คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 3 : Tell Me
Chapter 3
Tell Me
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นตั้งแต่เช้าตรู่ ปลุกให้ทงเฮ และอึนฮยอกสะดุ้งตื่นขึ้นมา คยูฮยอนผู้ซึ่งตื่นเป็นคนสุดท้ายควานหาโทรศัพท์มือถือที่วางไว้ข้างหมอนทั้งๆ ที่ตนยังไม่ลืมตาเลยด้วยซ้ำ
“เอ้านี่!” ฮยอกแจอ้อมแขนมาหยิบโทรศัพท์ให้ กดรับสายและแนบหูคยูฮยอนให้เสร็จสรรพ ทงเฮที่รู้ว่าอีกฝ่ายตื่นแล้วจึงแกล้งหลับตาปี๋ เขาไม่อยากตื่นไปสู้หน้าอึนฮยอกตอนนี้เลย
“อื้อ” คยูฮยอนรับสายเสียงงัวเงีย
[ผมรออยู่หน้าบ้านคุณแล้วนะ อาบน้ำเสร็จหรือยัง?]
“จะบ้าหรือไง นี่มันยังไม่เก้าโมงเลยนะ”
[ถ้ามาช้ากว่านั้น คุณก็จะหนีผมไปน่ะสิ] ซีวอนรู้ทันอีกแล้ว คยูฮยอนเด้งตัวขึ้นนั่งมองดูนาฬิกาที่ผนัง ก่อนจะเบิกตาโพลง
แปดโมงสี่สิบห้า!
นี่เขาตื่นสายขนาดนี้ได้ยังไงกัน
[ผมจะรออยู่ข้างล่างนะ] ซีวอนบอกอย่างอารมณ์ดี คยูฮยอนรู้ว่าหมอนั่นจะต้องมีแผนอีกแน่ๆ คราวก่อนก็หลอกให้เขาแต่งตัวเสียดิบดี นึกว่าจะพาไปทานอาหารที่ภัตตาคารหรู ที่ไหนได้พาไปผูกดวงที่วัดเสียอย่างนั้น
“ไม่ต้องรอ เพราะยังไงฉันก็ไม่ลงไป”
[งั้นผมจะขึ้นไปหาคุณข้างบนแล้วกัน] ซีวอนตัดสายไป คยูฮยอนจึงหุนหันออกไปจากห้อง เพราะรู้ว่าชายหนุ่มไม่พูดโกหกแน่ๆ เพราะถ้าซีวอนมาบ้านเมื่อไร แม่ก็พร้อมจะเปิดประตูต้อนรับอยู่เสมอ
แม่ไม่คิดบ้างหรือไงนะว่าลูกชายไม่ได้ชอบผู้ชายคนนี้สักนิด
หลังจากคยูฮยอนออกจากห้องไป ทงเฮคิดว่าพี่ชายของตนจะต้องขึ้นรถไปกับซีวอนแน่ๆ แม้ว่าปากจะปฏิเสธ แต่ก็เห็นไปกับกัปตันชเวทุกที
ทงเฮหลับตาลงอีกครั้ง คิดว่าจะหลับต่ออีกสักงีบ แต่เสียงขยับตัวเข้ามาใกล้ๆ ก็ทำให้เขานอนเกร็งไปทั้งตัว อึนฮยอกเข้ามานอนแทนที่คยูฮยอน ทว่าขยับเข้ามาใกล้ทงเฮมากกว่านั้น แขนแกร่งค่อยๆ โอบเอวบางของทงเฮอย่างระมัดระวังเพราะกลัวว่าทงเฮจะตื่น เมื่อทงเฮยังนอนนิ่งอยู่เช่นเดิม อ้อมกอดนั้นก็กระชับให้อบอุ่นมากขึ้น
นี่มันอะไรกันเนี่ย?!
