ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : + :: Mirage * ภาพลวงตา :: + P.1
"เฮ้ย นายจะไปกี่ปีกันเนี่ยขนไปเยอะซะเลย" ฮันเกิง สมาชิกหนุ่มเชื้อสายจีนแห่งวงซูปเปอร์จูเนียร์ถึงกับร้องพร้อมทำตาโตทันทีที่เห็นสัมภาระของชายหนุ่มที่กองอยู่หน้าตู้รองเท้า เตรียมพร้อมในการขนขึ้นรถไปสนามบิน
"นั่นสิคิบอม ไปถ่ายละครแค่สามเดือนเองไม่ใช่เหรอ ทำไมทำยังกับจะย้ายบ้าน แล้วก็อาเกิง เมื่อกี๊นายพูดผิดนะจ๊ะ มันต้อง'ซะเยอะเลย' ไม่ใช่ 'เยอะซะเลย'พูดให้ถูกหน่อยสิ นายอยู่เกาหลีมากี่ปีแล้วฮะ!" หนุ่มหน้าสวย คิม ฮีชอลหันไปถลึงตาใส่ฮันเกิงเมื่อพูดประโยคหลังกับเขา
"ผมคงคิดถึงพวกพี่มากๆเลยนะครับเนี่ย ตั้งสามเดือน ที่จะไม่ได้เห็นตาโตจนล้นเบ้ากับปากเสียๆของพี่ฮีชอล ไหนจะไม่ได้ฟังเกาหลีสำเนียงประหลาดของพี่ฮันเกิงอีก คิดแล้วก็ใจหาย" คิบอมยิ้มพร้อมกับหยิบหมวกขึ้นมาใส่
"ตะกี๊นายชมหรือด่าชั้นเนี่ย" ฮีชอลหันมาถามตาขวางๆ
"ด่าอยู่แล้วใช่มั้ยรักน้อง เอ๊ย น้องรัก เอ๊ะ หรือว่ารักน้อง อะไรกันนะฮีชอล" ฮันเกิงทำคิ้วขมวดแล้วหันไปถามฮีชอล ส่วนคิบอมได้แต่อมยิ้มหัวเราะคนเดียว
"ฮันเกิงนายน่าจะเอาเวลานั่งเล่น PSP ไปต้มพจนานุกรมเกาหลี-จีนกินนะ ชั้นแนะนำ == " ฮีชอลบอกแล้วหันไปพูดกับคิบอมต่อไม่สนใจฮันเกิงที่ยังคงยืนนึกศัพท์อยู่คนเดียว
"นายต้องโทรมาหาชั้นทันทีที่นายถึงโตเกียวนะ แล้วก็อย่าลืมวันไหนว่างก็ส่งเมลล์มาหาชั้นด้วย ห้ามลืมกินข้าว นอนให้ถึงสี่ชั่วโมง แล้วก็หัดพูดกับคนรอบข้างด้วยนะนาย ชั้นเป็นห่วง" ฮีชอลร่ายยาวใส่คิบอมราวกับว่าเขาเป็นแม่
"คร๊าบบบบพี่ฮีชอลสุดสวย ผมจะทำตามที่พี่บอก" คิบอมยิ้มตอบแล้วกอดฮีชอล
"ทำไมชั้นรู้สึกใจหายแบบนี้ เหมือนจะไม่ได้เจอนายอีกนานเลย ชั้นคิดถึงนายจัง" ฮีชอลเผลอพูดความรู้สึกของตัวเองออกมาทั้งที่ใจจริงตั้งท่าจะเก็กฮาให้คิบอมขำ แต่พอเอาเข้าจริงเขากลับทำไม่ได้ เขาคงไม่เข้มแข็งพอที่จะเป็นพี่ชายที่ดีได้
"ผมยังไม่ไปเลยนะ ทำไมคิดถึงแล้วล่ะ" คิบอมตอบแล้วลูบหลังพี่ชาย
"ไม่รู้ โฮๆๆๆๆๆๆ T^T" ฮีชอลคร่ำครวญพร้อมกอดคิบอมแน่น
"อ้าวๆๆ นั่นจะกอดกันจนคิบอมมันตกเครื่องเลยมั้ย รถมาแล้วนะคิบอม รออยู่หน้าอพาร์ทเม้นท์แหน่ะ" ซีวอนที่เดินเข้าจากประตูบอกชายหนุ่มพร้อมกับเตรียมยกกระเป๋าสองใบของคิบอม
"นายลาคนอื่นๆแล้วเหรอ" ซีวอนถามอีก
