ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เงาสิเน่ห์หา
เสียงเบรกกะทันหันดังลั่นถนน เมื่อเห็นคนอยู่เบื้องหน้า ตามด้วยเสียงสบถลั่นด้วยความหงุดหงิดของคนขับ ชายหนุ่มลงไปดู ไฟหน้าสาดส่องท้องถนนเป็นวงกว้างเผยให้เห็นตัวต้นเหตุ
เด็กหนุ่มร้องครางเบาๆด้วยความเจ็บ ถึงจะไม่ได้โดนจังๆแต่ก็เล่นเอาเคล็ดขัดยอก กระเป๋าเดินทางกระเด็นไปไกล
“เป็นไงบ้าง”
ใบหน้าสวยนั้นหันควับทันทีเมื่อได้ยินคำถาม ตาโตใสแจ๋วมองมาอย่างระแวง กังวล กลัว แล้วหันไปมองรอบด้าน ชายหนุ่มขมวดคิ้วกับพฤติกรรมนั้น เก็บความสงสัยไว้ในใจ ก่อนจะช่วยเด็กหนุ่มให้ลุกขึ้น ตัวเบาจริงแฮะ กินข้าวบ้างรึเปล่านะไอ้หนูนี่
เหตุการณ์นี้จะโทษใครก็ไม่ได้ กลางคืนแถวนี้มันมืดสนิท เสาไฟฟ้าแต่ละต้นก็อยู่ห่างกันพอสมควรทำให้ส่องกระจายไม่ทั่วถึง ถนนเปลี่ยวไม่มีรถวิ่งเลยทำให้เขาขับมาด้วยความเร็วจัด นับว่าไม่ตายก็ดีเท่าไหร่แล้ว แล้วมองเด็กหนุ่มอย่างไม่เข้าใจว่ามันจะกลัวอะไรนักหนา
“ไอ้หนู จะไปไหนฉันจะไปส่ง”เขาถามอย่างมีน้ำใจ
ไอ้หนูนี่มันท่าทางซื่อดี ดูหน้าคงจะหลอกใครไม่เป็น ไม่น่าจะใช่พวกโจร แถมทางมันยังอีกไกล มืดอีกต่างหาก มีกระเป๋าเดินทางมาด้วย คงจะเดินทางไปไหนซักแห่ง แต่มันมาจากไหน แถวนี้ก็ไม่เห็นมีบ้านคนนี่หว่า มันมองหน้าอย่างไม่ไว้ใจอยู่พักหนึ่ง ก่อนอ้อมแอ้มตอบ
“เข้าเมืองฮะ”
ชายหนุ่มโยนกระเป๋าไว้ด้านหลัง ก่อนจะช่วยดึงร่างที่เดินกะเผลกนั่นมานั่งเบาด้านหน้า รถเบนซ์คันงามออกตัวอีกครั้ง เคลื่อนผ่านความมืดไป
“อายุเท่าไหร่น่ะเรา ดูเด็กจัง”เขาถาม รู้สึกถูกชะตากะไอ้หน้าละอ่อนนี่ยังไงก็ไม่รู้
“จะยี่สิบแล้วฮะ”เด็กหนุ่มตอบหลังจากละสายตาที่มองข้างทางด้วยคำถามของเขา
“นายชื่ออะไร”
“ลตาฮะ เรียกตาก็ได้”
“ฮืม ตาเราะ แปลกดี ฉันชื่อกฤต แล้วจะไปไหนต่อล่ะ”
คำถามของเขาเล่นเอาเด็กหนุ่มชะงักงันเล็กน้อย ก่อนจะตอบเสียงเบา
“ว่าจะไปหาย่าฮะ”
“อืม เดี๋ยวฉันจะไปส่งโรงพยาบาล ไปเช็คหน่อยว่ามีอะไรเสียหายบ้าง”เขาบอกยิ้มๆ แต่เด็กหนุ่มร้องเสียงหลง
“ไม่เป็นไรฮะ ไม่เป็นไร มันเคล็ดนิดหน่อย เดี๋ยวก็หาย”
ลตารีบปฏิเสธราวกับเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย
“แล้วแต่นาย”
ชายหนุ่มขี้เกียจพูดมาก จึงเงียบกันไปทั้งสองฝ่าย ไม่เกินครึ่งชั่วโมง เขาก็ขับมาส่งที่ตลาดโต้รุ่งในตัวเมือง ใกล้ๆกันเป็นสถานีขนส่ง
“ขอบคุณฮะ”
เด็กหนุ่มหยิบกระเป๋าจากท้ายรถ ลงจากรถจึงเอี้ยวตัวก้มมาบอก ยิ้มด้วยความซาบซึ้งอย่างจริงใจ
ชายหนุ่มนั่งอยู่บนรถ มองร่างบางที่ค่อยๆกลืนไปกับฝูงชนในตลาดซักพัก ก่อนจะสตาร์ทรถ ยังไม่ทันได้ออกตัว ใบหน้าคมนั้นต้องหันไปมองเสียงเอะอะที่ดังขึ้นแถวตลาด
ไอ้หนูร่างบางนั่น กำลังหนีบรรดาร่างยักษ์ที่ตามไล่จับอยู่ ใช้กระเป๋าใบโตเหวี่ยงเข้าที่หน้า ก่อนจะออกแรงเท้ายันร่างนั้นให้ล้มเซ ชายอีกคนคว้าหมับเข้าที่แขน ฟันสวยของเด็กหนุ่มกัดลงบนแขนนั่นเต็มแรง และชายอีกสองคนก็กำลังวิ่งตามมา แต่ก็ต้องหลบหลีกสิ่งกีดขวางที่เด็กหนุ่มสร้าง
ผู้ถูกล่าวิ่งหน้าตั้งมาขึ้นรถของเขา ปิดประตูดัง ปัง
“ออกรถซิ ออกรถ!”
