คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2 : อะไรคือดงบังชินกิ
che
ery
R
z.
R
z.
R
z.
ตอนที่ 2 : อะไรคือดงบังชินกิ
“พ่อค่ะ คิมเอยองคนนี้กลับมาแล้ว”
“อ้าว มาถึงแล้วเหรอลูก พ่อคิดถึงลูกมากๆเลย”คิมมินซุก ดึงลูกสาวคนเดียวที่เค้ารัก และหวงมากๆไปกอดในอ้อมกอด
“เป็นไงมั้งลูก จากบ้านไปตั้ง 4 ปี”
“ก็คิดถึงพ่อไงค่ะ”เอยองหอมแก้มพ่อของตัวเองฟอดใหญ่
“สวัสดีค่ะคุณพ่อ”นารา โซร่า ฮีจิน และเซบิน ยืนเรียงกันทำความเคารพมินซุก
“อ้าว ลูกๆแวะมากันหมดเลยเหรอเนี่ย พ่อดีใจจังเลย ทุกคนดูน่ารักขึ้นมากๆเลยนะ”
“ขอบคุณค่ะ”ทุกคนส่งเสียงประสานออกมาพร้อมกัน
“เดี๊ยว พวกหนูขอกลับบ้านไปหาพ่อกับแม่ก่อนนะค่ะ”นาราเอ่ยขึ้นแล้วโค้งลามินซุก มินซุกพยักหน้าแทนคำตอบ แล้วนารา ฮีจิน เซบิน ก็เดินออกจากห้องไป ส่วนโซร่าเดินไปนั่งที่โซฟาในห้องทำงานของมินซุก
“เอยอง โซร่า ลุกสองคนกลับไปที่คอนโดหรือยัง พ่อให้คนงานจัดให้เรียบร้อยแล้วนะ”
“ยังเลยค่ะ พ่อหนูกับโซร่า ก็ตรงมาหาพ่อเลยล่ะค่ะ”เอยองเดินไปนั่งข้างๆโซร่า
“พ่อค่ะ แล้วเรื่องฝึกงานขอพวกหนูพ่อหาให้ยังค่ะ”
“ฝึกงานนั้นเหรอ แหม ลูกรักของพ่อขอซะอย่าง พ่อก็ต้องจัดการให้อยู่แล้ว เป็นบริษัทค่ายเพลงใหญ่ในเกาหลีเลยนะ”
“เหรอค่ะคุณพ่อ หนูดีใจที่สุดเลยค่ะ หนูอยากจะฝึกงานช่วงปิดเทอมมานานแล้ว”
“พ่อเป็นเพื่อนกับเจ้าของบริษัท เลยขอให้เขารับลูกๆเข้าไปฝึกงาน ค่ายเพลงเอสเอ็มไงลูก”
“เอสเอ็มเหรอค่ะ ก็ดีนะค่ะ”เอยองยิ้มกว้างออกมา
“ลูกจะไปเมื่อไรก็บอกพ่อนะ พ่อจะได้บอกเขาให้”
“ค่ะพ่อ นี่พ่อเมื่อกี้ที่แอร์พอร์ตหนูเดินชนผู้ชายคนหนึ่งด้วย”
“ทำไมเหรอลูก เขาทำอะไรลูกรักพ่อหรือเปล่า”
“เปล่าหรอกค่ะ แต่เค้าอำพรางใบหน้าด้วย แถมยังรีบวิ่งหนีพวกผู้หญิงที่เหมือนแฟนคลับยืนรอศิลปินด้วยล่ะพ่อ แล้วก็มีห้าคน แต่พอหนูขอโทษนะ เค้าก็พูดเหมือนไม่พอใจ ใช่ไหม ใช่ไหม โซร่า”โซร่าแค่พยักหน้าตอบเอยอง
“งั้นเหรอ คงไม่มีอะไรหรอกลูก พ่อมีประชุมบริษัทอีก 1 ชั่วโมง เดียวพ่อเตรียมเอกสารก่อนนะ ลูกทั้งสองไปที่คอนโดได้เลยนะลูก”
“ค่ะพ่อ”เอยอง และโซร่าลามินซุกแล้วเดินออกจากห้องทำงานไป
“เฮ้ย พวกแกว่าไหม ฮีจิน เซบิน เกาหลีเปลี่ยนไปเยอะเลยว่ะ”นาราพูดขึ้น ตอนนี้เธอทั้งสามกำลังนั่งรถเมล์มุ่งตรงไปที่บ้านของแต่ละคน
“เออ ฉันก็ว่างั้น ดูซิ ตรงนี้แต่ก่อนเป็นต้นไม้ ตอนนี้มีตึกโผล่มาจากไหนเนี่ย”เซบินมองออกไปนอกหน้าต่าง
“มันไม่โผล่ออกมาจากใต้ดินแล้วกัน”ฮีจินตอบคำถามให้เซบิน
“เฮ้ย นารา ฮีจิน ดูป้ายโฆษณานั้นซิ”เซบินชี้มือไปที่ ป้ายโฆษณาใหญ่ๆที่ติดอยู่ข้างๆตึก
“ทำไมว่ะ มันก็ธรรมดานี่ หรือแกชอบผู้ชายห้าคนที่เป็นพรีเซ็นเตอร์”ฮีจินโบกหัวเซบินไปทีหนึ่ง
“ฮะ ดูคนที่ยืนตรงริมขวามือซิ หน้าตามันคุ้นๆอ่ะ พวกเธอสองคนว่าไหม”นาราเพ่งไปที่ป้ายโฆษณา
“เนื้อคู่เธอมั้ง 555”ฮีจินหัวเราะลั่นรถเมล์จนคนทั้งรถหันมาที่พวกเธอ 3 คน
“อ้อฉันนึกออกแล้ว ก็คนที่เธอไปดึงแว่นเขาที่แอร์พอร์ตไง นารา”เซบินตอบข้อสงสัยของนารา
“เออ จริงด้วย แล้วมันไปยืนทำอะไรในป้ายโฆษณา”
“หรือว่า.......”