"อือม์หมดแล้ว ยกเว้น..เอ่อ..เขาคงไม่อยากเจอผมล่ะมั้ง" คิบอมพูดถึงคนคนนั้นพร้อมมองไปยังห้องด้านหลัง
"เอ้า งั้นก็ไปกันเถอะ เดี๋ยวชั้นได้ซิ่งไปส่งนายที่แอร์พอร์ตมันจะไม่ดี ชั้นยังไม่อยากขึ้นหน้าหนึ่ง" ซีวอนบอก ส่วนฮีชอลยังทำหน้ากระซิกๆเหมือนคนจะร้องไห้อยู่เรื่อยๆโดยมีฮันเกิงปลอบอยู่
"อือม์"ชายหนุ่มส่งเสียงแล้วก้มลงหยิบกระเป๋าเป้หนังสะพายข้างอีกมือ เตรียมลากกระเป๋าเดินทางสีดำใบใหญ่
ซีวอน ฮันเกิงและคิบอมช่วยกันลากกระเป๋าที่คิบอมเตรียมย้ายสำมะโรครัวเนื่องจากว่าชายหนุ่มคนของที่มีไปเกือบทั้งหมด ฮีชอลยังคงไม่ยอมปล่อยคิบอม เขาเดินมาควงแขนชายหนุ่มและพรรณนาต่อไปเรื่อยๆ จนฮันเกิงและซีวอนอดกลั้นหัวเราะไม่ได้
เมื่อมาลิฟต์เปิดออกก็ปรากฏร่างของชายคนนึงด้านใน ชายหนุ่มในลิฟต์ยิ้มให้ทุกคน ก่อนจะกดลิฟต์เปิดประตูรอให้พวกเขาลากกระเป๋าเข้ามา
"ว่าไงฮยอกแจ" ฮันเกิงทักเขา
"ชั้นมารอส่งคิบอมน่ะ พี่มากดลิฟต์แทนแป๊ปนึงสิ" ฮยอกแจหันไปบอกฮันเกิงก่อนจะตรงไปหาชายหนุ่มตรงหน้า
"จะไปแล้วสินะ" ฮยอกแจเอ่ยขึ้นยิ้มๆ
"อือม์..." ชายหนุ่มตอบกลับ
"โชคดีนะ ดูแลตัวเองด้วย" ฮยอกแจตอบแล้วอ้าแขนให้คิบอมเข้ามากอดเขา
"ครับ พี่ก็.."คิบอมพูดแล้วตรงเข้าไปกอดฮยอกแจแล้วพูดเบาๆว่า
"ดูแลเขาแทนผมด้วยนะครับ..." ฮยอกแจถึงกับสะอึกกับคำพูดของคิบอม ชายหนุ่มยิ้มเจื่อนๆ แล้วถอยออกมาก่อนจะยิ้มรับแล้วตอบว่า
"แน่นอน ชั้นสัญญา อย่าลืมติดต่อมานะ" ฮยอกแจบอกเขาก่อนจะดินตรงจากลิฟต์ไปที่ห้องพัก
"อ้าว นึกว่าจะไปส่งด้วยกันซะอีก" ฮีชอลพูดเกาหัวงงๆก่อนจะเดินเข้าลิฟต์ตามคิบอมไปแล้วกดปิดลิฟต์
"จะไม่ไปลาเขาเลยเหรอ" ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบในห้องนอนสีขาวที่มีชายหนุ่มอีกคนกำลังนั่งชันเขาก้มหน้านิ่ง
"เขากำลังจะไปแล้วนะ.." ฮยอกแจเอ่ยซ้ำอีก
"อือม์ จะให้ชั้นทำไงล่ะ.."ชายหนุ่มเอ่ยเบาๆ พยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ เขาไม่อยากให้ฮยอกแจรู้ เขาไม่อยากให้ฮยอกแจเห็น เห็น..น้ำตาของเขาเพราะคิบอม...เขาก็แคร์ความรู้สึกของฮยอกแจเหมือนกัน
"ทำตามที่ใจนายอยากจะทำสิ" ฮยอกแจพูดน้ำเสียงนิ่งๆ
"นายจะไม่โกรธชั้นเหรอ ถ้าชั้น..ทำอย่างที่อยากทำจริงๆ" ดองเฮเงยหน้าขึ้นแล้วพูด
"ชั้นเคยบอกแล้วไงว่า..ชั้นรับได้ทุกอย่าง..แค่มีนายข้างๆชั้นก็พอใจแล้ว.."ฮยอกแจพูดน้ำเสียงเศร้าๆ เขารู้อยู่แล้วว่าคำตอบของดองเฮจะต้องเป็นแบบนี้..ต้องเป็นแบบนี้..
