ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SuJu Fiction] +++ Nobody Knows...+++ [EunHae, WonKyu]

    ลำดับตอนที่ #10 : Chapter 9 : Irony

    • อัปเดตล่าสุด 27 พ.ย. 55


     

     

     

    Chapter 9

    Irony

     

                หลังจากต้องขับเครื่องบินมาหลายสิบชั่วโมง ซีวอนก็เข้าไปพักผ่อนในโรงแรม ใจจริงเขาอยากจะโทรหาคยูฮยอน แต่เพราะคำสัญญาที่เขาให้คยูฮยอนเอาไว้มันสิ้นสุดลงแล้วตั้งแต่วันที่คยูฮยอนเลือกฮยอกแจ

     

                มีแอร์โฮสเตสหลายคนชวนเขาออกไปดื่มข้างๆ โรงแรม แต่ซีวอนก็ปฏิเสธไป เขาไม่มีอารมณ์จะออกไปไหนด้วยความรู้สึกแบบนี้ ถ้าสายการบินอนุญาตให้เขาหยุดงานได้ก็คงดี แต่เพราะช่วงนี้นักบินส่วนใหญ่ลาพักร้อนกัน ซีวอนจึงไม่สามารถขอลาได้

     

                บางทีการได้มาอยู่ไกลๆ จากเกาหลีก็ดีเหมือนกัน

     

                แต่พอคิดไปคิดมาแล้ว...ดูว่านี่จะไม่มีผลต่อความเศร้าของซีวอนสักเท่าไรนัก

     

                เพียงไม่กี่อึดใจที่เขาคิดถึงคยูฮยอนเพราะปล่อยให้สมองโล่ง เสียงโทรศัพท์คู่ใจก็ดังขึ้น มันจะไม่ประหลาดเลยหากเสียงที่ดังขึ้นนั้นเป็นเสียงที่ซีวอนตั้งไว้สำหรับเบอร์ของคยูฮยอนเพียงคนเดียว

     

                ไม่ใช่น่า...คงมีคนแกล้งเปลี่ยนเสียงโทรศัพท์ของเขา

     

              หรือไม่โทรศัพท์ก็อาจจะรวน

     

              แต่เมื่อดูเบอร์โทร...ซีวอนกลับต้องเบิกตากว้าง

     

                “คยูฮยอน!” เขารีบรับสายแล้วกรอกเสียงลงไปอย่างรวดเร็ว

     

                [เอ่อ...]

     

                “นั่นคุณใช่ไหม? ผมจำเสียงของคุณได้ คยู...คยูฮยอน...เปลี่ยนใจมาหาผมแล้วเหรอ?”

     

                มันอาจจะดูตลกมากที่ซีวอนจำได้แม้แต่เสียง เอ่อเพียงแค่คำเดียวของคยูฮยอน แต่มันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ซีวอนจำทุกๆ อย่างของคยูฮยอนได้หมด เขารู้แม้กระทั่งว่าคยูฮยอนอาบน้ำแล้วถูสบู่ส่วนไหนในร่างกายก่อน

     

                (จริงๆ แล้วเขาไม่ได้แอบดูนะ แค่ให้ทงเฮไปถามมาต่างหากล่ะ”

     

                [ซีวอน...นายสบายดีไหม?] คยูฮยอนพูดเสียงเศร้าสร้อย ในขณะนั้นเองที่ซีวอนนึกได้ว่าเขาควรจะโกรธที่คยูฮยอนเลือกฮยอกแจ แต่ไม่ใช่เขา

     

                “ก็ดี!” เขาเริ่มพูดห้วนๆ ไม่รู้เลยว่าคนที่โทรมาหาจะใจเสียสักแค่ไหนที่ได้ยินแบบนี้

     

                [แล้ว...เอ่อ...นาย...นายไม่กลับมาเกาหลีบ้างเหรอ?]

