คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : ตอนที่ 13 : We are Super Junior
che
ery R
z. R
z. R
z
ตอนที่ 13 : We are Super Junior
“นอนได้แล้วนี่มันก็ตีสี่แล้วด้วย” ยุนโฮเปิดประตูห้องนอนเข้ามาเห็นเพื่อนๆอีกสี่คนกำลังนอนลืมตาโตอยู่บนเตียงของแต่ละคน ทุกคนหันมามองเขาแล้วหลับตาลง ยุนโฮเดินไปปิดสวิตซ์ไฟ และเปิดผ้าม่านออก ทำให้เขาเห็นดาวข้างนอกอยู่ไม่กี่ดวง แต่เขาก็หัวเราะออกมาเมื่อมองดูมัน
“พี่ยุนโฮครับ พี่รู้ไหมว่าพอพระอาทิตย์ขึ้น ผมจะเป็นยังไง ถ้าพี่ขืนเปิดผ้าม่านไว้”ชางมินลืมตาขึ้นมามองหน้ายุนโฮ ยุนโอได้แค่แลบลิ้นใส่เขาแล้วเดินไปนอนที่เตียงนอนของเขาเอง
ชางมินจึงมองออกไปนอกหน้าต่าง เขามองขึ้นไปบนฟ้าเห็นดาวแค่ไม่กี่ดวงที่อยู่บนนั้น แล้วเขาก็มองเห็นดวงจันทร์ที่กำลังลับฟ้าอยู่ไกลๆ
“เซบินเหรอ คงไม่ใช่คนเดียวกันหรอก ไม่ใช่แน่ๆ เซบินคนที่ฉันรออยู่ ปานนี้คงอยู่ที่ไหนบอกโลกใบนี้กับอีกคนๆหนึ่งที่เธอรักแล้วล่ะ คนๆคนนั้นคงจะไม่ใช่ชิมชางมินแล้ว”ชางมินยิ้มให้กับท้องฟ้าแล้วดวงดาว เขาเอื้อมมือไปปิดผ้าม่านแล้วหลับตานอน
5 วันผ่านไป ไวเหมือนโกหก
“อ้าวๆ พอแล้ว ไปพักผ่อนกันได้ เดี๋ยวฉันไปทานข้าวก่อนนะ”ครูซ้อมเต้นของพวกเขาบอกพักกลางวัน ตอนนี้ดงบังชินกิกำลังซ้อมเพลงบอลลูนเพื่อจะได้นำท่าเต้นไปถ่ายทำเอ็มวีในเย็นนี้ ส่วนตอนนี้เอยองกับฮีจินกำลังนั่งอยู่หลังห้องซ้อมที่ตอนนี้กำลังดูพวกเขาเต้นกันอยู่
“เหนื่อยเป็นบ้าเลย”จุนซูพูดขึ้น ฮีจินรีบหันไปทางเขาแล้วหยิบผ้าเย็นกับขวดน้ำดื่มวิ่งไปหาจุนซู
“แล้วของพวกเราอ่ะ”ยูชอนถามฮีจินแล้วมองหน้าเธอ
“นายก็เดินไปหยิบเองซิ”ฮีจินบอกเขา
“นี่นารายังไม่มาอีกเหรอ เอยอง”ยุนโฮและนาราพูดพร้อมกัน ยุนโฮมองเอยองตาโตแล้วหัสเราะออกมาทันที
“นายถามฉันอย่างงี้มาสี่วันแล้วนะ ไม่ไปหานาราเองเลยล่ะ ถามอยู่ได้”เอยองพูดออกมาอย่างเบื่อๆ ยุนโฮหน้าซึมลงไปทันที เอยองจึงหันไปยิ้มให้เขา
“วันนี้ก็มาแล้วล่ะ นาราเดินได้ปกติแล้ว”เอยองตอบยุนโฮ ยุนโฮจึงมีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าทันที
