ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เรื่องราวเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่น

    ลำดับตอนที่ #6 : เทศกาลโอฮานามิ

    • อัปเดตล่าสุด 23 ส.ค. 51


    เทศกาลโอะฮานามิ (Ohanami) 

     

       สวัสดีครับทุกท่านก่อนอื่นต้องขอขอบพระคุณพี่ ๆ ทีมงานที่ให้โอกาสเข้ามาทำตรงนี้ เพราะโดยส่วนตัวแล้วชอบญี่ปุ่นม๊าก ๆ หายใจเข้าออกเป็นญี่ปุ่นเลยแหล่ะ และด้วยประเทศญี่ปุ่นมีความน่าสนใจหลาย ๆ อย่าง จึงอยากจะนำมาเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับญี่ปุ่นให้เพื่อน ๆ ได้ทราบกัน ยังไงถ้าผิดพลาดยังไงก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ เอาละจ้อมาเยอะแล้วเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า      

       

        เทศกาลโอะฮานามิ(Ohanami)หรือเทศกาลชมดอกซากุระ อันเลื่องชื่อไปทั่วโลก ซึ่งเทศกาลนี้จะจัดขึ้นทุกปีในช่วงต้นเดือน-กลางเดือนเมษายน ซึ่งถือเป็นวัฒนธรรมและเทศกาลที่เก่าแก่ของญี่ปุ่น เมื่อถึงฤดูที่ดอกซากุระ(cherry blossom) ต่างแข่งกันบานเต็มต้น สองข้างทางมองไปทางไหนก็เจอแต่ความงามของดอกซากุระ ชาวญี่ปุ่นจะพากันออกมาชมความงามพร้อมนำอาหารมารับประทานกันใต้ต้นซากุระ ส่วนคำศัพท์ของ  ฮานามิ นั้น มาจาก  hana wo mini iku ซึ่งหมายความถึง การไปชมดอกไม้ หรือการสนุกสนามกับการชมดอกไม้ hana wo mite tanoshimu koto สามารถแยกอธิบายได้อย่างง่าย ๆ ดังนี้ 

                            

                                                     Hana         ดอกไม้

                            mi (ru)       ดู มอง ชม

                            i (ku)         ไป

                            tano           สนุกสนาน

                                         

    ลักษณะและชนิดของดอกซากุระ

       ในประเทศญี่ปุ่น ซากุระมีหลายพันธุ์หลายชนิดมากกว่า 100 แต่พันธุ์ที่พบเจอได้ง่ายเป็นส่วนใหญ่ คือ Somei Yoshino และ Yamazakura ดอกซากุระแต่ละชนิดจะมีลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่างกันออกไป

     

    ตัวอย่างและลักษณะของต้นซากุระชนิดต่างๆ ที่พบเป็นส่วนใหญ่ที่ญี่ปุ่น
    Somei Yoshino
    เป็นพันธุ์ที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในญี่ปุ่น ดอกเวลาบานเต็มที่จะมี 5 กลีบ ส่วนใหญ่จะเป็นสีขาว หรือสีชมพูอ่อน
    Ichiyo
    บานในช่วงกลางเดือนเมษายน ลักษณะดอกมีจำนวน 20 กลีบ และมีสีชมพูอ่อน
    Ukon
    บานในช่วงกลางเดือนเมษายน ลักษณะดอกมีจำนวน 10-20 กลีบ ส่วนดอกจะมีสีเหลืองอ่อนทำให้จดจำและสังเกตุได้ง่าย ใบจะมีสีเหลืองอมแดง
    Yamazakura
    บานช่วงปลายเดือนมีนาคม-ต้นเมษายน Yamazakura พบเจอได้ง่ายส่วนใหญ่เติบโตได้ดีในเขตแทบภูเขา ดอกมีสีชมพูสว่างและมี 5 กลีบ กลีบมีลักษณะค่อนข้างเล็ก
    Shidarezakura
    ชนิดนี้เป็นลักษณะของ weeping tree คือกิ่งจะห้อยระย้าลงมา บานช่วงปลายเดือนมีนาคม-ต้นเมษายน ดอกมี 5 กลีบหรือมากกว่า
    Kanzan
    บานในช่วงกลาง-ปลายเดือนเมษายน เป็นอีกชนิดหนึ่งที่ขึ้นชื่อและเป็นที่รู้จักกันอย่างดี กลีบดอกมีสีชมพูมีจำนวน 30-50 กลีบ ใบมีสีน้ำตาลอมแดง
    Shogetsu
    ดอกเวลาบานเต็มที่จะข่อนค้างใหญ่สีขาว มีจำนวน 20-30 กลีบต่อดอก ใบมีสีเขียวเข้ม บานในช่วงกลาง-ปลายเดือนเมษายน
    Kikuzakura
    เป็นอีกชนิดหนึ่งที่บานค่อนข้างช้า จะบานในช่วงปลายเมษายน - พฤษภาคม กลีบดอกหนาแน่นกว่า 100 กลีบ สวยงามมาก มีสีชมพูอ่อนกับสีขาว
    Fugenzo
    เป็นอีกชนิดหนึ่งในตระกูล yaezakura ที่บานค่อนข้างช้า ในช่วงกลาง-ปลายเดือนเมษายน กลีบมีจำนวน 30-40 กลีบต่อดอก มีสีขาวและสีชมพูอ่อน เมื่อดอกใกล้ร่วงจะมีสีชมพูเข้ม

