คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : Chapter 8 : This Time
Chapter 8
This Time
ระหว่างอาหารมื้อเย็นในวันนั้น คนเป็นแม่ได้แต่มองหน้าลูกชายทั้งสองของตนเองสลับกันไปมา โจ คยูฮยอนซึ่งเป็นคนโตเอาแต่นั่งเหม่อเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
“คยูฮยอน!”
“คะ...ครับ?”
“กินข้าวเยอะๆ หน่อยสิ ตั้งแต่กลับมาจากนัมวอน ลูกดูซูบๆ ไปนะ”
“เอ่อ...ผมไม่ค่อยหิวน่ะครับแม่” คยูฮยอนตอบแม่แล้วตกอยู่ในภวังค์อีกครั้งด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
ส่วนอี ทงเฮ...ลูกชายคนเล็กซึ่งเกิดจากสามีอีกคนของเธอ ลูกคนนี้ก็เอาแต่เงียบ เงียบเสียจนน่ากลัวและเดาไม่ออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
แต่ดูเหมือนว่าการเงียบของทงเฮจะแตกต่างจากคยูฮยอนอยู่ไม่น้อย
เพราะสายตาของทงเฮไม่ได้ว่างเปล่า
แต่กำลังจ้องมองไปที่...คยูฮยอน
“มีอะไรหรือเปล่าทงเฮ?” แม่ถามพลางแตะที่แขนเรียวของลูกชายคนเล็กอย่างเป็นห่วง
“ไม่มีครับ” ทงเฮส่ายหน้าแล้วพลางเขี่ยข้าวในจานจนคนเป็นแม่ตีมือของเขาอย่างแรง คนตัวเล็กร้องเสียงหลงแล้วโวยลั่น “โอ๊ย! แม่อ่ะ...ทำไมต้องตีผมด้วย”
“จะกินข้าวก็ไม่ยอมกิน เอาแต่เขี่ยข้าวเล่นอยู่ได้ แกคิดว่าบ้านเรารวยนักหรือไง”
“แล้วทำไมแม่ว่าแต่ผมล่ะ ไม่ว่าพี่คยูฮยอนบ้าง”
“นี่...ไม่ต้องไปพูดถึงพี่เขาเลยนะ ทำตัวเองให้ดีๆ ก่อนเถอะ”
นั่นไงล่ะ อี ทงเฮเคยพูดผิดไปเสียที่ไหน แม่น่ะรักแต่พี่คยูฮยอน ไม่เคยรักเขาเลย หรือบางทีอาจจะรักบ้าง แต่ก็รักไม่เท่ากัน ทำให้ทงเฮอดน้อยใจไม่ได้ที่ถูกแม่ดุด่าแบบนี้ตลอดเวลา
รู้อย่างนี้เขาสอบชิงทุนไปเรียนต่างประเทศเสียตั้งแต่แรกก็ดี แม่จะได้คิดถึงเขาและไม่กล้าด่าอะไรเขาอีก ทงเฮมองคยูฮยอนที่ถูกเขากล่าวถึงแต่ก็ไม่ยักจะเถียงกลับเหมือนทุกที ทงเฮรู้สึกไม่พอใจ เขาอยากรู้เรื่องราวทั้งหมดจากปากของพี่ชาย แต่ก็ไม่กล้าถาม
ทว่าเมื่อมัวแต่คิดแบบนี้ ก็คงจะไม่รู้ความจริงต่อไปเรื่อยๆ
“พี่คยูฮยอน” ทงเฮเอ่ยเรียก
“...”
“โจ คยูฮยอน!” ทงเฮเรียกอีกครั้งโดยที่ไม่ได้เรียก ‘พี่’ เลย แม่หันมาส่งสายตาดุๆ ใส่อีกครั้ง พร้อมกับคยูฮยอนที่หันมามองทงเฮพอดี
“มีอะไร?” คยูฮยอนถามขึ้นมาด้วยสีหน้าเรียบเฉยไร้อารมณ์
“ขอคุยด้วยหน่อยสิ!”
แล้วพี่น้องทั้งสองก็พากันเดินออกไปคุยกันตามลำพังที่หน้าบ้าน คยูฮยอนเดินออกไปจากบ้านอย่างเหม่อลอย ในขณะที่ทงเฮเดินตามไปทีหลังเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“พี่จะปิดบังความจริงไปถึงเมื่อไร?” คำถามจากทงเฮทำให้คยูฮยอนหันกลับมามอง
“ความจริงอะไร?”
