ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Will you be mind ? เตี้ยคนนี้ผมขอ [ Donghyun x Minwoo ]

    ลำดับตอนที่ #2 : กอด จูบ ลูบ …(?)

    • อัปเดตล่าสุด 20 เม.ย. 55


     
    THE★FARRY








     

    2

     

     

    กอด จูบ ลูบ (?)

     

     

     

     

     

    แสงอรุณสว่างเข้าเปลือกตา เสียงปลุกให้ตื่นไปโรงเรียนอย่างนุ่มนวลดังข้างตัว คงเป็นพี่ฮยอนซองที่กำลังปลุกผมกับมินอา ผมลุกขึ้นช้าๆก่อนจะปรับม่านตาให้รับแสงยามเช้า มินอายังคงงัวเงียไม่ยอมตื่น  ขี้เซาซะยิ่งกว่าผมอีกรายนี้  เมื่อคืนเราดูหนังกันจนหลับ แต่กว่าจะได้หลับนี่ทั้งสะดุ้ง ทั้งร้องเสียงดังเพราะกลัวผี ยัยมินอาก็กรี๊ดแตก ทำเป็นว่าเขาตอนแรก ก็กลัวพอๆกันแหละวะ -3-

     

    “ มินอา~ ตื่นเร็ว ยองมินมาหา ”  ผมแกล้งพูด เพราะน้องสาวตัวดีกำลังปลื้มเจ้าแฝดหัวทองห้องผมอยู่ 

     

    “ หา?!! ” ได้ผล มินอากระเด้งตัวขึ้นนั่งทันที ผมกับพี่ฮยอนซองหัวเราะเบาๆ

     

    “ ไปอาบน้ำๆ ” คนโตสุดไล่ผมเข้าห้องน้ำ ส่วนมินอาก็ออกไปอาบอีกห้องหนึ่ง พอเราสองคนแต่งตัวเสร็จ พี่ฮยอนซองก็ตั้งโต๊ะวางกับข้าวเสร็จสรรพ ส่วนแม่ก็นั่งยิ้มกริ่มสบายที่มีลูกชายมาทำให้ทุกอย่าง  แต่ผมว่าเหมือนพ่อบ้านมากกว่านะ 555  วันนี้พี่ฮยอนซองมาส่งมินอากับผมที่โรงเรียนแต่เราอยู่คนล่ะโรงเรียนกันนะครับ เพราะมินอาชิงทุนได้คนล่ะที่กับผม ฮ่าๆ เก่งทั้งพี่ทั้งน้องเลยใช่ไหมล่ะ -..-

     

    “ ตั้งใจเรียนนะเตี้ย ”

     

    “ ครับฮยอง ขับรถดีๆนะครับ ^-^ ”ผมโค้งให้ก่อนจะเดินเข้าโรงเรียน วันนี้อารมณ์ดี อยากกินไอศกรีมไปซื้อกินดีกว่า ว่าแล้วก็เลี้ยวตัวกลับเดินออกไปร้านสะดวกซื้อ ^O^ ผมชะโงกหัวมองเหล่าไอศกรีมในตู้แช่  อันนี้ก็น่ากิน อันนั้นก็น่าลอง อันนู้นก็น่ารัก เอ้ย! ไม่ใช่ละ

     

    “ อันไหนดีจ้ะมินวู ” พี่สาวลูกเจ้าของร้านเดินมาพร้อมรอยยิ้ม เธอมีลักยิ้มด้วยล่ะ นั่นชวนให้คนที่เห็นต้องยิ้มตอบไปตามๆกันเลยทีเดียว

     

    “ อันนี้ครับนูนา ^^ ” ผมชูแท่งไอศกรีมแล้วยิ้มตามแบบฉบับ

     

    >///< พี่ให้ฟรีเลยจ้ะ ”

     

    “ จะดีหรอครับ ” ผมมู่ริมฝีปากเข้าหากันพลางเหลือบมองแท่งไอศกรีมในมือ ท่าเด็ดที่เอาไว้ใช้กับพวกนูนาเลยล่ะ -..-

     

    “ งั้นนูนาขอกอดทีนึง ”

     

