ตอนที่ 8 : [spirk] CONGRATULATION!
CONGRATULATION!
“คุณต้องมาให้ได้นะ โปรเฟสเซอร์” เสียงหวานใสของนักเรียนทหารดังขึ้น ใบหน้ายิ้มแย้มด้วยความดีใจที่เขาจะขึ้นไปประจำการบนยาน
ใช่ เขาจะเรียนจบแล้ว
และแน่นอน จิม เคิร์ก ก็อยากให้วัลแคนหนุ่มที่กำลังนั่งทำงานไปร่วมงานนี้ด้วยเช่นกัน
คุณก็รู้ นักเรียนเคิร์ก ถึงอย่างไรผมก็ต้องร่วมพิธีจบการศึกษาของสถาบันทุกปีอยู่แล้ว”จิมทำเสียงหึ ก่อนที่เบนความสนใจไปมองออกไปนอกหน้าต่าง
ซุ้มดอกไม้ที่เริ่มจัดที่ละนิดที่ละน้อย พร้อมของตกแต่ง ดอกไม้ต่างๆมากมายที่วางรวมกันอยู่ลานกว้าง เขาแทบจินตนาการไม่ออกเลยว่าตัวเองในพิธีจบการศึกษาจะทำหน้าตายังไงกัน พอพูดถึงพิธีจบการศึกษาก็ต้องมีของขวัญและอ้อมกอดจากคนสำคัญที่มาแสดงความยินดีกับเขา พอคิดได้อย่างนั้น สายตาเหลือบไปมองคนที่ก้มหน้าก้มตาทำงานแล้วถอนหายใจ ความคิดในหัวตีกันมั่วไปหมด
‘เขาจะเอาดอกไม้มาให้เราหรอเปล่านะ’
‘หรือว่าจะเป็นขนมเค้ก?’
‘ไม่ๆ ต้องเป็นลูกโป่งลูกใหญ่ที่มีกลิตเตอร์สวยๆแล้วมีชื่อเขาติดอยู่แน่นอน!’
“นักเรียนทหาร!” อยู่ๆสป็อคก็ตบโต๊ะเสียงพร้อมตะโกนชื่อ จิมสะดุ้งสุดตัว เหมือนสติพึ่งงกลับมาเขาหันไปมองตามต้นเสียงแล้วยักคิ้วให้ไปหนึ่งที
“เกิดอะไรขึ้น แล้วจะตบโต๊ะทำไม ถ้าโต๊ะพังไม่เกี่ยวกับผมนะ”
“ผมแค่อยากจะเรียกสติคุณ และ ขอเตือนว่าอีก 5 นาที คุณจะเข้าเรียนคลาสประวัติศาสตร์สาย
คุณควรรีบไปได้แล้ว”
“เฮ้ย! อีกสามนาที งั้นไว้เจอกันนะ สป็อค” เด็กหนุ่มโบกมือลาแล้วรีบวิ่งแจ้นออกไปจากห้องของวัลแคน สป็อคพยักหน้าแล้วกลับไปทำงานต่อจากที่ค้างไว้
แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก!
“เกือบไม่ทัน เฮ้อ” เขารีบวิ่งมานั่งที่อย่างวุดวิดก่อนที่อาจารย์จะล็อคห้อง แมคคอยที่กำลังหยิบ PADD ออกมาจากกระเป๋าถึงกับสะดุ้ง
“ไอ่บ้าจิม แกมาตอนไหนวะ” เขาเหลือบไปมองนาฬิกาเรือนใหญ่ที่ตั้งอยู่ข้างกับจอโปรเจคเตอร์
’09.50’
‘คาบนี้เข้าตอน 09.45 แต่อาจารย์มักจะล็อคห้องก่อนเวลาเข้าเรียน 5นาที มันเข้ามาทันได้ยังไงว่ะเนี่ย?’