ร่างบางสั่งอย่างลืมตัวและชายหนุ่มก็ยอมออกรถแต่โดยดี ตาคมมองประสานกับผู้ล่า ผู้ล่าหยุดตาม เดินกลับไปแต่โดยดี มันคนของเขานี่หว่า...รึว่า?
ชายหนุ่มขับรถไปเรื่อยๆให้พ้นจากตลาด ลอบมองดูหน้าที่เห็นไม่ชัดในความมืด ระหว่างให้พักหายใจหายคอ เหงื่อพราวเกาะติดอยู่บนใบหน้าสวย
“พวกนั้นใคร”ถามพลางลอบสังเกตปฏิกิริยาของอีกฝ่าย
“ไม่รู้ฮะ”ตาโตฉายประกายตาชั่วแวบก่อนตอบ แววตารั้นๆกับปากเม้มๆ คงคาดคั้นให้เล่าไม่ได้แน่
“จะให้ไปส่งไหน อ่อ บ้านย่าใช่ไหม บอกทางมาสิ”
“ง่า...”
เด็กหนุ่มอ้ำอึ้ง ถอนหายใจแรงๆก่อนจะบอกความจริง
“ผมไม่มีย่าหรอกฮะ จอดให้ผมลงตรงนี้เถอะ ขอโทษที่รบกวนนะฮะ ขอบคุณที่ช่วยไว้”
“อ้าว”ร้องอย่างงงๆ แต่เขาไม่จอดรถ แถวนี้เปลี่ยวเกินไป
“ขอโทษจริงๆฮะที่โกหก ผมไม่มีที่ไปก็เลยตอบส่งๆไปอย่างนั้น”
น้ำเสียงและท่าทางหมาหงอยนั้น ทำให้อารมณ์กรุ่นๆของชายหนุ่มลดลงและเอ่ยถามเสียงอ่อนโยนจนเจ้าตัวยังแปลกใจกับตัวเอง
“เอาเถอะ ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว แล้วจะเอายังไง”
“ไม่รู้ฮะ” ความเงียบก่อตัวอยู่เนิ่นนาน ก่อนที่ชายหนุ่มจะทำให้มันสิ้นสุด
“เอาอย่างนี้มั้ยล่ะ ไปทำงานกับฉัน มีที่พัก มีข้าวครบสามมื้อ มีเงินเดือนให้ นายแค่ดูแลบ้านให้ฉัน ทำงานบ้านทุกอย่าง ไหวมั้ย อ่อ ทำอาหารเป็นมั้ยน่ะเรา”
ดวงตาโตที่หมองหม่น กลับสดใสขึ้นทันตา
“ไหวฮะไหว ทำเป็นฮะ อร่อยด้วย”รีบตอบเขาแถมโอ่ด้วยความภาคภูมิใจจนน่าหมั่นไส้
เขาหัวเราะน้อยๆ พลางเอามือใหญ่ขยี้ผมสั้นกุดเกือบถึงหนังหัวนั่นอย่างเอ็นดู รอยยิ้มสดใสฉายแววประจบเต็มที่
“งั้นนายก็นอนพักเอาแรงไปเถอะ ถึงแล้วเดี๋ยวฉันปลุก”
“ฮะ”
เด็กหนุ่มรับคำไปอย่างนั้น ไปๆมาๆ ความเหนื่อยล้าจากทุกสิ่งมันค่อยๆถ่วงให้เปลือกตาปิดลงช้าๆ จนสิ้นสติไปในที่สุด
*****
“ไอ้หนู ตื่น”แรงเขย่าทำให้ร่างบางรู้สึกตัว ขนตาเป็นแพขยับขึ้นลงสองสามรอบ ดวงตาสีดำงัวเงียอย่างคนนอนไม่เต็มอิ่ม
“ถึงแล้วเหรอฮะ อ้าว มาท่าเรือทำไมฮะ”เด็กหนุ่มถามอย่างงงๆ มองท้องฟ้าที่กลืนไปกับทะเลยามค่ำคืน
“ต้องนั่งเรือต่ออีกหน่อย ปะ เรืออยู่โน่น”เด็กหนุ่มจึงเอื้อมไปเอากระเป๋าและเดินตามเขา ไปลงเรือยอรช์สีขาวลำโต เขาคงรวยไม่ใช่เล่น
เด็กหนุ่มเดินไปตามที่เขาบอกขณะนั้นเขากำลังคุยกะคนขับ ร่างผอมเดินจนเจอประตูห้อง เปิดเข้าไปแล้วล้มตัวลงนอนทันที ให้ร่างกายได้พักผ่อนสมใจ