“คุยไรกันสองคนนี้”แจจุงยืนมองดูพวกเขาทั้งสองคน ชางมินและยูชอนนั่งลงข้างๆยุนโฮ ส่วนฮีจินก็กำลังเช็ดเหงื่อให้จุนซูอย่างเอาจริงเอาจังข้างๆยุนโฮเช่นกัน
“แล้วมันเรื่องอะไรของนายฮะ แจจุง”เอยองมองตาขวางใส่แจจุง
“เธอเป็นของเล่นของฉันนะ มาว่าเจ้านายได้ไง”
“พี่แจจุงยังไม่เลิกเล่นอะไรเป็นเด็กอีกเหรอ สงสารเอยองจัง”ชางมินเงยหน้ามองแจจุง
“ชางมินอยู่เฉยๆจะเป็นดีมากนะครับน้องรัก”แจจุงส่งยิ้มอำมหิตให้กับชางมิน
“เมื่อไรจะครบหนึ่งเดือนเนี่ย ฉันจะบ้าตาย”เอยองบ่นออกมา
“นี่ ยูชอนยืมกุญแจรถหน่อย”แจจุงหันไปบอกยูชอน เขาหยิบกุญแจรถออกมาส่งให้แจจุง แจจุงดึงเอยองลุกขึ้นยืนแล้วลากไปที่ประตูห้อง
“นายจะพาฉันไปไหน ปล่อยนะ ปล่อยยยยยยยยยย”เอยองตะโกนลั่นห้อง
“นี่ยัยบ๊องอยู่เฉยๆแล้วตามมาดีๆเลยนะ”แจจุงหันไปบอกเอยองด้วยเสียงเรียบๆ เอยองจึงยอมเดินตามแจจุงออกไปนอกห้องด้วย
“อ้าว สองคนนั้นไปไหนกันอ่ะ”จุนซูมองไปที่ประตู
“ออกไปทานข้าวข้างนอกเหมือนเช่นเคยมั้ง”ยูชอนตอบคำถามให้แก่เขา
“งั้นฉันสั่งข้าวมาทานมั้งดีกว่า ชางมินจัดการ จางจังมยอน สั่งมาเลย ผัดกาดดองด้วย”จุนซูหันไปบอกกับชางมิน
“ทำไมผมต้องสั่งทุกวันเลยอ่ะ”
“ก็นายใช้โทรศัพท์นายสั่งไง ไม่เปลืองเงินโทรศัพท์ฉัน เข้าใจ โอเค”จุนซูตบหลังชางมินเบาๆแล้วเดินไปเต้นต่อหน้ากระจก
(Oh moributho balkuthkaji da sarangsurowo)เสียงโทรศัพท์ของฮีจินได้ดังขึ้น เธอรีบหาโทรศัพท์ในกระเป๋าขึ้นมารับทันที
“ว่าไงเพื่อนเลิฟ”ฮีจินพูดกับเสียงปลายสายโทรศัพท์ เช่นเดียวกับที่ชางมินกำลังสั่งอาหารกับร้านอาหารใกล้บริษัทอย่างหน้าเซ็งกะตาย
(เธออยู่ไหนชั้น 4 หรือเปล่า)
“ถูกต้องนะครับ เอยองเพิ่งออกไปกับแจจุงเมื่อกี้เอง ไปทานข้าวข้างนอกอ่ะ”
(ไปทานข้าวข้างนอกอีกแล้ว)
“เธออ่ะมาช้าไป มาดูท่าฉุด กระชาก ลาก ดึงของสองคนนั้นซิ เสียดายจัง”
(เธอชอบไง โรคจิตหรือไงเนี่ย)