ทงเฮได้แต่กรีดร้องอยู่ในใจ
เขาควรจะทำยังไงดี ควรจะผลักอึนฮยอกออกไปตอนนี้แล้วโวยวายให้ลั่นบ้าน หรือว่าจะนอนให้อีกฝ่ายกอดต่อไปอย่างนี้
จริงสิ บางทีอึนฮยอกอาจจะคิดว่าเขาเป็นคยูฮยอนก็ได้ เมื่อกี้อาจจะงัวเงียตื่นขึ้นมาหยิบโทรศัพท์ให้คยูฮยอน แต่ก็ยังไม่ตื่นเต็มตา และไม่รู้ว่าคยูฮยอนได้ออกจากห้องไปแล้ว
ทงเฮพยายามคิดให้ตัวเองสบายใจมากที่สุด อย่างน้อยอึนฮยอกก็ทำให้เขาหายเศร้าไปได้ในชั่วขณะหนึ่ง กลิ่นตัวของอึนฮยอกเหมือนฮยอกแจยามที่กอดเขา ทำให้ทงเฮรู้สึกสับสนเหลือเกิน เสี้ยววินาทีหนึ่ง เขาเผลอคิดไปว่านี่คือฮยอกแจจนเข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้งอย่างไร้ความกังวลใจใดๆ
ทงเฮไม่รู้เลยว่า...
อึนฮยอกนั้น...ไม่แม้แต่จะหลับตาเลยด้วยซ้ำ
ทงเฮตื่นขึ้นมาอีกครั้งหลังจากหลับไปครึ่งชั่วโมง เขามองดูห้องนอนสี่เหลี่ยมที่มีหมอนวางเรียงกันสามใบ แต่อีกสองคนหายไปแล้ว บ้านก็เงียบผิดปกติ แม้แต่เสียงช็อกโก้ก็ไม่ได้ยิน
ทงเฮลุกออกไปดูด้านนอก มีกระดาษโน้ตของแม่แปะไว้ที่โทรทัศน์บอกว่าจะออกไปพบเพื่อนข้างนอก ทงเฮไม่รู้ตัวเลยว่าเขามองหาอึนฮยอกมากกว่าช็อกโก้ที่หายไปตัวไปเสียอีก
จริงด้วย! ช็อกโก้ล่ะ
“ช็อกโก้!” ทงเฮตะโกนร้องอย่างตกใจ แล้วเดินตามหาเจ้าหมาน้อยจนทั่ว โปยปกติแล้วถ้าเขาออกมาจากห้อง ช็อกโก้จะวิ่งมาต้อนรับและคลอเคลียเขาไม่ว่ามันจะนอนอยู่ซอกมุมไหนของบ้านก็ตาม แต่นี่มันแปลกเกินไปแล้ว
อึนฮยอกก็หายไปอีก หรือว่า...
ทงเฮอ้าปากค้าง เขาไม่อยากจะเชื่อเลยหากเป็นแบบที่คิดจริงๆ มันเป็นจะเป็นไปได้ยังไงที่อึนฮยอกจะทำแบบนั้น ทงเฮรีบหยิบโทรศัพท์มาต่อสายหาพี่ชายอย่างรวดเร็ว
[อืม...มีอะไร?] คยูฮยอนบอกเสียงเนือยๆ ก่อนจะหันไปทะเลาะกับซีวอนอีกครั้ง ดูเหมือนทั้งคู่กำลังทานอาหารอยู่ที่ไหนสักแห่ง
“พี่คยูฮยอน ช็อกโก้น่ะ...ช็อกโก้หายตัวไป”
[เอ้า! แล้วจะมาบอกฉันทำไม ไปบอกแม่สิ]
“ก็แม่ไม่อยู่นี่...” ทงเฮบอกเสียงอ่อย ยิ่งเขาร้อนใจมาก คยูฮยอนกลับยิ่งทำน้ำเสียงรำคาญเต็มทน “แล้วพี่อึนฮยอกอยู่กับพี่ด้วยหรือเปล่า”
[ไม่ได้อยู่ มีอะไรอีกไหม ฉันจะกินข้าว แค่นี้นะ]
“ดะ...เดี๋ยวสิ!”
[ทำไมอีกล่ะ?!]
“พะ...เพื่อนของพี่น่ะ เขา...เขากินเนื้อหมาหรือเปล่า หรือว่า...”
[อี ทงเฮ แกประสาทหรือไง อึนฮยอกไม่ใช่คนแบบนั้นนะ ถ้าแกว่างมากจนคิดปัญญาอ่อนแบบนี้ก็ไปแจ้งความเถอะ หรือไม่ก็ไปตามหาหมาสุดที่รักของแกต่อเลยไป]
คยูฮยอนตัดสายไปอย่างรำคาญสุดๆ ทงเฮมุ่ยหน้าเศร้า เขาจะทำยังไงดี ช็อกโก้เป็นสิ่งสุดท้ายที่เป็นตัวแทนของพี่ฮยอกแจ เป็นเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้ทงเฮรู้สึกว่าพี่ฮยอกแจยังไม่ได้หายไปไหน
ทงเฮเดินคอตกออกไปหน้าบ้าน เขาตั้งใจจะไปแจ้งความอย่างที่คยูฮยอนประชดจริงๆ ทว่าเมื่อออกไปด้านนอก ชายหนุ่มผมทองก็เดินอุ้มลูกหมาตัวน้อยเข้ามาพอดี
“ช็อกโก้!”