“อุ๊ย นี่โซจิน เธอดูป้ายนั้นซิ”
“อิๆ น่ารัก น่ารัก ได้ข่าวว่าวันนี้พวกเค้ากลับมาจากญี่ปุ่นนี่”
“เหรอๆ ใช่ๆ เสียดายเราไม่ได้ไปรับอ่ะ”
“แจจุงน่ารักจังว่าไหม”
“อุ๊ย สู้จุนซูไม่ได้หรอก”
“ชางมินก็น่ารัก ยูชอนก็น่ารัก ยุนโฮยิ่งน่ารัก อิๆ”
“ตกลงว่าน่ารักทุกคนล่ะ อิๆ ดงบังชินกิน่ารักอยู่แล้ว”
ผู้หญิงสองคนที่นั่งอยู่ข้างหน้าพวกเธอทั้งสามพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน แล้วพากับชี้มือไปยังป้ายโฆษณานั้น
“นี่ๆเธอ เธอสองคนอ่ะ”ฮีจินสะกิดผู้หญิงสองคนที่นั่งข้างหน้าเธอ สองคนนั้นหันมาหาเธอแล้วทำหน้าสงสัย
“เธอนั้นแหละ อย่ามาทำหน้าสงสัย ถามอะไรหน่อยซิ”
“แล้วจะถามอะไรพวกเราล่ะ”
“คนห้าคนนั้นอ่ะที่อยู่บนป้ายโฆษณาอ่ะ ใครเหรอ พวกเราอยากรู้”
“เธอไปอยู่ขุมไหนมาอ่ะ พวกเขาดังมากเลยนะ ไม่รู้จักไง”
“ถามแปลก ถ้ารู้จักแล้วพวกฉันจะถามไหมอ่ะ ที่ฉันไม่รู้จักฉันเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ”
“เออๆ ฉันบอกให้ก็ได้ พวกเขาคือวงดงบังชินกิ ป๊อบที่สุดในตอนนี้เลยนะ เป็นซุปเปอร์สตาร์ เป็นไอดอลในตอนนี้เลยล่ะ น่ารักมากๆ เรียงลำดับจากซ้ายไปขวานะ คนแรกอ่ะ จุนซู ต่อมา ยูชอน แล้วก็แจจุง ชางมิน สุดท้ายก็ยุนโฮ”
“อ่ะ เหรอ ขอบใจนะที่บอก วันหลังไม่ต้อง”ฮีจินละสายตาไปที่ป้ายโฆษณาอีก สองคนที่นั่งข้างหน้าเธอทำหน้าไม่พอใจ แล้วก็หันไปคุยกันต่อ
“ดงบังชินกิเหรอ”ฮีจินหันไปคุยกับเซบินและนารา
“จุนซู”
“ยูชอน”
“แจจุง”
“ชางมิน”
“ยุนโฮ”แต่ละคนผลัดกันพูดชื่อของพวกเขา
“ตกลงว่าพวกที่เราเจอที่แอร์พอร์ตก็คือ”เซบินพูดขึ้น
“ดง บัง ชิน กิ”สามสาวพูดพร้อมกัน
“เฮ้ย...!!! เอยอง โซร่า พวกเรามาแล้ว”นารารีบเปิดประตูคอนโดที่พวกเธอทั้งห้าจะใช้ชีวิตด้วยกัน
“อะไร เอะอ่ะโวยวายไปได้ มีอะไรฮะ”เอยองที่กำลังเตรียมอาหารเย็นเดินออกมาจากครัว ตอนนี้โซร่ากำลังนั่งดูทีวีที่ห้องนั่งเล่น
“ก็พวกห้าคนที่เราเจอที่แอร์พอร์ตอ่ะเธอจำได้ไหม”เซบินพูดแล้วเดินไปนั่งข้างๆโซร่า อีกสามสาวก็เดินตามไปนั่งใกล้ๆเธอ
“อืมจำได้ซิ ทำไมล่ะ”โซร่าละสายตามาจากทีวี
“ฉันรู้แล้วว่าพวกนั้นอ่ะคือใคร”ฮีจินพูดต่อ
“แล้วคือใครล่ะ ฉันจะได้ตามไปเช็คบัญชีกับมัน ที่บังอาจมาหาว่าเป็นเพราะฉันที่ทำให้ต้องมาวิ่ง”
“พวกเค้าทั้งห้าคือ....”
