คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : เทศกาลโอฮานามิ
เทศกาลโอะฮานามิ (Ohanami)
สวัสดีครับทุกท่านก่อนอื่นต้องขอขอบพระคุณพี่ ๆ ทีมงานที่ให้โอกาสเข้ามาทำตรงนี้ เพราะโดยส่วนตัวแล้วชอบญี่ปุ่นม๊าก ๆ หายใจเข้าออกเป็นญี่ปุ่นเลยแหล่ะ และด้วยประเทศญี่ปุ่นมีความน่าสนใจหลาย ๆ อย่าง จึงอยากจะนำมาเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับญี่ปุ่นให้เพื่อน ๆ ได้ทราบกัน ยังไงถ้าผิดพลาดยังไงก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ เอาละจ้อมาเยอะแล้วเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า
เทศกาลโอะฮานามิ(Ohanami)หรือเทศกาลชมดอกซากุระ อันเลื่องชื่อไปทั่วโลก ซึ่งเทศกาลนี้จะจัดขึ้นทุกปีในช่วงต้นเดือน-กลางเดือนเมษายน ซึ่งถือเป็นวัฒนธรรมและเทศกาลที่เก่าแก่ของญี่ปุ่น เมื่อถึงฤดูที่ดอกซากุระ(cherry blossom) ต่างแข่งกันบานเต็มต้น สองข้างทางมองไปทางไหนก็เจอแต่ความงามของดอกซากุระ ชาวญี่ปุ่นจะพากันออกมาชมความงามพร้อมนำอาหารมารับประทานกันใต้ต้นซากุระ ส่วนคำศัพท์ของ ฮานามิ นั้น มาจาก hana wo mini iku ซึ่งหมายความถึง การไปชมดอกไม้ หรือการสนุกสนามกับการชมดอกไม้ hana wo mite tanoshimu koto สามารถแยกอธิบายได้อย่างง่าย ๆ ดังนี้
Hana ดอกไม้
mi (ru) ดู มอง ชม
i (ku) ไป
tano สนุกสนาน
ลักษณะและชนิดของดอกซากุระ
ในประเทศญี่ปุ่น ซากุระมีหลายพันธุ์หลายชนิดมากกว่า 100 แต่พันธุ์ที่พบเจอได้ง่ายเป็นส่วนใหญ่ คือ Somei Yoshino และ Yamazakura ดอกซากุระแต่ละชนิดจะมีลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่างกันออกไป
Somei Yoshino
เป็นพันธุ์ที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในญี่ปุ่น ดอกเวลาบานเต็มที่จะมี 5 กลีบ ส่วนใหญ่จะเป็นสีขาว หรือสีชมพูอ่อนIchiyo
บานในช่วงกลางเดือนเมษายน ลักษณะดอกมีจำนวน 20 กลีบ และมีสีชมพูอ่อนUkon
บานในช่วงกลางเดือนเมษายน ลักษณะดอกมีจำนวน 10-20 กลีบ ส่วนดอกจะมีสีเหลืองอ่อนทำให้จดจำและสังเกตุได้ง่าย ใบจะมีสีเหลืองอมแดงYamazakura
บานช่วงปลายเดือนมีนาคม-ต้นเมษายน Yamazakura พบเจอได้ง่ายส่วนใหญ่เติบโตได้ดีในเขตแทบภูเขา ดอกมีสีชมพูสว่างและมี 5 กลีบ กลีบมีลักษณะค่อนข้างเล็กShidarezakura
ชนิดนี้เป็นลักษณะของ weeping tree คือกิ่งจะห้อยระย้าลงมา บานช่วงปลายเดือนมีนาคม-ต้นเมษายน ดอกมี 5 กลีบหรือมากกว่าKanzan
