ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SuJu Fiction] +++ Nobody Knows...+++ [EunHae, WonKyu]

    ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 5 : Stop!

    • อัปเดตล่าสุด 14 ต.ค. 55


     

     

     

    Chapter 5

    Stop!

     

     

     

                หลังจากเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงสายของเมื่อวานนี้ ไม่ต้องสังเกตอะไรมากมาย อึนฮยอกก็พอจะรู้ว่าทงเฮตั้งใจหลบหน้าเขา ถ้าเทียบกับสิ่งที่เขาทำลงไปมันก็สมควรแล้วล่ะ บางทีมันอาจจะน้อยไปเสียด้วยซ้ำ เพราะถ้าเขาเป็นทงเฮคงไม่ใช่แค่ผลักออกแล้ววิ่งหนี แต่อาจจะชกหมัดหนักๆ ใส่หน้าแฟนของพี่ชายสักครั้งที่กล้าทำถึงขนาดนี้

     

                โชคดีที่เครื่องปรับอากาศในห้องคยูฮยอนซ่อมเสร็จแล้ว เมื่อคืนก็เลยไม่ต้องนอนสามคนเหมือนสองคืนก่อน เพราะไม่เพียงแต่ทงเฮที่อึดอัด

     

                อึนฮยอกเองก็ไม่แน่ใจว่า...หากเขาได้อยู่ใกล้ทงเฮมากกว่านี้ เขาจะห้ามใจไหวหรือไม่

     

                “คยูฮยอน วันนี้ไปเที่ยวกับเถอะ” อึนฮยอกเอ่ยขึ้นเมื่อคยูฮยอนตื่นขึ้นมา พวกเขากอดกันไว้แต่ก็ไม่แน่นนัก

     

                “ที่ไหนเหรอ?” คยูฮยอนถามเสียอู้อี้แล้วซุกเข้ามาในอกแกร่งมากกว่าเดิม

     

                “ที่ไหนก็ได้”

     

                “ไม่เอา นายคิดสิว่าอยากจะพาฉันไปที่ไหน นายเป็นคนชวนนะ” คยูฮยอนเอาแต่ใจเหมือนเคย แต่อึนฮยอกก็จำไม่ได้หรอกว่าเมื่อก่อนตอนที่อยู่ด้วยกัน คยูฮยอนเป็นอย่างนี้หรือเปล่า

     

                “งั้นไปนัมวอนกันนะ”

     

                “ไปทำไมไกลจัง”

     

                “ก็นายให้ฉันคิดเองนี่ แล้วฉันก็อยากไปไกลๆ ด้วย”

     

                อึนฮยอกให้เหตุผลที่ไม่เกี่ยวกับคยูฮยอนเลย มันเกี่ยวกับทงเฮต่างหาก ถ้าเขาหนีไปจากที่นี่สักพัก ความโกรธในใจทงเฮอาจจะลดลงก็ได้ ยิ่งไปกว่านั้นเขาหวังว่าทงเฮจะลืมเรื่องที่ถูกเขาจูบไปเสีย แม้ว่าความเป็นไปได้มันจะเท่ากับศูนย์ก็ตามที

     

     

     

                ในที่สุดอึนฮยอกและคยูฮยอนก็เช่ารถยนต์ขับออกไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกัน โชคดีของอึนฮยอกที่ทงเฮยังไม่ตื่น และก็โชคดีของคยูฮยอนที่ตั้งแต่วันก่อนซีวอนยังไม่โทรมาเลย

     

                จะว่าไป...นี่ก็สองวันแล้วสินะ

     

                พรุ่งนี้ซีวอนคงจะมาหาเพื่อฟังคำตอบ พอนึกถึงตรงนี้แล้วคยูฮยอนก็ถอนหายใจยาว เขาไม่กล้าบอกซีวอน ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน เขาแค่ไม่อยากให้ซีวอนเสียใจ ไม่อยากเห็นหน้าเศร้าๆ ของซีวอนเวลาที่มองมายังเขา

     

