ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SuJu Fiction] +++ Nobody Knows...+++ [EunHae, WonKyu]

    ลำดับตอนที่ #12 : Chapter 11 : Friend

    • อัปเดตล่าสุด 5 ธ.ค. 55


     

     

     

    Chapter 11

    Friend

     

     

                คยูฮยอนนั่งบีบมือตัวเองแน่นอย่างไม่ได้ตั้งใจ เขาเป็นอย่างนี้มาหลายชั่วโมงแล้ว ซึ่งจริงๆ แล้วอาการนี้มันเริ่มต้นขึ้นมาจากเมื่อวานนี้ตอนหัวค่ำ ตอนที่เขามุ่งมั่นที่จะหาความจริงเรื่องการตายของอึนฮยอก ตอนที่ฮยอกแจมาหาเขาเกือบครึ่งชั่วโมง และหลังจากที่ฮยอกแจกลับไปได้ไม่กี่นาที

     

                เมื่อวานนี้...

     

                คยูฮยอนพยายามนั่งคิดอยู่ตลอดทั้งวันว่าเขาจะเริ่มต้นจากตรงไหนดี ไม่รู้ว่าจะสามารถไขความจริงได้อย่างไร ในเมื่อช่วงเวลาที่เกิดเหตุมีเพียงฮยอกแจเท่านั้นที่อาศัยอยู่กับอึนฮยอก และคยูฮยอนเองก็อยู่ที่ฟลอริดา ไม่ใช่ที่นิวยอร์ก

     

                เขานั่งคิดอยู่เป็นครึ่งค่อนวัน จนกระทั่งตอนที่แม่ก็ยกอาหารเย็นเข้ามาวางบนโต๊ะ และเรียกเขาออกไปกิน แม่ถามถึงเพื่อนๆ ที่อเมริกาว่าแต่ละคนได้งานทำกันบ้างหรือยัง มีใครที่ตกงานและเดินลอยชายไปมาเหมือนคยูฮยอนบ้างไหม

     

                ในตอนนั้นเองที่คยูฮยอนก็เพิ่งนึกขึ้นได้

     

                “จริงด้วย! เพื่อนๆ ของผม” คยูฮยอนตะโกนลั่นจนแม่ที่กำลังจะตักข้าวใส่ปากสะดุ้งตกใจตามไปด้วย

     

                “อะไรของแก?”

     

                “ขอบคุณนะแม่ แม่ทานข้าวไปก่อนเลย ผมมีเรื่องที่จะต้องจัดการ”

     

                คยูฮยอนรีบวิ่งหายเข้าไปในห้องนอน เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาและไล่ดูเบอร์โทรเพื่อนๆ ที่ปกติก็ไม่ค่อยจะโทรหากันบ่อยนัก คยูฮยอนเป็นคนที่ไม่ค่อยเป็นมิตรสักเท่าไร เพื่อนที่เขาสนิทด้วยมากที่สุดก็มีแต่อึนฮยอกเท่านั้น

     

                ปาร์ค จองซู...เหมือนหมอนั่นจะเข้ากรมทหารไปได้ไม่นาน

     

                คิม ฮีชอล...ตอนนี้หายไปไหนก็ไม่รู้ มีข่าวลือว่าเขาแปลงเพศไปแล้ว คยูฮยอนจึงไม่กล้าโทรไปหา

     

                หาน เกิง...เพื่อนชาวจีนที่ไม่สามารถติดต่อได้

     

                คิม จงอุน...ก็ดูเหมือนจะยุ่งอยู่กับการทำธุรกิจแว่นตาของครอบครัว

     

                คิม ยองอุน...ผู้ชายที่เคยเป็นกิ๊กกับเขา แบบนี้ก็ไม่สมควรจะโทรไป

     

                ชิน ดงฮี...คยูฮยอนไม่ค่อยสนิทกับดงฮีเท่าไรนัก เพราะหมอนั่นตัวติดกับซองมินตลอด

     