“แล้วมีความจริงอะไรบ้างล่ะที่พี่ไม่บอกผม หรือว่าสิ่งที่พี่ปิดบังเอาไว้มันมีมากมายกว่านั้น” ทงเฮตะโกนถามลั่นทั้งน้ำตา คยูฮยอนอยากจะผลักหัวน้องแรงๆ สักทีให้หายบ้า และให้เลิกตะโกนใส่หน้าคนที่อายุมากกว่าอย่างเขาได้แล้ว แต่ตอนนี้...ณ เวลานี้ คยูฮยอนไม่มีอารมณ์จะทำอะไรแบบนั้นเลย
“ฉันไม่มีอะไรจะพูด” เขาตอบแล้วเดินผ่านทงเฮเข้าบ้าน แต่ทงเฮกลับโพล่งขึ้น
“แม้แต่เรื่องที่ผู้ชายคนนั้นคือพี่ฮยอกแจ พี่ก็จะไม่บอกผมจริงๆ ใช่ไหม?”
คยูฮยอนหยุดกึก เขาหันกลับมาเบิกตากว้างให้กับคำถามของน้องชาย ทงเฮกำลังร้องไห้ คยูฮยอนเห็นอย่างชัดเจน เขาเข้าใจทงเฮดี เพราะถ้าเป็นเขาก็คงช็อคไม่ต่างกันที่ได้รู้ว่าคนที่คิดว่าตายไปแล้วกลับยังมีชีวิตอยู่ แถมยังหลอกลวงคนอื่นมาโดยตลอดอีกด้วย
“นายรู้ได้ยังไง?” คยูฮยอนเดินกลับมาคุยกับทงเฮดีๆ อีกครั้ง
“ไม่สำคัญหรอกว่าผมรู้มาได้ยังไง แต่ผมอยากถามพี่ว่า...มันเป็นความจริงใช่ไหมที่พี่ทำให้พี่อึนฮยอกตาย”
“อะ...อะไรนะ?!” คยูฮยอนอ้าปากค้าง ไม่คิดว่าทงเฮจะคิดแบบเดียวกับฮยอกแจด้วย
“ตกใจเหรอที่ถูกผมถามแบบนี้ หรือว่าคำถามของผมไปแทงใจดำพี่เข้าล่ะ”
“นี่อี ทงเฮ! นายเป็นน้องชายฉันนะ นายเชื่อคำพูดของคนอื่นมากกว่าฉันหรือไง”
“ตั้งแต่ผมเกิดมา พี่เคยคิดว่าผมเป็นน้องชายตั้งแต่เมื่อไร”
ทงเฮเอ่ยถามด้วยความเจ็บปวดใจ จริงอยู่ที่เขาโกรธฮยอกแจที่ทำอะไรบ้าๆ แบบนี้ แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็โกรธคยูฮยอนด้วยถ้าคยูฮยอนเป็นสาเหตุทำให้พี่ฮยอกแจต้องปลอมตัวและกลับมาแก้แค้นพี่ชายของเขาจริงๆ
เขาจะโกรธคยูฮยอนไปตลอดชาติที่ทำให้เขาต้องร้องไห้มาตลอดหกเดือนเพราะเข้าใจผิดว่าอี ฮยอกแจได้ตายจากไปแล้ว
“ฉันไม่ได้ทำ!” คยูฮยอนก้มหน้าลงแล้วตอบเสียงแผ่วเบา
“ทำไมถึงพูดไม่เต็มปากเต็มคำล่ะ?”
“ก็บอกว่าไม่ได้ทำไง ฉันชอบอึนฮยอกก็จริง แต่เขาไม่ได้ชอบฉัน แล้วเขาจะมาฆ่าตัวตายเพราะฉันได้ยังไง เลิกพูดจาไร้สาระสักทีได้ไหมอี ทงเฮ?!”