“โฮ่ง” ช็อกโก้กระโดดลงจากอ้อมกอดของอึนฮยอกวิ่งมาหาเจ้าของ ทงเฮรับตัวมันมากอดไว้แน่น ทั้งหอมซ้ายหอมขวาราวกับไม่เจอกันนานหลายเดือน พอกอดจนพอใจแล้วก็เงยหน้าขึ้นมาตีหน้ายักษ์ใส่อึนฮยอกที่ยังยืนอยู่หน้าบ้าน
“คุณลักพาตัวช็อกโก้ไปไหนมา?”
“ห๊ะ?! ลักพาตัว? พะ...พี่เนี่ยนะ?” อึนฮยอกชี้นิ้วเข้าหาตัวเองอย่างงงๆ
“ก็ใช่น่ะสิ ถ้าไม่ลักพาตัวแล้วจะเรียกว่าอะไร บอกมานะว่าเอาช็อกโก้ไปทำไม ห้ามโกหกด้วย”
“พี่แค่พามันไปอึที่กองทรายตรงโน้น” เขาบอกพลางบุ้ยปากไปทางหน้าหมู่บ้าน ตรงนั้นมีกองทรายจริงๆ ด้วย แต่จะให้ทงเฮเชื่อได้ยังไงเล่า ในเมื่อผู้ชายคนนี้มีสองบุคลิกเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เดี๋ยวก็ยั่วโมโหเขา หน้าตาหล่อๆ อาจจะชอบกินเนื้อหมาก็ได้
“คุณคงไม่ได้จะเอาช็อกโก้ไปทำอาหารหรอกใช่ไหม?” ทงเฮเหล่ตาถาม
“คิดได้ไงน่ะ น่าน้อยใจชะมัด ทำดีไม่มีใครเห็น แถมยังโดนกล่าวหาอีก” อึนฮยอกส่ายหน้าแล้วทำท่าจะเดินเข้าบ้าน แต่ทงเฮเอาตัวมาขวางไว้
“เดี๋ยว!”
“มีอะไร หมดธุระของพี่แล้ว พี่จะเข้าบ้าน”
“เรื่อง...เอ่อ...เรื่องเมื่อคืนนี้อ่ะ” ทงเฮช้อนตาขึ้นมองอึนฮยอกที่เดินเข้ามาใกล้ จริงๆ ก็ไม่ได้อยากจะเปิดประเด็นหรอกนะ แต่จะให้เก็บไว้แบบนี้ทั้งวันก็อึดอัดจนหัวใจต้องระเบิดออกมาข้างนอกแหงๆ เลย
“เรื่องอะไร?” อึนฮยอกถาม
“ก็เรื่อง...” ทงเฮพูดไม่ออก เรื่องแบบนี้จะให้พูดออกไปง่ายๆ ได้ไงเล่า
“หืม?”
“ก็...ก็เรื่องนั้น”
“ที่พี่กอดนายอ่ะนะ”
“อืม” ตอบอีกฝ่ายสั้นๆ แล้วสะบัดหน้าหนีราวกับไม่ชอบขี้หน้า ทั้งที่ความจริงแล้วไม่กล้าสบตาอีกฝ่ายต่างหาก
“ก็ไม่มีอะไรนี่”
อึนฮยอกตอบสั้นๆ แต่ดวงตาของเขากลับยิ้มแพรวพราวเหมือนมีอะไร พูดจบก็เดินผ่านทงเฮเข้าไปข้างในหน้าตาเฉย
“อะไรกัน ทำไมบอกว่าไม่มีอะไรล่ะ ตอบง่ายๆ แบบนี้ได้ยังไง เมื่อคืนคุณกอดผมตั้งนานนะ”
ทงเฮเดินตามอีกฝ่ายอย่างคาดคั้น จนอึนฮยอกหยุดและหันมาอย่างรวดเร็วทำให้หน้าผากของทงเฮจนกับไหล่หนาที่กำลังหันมาอย่างแรง
“โอ๊ย!”
