คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : Chapter 11 : Friend
Chapter 11
Friend
คยูฮยอนนั่งบีบมือตัวเองแน่นอย่างไม่ได้ตั้งใจ เขาเป็นอย่างนี้มาหลายชั่วโมงแล้ว ซึ่งจริงๆ แล้วอาการนี้มันเริ่มต้นขึ้นมาจากเมื่อวานนี้ตอนหัวค่ำ ตอนที่เขามุ่งมั่นที่จะหาความจริงเรื่องการตายของอึนฮยอก ตอนที่ฮยอกแจมาหาเขาเกือบครึ่งชั่วโมง และหลังจากที่ฮยอกแจกลับไปได้ไม่กี่นาที
เมื่อวานนี้...
คยูฮยอนพยายามนั่งคิดอยู่ตลอดทั้งวันว่าเขาจะเริ่มต้นจากตรงไหนดี ไม่รู้ว่าจะสามารถไขความจริงได้อย่างไร ในเมื่อช่วงเวลาที่เกิดเหตุมีเพียงฮยอกแจเท่านั้นที่อาศัยอยู่กับอึนฮยอก และคยูฮยอนเองก็อยู่ที่ฟลอริดา ไม่ใช่ที่นิวยอร์ก
เขานั่งคิดอยู่เป็นครึ่งค่อนวัน จนกระทั่งตอนที่แม่ก็ยกอาหารเย็นเข้ามาวางบนโต๊ะ และเรียกเขาออกไปกิน แม่ถามถึงเพื่อนๆ ที่อเมริกาว่าแต่ละคนได้งานทำกันบ้างหรือยัง มีใครที่ตกงานและเดินลอยชายไปมาเหมือนคยูฮยอนบ้างไหม
ในตอนนั้นเองที่คยูฮยอนก็เพิ่งนึกขึ้นได้
“จริงด้วย! เพื่อนๆ ของผม” คยูฮยอนตะโกนลั่นจนแม่ที่กำลังจะตักข้าวใส่ปากสะดุ้งตกใจตามไปด้วย
“อะไรของแก?”
“ขอบคุณนะแม่ แม่ทานข้าวไปก่อนเลย ผมมีเรื่องที่จะต้องจัดการ”
คยูฮยอนรีบวิ่งหายเข้าไปในห้องนอน เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาและไล่ดูเบอร์โทรเพื่อนๆ ที่ปกติก็ไม่ค่อยจะโทรหากันบ่อยนัก คยูฮยอนเป็นคนที่ไม่ค่อยเป็นมิตรสักเท่าไร เพื่อนที่เขาสนิทด้วยมากที่สุดก็มีแต่อึนฮยอกเท่านั้น
ปาร์ค จองซู...เหมือนหมอนั่นจะเข้ากรมทหารไปได้ไม่นาน
คิม ฮีชอล...ตอนนี้หายไปไหนก็ไม่รู้ มีข่าวลือว่าเขาแปลงเพศไปแล้ว คยูฮยอนจึงไม่กล้าโทรไปหา
หาน เกิง...เพื่อนชาวจีนที่ไม่สามารถติดต่อได้
คิม จงอุน...ก็ดูเหมือนจะยุ่งอยู่กับการทำธุรกิจแว่นตาของครอบครัว
คิม ยองอุน...ผู้ชายที่เคยเป็นกิ๊กกับเขา แบบนี้ก็ไม่สมควรจะโทรไป
ชิน ดงฮี...คยูฮยอนไม่ค่อยสนิทกับดงฮีเท่าไรนัก เพราะหมอนั่นตัวติดกับซองมินตลอด
อี ซองมิน...เหตุผลเดียวกันกับคนข้างบน
คิม รยออุค...ผู้ชายประหลาดๆ และชอบทำท่าทางแปลกๆ เหมือนกอลั่ม เขาไม่ค่อยกล้าจะคุยนักหรอก
ในลิสท์รายชื่อของเพื่อนๆ ที่เรียนอยู่ที่นิวยอร์กมีเพียงเท่านี้ ถ้าเทียบกันระหว่างสองคนสุดท้าย ซองมินดูเป็นคนที่เป็นมิตรมากกว่า ถึงแม้จะตัวติดกับดงฮีเพราะเรื่องลดน้ำหนัก แต่ก็น่าจะพอให้ความช่วยเหลือแก่เขาได้ คยูฮยอนจึงรีบโทรศัพท์ออกไปหาซองมินอย่างรวดเร็ว
[ยอโบเซโย] ซองมินรับสายด้วยน้ำเสียงหวานน่ารักตามแบบฉบับของตัวเอง คยูฮยอนสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วจึงเอ่ยขึ้น
“ซองมิน ฉันคยูฮยอนเองนะ โจ คยูฮยอน”
[อ้อ! คยูฮยอนนั่นเอง มีอะไรเหรอ?]