บานในช่วงกลาง-ปลายเดือนเมษายน เป็นอีกชนิดหนึ่งที่ขึ้นชื่อและเป็นที่รู้จักกันอย่างดี กลีบดอกมีสีชมพูมีจำนวน 30-50 กลีบ ใบมีสีน้ำตาลอมแดงShogetsu
ดอกเวลาบานเต็มที่จะข่อนค้างใหญ่สีขาว มีจำนวน 20-30 กลีบต่อดอก ใบมีสีเขียวเข้ม บานในช่วงกลาง-ปลายเดือนเมษายนKikuzakura
เป็นอีกชนิดหนึ่งที่บานค่อนข้างช้า จะบานในช่วงปลายเมษายน - พฤษภาคม กลีบดอกหนาแน่นกว่า 100 กลีบ สวยงามมาก มีสีชมพูอ่อนกับสีขาวFugenzo
เป็นอีกชนิดหนึ่งในตระกูล yaezakura ที่บานค่อนข้างช้า ในช่วงกลาง-ปลายเดือนเมษายน กลีบมีจำนวน 30-40 กลีบต่อดอก มีสีขาวและสีชมพูอ่อน เมื่อดอกใกล้ร่วงจะมีสีชมพูเข้ม
ซากุระโดยทั่วไปมีลักษณะเด่นอย่างหนึ่งคือ จะผลิดอกทั้งต้น ก่อนที่จะผลิใบ หลังจากการผลัดใบในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ผ่านมา ซึ่งก่อนที่ซากุระจะผลิดอกให้เห็นนั้น จะดูเหมือนต้นไม้ที่แห้งแล้งเหมือนต้นไม้ตายซากอย่างไรอย่างนั้นเลยครับ แต่หลังจากผ่านพ้นความหนาวเย็นของช่วงฤดูหนาวไปแล้ว ต้นซากุระจะเริ่มแตกตา ( tsubomi ) ออกมาเต็มต้นไปหมด และค่อย ๆ โตทีละน้อย ๆ พร้อม ๆ กับอากาศที่อุ่นขึ้นในแต่ละวัน แต่ว่าตาที่ผลิออกมานั้นแทนที่จะเป็นใบอ่อน กลับกลายเป็นดอกสีขาว สีชมพูเต็มต้นไปหมด ก่อนที่จะมีใบอ่อนสีเขียว ที่จะเริ่มผลิออกมาแซมสีของดอกเองในช่วงเวลาสัก 2 สัปดาห์ให้หลัง
Ohanami นั้นเป็นการพักผ่อนหย่อนใจของชาวญี่ปุ่นมาเป็นเวลานานแล้ว ทำให้คนญี่ปุ่นมักจะออกไปชื่นชมกับดอกซากุระกันเป็นจำนวนมาก แต่เนื่องจากพื้นที่ในการจัด hanami ดังกล่าวมีไม่เพียงพอต่อความต้องการ ทำให้มีคำกล่าวว่า (sakura no shita wa senjou หรือสนามรบใต้ต้นซากุระ) หมายถึงว่า การที่จะจัดการชมดอกไม้ ในช่วงที่ดอกซากุระผลิบาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังเลิกงาน และวันหยุดนั้น เป็นสิ่งที่ต้องแย่งชิงพื้นที่ ทำให้มักจะเป็นหน้าที่ของบรรดาพนักงานเข้าใหม่ของบริษัท ที่จะเป็นผู้ที่มีหน้าที่ในการไปจับจองพื้นที่ที่สวยงามที่สุดเท่าที่จะทำได้ สถานที่ในกาลชมดอกซากุระก็จะมีหลายสถานที่แต่ก็จะมีที่ ๆ คนนิยมไปกันแล้วแต่ว่าอยู่ในพื้นที่ใด
โตเกียว (Tokyo) | |
Ueno Park อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ Ueno เป็นที่ที่มีชื่อเสียงในการชมดอกซากุระมากที่สุดแห่งนึง ทุกปีผู้คนจะพากันหลั่งไหลมาที่นี่ ค่อนข้างจะคับคั่งจอแจ ไม่มีค่าธรรมเนียมในการเข้าชม และมีร้านขายอาหารมาคอยบริการ ที่นี่มีต้นซากุระยาวเรียงรายไปตามถนนมากกว่า 1,000 ต้น ยาวไปจนถึงหน้าพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ (National Museum) | |