“เจ็บไหมล่ะนั่น” อึนฮยอกถามเหมือนจะเป็นห่วง แต่กลับขำพรืดกับท่าทางของคนตรงหน้า
“เรื่องเจ็บเอาไว้ก่อนเถอะ แต่เรื่องเมื่อคืนนี้...”
“แล้วนายอยากให้มีอะไรหรือไงล่ะ?”
คำถามที่ย้อนถามกลับมาของอึนฮยอกทำให้ทงเฮเงียบลง นั่นสินะ บ้าไปแล้วทงเฮ ทำไมถึงได้ขุดหลุมฝังตัวเองแบบนี้เนี่ย แถมเป็นหลุมที่ลึกเสียด้วย ใบหน้าหวานมองตาอึนฮยอกปริบๆ ก่อนจะส่ายหน้าไปมา
อึนฮยอกฉีกยิ้มกว้างให้กับท่าทางหงอยๆ ไปของทงเฮ เขาขยี้ผมของทงเฮจนยุ่งเหยิง คนตัวเล็กกว่ายืนตัวหนักอึ้งอยู่กับที่ รู้ตัวอีกทีอึนฮยอกก็หายเข้าไปในห้องนอนเสียแล้ว
หลังจากทานอาหารมื้อเช้าตอนสายๆ เสร็จแล้ว คยูฮยอนก็งอแงจะกลับบ้านท่าเดียว แต่ซีวอนที่อุตส่าห์ได้หยุดพักตั้งสองวันก็ไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายกลับบ้านไปได้ง่ายๆ
“ถ้าคุณกลับไป คุณก็จะอยู่กับเพื่อนคุณน่ะสิ”
“อ้าว! ก็ที่ฉันจะกลับเพราะว่าฉันจะกลับไปหาอึนฮยอกไง” คยูฮยอนทำหน้าบูด เขาไม่ได้ใจกล้าขนาดเปิดประตูแล้วกระโดดลงจากรถขณะที่รถยนต์กำลังวิ่งด้วยความเร็วร้อยยี่สิบกิโลเมตรต่อชั่วโมงหรอกนะ
“ไม่มีทางซะหรอก ผมไม่ชอบเขา”
“ฉันก็ไม่ได้ขอให้นายชอบนี่”
“ทำไมพูดง่ายแบบนี้ล่ะคยูฮยอน คุณเป็นของผมแล้วนะ”
“เมื่อไรนายจะเลิกพูดคำนี้สักที!” คยูฮยอนขึ้นเสียง เขาโกรธจริงๆ แล้วนะที่ซีวอนเอาเรื่องคืนนั้นมาพูดซ้ำแล้วซ้ำอีก ทว่าใบหน้าหวานกลับแดงเรื่อไปจนถึงใบหู
“ก็คุณเป็นของผมนี่”
“ฉันก็ไม่ใช่คนแรกของนายสักหน่อย” คยูฮยอนกัดริมฝีปากอย่างลืมตัว คิดแล้วยังอับอายไม่หาย เขาควรจะลืมเรื่องนี้ไปตั้งแต่วันแรกที่กลับมาเกาหลี แต่เพราะชเว ซีวอนพูดกรอกหูทุกวันนี่แหละ คยูฮยอนถึงลืมไม่ได้เสียที
“คุณชอบผมล่ะสิถึงพูดแบบนั้น” ซีวอนเหล่ตาถาม
“ไม่! ฉันชอบอึนฮยอก”
“งั้นชอบใครมากกว่ากัน?”