                อี ซองมิน...เหตุผลเดียวกันกับคนข้างบน

     

                คิม รยออุค...ผู้ชายประหลาดๆ และชอบทำท่าทางแปลกๆ เหมือนกอลั่ม เขาไม่ค่อยกล้าจะคุยนักหรอก

     

                ในลิสท์รายชื่อของเพื่อนๆ ที่เรียนอยู่ที่นิวยอร์กมีเพียงเท่านี้ ถ้าเทียบกันระหว่างสองคนสุดท้าย ซองมินดูเป็นคนที่เป็นมิตรมากกว่า ถึงแม้จะตัวติดกับดงฮีเพราะเรื่องลดน้ำหนัก แต่ก็น่าจะพอให้ความช่วยเหลือแก่เขาได้ คยูฮยอนจึงรีบโทรศัพท์ออกไปหาซองมินอย่างรวดเร็ว

     

                [ยอโบเซโย] ซองมินรับสายด้วยน้ำเสียงหวานน่ารักตามแบบฉบับของตัวเอง คยูฮยอนสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วจึงเอ่ยขึ้น

     

                “ซองมิน ฉันคยูฮยอนเองนะ โจ คยูฮยอน”

     

                [อ้อ! คยูฮยอนนั่นเอง มีอะไรเหรอ?]

     

                “นายว่างคุยหรือเปล่า?” คยูฮยอนถามเพราะเสียงที่ลอดโทรศัพท์เข้ามาฟังดูอึกทึกครึกโครมเสียเหลือเกิน

     

                [ฉันกำลังเล่นฟิตเนสอยู่กับดงฮีน่ะ แต่คุยได้นะ]

     

                “พอดีว่าฉันมีเรื่องหนึ่งอยากจะถามนาย”

     

    คยูฮยอนเงียบไปพักหนึ่ง เรื่องการตายของอึนฮยอกผู้เป็นที่รักของทุกคนเป็นเรื่องเศร้า ขนาดเขาอยู่ห่างไกล เขายังรู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ แล้วเพื่อนๆ ชาวเกาหลีที่อยู่ในหอพักเดียวกับอึนฮยอกในวันที่เกิดเหตุล่ะจะรู้สึกอึ้งกันมากแค่ไหน คยูฮยอนรวบรวมความกล้าอยู่ชั่วอึดใจหนึ่ง ก่อนจะพูดมันออกไป

     

    “นายพอจะรู้เรื่องที่อึนฮยอกตายหรือเปล่า?”

     

    [ทำไมอยู่ดีๆ นายถึงถามเรื่องนี้ขึ้นมาล่ะ นายเป็นคนเดียวที่ไม่เคยติดต่อกลับมา พวกเรายังตกใจเลยที่นายไม่ไปร่วมงานศพของเขา] ซองมินทำเสียงตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด ก็แน่ล่ะสิ เพราะอี ฮยอกแจตั้งใจจะปิดข่าวเรื่องนี้มาโดยตลอดนี่นา แต่เพราะคยูฮยอนไม่เคยติดต่อเพื่อนๆ คนอื่นเลยนอกจากอึนฮยอก เขาจึงไม่เคยรู้เลยว่าเพื่อนๆ ทุกคนต่างก็รู้เรื่องนี้ ยกเว้นเขา

     

    “ฉันไม่รู้จริงๆ” คยูฮยอนพูดเสียงอ่อยๆ อย่างรู้สึกผิด เขารู้สึกผิดมาตลอดที่เพื่อนสนิทอย่างเขาไม่สามารถช่วยชีวิตอึนฮยอกได้ เขาไม่แม้แต่จะไปร่วมแสดงความเสียใจต่ออึนฮยอกเป็นครั้งสุดท้ายเลยด้วยซ้ำ

     

    [จริงๆ ฉันก็ไม่รู้เรื่องนี้มากหรอกนะ นายลองไปถามคิบอมดูเองสิ]

     

    “ใครนะ?”