    “ ก็ได้ครับ ”  ถ้าไม่น่ารักไม่ให้กอดนะเนี่ย -.-  แถมไอศกรีมฟรี~  ยอม! 55 เธอโผเข้ากอดผมเต็มๆรัก ก่อนจะบีบแก้มผมเบาๆ -/-  

     

    “ มินวูน่ารักที่สุดเลย ”  ถ้าเปลี่ยนเป็นหล่อที่สุดจะดีมากครับนูนา 

     

    “ ขอบคุณครับ ” ผมยิ้มให้ เธอโบกมือบายๆเล็กน้อย  รู้สึกวันนี้ผมจะยิ้มเยอะนะ แต่มันก็ปกติของผมนี่นะ  อากาศตอนเช้านี่มันดีจัง สาวน้อย สาวใหญ่ เพื่อนสาวพากันมองตามผม บางคนก็ยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป ผมก็พอจะรู้ว่าป๊อบกับเขาอยู่เหมือนกัน ก็คนมันหล่ออ่ะ 

     

    “ ไงมินวู ” เสียงประสานกันทักผมพร้อมทั้งพาดแขนคนละข้างวางบนไหล่ หนักเฟ้ย ! เสียงกรี๊ดจากสาวแท้และเทียมดังขึ้นเมื่ออีกสองหนุ่มแฝดตระกูลโจโผล่มา โจ ยองมินและโจ กวังมิน 

     

    “ หวัดดีคู่แฝด อ้อ น้องฉันฝากความคิดถึงมาให้นายด้วยยองมิน ”

     

    “ วันนี้นายดูอารมณ์ดีนะ ” แฝดหัวดำ โจ กวังมิน ทักขึ้น

     

    “ ก็ปกติ ”

     

    “ หรอ เมื่อวานนายได้ลบกระดานไหม ” ยองมินหัวทองส่งยิ้มขี้เล่น พวกนายสินะที่แกล้งฉันเมื่อวาน เดาไว้ไม่เคยผิดอะ 

     

    “ คิดว่าไม่ ” ก็วิ่งหนีออกมาก่อนอะดิ

     

    “ อ้าว ! ” สองแฝดร้องพร้อมกัน

     

    “ ไม่ต้องกลัวอ้าว ได้ยกถังน้ำแน่ ^^

     

    “ ใจร้ายว่ะ ” << กวังมิน

     

    “ นายทำกับพวกเราได้ยังไง ” << ยองมิน

     

    ผมยักไหล่แล้วเดินนำขึ้นห้องเรียนอย่างไม่สนใจ ก็ดันแกล้งแบบไร้สมองเอง 555 หน้าที่ลบกระดานน่ะมันของนายสองคนนี่หว่า ก็ไปโดนทำโทษกันเอาเองแล้วกัน  สมน้ำหน้า ;P

     

    “ สวัสดีตัวเล็ก ”

     

     เจ้าของเส้นผมสีแดงยกมือแล้วยิ้มให้ ผมมองซ้ายมองขวาก่อนจะเดินผ่าน ทักใคร? คงไม่ใช่ผมหรอกเผอิญไม่ได้ชื่อตัวเล็กว่ะ

     

    “ เฮ้ ฉันทักนายนะ ” คนเมื่อกี้เดินมายืนตัดหน้า ผมหยุดก่อนจะมองหน้าอีกคน อ้อ ดงฮยอนหัวแดงคนเมื่อวาน โผล่ทำไม จะมาแก้แค้นหรอไง

     

    “ ไม่เรียกชื่อจะไปรู้หรอ ”

     

    “ นายเมินฉัน ”

     

    “ ไม่เคยบอกว่าสนใจนี่ ^^

     

    “ กวนหรอครับเตี้ย ” ผมหุบยิ้มทันที - - มาอีกละคำนี้  

     

    “ ถอยไปเลยไป ”

     

    “ ล้อเล่นน่ามินวู เมื่อวานโทษทีที่เรียกแบบนั้น ”

     

    “ นายรู้จักฉัน? ”    

     

    “ นายออกจะดัง ไม่รู้หรอไงพ่อเด็กทุน ”

     

    “ ขอบใจ ” ผมเบี่ยงตัวจะเดินเข้าห้อง แต่ดงฮยอนก็ขยับตัวขวางอีก  โอ้ยย อะไรของเขาเนี่ย ผมจิ๊ปากขัดใจ

     