“ก็ต้องชอบอึนฮยอกมากกว่าน่ะสิ” คยูฮยอนตอบอย่างไม่ลังเล ซีวอนจึงหักพวงมาลัยเลี้ยวกลับไปทางที่เพิ่งผ่านมาอย่างรวดเร็วจนคยูฮยอนกำเข็มขัดนิรภัยไว้แน่น
ซีวอนพาคยูฮยอนมาที่นัมซานทาวเวอร์ คยูฮยอนบอกว่าจะรออยู่ในรถ แต่ก็โดนฉุดขึ้นไปจนถึงข้างบนจนได้ เขาไม่ยอมมองหน้าซีวอนเลยไม่รู้เลยว่าซีวอนได้พกถุงพลาสติกขนาดใหญ่มาด้วย
“พามาทำไม?” คยูฮยอนเอ่ยถามเมื่อเห็นกุญแจหลากสีสันแขวนอยู่เต็มไปหมด เขายังแอบเหล่มองหากุญแจสีชมพูหวานที่เคยมาคล้องตอนเป็นแฟนกับผู้หญิงอยู่เลย แต่เมื่อเสียงซีวอนดังขึ้น คยูฮยอนก็ล้มเลิกที่จะหามันอีก
“ก็อย่างที่คุณคิดนั่นแหละ”
“อย่า...อย่านะซีวอน ไม่นะ” คยูฮยอนส่ายหน้าระรัว แต่ซีวอนก็เอากุญแจดอกใหญ่ออกมาจากถุงพลาสติกจนได้ กุญแจที่ใหญ่พอๆ กับแขนของซีวอนเลย
“ผมจะทำมัน”
“ไม่เกี่ยวกับฉันหรอก”
คยูฮยอนเดินไปหลบอีกมุมหนึ่ง ซีวอนเตรียมตัวมาจากบ้านอยู่แล้ว บนแม่กุญแจไม่ได้ถูกเขียน หากแต่ถูกสลักไว้ว่า ‘ซีวอนรักคยูฮยอน’ เขานำมันไปแขวนไว้อย่างเด่นหรา ก่อนจะโยนลูกกุญแจไปด้านล่าง
“เห้ย!” คยูฮยอนร้องลั่น แต่ซีวอนกลับเดินมาหาคยูฮยอนแล้วจับมือเรียวขึ้นมา ซีวอนวางลูกกุญแจลงบนมือคยูฮยอนแล้วเอ่ยขึ้น
“กุญแจสำรองไง ผมให้คุณ”
“...”
“ผมขอร้อง อย่าเพิ่งเอามันออกตอนนี้ คยูฮยอน...ผมรักคุณนะ”
ซีวอนจับมือคยูฮยอนไว้ไม่ยอมปล่อย เขาย่อตัวนั่งคุกเข่าเหมือนเจ้าบ่าวที่กำลังขอเจ้าสาวแต่งงาน คยูฮยอนหันหน้าหนีไปทางอื่น ในขณะที่นักท่องเที่ยวหลายคนหันมามองอย่างสนใจและเริ่มตีวงล้อมเพื่อลุ้นกับฉากรักที่แสนหวาน
“ผมให้เวลาคุณสามวัน ถ้าคุณไม่ใจร้ายจนเกินไป เรามาคบกันเถอะนะคยูฮยอน"
ตอนบ่ายวันนั้นทงเฮออกมานั่งทำรายงานที่หน้าบ้าน โดยปกติแล้วเขาไม่คิดจะมานั่งโต๊ะหินอ่อนหน้าบ้านเลยด้วยซ้ำ ถ้าไม่ติดว่าในบ้านมีใครบางคนนอนเหยียดยาวดูโทรทัศน์ประหนึ่งว่าเป็นเจ้าของบ้านเสียเอง ทงเฮก็คงเลือกที่จะนั่งทำรายงานอยู่ข้างใน
จะว่าไปแล้ว...นี่เป็นครั้งแรกในรอบสองปีตั้งแต่เขามานั่งที่นี่ครั้งสุดท้าย
ทงเฮแทบไม่มีสมาธิการทำงานเลย เขารู้ดีว่าผู้ชายผมทองประกายเป็นฝาแฝดของพี่ฮยอกแจ เขารู้อยู่แก่ใจ แต่ก็พ่ายแพ้ให้กับสายตาคู่นั้นอยู่เสมอ
ทำไมกันนะ
ต้องเข้มแข็งให้มากกว่านี้สิอี ทงเฮ
ไม่! อย่าไปคิดถึงคนแบบนั้นอีก เขาก็แค่...
“คิดถึงใครอยู่เหรอ?”