“มาตอน 09.39 มาทันพอดีเลยเลยรู้ไหม ฉันนึกว่าจะได้นั่งรออยู่นอกห้องแล้วเสียอีก”
“หึ มัวไปคั่วสาวแถวหอพักล่ะสิ”
“แถวๆนี้แหละ แต่ไปอ่อยมา ไม่ใช่ไปคั่ว”
“ใครกันเป็นผู้โชคดีที่นายโดนอ่อย เจ้าหนู ตอนนี้คงละลายกลายเมือกแล้วมั้ง”
‘ละลายก็บ้าแล้ว แข็งทื่อยิ่งว่าตอไม้อีก คนอะไรยั่วก็แล้ว อ่อยก็แล้วยังทนได้ เออ ลืมไปสป็อคไม่ใช่คนนี่หว่า’
“คุณเคิร์ก คุณแมคคอย อยากคัดวิทยานิพนธ์อีกเล่มใช่ไหม” อาจารย์ที่ยืนบรรยายอยู่พูดขึ้นทำให้ทั้งสองรีบส่ายหัวทันที
“งั้นก็ดี ถ้าไม่อยากทำก็ช่วยเงียบในขณะที่บรรยายด้วย” เธอพูดเสร็จก็เริ่มการบรรยายต่อจนเลิกคลาสเด็กน้อยจิมเอาแต่กุมท้องตัวเองเพราะเมินขนมปังปิ้งกับนมที่รูมเมทเตรียมไว้ให้ในตอนเช้า ทำให้ตอนนี้ท้องเขาร้องประท้วงอย่างหนัก
“ฉันบอกนายแล้วว่าอย่าลืมกินข้าวเช้า เป็นไงล่ะทีหลังก็หัดจำด้วยว่าความรู้สึกเวลาไม่ได้กินข้าวเช้ามันเป็นอย่างไง” จิมก้มหน้าแล้วฟังเพื่อนสนิทนาม แมคคอย บ่นเรื่องการละเลยอาหารเช้าของเขาครั้งที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้
“ถึงคนจะเยอะแต่พวกสก็อตตี้คงจะจองโต๊ะไว้ให้แล้วล่ะ” ขณะที่กำลังเดินข้ามสะพานไม้ สายตาดันไปสะดุดกับร่างที่คุ้นเคยกำลังมองมาจากตึกข้างๆ มือขาวซีดแซมเขียวที่เห็นจนชินตากวักมือเรียก
“โบนส์ ฉันลืมของไว้ที่คลาสเรียนอ่ะ นายไปก่อนเลยก็ได้”
“ก็ได้ แต่อย่าช้านะ ถ้าช้าของโปรดนายหายเข้ากระเพาะฉันแน่” จิมพยักหน้าแล้วรีบวิ่งขึ้นตึกไป เขาเดินตามทางเดินที่มีต้นไม้หลากหลายพันธุ์ตั้งเรียงกันตามทางยาว เขารีบเร่งฝีเท้าเพื่อที่จะได้ถึงจุดหมาย
“คุณมาสาย 10 นาที 36 วินาที นักเรียนเคิร์ก การตรงต่อเวลาเป็นคุณสมบัติสำคัญในการเป็นกัปตันและการปฏิบัติงานภายในยาน”
“ใช่ผมรู้ แต่โปรดเข้าใจว่าจากสะพานที่ผมยืนอยู่เมื่อสักครู่มาถึงที่นี้ก็ไม่ใช่ระยะทางที่ใกล้ๆเช่นกัน คุณสป็อค” จิมทำเสียงเหนือกว่า สป็อคไม่เถียง เขาเดินนำเด็กหนุ่มเข้าไปในห้องทำงาน บนโต๊ะสีน้ำตาลเหลือบทอง มีกล่องสีดำเล็กๆสองกล่องวางอยู่ ข้างๆกันก็มีกระบอกน้ำชาตั้งไว้
“มันคืออะไร?” จิมนั่งลงกับเก้าอี้แล้วเริ่มถาม มือเล็กๆเอื้อมไปเปิดฝากล่องก็พบกับอาหารมากมายถูกจัดไว้ในกล่อง
“มันคือข้าวกล่อง จากการสังเกต ผมเห็นว่าคุณบ่นว่าในช่วงของพักกลางวันในโรงอาหารคนจะเยอะเป็นพิเศษเป็นจำนวน 21 ครั้งในเดือนนี้ ผมเลยคิดว่าวิธีนี้น่าจะทำให้คุณบ่นน้อยลง”
“เลยทำข้าวมาเผื่อมางั้น?”
“ก็ประมาณนั้นครับ”
“แต่ทำไมมันถึงมีผักอ่ะ สป็อค” สายตาไล่กวาดไปที่ละอย่างตั้งแต่ผัดกะหล่ำปลี ผัดผักรวม และก็ข้าวกล้องที่ถูกจัดเป็นสัดส่วนในกล่อง
“เผื่อคุณไม่รู้ วัลแคนเป็นมังสวิรัติ”
“คุณกินแบบนี้ทุกวันเลยหรอ?”ถึงจะไม่ชอบผักแต่ในเมื่อคนที่ชอบทำมาให้เป็นใครไม่กินบ้างล่ะ จิมตักผัดผักเข้าปาก
‘อร่อย?’
