ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SuJu Fiction] +++ Nobody Knows...+++ [EunHae, WonKyu]

    ลำดับตอนที่ #9 : Chapter 8 : This Time

    • อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 55


     

     

    Chapter 8

    This Time

     

                ระหว่างอาหารมื้อเย็นในวันนั้น คนเป็นแม่ได้แต่มองหน้าลูกชายทั้งสองของตนเองสลับกันไปมา โจ คยูฮยอนซึ่งเป็นคนโตเอาแต่นั่งเหม่อเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

     

                “คยูฮยอน!

     

                “คะ...ครับ?”

     

                “กินข้าวเยอะๆ หน่อยสิ ตั้งแต่กลับมาจากนัมวอน ลูกดูซูบๆ ไปนะ”

     

                “เอ่อ...ผมไม่ค่อยหิวน่ะครับแม่” คยูฮยอนตอบแม่แล้วตกอยู่ในภวังค์อีกครั้งด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

     

                ส่วนอี ทงเฮ...ลูกชายคนเล็กซึ่งเกิดจากสามีอีกคนของเธอ ลูกคนนี้ก็เอาแต่เงียบ เงียบเสียจนน่ากลัวและเดาไม่ออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่

     

                แต่ดูเหมือนว่าการเงียบของทงเฮจะแตกต่างจากคยูฮยอนอยู่ไม่น้อย

     

                เพราะสายตาของทงเฮไม่ได้ว่างเปล่า

     

                แต่กำลังจ้องมองไปที่...คยูฮยอน

     

                “มีอะไรหรือเปล่าทงเฮ?” แม่ถามพลางแตะที่แขนเรียวของลูกชายคนเล็กอย่างเป็นห่วง

     

                “ไม่มีครับ” ทงเฮส่ายหน้าแล้วพลางเขี่ยข้าวในจานจนคนเป็นแม่ตีมือของเขาอย่างแรง คนตัวเล็กร้องเสียงหลงแล้วโวยลั่น “โอ๊ย! แม่อ่ะ...ทำไมต้องตีผมด้วย”

     

                “จะกินข้าวก็ไม่ยอมกิน เอาแต่เขี่ยข้าวเล่นอยู่ได้ แกคิดว่าบ้านเรารวยนักหรือไง”

     

                “แล้วทำไมแม่ว่าแต่ผมล่ะ ไม่ว่าพี่คยูฮยอนบ้าง”

     

                “นี่...ไม่ต้องไปพูดถึงพี่เขาเลยนะ ทำตัวเองให้ดีๆ ก่อนเถอะ”

     

                นั่นไงล่ะ อี ทงเฮเคยพูดผิดไปเสียที่ไหน แม่น่ะรักแต่พี่คยูฮยอน ไม่เคยรักเขาเลย หรือบางทีอาจจะรักบ้าง แต่ก็รักไม่เท่ากัน ทำให้ทงเฮอดน้อยใจไม่ได้ที่ถูกแม่ดุด่าแบบนี้ตลอดเวลา

     

                รู้อย่างนี้เขาสอบชิงทุนไปเรียนต่างประเทศเสียตั้งแต่แรกก็ดี แม่จะได้คิดถึงเขาและไม่กล้าด่าอะไรเขาอีก ทงเฮมองคยูฮยอนที่ถูกเขากล่าวถึงแต่ก็ไม่ยักจะเถียงกลับเหมือนทุกที ทงเฮรู้สึกไม่พอใจ เขาอยากรู้เรื่องราวทั้งหมดจากปากของพี่ชาย แต่ก็ไม่กล้าถาม

     

                ทว่าเมื่อมัวแต่คิดแบบนี้ ก็คงจะไม่รู้ความจริงต่อไปเรื่อยๆ

     

                “พี่คยูฮยอน” ทงเฮเอ่ยเรียก

     

                “...”