“พี่ต่างหากที่เลิกโกหกได้แล้ว”
ทงเฮตะโกนใส่หน้าคนเป็นพี่กลับไปบ้างจนคยูฮยอนผงะ ไม่คิดว่าน้องจะปีกกล้าขาแข็งด่าทอเขาได้รุนแรงขนาดนี้เพราะผู้ชายเพียงคนเดียว
“ถ้าพี่ไม่ได้ทำ พี่ก็หาหลักฐานมายืนยันสิ ทุกคนรอพี่อยู่ ไม่ว่าจะเป็นพี่ฮยอกแจ พี่ซีวอน...รวมทั้งผมด้วย”
ทงเฮบอกแล้วเดินเข้าไปในบ้านด้วยความเสียใจ เขาไม่รู้ว่าจะเชื่อใคร แต่ฮยอกแจก็ไม่ใช่คนโกหก และถึงทงเฮจะด่าทอพี่ชายไปมากมายขนาดนั้น แต่ลึกๆ แล้วเขากลับมั่นใจว่าพี่ชายไม่ใช่คนผิด พี่ชายของเขาปากร้ายกับเขาแค่คนเดียว แต่ก็ไม่ใช่คนโหดร้ายเลือดเย็น และหลายใจอย่างที่พี่ฮยอกแจว่าแน่ๆ
เช้าวันต่อมา
ทงเฮตื่นตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อเดินทางไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง เขาไปยังสุสานที่หลงคิดมาตลอดว่าคนที่นอนอยู่ในหลุมอย่างสงบนั้นคืออี ฮยอกแจ
แต่วันนี้...ทงเฮมาที่หลุมศพด้วยความรู้สึกที่เปลี่ยนไปจากเดิน
“พี่อึนฮยอกครับ!”
ทงเฮเอ่ยขึ้นด้วยเสียงสั่นเครืออย่างห้ามไม่ได้ ป้ายหินอ่อนเป็นชื่อของฮยอกแจก็จริง และทุกครั้งที่ฮยอกแจมาไหว้หลุมศพของพี่ชาย เขาคงจะทรมานมากที่เห็นชื่อของตัวเองถูกสลักแทนชื่อคนที่ตายจริงๆ
“พี่อึนฮยอกตายเพราะพี่คยูฮยอนจริงหรือเปล่า?”
ทงเฮนั่งลงแล้วเอ่ยถามกับคนในหลุมที่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีทางที่จะฟื้นขึ้นมาตอบคำถามได้เลย ทงเฮนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นจนตัวโยนเมื่อคิดถึงตลอดช่วงหกเดือนที่ผ่านมา
เขาเคยใช้ชีวิตอย่างคนสิ้นหวัง แต่แทนที่รู้ความจริงแล้วจะมีความหวังมากขึ้น
ทงเฮกลับรู้สึกสิ้นหวังมากกว่าเดิมเสียอีก
“ได้โปรดบอกความจริงผมด้วยเถอะครับว่าทำไมพี่ถึงฆ่าตัวตาย อย่าให้พี่ฮยอกแจทรมานไปมากกว่านี้ อย่าทำร้ายน้องชายของพี่อีก”
ทงเฮยกมือขึ้นกำสาบเสื้อของตัวเอง เขาทรมานมาก...มากจนเกินกว่าจะพูดต่อได้อีกแล้ว
“ผมไม่รู้ว่าความจริงเป็นยังไงกันแน่ แต่ช่วยทำให้พวกเราหลุดออกจากบ่วงความทุกข์นี้ด้วยเถอะนะครับ พี่ฮยอกแจไม่ได้ผิดอะไร ทำไมเขาต้องมาทรมานกับการจากไปของพี่ ทำไมผมจะต้องร่วมชดใช้กรรมนั้น แล้วทำไม...ทำไมพี่คยูฮยอนต้องถูกพี่ฮยอกแจกล่าวหาด้วย...ฮือๆๆ”
ทงเฮเอาแต่ต่อว่าคนตายเพราะเขารู้สึกเหมือนชีวิตของตัวเองไร้ซึ่งทางออก บางทีอึนฮยอกอาจจะอยากบอกอะไรบางอย่างก็ได้ แต่เขาก็ไม่มีโอกาสได้พูดมันเพราะว่าอึนฮยอกไม่สามารถกลับมามีชีวิตได้อีกแล้ว
ทงเฮทิ้งความโศกเศร้าไว้ที่สุสานแห่งนั้นพร้อมกับเดินหน้าค้นหาความจริงต่อไป เขาเดินทางมาที่บ้านพ่อแม่ของฮยอกแจ บ้านที่ทงเฮไม่ได้มาเยี่ยมพวกท่านนานมากแล้ว
เมื่อมาถึงหน้าบ้าน พ่อของฮยอกแจก็ผงะที่พบว่าทงเฮมาหาถึงที่ เขาเดาได้ทันทีว่าทงเฮอาจจะรู้ความจริงที่เกิดขึ้นแล้ว และเขาก็เป็นห่วงเรื่องนี้มากเหลือเกิน
“เข้ามาในบ้านก่อนสิทงเฮ” พ่อของฮยอกแจเอ่ยบอกพลางเปิดประตูรั้วให้
“ขอบคุณครับ”
ทงเฮเดินตามเข้าไปด้านในแล้วพบว่าบ้านหลังนี้ยังเหมือนเดิมแทบทุกอย่าง รูปถ่ายของแฝดสองพี่น้องยังคงตั้งอยู่ที่เดิมอย่างที่มันควรจะเป็น ไม่มีใครลืมว่าอึนฮยอกได้ตายไปแล้ว คนในบ้านทุกๆ คนยังคงจดจำอึนฮยอกไว้และทำเสมือนว่าอึนฮยอกยังใช้ชีวิตอยู่ที่นี่
“คุณแม่ไม่อยู่บ้านเหรอครับ?” ทงเฮเอ่ยถามหลังจากที่เข้ามานั่งด้านใน
“แม่ออกไปจ่ายตลาดน่ะ อีกสักพักคงจะกลับมา”
“ครับ งั้น...ผมจะไม่รอถามคุณแม่แล้วนะครับ เพราะคุณพ่อเองก็คงรู้เรื่องทั้งหมดนี้เหมือนกัน”
“ทงเฮรู้แล้วใช่ไหม?!”