     

                “ผมก็กลับอยู่เรื่อยๆ บ้านของผมอยู่ที่เกาหลีนี่นะ”

     

                คยูฮยอนเงียบลงไป คงอยากจะถามออกมาว่าทำไมกลับไปที่เกาหลีแล้วไม่ไปหาเขาบ้างเลย แต่คยูฮยอนก็ไม่ได้ถามออกมาสักคำ ซีวอนรู้สึกเจ็บที่หัวใจมาก เขาคิดว่าตัวเองเป็นผู้ชายโง่ๆ ที่เอาแต่ทำอะไรตรงข้ามกับความรู้สึกของตัวเอง

     

                เขารักคยูฮยอน แต่กลับผลักไส

     

                เขาคิดถึงคยูฮยอนมาก แต่ทำเป็นไม่อยากคุย

     

                โชคดีที่คยูฮยอนแค่โทรมา เพราะถ้าเขาได้เห็นหน้าคยูฮยอนตอนนี้แล้วล่ะก็ กำแพงที่ซีวอนเพียรสร้างเอาไว้ได้พังทลายภายในสิบวินาทีแน่ๆ

     

                ไม่สิ! ถ้าเป็นคยูฮยอนแล้ว...หนึ่งวินาทีซีวอนจะทนได้หรือเปล่ายังไม่รู้เลย

     

                “ปกติผมก็กลับเกาหลี แต่พอฟังแล้วเหมือนคุณจะอยากเจอผมมาก เพระฉะนั้น...ต่อไปนี้ผมจะไม่กลับไปที่นั่นอีกแล้ว”

     

                [ซีวอน...] เสียงของคยูฮยอนเบาลงมาก และดูเหมือนว่าจะมีเสียงสะอึกสะอื้นเบาๆ ดังลอดออกมาด้วย

     

                “ผมหมายถึงผมจะไม่กลับไปที่เกาหลี และจะไม่กลับไปหาคุณอีก!

     

     

     

                เช้าวันต่อมา...

     

                คยูฮยอนลืมตาขึ้นแล้วก็ค่อยๆ หลับลงไปอีกครั้งด้วยดวงตาที่บวมเป่งเหมือนจะแตกออกมาเสียให้ได้ เมื่อคืนเขาร้องไห้ตลอดทั้งคืนเพราะว่าคำพูดของซีวอนที่ไม่มีเยื่อใยเหลือให้เขาอีกแล้ว

     

                เสียงเคาะประตูดังขึ้นเบาๆ ก่อนจะมีคนผลักประตูเข้ามาด้านใน คยูฮยอนเห็นแสงที่ลอดมาจากนอกห้องก็ตวัดผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปงพอดี

     

                “พี่คยูฮยอน...” ทงเฮเอ่ยเรียก

     

                “...”
               

    “โจ คยูฮยอน...มีคนมาหาแน่ะ” ทงเฮบอกซ้ำ ทำให้คยูฮยอนเด้งตัวขึ้นนั่งอย่างมีความหวัง ปกติเวลาที่ทงเฮบอกว่ามีคนมาหาเขา ไม่ต้องเดาให้ยากก็รู้ได้ทันทีว่าชเว ซีวอนที่มาหา แต่วันนี้กลับไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว

     

                คยูฮยอนลืมไปเสียสนิทว่า...

     

                เดี๋ยวนี้คนที่มักจะมาหาเขาอยู่เสมอมีเพียงคนเดียวเท่านั้น ซึ่งก็คือ...อี ฮยอกแจ

     

                “ฮยอกแจมาเหรอ?”
     

                “หืม...เมื่อกี้พี่พูดว่าอะไรนะ?” ทงเฮเอ่ยถาม คยูฮยอนรีบลืมตาโตอย่างตกใจ เมื่อครู่นี้...เมื่อสักครู่นี้เขาพูดชื่อใครนะ อี ฮยอกแจเหรอ บ้าที่สุดเลยคยูฮยอน

     

                “เปล่า ฉันไม่ได้พูด”

     

                “ก็เมื่อกี้พี่เรียกชื่อพี่ฮยอกแจ”

     

                “นั่นมันแฟนของนายไม่ใช่เหรอ แฟน...แฟนของฉันคืออึนฮยอกต่างหาก”

     

                คยูฮยอนพูดจบก็ล้มตัวนอนลงตามเดิม เขาก็ไม่อยากจะพูดออกไปหรอกว่าอึนฮยอกเป็นแฟนของตัวเอง เพราะไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีทางใช่เลย คยูฮยอนทำท่าจะหลับลงไปอีกครั้งอย่างไม่สนใจน้องชาย แต่เสียงของทงเฮกลับเอ่ยถามขึ้น

     

                “พี่จะไม่ออกไปหาเขาเหรอ?”