ดองเฮเม้มปากแน่น เขาหยุดคิดก่อนจะลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ฮยอกแจเงยหน้าขึ้นมองคนตรงหน้า สายตามีคำว่าขอร้องเขียนอยู่ในนั้น..เขาไม่อยากให้ดองเฮไป..เขาไม่อยาก...แต่เขาก็ไม่เห็นแก่ตัวพอที่รั้งดองเฮเอาไว้
ดองเฮตรงเข้าไปที่ฮยอกแจแล้วกอดเขาแน่นโดยที่เจ้าตัวไม่ทันตั้งตัว.. ชายหนุ่มถึงกับตกใจในปฏิกิริยาของชายในอ้อมกอดของเขา ฮยอกแจรู้สึกใจชื้นขึ้น เขากอดตอบดองเฮด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความรู้สึกของคำว่ารัก...
"ฮยอกแจ ชั้นสัญญาว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้าย...ขอโทษนะ" ดองเฮพูดแล้วผละออกจากฮยอกแจทันทีก่อนจะวิ่งออกจากห้องพักไปพร้อมกระแทกประตูปิดอย่างรวดเร็วเพราะความรีบ
ฮยอกแจยืนค้างอยู่คนเดียว หัวใจของเขาที่เพิ่งรู้สึกเป็นครั้งแรกว่าดองเฮแคร์ความรู้สึกเขาและแอบเข้าข้างตัวเองสักนิดว่าชายหนุ่มอาจจะรักเขาขึ้นมาบ้าง แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกใจหาย...หายไปพร้อมกับตอนที่ดองเฮปล่อยมือจากแผ่นหลังของเขา...
"ชั้นหวังว่านายจะทำอย่างที่นายพูดได้นะ..ดองเฮ.."ฮยอกแจมองไปที่ประตูก่อนจะเคลื่อนสายตาไปที่ผนังห้องที่แขวนรูปของพวกเขาไว้..ชายหนุ่มจ้องรูปตรงกลางไม่กระพริบตา..รูปเมื่อฤดูใบไม้ร่วงที่แล้ว..เมื่อวันเกิดของดองเฮ...เขา ดองเฮ และคิบอม..ใบหน้าทั้งสามที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม...แต่ตอนนี้ เวลานี้..กลับมีแต่คราบน้ำตาของแต่ละคน ต่างเหตุต่างผลกันไป..เพียงเพราะหัวใจเราเต้นไม่เท่ากัน....
"คิบอมมมมมมมมมมมมมมม!!!" ดองเฮตะโกนไล่หลังรถที่แล่นออกไปสุดเสียง สมาชิกวงซูปเปอร์จูเนียร์ที่มารอส่งต่างหันกลับมามองชายหนุ่มที่ยืนหอบหลังจากวิ่งลงบันไดมาห้าชั้น ฮีชอลเดินตรงไปหาดองเฮแล้วถามขึ้น
"อ้าวดองเฮ นายยังไม่ได้ลาคิบอมมันเหรอ"
"คิบอม..."ดองเฮพึมพำ รู้สึกได้น้ำตาของตัวเองกำลังใจไหล รู้สึกใจหาย ถึงแม้ว่านี่ก็เดือนกว่าแล้วที่เขาและคิบอมลดความสัมพันธ์เหลือเพียงเพื่อนที่ดีต่อกันเท่านั้น แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันนี้ วันที่คิบอมจะหายไปจากชีวิตเขาจริงๆ
"ทำไมไม่ลงมาให้เร็วกว่านี้ล่ะ มันไปแล้วนั่นน่ะ" ซีวอนหันมาย้ำ
"เครื่องออกกี่โมงเหรอซีวอน" เสียงเบาๆจากด้านหลังของพวกเขาดังขึ้น
"เห็นว่าบ่อยสองครึ่งน่ะ" เขาหันไปตอบ ชายหนุ่มเดินไปหาดองเฮแล้วจับมือเขาก่อนจะดึงไปด้านลานจอดรถ
"เดี๋ยวชั้นจะพาไปหาคิบอมเอง มาสิ"ฮยอกแจพูดขึ้นขณะกุมมือของดองเฮไว้ ชายหนุ่มตรงหน้าเขาค่อยๆเงยหน้าขึ้น สายตาของเขางงงวยปนตกใจและรู้สึกขอบคุณ ดองเฮไม่ตอบอะไรแต่ปล่อยให้ฮยอกแจจูงมือเดินไปที่ด้านลานจอดรถ