         ซากุระโดยทั่วไปมีลักษณะเด่นอย่างหนึ่งคือ จะผลิดอกทั้งต้น ก่อนที่จะผลิใบ หลังจากการผลัดใบในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ผ่านมา ซึ่งก่อนที่ซากุระจะผลิดอกให้เห็นนั้น จะดูเหมือนต้นไม้ที่แห้งแล้งเหมือนต้นไม้ตายซากอย่างไรอย่างนั้นเลยครับ แต่หลังจากผ่านพ้นความหนาวเย็นของช่วงฤดูหนาวไปแล้ว ต้นซากุระจะเริ่มแตกตา (  tsubomi ) ออกมาเต็มต้นไปหมด และค่อย ๆ โตทีละน้อย ๆ พร้อม ๆ กับอากาศที่อุ่นขึ้นในแต่ละวัน แต่ว่าตาที่ผลิออกมานั้นแทนที่จะเป็นใบอ่อน กลับกลายเป็นดอกสีขาว สีชมพูเต็มต้นไปหมด ก่อนที่จะมีใบอ่อนสีเขียว ที่จะเริ่มผลิออกมาแซมสีของดอกเองในช่วงเวลาสัก 2 สัปดาห์ให้หลัง

      

          Ohanami นั้นเป็นการพักผ่อนหย่อนใจของชาวญี่ปุ่นมาเป็นเวลานานแล้ว ทำให้คนญี่ปุ่นมักจะออกไปชื่นชมกับดอกซากุระกันเป็นจำนวนมาก แต่เนื่องจากพื้นที่ในการจัด hanami ดังกล่าวมีไม่เพียงพอต่อความต้องการ ทำให้มีคำกล่าวว่า  (sakura no shita wa senjou หรือสนามรบใต้ต้นซากุระ) หมายถึงว่า การที่จะจัดการชมดอกไม้ ในช่วงที่ดอกซากุระผลิบาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังเลิกงาน และวันหยุดนั้น เป็นสิ่งที่ต้องแย่งชิงพื้นที่ ทำให้มักจะเป็นหน้าที่ของบรรดาพนักงานเข้าใหม่ของบริษัท ที่จะเป็นผู้ที่มีหน้าที่ในการไปจับจองพื้นที่ที่สวยงามที่สุดเท่าที่จะทำได้ สถานที่ในกาลชมดอกซากุระก็จะมีหลายสถานที่แต่ก็จะมีที่ ๆ คนนิยมไปกันแล้วแต่ว่าอยู่ในพื้นที่ใด