Shinjuku Gyoen ห่างจากสถานี Shinjuku ประมาณ 5 นาที เป็นสวนขนาดใหญ่ที่มีต้นซากุระอยู่มากกว่า 1,000 ต้นเช่นกัน และมีความหลากหลายของพันธุ์อีกด้วย มีค่าธรรมเนียมในการเข้าท่านละ 200 เยน และเปิดบริการในช่วงเวลา 9.00 - 16.30 น. | |
Sumida Park ห่างจากสถานี Asakusa เพียงเล็กน้อย สวนแห่งนี้ได้เหยียดยาวไปตามริมแม่น้ำซุมิดะ(Sumida river) อันเลื่องชื่อ ชมความงามของดอกซากุระแล้วยังได้บรรยากาศของริมแม่น้ำอีกด้วย ไม่มีค่าธรรมเนียมในการเข้าชมค่ะ | |
Chidorigafuchi อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟใต้ดิน Kudanshita เป็นต้นซากุระที่ปลูกประดับรอบๆคูกำแพงเมือง Kitanomaru ไม่มีค่าธรรมเนียมในการเข้าชม สามารถเช่าเรื่อเพื่อพายชมไปรอบๆคูได้อย่างสะดวก และได้บรรยากาศไปอีกแบบนะคะ | |
Koishikawa Botanical Garden เดินประมาณ 5-10 นาทีจากสถานีรถไฟใต้ดิน Hakusan หรือ Myogadani เป็นสวนขนาดใหญ่ที่มีต้นซากุระจำนวนมากและหลากหลายพันธุ์ จึงเป็นอีกที่ที่นิยมมาชมความงามของซากุระ มีค่าธรรมเนียมในการเข้าชมท่านละ 330 เยน | |
Aoyama Cemetery เดินประมาณ 5 นาทีจากสถานีรถไฟใต้ดิน Nogizaka หรือ Gaienmae สองข้างทางของถนนสายนี้จะเต็มไปด้วยต้นซากุระนับร้อยๆต้นที่แข่งกันบานสะพรั่ง มีบูธขายอาหารมาคอยบริการ และไม่มีค่าธรรมเนียมในการชม | |
Inokashira Park อยู่ทางตอนใต้ของสถานี Kichijoji มีต้นซากุระจำนวนหนึ่งในสวนสาธารณะรอบๆสระน้ำ สามารถเช่าเรือถีบไปรอบสระเพื่อชมความงาม และไม่มีค่าธรรมเนียมในการเข้าชม | |
โยโกฮาม่า (Yokohama) | |
Kamonyama Park เดินเท้าประมาณ 10 นาทีจากสถานี Sakuragicho เป็นสวนสาธารณะขนาดเล็กใกล้กับ Minato Mirai 21 ไม่มีค่าธรรมเนียมในการเข้าชม | |
Sankeien 10 นาทีโดยรถบัสจากสถานี JR Negishi ที่นี่มีสวนญี่ปุ่นที่สวยงามอยู่ทางตอนใต้ของโยโกฮาม่า มีค่าธรรมเนียมในการเข้า 300 เยน | |
คามาคุระ (Kamakura) | |
Dankazura เดินประมาณ 2 นาทีจากสถานี Kamakura ตลอดทางเดินกว่าร้อยเมตรเข้าสู่ศาลเจ้า Tsurugaoka Hachimangu จะปกคลุมไปด้วยต้นซากุระทั้งสองข้างทาง เป็นอีกเส้นหนึ่งที่ผู้คนนิยมไปกันและไม่มีค่าธรรมเนียมในการชม | |
นาโกย่า (Nagoya) | |
Nagoya Castle จากสถานี Shiyakusho เดินต่ออีกประมาณ 5 นาที มีต้นซากุระจำนวนมากที่ปลูกอยู่รอบๆปราสาทนาโกย่า (Nagoya Castle) มีค่าธรรมเนียมในการเข้าชมตัวปราสาทและสวนรอบๆคนละ 500 เยน | |