     

    [คิม คิบอมไง!] ซองมินย้ำอีกครั้งทำให้คยูฮยอนเพิ่งนึกอะไรออกมาได้ จริงสินะ นอกจากเพื่อนที่คยูฮยอนรู้จักทั้งหมดแล้ว ยังมีคิม คิบอมอีกคนหนึ่งที่เขามองข้ามไป จริงๆ แล้วก่อนที่เขาจะรู้จักกับอึนฮยอก อึนฮยอกเองก็เคยสนิทกับคิบอมมาก่อน พอคยูฮยอนย้ายไปเรียนต่อที่นั่น เขาจึงไม่ชอบหน้าคิบอมไปโดยปริยายเพราะกลัวว่าคิบอมจะมาแย่งเพื่อนรักของตัวเองไป

     

    “ฉันไม่มีเบอร์คิบอมหรอก”

     

    [รอเดี๋ยวนะ!]

     

    ซองมินกดดูเบอร์ในสมุดโทรศัพท์สักพักหนึ่ง ก่อนจะบอกเบอร์โทรของคิบอมให้กับคยูฮยอน คยูฮยอนจดใส่กระดาษตัวโตๆ ไว้แล้วได้แต่มองหมายเลขในมืออยู่อย่างนั้น เขาไม่กล้าโทรไปหาคิบอมเลย เขาไม่เคยจะคุยดีกับคิม คิบอมได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว

     

    จนกระทั่งฮยอกแจมาหา...

     

    “ไหนล่ะความจริง?!” ฮยอกแจถามห้วนๆ แล้วยิ้มเยาะให้กับคยูฮยอนที่นั่งเหม่อลอยอยู่ในห้องนอน

               

    “ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น”

     

                “ก็แน่ล่ะสิ ผู้ร้ายปากแข็งก็ต้องตอบแบบนี้แหละ”

     

                “นี่! มันผ่านมาสักกี่วันกันเชียว นายจะมาคาดคั้นอะไรฉันนักหนา เอาเวลาไปดูทงเฮดีกว่าไหม ป่านนี้คงไปถึงไหนต่อไหนกับซีวอนแล้ว” คยูฮยอนโวยลั่นเพราะหงุดหงิดที่ถูกฮยอกแจเข้ามากวนประสาท ฮยอกแจแก้แค้นเขาแบบเด็กๆ ก็จริง แต่กลับทำให้เขาแทบจะเป็นโรคประสาทตายอยู่แล้ว

     

                “พูดแบบนี้ นายหึงทงเฮกับซีวอนล่ะสิ”

     

                คยูฮยอนตวัดหางตาขึ้นมองฮยอกแจ ใช่แล้วล่ะ เขาหึง หึงมากด้วยที่ทงเฮบอกว่าเป็นแฟนกับซีวอน และคยูฮยอนก็โกรธซีวอนมากด้วยที่ทำแบบนี้กับเขา มันคืออะไรกัน รักพี่เสียดายน้องงั้นเหรอ หรือว่า...แค่ไม่ได้พี่แล้วก็จะเอาน้อง เขาไม่ตอบคำถามของฮยอกแจ ทำได้เพียงแต่ถอนหายใจอย่างที่เคยทำเท่านั้น

     

                “สุดท้ายนายก็เป็นแค่ฆาตกรที่ฆ่าพี่ชายของฉัน”

     

                “เมื่อไรนายจะเลิกพูดแบบนี้สักที”

     

                “นายก็หาหลักฐานมายืนยันเร็วๆ สิ” ฮยอกแจเบะปากแล้วเลิกคิ้ว

     

                “ถ้าอยากรู้นักนายก็โทรหาผู้ชายคนนี้เองแล้วกัน ดูเหมือนว่าเขาจะรู้ทุกอย่าง!” คยูฮยอนพูดจบก็ขยำกระดาษที่จดเบอร์ของคิบอมแน่นแล้วปาใส่อกของฮยอกแจ ฮยอกแจเก็บกระดาษนั้นขึ้นมา เขามองเพียงรอบเดียวก็จดจำตัวเลขทั้งหมดได้ จากนั้นจึงปล่อยกระดาษทิ้งลงบนพื้นแล้วเดินจากห้องไป