น้ำเสียงของพ่อแสดงออกอย่างชัดเจนว่าวิตกกังวลมากแค่ไหน ทงเฮพยักหน้าช้าๆ แล้วนั่งประสานมือไว้บนตักของตัวเองด้วยความเกร็ง เขาเงยหน้าขึ้นไปสบตาพ่อของฮยอกแจอีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยขึ้น
“พี่ฮยอกแจ...ฮึก...พี่ฮยอกแจหลอกผม คุณพ่อกับคุณแม่ก็หลอกผมด้วย หลอกว่าคนที่ตายคือพี่ฮยอกแจ ทำไมล่ะครับ ผมทำอะไรผิดไปเหรอ ทำไมทุกคนถึงทำให้ผมทรมานแบบนี้”
“ทงเฮ พ่อ...พ่อขอโทษ”
ชายวัยกลางคนไม่มีคำอื่นใดจะพูดนอกจากคำๆ นี้ เขามองเห็นทงเฮร้องไห้จนตัวโยน แต่กลับช่วยเหลืออะไรไม่ได้เลย เขารู้ดีว่าฮยอกแจรักทงเฮมากแค่ไหน และทงเฮรักฮยอกแจมากแค่ไหน แต่กลับทำความต้องการของลูกชายคนเล็กแบบทุกวันนี้
เขาและภรรยาปิดปากเงียบมาตลอด
พวกเขาเองก็ใช้ชีวิตอย่างทุกข์ทรมานเช่นเดียวกัน
“พ่อกับแม่ไม่รู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้นกับอึนฮยอกกันแน่ เขาเขียนจดหมายลาตายก็จริง แต่พวกเราไม่เคยได้อ่านจดหมายนั่นสักครั้ง”
“แล้ว...แล้วมีใครได้อ่านมันบ้างไหมครับ?”
“มีสิ!” พ่อของฮยอกแจพยักหน้าช้าๆ “อี ฮยอกแจ...เขาอ่านมันแล้ว แต่ฮยอกแจไม่เชื่อว่าพี่ชายของเขาจะคิดสั้นแบบนั้น”
ทงเฮทำทบทวนสิ่งต่างๆ ที่ได้ยินมา แล้วความจริงมันอยู่ที่ไหนกันล่ะ เขาจะรู้ความจริงได้จากที่ไหนกันแน่ ทงเฮไม่เพียงแต่จะทำให้พี่ชายของเขาพ้นจากข้อกล่าวหา แต่เขาจะทำให้พี่ฮยอกแจพ้นความทุกข์ทรมานจากการตายของพี่ชายอีกด้วย
“บางทีอาจจะต้องไปถามความจริงจากเพื่อนของเขาที่นิวยอร์ก”
“นิวยอร์ก!” ทงเฮโพล่งขึ้นอย่างตกใจ นิวยอร์กมันไกลเกินไป และเขาคงไม่มีปัญญาจะทำอะไรแบบนั้นแน่
ทงเฮได้กำชับพ่อของฮยอกแจว่าอย่าเพิ่งบอกใครว่าเขารู้ความจริงแล้ว ในขณะเดียวกันนั้นเอง เสียงสองแม่ลูกพูดคุยกันก็ดังออกมาจากด้านนอกบ้าน ดูเหมือนว่าแม่จะกลับมาพอดี กลับมาพร้อมกับอี ฮยอกแจเสียด้วย
“ฮยอก...” เธอกำลังจะเรียกชื่อลูกชาย แต่เมื่อหันมาเห็นทงเฮที่นั่งอยู่ในบ้าน หญิงวัยกลางคนก็ผงะจนทิ้งของทุกอย่างในมือร่วงหล่นลง “ทงเฮ!”