    โตเกียว (Tokyo)
    Ueno Park
    อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ Ueno เป็นที่ที่มีชื่อเสียงในการชมดอกซากุระมากที่สุดแห่งนึง ทุกปีผู้คนจะพากันหลั่งไหลมาที่นี่ ค่อนข้างจะคับคั่งจอแจ ไม่มีค่าธรรมเนียมในการเข้าชม และมีร้านขายอาหารมาคอยบริการ ที่นี่มีต้นซากุระยาวเรียงรายไปตามถนนมากกว่า 1,000 ต้น ยาวไปจนถึงหน้าพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ (National Museum)
    Shinjuku Gyoen
    ห่างจากสถานี Shinjuku ประมาณ 5 นาที เป็นสวนขนาดใหญ่ที่มีต้นซากุระอยู่มากกว่า 1,000 ต้นเช่นกัน และมีความหลากหลายของพันธุ์อีกด้วย มีค่าธรรมเนียมในการเข้าท่านละ 200 เยน และเปิดบริการในช่วงเวลา 9.00 - 16.30 น.
    Sumida Park
    ห่างจากสถานี Asakusa เพียงเล็กน้อย สวนแห่งนี้ได้เหยียดยาวไปตามริมแม่น้ำซุมิดะ(Sumida river) อันเลื่องชื่อ ชมความงามของดอกซากุระแล้วยังได้บรรยากาศของริมแม่น้ำอีกด้วย ไม่มีค่าธรรมเนียมในการเข้าชมค่ะ
    Chidorigafuchi
    อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟใต้ดิน Kudanshita เป็นต้นซากุระที่ปลูกประดับรอบๆคูกำแพงเมือง Kitanomaru ไม่มีค่าธรรมเนียมในการเข้าชม สามารถเช่าเรื่อเพื่อพายชมไปรอบๆคูได้อย่างสะดวก และได้บรรยากาศไปอีกแบบนะคะ
    Koishikawa Botanical Garden
    เดินประมาณ 5-10 นาทีจากสถานีรถไฟใต้ดิน Hakusan หรือ Myogadani เป็นสวนขนาดใหญ่ที่มีต้นซากุระจำนวนมากและหลากหลายพันธุ์ จึงเป็นอีกที่ที่นิยมมาชมความงามของซากุระ มีค่าธรรมเนียมในการเข้าชมท่านละ 330 เยน
    Aoyama Cemetery
    เดินประมาณ 5 นาทีจากสถานีรถไฟใต้ดิน Nogizaka หรือ Gaienmae สองข้างทางของถนนสายนี้จะเต็มไปด้วยต้นซากุระนับร้อยๆต้นที่แข่งกันบานสะพรั่ง มีบูธขายอาหารมาคอยบริการ และไม่มีค่าธรรมเนียมในการชม
    Inokashira Park
    อยู่ทางตอนใต้ของสถานี Kichijoji มีต้นซากุระจำนวนหนึ่งในสวนสาธารณะรอบๆสระน้ำ สามารถเช่าเรือถีบไปรอบสระเพื่อชมความงาม และไม่มีค่าธรรมเนียมในการเข้าชม
    โยโกฮาม่า (Yokohama)
    Kamonyama Park
    เดินเท้าประมาณ 10 นาทีจากสถานี Sakuragicho เป็นสวนสาธารณะขนาดเล็กใกล้กับ Minato Mirai 21 ไม่มีค่าธรรมเนียมในการเข้าชม
    Sankeien
    10 นาทีโดยรถบัสจากสถานี JR Negishi ที่นี่มีสวนญี่ปุ่นที่สวยงามอยู่ทางตอนใต้ของโยโกฮาม่า มีค่าธรรมเนียมในการเข้า 300 เยน
    คามาคุระ (Kamakura)
    Dankazura
    เดินประมาณ 2 นาทีจากสถานี Kamakura ตลอดทางเดินกว่าร้อยเมตรเข้าสู่ศาลเจ้า Tsurugaoka Hachimangu จะปกคลุมไปด้วยต้นซากุระทั้งสองข้างทาง เป็นอีกเส้นหนึ่งที่ผู้คนนิยมไปกันและไม่มีค่าธรรมเนียมในการชม
    นาโกย่า (Nagoya)
    Nagoya Castle
    จากสถานี Shiyakusho เดินต่ออีกประมาณ 5 นาที มีต้นซากุระจำนวนมากที่ปลูกอยู่รอบๆปราสาทนาโกย่า (Nagoya Castle) มีค่าธรรมเนียมในการเข้าชมตัวปราสาทและสวนรอบๆคนละ 500 เยน
    เกียวโต (Kyoto)
    Philosopher's Trail
    เป็นทางเดินที่เริ่มจากวัด Ginkakuji โดยทางเดินแห่งนี้ได้เลียบไปตามลำคลองที่เชื่อมต่อไปยัง Ginkakuji (ที่รู้จักกันในนาม silver pavillian) ซึ่งตามทางนี้ได้เรียงรายไปด้วยต้นซากุระนับร้อยๆต้น
    Maruyama Park
    อยู่ใกล้ๆกับศาลเจ้า Yasaka เป็นสวนสาธารณะที่มีชื่อในการชมดอกซากุระมากที่สุดในเกียวโต มีสัญลักษณ์โดดเด่นตรงกลางสวนจะมีต้นซากุระขนาดใหญ่ ไม่มีค่าธรรมเนียมในการเข้าชม และมีร้านค้าขายอาหารจำนวนมากมารอให้บริการ
    Heian Shrine
    อยู่ด้านหลังของศาลเจ้าหลัก มีต้นซากุระจำนวนมากยืนเรียงรายโปรยปรายกลีบลงมา มีค่าเข้าชมสวนแห่งนี้ 600 เยน
    ฮิเมจิ (Himeji)
    Himeji Castle
    เดินประมาณ 15-20 นาทีจากสถานี Himeji สวนรอบๆปราสาทตกแต่งด้วยตนซากุระนับร้อยๆต้น ค่าธรรมเนียมเข้าชมสวนภายในปราสาทและชมตัวปราสาทคนละ 600 เยน แต่ถ้าชมอยู่รอบนอกปราสาทไม่มีค่าธรรมเนียม
    โทโฮคุ (Tohoku)
    Kakunodate
    อยู่ในจังหวัด Akita เมืองนี้เป็นที่ขึ้นชื่อในการชมดอกซากุระ ทั้งเมืองจะเต็มไปด้วยต้นซากุระที่ถูกอนุรักษ์ไว้อย่างดี นอกจากนี้ยังมีต้นซากุระจำนวนหนึ่งที่ปลูกอยู่ตามริมแม่น้ำอีกด้วย
    Hirosaki Castle
    อยู่ในจังหวัด Aomori ต้นซากุระกว่า 2,000 ต้นปลูกอยู่ในสวนรอบๆปราสาท เข้าชมฟรี และมีร้านค้าขายอาหารมาคอยให้บริการ