                ซีวอนเป็นผู้ชายที่เพียบพร้อม เป็นผู้ชายที่แค่กระดิกนิ้วเบาๆ หรือยิ้มบางๆ เท่านั้น ผู้หญิงผู้ชายหลายคนก็พร้อมจะกระโจนเข้าหา เหตุผลแค่นี้แหละที่ทำให้คยูฮยอนไม่เลือกซีวอน อืม...บางทีอาจจะมีอึนฮยอกเป็นหนึ่งในเหตุผลรวมอยู่ด้วย แต่คยูฮยอนกลับรู้สึกว่าอึนฮยอกเป็นเหตุผลที่เล็กมากๆ จนบางครั้งเขาไม่ได้นำมาใส่ใจเลยด้วยซ้ำ

     

                “เราเป็นแฟนกันมาสองวันแล้วนะคยูฮยอน” อึนฮยอกชวนคุยเมื่อเห็นหน้าเครียดๆ ของคนรักข้าวใหม่ปลามันของตน คยูฮยอนหันมายิ้มและจับมืออึนฮยอกเอาไว้

     

                “ฉันดีใจมากๆ นะที่นายขอฉันเป็นแฟน” คยูฮยอนยิ้มทั้งตาทั้งปาก แต่นัยน์ตาคู่สวยนั้น อึนฮยอกยังคงมองเห็นอะไรบางอย่างอยู่ด้วย

     

                “แต่ฉันรู้สึกเหมือนนายมีความสุขไม่สุดเลย เหมือนกั๊กๆ ไว้น่ะ”

     

                “กั๊กอะไรเล่า อยู่กับนายมีความสุขที่สุดเลยนะ จะว่าไปแล้วนี่เป็นครั้งแรกที่นายขับรถให้ฉันนั่งเลยนะอึนฮยอก ปกติตอนอยู่ที่นิวยอร์ก ฉันเป็นคนขับรถให้นายตลอด”

     

                “เอ่อ...งั้นเหรอ คงเพราะว่าฉันไม่ชินกับถนนที่นั่นล่ะมั้ง” อึนฮยอกรู้สึกเหมือนเขาไม่เป็นตัวของตัวเอง พอพูดจบก็เอาแต่มองถนนสีเทาข้างหน้าและคิดถึงแต่ภาพทงเฮเท่านั้น

     

                “นายขับรถไม่เป็นต่างหากล่ะ ตอนที่รับรถมาจากร้านเช่า ฉันยังตกใจเลยที่นายบอกว่าจะขับรถเอง”

     

                “ฮ่าๆ ก็...ตอนฮยอกแจไปอยู่ที่นั่นมันบังคับให้ฉันขับรถทุกวันเลยน่ะสิ ก็เลยได้ขับบ่อยๆ จนเก่งแบบนี้แหละ”

     

                “ดีจัง ฉันชอบที่นายเป็นแบบนี้แหละ ดูเพลย์บอยดี”

     

                “นายไม่ได้ชอบแบบกัปตันชเว ซีวอนอะไรนั่นหรอกเหรอ?” อึนฮยอกพูดแบบหึวหวง ถึงยังไงเขาก็มีสิทธิ์ที่จะหึงหวงได้ไม่ใช่เหรอในเมื่อคยูฮยอนเป็นแฟนเขาแล้ว คยูฮยอนมุ่ยหน้าเอ่ยขึ้น

     

                “ทำไมต้องไปพูดถึงคนอื่นด้วย”

     

                “ก็ฉันไม่อยากให้นายคิดถึงคนอื่นนี่” อึนฮยอกตอบตามตรง ในตอนนั้นบุคคลที่กำลังถูกเอ่ยถึงก็โทรศัพท์เข้ามาพอดี เสียงโทรศัพท์ดังลั่นจนคยูฮยอนสะดุ้งแทบปล่อยโทรศัพท์ออกจากมือ พอเห็นว่าซีวอนเป็นคนโทรมาก็กดตัดสายทิ้ง

     

                “รับสายสิ” อึนฮยอกบอกสั้นๆ

     

                “ฉันไม่อยากรับ” คยูฮยอนตอบแบบนั้นก็จริง แต่เขาก็เอาแต่จ้องหน้าจอโทรศัพท์มือถืออยู่ไม่ห่าง ซีวอนโทรมาอีกหลายสาย คยูฮยอนไม่ได้รับเลย แต่เขาเองก็ละสายตาออกจากโทรศัพท์ไม่ได้เลย