"ฮยอกแจ...ถามอะไรหน่อยสิ"ดองเฮเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบขณะที่พวกเขากำลังอยู่บนรถโดยมีฮยอกแจเป็นคนขับมุ่งหน้าไปยังสนามบิน
"อะไรเหรอ" เขาตอบสายตายังจ้องอยู่ที่ไฟจราจร
"นายต้องตอบชั้นตามตรงนะ..ชั้นอยากรู้" ดองเฮตั้งเงื่อนไข
"สำหรับนาย...ชั้นยอมตอบทุกอย่าง.."ฮยอกแจตอบไป ดองเฮรู้สึกจุกขึ้นมาทันที เขาไม่รู้ว่าควรจะถามฮยอกแจดีมั้ย เพราะแค่นี้ฮยอกแจก็แสดงออกให้เห็นแล้วว่าเขารักดองเฮมากขนาดไหน
"ทำไมนายถึงพาชั้นมาหาคิบอมล่ะ...นายไม่ได้ไม่อยากให้ชั้นมาเจอเขาเหรอ" ดองเฮถามสายตาจ้องไปยังคนขับรถข้างๆเขา
"ก็ถ้าถามความรู้สึกชั้นแล้ว..ชั้นก็ไม่อยากหรอก..แต่ถ้าถามจากความรู้สึกของนายแล้ว..คำตอบของชั้นก็คือสิ่งที่ชั้นทำอยู่..ชั้นจะรู้สึกยังไงไม่สำคัญ ขอเพียงคนที่จะอยู่ข้างๆชั้นได้มีความสุขและทำตามใจของเขาสักครั้ง ให้ชั้นเจ็บแค่นี้ชั้นก็ยอม..."ฮยอกแจตอบแล้วมองหน้าดองเฮ ชายหนุ่มที่ได้รับคำตอบถึงกับเม้มปาก พูดอะไรไม่ออกและนั่งเงียบไปจนถึงสนามบิน
"รีบไปสิ เดี๋ยวคิบอมมันเข้าเกตไปก่อนจะไม่ทันนะ" ฮยอกแจบอกทันทีที่จอดรถ
"นาย เอ่อ ไม่ลงไปด้วยกันเหรอ" ดองเฮชวน
"ไปเถอะ...ชั้นอยากให้พวกนายมีเวลาเป็นส่วนตัว..เพราะชั้นไม่อยากเป็นส่วนเกิน.."ฮยอกแจตอบแล้วหันไปหยิบ PSP จากเบาะหลังแล้วกดเปิดเครื่องเตรียมนั่งเล่นรอดองเฮ
"งั้น เดี๋ยวชั้นมานะ"ดองเฮบอก แล้วก่อนที่เขาจะเปิดประตูรถ ชายหนุ่มตัดสินใจหันกลับมาแล้วดึงฮยอกแจที่ทำเป็นนั่งกด PSP เข้าไปกอดแน่นแล้วบอกว่า
"ชั้นขอบคุณนายมากๆเลยนะ ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง ชั้นสัญญาว่าชั้นจะตอบแทนนายให้ได้มากที่สุดเท่าที่ชั้นจะทำได้" ดองเฮปล่อยฮยอกแจแล้วเปิดประตูลงจากรถก่อนจะรีบวิ่งไปยังฝั่งผู้โดยสารขาออกของสนามบินอินชอน
ฮยอกแจมองตามหลังดองเฮไปจนเห็นว่าเข้าไปด้านในแล้ว ชายหนุ่มโยน PSP กลับไปที่เบาะหลังแล้วเอาหัวโขกพวงมาลัยรถยนต์
"ไอ้ไก่โง่เอ๊ย เป็นไงล่ะแก แกจะปล่อยเขาไปใช่มั้ย แกจะไม่รั้งเขาไว้เลยเหรอ แกกำลังจะเสียเขาไปแล้วนะ" ฮยอกแจพูดอยู่คนเดียว
"ดองเฮ นายไม่ต้องตอบแทนอะไรชั้นมากหรอก ชั้นขอแค่เศษใจนาย..ก็มากเกินพอแล้ว.."ชายหนุ่มเอ่ยน้ำเสียงเศร้าๆ..ก่อนจะตัดสินใจเปิดประตูรถออกไป
"ชั้นไม่เคยได้อยู่ในชีวิตของเธอ..เป็นอยู่เสมอก็แค่คนที่ไม่เคยมีตัวตน...ในความฝันของเธอ..แค่ผ่านมา..และผ่านไป..
ก็ได้แต่ช้ำ..เมื่อรู้ว่าสิ่งที่ชั้นหวังมานาน..มันเป็นแค่จินตนาการของคนโง่งมงาย..เจ็บแทบตาย..แต่ทั้งใจก็ยังรักเธอ..."