“พูดงี้ได้ไงนารา เธอล่ะโรคจิตว่าคนอื่นดีนัก”คำพูดของฮีจิน ทำให้ยุนโฮที่กำลังลุกขึ้นไปเต้นกับจุนซูชะงักทันที เค้าไม่รออะไรอีกแล้วรีบพุ่งตัวข้างหน้าไปคว้าโทรศัพท์มาจากมือของฮีจิน แล้วตีลังกากลับหลังไปนั่งที่เดิม ซึ่งฮีจินก็กำลังค้างอยู่ในท่าถือโทรศัพท์เช่นเดิม
“หวัดดีนารา นี่ฉันเองนะ”ยุนโฮรีบพูดกับปลายสายทันที
(อะไรเนี่ย ฮีจิน แกดัดเสียงทำไม)
“นารา นี่ฉันเอง ไม่ใช่ฮีจิน”
(อ้าว เหรอ ฉันเอง ใครอ่ะ เราไม่รู้จัก รู้สึกว่าเราจะไม่มีเพื่อนชื่อฉันเองนะ)
“ยัยเบื้อก ปัญญาอ่อน ใครจะบร้าชื่อฉันเอง ฉัน จุง ยุน โฮ”
(ยุนโฮ อ้อ ยุนโฮนายเองเหรอ ฉันเดินได้ปกติแล้วนะ นายรู้ไหมว่านาย
“ฉันรอเธอตลอดเลย เธอรู้ไหม”
(งั้น นายห้ามไปไหนนะ)นาราพูดเสร็จแล้ววางโทรศัพท์ใส่หูยุนโฮทันที ยุนโฮรีบส่งโทรศัพท์คืนให้ฮีจินแล้ววิ่งไปยืนอยู่ข้างๆประตู
3 นาทีผ่านไป ประตูห้องได้เปิดออก ปรากฏร่างของหญิงสาว 3 คนที่เดินเข้ามาในห้อง
“ไหนนายยุนโฮอยู่ไหน”นี่คือคำแรกที่นาราพูดออกมาเมื่อก้าวเท้าเข้ามาในห้อง แต่เธอไม่เห็นว่าคนที่อยู่ในห้องมียุนโฮ เซบินและโซร่าเดินไปนั่งข้างๆกับฮีจิน แต่นาราก็ยังยืนอยู่ตรงประตู ซึ่งเธอไม่รู้เลยว่ามีคนๆนึงยืนอยู่ข้างหลังเธอ
“ปอดแหกจริงๆ กลัวฉันจนหนีไปล่ะซิท่า”นาราหัวเราะออกมาแล้วก้าวเดินไปข้างหน้า แต่ก็ต้องตกใจกับสิ่งที่โผล่มาอยู่ตรงหน้าเธอซะก่อน
“จ๋ะเอ๋ นาราเธอหาฉันเหรอ ฉันอยู่นี่ไง”ยุนโฮกระโดดมายืนอยู่ตรงหน้านารา
“อีตาบ้า นายเล่นอะไรของนายอ่ะ”
“คิดถึงฉันอ่ะสิ ถามหาฉันด้วยดีใจจังเลย”ยุนโฮกระโดดโล้ดเต้นอยู่ตรงหน้านารา
“ใช้สมองส่วนไหนคิดเนี่ย นายคิดได้ไง มานี่เลย ตอนนี้ฉันหายเป็นปกติแล้ว ตอนที่อยู่ทงแดมุนนายทำแสบมากๆ”นาราเริ่มออกวิ่งเพื่อจะตียุนโฮ ยุนโฮจึงวิ่งหนีเธอไปรอบๆห้อง เพื่อนๆที่นั่งดูอยู่หัวเราะกับพวกเขาทั้งสองคน
“นายพาฉันออกมาทำไมตั้งไกล ข้างๆเอสเอ็มก็มีร้านอร่อยๆตั้งมากมาย”เอยองบ่นออกมาตอนนี้เธอกับแจจุงกำลังเดินเข้าไปในร้านอาหารที่ดูหรูหรามากเลยทีเดียว
“เธอเป็นของเล่นฉันหรือเป็นแม่ฉันเนี่ย”