“นายว่างคุยหรือเปล่า?” คยูฮยอนถามเพราะเสียงที่ลอดโทรศัพท์เข้ามาฟังดูอึกทึกครึกโครมเสียเหลือเกิน
[ฉันกำลังเล่นฟิตเนสอยู่กับดงฮีน่ะ แต่คุยได้นะ]
“พอดีว่าฉันมีเรื่องหนึ่งอยากจะถามนาย”
คยูฮยอนเงียบไปพักหนึ่ง เรื่องการตายของอึนฮยอกผู้เป็นที่รักของทุกคนเป็นเรื่องเศร้า ขนาดเขาอยู่ห่างไกล เขายังรู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ แล้วเพื่อนๆ ชาวเกาหลีที่อยู่ในหอพักเดียวกับอึนฮยอกในวันที่เกิดเหตุล่ะจะรู้สึกอึ้งกันมากแค่ไหน คยูฮยอนรวบรวมความกล้าอยู่ชั่วอึดใจหนึ่ง ก่อนจะพูดมันออกไป
“นายพอจะรู้เรื่องที่อึนฮยอกตายหรือเปล่า?”
[ทำไมอยู่ดีๆ นายถึงถามเรื่องนี้ขึ้นมาล่ะ นายเป็นคนเดียวที่ไม่เคยติดต่อกลับมา พวกเรายังตกใจเลยที่นายไม่ไปร่วมงานศพของเขา] ซองมินทำเสียงตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด ก็แน่ล่ะสิ เพราะอี ฮยอกแจตั้งใจจะปิดข่าวเรื่องนี้มาโดยตลอดนี่นา แต่เพราะคยูฮยอนไม่เคยติดต่อเพื่อนๆ คนอื่นเลยนอกจากอึนฮยอก เขาจึงไม่เคยรู้เลยว่าเพื่อนๆ ทุกคนต่างก็รู้เรื่องนี้ ยกเว้นเขา
“ฉันไม่รู้จริงๆ” คยูฮยอนพูดเสียงอ่อยๆ อย่างรู้สึกผิด เขารู้สึกผิดมาตลอดที่เพื่อนสนิทอย่างเขาไม่สามารถช่วยชีวิตอึนฮยอกได้ เขาไม่แม้แต่จะไปร่วมแสดงความเสียใจต่ออึนฮยอกเป็นครั้งสุดท้ายเลยด้วยซ้ำ
[จริงๆ ฉันก็ไม่รู้เรื่องนี้มากหรอกนะ นายลองไปถามคิบอมดูเองสิ]
“ใครนะ?”
[คิม คิบอมไง!] ซองมินย้ำอีกครั้งทำให้คยูฮยอนเพิ่งนึกอะไรออกมาได้ จริงสินะ นอกจากเพื่อนที่คยูฮยอนรู้จักทั้งหมดแล้ว ยังมีคิม คิบอมอีกคนหนึ่งที่เขามองข้ามไป จริงๆ แล้วก่อนที่เขาจะรู้จักกับอึนฮยอก อึนฮยอกเองก็เคยสนิทกับคิบอมมาก่อน พอคยูฮยอนย้ายไปเรียนต่อที่นั่น เขาจึงไม่ชอบหน้าคิบอมไปโดยปริยายเพราะกลัวว่าคิบอมจะมาแย่งเพื่อนรักของตัวเองไป
“ฉันไม่มีเบอร์คิบอมหรอก”
[รอเดี๋ยวนะ!]
ซองมินกดดูเบอร์ในสมุดโทรศัพท์สักพักหนึ่ง ก่อนจะบอกเบอร์โทรของคิบอมให้กับคยูฮยอน คยูฮยอนจดใส่กระดาษตัวโตๆ ไว้แล้วได้แต่มองหมายเลขในมืออยู่อย่างนั้น เขาไม่กล้าโทรไปหาคิบอมเลย เขาไม่เคยจะคุยดีกับคิม คิบอมได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว
จนกระทั่งฮยอกแจมาหา...