คิบอมนั่งอยู่ที่เก้าอี้ด้านนอกเกตรอให้ผู้จัดการเอาตั๋วเครื่องบินมาให้...ชายหนุ่มนั่งทบทวนความคิดของตัวเอง...นี่เขาตัดสินใจถูกหรือเปล่า?..นี่เขาเดินมาถูกทางใช่มั้ย..นี่คือสิ่งที่เขาต้องการแน่นอนใช่มั้ย..ตั้งแต่วันนั้น..วันที่เขาบอกเลิกดองเฮไป...
ชายหนุ่มหลับตาเพื่อพักสายตา..แล้วความทรงจำต่างๆมากมายระหว่างเขาสองคนก็แล่นเขามาในสมอง..เมื่อวันที่เขาเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ที่เทรนในค่ายและมีดองเฮช่วยเป็นพี่เลี้ยงให้..วันที่เขาย้ายเข้าไปในหอพักเดียวกับดองเฮและดองเฮยอมให้เขานอนห้องเดียวด้วยเนื่องจากฮีชอลไม่ชอบขี้หน้าคิบอมจึงต้องการครองห้องนอนไว้คนเดียว..วันที่เขาผ่านการคัดเลือกและได้เล่นละคร คนแรกที่เขามาแสดงความดีใจกับเขาก็คือดองเฮ... วันที่เขาป่วยเพราะโหมงานหนักไปคนที่โดดซ้อมจากที่ค่ายแล้วรีบกลับมาดูแลเขาก็คือดองเฮ...วันที่เขาอยากเล่นเกมส์ Ninnijiมากแต่ฮีชอลยึดคอมไปคนเดียว คนที่แอบพาเขาออกไปเล่นคอมด้านล่างหอพักก็คือดองเฮ...วันที่เขาเหงาเพราะคิดถึงที่บ้านคนที่อยู่เคียงข้างเขาก็คือดองเฮ...วันที่เขาทุกข์ใจเพราะไม่มีคนสนใจคนที่เข้ามาปลอบเขาก็คือดองเฮ..วันที่เขามีความสุขคนที่เข้ามาเป็นส่วนนึงในรอยยิ้มของเขาก็คือดองเฮ...วันที่ดองเฮบอกเขาว่า...สิ่งที่เขาทำไปทั้งหมดเพราะเขารักคิบอม.. วันที่คิบอมเองก็รู้ใจตัวเองว่า..เขาก็รักดองเฮเหมือนกัน...
แต่ช่วงเวลาที่ผ่านมา เขากับดองเฮก็ห่างกันเรื่อยๆ ดองเฮอาจจะเอาตัวออกห่างเพราะต้องทำงาน แต่เขาเองนั่นแหล่ะที่เอาใจออกห่างจากดองเฮ...เขาไม่รู้และสับสน..เขาไม่อยากให้ดองเฮเจ็บ..แต่เขารักดองเฮต่อไปไม่ได้อีกแล้ว...และคนที่ดูแลดองเฮได้ดีกว่าเขาก็ปรากฏตัวมาแล้ว...ดองเฮดีเกินไปที่จะมาอยู่กับคนอย่างเขา...
"หึหึ ชั้นคงต้องเริ่มชีวิตใหม่ซะทีสินะ"คิบอมพึมพำแล้วยิ้มออกมา เขาเตรียมที่จะทิ้งความทรงจำของเขากับดองเฮทั้งหมดไว้ที่นี่ ที่เกาหลี..ที่ที่เขาได้พบ..และรักดองเฮ..และที่ที่เขาเป็นคนเลือกจะทิ้งดองเฮไป..
คิบอมสลัดความคิดต่างๆที่มีอยู่แล้วยืนขึ้น เตรียมจะก้าวขาเดินไปที่เกต แต่แล้วเสียงของคนที่เค้าคุ้นเคยก็ดังขึ้น
"คิบอม!!!!!" ดองเฮตะโกนอย่างดีใจที่เห็นคิบอมยังอยู่ ชายหนุ่มวิ่งตรงมาที่คิบอมและสวมกอดโดยที่คนตรงหน้าไม่ทันตั้งตัว ดองเฮกอดคิบอมแน่น..เขาไม่พูดอะไรสักอย่าง..คิบอมเองก็ไม่เอ่ยอะไร..ตอนนี้คงถึงเวลาแล้วที่จะใช้หัวใจคุยกัน...