     

                “ไม่ล่ะ ฉันไม่อยากเจออึนฮยอกตอนนี้”

     

                “แล้วพี่รู้ได้ไงว่าพี่อึนฮยอกมา ผมยังไม่ได้บอกเลย” ทงเฮค่อยๆ ปิดประตูจนเหลือแสงลอดออกมาเพียงเล็กน้อย แล้วเขาก็เอ่ยขึ้นก่อนเดินจากไป “พี่ซีวอนมาต่างหาก”

     

                “ห๊ะ?! จริงๆ น่ะเหรอ ซีวอนนนนนน”

     

                คยูฮยอนรีบวิ่งออกไปนอกบ้าน พอเขาเห็นหน้าซีวอนก็รีบวิ่งเข้าหาแล้วกระโดดเข้าใส่ซีวอนด้วยความดีใจจนถึงที่สุดจนซีวอนที่รับร่างโปร่งเอาไว้ก็ตกใจกับท่าทางนั้นไม่แพ้กัน

     

     

     

                หลังจากที่ทงเฮเรียกพี่ชายออกมาจากห้องแล้ว เขาก็คว้ากระเป๋าแล้วเดินทางไปเรียนที่มหาวิทยาลัย ร่างบางเดินออกจากซอยเพื่อไปขึ้นรถเมล์ที่หน้าปากซอย แต่ในขณะนั้นก็มีรถยนต์ของฮยอกแจขับเข้ามาในซอย รถคันนั้นค่อยๆ จอดลงก่อนที่จะขับผ่านเขาไป ฮยอกแจเลื่อนกระจกลงช้าๆ แล้วเอ่ยถาม

     

                “คยูฮยอนอยู่บ้านหรือเปล่า?”

     

                “อยากรู้ก็ไปดูเองสิ” ทงเฮพูดจบก็สะบัดหน้าหนี โถ...ทำเป็นถามหาคยูฮยอน ทั้งๆ ที่แฟนตัวเองก็ยืนอยู่ตรงนี้ ไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยหรือไง

     

                ในช่วงวินาทีที่ทงเฮไปอีกทาง เขาไม่มีโอกาสได้เห็นสายตาที่ห่วงใยจากฮยอกแจเลย

     

                “ฉันต้องไปดูอยู่แล้วล่ะ แค่อยากแวะทักทายน้องชายที่น่ารักของแฟนฉันเท่านั้น”

     

                “หึ ฉันเป็นแค่น้องชายของแฟน ไม่ได้สำคัญพอที่นายจะต้องสนใจหรอก”

     

                “แต่ฉันสนใจนายมากนะ”

     

                ฮยอกแจไม่พูดจบยังเอื้อมมือออกมานอกรถแล้วคว้ามือของทงเฮเอาไว้ ทงเฮเบิกตากว้าง เขารู้สึกไม่ชอบที่ฮยอกแจดูเจ้าชู้แบบนี้ มันไม่เหมือนฮยอกแจคนที่เขาเคยรู้จักเลย แต่เพราะว่ารู้อยู่แก่ใจว่าผู้ชายคนนี้คือฮยอกแจ ทงเฮก็อดที่จะใจเต้นแรงไม่ได้จนต้องรีบชักมือกลับ

     

                ฮยอกแจยิ้มหวานแล้วขับรถออกไป แต่ทงเฮก็นึกขึ้นมาได้ว่าซีวอนอยู่ที่บ้าน เขาจะให้ฮยอกแจเข้าไปทำลายความสุขของพี่ชายและซีวอนอย่างเด็ดขาด

     

                “เดี๋ยวก่อน!” ทงเฮรีบวิ่งตามรถออกไป แต่ดูเหมือนว่าฮยอกแจจะเห็นจากกระจกหลัง จึงแกล้งเหยียบคันเร่ง แล้วก็เบรกรอ แต่ก็เหยียบคันเร่งอีกครั้งจนทงเฮกระทืบเท้าอย่างโมโห ฮยอกแจจึงยอมจอดรถในที่สุด

     

                “มีอะไรอีก?”