    แต่นึกถึงเมื่อวานแล้วก็แอบเสียววาบที่หลัง แม่งแอบโรคจิตรึเปล่าก็ไม่รู้ ทางที่ดีควรจะเลี่ยงมันให้พ้นๆจะปลอดภัยที่สุด

     

    “ กลัวอะไรพี่หรอ ”  ดงฮยอนยกยิ้มเหมือนเขารู้ทันผม หน้าอย่างงี้มันดูหื่นๆยังไงไม่รู้ แถมแทนตัวเองว่าพี่อีก อ๊ากกกก  สยอง ! มันทำให้ผมไม่สามารถตอบกลับได้เต็มคำ

     

    “ ออะไร กลัวอะไร ”

     

    “ แต่นายดูจะหลบหน้าพี่นะ มินวู ” ใบหน้าขาวยื่นลงมาจ้องตาเหมือนจะแกล้ง ผมสะดุ้งผงะน้อยๆเพราะจมูกผมมันจะชนกับเขาอยู่แล้ว วินาทีที่สายตาเราประสานกัน มันคือสงครามประสาทดีๆนี่เอง คิดจะต้อนกันงั้นหรอ ง่ายไปมั้งดงฮยอน  คอเสื้ออีกคนถูกผมดึงลงมาโดยไม่ให้ตั้งตัวก่อนจะกรอกเสียงข้างใบหูอย่างถือดี

     

    “ ฉันไม่เคยกลัวอะไรอยู่แล้วดงฮยอน ” ผมผละตัวออกห่างจากอีกคน แล้วเดินเลี่ยงเข้าห้องไป  

     

    ฟู่ววว -.- ลมหายใจถูกถอนออกเบาๆหลังจากที่บุคคลนั้นเดินกลับไป ความรู้สึกโหวงๆในอกบอกว่าลางไม่ดีจะเกิดขึ้นกับตัวผม อ๊ากกก ผมทำอะไรลงไปวะ  ซักพักร่างโปร่งของกวังมินก็ก้าวเข้ามาเท้ามือลงบนโต๊ะผม

     

    “ มินวู -*-

     

    “ อะไรของนาย ” ผมมองกวังมินที่ทำหน้ามู่ทู่เหมือนใครเอาอะไรเสียบก้นมันอยู่งั้นแหละ -..- ช่วยดึงมะ 555

     

    “ นายเป็นอะไรกับรุ่นพี่ดงฮยอน ” อ้อ~ เป็นอะไรหรอ เป็นอะไรดีนะ ชักอยากแกล้งคนว่ะ

     

    “ ถามทำไมอ่ะ ชอบหรอ ”

     

     “ นาย…! ” กวังมินเบิกตากว้าง ยันตัวยืนเต็มความสูงด้วยความตกใจ หึหึ แทงใจล่ะสิ ใช่ว่าฉันจะไม่รู้ว่านายชอบรุ่นพี่ดงฮยอนอะไรนั่นอยู่  ก็ว่าชื่อดงฮยอนนี่มันเคยได้ยินที่ไหน เฮ้อออ หมอนั่นมีดีตรงไหนกัน - -; หรือถึงเวลาที่นายควรจะตัดแว่นใส่วะกวังมิน ?  ผมหลุดหัวเราะกับท่าทางเหมือนเด็กโดนจับได้ของอีกคน

     

    “ นายแกล้งฉันหรอมินวู - -+ ” ยิ่งเห็นหน้าอาฆาต ผมยิ่งหัวเราะเขาไปใหญ่ ฮาเป็นบ้า!สงสัยมันคงจะคิดว่าผมจะแย่งจริงๆมั้ง  ฝาแฝดอีกคนเหลือบมามองก่อนจะเดินมาเข้ามาอีกคน

     

    “ อะไรกันหรอกวัง ”

     

    “ มินวูแกล้งผมอะ ” ผมมองฝาแฝดคนพี่ที่หน้าสวยแต่นิสัยแมนอย่างหวั่นๆ 

     

    “ ไม่ได้ทำนะเว้ย ”

     

    “ ฉันเห็นนายหัวเราะกวังมิน ”

     