อีกมุมนึงด้านหนังเสา ฮยอกแจยืนหันหลังและถอนหายใจพิงเสาเมื่อเห็นภาพตรงหน้า.. ตั้งแต่วันนั้นที่ดาดฟ้า..เขาเคยคิดว่า..ดองเฮคงจะตัดใจจากคิบอมได้..และมันคงจะมีสักวันที่เขาจะเป็นเจ้าของหัวงใจของดองเฮ..อย่างสมบูรณ์
"นี่เราเคยได้เขามาด้วยเหรอ?..."ฮยอกแจพึมพำพร้อมกับหัวใจที่เหมือนโดนบีบ..ยืนมองคนที่เขารัก..ในอ้อมกอดคนอื่น..มันเป็นเรื่องที่ฝืนใจมากมายที่จะยืนมองดูและยอมรับความจริง
"นายอยากเป็นข่าวหรือไง แถวนี้ปาปารัซซี่เยอะนะ"คิบอมบอกดองเฮที่ยังคงกอดเขาแน่น ชายหนุ่มในอ้อมกอดของคิบอมเริ่มรู้สึกตัวจึงถอยออกมา แต่ยังคงจ้องหน้าคิบอมอยู่ คิบอมยิ้มออกมา..ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาหมายความว่ายังไง..ดีใจที่ดองเฮมา..หรือว่าอะไร
"อือ ขอโทษนะ.." ดองเฮบอก
"ขอโทษอะไร นายไม่เห็นมีอะไรต้องขอโทษชั้นเลยนี่นา ชั้นซะอีกที่เป็นคนที่ควรจะพูดคำว่าขอโทษ" ชายหนุ่มสีหน้าสลดลงเมื่อคิดถึงเรื่องวันนั้น
"ชั้นไม่รู้สิ..ว่าแต่นายจะไปนานแค่ไหนกันอ่ะ ได้ยินพี่ฮันเกิงโวยวายว่านายขนของไปซะเยอะเลย"
"ชั้นก็ไม่รู้เหมือนกันนะ ตามกำหนดคือ 3 เดือน ระหว่างนั้นชั้นก็ไม่ได้กลับมาที่เกาหลีด้วย ตอนนี้เป็นช่วงพักของ Super Junior ชั้นเลยคิดว่าเวลานี้คงเหมาะแล้ว ถ้าจะไม่มีชั้นสักคน"
"นาย..จะกลับมาใช่มั้ย.." ดองเฮตัดสินใจถาม สายตาของเขาอยากได้คำตอบจากคิบอม
"ชั้นตอบไม่ได้...นายก็ดูแลตัวเองด้วยนะ..แล้วก็รักเขาให้มากๆเหมือนที่เคยรักชั้นนะ.."คิบอมพูดแล้วดึงมือของดองเฮมากุมเอาไว้
"ขอบใจนะคิบอมที่ครั้งนึงที่สอนให้ชั้นรู้จักคำว่ารักและเจ็บปวด แม้ว่า..ชั้นจะไม่เคยรู้เลยก็ตามว่าทำไมนายถึงอยากจะออกไปจากชีวิตชั้น.."ดองเฮตอบแล้วดึงมือออกจากมือของคิบอม เขายิ้มให้คิบอมอย่างจริงใจอีกครั้ง...ด้วยแววตาที่ดูเศร้าเกินกว่าจะบรรยาย
คิบอมเดินหันหลังตรงไปที่เกตพร้อมกับผู้จัดการของเขาที่เตรียมตั๋วเครื่องบินไว้ในมือ คิบอมรับพาสปอร์ตและเอกสารต่างๆแล้วหันมามองดองเฮอีกครั้ง ชายหนุ่มยิ้มให้ก่อนจะโบกมือลาแล้วเดินเข้าเกตไป...
เสียงมือถือของดองเฮดังขึ้นพร้อมกับแมสเสจที่ถูกส่งเข้ามา ดองเฮกดเปิดข้อความนั้นออกอ่าน...
"ขอบคุณเหมือนกันนะดองเฮ ที่ทำให้ชั้นรู้ว่าในโลกนี้..ยังมีคนนึงที่รักชั้นจริงๆ..."
ใครสักคนบอกเขาทีเถอะ..วันนั้นเขาตัดสินใจถูกแล้วใช่มั้ย?.....
บรรยากาศภายในรถช่างน่าอึดอัด ชายหนุ่มทั้งคู่ต่างคนต่างไม่พูด ไม่รู้เพราะพูดไม่ออกหรือไม่อยากจะพูดกันแน่ ฮยอกแจขับรถไปเรื่อยๆแต่ทางที่เขาไปกลับไม่ใช่เส้นทางปกติที่ไปยังหอพัก ฮยอกแจพาดองเฮมาที่อื่นที่สวนสนุก...ล็อตเต้เวิร์ล
"มาที่นี่ทำไมเหรอ" ดองเฮหันไปถามเขาสีหน้างงๆ
"ใส่นี่ซะ" ฮยออกแจยื่นผ้าพันคอ หมวกไหมพรมสีน้ำตาลและแว่นตากันแดดให้ดองเฮ ก่อนจะหันไปที่เบาะหลังแล้วค้นของตัวเองบ้าง
"ชั้นอยากทำให้นายมีความสุข..กับชั้นบ้างซักครั้ง.."