เมื่อคุยถึงตารางเวลาเสร็จ ชายหนุ่มจึงเดินลงมาหมายจะพักบ้างเล็กน้อย เปิดประตูห้องที่พักอยู่ประจำ เปิดไฟปุ๊บก็เห็นร่างบางนอนขดคุดคู้อยู่บนเตียง หากแต่แสงไฟไม่ทำให้ร่างนั้นตื่นแต่อย่างใด เขาจึงตัดสินใจทำอย่างที่ตนเองนั้นสงสัยไว้ จับร่างบางให้พลิกหงาย ก่อนจะนั่งนิ่งพิจารณาร่างนั้น แล้วริมฝีปากสวยก็แย้มรอยยิ้มอย่างพอใจออกมา
*****
ตาสีดำกระพริบตาปริบๆอยู่ในความมืด ก่อนร่างบางจะผุดลุกพรวดขึ้นมานั่ง มองไปรอบๆให้สายตาชินกับความมืด เตียงนุ่มทำให้อยากจะเอนหลังลงไปอีกแต่ต้องหักห้ามใจ เด็กหนุ่มลุกขึ้นจากที่นอนเดินไปเปิดม่านที่ส่องสลัวด้วยแสงของท้องฟ้าจากภายนอก จึงมองเห็นท้องฟ้าสุดลูกหูลูกตา ฟ้ายังไม่สาง หาดทรายงามเนียนละอออยู่ไม่ไกล คงขึ้นฝั่งแล้ว นี่คงเป็นบ้านเขาล่ะมั้ง
ลตาคลำหาสวิทช์ไฟจนเจอ กระเป๋าถูกวางไว้หน้าตู้เสื้อผ้า เขาจึงหยิบเสื้อผ้าแล้วเดินเข้าห้องน้ำที่อยู่ในห้องของตนเอง มันเกินฐานะคนใช้ไปรึเปล่าหว่า?
บ้านนี้มีชั้นเดียว แต่กว้างแบ่งเป็นสองฟาก มีห้องนั่งเล่นห้องทานข้าวอยู่ใกล้กับห้องครัว อีกฟากเป็นห้องอยู่สี่ห้อง เขาได้ห้องริมระเบียงด้านซ้าย
ตอนนี้เพิ่งจะตีห้า ยังไม่เห็นเขา คงยังไม่ตื่น เด็กหนุ่มจึงแวบลงไปที่ชายหาด ท้องฟ้าแผ่สีคราม แสงสว่างเริ่มฉายแสง เด็กหนุ่มสูดอากาศด้วยกลิ่นเค็มของทะเล เท้าเปลือยเปล่าเตะคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งลูกแล้วลูกเล่า
“ไงเรา คึกอะไรแต่เช้า”
เสียงทักอยู่ใกล้จนรู้สึกได้ ลตาเกร็งตัวน้อยๆ ก่อนจะเหลือบมองเขาที่มายืนอยู่เคียงข้างตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
“อรุณสวัสดิ์ฮะคุณกฤต ให้ผมเตรียมอาหารเช้าเลยไหมฮะ”เมื่อเขาให้อาหารให้ที่ซุกหัวนอนก็ต้องตอบแทนอย่างเต็มที่
“พระอาทิตย์ขึ้นก่อนก็แล้วกัน”กฤตบอกคนที่กำลังก้มดูน้ำทะเลใกล้ๆ
“ฮะ”ลตารับคำก่อนจะหันมาบอกกฤตหน้าตาตลก “ผมเพิ่งรู้นะฮะเนี่ยว่าน้ำทะเลใส๊ใส หยั่งกะน้ำประปา”ซุ่มเสียงราวกับเป็นเรื่องเหลือเชื่อของเด็กหนุ่มเรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากชายหนุ่มได้
“แกพูดหยั่งกะไม่เคยเห็นน้ำทะเลหยั่งงั้นแหล่ะตา”
“ฮะ เกิดมาเพิ่งเคยเห็น”
เด็กหนุ่มบอกซื่อๆก่อนจะลองชิมน้ำทะเลจากฝ่ามือเล่น แล้วแลบลิ้นแหยะ เค็ม
“ผมไม่ค่อยจะได้ไปไหนกะเค้านักหรอกฮะ วันๆไม่อยู่ในครัวก็ทำแต่งานบ้านฮะ”
ลตาแจกแจงก่อนจะหันไปสนใจเจ้าปูลมที่วิ่งผ่านหน้าไปตื่นเต้นอย่างคนไม่เคยเห็น
“เดี๋ยวเที่ยงนี้ฉันจะไปดำน้ำ แกเตรียมอาหารกลางวันไปด้วย อ่อ แล้วเตรียมชุดเล่นน้ำของแกด้วย ฉันจะพาไปดูปะการัง”
ชายหนุ่มบอก เรียกรอยยิ้มยินดีของลตาก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าแล้วก้มหน้างุดๆ