     

                “ถามจริงเถอะคยูฮยอน นายกับซีวอน...รู้จักกันได้ยังไง?” อึนฮยอกไม่ยิ้มเลยสักนิด คยูฮยอนรู้ว่าคนที่กำลังบังคับพวงมาลัยตอนนี้ไม่ใช่อึนฮยอกที่เขาเคยรู้จักเลยแม้แต่นิดเดียว

     

                “ฉันเล่าให้นายฟังไปหมดแล้ว ฉัน...ฉันไม่อยากพูดถึงมันอีก”

     

                “แต่ฉันอยากฟังอีก!” อึนฮยอกตวาดเสียงดังจนคยูฮยอนสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ

     

                “ก็ไม่มีอะไร ฉันกับซีวอนเคยมีอะไรกันแล้ว และฉันก็เล่าให้นายฟังไปหมดแล้วตั้งแต่วันที่ฮยอกแจตาย ทำไมล่ะ นายจะเลิกกับฉันเพราะเรื่องนี้เหรออึนฮยอก นายรับไม่ได้เหรอที่...ที่ฉัน...”

     

                คยูฮยอนพูดไม่ออก เขาร้องไห้หนักมากในขณะที่อึนฮยอกไม่พูดอะไรออกมาอีกเลย

     

     

     

                ณ กรุงโซล ในเวลาเดียวกันนั้น ซีวอนที่โทรศัพท์หาคยูฮยอนหลายครั้งแต่ก็ไม่มีคนรับสายก็ร้อนใจมาก เขาบุ่มบ่ามไปบ้านคยูฮยอน แต่พบเพียงทงเฮที่เดินออกมาเปิดประตูให้

     

                “ทงเฮ คยูฮยอนล่ะ?!” ซีวอนถามอย่างร้อนรน ไม่สนใจทงเฮที่กำลังยืนแปรงฟันอย่างงงๆ เลยสักนิด ร่างบางดึงแปรงสีฟันออกจากปากตนเอง แล้วเอ่ยถามขึ้น

     

                “ทำไมอ่า?”

     

                “คยูฮยอนไปไหน?” ซีวอนถามซ้ำ

     

                “อืม...ไป...ไปกับแฟนเขาล่ะมั้ง”

     

    พอพูดถึงแฟนของพี่ชาย ทงเฮก็ชักสีหน้าขึ้นมาอย่างไม่ต้องสงสัย ซีวอนคว้าแปรงสีฟันจากมือทงเฮโยนทิ้ง แล้วฉุดมือบางออกมาจากบ้านอย่างรวดเร็ว

     

                “พี่ ผมยังแปรงฟันไม่เสร็จนะ”

     

                “ไปตามแฟนของพี่กลับมากันเถอะ”

     

                “แต่ว่า...”

     

                “ทงเฮ...” ซีวอนหันมาจับไหล่ทั้งสองข้างของทงเฮไว้แน่น ก่อนจะเอ่ยขึ้น “นายบอกว่าพี่เป็นพี่เขยที่ดีที่สุดไม่ใช่เหรอ เลือกมาว่านายจะอยู่ข้างใคร”

     

                “ก็ต้องพี่น่ะสิ”

     

                ทงเฮบอกเสียงอ่อย แน่นอนล่ะ ในตอนนี้คนที่เขาเชียร์สุดใจก็ต้องเป็นซีวอนอยู่แล้ว ใครจะอยากให้พี่ชายไปคบกับคนนิสัยไม่ดีอย่างอึนฮยอกกันล่ะ สุดท้ายก็ต้องยอมขึ้นรถไปกับซีวอนจนได้

     

                “แล้วนายรู้หรือเปล่าว่าพวกเขาไปที่ไหนกัน?”