     

                “โจ คยูฮยอน!” ทงเฮเรียกอีกครั้งโดยที่ไม่ได้เรียก พี่เลย แม่หันมาส่งสายตาดุๆ ใส่อีกครั้ง พร้อมกับคยูฮยอนที่หันมามองทงเฮพอดี

     

                “มีอะไร?” คยูฮยอนถามขึ้นมาด้วยสีหน้าเรียบเฉยไร้อารมณ์

     

                “ขอคุยด้วยหน่อยสิ!

     

     

     

                แล้วพี่น้องทั้งสองก็พากันเดินออกไปคุยกันตามลำพังที่หน้าบ้าน คยูฮยอนเดินออกไปจากบ้านอย่างเหม่อลอย ในขณะที่ทงเฮเดินตามไปทีหลังเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง

     

                “พี่จะปิดบังความจริงไปถึงเมื่อไร?” คำถามจากทงเฮทำให้คยูฮยอนหันกลับมามอง

     

                “ความจริงอะไร?”

     

                “แล้วมีความจริงอะไรบ้างล่ะที่พี่ไม่บอกผม หรือว่าสิ่งที่พี่ปิดบังเอาไว้มันมีมากมายกว่านั้น” ทงเฮตะโกนถามลั่นทั้งน้ำตา คยูฮยอนอยากจะผลักหัวน้องแรงๆ สักทีให้หายบ้า และให้เลิกตะโกนใส่หน้าคนที่อายุมากกว่าอย่างเขาได้แล้ว แต่ตอนนี้...ณ เวลานี้ คยูฮยอนไม่มีอารมณ์จะทำอะไรแบบนั้นเลย

     

                “ฉันไม่มีอะไรจะพูด” เขาตอบแล้วเดินผ่านทงเฮเข้าบ้าน แต่ทงเฮกลับโพล่งขึ้น

     

                “แม้แต่เรื่องที่ผู้ชายคนนั้นคือพี่ฮยอกแจ พี่ก็จะไม่บอกผมจริงๆ ใช่ไหม?”

     

                คยูฮยอนหยุดกึก เขาหันกลับมาเบิกตากว้างให้กับคำถามของน้องชาย ทงเฮกำลังร้องไห้ คยูฮยอนเห็นอย่างชัดเจน เขาเข้าใจทงเฮดี เพราะถ้าเป็นเขาก็คงช็อคไม่ต่างกันที่ได้รู้ว่าคนที่คิดว่าตายไปแล้วกลับยังมีชีวิตอยู่ แถมยังหลอกลวงคนอื่นมาโดยตลอดอีกด้วย

     

                “นายรู้ได้ยังไง?” คยูฮยอนเดินกลับมาคุยกับทงเฮดีๆ อีกครั้ง

     

                “ไม่สำคัญหรอกว่าผมรู้มาได้ยังไง แต่ผมอยากถามพี่ว่า...มันเป็นความจริงใช่ไหมที่พี่ทำให้พี่อึนฮยอกตาย”

     

                “อะ...อะไรนะ?!” คยูฮยอนอ้าปากค้าง ไม่คิดว่าทงเฮจะคิดแบบเดียวกับฮยอกแจด้วย

     

                “ตกใจเหรอที่ถูกผมถามแบบนี้ หรือว่าคำถามของผมไปแทงใจดำพี่เข้าล่ะ”

     

                “นี่อี ทงเฮ! นายเป็นน้องชายฉันนะ นายเชื่อคำพูดของคนอื่นมากกว่าฉันหรือไง”

     

                “ตั้งแต่ผมเกิดมา พี่เคยคิดว่าผมเป็นน้องชายตั้งแต่เมื่อไร”

     

                ทงเฮเอ่ยถามด้วยความเจ็บปวดใจ จริงอยู่ที่เขาโกรธฮยอกแจที่ทำอะไรบ้าๆ แบบนี้ แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็โกรธคยูฮยอนด้วยถ้าคยูฮยอนเป็นสาเหตุทำให้พี่ฮยอกแจต้องปลอมตัวและกลับมาแก้แค้นพี่ชายของเขาจริงๆ

     

                เขาจะโกรธคยูฮยอนไปตลอดชาติที่ทำให้เขาต้องร้องไห้มาตลอดหกเดือนเพราะเข้าใจผิดว่าอี ฮยอกแจได้ตายจากไปแล้ว

     

                “ฉันไม่ได้ทำ!” คยูฮยอนก้มหน้าลงแล้วตอบเสียงแผ่วเบา

     

                “ทำไมถึงพูดไม่เต็มปากเต็มคำล่ะ?”