“นายจะทำอะไรของนายก็เชิญ ฉันไม่ยุ่งด้วยแล้ว”เอยองทำหน้าบูดแล้วเดินตามแจจุงเข้าไปข้างในร้าน ตรงที่มีกระจกที่มีม่านน้ำไหลลงมาตลอดเวลา พนักงานของร้านเดินเอาเมนูมาให้เขาทั้งสองคน
“เธอจะทานอะไร”แจจุงเงยหน้าจากเมนูขึ้นมาถามเอยอง
“สเต๊กหมูกับน้ำส้ม”เอยองตอบปัดๆเขาไป แจจุงหันไปสั่งอาหารกับพนักงานเสร็จแล้วเขาก็มองออกไปนอกม่านน้ำ ส่วนเอยองก็ได้แต่จ้องมองใบ้หน้าของแจจุงอย่างอารมณ์เสีย แจจุงรู้สึกว่ามีสายตาอำมหิตมองมาที่เขา เขาจึงหันไปมองหน้าของเอยองบ้าง
“เธอเป็นอะไรของเธอ”แจจุงถามเอยอง
“นายรู้ไหมว่าฉันเกลียดนายมากๆ”
“ขอบคุณที่เกลียดกันนะ”แจจุงยิ้มให้เธอ แล้วรับอาหารมาจากพนักงานที่นำมาเสิร์ฟให้เขา เอยองรีบรีบจานมาแล้วตั้งหน้าตั้งตาทาน
“หิวขนาดนั้นเลยหรือไง”แจจุงถามเอยองที่ตอนนี้สเต๊กของเธอได้สลายหาไปแค่เสี้ยวนาที เธอแค่เงยหน้ามองแจจุงแล้วหยิบน้ำส้มมาดื่ม ส่วนแจจุงก็เริ่มรับประทานส่วนของตัวเองบ้าง
ทั้งสองนั่งทานกันเงียบๆ จานของเอยองมีแต่ความว่างเปล่าแล้ว แต่จานของแจจุงอาหารยังเต็มจานของเขาอยู่เลย เอยองจึงใช้เวลาที่เหลือนั่งเท้าค้างมองดูแจจุงทานอาหาร
ทำไมตานี่มันดูดีจังเลยนะ ไม่อยากจะยอมรับสักเท่าไรเลย
เอยองไม่ละสายตาไปจากแจจุงเลย สายตาจับจ้องไปที่แจจุงตลอดเวลา ผมสีออกทองๆของแจจุงพลิ้วไหลตามลมอ่อนๆที่พัดผ่านมา และสะท้อนกับแสงแดดที่ส่องเข้ามาในร้าน ทำให้แจจุงดูมีสเน่ห์มากขึ้นไปอีก เอยองถูกสะกดอยู่กับภาพตรงหน้าอย่างนั้นเหมือนแจจุงเป็นอย่างเดียวในโลกที่เธอสามารถมองเห็นได้
“ผู้จัดการมีอะไรเหรอครับ”ยุนโฮถามผู้จัดการวงของเขาที่เดินเข้ามาในห้องซ้อม
“เวลาสี่โมงเย็นพวกนายไปแต่งตัวได้แล้วนะ แล้วไปที่สตูดิโอที่ชั้น 6 ตอนนี้พนักงานกำลังจัดฉากอยู่ พอถ่ายเอ็มวีนี้เสร็จพวกนายก็เตรียมไปถ่ายเอ็มวีที่ทะเลได้เลย”
“ทะเลที่ไหนเหรอพี่”จุนซูตาโตทั้งทีที่ได้ยินคำว่าทะเล
“เกาะเชจูไปกับซุปเปอร์จูเนียร์แหละ ถ่ายเอ็มวีเพลงพิเศษวันคริสต์มาสที่พวกนายกำลังซ้อมร้องกันอยู่ไง”
“เกาะเชจู ต้นมะพร้าว ว๊าวๆๆ”จุนซูดูตื่นเต้นเป็นพิเศษ