     

                “เห็นแม่พูดว่านัมวอนมั้ง ไม่แน่ใจนะ อ๊าก!” ยังไม่ทันขาดคำ ซีวอนก็ขับรถออกไปทางนัมวอนด้วยความรวดเร็ว ทงเฮนั่งกลั้นหายใจอยู่นานกว่าจะดึงสติกลับมาได้ เขามองทิวทัศน์สองข้างทางที่ค่อยๆ เปลี่ยนไปเรื่อยๆ จากที่มีบ้านเรือนและตึกสูงระฟ้าสองฝั่งถนน เหลือเพียงบ้านหลังเล็กๆ ในแบบชนบท และต้นไม้น้อยใหญ่สีเขียวที่มองแล้วสบายตา

     

                ทงเฮได้นั่งคิดอะไรบางอย่างอยู่ในใจ เขาหันกลับมามองซีวอนที่มีสายตามุ่งมั่นและคงจะนึกถึงแต่คยูฮยอนเท่านั้น ทงเฮจึงค่อยๆ เอ่ยปากถาม

     

                “พี่ซีวอน...”

     

                “หืม?”

     

                “ถามจริงๆ นะ ทำไมถึงชอบพี่คยูฮยอนมากขนาดนั้น นิสัยก็ไม่ดี เอาแต่ใจ แถมยังชอบพูดให้พี่เสียใจอีก”

     

                “แต่คยูฮยอนที่พี่รู้จักวันแรกไม่ใช่แบบนี้” ซีวอนพูดไปยิ้มไป ทงเฮเองยังรู้สึกได้ว่ารอยยิ้มของซีวอนเป็นรอยยิ้มที่อบอุ่นมาก น่าเสียดายที่พี่ชายของเขามองข้ามไป

     

                ซีวอนนึกถึงวันแรกที่เขาได้พบกับคยูฮยอนที่ไนต์คลับแห่งหนึ่งในรัฐฟลอริดา คืนนั้นเป็นวันที่เขาได้ใช้เวลาวันหยุดพักร้อนวันสุดท้ายพอดี ซีวอนไปไนต์คลับที่นั่นเพราะถูกเพื่อนชาวอเมริกันคนหนึ่งรบเร้า เขาจำได้ว่าคืนนั้นดื่มเหล้าเงียบๆ และไม่ได้สนใจใครเลยสักคน

     

                จนกระทั่งเพื่อนหัวทองของเขาสะกิดให้ดูผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่อีกด้านของร้าน

     

                “เขาชี้ให้พี่ดูว่ามีผู้ชายคนหนึ่งแอบมองพี่อยู่ พอพี่หันไปดูก็เห็นคยูฮยอนกำลังส่งยิ้มมาให้พอดี”

     

                “พี่คยูฮยอนอ่อยพี่เหรอ?” ทงเฮเบิกตากว้าง ไม่คิดว่าคยูฮยอนจะเป็นคนแบบนั้น

     

                “จะให้พูดแบบนั้นมันก็น่าเกลียดน่ะนะ แต่เพราะทงเฮเป็นน้องของคยูฮยอน พี่ก็เลยคิดว่าไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไร” ซีวอนเล่าต่อ “เหมือนเขาจะพนันกับเพื่อนหรืออะไรก็ไม่รู้ แต่เขากระดกเหล้าไปเกือบค่อนแก้ว แล้วก็เดินตรงดิ่งมาที่พี่”

     

                “แล้วไงต่อครับ?” ทงเฮเสียงสั่นเครือ เขาว่าเรื่องนี้มันมหัศจรรย์ยิ่งกว่าละครจักรๆ วงศ์ๆ ตอนเช้าตรู่เสียอีก

     

                “เราเต้นกันไปได้ครึ่งเพลงเอง ตลอดเวลาคยูฮยอนโอบคอพี่แล้วก็ซบอกพี่ด้วยนะ พี่คิดว่าคยูฮยอนชอบพี่มากๆ แต่พี่เองก็ไม่ได้ชอบเขาหรอก”

     

                “อ้าว! ไม่ได้ชอบก่อนหรอกเหรอ?”