"อือม์..."ดองเฮรับคำแล้วสวมหมวกและแว่นตา
"มาเถอะ" ฮยอกแจพูดแล้วเปิดประตูรถลงไป
ชายหนุ่มสองคนพยายามซ่อนใบหน้าไว้ใต้หมวกไหมพรมและผ้าพันคอพร้อมทั้งแว่นตา เพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกตของคนทั่วไป พวกเขาเลือกใช้ลิฟต์ตัวในสุดจากลานจอดรถใต้ดินจนมาถึงสวนสนุกในล่มที่อยู่ชั้นบนสุดของล้อตเต้เวิร์ล
"นี่ฮยอกแจ อยากจะเล่นจริงๆเหรอ ถ้าเกิดมีคนจำพวกเราได้ล่ะ" ดองเฮท้วงเขาไว้ก่อนที่ฮยอกแจจะซื้อบัตรเข้าสวนสนุก
"ก็ตอบไปสิว่า พวกเราแค่หน้าเหมือน คิคิคิ ไม่ยอมรับซะอย่างใครจะว่าไงก็ช่าง" ฮยอกแจะบอกแล้วขยิบตาก่อนจะเดินไปต่อแถวซื้อตั๋ว
ชายหนุ่มเดินกลับมาแล้วยื่นตั๋วสีเหลืองพร้อมกับที่คล้องข้อมือให้ดองเฮ เขายื่นมือออกไปรับแต่ฮยอกแจกลับเปลี่ยนใจดึงข้อมือดองเฮมาแล้วติดที่คล้องข้อมือให้แทนก่อนจะเดินจับมือเขาเข้าไปในสวนสนุก
"อยากปลดปล่อยความทุกข์ใจบ้างมั้ย" ฮยอกแจหันมาถาม ดองเฮไม่ได้ตอบเขาแต่พยักหน้า ชายหนุ่มจึงพาเขามาที่เครื่องเล่นโรลเล่อร์โคสเตอร์
"รับรองว่าไอ้นี่จะพานายหลุดโลกไปเลยแน่ๆ"ฮยอกแจดึงดองเฮไปต่อแถวที่ที่นั่งหน้าสุด ก่อนจะกระโดดขึ้นนั่งด้านใน โดยมีดองเฮตามเข้ามา ฮยอกแจเอี้ยวตัวไปรัดเข็มขัดให้ดองเฮก่อนจะพูดว่า
"นายพร้อมหรือยัง"
"ฮยอกแจ นั่งหน้าสุดมันเสียวน้า ไม่กลัวเหรอ" ดองเฮเริ่มมีสีหน้าหวั่นวิตก
"ถ้านายกลัวก็กอดชั้นไว้สิ"ฮยอกแจบอกพร้อมๆกับที่เครื่องเล่นโรวเลอร์โคสเตอร์ตะลุยแดนอียิปต์นั้นจะเคลื่อนตัวออกจากราง
"เฮ้ย จะดีเหรอ งั้นชั้นรัดนายเลยนะ" ดองเฮบอกแล้วเกาะฮยอกแจแน่นพร้อมกับตอนที่เครื่องเล่นความเร็วสูงนี้จะพุ่งตัวลงในแนวดิ่งกับพื้นโลกแล้วกลับมาในแนวระนาบอย่างรวดเร็วก่อนจะวิ่งเลี้ยวโค้งซ้ายขวาอย่างเมามันส์ ดองเฮอ้าปากตะโกนส่งเสียงที่ปนไปด้วยความกลัวและความเสียว ฮยอกแจหันไปมองหน้าใสๆของหนุ่มน้อยคนข้างๆแล้วก็ขำออกมาเบาๆด้วยความตลก ถ้าเขาถ่ายรูปสีหน้าของดองเฮตอนนี้เอาไว้แล้วไปลงที่เว็บแฟนคลับ ดองเฮคงจะมีแฟนคลับเพิ่มอีกเท่าตัว เพราะว่านอกจากรูปนี้จะเป็นรูปที่ดูแล้วฮาชวนหัวเราะจนน้ำตาไหลแต่ก็แฝงไปด้วยความน่ารักตามแบบฉบับของดองเฮที่ไม่มีใครเหมือน ฮยอกแจยิ้มก่อนจะเอื้อมมือของเขาไปจับมือของซ้ายของดองเฮที่เกาะราวแน่น ส่วนมือข้างขวาของดองเฮตอนนี้กำลังรัดเอวบางๆของฮอยกแจด้วยความตกใจ ฮยอกแจหัวเราะชอบใจในใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกลัวของดองเฮ เขากุมมือน้อยๆนั้นไว้แน่น เหมือนจะบอกกับดองเฮว่า...แค่เพียงดองเฮอยู่ข้างเขา...ก็ไม่มีอะไรที่ต้องกลัว...เขาจะดูแลดองเฮเอง..