“อย่าเลยฮะ รบกวนคุณกฤตเปล่าๆ”มันพูดอย่างเกรงใจสุดๆ
“ฉันสั่งอะไรก็ตองทำตามที่สั่ง เข้าใจไหม”เขาบอกเสียงดุ เล่นเอาลตาพยักหน้าแทบไม่ทัน ในอกรู้สึกสุขใจอย่างบอกไม่ถูก
*****
“คะ คะ คุ คะ คะ คะ คุณกฤตฮ้า ปะ ปลามัน มันกัด”
เด็กหนุ่มร้องกึ่งตกใจกึ่งตื่นเต้น แขนขาตีน้ำกระจาย ร่างบางสวมเสื้อชูชีพสีส้มแปร๋น มีหน้ากากดำน้ำอยู่บนใบหน้า มือความหาร่างหนาหวังยึดเป็นหลัก
“ปลามันตอดเฉยๆ ไม่เป็นไรหรอก”ชายหนุ่มว่าพลางหัวเราะแต่ก็พยูงร่างบางไว้
ปะการังสีสวยดูแล้วเพลินตา ปลาหลากชนิดหลายสีสัน เวียนว่ายผ่านไปแล้วก็ผ่านมาอยู่เบื้องหน้าเด็กหนุ่ม เมื่อเริ่มปรับตัวรู้เทคนิควิธีว่ายแล้ว เจ้าหนูก็ตะกุยว่ายไปดูโดยมีคนตัวโตระวังอยู่ไม่ห่าง
“เป็นไง ชอบไหม”ชายหนุ่มถามหลังจากขึ้นจากน้ำมาทานอาหารกลางวันด้วยกันบนเรือ
“ชอบฮะ”เด็กหนุ่มตอบก่อนจะลงมือเคี้ยวแซนวิชตุ้ยๆด้วยความหิว
“งั้นก็อยู่ตลอดไปเลยสิ”
เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมามอง จ้องมาด้วยตาใสแป๋ว ก่อนจะยิ้มยีงฟัน ทำให้คนที่เห็นอดเอ็นดูไม่ได้
“ถ้าคุณกฤษไม่ไล่ไปไหน ผมก็จะอยู่มันจนวันตายเลยฮะ”
มุมปากบางเผยยิ้มแปลกๆ เด็กหนุ่มเห็น แต่ไม่ได้ใส่ใจจึงปล่อยผ่านเลยไป
คงจะไปได้หรอกนะ ลตาเอ๋ย
*****
“คุณกฤษไม่ทำงานเหรอฮะ”
เด็กหนุ่มถามพลางเอาคางท้าวไว้บนด้ามไม้กวาด อยู่ด้วยกันมาเกือบเดือน ยังไม่เห็นเจ้านายรูปหล่อไปไหน แถมไม่มีสาวๆด้วยเนี่ยสิ แปลก ถึงที่นี่จะเป็นเกาะก็เถอะ แต่การเดินทางไม่ได้ยากได้เย็นอะไรเลย
ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมาจากกองเอกสาร มองผ่านกรอบแว่นเรียวสีดำ ทำให้ใบหน้านั้นดูคมขึ้น
“ก็ทำ นี่ไง”
“เนี่ยนะฮะ ก็แค่อ่านกระดาษ เขียนยึกๆยักๆ แค่เนี้ยเหรอฮะ”
เด็กหนุ่มทำหน้าพิลึก งานอะไรจะสบายขนาดนั้น
ชายหนุ่มไม่ตอบกลับไพล่บอกไปอีกเรื่อง
“เย็นนี้เตรียมอาหารเพิ่มอีกที่ด้วยนะ จะมีแขกมา”
เด็กหนุ่มเอียงคอน้อยๆ ก่อนจะถาม
“ชายหรือหญิงฮะ”
“ถามทำไม”
ไม่ตอบแถมถามกลับซะงั้น
“ก็ถ้าเป็นผู้ชายจะได้ทำอะไรก็ได้ไงฮะ พวกผู้หญิงเรื่องมากจะตาย เดี๋ยวไอ้นู่นก็กินไม่ได้ ไอ้นี่ก็ไม่กิน ผมจะได้ทำให้ถูก”
ก็พูดไปงั้น เพื่อนนายหรือแฟนนายต่างหากที่อยากจะรู้
“ผู้หญิง น้องฉัน ที่จริงก็คนรู้จักนั่นแหล่ะ คนนี้ไม่กินผัก หอยทุกชนิด ปลาหมึก ของทอด”
“ยุ่งจริงแฮะ”ลตาพึมพำเบาๆก่อนจะพยักหน้าเป็นที่รับรู้ แล้วเดินไปกวาดอีกมุมหนึ่งตามคำสั่งของผู้เป็นนาย
รู้ใจกันจริงๆนะ เจ้านาย