     

                คยูฮยอนนั่งอยู่ในห้องอีกนานหลายนาทีจนกระทั่งฮยอกแจขับรถออกไป เขาจึงเริ่มโทรหาคิบอม

     

     

     

                สองวันต่อมา

     

                ทงเฮพยายามดักรอคนเกาหลีที่อยู่หน้าหอพัก แต่เพราะช่วงนี้เป็นฤดูกาลสอบจึงไม่ค่อยมีนักศึกษาออกไปข้างนอกกันมากนัก ส่วนใหญ่จะอ่านหนังสืออยู่บนหอพักอย่างเคร่งเครียด และสั่งอาหารขึ้นไปกินบนห้องกันทั้งนั้น

     

                ทงเฮตื่นตั้งแต่เช้าเพื่อมายืนรอคนเกาหลีที่อาจจะเดินผ่านไปผ่านมา แต่เพราะว่าหอพักไม่ได้มีแค่ตึกเดียว เขาจึงไม่รู้ว่าจะไปตามหาคนที่รู้เรื่องของอึนฮยอกได้จากที่ไหน

     

                จนกระทั่งวันนี้...

     

                “ขอโทษนะครับ คุณฟังภาษาเกาหลีออกหรือเปล่า?” ทงเฮเอ่ยถามขึ้นด้วยภาษาถิ่นของตัวเอง เขาทำอย่างนี้มาเป็นร้อยๆ ครั้งแล้ว ถ้าไม่ใช่คนเกาหลีก็จะทำหน้างงๆ แล้วเดินจากไป ทงเฮโมโหมากจนเขาต้องเลือกผู้ชายผิวคล้ำคนหนึ่งในชุดเสื้อโค้ทตัวใหญ่สีดำสนิท ชายคนนั้นหันมาเลิกคิ้วแล้วเอ่ยขึ้น

     

                “ผมเป็นคนเกาหลี!

     

                “บิงโก!!!” ทงเฮกระโดดหยองแหยงอย่างดีใจราวกับถูกล็อตเตอรี่รางวัลใหญ่ ก่อนจะแนะนำตัวเองขึ้นมา “ผม...ผมชื่ออี ทงเฮนะครับ”

     

                “หืม...อี ทงเฮเหรอ?” ผู้ชายคนนั้นทำสีหน้าประหลาดใจและก็ยิ้มออกมาด้วย

     

                “ทำไมเหรอครับ?” ทงเฮเอ่ยถาม

     

                “เปล่าครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะ ผมชื่อคิม คิบอม”

     

                ทงเฮไม่ได้คิดอะไรไปมากกว่านั้นอีก เขาแค่ดีใจมากที่ได้เจอคนเกาหลี แม้ว่าผู้ชายคนนี้อาจจะไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับอึนฮยอกก็ตาม แต่ก็โชคดีมากจริงๆ ที่ผู้ชายคนนี้พูดภาษาเดียวกันกับเขา

     

                “ผมมีเรื่องจะขอร้องให้คุณช่วยหน่อย”

     

    ทงเฮเอ่ยขึ้น ผู้ชายคนนั้นพยักหน้าหงึกหงักช้าๆ แล้วพาทงเฮไปหาที่นั่งคุยกัน พวกเขานั่งอยู่บนเก้าอี้ยาวในสวนสาธารณะใกล้ๆ หอพัก และทงเฮก็เริ่มต้นถามขึ้น

     

    “คุณรู้จักผู้ชายคนนี้หรือเปล่าครับ?” ทงเฮเอ่ยถามพร้อมกับหยิบภาพของฮยอกแจให้คิบอมดู

     