“ไหนล่ะความจริง?!” ฮยอกแจถามห้วนๆ แล้วยิ้มเยาะให้กับคยูฮยอนที่นั่งเหม่อลอยอยู่ในห้องนอน
“ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น”
“ก็แน่ล่ะสิ ผู้ร้ายปากแข็งก็ต้องตอบแบบนี้แหละ”
“นี่! มันผ่านมาสักกี่วันกันเชียว นายจะมาคาดคั้นอะไรฉันนักหนา เอาเวลาไปดูทงเฮดีกว่าไหม ป่านนี้คงไปถึงไหนต่อไหนกับซีวอนแล้ว” คยูฮยอนโวยลั่นเพราะหงุดหงิดที่ถูกฮยอกแจเข้ามากวนประสาท ฮยอกแจแก้แค้นเขาแบบเด็กๆ ก็จริง แต่กลับทำให้เขาแทบจะเป็นโรคประสาทตายอยู่แล้ว
“พูดแบบนี้ นายหึงทงเฮกับซีวอนล่ะสิ”
คยูฮยอนตวัดหางตาขึ้นมองฮยอกแจ ใช่แล้วล่ะ เขาหึง หึงมากด้วยที่ทงเฮบอกว่าเป็นแฟนกับซีวอน และคยูฮยอนก็โกรธซีวอนมากด้วยที่ทำแบบนี้กับเขา มันคืออะไรกัน รักพี่เสียดายน้องงั้นเหรอ หรือว่า...แค่ไม่ได้พี่แล้วก็จะเอาน้อง เขาไม่ตอบคำถามของฮยอกแจ ทำได้เพียงแต่ถอนหายใจอย่างที่เคยทำเท่านั้น
“สุดท้ายนายก็เป็นแค่ฆาตกรที่ฆ่าพี่ชายของฉัน”
“เมื่อไรนายจะเลิกพูดแบบนี้สักที”
“นายก็หาหลักฐานมายืนยันเร็วๆ สิ” ฮยอกแจเบะปากแล้วเลิกคิ้ว
“ถ้าอยากรู้นักนายก็โทรหาผู้ชายคนนี้เองแล้วกัน ดูเหมือนว่าเขาจะรู้ทุกอย่าง!” คยูฮยอนพูดจบก็ขยำกระดาษที่จดเบอร์ของคิบอมแน่นแล้วปาใส่อกของฮยอกแจ ฮยอกแจเก็บกระดาษนั้นขึ้นมา เขามองเพียงรอบเดียวก็จดจำตัวเลขทั้งหมดได้ จากนั้นจึงปล่อยกระดาษทิ้งลงบนพื้นแล้วเดินจากห้องไป
คยูฮยอนนั่งอยู่ในห้องอีกนานหลายนาทีจนกระทั่งฮยอกแจขับรถออกไป เขาจึงเริ่มโทรหาคิบอม
สองวันต่อมา
ทงเฮพยายามดักรอคนเกาหลีที่อยู่หน้าหอพัก แต่เพราะช่วงนี้เป็นฤดูกาลสอบจึงไม่ค่อยมีนักศึกษาออกไปข้างนอกกันมากนัก ส่วนใหญ่จะอ่านหนังสืออยู่บนหอพักอย่างเคร่งเครียด และสั่งอาหารขึ้นไปกินบนห้องกันทั้งนั้น
ทงเฮตื่นตั้งแต่เช้าเพื่อมายืนรอคนเกาหลีที่อาจจะเดินผ่านไปผ่านมา แต่เพราะว่าหอพักไม่ได้มีแค่ตึกเดียว เขาจึงไม่รู้ว่าจะไปตามหาคนที่รู้เรื่องของอึนฮยอกได้จากที่ไหน
จนกระทั่งวันนี้...
“ขอโทษนะครับ คุณฟังภาษาเกาหลีออกหรือเปล่า?” ทงเฮเอ่ยถามขึ้นด้วยภาษาถิ่นของตัวเอง เขาทำอย่างนี้มาเป็นร้อยๆ ครั้งแล้ว ถ้าไม่ใช่คนเกาหลีก็จะทำหน้างงๆ แล้วเดินจากไป ทงเฮโมโหมากจนเขาต้องเลือกผู้ชายผิวคล้ำคนหนึ่งในชุดเสื้อโค้ทตัวใหญ่สีดำสนิท ชายคนนั้นหันมาเลิกคิ้วแล้วเอ่ยขึ้น
“ผมเป็นคนเกาหลี!”