    “ ก็มันตลกนี่หว่า…! ” ผมเม้มปากทันที ดันหลุดความจริงไปซะได้ ฮ่าๆ  ซวยแล้วไง ไอ้มินวูเอ้ยยย  ผมลุกขึ้นวิ่งหนีทันทีที่ฝาแฝดกระตุกยิ้มขึ้นพร้อมกัน เราวิ่งไล่จับกันรอบห้องยันเสียงกริ่งเข้าเรียนดังขึ้น

     

    คาบแรกเป็นคาบโฮมรูม ผมโดดออกมาได้ทันท่วงทีส่วนเจ้าคู่แฝดคงจะโดนทำโทษเรื่องเวรเมื่อวาน 555 ขอสมน้ำหน้าหน่อยเหอะ ชอบแกล้งผมดีนัก -3-

     









     บรรยากาศช่วงเช้าทำให้รู้สึกอยากปล่อยให้สมองโล่ง ผมพาร่างกายมาสูดลมที่ดาดฟ้า วันนี้ฟ้าสวยดีแฮะ

     

    “ โอ้ นักเรียนทุน โดดตั้งแต่คาบแรกเลยนะ ” ผมหันหลังขวับ มองคนที่เดินออกมาจากประตู  ดงฮยอน ...อีกแล้ว??  นี่มันบังเอิญหรือจงใจกันแน่  เขามีอะไรกับผมมากรึเปล่า - -*

     

    “ ยุ่งไรด้วย ”

     

    “ ฉันควรจะโทรบอกสารวัตินักเรียนดีไหมนะ ”

     

    “ แล้วคิดว่านายจะรอดหรอ ” ถ้าผมโดนจับได้ หมอนี่ก็ต้องโดนด้วยล่ะวะ

     

    “ ก็แค่บอกว่าตามนายมา ” ดงฮยอนยักไหล่อย่างไม่ยี่ระ คิดจะสร้างเรื่องง่ายๆเลยนะแต่ฉันไม่ยอมหรอก  

     

    “ อ่าหะ ผมมีโรคจิตตามมาด้วยนะเนี่ย ^^

     

    “  โรคจิตหรอ แบบไหนล่ะ ” รู้สึกว่าผมจะโดนกวนประสาทนะ นี่อุตส่าห์จะขึ้นมาทำให้สมองปลอดโปร่งนะเฮ้ย ทำไมต้องเจอแม่งด้วยเนี่ย

     

    “ ว่าไงไอ้ตัวเล็ก ” เมื่อเห็นผมไม่ตอบ ลำขายาวก็ก้าวเข้าประชิดตัวผมทันที และนาทีนี้เองแขนแกร่งฉวยโอกาสรวบกอดตัวโดยไม่ให้ผมได้ตั้งตัวทัน “ ตัวเล็กจริงๆด้วย (:

     

    O_O!

     

    “ เฮ้ย! ปล่อย ” ผมดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอดอีกคน มากอดผมทำไม! ไอ้โรคจิต ไอ้หน้าหื่น อ๊ากกกก !!

     

    “ ก็ตอบสิครับ ^^ ” แม่งยิ้มกรุ่มกริ่มอะไรวะ เสียวนะเว้ย TT

     

    “ พอใจจะไม่ตอบ มีไรป้ะ ” ปากมันไปเองนะครับ ผมสาบาน

     

    “ ไม่ตอบ หรือตอบไม่ได้ ”

     

    “ ก็กลัวรับความจริงไม่ได้ ”

     

    “ ความจริงอะไร ”

     

    “ ความจริงที่ว่าแกหื่นไง ไอ้บ้า ปล่อยโว้ยย!! ” แม่งแรงเยอะอะ ดิ้นไม่หลุดซักที

     

    “ หึหึ น้อมรับคำชม ”

     

    “ เชี่ย โรคจิต! ” ผมสบธคำหยาบ น้อยครั้งที่ผมจะพูดมันออกมา ยอมรับว่าแกกวนประสาทได้เก่งมาก ดงฮยอน!