     

                “นายไปส่งฉันที่มหาลัยหน่อยสิ”

     

                “นายมีแผนอะไรหรือเปล่า ปกติไม่เคยอยากให้พี่ไปส่ง” ฮยอกแจหลิ่วตาถามอย่างไม่เชื่อใจ

     

                “ไม่มี...ไม่มีแน่นอน!” พูดจบก็กระโดดขึ้นรถของฮยอกแจทันที

     

     

     

                วันนี้ทงเฮมีเรียนตั้งแต่ช่วงสายจนถึงเย็น และเขาต้องเคลียร์รายงานกลุ่มจนถึงสองทุ่ม แม้จะรู้ว่าตัวเองต้องอยู่ที่มหาวิทยาลัยทั้งวัน แต่กลับบอกให้ฮยอกแจรอรับเขากลับบ้านเสียอย่างนั้น

     

                ทงเฮรู้ว่าฮยอกแจรอเขาได้ แม้ว่าฮยอกแจจะปฏิเสธเสียงแข็งในตอนแรก เขาจะไม่ให้ฮยอกแจไปเจอคยูฮยอนเด็ดขาด มันไม่เกี่ยวกับว่าเขาเกิดเห็นใจพี่ชาย หรือว่าหวงฮยอกแจ

     

                แต่เพราะทงเฮอยากได้พี่เขยที่หล่อ ฉลาด และเท่แบบชเว ซีวอนเท่านั้น

     

                พอเลิกเรียน ทงเฮก็เดินเข้าไปในห้องสมุดกับเพื่อน ฮยอกแจเดินมาหาแล้วเอ่ยถามขึ้น แต่ทงเฮกลับทำเป็นไม่สนใจ เขาจึงกระชากแขนของทงเฮกลับมา

     

                “นายจะให้พี่รอถึงกี่โมง?”

     

                “ทง...ทงเฮ...นะนั่น...นั่น...พี่...” คิม รยออุคเพื่อนสนิทที่มาด้วยกันเอาแต่ชี้หน้าฮยอกแจแล้วก็อ้าปากพะงาบๆ หลังจากนั้นก็แทบจะเป็นลมจนทงเฮต้องเข้าไปประคองไว้

     

                “ไม่ใช่! นี่ไม่ใช่พี่ฮยอกแจของฉันหรอก”

     

                “ผมชื่ออึนฮยอกครับ เป็นแฝดพี่ของอี ฮยอกแจ” ฮยอกแจยื่นมือไปจับมือรยออุคเอาไว้ แต่ว่ารยออุคยังไม่พร้อมจะรับรู้อะไรในตอนนี้ คนตัวเล็กมือสั่นๆ และรีบชวนทงเฮเข้าไปในห้องสมุดอย่างรวดเร็ว

     

                “เอาไว้ฉันเสร็จเมื่อไรก็จะออกมาเองนั่นแหละ”

     

                ทงเฮหันมาบอกฮยอกแจอีกครั้งแล้วเดินเข้าไปด้านใน เขาคิดว่าฮยอกแจเข้าไปในห้องสมุดได้ เพราะฮยอกแจก็เคยเป็นศิษย์เก่าของที่นี่ แต่เพราะตอนนี้ฮยอกแจไม่ลืมว่าตัวเองคืออึนฮยอก เขาจึงยืนรออยู่ด้านหน้าแต่เพียงเท่านั้น

     

                สองทุ่มก็แล้ว...

     

                สี่ทุ่มก็แล้ว...

     

                ทงเฮออกมาจากห้องสมุด และหัวเราะกับรยออุคอย่างร่าเริง เขาคิดว่าฮยอกแจอาจจะรอไม่ไหวแล้วหนีกลับไปแล้ว แต่ก็ต้องหยุดขาเรียวชะงักไว้เมื่อเห็นฮยอกแจยืนพิงรถสปอร์ตอยู่ด้วยท่าทางที่ไม่เบื่อหน่ายหรืออะไรเลยสักนิด

     

                “ป่ะ...กลับบ้านกัน!