“คืออะไร”
“ดงบังชินกิ”เซบิน ฮีจิน และนาราพูดพร้อมกัน
“นี่ๆ พวกเธอสามคนบอกว่าดงบังชินกิ แล้วฉันจะรู้ไหมดงบังชินกิคืออะไร”เอยองพูด โซร่าพยักหน้าเห็นด้วย
“เออ จิงด้วย อธิบายซิ เซบิน”
“คือนักร้องวงที่ดังที่สุดในตอนนี้อ่ะ แบบยังไงอ่ะ ก็ดังแล้วกัน จบ”
“อะไรของพวกเธอเนี่ย ดงบังชินกิคือนักร้อง ห้าคนนั้นคือ ดงบังชินกิ ก็หมายถึงว่าดงบังชินกิคือนักร้อง”เอยองทวนคำพูดของเซบิน
“อ่ะ ตกลงว่า ห้าคนนั้นคือดงบังชินกิ แล้วดงบังชินกิคือห้าคนนั้น ห้าคนนั้นเป็นนักร้อง แค่นี้ใช่ไหม”โซร่าพูดขึ้น ทั้งสามคนที่เหลือพยักหน้า
“พวกผู้หญิงที่เหมือนยืนรอศิลปินก็คือว่าศิลปินนั้นคือ ดงบังชินกิ แล้วห้าคนนั้นก็คือดงบังชินกิ พวกแฟนคลับยืนรอห้าคนนั้น”ฮีจินพูดขึ้น
“แล้วห้าคนวิ่งหนีพวกแฟนคลับนั้น เพราะว่าพวกเค้าคือดงบังชินกิ ใช่ไหม”เซบินพูดขึ้น
“พวกเธอเป็นอะไรกันฮะ ฉันเข้าใจตั้งแต่เซบินพูดตอนแรกแล้ว”นาราพูดขึ้น
“งั้นพวกเราก็ได้เจอ ได้ใกล้ชิดศิลปินที่ดังที่สุดในเกาหลีอ่ะซิ”ฮีจินกรี๊ดออกมา
“ทำไมเราไม่ขอลายเซ็นเค้านะ น่าเสียดายจังว่าไหมโซร่า”เซบินหันไปถามโซร่า
“อืม”
“นี่ๆ เธอไม่ดีจัยเหรอนารา เธอได้ผลักศิลปินดังเลยนะ แถมได้จับแว่นเค้าด้วย ส่วนเธอเอยองเธอได้ชนศิลปินดังเลยนะโว้ย”ฮีจินกอดคอเอยอง
“เธอเป็นไรกันเนี่ย พวกนั้นมันไม่ถูกกับพวกเรานะ”เอยองแกะมือฮีจินออก
“เออ จิงด้วย ลืมไปเลย”เซบินมองหน้าเพื่อนๆ
“งั้นเราต้องเกลียดมัน”
“ช่าย ต้องแก้แค้น”
“ที่มาว่าเรา”
“แล้วเค้าว่าเราตอนไหนอ่ะ”โซร่าพูดขึ้น
“ไม่รู้อ่ะ...”
“ก็ถือว่าพูดว่าเราก็แล้วกัน”เอยองพูดขึ้น
“ใช่ๆ เราไม่ยอม พวกเราห้าคนไม่ยอม”
“Fighting!!!!”ทั้งห้าสาวยืดมือไปจับกัน
“แต่เอยอง ตอนนี้ฉันได้กลิ่นแปลกๆจากห้องครัว”
“เหมือนกลิ่นไหม้เลยอ่ะ”เซบินเสริมฮีจิน
“ว๊าย จิงด้วย ฉันลืมไป ฉันผัดข้าวผัดไว้นี่หน่า”
“ไปดูเลยไป ไหม้หมดแล้ว”นารารีบไล่เอยองไป เอยองรีบวิ่งหายเข้าไปในครัว
“โอ้ ฉันไปต้มบะหมี่กินก่อนนะ”เซบินเดินเข้าไปในครัว
“นารา ไปเซเว่นข้างๆกัน”ฮีจินจูงมือนาราไปข้างล่างคอนโด ส่วนโซร่าเดินเข้าครัวตามเซบินไป
“แค่ไหม้แค่นี้ทานไม่ได้ ฉันทานคนเดียวก็ได้”เอยองนั่งลงบนเก้าอี้แล้วตัดข้าวผัดไหม้ๆใส่ปาก
“แหวะ .... เซบิน บะหมี่ถ้วยนึงให้ฉันด้วย”เอยองตะโกนเข้าไปในครัว แล้วเลื่อนจานที่มีอะไรไหม้ๆดำๆไปห่างตัวเอง
ความคิดเห็น