     

    “ ปากนาย

     

    “ รู้ว่าปากดี ไม่ต้องชม ”

     

    “ มันน่าโดนกระแทกอย่างที่ไอ้แทบินมันว่าจริงๆ ” มือหนายกขึ้นมาบีบกรามผมแน่น  เจ็บ! ผมมองหน้าอีกคนอย่างหวาดๆ ก็ดูมันจ้องปากผมดิ

     

    “ คิดจะทำอะไร ”

     

    “ ไม่คิดก็ได้ แต่ จะ ทำ เลย ! ” สิ้นน้ำเสียง ริมฝีปางหนาก็บดขยี้ลงมาทันที ผมปิดปากแน่นตามสัญชาตญาณ กลีบปากล่างของผมถูกขบแรงๆบังคับให้อ้าปากออก  ลิ้นสากดันลิ้นผมเข้ามาก่อนจะตวัดสำรวจไปทั่วโพรงปากอย่างฉวยโอกาส ริมฝีปากผมถูกดูดเม้มครั้งแล้วครั้งเล่าโดยที่ขัดขืนไม่ได้  รสจูบหนักหน่วงไม่ปล่อยให้ได้หายใจเลยแม้แต่วินาทีเดียว

     

    “ อื้อๆๆ ” ผมครางประท้วงในลำคอ ริมฝีปากหนาผละออกในเวลาสั้นๆก่อนจะทาบมันลงมาอีกครั้งราวกับยังไม่พอใจ แม่งจะจูบอะไรนักหนาวะ ตัณหาเยอะนักรึไง 

    มือของแขนข้างที่กอดผมไว้เริ่มซุกซน ขยับล้วงเขาใต้สาบเสื้อข้างหลังที่มันหลุดออกมาตอนผมดิ้น เฮ้ยๆ นี่มันจะมากไปแล้วนะโว้ย ความรู้สึกเสียววาบที่หน้าท้องแล่นเข้ามาเมื่อมืออีกคนไล้ขึ้นช่วงเอวผม ทำเอาสะดุ้งตัวแรงจนอีกคนรู้สึกได้

    เสียงหัวเราะในลำคอของคนตรงหน้าเป็นสัญญาณว่าเริ่มจะไม่ปลอดภัยแล้ว กอด จูบ ลูบ เหลืออีกหนึ่งก็จะครบสูตรแล้วนะเฮ้ย เสร็จกันพอดีแม่งเอ้ย! ผมผลักอกอีกคนแล้วสะบัดตัวออกอย่างแรง  ก่อนจะปล่อยหมัดลุ้นๆใส่ใบหน้าขาวที่กำลังเผลอ

     

    พลั่ก!

     

    “ หมัดหนักดีนี่ ”

     

    -0- ” ดงฮยอนแค่หน้าเซไปเท่านั้น  นี้หน้าคนใช่ไหม? ทำไมมันดูไม่ค่อยกระทบกระเทือนเลยวะ TT

     

    “ เอาเถอะ แต่ปากนายก็หวานดีนะ ”

     

    …!!

     

    “ ไว้จะมาชิมใหม่ละกัน อยากรู้จังว่าจะหวานทั้งตัวเลยรึเปล่า ” เจ้าของผมสีไวน์เลียริมฝีปากมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า อย่าแม้แต่จะคิดเลยนะเว้ย

     

    “ อะไอ้  ไอ้หื่น !!! ”

     

    “ หื่นแต่รับประกันความพอใจนะครับน้อง ” ดงฮยอนยกยิ้มกวนประสาทก่อนจะเดินล้วงกระเป๋ากางเกงออกไป  ฮึ่ย!! ผมทึ้งผมตัวเองอยากหัวเสีย ผมถูกขโมยจูบแถมยังเป็นคนที่ไอ้กวังมินมันชอบด้วย ไม่หน้าหาเรื่องมันเลยโว้ย เอาไงดีล่ะทีนี้ โนว มินวู!

     










     

    ปากกาด้ามสีแดงถูกควงไปมาด้วยนิ้วมือทั้งห้า บทเรียนในห้องเหมือนเสียงที่ประสาทรับรู้ได้ไม่ชัดนัก ดวงตาเหม่อลอยออกไปนอกหน้าต่าง

     

    จูบทำไม มันดูง่ายดายจังนะ แม้ว่ามันจะไม่ใช่ครั้งแรกของผม แต่คนๆนั้นถ้าคิดจะจูบก็ทำเลยงั้นหรอ  มันแปลกไปไหม ภาพใบหน้าขาวรับเส้นผมสีไวน์ลอยเข้ามาตรงหน้า จมูกนั่นดูดีเข้ากับโครงปาก และปากนั่น ให้ความรู้สึกวาบหวิวแต่หนักหน่วง ผมเผลอสัมผัสริมฝีปากอย่างลืมตัว อ้ะ! นี่ผมคิดอะไรอยู่เนี่ย มันก็แค่จูบห่วยๆเท่านั้นแหละ  ผมไม่ได้เคลิ้มไปกับมันเลยนะ ไม่มีทาง! แถมยังเป็นคนที่กวังมินชอบอีก เรื่องนี้จะให้หมอนั่นรู้ไม่ได้

     

    ป็อก!