“นายน่ะสิ ว้าก!” ทงเฮตอบอย่างลืมตัว เมื่อหันหน้ามาพบใบหน้าคมก็หงายหลังอย่างตกใจจนแทบจะร่วงจากโต๊ะ ดีที่อึนฮยอกคว้าข้อมือไว้ทันและฉุดขึ้นมาอีกครั้ง
“ระวังหน่อยสิ เดี๋ยวก็หัวร้างข้างแตกหรอก”
“นายก็ปล่อยมือฉันสักทีสิ” ทงเฮพูดไม่สุภาพ ไม่ใช่ไม่อยากเคารพ แต่เพราะเขาเขินจนไม่รู้จะพูดยังไงต่างหากเล่า
อึนฮยอกปล่อยมือแล้วนั่งลงข้างๆ กัน เขาทำท่าเมียงมองหนังสือของทงเฮ แต่ทงเฮเอาหนังสือมากอดไว้แน่นเหมือนเด็กหวงของ อึนฮยอกจึงทำเป็นไม่สนใจและเปลี่ยนเรื่องคุย
“เมื่อไรคยูฮยอนจะกลับมา?”
“ผมจะไปรู้เหรอ คุณก็โทรหาพี่คยูฮยอนเองสิ”
“พี่ไม่มีเบอร์คยูฮยอน”
“เป็นเพื่อนกันภาษาอะไรถึงไม่มีเบอร์โทรศัพท์กันเนี่ย” ทงเฮบอกพลางยื่นโทรศัพท์ให้ แต่แล้วก็เปลี่ยนใจยึดโทรศัพท์คืน
“ทำไมล่ะ?!” อึนฮยอกเลิกคิ้วถาม
“ผมมีเรื่องจะถามคุณ”
“อื้อ ว่ามาสิ”
“คุณมาที่นี่ทำไม คุณไม่ได้ติดต่อพี่คยูฮยอนนานแล้ว แถมยังไม่มีเบอร์โทรศัพท์เขา มีจุดประสงค์อะไรแอบแฝงหรือเปล่า?” ทงเฮถามออกมามากมายเท่าที่เขาจะนึกได้ อึนฮยอกที่ยิ้มกว้างในทีแรกเปลี่ยนสีหน้าแทบไม่ทัน ทงเฮไม่แน่ใจว่าเขามองผิดไปหรือเปล่าที่เห็นอึนฮยอกหน้าซีดขนาดนั้น
“ไม่ใช่พี่ไม่มีเบอร์โทรศัพท์คยูฮยอน แต่คยูฮยอนก็ไม่มีเบอร์พี่เหมือนกัน ส่วนเรื่องที่พี่มาที่นี่...มันไม่เกี่ยวกับนาย”
“ผมเป็นน้องของพี่คยูฮยอนนะ!”
“เอาเป็นว่ามันไม่เกี่ยวก็แล้วกัน ไว้สักวันพี่จะบอก...บอกนายเป็นคนแรกเลย” อึนฮยอกเอามือวางบนศีรษะของทงเฮอีกแล้ว ทงเฮคิดว่าตัวเองควรจะผละออก ควรจะปัดมืออึนฮยอกออกจากตัวเอง แต่เขากลับมองดวงตาสีน้ำตาลเข้มของอึนฮยอกอย่างตกอยู่ในภวังค์
“เอ่อ...คือว่า...”
“รีบทำรายงานซะสิ อยากให้ช่วยอะไรไหม พี่เขียนรายงานเก่งนะ”
อึนฮยอกเสนอตัว สุดท้ายก็โดนทงเฮหลอกใช้ให้เขียนรายงานจนจบเล่ม ส่วนเจ้าของรายงานกลับนั่งฟุบหลับหน้าตาเฉย
บรรทัดสุดท้ายของรายงานถูกเขียนลงไปแล้ว พร้อมกับข้อความที่เขียนด้วยดินสอเบาๆ ว่า...
อย่าตกหลุมรักฉันเลยทงเฮ มันเร็วไปที่นายจะรู้สึกแบบนั้น
ฉันคืออึนฮยอก...ไม่ใช่อี ฮยอกแจ
ขอโทษด้วยนะ
ก่อนที่น้ำตาของชายหนุ่มจะเอ่อไหลและเปรอะเปื้อนสมุดรายงาน เขารีบลบข้อความเหล่านั้นออก และทงเฮก็จะไม่มีวันได้เห็นมัน
Talk with Eunnana
จริงๆ แล้ว ถ้าใครสังเกตนะคะ
ชื่อตอนทุกตอนจะเอามาจากเพลงของ WG ล้วนๆ
และตอนต่อๆ ไปก็ด้วยเช่นกันค่า
ขอโทษด้วยที่อึนนาน่าไม่ได้มาอัพบ่อยๆ เพราะว่าทำงานดึกทุกวันเลย T_T
เจอกันอีกครั้งวันหยุดจ้า...
ความคิดเห็น