     

                “นายคิดว่าผู้ชายที่อ่อยผู้ชายด้วยกันก่อนมันน่าหลงเสน่ห์หรือไงล่ะ” ทงเฮรีบส่ายหน้าทันที เขาคิดในใจว่าถ้าเอาเรื่องนี้ไปบอกแม่ คยูฮยอนต้องโดนแม่จับตีก้นลายแน่ๆ เขาเองก็ไม่ใช่คนขี้ฟ้องขนาดนั้น

     

                ...ถึงแม้จะขี้ฟ้องในบางเรื่องก็เถอะ

     

                “คยูฮยอนบอกว่าเขาพักอยู่โรงแรมใกล้ๆ และขอให้พี่ไปส่ง พี่ก็บ้าจี้ไปนะ รู้เลยล่ะว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้น คิดว่า...พอมีอะไรกันแล้ว ตอนเช้าก็แยกย้ายจบๆ กันไป”

     

                “แล้วทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ?!” ทงเฮเริ่มย่นคิ้วอย่างงุนงง ในเมื่อพี่ซีวอนบอกว่าไม่ได้ชอบพี่ชายของเขา ในเมื่อพี่ชายของเขาทำตัวเสเพลขนาดนั้นในวันที่พบกันครั้งแรก แต่ทำไม...

     

                “ก็เพราะว่าสุดท้ายแล้ว พี่ก็ได้รู้ความจริงน่ะสิ”

     

                “ความจริง?”

     

                “อื้อ คยูฮยอนน่ะไม่เคยมีอะไรกับใครมาก่อน เขาพูดอวดเก่งขี้โม้ไปตลอดทางว่าตัวเองเคยนอนกับคนนั้นคนนี้ แต่พอเอาเข้าจริงกลับร้องไห้จ้าเป็นเด็กๆ”

     

                “ระ...เหรอครับ?” ทงเฮกลืนน้ำลายอึกใหญ่อย่างอึ้งๆ เขาไม่คิดว่าซีวอนจะพูดออกมาง่ายดายขนาดนี้ เรื่องอย่างว่าเชียวนะ นั่นมันเรื่อง...แบบนั้นที่...เอ่อ...ควรจะรู้กันสองคนไม่ใช่เหรอ

     

                “รู้แค่นี้ก็พอแล้วเด็กน้อย ทำเป็นมองตาแป๋วเชียวนะ” ซีวอนต่อว่าแล้วเขกหัวน้องชายของคยูฮยอนไปอย่างแรง ทงเฮร้องลั่นแล้วคลำหน้าผากตนเองป้อยๆ ก่อนจะหันไปมองถนนต่อเพราะไม่รู้จะพูดอะไรต่อจากนั้นดี

     

                ซีวอนเองก็ไม่ได้เล่าต่อหรอกว่าตั้งแต่เรื่องที่เกิดขึ้นวันนั้น คยูฮยอนก็หนีไปตั้งแต่เช้า ไม่เหมือนผู้ชายหรือผู้หญิงคนอื่นที่พอมีอะไรกับเขาแล้วก็พยายามจะครอบครอง คยูฮยอนแตกต่างจากคนอื่นมาก

     

                และเพราะเหตุผลนั้นเองที่ทำให้ซีวอนต้องตามหาคยูฮยอนมาจนถึงทุกวันนี้

     

                “ถ้าพี่คยูฮยอนไม่รัก พี่ซีวอนมาเป็นแฟนกับผมก็ได้นะครับ” ทงเฮยิ้มหวาน แต่ซีวอนก็รู้ว่าทงเฮแค่พูดเล่นเท่านั้น เขาจึงได้แต่ยิ้มตอบกลับไป

     

                พอพูดออกไปแล้ว ทงเฮจึงได้รู้ว่าเขาไม่สมควรทำแบบนั้นเลย ในใจคิดเล่นๆ ว่าถ้าได้เป็นแฟนกับคนที่เพียบพร้อมกับซีวอนก็คงดีเหมือนกัน ทว่าลึกๆ แล้วกลับแค่ต้องการประชดหัวใจตัวเองที่เอาแต่หวั่นไหวกับอี อึนฮยอกก็เท่านั้น

     

     

                เมื่อมาถึงเขตนัมวอน อึนฮยอกจอดรถที่จุดชมวิวแห่งหนึ่ง เขาเปิดประตูรถเดินออกไปเรื่อยๆ ส่วนคยูฮยอนเองก็เดินตามอีกฝ่ายไปเท่านั้น คยูฮยอนรู้สึกว่าอึนฮยอกแปลกๆ ยิ่งอยู่ด้วยนานๆ ก็ยิ่งแปลกมากขึ้นไปอีก

     