“อร่อยดี คุณทำกับข้าวบ่อยหรอ”
“ผมอยู่คนเดียวเลยต้องฝึกทำอาหารครับ”
“แล้ว…เคยทำแบบนี้ให้ใครหรอเปล่า”
“ครับ?”
“ผมหมายถึงเคยทำข้าวกล่องให้ใครกินนอกจากผมไหม”
สป็อคเงียบไปซักพักพร้อมกับรินน้ำชาใส่แก้วแล้วยื่นให้อีกฝ่าย ก่อนที่จะรินใส่แก้วให้ตัวเอง
“คุณเป็นคนแรกที่ได้กินอาหารที่ผมทำ และคุณบอกว่ามันอร่อยผมก็ดีใจ”
จิมหน้าแดงระเรื่ออย่างเห็นได้ชัด เขารีบตักกับข้าวแต่ละอย่างกินจนหมด พอกินเสร็จเขากำลังจะนำกล่องไปล้าง แต่สป็อคห้ามไว้
“เดี่ยวผมล้างเอง คุณไปเข้าเรียนเถอะ”
“แต่ผมเป็นคนกิน ผมก็ต้องล้างสิ” สป็อคไม่ห้ามแล้ว เขาผายมือไปทางห้องครัวขนาดย่อมที่ตั้งอยู่ เด็กหนุ่มเดินไปที่อ่างแล้วลงมือล้างทันที วัลแคนหนุ่มจดจ่ออยู่ PADD แต่ก็หันไปมองที่ห้องครัวเป็นระยะ มือเรียวกดเข้าสมุดบันทึกแล้วพิมพ์อะไรบางอย่างลงไปในนั้น
-Hamburger and salad.
เขาพิมพ์เสร็จแล้วกดบันทึกเพราะนั้นจะเป็นอาหารกลางวันมื้อต่อไปของทั้งสองหรืออาจจะเป็นมื้ออื่น สป็อครู้ดีว่าจิมไม่ชอบกินผัก ที่ยอมกินหมด เขาก็ยังไม่รู้เหตุผลเช่นกัน อาจจะเป็นเพราะหิวจัดก็ได้
“ผมขอตัวก่อนนะ เพื่อนผมรอนานแล้ว” จิมเดินออกมาจากห้องครัวเอ่ยขึ้น แล้วเดินไปที่หน้าประตู
“ขอบคุณสำหรับอาหารกลางวันอร่อยๆนะครับ โปรเฟสเซอร์”
“และเจอกันวันพรุ่งนี้นะครับ”
.
.
.
.
.
.
.
“ของที่แกลืมอยู่หลุมดำหรือไง หา!”
พอกลับมาที่โรงอาหารก็โดนบ่นเลยทันที โบนส์เขกหัวเขาไปทีหนึ่งตามด้วยเสียงหัวเราะเบาๆของเพื่อนในกลุ่ม
“ก็แต่แวะข้างทางนิดหน่อยเองน่า ทำเป็นบ่นไปได้”
“ไม่มีข้าวเหลือให้แกแล้วนะ พวกฉันกินไปหมดแล้ว”
“ไม่เป็นไร ฉันกินมาแล้ว” แมคคอยมองหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว
“แกหิวจนต้องจับปลาในบ่อกินเลยหรอเพื่อน รู้ไหมว่าปลาที่อยู่ในบ่อมันแพงแค่ไหนกัน”
“จะบ้าหรอรู้แค่ว่าฉันกินมาแล้วก็พอ”
“แล้วคุณเคิร์กเตรียมตัวสำหรับวันพรุ่งนี้หรอยังครับ?” พาเวล เชคอฟ เด็กหนุ่มวัย 17 ปีที่ฉลาดฟิสิกส์เป็นกรดถามอีกฝ่าย เขาเด็กที่สุดในกลุ่มแต่พวกเราก็อยากให้เชคอฟรู้สึกเหมือนได้อยู่กับเพื่อนวัยเดียว
“ก็นิดหน่อยน่ะ”
พวกเขาคุยกันอยู่ซักพักก่อนจะแยกย้ายกันไปเรียนตามปกติจนตกเย็น แมคคอยนอนตั้งแต่หัวค่ำเพราะเจ้าตัวจะรีบตื่นเช้าเพื่อแต่งตัวในพิธีการศึกษา ต่างกับจิมที่ปกตินอนตีสาม วันก่อนพิธีก็ตีสามเช่นเดิม เพราะไม่ต้องห่วงเรื่องการแต่งตัว ขนาดเขาหัวยุ่งเหมือนเข้าป่ามา ผู้หญิงยังกริ๊ดได้เลย เชคอฟ ซูลู อูฮูร่าก็ไม่ต่างจากโบนส์ที่หลับตั้งแต่หัวค่ำเพื่อเตรียมหล่อสวยในวันพรุ่งนี้
