เรื่องนี้จะให้หมอนั่นรู้ไม่ได้
ป็อก!
กระดาษที่ถูกขยำเป็นก้อนกลมๆหล่นลงมาบนโต๊ะ ผมคลี่มันออกอย่างไม่รีบร้อนเพราะไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ บางทีอาจจะเป็นเจ้าพี่น้องคู่แฝดโยนมา
‘ คิดถึงฉันอยู่หรอ?? ’
-0- อะไรเนี่ย ผมกวาดสายตาหาเจ้าของกระดาษ แฝดโจ? สองคนนั้นกำลังก้มหน้าก้มตาตั้งใจเล่นเกมในไอแพดอย่างเมามันส์ ไม่ใช่อะ ข้างหลัง? ไม่มีอีก ผมพึมพำเบาๆอย่างสงสัย ใครส่งมากัน? สายตาพยายามเพ่งลายมือ มันไม่คุ้นเอาซะเลย
ป็อก!
กระดาษอีกก้อนตกลงมาแล้วเด้งหล่นลงพื้น ผมก้มลงเก็บมันขึ้นมาแล้วเปิดอ่าน คราวนี้ตัวอักษรมันเริ่มดูยึกยือๆเหมือนไม่มีที่รองให้เขียน
‘ หน้าตอนเหวอน่ารักดีนะ (: ’
ห๊ะ ผมทำหน้าเหวอด้วยหรอ? แต่ท่าทางจะรีบเขียนนะ “ นี่ลายมือหรือลายตีนวะ ”
ป็อก!
รอบนี้ลงหัวผมเลยครับ รู้สึกว่ามันจะลอยมาจากข้างๆนะ - -* ผมกัดปากเคืองๆแล้วหันไปมองนอกหน้าต่าง คิดว่าไม่รู้หรอ หึหึ รอยยิ้มผุดขึ้นที่มุมปาก ผมแกล้งโยนปากกาเหล็กลงข้างหน้าต่าง
“ อ้ะ ปากกาหายไปไหนแล้ว ” ผมทำน้ำเสียงฉงนเบาๆ “ หรือว่า
หล่นออกนอกหน้าต่าง ! ”พนันได้เลยว่าคนนอกหน้าต่างกำลังทำตัวลีบสุดฤทธ์ ฮ่าๆๆ ผมชะเง้อคอเหลือบมองเส้นผมสีไวน์ที่โผล่ออกมา เหอะ ไม่ต้องเดาให้ยากเลยว่าใคร ว่าแต่ทำไมถึงโผล่มาอีกแล้ววะ - -;
“ ว้า
แล้วจะเก็บยังไงล่ะเนี่ย ลอยขึ้นมาเองได้ก็ดีสิ ” ทันใดนั้นเอง ราวกับความคิดเป็นเวทมนต์ ปากกาเหล็กลอยขึ้นมาตกบนโต๊ะผมโดยไม่ต้องท่องคาถาอะไรเลย ผมตาโตด้วยความตกใจจนเผลออุทานออกมาเบาๆ
“ เฮ้ย ! ”
“ คึคึคึ ” เสียงหัวเราะที่ถูกกลั้นเอาไว้เล็ดลอดออกมาจนผมได้ยิน เห็นผมเป็นเด็กที่จะโง่หลงเชื่อง่ายๆรึไง
“ อาจารย์ครับ!!!” ผมยืนขึ้นเรียกอาจารย์พร้อมยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานทันที ผมชะโงกหน้าลงไปยิ้มล้อเลียนอีกคนที่ตอนนี้เหวอรับประทาน “ แกไม่รอดแน่ ;P ”
คอมเม้นท์ติชมได้คร๊าบบ //
ความคิดเห็น