     

                “ก็บอกว่าไม่ได้ทำไง ฉันชอบอึนฮยอกก็จริง แต่เขาไม่ได้ชอบฉัน แล้วเขาจะมาฆ่าตัวตายเพราะฉันได้ยังไง เลิกพูดจาไร้สาระสักทีได้ไหมอี ทงเฮ?!

     

                “พี่ต่างหากที่เลิกโกหกได้แล้ว”

     

    ทงเฮตะโกนใส่หน้าคนเป็นพี่กลับไปบ้างจนคยูฮยอนผงะ ไม่คิดว่าน้องจะปีกกล้าขาแข็งด่าทอเขาได้รุนแรงขนาดนี้เพราะผู้ชายเพียงคนเดียว

     

                “ถ้าพี่ไม่ได้ทำ พี่ก็หาหลักฐานมายืนยันสิ ทุกคนรอพี่อยู่ ไม่ว่าจะเป็นพี่ฮยอกแจ พี่ซีวอน...รวมทั้งผมด้วย”

     

                ทงเฮบอกแล้วเดินเข้าไปในบ้านด้วยความเสียใจ เขาไม่รู้ว่าจะเชื่อใคร แต่ฮยอกแจก็ไม่ใช่คนโกหก และถึงทงเฮจะด่าทอพี่ชายไปมากมายขนาดนั้น แต่ลึกๆ แล้วเขากลับมั่นใจว่าพี่ชายไม่ใช่คนผิด พี่ชายของเขาปากร้ายกับเขาแค่คนเดียว แต่ก็ไม่ใช่คนโหดร้ายเลือดเย็น และหลายใจอย่างที่พี่ฮยอกแจว่าแน่ๆ

     

     

     

                เช้าวันต่อมา

     

                ทงเฮตื่นตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อเดินทางไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง เขาไปยังสุสานที่หลงคิดมาตลอดว่าคนที่นอนอยู่ในหลุมอย่างสงบนั้นคืออี ฮยอกแจ

     

                แต่วันนี้...ทงเฮมาที่หลุมศพด้วยความรู้สึกที่เปลี่ยนไปจากเดิน

     

                “พี่อึนฮยอกครับ!

     

                ทงเฮเอ่ยขึ้นด้วยเสียงสั่นเครืออย่างห้ามไม่ได้ ป้ายหินอ่อนเป็นชื่อของฮยอกแจก็จริง และทุกครั้งที่ฮยอกแจมาไหว้หลุมศพของพี่ชาย เขาคงจะทรมานมากที่เห็นชื่อของตัวเองถูกสลักแทนชื่อคนที่ตายจริงๆ

     

                “พี่อึนฮยอกตายเพราะพี่คยูฮยอนจริงหรือเปล่า?”

     

                ทงเฮนั่งลงแล้วเอ่ยถามกับคนในหลุมที่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีทางที่จะฟื้นขึ้นมาตอบคำถามได้เลย ทงเฮนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นจนตัวโยนเมื่อคิดถึงตลอดช่วงหกเดือนที่ผ่านมา

     

                เขาเคยใช้ชีวิตอย่างคนสิ้นหวัง แต่แทนที่รู้ความจริงแล้วจะมีความหวังมากขึ้น

     

                ทงเฮกลับรู้สึกสิ้นหวังมากกว่าเดิมเสียอีก

     