แม่ของฮยอกแจวิ่งเข้ามากอดทงเฮไว้แน่น เธอร้องไห้ขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ แต่ว่าทงเฮรู้ เขารู้ดีว่าเพราะอะไรเธอถึงร้องไห้หนักขนาดนั้น ฮยอกแจเดินมาด้านหลังแล้วเอ่ยเรียกคนเป็นแม่เบาๆ
“แม่ครับ ได้โปรดเถอะ...อย่าทำแบบนี้เลย”
“ฮึก...แม่ แม่รู้สึกผิดต่อทงเฮ ที่ผ่านมาลูกทรมานมากเลยใช่ไหม ขอโทษนะที่เป็นแบบนี้ แม่ขอโทษจริงๆ”
“แม่!” ฮยอกแจส่งเสียงดังขึ้นเพื่อเตือนสติให้แม่หยุดพูดได้สักที เธอค่อยๆ ผละออกจากทงเฮ ในขณะที่ทงเฮพยายามยิ้มบางๆ ออกมา
“ผมไม่เป็นอะไรหรอกครับ คุณแม่สบายดีน่ะครับ”
“จ้ะ” แม่ของฮยอกแจพยักหน้าแล้วลูบใบหน้าหวานของทงเฮอย่างรู้สึกผิด ฮยอกแจเดินฝ่าทุกคนเข้าไปด้านในแล้วคว้ามือของทงเฮขึ้น ก่อนจะลากทงเฮออกไปคุยด้านนอก
“นายมาที่นี่ทำไม?!” เขาถามเสียงเย็นชา ไม่เหมือนฮยอกแจคนก่อนแม้ว่าจะทำผมสีดำแล้วก็ตาม
“ทำไมล่ะ? ที่นี่บ้านแฟนของผม ถึงเขาจะ ‘ตาย’ ไปแล้ว แต่ผมก็มาเยี่ยมพ่อแม่ของเขาได้ไม่ใช่เหรอ?” ทงเฮจงใจเน้นเสียงคำว่าตายอย่างชัดเจน
“ไม่ได้!” ฮยอกแจพูดอย่างเด็ดขาด ทำให้ทงเฮนึกอยากจะบอกความจริงไปให้รู้แล้วรู้รอด แต่เขาก็ต้องเก็บงำความรู้สึกทั้งหมดเอาไว้ จนกว่าเรื่องทั้งหมดจะคลี่คลายลง
“ยังไงฉันก็มาที่นี่แล้ว แต่ถ้านายไม่ให้ฉันมา ฉันก็จะไม่มาอีก ฉันกลับล่ะ”
ทงเฮไม่เถียงแม้แต่คำเดียว พูดจบก็เดินออกจากบ้านไปจนฮยอกแจต้องคว้าข้อมือเอาไว้แน่นแล้วเอ่ยขึ้น
“เดี๋ยวพี่จะขับรถไปส่ง!”
“เก็บความหวังดีของนายไปให้พี่คยูฮยอนเถอะ”
“ทำไม?” ฮยอกแจเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงหดหู่เพราะเขาลืมตัวไปชั่วขณะว่าตัวเองคืออึนฮยอก ไม่ใช่ฮยอกแจ
“เพราะพี่อึนฮยอก...คือแฟนของพี่คยูฮยอนไงล่ะ”
ทงเฮพูดประโยคนั้นด้วยความเจ็บปวด ฮยอกแจเองที่ได้ยินก็เจ็บปวดด้วยเช่นเดียวกัน ปกติแล้วเขาคงจะหยอกล้อทงเฮเล่น หรือไม่ก็แกล้งทงเฮให้เขินอายอยู่เสมอ แต่วันนี้ฮยอกแจรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนไปของท่าทางทงเฮ เขาจึงไม่กล้าพูดอะไรออกมาเลย
Eunana Talk…
กลับมาตามสัญญาค่ะ ไม่รู้ว่าจะมีใครรอเรื่องนี้อยู่บ้างหรือเปล่า แต่ก็จะอัพ
พบกันอีกครั้งสัปดาห์หน้านะคะ ใครต้องการเล่มนี้ก็เตรียมเงินไว้ด้วยเช่นกันนะคะ
จะเปิดจองพร้อมๆ กับ Kiss the Rain และ The Answer ของ Lee Seen ค่ะ
ความคิดเห็น