                ทั้งคู่เดินไปตามทางเดินแคบๆ ที่ปูด้วยอิฐรูปตัวหนอนขนาดกว้างหนึ่งเมตรขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงจุดสูงสุด มีนักท่องเที่ยวไม่กี่รายที่กำลังยืนหันหลังให้หน้าผาและถ่ายรูปวิวท้องฟ้าและภูเขาน้อยใหญ่ด้านหลัง

     

                “สวยไหม?” อึนฮยอกกลับมายิ้มเหมือนเดิม เขาโอบเอวของคยูฮยอนเอาไว้หลวมๆ แล้วเอ่ยถามขึ้น

     

                “อื้อ สวย แต่นี่ยังไม่เข้าเขตเมืองเลยไม่ใช่เหรอ?” คยูฮยอนหันมาถาม ซึ่งอึนฮยอกก็พยักหน้า

     

                “ใช่ อีกประมาณสิบกิโลจะถึงตัวเมืองนัมวอน”

     

                “รีบขับรถไปต่อกันเถอะอึนฮยอก ฉันอยากเที่ยวในเมืองมากกว่า” คยูฮยอนเขย่าแขนคนรักด้วยท่าทางน่ารักๆ แต่อึนฮยอกค่อยแกะมือของคยูฮยอนออก เขากุมมือคยูฮยอนไว้แล้วเอ่ยถาม

     

                “คืนนั้น...” อึนฮยอกบีบมือคยูฮยอนแน่นขึ้น “คืนที่ฮยอกแจตาย...”

     

                “ทำไมนายถึงพูดเรื่องนี้อีกแล้วล่ะ”

     

                “ไม่ ฉันแค่จะถามว่า...ถ้าหากคืนนั้นคนที่ตายคือฉัน นายจะเสียใจไหม?” คยูฮยอนรู้สึกขนลุกไล่ตั้งแต่มือบางที่โดนอึนฮยอกจับไปจนถึงต้นแขน เขาพยายามดึงมือออก แต่อึนฮยอกก็บีบไว้แน่น คยูฮยอนจึงแค่นหัวเราะออกมาแล้วใช้มืออีกข้างหนึ่งตีอกอึนฮยอกไปเบาๆ

     

                “อย่าถามแบบนี้สิ ฉันกลัวนะ”

     

                “ฉันแค่อยากรู้ว่านายจะคิดยังไง?”

     

                “ถ้านายตาย ฉันก็ต้องเสียใจน่ะสิ”

     

                “แค่เสียใจเองเหรอ?” อึนฮยอกรู้สึกผิดหวังในคำตอบเรียบง่าย แต่คยูฮยอนกลับเลิกคิ้วสูง

     

                “จะไปรู้ได้ไงล่ะ นายไม่ได้ตายสักหน่อย คนที่ตายคือน้องชายของนาย ส่วนนาย...อึนฮยอก นายกำลังยืนอยู่ตรงหน้าฉัน”

     

                “งั้นฉันจะถามอีกคำถามเดียวก็แล้วกัน”

     

    อึนฮยอกขยับเข้าไปใกล้ๆ จนคยูฮยอนถอยหลังไปเรื่อยๆ ใกล้กับหน้าผา

               

    “คืนที่ฮยอกแจตาย นายโทรมาเล่าเรื่องที่ตัวเองเจอกับซีวอนให้ฉันฟังใช่ไหม?”

     

                “ฉะ...ฉันไม่เข้าใจ ทำไมนายถามแบบนั้นล่ะ?! อึน...อึนฮยอก?!

     

                คยูฮยอนเริ่มรู้สึกแปลกๆ ที่จะเรียกคนตรงหน้าว่าอึนฮยอก เขาไม่ค่อยแน่ใจเสียแล้ว แต่ว่าก็ไม่รู้ว่าจะพาตัวเองหลุดออกจากสถานการณ์ที่น่าอึดอัดนี้ได้อย่างไร

     

                “เป็นวันที่เจอกับซีวอนครั้งแรกสินะ แล้วนายก็คงจะรักเขามาก”

     

                “ฉันไม่ได้รักซีวอน”

     

                “นายรักเขา!