                “ได้โปรดบอกความจริงผมด้วยเถอะครับว่าทำไมพี่ถึงฆ่าตัวตาย อย่าให้พี่ฮยอกแจทรมานไปมากกว่านี้ อย่าทำร้ายน้องชายของพี่อีก”

     

                ทงเฮยกมือขึ้นกำสาบเสื้อของตัวเอง เขาทรมานมาก...มากจนเกินกว่าจะพูดต่อได้อีกแล้ว

     

                “ผมไม่รู้ว่าความจริงเป็นยังไงกันแน่ แต่ช่วยทำให้พวกเราหลุดออกจากบ่วงความทุกข์นี้ด้วยเถอะนะครับ พี่ฮยอกแจไม่ได้ผิดอะไร ทำไมเขาต้องมาทรมานกับการจากไปของพี่ ทำไมผมจะต้องร่วมชดใช้กรรมนั้น แล้วทำไม...ทำไมพี่คยูฮยอนต้องถูกพี่ฮยอกแจกล่าวหาด้วย...ฮือๆๆ”

     

                ทงเฮเอาแต่ต่อว่าคนตายเพราะเขารู้สึกเหมือนชีวิตของตัวเองไร้ซึ่งทางออก บางทีอึนฮยอกอาจจะอยากบอกอะไรบางอย่างก็ได้ แต่เขาก็ไม่มีโอกาสได้พูดมันเพราะว่าอึนฮยอกไม่สามารถกลับมามีชีวิตได้อีกแล้ว

     

     

     

                ทงเฮทิ้งความโศกเศร้าไว้ที่สุสานแห่งนั้นพร้อมกับเดินหน้าค้นหาความจริงต่อไป เขาเดินทางมาที่บ้านพ่อแม่ของฮยอกแจ บ้านที่ทงเฮไม่ได้มาเยี่ยมพวกท่านนานมากแล้ว

     

                เมื่อมาถึงหน้าบ้าน พ่อของฮยอกแจก็ผงะที่พบว่าทงเฮมาหาถึงที่ เขาเดาได้ทันทีว่าทงเฮอาจจะรู้ความจริงที่เกิดขึ้นแล้ว และเขาก็เป็นห่วงเรื่องนี้มากเหลือเกิน

     

                “เข้ามาในบ้านก่อนสิทงเฮ” พ่อของฮยอกแจเอ่ยบอกพลางเปิดประตูรั้วให้

     

                “ขอบคุณครับ”

     

                ทงเฮเดินตามเข้าไปด้านในแล้วพบว่าบ้านหลังนี้ยังเหมือนเดิมแทบทุกอย่าง รูปถ่ายของแฝดสองพี่น้องยังคงตั้งอยู่ที่เดิมอย่างที่มันควรจะเป็น ไม่มีใครลืมว่าอึนฮยอกได้ตายไปแล้ว คนในบ้านทุกๆ คนยังคงจดจำอึนฮยอกไว้และทำเสมือนว่าอึนฮยอกยังใช้ชีวิตอยู่ที่นี่

     

                “คุณแม่ไม่อยู่บ้านเหรอครับ?” ทงเฮเอ่ยถามหลังจากที่เข้ามานั่งด้านใน

     

                “แม่ออกไปจ่ายตลาดน่ะ อีกสักพักคงจะกลับมา”

     

                “ครับ งั้น...ผมจะไม่รอถามคุณแม่แล้วนะครับ เพราะคุณพ่อเองก็คงรู้เรื่องทั้งหมดนี้เหมือนกัน”

     

                “ทงเฮรู้แล้วใช่ไหม?!