สวยจริงยิ่งดูยิ่งสวย เซ็กซี่ยิ่งกว่าอั้มพัชราพา ถ้าไม่บอกว่าน้องสาวคงคิดว่าแฟนแหงๆ เล่นจูบกันมาแต่ไกล ทำให้เด็กหนุ่มผู้ไม่สันทัด เดินเลี่ยงออกไปจากฉากของผู้ใหญ่ ห้องก็เตรียมไว้แล้ว คงจะไม่มีอะไรแล้วล่ะ
“ไอ้ตา”
เสียงเรียกของเขาทำให้ผู้ที่จะหลบฉากต้องเดินกลับไปหาอย่างจำใจ
“ฮะ”
เด็กหนุ่มขานรับ
“เอากระเป๋าคุณอลิซไปเก็บหน่อย ลิซนี่ลตา มีอะไรก็เรียกใช้ได้ ทั้งหลัง มีมันอยู่คนเดียวนี่แหล่ะ”
ชายหนุ่มแนะนำ ลตาค่อมหัวให้หญิงสาวเล็กน้อย ก่อนจะลากกระเป๋าใบโต นั้นเข้าห้องที่เตรียมไว้ไป
“ต๊าย หน้าใส๊ใสนะกฤษขา ร้อยวันพันปีไม่เห็นคุณรับใครเข้ามาทำงานเลยนี่นา แล้วไปเอามาจากไหนล่ะคะเนี่ย”หญิงสาวถามขึ้นเสียงสูง แต่ไม่ได้สงสัยนัก เมื่อชายหนุ่มตอบมาจึงไม่เท้าความต่อ
“เก็บมา เดี๋ยวผมจะไปทำงานต่อ ลิซจะไปเดินเล่นหรือพักผ่อนก็ได้ แล้วค่อยมาเจอกันอาหารเย็น”
แล้วชายหนุ่มก็เดินเข้าห้องหนังสือไป
“มาดเยอะนักนะกฤษขา พูดดีได้แค่ตอนนี้แหล่ะค่ะ ต่อจากคืนนี้ไปลิซจะทำให้คุณมาคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าให้ได้เลย”
อลิสาว่าพลางหัวเราะอย่างสะใจแล้วเดินเข้าห้องของตัวเอง ทิ้งให้เด็กหนุ่มที่เดินมาได้ยิน ทำหน้าพิลึกอยู่ในครัว
ลตากำลังเตรียมอาหารอยู่ในครัว กำลังง่วนอยู่กับการปอกเปลือกกุ้ง อลิซก็เดินฉับๆเข้ามาสั่ง
“ชงกาแฟดำให้แก้วนะ ไอ้หนู เร็วๆด้วย”
‘ไอ้หนู’เงยหน้ามองผู้สั่งแล้วรับคำ
“ฮะ”
“เราน่ะ ชื่ออะไรนะ”
หญิงสาวชวนคุยขณะรอกาแฟ
“ลตาฮะ”
“อายุเท่าไหร่แล้วล่ะ”
“ยี่สิบแล้วฮะ”
“อือ ทำงานที่นี่นานรึยังล่ะ”
“เกือบเดือนได้ฮะ”
“เสียงหวานนะเรา ถามจริง เป็นตุ๊ดรึเปล่าเนี่ย”
เด็กหนุ่มกระตุกยิ้ม แม่พวกผู้หญิงนี่ชอบสอดรู้ไปทั่วจริงๆ
“ป่าวฮะ”
“ขอบใจ”
อลิซบอกขณะรับถ้วยกาแฟแล้วเดินดิ่งไปยังห้องหนังสือที่เขาอยู่
“กฤษขา กาแฟเข้มๆซักถ้วยนะคะ ลิซชงกะมือเลย”
เธอรีบปรี่ไปวางที่โต๊ะก่อนจะฉอเลาะเสียงแหลม
“ขอบคุณ”
ชายหนุ่มยกขึ้นมาจิบก่อนเอ่ยชม
“คุณรู้ได้ไงว่าผมดื่มรสนี้”
“ก็แหม คุณดื่มกาแฟ ดำเพียวๆเลยนี่คะ”
หญิงสาวว่าอย่างภาคภูมิ ชายหนุ่มขมวดคิ้ว
“ผมดื่มกาแฟสาม น้ำตาลหนึ่ง”
ว่าแล้วก็หันไปสนใจตัวหนังสือในกระดาษต่อ ไอ้แก้วนี้ลตาคงชงแน่ๆ
หนอย ยกนี้ฉันประมาทหรอกนะ แต่เธอยังไม่ยอมแพ้
“กฤษขา นั่งนานคงเมื่อยแย่เลย มาค่ะ เดี๋ยวลิซนวดให้”
ไม่รอคำตกลง หญิงสาวก็ปรี่ไปนวดหลังกว้างอย่างเอาใจ
“ไม่ต้องลิซ ผมไม่ปวด”
กฤษพยายามจะแกะมือปลาหมึกออกแต่ไม่เป็นผล นี่เห็นว่าเป็นลูกของอาทศหรอกนะ ไม่งั้นล่ะ เขาไม่ไว้หน้าแน่