     

    กระดาษที่ถูกขยำเป็นก้อนกลมๆหล่นลงมาบนโต๊ะ ผมคลี่มันออกอย่างไม่รีบร้อนเพราะไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ บางทีอาจจะเป็นเจ้าพี่น้องคู่แฝดโยนมา

     

     

    คิดถึงฉันอยู่หรอ??

     

     

    -0- อะไรเนี่ย ผมกวาดสายตาหาเจ้าของกระดาษ แฝดโจ? สองคนนั้นกำลังก้มหน้าก้มตาตั้งใจเล่นเกมในไอแพดอย่างเมามันส์  ไม่ใช่อะ ข้างหลัง? ไม่มีอีก ผมพึมพำเบาๆอย่างสงสัย ใครส่งมากัน?  สายตาพยายามเพ่งลายมือ มันไม่คุ้นเอาซะเลย

     

    ป็อก! 

     

    กระดาษอีกก้อนตกลงมาแล้วเด้งหล่นลงพื้น  ผมก้มลงเก็บมันขึ้นมาแล้วเปิดอ่าน คราวนี้ตัวอักษรมันเริ่มดูยึกยือๆเหมือนไม่มีที่รองให้เขียน

     

     

    หน้าตอนเหวอน่ารักดีนะ (: ’

     

     

    ห๊ะ ผมทำหน้าเหวอด้วยหรอ? แต่ท่าทางจะรีบเขียนนะ  “ นี่ลายมือหรือลายตีนวะ ”

     

    ป็อก!

     

    รอบนี้ลงหัวผมเลยครับ รู้สึกว่ามันจะลอยมาจากข้างๆนะ - -* ผมกัดปากเคืองๆแล้วหันไปมองนอกหน้าต่าง  คิดว่าไม่รู้หรอ หึหึ รอยยิ้มผุดขึ้นที่มุมปาก ผมแกล้งโยนปากกาเหล็กลงข้างหน้าต่าง

     

     

    “ อ้ะ ปากกาหายไปไหนแล้ว ” ผมทำน้ำเสียงฉงนเบาๆ “ หรือว่าหล่นออกนอกหน้าต่าง ! ”พนันได้เลยว่าคนนอกหน้าต่างกำลังทำตัวลีบสุดฤทธ์ ฮ่าๆๆ  ผมชะเง้อคอเหลือบมองเส้นผมสีไวน์ที่โผล่ออกมา เหอะ ไม่ต้องเดาให้ยากเลยว่าใคร  ว่าแต่ทำไมถึงโผล่มาอีกแล้ววะ - -;

     

    “ ว้า แล้วจะเก็บยังไงล่ะเนี่ย ลอยขึ้นมาเองได้ก็ดีสิ ทันใดนั้นเอง ราวกับความคิดเป็นเวทมนต์ ปากกาเหล็กลอยขึ้นมาตกบนโต๊ะผมโดยไม่ต้องท่องคาถาอะไรเลย ผมตาโตด้วยความตกใจจนเผลออุทานออกมาเบาๆ

     

    “ เฮ้ย ! ”

     

    “ คึคึคึ ” เสียงหัวเราะที่ถูกกลั้นเอาไว้เล็ดลอดออกมาจนผมได้ยิน เห็นผมเป็นเด็กที่จะโง่หลงเชื่อง่ายๆรึไง

     

    “ อาจารย์ครับ!!!” ผมยืนขึ้นเรียกอาจารย์พร้อมยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานทันที ผมชะโงกหน้าลงไปยิ้มล้อเลียนอีกคนที่ตอนนี้เหวอรับประทาน  “ แกไม่รอดแน่  ;P

     














    คอมเม้นท์ติชมได้คร๊าบบ // 
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×