เกียวโต (Kyoto) | |
Philosopher's Trail เป็นทางเดินที่เริ่มจากวัด Ginkakuji โดยทางเดินแห่งนี้ได้เลียบไปตามลำคลองที่เชื่อมต่อไปยัง Ginkakuji (ที่รู้จักกันในนาม silver pavillian) ซึ่งตามทางนี้ได้เรียงรายไปด้วยต้นซากุระนับร้อยๆต้น | |
Maruyama Park อยู่ใกล้ๆกับศาลเจ้า Yasaka เป็นสวนสาธารณะที่มีชื่อในการชมดอกซากุระมากที่สุดในเกียวโต มีสัญลักษณ์โดดเด่นตรงกลางสวนจะมีต้นซากุระขนาดใหญ่ ไม่มีค่าธรรมเนียมในการเข้าชม และมีร้านค้าขายอาหารจำนวนมากมารอให้บริการ | |
Heian Shrine อยู่ด้านหลังของศาลเจ้าหลัก มีต้นซากุระจำนวนมากยืนเรียงรายโปรยปรายกลีบลงมา มีค่าเข้าชมสวนแห่งนี้ 600 เยน | |
ฮิเมจิ (Himeji) | |
Himeji Castle เดินประมาณ 15-20 นาทีจากสถานี Himeji สวนรอบๆปราสาทตกแต่งด้วยตนซากุระนับร้อยๆต้น ค่าธรรมเนียมเข้าชมสวนภายในปราสาทและชมตัวปราสาทคนละ 600 เยน แต่ถ้าชมอยู่รอบนอกปราสาทไม่มีค่าธรรมเนียม | |
โทโฮคุ (Tohoku) | |
Kakunodate อยู่ในจังหวัด Akita เมืองนี้เป็นที่ขึ้นชื่อในการชมดอกซากุระ ทั้งเมืองจะเต็มไปด้วยต้นซากุระที่ถูกอนุรักษ์ไว้อย่างดี นอกจากนี้ยังมีต้นซากุระจำนวนหนึ่งที่ปลูกอยู่ตามริมแม่น้ำอีกด้วย | |
Hirosaki Castle อยู่ในจังหวัด Aomori ต้นซากุระกว่า 2,000 ต้นปลูกอยู่ในสวนรอบๆปราสาท เข้าชมฟรี และมีร้านค้าขายอาหารมาคอยให้บริการ |
นอกจากที่จะไปสนุกสนานรื่นเริงกับบรรดาเพื่อนๆ ใต้ต้นซากุระแล้ว ยังมี ohanami อีกแบบหนึ่งคือ การไปท่องเที่ยวเพื่อชมซากุระตามที่ต่างๆ ซึ่งจะเป็นการไปดูความสวยงามของซากุระจริงๆ และเป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เช่น ชมซากุระตามวัดและศาลเจ้าต่าง ๆ ( jisha มาจาก วัด และ ศาลเจ้าชินโต
และตามสถานที่ต่าง ๆ มักจัดรายการพิเศษให้เข้าชมเป็นพิเศษ คือ การติดตั้งไฟสปอร์ตไลท์เพื่อการชมซากุระในช่วงเวลากลางคืน เรียกว่า (yozakura)ซึ่งจะได้บรรยากาศอันน่าซึมซับอีกรูปแบบหนึ่งเลยทีเดียวครับ โดยส่วนใหญ่ทางวัดต่างๆ จะจัดให้เข้าไปนั่งชมความสวยงามของซากุระในยามค่ำคืนตามระเบียงอาคารวัด พร้อมกับเปิดเพลงบรรเลงด้วยเครื่องดนตรีญี่ปุ่นขับกล่อมไปด้วย วัดที่มีชื่อเสียงและมีคนไปชมมากเช่นที่ วัด kiyomizudera เป็นต้น หวังว่าเพื่อน ๆ คงได้รับความรู้เกี่ยวกับงานเทศกาล Ohanami กันไปไม่มากก็น้อยนะครับ
เรื่องโดย megane
ที่มา
http://blog.hunsa.com/nina6213/blog/17194
www.j-doramanga.com
ความคิดเห็น