นัวเนียกันไปมาสุดท้ายมันไปลงที่หญิงสาวนั่งตักชายหนุ่มได้ไงไม่รู้ ชายหนุ่มพยายามจะใช้วิธีละม่อมยกร่างนั้นออกจากตัว แต่หญิงสาวกลับแรงหมีอย่างไม่น่าเชื่อเกาะร่างใหญ่ไว้ไม่ยอมปล่อย
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เด็กหนุ่มเปิดประตูมาเจอภาพเบื้องหน้าก็ทำหน้าไม่ถูก
จังหวะที่หญิงสาวเผลอชายหนุ่มจึงยกตัวเธอออกจากร่างแล้วรีบเดินมาหาเด็กหนุ่มราวกับว่าอยู่ในนรกยังไงอย่างนั้น
“มีอะไร”
“มีแขกมาฮะ”
“ใคร”
เขาขมวดคิ้ว ใครมาโดยที่เขาไม่รู้เรื่อง
“เธอบอกว่าชื่อสตาร์ฮะ”
เด็กหนุ่มมองหญิงสาวที่นั่งขนาบนายทั้งสองข้าง เสริฟน้ำให้แขกผู้มาใหม่ ก่อนจะหลบฉากไป อยากจะหัวเราะดังๆติดก็แต่ตาดุๆของเจ้านาย ทำให้ไม่กล้า
“ดาว จะมาทำไมไม่บอกผมก่อน”
“ก็สตาร์อยากจะเซอร์ไพรซ์กฤษนี่คะ ทำไมคะ สตาร์มาไม่ได้เหรอ”
หญิงสาวหน้าหวานตัดพ้ออย่างมีจริต
“หน้าด้าน เขาไม่เชิญก็ยังจะมา”
อลิซพูดลอยๆเสียงดัง ดาวกระตุกยิ้มทำเป็นไม่สนใจ
“กฤษขา สตาร์อยากล่องเรือดินเนอร์จัง คืนนี้เราไปล่องเรือกันนะคะ ไปกันแค่สองคน”
ดาวบอกอย่างออดอ้อน
“กฤษขา คืนนี้ลิซอยากไปล่องเรือดินเนอร์ นะคะ ไปกัน ไปกันแค่สองคน”
อลิซออดอ้อน แต่ไปทางเชิงล้อเลียนดาวเสียมากกว่า
“กฤษขา คิดถึงจัง”
ดาวบอก กอดแขนแกร่งทำให้หน้าอกโตเบียดแนบชิด
“กฤษขา ลิซร๊อนร้อน”
อลิซบอก พลางแหวคอเสื้อเผยให้เห็นเนินอกขาว
กฤษท่องเลขในใจอย่างอดทน ชักจะรำคาญแม่สองเนื้อนางนี่เต็มทน เขามาที่นี่ก็เพื่อจะพักผ่อน ที่มันคงจะไม่เป็นไปอย่างที่ต้องการแล้ว
ร่างสูงลุกพรวด
“ผมมีธุระต้องเข้าบริษัท จะไปซักสองสามวัน”
“อะไรนะคะ!”
สองสาวร้องพร้อมกัน
เขาออกจากห้องตรงไปยังระเบียง
“ตา”
เขาตะโกนเรียก
“ฮะ”
เด็กหนุ่มขานรับ วางไม้กวาด
“เก็บเสื้อผ้าไปหลายๆชุด เดี๋ยวเราจะเข้ากรุงเทพฯกัน”
กฤษไม่อธิบายอะไรทั้งนั้น
“เอ้อ...ฮะ”
ลตาได้แต่รับคำงงๆ แล้วรีบเข้าไปยัดเสื้อผ้าใส่กระเป๋าตามที่เจ้านายต้องการ ใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีแล้วรีบตามเขาไปที่ท่าเรือ
มีเรืออยู่สามลำ ชายหนุ่มบอกอะไรกับคนขับไม่รู้แต่เรือทั้งสองก็ขับกลับฝั่ง จึงเหลือเรืออีกลำ ระหว่างที่จะออกเรือ ผู้หญิงอีกสองคนรีบวิ่งมา แต่มาได้ไม่เร็วเท่าไหร่ เพราะมัวแต่ขัดแข้งขัดขากัน
“เอ่อ แล้วพวกเธอล่ะฮะ”
ลตาถาม
“ปล่อยไว้ที่นี่แหล่ะ รำคาญ”
ชายหนุ่มตอบ ออกเรือ ไม่สนใจเสียงกรีดร้องเรียกของพวกเธอเลย
“กฤษขา! กฤษ อย่าทิ้งสตาร์ไว้”
“กฤษ อย่าทำอย่างนี้นะ!”