“อะไรนะพี่ ถ่ายเอ็มวีอัลบั้มพิเศษวันคริสต์มาส แต่ถ่ายที่ทะเล มันจะเข้ากันดีไหมพี่”แจจุงทักท้วงออกมา
“ทำอะไรทำให้มันแหวกแนวหน่อย นายจะทำตามเส้นตลอดเลยหรือไง แล้วสักพักซูจูจะมาซ้อมเต้นเพลงใหม่กับพวกนาย รู้สึกว่าพวกเขากำลังอัดรายการอยู่ รอก่อนก็แล้วกัน”ผู้จัดการพูดเสร็จแล้วเขาก็เดินออกไปจากห้อง
“อะไรคือซุปเปอร์จูเนียร์อ่ะ”นาราตะโกนข้ามห้องไปหาพวกเขา ทั้งห้าคนเดินตรงไปหาพวกเธอทันที
“คน”ยุนโฮตอบออกมา นารามองค้อนใส่เขา
“เพื่อนพวกเราเองละ มี 13 คน”ยูชอนตอบคำถามนารา
“อย่างงี้นายก็ต้องร้องเพลงกับซุปเปอร์จูเนียร์ซิ 13 คนรวมพวกนาย 5 คนเป็น 18 คน นายร้องเพลงกันอย่างไงเนี่ย แบ่งกันคนละคำหรือไง”ฮิจินหัวเราะออกมาทันที
“ยินดีที่ได้รู้จักนะ”นารายิ้มให้ทุกคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ พวกเขาคือคน 13 คนที่เรียกตัวเองว่าซุปเปอร์จูเนียร์นั้นเอง
“ครับพวกเราก็ดีใจที่ได้รู้จักผู้หญิง 5 คนที่น่ารักน่ารักอย่างพวกเธอเหมือนกันนะ”ดงแฮบอกกับเธอทั้ง 5 คนทำให้พวกเธอหน้าแดงกันเป็นแถว
“ขนาดนั้นเลยเหรอ”เอยองพูดออกมาด้วยเสียงเขินๆ
“ใช้สมองส่วนไหนคิดว่ายัยพวกนี้น่ารักเนี่ยดงแฮ”แจจุงพูดขึ้นพร้อมกับส่ายหน้า เอยองรีบหันหน้าไปมองเขาทั้งที
“ก็จริงนี่ โดยเฉพาะน้องเอยองน่ารักมากๆเลยนะ”ดงแฉส่งยิ้มหวานไปให้กับเอยอง เอยองคิดว่ารอยยิ้มนั้นสามารถฆ่าเธอได้เลยทีเดียว
“ดงแฮมันคิดอะไรอยู่เนี่ย”แจจุงพึมพำกับตัวเอง
“นี่นายจะไปเชจูกันใช่ไหม”นาราถามยุนโฮขึ้นมา ตอนนี้เขาทั้งสองคนกำลังเดินไปซื้อของกินที่ซุปเปอร์มาร์กเก็ตด้วยกัน
“ทำไม เธอจะไปด้วยหรือไง”
“อุ๊ย ฉลาด ใช่เลย ฉันจะไปด้วย ฉันยังไม่เคยไปเชจูเลย”
“เธอไปมุดอยู่หลุมไหนมาเนี่ย”ยุนโฮหัวเราะเสียงดังออกมา
“ฉันก็ไปเรียนต่างประเทศของฉันซิ นายจะให้ฉันไปด้วยไหมล่ะ”
“อืมไปซิ ไปกับฉันด้วย ฉันก็อยากให้เธอไปเหมือนกัน”ยุนโฮพยักหน้าให้กับนารา
“จริงเหรอ นายใจดีจังเลย”
“ฉันอยากได้คนไปกัดด้วยกันพอดีเลยอ่ะ”
“กัด เอ๊ กัด นายเห็นฉันเป็นอะไรเนี่ย”
“ก็แล้วแต่เธอจะคิด”
ความคิดเห็น