     

                พูดจบก็เปิดประตูรถให้ทงเฮ ทงเฮขี้เกียจจะต่อปากต่อคำอะไรอีก แล้วตอนนี้เขาก็เหนื่อยมากด้วยเพราะต้องทำรายงานตลอดทั้งเย็น จึงได้แต่เข้าไปนั่งในรถเงียบๆ และยอมให้ฮยอกแจขับรถไปส่งถึงบ้านในที่สุด

     

     

     

                เมื่อกลับมาถึงบ้านแล้ว ทงเฮก็พบว่าซีวอนกลับไปแล้ว ร่างบางถอนหายใจอย่างโล่งอก ทำให้ฮยอกแจยิ้มขำอยู่ข้างหลัง

     

                “ซีวอนมาที่นี่สินะ” เขาพูดด้วยเสียงราบเรียบ

     

                “รู้ด้วยเหรอ?” ทงเฮหันหลังกลับไปแล้วเบิกตากว้าง แต่ฮยอกแจก็แค่อมยิ้มส่งให้เท่านั้น

     

                “คนอย่างนายโกหกเก่งเสียที่ไหนล่ะ ใครๆ ก็รู้ทั้งนั้นแหละ”

     

                ฮยอกแจพูดจบก็เดินเข้าไปหาคยูฮยอนด้านใน ทงเฮไม่เป็นห่วงพี่มากนักเพราะอย่างน้อยแม่ก็ยังอยู่ในบ้าน เขาจึงวางหนังสือและกระเป๋าไว้บนโต๊ะหินอ่อน ก่อนจะทิ้งตัวลงหน้าบ้าน

     

                สักพักช็อกโก้ก็วิ่งเหยาะๆ ออกมาหา ก่อนจะกระโดดขึ้นตักด้วยความรวดเร็ว

     

                “ช็อกโก้...ฉันคิดถึงแกจังเลย”

     

                ช็อกโก้ทำท่าเหมือนเข้าใจความรู้สึกของทงเฮ มันซุกหน้ากับหน้าท้องของทงเฮแล้วก็ทำหน้าหงอยๆ ไปพร้อมๆ กับทงเฮด้วย

     

                “แกรู้หรือเปล่าว่านั่นคือพ่อของแก แกรู้ใช่ไหม? ใช่สินะ...แกน่ะรู้ตั้งแต่แรก มีแต่ฉันที่โง่เอง ฉันไม่รู้อะไรเลย แต่พ่อแกก็เอาแต่หลอกฉันอยู่ได้ เขาไม่เจ็บปวดบ้างหรือไงนะ”

     

                ทงเฮได้แต่กอดช็อกโก้ไว้แล้วก็นั่งรอให้ฮยอกแจกลับบ้าน เขาไม่อยากเข้าไปในบ้านตอนนี้ ไม่อยากรับรู้ว่าฮยอกแจพูดอะไรกับคยูฮยอนบ้าง บางทีเขาก็อยากจะรู้อยู่เหมือนกัน แต่คิดว่าเป็นแบบนี้แล้วน่าจะดีที่สุด

     

                ทงเฮพยายามคิดว่านั่นคือ...อี อึนฮยอก

     

                ไม่ใช่พี่ฮยอกแจของเขา

     

     

     

                ในบ้านนั้น แม่ไม่ได้สนใจเลยว่าฮยอกแจกับคยูฮยอนจะคุยอะไรกัน เพราะเธอคิดว่าลูกชายของตัวเองชอบอึนฮยอก เพราะเธอคิดว่าอึนฮยอกคือแฟนของลูกชาย จึงได้แต่ปล่อยให้เด็กทั้งสองอยู่ด้วยกันตามลำพัง

     

                ฮยอกแจนั่งห้อยขาอยู่ตรงพนักพิงโซฟา

     

                ในขณะที่คยูฮยอนนั่งกอดหมอนทำหน้าบึ้งเหมือนเบื่อโลก

     

                “ฉันได้ข่าวว่าวันนี้ซีวอนมาหานายที่บ้านเหรอ?”

     

                “อืม” คยูฮยอนตอบสั้นๆ แล้วก็หันขวับหนีไปอีกทาง

     

                “มีความสุขมากเลยสินะ ผู้ชายมาหาถึงที่บ้าน สงสัยนายจะลืมผู้ชายที่ชื่ออึนฮยอกไปแล้วล่ะมั้ง”

     

                “ฉันไม่เคยลืม!