     

          นอกจากที่จะไปสนุกสนานรื่นเริงกับบรรดาเพื่อนๆ ใต้ต้นซากุระแล้ว ยังมี ohanami อีกแบบหนึ่งคือ การไปท่องเที่ยวเพื่อชมซากุระตามที่ต่างๆ ซึ่งจะเป็นการไปดูความสวยงามของซากุระจริงๆ และเป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เช่น ชมซากุระตามวัดและศาลเจ้าต่าง ๆ jisha มาจาก  วัด และ  ศาลเจ้าชินโต

                  

        และตามสถานที่ต่าง ๆ มักจัดรายการพิเศษให้เข้าชมเป็นพิเศษ คือ การติดตั้งไฟสปอร์ตไลท์เพื่อการชมซากุระในช่วงเวลากลางคืน เรียกว่า  yozakuraซึ่งจะได้บรรยากาศอันน่าซึมซับอีกรูปแบบหนึ่งเลยทีเดียวครับ โดยส่วนใหญ่ทางวัดต่างๆ จะจัดให้เข้าไปนั่งชมความสวยงามของซากุระในยามค่ำคืนตามระเบียงอาคารวัด พร้อมกับเปิดเพลงบรรเลงด้วยเครื่องดนตรีญี่ปุ่นขับกล่อมไปด้วย วัดที่มีชื่อเสียงและมีคนไปชมมากเช่นที่ วัด  kiyomizudera เป็นต้น หวังว่าเพื่อน ๆ คงได้รับความรู้เกี่ยวกับงานเทศกาล Ohanami กันไปไม่มากก็น้อยนะครับ

                                                                     

                                                                     เรื่องโดย megane

    ที่มา

      www.siamkane.com

      http://blog.hunsa.com/nina6213/blog/17194 
    www.j-doramanga.com

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×