    “อี อึนฮยอก!” เขาพูดโดยที่สีหน้าเรียบเฉยมาก เหมือนน้ำเสียงของเขาจะเศร้านิดๆ ด้วย แต่ทงเฮกำลังตื่นเต้นที่จะได้รู้ความจริงทั้งหมดจึงไม่ได้สังเกตเห็นท่าทางเหล่านั้นเลย

     

    “ใช่! เขาชื่ออึนฮยอก เป็นพี่ชายฝาแฝดของแฟนผม อี ฮยอกแจน่ะ”

     

    “ผมรู้จักฮยอกแจ แต่ไม่เคยพบเขา”

     

    “แล้ว...เอ่อ...คุณ...คุณรู้เรื่องที่พี่อึนฮยอกฆ่าตัวตายเมื่อหกเดือนก่อนหรือเปล่า?”

     

    ทงเฮไม่แน่ใจว่าเขาควรจะถามออกไปหรือไม่ แต่ในเมื่อเขาเหลือเวลาอีกแค่ห้าวันเท่านั้น แล้วภายในห้าวันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะโชคดีเหมือนวันนี้อีกหรือเปล่า ทงเฮจึงต้องรีบถามสิ่งที่ค้างคาใจออกไปให้หมด

     

    “ผมรู้สิ ผมต้องรู้แน่นอน”

     

    “ทำไมคุณมั่นใจขนาดนั้น?” ทงเฮเริ่มสงสัย ในตอนนั้นเองที่เขาเพิ่งจะสังเกตเห็นความรู้สึกบางอย่างที่อยู่ในดวงตาของคิม คิบอม

     

    “ผมจะเล่าให้คุณฟังทีหลังแล้วกัน”

     

    “ทำไมล่ะ?!

     

    “เมื่อสองวันก่อนก็มีคนโทรมาถามผมเกี่ยวกับเรื่องนี้ มันแปลกมากที่พวกคุณเพิ่งจะมาถามทั้งๆ ที่มันก็ผ่านมาตั้งหกเดือนแล้ว”

     

    “ใคร...ใครโทรมาถามเหรอครับ?” ทงเฮงงไปหมดแล้ว มีคนที่พยายามจะสืบหาความจริงพร้อมๆ กับเขาด้วยเหรอ หรือว่าจะเป็นอี ฮยอกแจ

     

    “โจ คยูฮยอนน่ะ” คิบอมตอบเสียงเรียบทำให้ทงเฮเบิกตากว้าง

     

    “เขาเป็นพี่ชายของผมเอง”

     

    “อะไรนะ พี่ชาย...พี่ชายแท้ๆ น่ะเหรอ?”

     

    “เอ่อ...เราก็แค่...มีแม่คนเดียวกันน่ะ” ทงเฮคิดว่าเขาไม่มีอะไรจะต้องปิดบังเกี่ยวกับเรื่องของครอบครัวของตัวเอง มันไม่ใช่เรื่องที่น่าเสียหาย ในเมื่อใครๆ ต่างก็รู้เรื่องนี้ ดูเหมือนว่าคิบอมจะรู้จักพี่ชายของเขาด้วย แต่ก็ไม่ยอมเล่าเรื่องของอึนฮยอกให้เขาฟังเสียที ร่างสูงนั่งไขว้ห้างช้าๆ เหม่อมองออกไปไกลๆ แล้วเอ่ยต่อ

     

    “คยูฮยอนเป็นรูมเมทกับอึนฮยอก”

     

    “ผมพอจะทราบเรื่องนี้ครับ”

     

    “แต่เขาไม่เคยรู้เลยว่าอึนฮยอกมีรสนิยมแบบไหน?”

     

    “ห๊ะ! รส...รสนิยม?!” ทงเฮพูดตะกุกตะกักเพราะไม่เข้าใจในสิ่งที่คิบอมต้องการจะสื่อออกมา คิบอมหันมาจ้องหน้าทงเฮแล้วเอ่ยถามราวกับเรื่องนี้เป็นปริศนาที่ทงเฮต้องแก้ไขให้ได้

     

    “คุณคิดว่าเราสองคนต่างกันไหมล่ะ?”