     

                “อ๊อ...เหรอ?” ฮยอกแจถามเสียงสูง “ถ้านายไม่เคยลืมพี่ชายของฉัน ทำไมนายถึงฆ่าเขาเพื่อที่จะได้ไปคบกับซีวอนล่ะ”

     

                “อี ฮยอกแจ!” คยูฮยอนกำหมัดแน่น เขาพยายามสะกดกลั้นน้ำตาของตัวเองไม่ให้เอ่อไหลออกมาตอนนี้ จึงพยายามเงยหน้าขึ้นมองเพดานเพื่อให้น้ำตาไหลย้อนกลับไปอีกครั้ง แต่ฮยอกแจกลับพูดต่อว่าอีกเรื่อยๆ

     

                “ไหนล่ะหลักฐานที่นายบอกว่าจะหามายืนยันว่านายไม่ได้ฆ่าเขา”

     

                “...” คยูฮยอนพูดไม่ออก เขาได้แต่เงียบแทนคำตอบเท่านั้น

     

                “ถ้ายังหาหลักฐานไม่ได้ นายก็ควรจะมอบตัวซะ!

     

                ฮยอกแจพูดจบก็เดินออกมาจากบ้านของคยูฮยอน คยูฮยอนนึกเจ็บใจ เขาอยากจะบอกเรื่องนี้กับซีวอน แต่เพราะไม่รู้จะเริ่มเล่าเรื่องตั้งแต่ตอนไหนดี ถ้าหากเล่าไปก็กลัวซีวอนจะคิดว่าเขาโทษว่าเป็นความผิดของซีวอน...

     

                เพราะเรื่องทั้งหมด...มันเกิดจากคืนนั้น

     

                ที่เขาและซีวอนมีอะไรกัน

     

     

     

                ฮยอกแจออกมาข้างนอกก็เห็นทงเฮนั่งเหม่อลอย แต่บนตักของร่างแบบบางมีช็อกโก้นอนหลับตาพริ้มอยู่ เขาเดินเข้าไปใกล้ๆ แล้วส่งเสียงเรียกดังขึ้น

     

                “ช็อกโก้!

     

                เรียกแค่ครั้งเดียวเท่านั้น เจ้าหมาที่แสนซื่อสัตย์ก็รีบวิ่งไปหาเจ้านายคนเดิมของมันอย่างรวดเร็ว ทงเฮรีบผุดลุกยืนขึ้นแล้วร้องโวยวายเสียงดังลั่นบ้าน

     

                “ช็อกโก้ นั่นไม่ใช่พ่อนะ”

     

                “ช็อกโก้คิดว่าพี่เป็นพ่อของเขา สงสัยพี่จะต้องแสดงบทบาทนั้นจริงๆ แล้วล่ะ” ฮยอกแจอุ้มช็อกโก้ขึ้นมากอดไว้แล้วเดินมาประชันหน้ากับทงเฮ ทงเฮกัดริมฝีปากเหมือนเด็กๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้น

     

                “ช็อกโก้มีพ่อแค่คนเดียวเท่านั้น”

     

                “แต่ก็ตายไปแล้ว” ฮยอกแจพูดต่อให้จบประโยค

     

                “ไม่! เขายังไม่ตาย พี่ฮยอกแจไม่เคยตายไปจากฉันกับช็อกโก้ และพ่อของช็อกโก้ก็มีแค่คนเดียวเท่านั้น เขาชื่อ อี ฮยอกแจไม่ใช่... อี อึนฮยอกนายไม่ใช่!

     

                ฮยอกแจกำลังตกตะลึงที่เขาทำทงเฮร้องไห้ออกมาอีกแล้ว เขาอยากให้เรื่องนี้มันจบลงเสียที เขาไม่รู้จะแก้แค้นไปเพื่ออะไร แทนที่คนที่ฆ่าพี่ชายของเขาจะได้รับกรรม กลับกลายเป็นทงเฮที่ต้องร้องไห้เสียอย่างนั้น

     