“บิงโก!!!” ทงเฮกระโดดหยองแหยงอย่างดีใจราวกับถูกล็อตเตอรี่รางวัลใหญ่ ก่อนจะแนะนำตัวเองขึ้นมา “ผม...ผมชื่ออี ทงเฮนะครับ”
“หืม...อี ทงเฮเหรอ?” ผู้ชายคนนั้นทำสีหน้าประหลาดใจและก็ยิ้มออกมาด้วย
“ทำไมเหรอครับ?” ทงเฮเอ่ยถาม
“เปล่าครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะ ผมชื่อคิม คิบอม”
ทงเฮไม่ได้คิดอะไรไปมากกว่านั้นอีก เขาแค่ดีใจมากที่ได้เจอคนเกาหลี แม้ว่าผู้ชายคนนี้อาจจะไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับอึนฮยอกก็ตาม แต่ก็โชคดีมากจริงๆ ที่ผู้ชายคนนี้พูดภาษาเดียวกันกับเขา
“ผมมีเรื่องจะขอร้องให้คุณช่วยหน่อย”
ทงเฮเอ่ยขึ้น ผู้ชายคนนั้นพยักหน้าหงึกหงักช้าๆ แล้วพาทงเฮไปหาที่นั่งคุยกัน พวกเขานั่งอยู่บนเก้าอี้ยาวในสวนสาธารณะใกล้ๆ หอพัก และทงเฮก็เริ่มต้นถามขึ้น
“คุณรู้จักผู้ชายคนนี้หรือเปล่าครับ?” ทงเฮเอ่ยถามพร้อมกับหยิบภาพของฮยอกแจให้คิบอมดู
“อี อึนฮยอก!” เขาพูดโดยที่สีหน้าเรียบเฉยมาก เหมือนน้ำเสียงของเขาจะเศร้านิดๆ ด้วย แต่ทงเฮกำลังตื่นเต้นที่จะได้รู้ความจริงทั้งหมดจึงไม่ได้สังเกตเห็นท่าทางเหล่านั้นเลย
“ใช่! เขาชื่ออึนฮยอก เป็นพี่ชายฝาแฝดของแฟนผม อี ฮยอกแจน่ะ”
“ผมรู้จักฮยอกแจ แต่ไม่เคยพบเขา”
“แล้ว...เอ่อ...คุณ...คุณรู้เรื่องที่พี่อึนฮยอกฆ่าตัวตายเมื่อหกเดือนก่อนหรือเปล่า?”
ทงเฮไม่แน่ใจว่าเขาควรจะถามออกไปหรือไม่ แต่ในเมื่อเขาเหลือเวลาอีกแค่ห้าวันเท่านั้น แล้วภายในห้าวันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะโชคดีเหมือนวันนี้อีกหรือเปล่า ทงเฮจึงต้องรีบถามสิ่งที่ค้างคาใจออกไปให้หมด
“ผมรู้สิ ผมต้องรู้แน่นอน”
“ทำไมคุณมั่นใจขนาดนั้น?” ทงเฮเริ่มสงสัย ในตอนนั้นเองที่เขาเพิ่งจะสังเกตเห็นความรู้สึกบางอย่างที่อยู่ในดวงตาของคิม คิบอม
“ผมจะเล่าให้คุณฟังทีหลังแล้วกัน”
“ทำไมล่ะ?!”
“เมื่อสองวันก่อนก็มีคนโทรมาถามผมเกี่ยวกับเรื่องนี้ มันแปลกมากที่พวกคุณเพิ่งจะมาถามทั้งๆ ที่มันก็ผ่านมาตั้งหกเดือนแล้ว”
“ใคร...ใครโทรมาถามเหรอครับ?” ทงเฮงงไปหมดแล้ว มีคนที่พยายามจะสืบหาความจริงพร้อมๆ กับเขาด้วยเหรอ หรือว่าจะเป็นอี ฮยอกแจ
“โจ คยูฮยอนน่ะ” คิบอมตอบเสียงเรียบทำให้ทงเฮเบิกตากว้าง
“เขาเป็นพี่ชายของผมเอง”
“อะไรนะ พี่ชาย...พี่ชายแท้ๆ น่ะเหรอ?”
“เอ่อ...เราก็แค่...มีแม่คนเดียวกันน่ะ” ทงเฮคิดว่าเขาไม่มีอะไรจะต้องปิดบังเกี่ยวกับเรื่องของครอบครัวของตัวเอง มันไม่ใช่เรื่องที่น่าเสียหาย ในเมื่อใครๆ ต่างก็รู้เรื่องนี้ ดูเหมือนว่าคิบอมจะรู้จักพี่ชายของเขาด้วย แต่ก็ไม่ยอมเล่าเรื่องของอึนฮยอกให้เขาฟังเสียที ร่างสูงนั่งไขว้ห้างช้าๆ เหม่อมองออกไปไกลๆ แล้วเอ่ยต่อ
“คยูฮยอนเป็นรูมเมทกับอึนฮยอก”
“ผมพอจะทราบเรื่องนี้ครับ”
“แต่เขาไม่เคยรู้เลยว่าอึนฮยอกมีรสนิยมแบบไหน?”