เมื่อเรือแล่นไปไกลสองสาวก็หันมาจ้องกันราวกับจะสูบเลือดสูบวิญญาณ
“เพราะแกคนเดียว!”
ดาวโทษอลิซ
“เพราะแกต่างหาก!”
“เพราะแก!”
“เพราะแก!”
สาวสวยทั้งสองวางมวยตรงท่าน้ำ
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด”
และก็ตกลงไปในทะเลทั้งคู่นั่นแหล่ะ
*****
*****
การนั่งเรือและนั่งรถเป็นเวลาเกือบสิบชั่วโมงนั้น สร้างความปวดเมื่อยให้แก่ลตาเป็นอันมาก เกือบเที่ยงคืนทั้งสองจึงมาถึงคอนโดหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยาของกฤษ
“นี่ห้องฉัน แกนอนห้องนั้นก็แล้วกัน ไปนอนเถอะ ง่วงเต็มแก่แล้วนี่”
กฤษชี้ห้องอธิบาย บอกคนที่ดวงตาแดงกล่ำเปลือกตาจะปิดแหล่มิปิดแหล่ แล้วไล่ให้ไปนอนอย่างเอ็นดู
ลตาพยักหน้ารับอย่างเบลอๆ ก่อนจะเดินเข้าห้องไปอย่างว่าง่าย
*****
*****
เช้านี้เจ้านายใจดีพาไปเที่ยว เริ่มจากพาไปไหว้พระแก้วมรกตที่วัดพระแก้ว คนเยอะมาก เป็นชาวต่างชาติซะส่วนใหญ่ ก่อนจะพาไปดูพระนอนที่วัดโพธิ์หรือวัดพระเชตุพนวิมลคลาราม องค์พระนอน ใหญ๊ ใหญ่ หยอดเศษตังดังแกร้งๆลั่นเลย จากนั้นจึงได้หาร้านอาหารรับประทานกัน แล้วจับเรือข้ามฝากไปวัดระฆัง ตีระฆังสนั่นหวั่นไหว ปวดแก้วหู ระหว่างที่เจ้านายขับรถพากลับ ก็หลับเป็นตาย เหนื๊อย เหนื่อย ...
...“โธ่ แม่ ยังไม่เบื่ออีกหรือ...แต่ผมล่ะ เบื้อ เบื่อ...โธ่แม่คร๊าบ กราบล่ะ...ไม่ ไม่เอา เดี๋ยวแฟนผมเสียใจแย่...ไม่ได้โม้นะแม่...ได้ งั้นเสาร์นี้ เดี๋ยวผมจะพาเขาไป...น่าแม่ รับรอง แม่ต้องชอบแน่ๆ...คนละขั้วเลยแม่...คนนี้นะ น่ารักครับ เรียบร้อย ยิ้มสวยด้วยแม่...ฮ่าๆๆ...ครับ...ครับ...คร๊าบบบ...ดีครับ”
เสียงคุยโทรศัพท์ของเขาดังแว่วๆ จับความได้ว่า คุยอยู่กับแม่ของเขา แล้วพูดถึงแฟน ฮึ น่ารัก เรียบร้อย ยิ้มสวย เชอะ! ลตาคิดอย่างขุ่นเคืองไม่รู้ตัวพลางตะแคงนอนหันหลังให้กับเขา ก่อนจะผลอยหลับไปอีก ขณะนี้รถเคลื่อนไปอย่างช้าๆตามจังหวะของการจราจรในยามค่ำคืน
“...”
“...อา...”
“...ตา....”
“...ตา...ลตา...”
“...ไอ้- ละ- ตา!...”
สิ้นเสียงเรียก ร่างของเด็กหนุ่มก็ลุกพรวด หันควับไปมองคนเรียกอย่างตื่นๆงงๆ แล้วหันไปมองรอบๆ พบว่าตัวเองนั้นถูกพามานอนที่โซฟาในห้องของคอนโดหรูเสียแล้ว
“ฮะ อะไรฮะ?”
ชายหนุ่มยิ้มขันปนเอ็นดู หน้าเอ๋อๆก็น่ารักดีแฮะ
“ไป ไปล้างหน้าล้างตาก่อน ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย”
เด็กหนุ่มทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย ก่อนจะกลับมานั่งที่เดิม
“เอาล่ะ ฉันอยากจะให้ช่วยอะไรอย่าง”
“อะไรฮะ?”