                ช็อกโก้กระโดดหนีเข้าไปในบ้าน ทำให้ฮยอกแจค่อยๆ เดินเข้าไปหาทงเฮทีละนิด แต่ทงเฮกลับก้าวเท้าถอยไปด้านหลัง พอฮยอกแจกำลังจะเข้าประชิดตัว มือบางก็ผลักอกฮยอกแจออกแล้วหนีเข้าบ้านทันที เสียงประตูปิดดังอย่างแรง แต่ฮยอกแจไม่สะดุ้งสะเทือนเลยสักนิด เขาแค่หันไปหาประตูบ้านที่ปิดสนิทและเอ่ยนึกเสียใจอยู่เพียงเท่านั้น

     

     

     

                ทงเฮเข้ามาในบ้านและหนีเข้าไปในห้องนอน หลังจากนั้นอีกเกือบสิบนาที ทงเฮก็ได้ยินเสียงรถของฮยอกแจขับเคลื่อนออกไป

     

                ทงเฮค่อยๆ แทรกตัวออกมาจากผ้าห่ม แล้วโทรศัพท์ไปหาคนๆ หนึ่ง เพียงไม่นานนัก อีกฝ่ายก็รับสาย ทงเฮจึงพูดเสียงค่อยๆ ราวกับกลัวว่าคนในบ้านจะมาได้ยิน

     

                “พี่ซีวอน”

     

                [ทงเฮ...พูดดังๆ กว่านี้หน่อย พี่ไม่ได้ยิน]

     

                “พี่ก็ตั้งใจฟังผมสิ” ทงเฮยังพูดเสียงเบาๆ เช่นเดิม แล้วเอ่ยขึ้น “ผมมีเรื่องหนึ่งที่จะต้องบอกพี่”

     

                [เกี่ยวกับคยูฮยอนเหรอ?]

     

                “เอ่อ...มันเกี่ยวกับหลายๆ คนน่ะ”

     

                [...]

     

                “วันนี้พี่มาหาพี่คยูฮยอน พี่คุยอะไรกับเขาหรือว่าเขาได้เล่าเรื่องอะไรให้พี่ฟังบ้าง?”

     

                ซีวอนเงียบไปหลายวินาที เขาพยายามนึกว่ามีเรื่องอะไรพิเศษไหม แต่ก็พบว่าคยูฮยอนไม่ได้เล่าเรื่องอะไรให้ฟังเลย ส่วนใหญ่จะถามสารทุกข์สุกดิบของเขา และเขาก็ถามเกี่ยวกับเรื่องงานที่คยูฮยอนสมัครไปแล้วและกำลังรอเรียกตัวไปสัมภาษณ์

     

                “งั้นพี่ตั้งใจฟังดีๆ นะ”

     

                ทงเฮเล่าเรื่องทุกอย่างให้ซีวอนฟัง มันเป็นสิ่งที่ซีวอนรู้เพียงส่วนเล็กๆ เท่านั้น ซีวอนรู้แค่ว่าเรื่องมันเกิดขึ้นมาจากคืนนั้นที่เขาได้เจอกับคยูฮยอนที่ผับ แล้วหลังจากนั้น...ผู้ชายที่ชื่ออี อึนฮยอกก็ตาย

     

                [แล้วเราควรจะทำยังไงกันดีล่ะ?] ซีวอนเอ่ยถามขึ้น

     

                “พี่แค่ทำตามแผนที่ผมบอกก็พอ รับรองว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัวแน่!

     

                ทงเฮบอกอย่างมั่นใจ เขาไม่เคยมั่นใจอะไรขนาดนี้มาก่อน โชคดีจริงๆ ที่ซีวอนกลับมาตอนนี้ โชคดีจริงๆ ที่มีซีวอนคอยรักพี่ชายของเขา ไม่อย่างนั้นเรื่องนี้คงจะไม่จบลงง่ายๆ อย่างแน่นอน

     

     

    Eunnana Talk

    มีใครยังติดตามเรื่องนี้อยู่ไหมค้า...

    ความจริงค่อยๆ คืบคลานเข้ามาแล้วค่ะ

    ไม่รู้ว่าทุกคนจะเดาเนื้อเรื่องได้หรือเปล่า แงๆๆ

    เรื่องนี้...อั๊ยๆๆๆ กัดลิ้นตัวเอง ไม่พูดๆๆๆ

    เจอกันอีกครั้งวันพรุ่งนี้ค่า

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×