     

                น้ำเสียงของพ่อแสดงออกอย่างชัดเจนว่าวิตกกังวลมากแค่ไหน ทงเฮพยักหน้าช้าๆ แล้วนั่งประสานมือไว้บนตักของตัวเองด้วยความเกร็ง เขาเงยหน้าขึ้นไปสบตาพ่อของฮยอกแจอีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยขึ้น

     

                “พี่ฮยอกแจ...ฮึก...พี่ฮยอกแจหลอกผม คุณพ่อกับคุณแม่ก็หลอกผมด้วย หลอกว่าคนที่ตายคือพี่ฮยอกแจ ทำไมล่ะครับ ผมทำอะไรผิดไปเหรอ ทำไมทุกคนถึงทำให้ผมทรมานแบบนี้”

     

                “ทงเฮ พ่อ...พ่อขอโทษ”

     

                ชายวัยกลางคนไม่มีคำอื่นใดจะพูดนอกจากคำๆ นี้ เขามองเห็นทงเฮร้องไห้จนตัวโยน แต่กลับช่วยเหลืออะไรไม่ได้เลย เขารู้ดีว่าฮยอกแจรักทงเฮมากแค่ไหน และทงเฮรักฮยอกแจมากแค่ไหน แต่กลับทำความต้องการของลูกชายคนเล็กแบบทุกวันนี้

     

                เขาและภรรยาปิดปากเงียบมาตลอด

     

                พวกเขาเองก็ใช้ชีวิตอย่างทุกข์ทรมานเช่นเดียวกัน

     

                “พ่อกับแม่ไม่รู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้นกับอึนฮยอกกันแน่ เขาเขียนจดหมายลาตายก็จริง แต่พวกเราไม่เคยได้อ่านจดหมายนั่นสักครั้ง”

     

                “แล้ว...แล้วมีใครได้อ่านมันบ้างไหมครับ?”

     

                “มีสิ!” พ่อของฮยอกแจพยักหน้าช้าๆ “อี ฮยอกแจ...เขาอ่านมันแล้ว แต่ฮยอกแจไม่เชื่อว่าพี่ชายของเขาจะคิดสั้นแบบนั้น”

     

                ทงเฮทำทบทวนสิ่งต่างๆ ที่ได้ยินมา แล้วความจริงมันอยู่ที่ไหนกันล่ะ เขาจะรู้ความจริงได้จากที่ไหนกันแน่ ทงเฮไม่เพียงแต่จะทำให้พี่ชายของเขาพ้นจากข้อกล่าวหา แต่เขาจะทำให้พี่ฮยอกแจพ้นความทุกข์ทรมานจากการตายของพี่ชายอีกด้วย

     

                “บางทีอาจจะต้องไปถามความจริงจากเพื่อนของเขาที่นิวยอร์ก”

     

                “นิวยอร์ก!” ทงเฮโพล่งขึ้นอย่างตกใจ นิวยอร์กมันไกลเกินไป และเขาคงไม่มีปัญญาจะทำอะไรแบบนั้นแน่

     

                ทงเฮได้กำชับพ่อของฮยอกแจว่าอย่าเพิ่งบอกใครว่าเขารู้ความจริงแล้ว ในขณะเดียวกันนั้นเอง เสียงสองแม่ลูกพูดคุยกันก็ดังออกมาจากด้านนอกบ้าน ดูเหมือนว่าแม่จะกลับมาพอดี กลับมาพร้อมกับอี ฮยอกแจเสียด้วย

     

                “ฮยอก...” เธอกำลังจะเรียกชื่อลูกชาย แต่เมื่อหันมาเห็นทงเฮที่นั่งอยู่ในบ้าน หญิงวัยกลางคนก็ผงะจนทิ้งของทุกอย่างในมือร่วงหล่นลง “ทงเฮ!