     

                อึนฮยอกส่งเสียงดังแล้วสลัดข้อมือของคยูฮยอนออกอย่างนึกรังเกียจ

     

                “เพราะนาย! นายโทรมาเล่าเรื่องบ้าๆ พวกนั้นให้อึนฮยอกฟัง นายทำให้เขาต้องฆ่าตัวตาย”

     

                “อะ...อะไรนะ ใครกันที่ฆ่าตัวตาย”

     

                “อึนฮยอกไงล่ะ อึนฮยอกที่นายบอกว่ารัก อึนฮยอกพี่ชายของฉัน เขาตายเพราะนายไงล่ะโจ คยูฮยอน”

     

                “นายกำลังพูดเรื่องอะไร ฉันไม่เข้าใจ” คยูฮยอนส่ายหน้าระรัว น้ำตาเอ่อนองเต็มใบหน้า รู้สึกขนลุกซู่ไปทั้งตัว ภาพเหตุการณ์มากมายไหลย้อนกลับเข้ามาในความคิดอีกครั้ง ทำให้คยูฮยอนตระหนักได้ว่านอกจากหน้าตาและสีผมแล้ว ผู้ชายคนนี้แตกต่างจากอึนฮยอกที่เขารู้จักมากเหลือเกิน

     

                “อึนฮยอกฆ่าตัวตายเหรอ เป็นไปได้ยังไงที่เขาจะ...”

     

                “นายเป็นเพื่อนคนเดียวของอึนฮยอก ทำไมนายไม่รู้อะไรเลย อย่ามาแกล้งตีหน้าเซ่อหน่อยเลย มันไม่มีประโยชน์อีกแล้วโจ คยูฮยอน”

     

                “ฉัน...ฉัน...”

     

                “นายมันเป็นฆาตรกร!

     

                “ไม่!” คยูฮยอนผลักอกฮยอกแจ ใช่แล้ว! อี ฮยอกแจน้องชายฝาแฝดของอี อึนฮยอกนั่นเอง เขาวิ่งลงเขาด้วยความรวดเร็วอย่างไม่คิดชีวิต ฮยอกแจเดินตามลงไปช้าๆ อย่างใจเย็นจนกระทั่งถึงรถยนต์ คยูฮยอนหยุดวิ่งและหันกลับมามองฮยอกแจด้วยสายตาปวดร้าว

     

                ในตอนนั้นรถยนต์ของซีวอนก็จอดริมทางพอดี ทงเฮกับซีวอนรีบเดินมาจากรถอย่างรวดเร็ว คยูฮยอนไม่กล้าแม้แต่จะหันไปมองสองคนนั้น เขามองฮยอกแจทั้งน้ำตาทำให้ฮยอกแจเดินเข้าไปใกล้ๆ แล้วดึงร่างโปร่งมาโอบกอดไว้

     

                เข็มนาฬิกาของทุกคนดูเหมือนจะหยุดเดินอยู่เพียงแค่นั้น ทงเฮรู้สึกว่าหัวใจของเขาหล่นตุ้บไปกองที่พื้น ส่วนซีวอนเองก็เบนหน้าหนีเพราะคิดว่านั่นคือคำตอบของคยูฮยอนแล้ว ฮยอกแจซุกหน้าไปกับไหล่ของคยูฮยอนแล้วกระซิบเสียงแผ่วเบา

     

                “ถ้าทงเฮรู้เรื่องนี้ล่ะก็ ฉันไม่ปล่อยนายไว้แน่”

     

     

    Talk with Eunnana

    หายไปนานเลยเนอะ จริงๆ คนแต่งเองก็เกือบลืมเรื่องนี้ไปแล้ว

    เพราะช่วงนี้ยุ่งมากๆ มีงานเข้าตลอด และทำงานก็เหนื่อยมากด้วย

    พูดไปก็หาว่าเป็นข้ออ้าง ฮ่าๆๆ แต่กลับมารายงานตัวแล้ว พร้อมดำเนินเรื่องอย่างรวดเร็ว

    หวังว่าคนอ่านทุกคนจะให้อภัยนะคะ

    รักเสมอ รักที่สุด รักอึนฮยอก

    ปล.สุขสันต์วันเกิดอี ทงเฮปลาน้อยๆ ของไก้(ฮยอก)แจ้

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×