แต่ตอนนี้เกือบจะตีสี่ ตาของเขายังแข็งอยู่เลย เขาพลิกตัวไปมาบนเตียงเพราะนอนไม่หลับจน
รูมเมทเกือบถีบเขาตกเตียง ก็ให้ทำไงได้มันตื่นเต้นนี่น่า เรื่องของสป็อคอีก เฮ้อ นอนเถอะ
แน่นอนว่าเช้าวันต่อมา เขาง่วงมากและไม่มีเวลาแม้แต่จะหวีผมเพราะเนื่องจากที่ว่านาฬิกาปลุกมันเสียและเขากำลังจะไปห้องประชุมสายแล้ว
แต่ในที่สุดพิธีก็ผ่านไปได้อย่างราบรื่น และ เขาก็มาทันเวลาพอดี เขาโดนโบนส์เขกหัวและโดนบ่นยาวตอนที่ไปถึง เขาได้แต่หัวเราะ แต่สายตาก็กวาดหาคนที่อยากเจอไปด้วย
…ไม่มี…
“เฮ้ นายเห็นโปรเฟสเซอร์ไหม?” เขาเอ่ยถามเพื่อนสนิท
“โปรเฟสเซอร์ไหนของแก?”
“สป็อค”
“ร้อยวันพันปีฉันไม่เคยเห็นแกถามหาไอ่หนูผีเลยนี่ แกป่วยหรอเปล่า” แมคคอยเอามือมาอังหน้าผากของจิมพลางถามอาการ แต่ก็โดนเขาปัดออก
“ฉันปกติดีโบนส์ แค่ถาม”
พวกเขาเดินมาถึงลานที่มีซุ้มดอกไม้และของต่างๆมากมายตั้งไว้เพื่อใช้ถ่ายรูป ส่วนใหญ่ที่เห็นก็จะเป็นกลุ่มเพื่อน คู่รัก ที่มอบของให้กัน ลูกโป่งเอย ขนมเอย กอดอุ่นๆเพื่อแสดงความยินดี
…เขาก็อยากมีบ้าง…
“จิม นายเป็นอะไรหรอเปล่า ทำไมทำหน้าหงอยเหมือนหมาถูกทิ้งยังนั้นล่ะ”
“มันก็เหมือนถูกทิ้งจริงๆนั่นแหละ”
“มีอะไรก็บอกกันได้ นายเป็นอะไร เฮ้ย!” เสียงตะโกนดังขึ้นทำให้จิมที่ก้มหน้าหงอยเงยหน้าขึ้นมา ช่อดอกไม้ช่อใหญ่ถูกยื่นมาตรงหน้า เขามองสูงขึ้นไปเพื่อดูหน้าของคนให้และนั่นเป็นความคิดที่ผิดมหันต์ สป็อคกำลังมองหน้าเขา ดวงตาสีช็อกโกแลตจ้องมาที่เขา
“สป็อค”
“ขอแสดงความยินดีที่เรียนจบครับ นักเรียนเคิร์ก” แค่คำพูดไม่กี่คำของอีกฝ่ายก็ทำให้ใบหน้าหงอยเมื่อกี้กลับมายิ้มได้ ยิ้มกว้างเสียด้วย
“ขะ ขอบคุณครับ ผมไม่คิดว่าช่อดอกไม้นี้จะเป็นของผม”เขารับช่อดอกไม้มาถือและกอดมันไว้แน่น
“มันเป็นของคุณ ของคุณคนเดียวครับ” สป็อคชี้ไปที่ป้ายเล็กๆที่ติดมากับดอกไม้ เขาบอกให้จิมเปิดดู หลังจากนั้นไม่นานเด็กหนุ่มก็กระโดดกอดวัลแคนแน่น เขาไม่อยากจะคิดเลยว่าสภาพของพวกเขาทั้งสองจะเป็นยังไงแต่ถ้าตรงนี้ไม่มีคน เขาจะจูบสป็อคให้ดูเลย ก็ในเมื่อข้อความในกระดาษเขาต้องเป็นคนพูดก่อนสิ
‘รักคุณครับ จิม’
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ตายสงบศพสีชมพู~