“ห๊ะ! รส...รสนิยม?!” ทงเฮพูดตะกุกตะกักเพราะไม่เข้าใจในสิ่งที่คิบอมต้องการจะสื่อออกมา คิบอมหันมาจ้องหน้าทงเฮแล้วเอ่ยถามราวกับเรื่องนี้เป็นปริศนาที่ทงเฮต้องแก้ไขให้ได้
“คุณคิดว่าเราสองคนต่างกันไหมล่ะ?”
“ผม...คิดว่า...เราต่างกันนะ ถ้าเปรียบเราเป็นแม่เหล็ก ผมกับคุณก็น่าจะอยู่คนละด้านกัน...ใช่ไหม?”
“ใช่!” คิบอมพยักหน้าแล้วดีดนิ้วให้กับความเฉลียวฉลาดของทงเฮ “อึนฮยอกไม่ใช่แบบผม แต่เป็นเหมือนกับคุณ!”
“ไม่จริงหรอก เป็นไปได้ยังไงในเมื่อพี่คยูฮยอน...”
“เพราะว่าเขาเข้าใจผิดไงล่ะ”
คิบอมบอกเสียงเรียบ แต่ทงเฮกลับอึ้งยิ่งกว่าเดิมเสียอีก เป็นไปได้ยังไงกันในเมื่อพี่ฮยอกแจอยู่คนละด้านกับเขา พี่อึนฮยอกก็น่าจะเป็นเหมือนพี่ฮยอกแจไม่ใช่เหรอ ทำไมคิม คิบอมถึงได้มั่นใจมากขนาดนั้น แล้วทำไมพี่ชายของเขาถึงไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย
“ผมเป็นแฟนของอึนฮยอก”
คำตอบของคิบอมตรงไปตรงมา ชัดเจน และอธิบายได้ทุกอย่างในคราวเดียวกัน
และนั่นก็เป็นสาเหตุให้คยูฮยอนนั่งช็อคข้ามวันจนถึงตอนนี้...
สิ่งที่ทงเฮได้รู้เมื่ออยู่อเมริกา และสิ่งที่คยูฮยอนได้รู้มานั้นถูกต้องตรงกัน คิบอมบอกความจริงกับพี่น้องทั้งสองด้วยคำถาม...
แม้จะต่างเวลา ต่างสถานที่ แต่ข้อมูลแทบจะไม่แตกต่างกันเลยแม้แต่เสี้ยวประโยค
ทำไม...อึนฮยอกเรียบร้อยและใส่แว่นตลอดเวลา
ทำไม...อึนฮยอกถึงทำผมสีอ่อนๆ อย่างเช่นสีทองจนใบหน้าของตัวเองดูหวาน
ทำไม...อึนฮยอกถึงขับรถไม่เป็น
ทำไม...อึนฮยอกถึงได้ดูอ่อนแอนักถ้าเทียบกับอี ฮยอกแจ
ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เพราะว่าอึนฮยอกมีคิบอมคอยอยู่ข้างๆ ตลอดเวลาหรอกเหรอ อึนฮยอกมักจะไม่พูดถึงคิบอมเวลาที่อยู่กับคยูฮยอน เพราะอึนฮยอกคิดว่าคยูฮยอนไม่ชอบคิบอม คยูฮยอนจึงไม่เคยรู้เลยว่าอึนฮยอกคิดยังไง
คยูฮยอนได้แต่นั่งนิ่งอึ้งจนถึงตอนนี้
เพื่อนของเขาที่เขาเคยแอบชอบมาตลอด ที่แท้...ที่แท้ก็เป็น...ฝ่ายรับแบบเขานั่นเอง
คิม คิบอมยังไม่ได้พูดถึงเรื่องการตายของอึนฮยอก ดูเหมือนว่าเขาแค่อยากจะพูดในเรื่องที่ทุกคนต้องรู้ก่อน เพราะถ้าคยูฮยอนหรือทงเฮได้รู้ความจริงที่มากไปกว่านี้ อาจจะไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยินก็ได้
Eunnana talk…
เป็นไงกันบ้างคะกับตอนนี้
ถ้ามีข้อสงสัยให้กลับไปอ่านชื่อเรื่องอีกครั้ง อิอิอิ
ความคิดเห็น