เขาไม่ตอบแต่กลับเล่าไปอีกเรื่อง
“เมื่อกี้ตอนขากลับ แม่ฉันโทรมาว่าอยากให้ฉันไปดูตัวกับลูกของคุณหญิงอะไรไม่รู้ แต่ฉันไม่อยากไป ก็เลย...”
อ่อ นึกว่าเรื่องอะไร เขาก็คงจะพาแฟนไปให้แม่ดู แล้วมาบอกเราทำไม หรือจะให้ไปรับ? เอ...ก็ไม่น่าใช่
“อยากจะให้นายช่วย”
“หือ? ช่วย ช่วยยังไงฮะ?”
เขาไม่ตอบแต่กลับชะโงกหน้าเข้ามาชิดใกล้ ลตาผงกถอยไปเล็กน้อยอย่างตกใจ ดวงตาเบิกกว้าง แก้มอมชมพูนิดๆ
“ดูๆไป หน้านายก็สวยนะ สวย หยั่งกะผู้หญิง”
คำชมที่ลตาทำได้เพียงแต่หัวเราะแห้งๆตอบกลับ
“จะว่ายังไงถ้าฉันให้นายแสดงเป็นแฟนฉัน”
เป็นคำขอที่ลตาต้องใช้เวลาคิดเกือบสิบห้าวินาที พอแปลงภาษาไทยให้เป็นไทยได้ จึงตะโกนลั่น
“ผมเป็นผู้ชายนะฮะ!”
“เออ ฉันจะให้แกปลอมตัวหรอก”
“โธ่ คุณกฤษ คิดแผลงๆ แล้วทำไมไม่พาแฟนคุณกฤษไปล่ะฮะ?”
“แฟน? ฉันยังไม่มีโว้ย”
“ห๊า?!”
เด็กหนุ่มเบิกตากว้าง อย่างไม่เชื่อ
“ผมไม่เชื่อหรอก อย่างคุณกฤษนี่ คงจะมีเป็นร้อย”
“โธ่ ฉันยังไม่มีจริงๆ สาบานได้ ไม่ใช่อย่างที่นายเห็นหรอก ไม่มีจริงๆ”
ชายหนุ่มละล่ำละลักบอก หน้าตาทุกข์ร้อน ราวกับแก้ตัวให้ใครบางคนฟัง เด็กหนุ่มหรี่ตาอย่างไม่เชื่ออยู่ดี แต่ก็จำใจพยักหน้าแกนๆ เพื่อให้เขาสบายใจ
“ครับๆ ไม่มีก็ไม่มี”
“นายไม่เชื่อฉัน”
“เชื่อฮะเชื่อ”
เด็กหนุ่มฉีกยิ้มประจบชายหนุ่มที่ทำตัวงอนราวกับสาวๆ
“โธ่ คุณกฤษน่ะ ตัวใหญ่ยักษ์ซะเปล่า แต่ทำไมขี้งอนจัง หัวก็ไม่ล้าน เอ๊ะ หรือล้าน?”
“ไม่ล้าน!”
“ฮะ ไม่ล้านๆ”
“ตกลงนายจะช่วยฉันหรือเปล่า”
“คุณกฤษน่าจะไปหาสาวๆซักคน ดีกว่ามาใช้ผม”
“นายน่ะไม่รู้อะไร จะหาซักคนนี่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ไหนจะต้องดูว่าหน้าตาโอเคมั้ย มีพันธะที่ไหน คิดอยากจะจับฉันรึเปล่า ฯลฯ”
“เรื่องเยอะอย่างนั้น คุณกฤษก็ยอมๆแม่ไปเถอะฮะ ไปดูแล้วก็ปฏิเสธเขาไป”
“โอย...มันไม่ง่ายอย่างนั้นน่ะสิ ตา นายไม่สงสารฉันหรือ?”
“แล้วคุณไม่สงสารผมมั่งเหรอ?”
ชายหนุ่มสะกดยิ้มเอ็นดูกับความฉลาดของลตา ก่อนทำหน้าให้เศร้าเข้าไว้
“น่า ตา แค่วันเดียวเอง นะ ตา นะ”
ความขี้ใจอ่อน บวกกับคิดลบซะราตะแล้ว ไม่เดือดร้อนอะไร จึงทำให้ลตาพยักหน้าตกลง
“ก็ได้ฮะ วันเดียวนะ”
“จ้า วันเดียว”
กฤษยิ้มอารมณ์ดี รู้สึกเป็นสุข ก่อนจะวาดฝันแผนต่อไป
***********************
จบบทที่ 1 มี 2 ต่อจ้า
***********************
จบบทที่ 1 มี 2 ต่อจ้า
เงาสิเน่ห์หา
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น