     

                แม่ของฮยอกแจวิ่งเข้ามากอดทงเฮไว้แน่น เธอร้องไห้ขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ แต่ว่าทงเฮรู้ เขารู้ดีว่าเพราะอะไรเธอถึงร้องไห้หนักขนาดนั้น ฮยอกแจเดินมาด้านหลังแล้วเอ่ยเรียกคนเป็นแม่เบาๆ

     

                “แม่ครับ ได้โปรดเถอะ...อย่าทำแบบนี้เลย”

     

                “ฮึก...แม่ แม่รู้สึกผิดต่อทงเฮ ที่ผ่านมาลูกทรมานมากเลยใช่ไหม ขอโทษนะที่เป็นแบบนี้ แม่ขอโทษจริงๆ”

     

                “แม่!” ฮยอกแจส่งเสียงดังขึ้นเพื่อเตือนสติให้แม่หยุดพูดได้สักที เธอค่อยๆ ผละออกจากทงเฮ ในขณะที่ทงเฮพยายามยิ้มบางๆ ออกมา

     

                “ผมไม่เป็นอะไรหรอกครับ คุณแม่สบายดีน่ะครับ”

     

                “จ้ะ” แม่ของฮยอกแจพยักหน้าแล้วลูบใบหน้าหวานของทงเฮอย่างรู้สึกผิด ฮยอกแจเดินฝ่าทุกคนเข้าไปด้านในแล้วคว้ามือของทงเฮขึ้น ก่อนจะลากทงเฮออกไปคุยด้านนอก

     

     

     

                “นายมาที่นี่ทำไม?!” เขาถามเสียงเย็นชา ไม่เหมือนฮยอกแจคนก่อนแม้ว่าจะทำผมสีดำแล้วก็ตาม

     

                “ทำไมล่ะ? ที่นี่บ้านแฟนของผม ถึงเขาจะ ตาย ไปแล้ว แต่ผมก็มาเยี่ยมพ่อแม่ของเขาได้ไม่ใช่เหรอ?” ทงเฮจงใจเน้นเสียงคำว่าตายอย่างชัดเจน

     

                “ไม่ได้!” ฮยอกแจพูดอย่างเด็ดขาด ทำให้ทงเฮนึกอยากจะบอกความจริงไปให้รู้แล้วรู้รอด แต่เขาก็ต้องเก็บงำความรู้สึกทั้งหมดเอาไว้ จนกว่าเรื่องทั้งหมดจะคลี่คลายลง

     

                “ยังไงฉันก็มาที่นี่แล้ว แต่ถ้านายไม่ให้ฉันมา ฉันก็จะไม่มาอีก ฉันกลับล่ะ”

     

                ทงเฮไม่เถียงแม้แต่คำเดียว พูดจบก็เดินออกจากบ้านไปจนฮยอกแจต้องคว้าข้อมือเอาไว้แน่นแล้วเอ่ยขึ้น

     

                “เดี๋ยวพี่จะขับรถไปส่ง!

     

                “เก็บความหวังดีของนายไปให้พี่คยูฮยอนเถอะ”

     

                “ทำไม?” ฮยอกแจเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงหดหู่เพราะเขาลืมตัวไปชั่วขณะว่าตัวเองคืออึนฮยอก ไม่ใช่ฮยอกแจ

     

                “เพราะพี่อึนฮยอก...คือแฟนของพี่คยูฮยอนไงล่ะ”

     

                ทงเฮพูดประโยคนั้นด้วยความเจ็บปวด ฮยอกแจเองที่ได้ยินก็เจ็บปวดด้วยเช่นเดียวกัน ปกติแล้วเขาคงจะหยอกล้อทงเฮเล่น หรือไม่ก็แกล้งทงเฮให้เขินอายอยู่เสมอ แต่วันนี้ฮยอกแจรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนไปของท่าทางทงเฮ เขาจึงไม่กล้าพูดอะไรออกมาเลย

     

    Eunana Talk…

    กลับมาตามสัญญาค่ะ ไม่รู้ว่าจะมีใครรอเรื่องนี้อยู่บ้างหรือเปล่า แต่ก็จะอัพ

    พบกันอีกครั้งสัปดาห์หน้านะคะ ใครต้องการเล่มนี้ก็เตรียมเงินไว้ด้วยเช่นกันนะคะ

    จะเปิดจองพร้อมๆ กับ Kiss the Rain และ The Answer ของ Lee Seen ค่ะ

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×