     

    “ผม...คิดว่า...เราต่างกันนะ ถ้าเปรียบเราเป็นแม่เหล็ก ผมกับคุณก็น่าจะอยู่คนละด้านกัน...ใช่ไหม?”

     

    “ใช่!” คิบอมพยักหน้าแล้วดีดนิ้วให้กับความเฉลียวฉลาดของทงเฮ “อึนฮยอกไม่ใช่แบบผม แต่เป็นเหมือนกับคุณ!

     

    “ไม่จริงหรอก เป็นไปได้ยังไงในเมื่อพี่คยูฮยอน...”

     

    “เพราะว่าเขาเข้าใจผิดไงล่ะ”

     

    คิบอมบอกเสียงเรียบ แต่ทงเฮกลับอึ้งยิ่งกว่าเดิมเสียอีก เป็นไปได้ยังไงกันในเมื่อพี่ฮยอกแจอยู่คนละด้านกับเขา พี่อึนฮยอกก็น่าจะเป็นเหมือนพี่ฮยอกแจไม่ใช่เหรอ ทำไมคิม คิบอมถึงได้มั่นใจมากขนาดนั้น แล้วทำไมพี่ชายของเขาถึงไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย

               

    “ผมเป็นแฟนของอึนฮยอก”

     

                คำตอบของคิบอมตรงไปตรงมา ชัดเจน และอธิบายได้ทุกอย่างในคราวเดียวกัน

     

                และนั่นก็เป็นสาเหตุให้คยูฮยอนนั่งช็อคข้ามวันจนถึงตอนนี้...

     

     

     

                สิ่งที่ทงเฮได้รู้เมื่ออยู่อเมริกา และสิ่งที่คยูฮยอนได้รู้มานั้นถูกต้องตรงกัน คิบอมบอกความจริงกับพี่น้องทั้งสองด้วยคำถาม...

     

                แม้จะต่างเวลา ต่างสถานที่ แต่ข้อมูลแทบจะไม่แตกต่างกันเลยแม้แต่เสี้ยวประโยค

     

                ทำไม...อึนฮยอกเรียบร้อยและใส่แว่นตลอดเวลา

     

              ทำไม...อึนฮยอกถึงทำผมสีอ่อนๆ อย่างเช่นสีทองจนใบหน้าของตัวเองดูหวาน

     

              ทำไม...อึนฮยอกถึงขับรถไม่เป็น

     

              ทำไม...อึนฮยอกถึงได้ดูอ่อนแอนักถ้าเทียบกับอี ฮยอกแจ

     

                ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เพราะว่าอึนฮยอกมีคิบอมคอยอยู่ข้างๆ ตลอดเวลาหรอกเหรอ อึนฮยอกมักจะไม่พูดถึงคิบอมเวลาที่อยู่กับคยูฮยอน เพราะอึนฮยอกคิดว่าคยูฮยอนไม่ชอบคิบอม คยูฮยอนจึงไม่เคยรู้เลยว่าอึนฮยอกคิดยังไง

     

                คยูฮยอนได้แต่นั่งนิ่งอึ้งจนถึงตอนนี้

     

                เพื่อนของเขาที่เขาเคยแอบชอบมาตลอด ที่แท้...ที่แท้ก็เป็น...ฝ่ายรับแบบเขานั่นเอง

     

                คิม คิบอมยังไม่ได้พูดถึงเรื่องการตายของอึนฮยอก ดูเหมือนว่าเขาแค่อยากจะพูดในเรื่องที่ทุกคนต้องรู้ก่อน เพราะถ้าคยูฮยอนหรือทงเฮได้รู้ความจริงที่มากไปกว่านี้ อาจจะไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยินก็ได้

     

     

     

     

     

     

    Eunnana talk…

    เป็นไงกันบ้างคะกับตอนนี้

    ถ้ามีข้อสงสัยให้กลับไปอ่านชื่อเรื่องอีกครั้ง อิอิอิ

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×