รถไฟโรวเลอร์โคสเตอร์มรณะจอดเทียบท่าอย่างสวัสดิภาพ ดองเฮแทบจะกระโดดลงจากรถไฟนรกคันนั้น ทันทีที่ขาสองข้างแตะพื้นดองเฮก็เตรียมจะล้วงคอเอาทุกอย่างที่เขาเพิ่งกินออกมาเพราะคลื่นไส้
"นี่นายท้องหรือไง ชั้นยังไม่ได้ทำอะไรซะหน่อย" ฮยอกแจพูดหยอกดองเฮที่เห็นหน้าเรียวของชายหนุ่มตรงหน้ากลายเป็นสีเขียวเพราะเวียนหัวจะอาเจียน
"ฮยอกแจบ้า นายพาชั้นมาเล่นอะไรเนี่ย รู้มั้ย ชั้นไม่ได้ขึ้นไอ้นี่มาชาติกว่าแล้วนะ ตั้งแต่คิ.." ดองเฮที่ตอนแรกลืมชื่อของผู้ชายคนนี้ไปชั่วขณะที่เขาได้มาปลดปล่อยอารมณ์กับผู้ชายตรงหน้า ดองเฮถึงกับชะงักเมื่อรู้ว่าสิ่งที่ตนจะพูดออกไปนอกจากจะทำให้ฮยอกแจเจ็บแล้ว..เขาเองก็จะเจ็บด้วย...
"เอ้อ.. ไม่มีไรหรอก ไปนั่งรถเคเบิ้ลกันเถอะ ชั้นอยากไปเล่นเครื่องเล่นข้างนอก อยากนั่งชิงช้าใหญ่นั่นอ่ะ" ดองเฮรีบเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็วแล้วจูงมือฮยอกแจไปทันที ฮยอกแจเดินตามคิบอมไป..สายตาจ้องไปยังมืออันบอบบางที่จูงมือเขาไว้...แล้วคำถามหนึ่งคำถามในหัวของเขาคือ...ดองเฮจะจูงมือเขาแบบนี้ต่อไปอีกนานเท่าไหร่?...จะมีวันนั้นมั้ยที่ดองเฮจะปล่อยมือจากเขาไป...ตลอดกาล..
ทั้งคู่กระโดดขึ้นรถเคเบิ้ลคาสีเขียวที่มีรางทอดผ่านจากภายในสวนสนุกในล่มของล้อตเต้เวิร์ลไปด้านนอกของสวนสนุกกลางแจ้งล้อตเต้เวิร์ล ฮยอกแจย้ายที่นั่งจากฝั่งตรงข้ามไปนั่งข้างๆดองเฮแล้วชี้ให้เขาดูเครื่องเล่นดิ่งพสุธาสองอันที่ตั้งตระหง่านอยู่ข้างแม่น้ำที่ไหลผ่านระหว่างสวนสนุกล็อตเต้เวิร์ลกับโรงแรมล้อตเต้ ฮยอกแจพาดแขนลงบนไหล่ของดองเฮแล้วชวนดองเฮดุเครื่องเล่นที่วางแผนจะเล่น เขาชี้ไปที่อันโน้นอันนี้พยายามกล่อมให้ดองเฮขึ้นเครื่องเล่นหวาดเสียวแต่ละอัน แต่ดองเฮก็จะส่ายหน้าไม่เอาด้วย จนเมื่อรถไฟฟ้าเคเบิ้ลนั้นจอดเทียบท่าสถานี ฮยอกแจดึงดองเฮลงมาจากรถแล้วลากเขาตรงดิ่งไปยังเครื่องเล่นดิ่งพสุธาที่จะปล่อยคนจากความสูงหลายสิบเมตรภายในเวลาไม่กี่วินาทีให้หัวใจวายเล่น
"ฮยอกแจ ชั้นไม่อยากขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ฉบับเช้าวันพรุ่งนี้นะ แฟนคลับของชั้นจะคิดยังไง ถ้าตื่นเช้ามาแล้วเห็นว่าหนังสือพิมพ์กรอบเช้าพาดหัวข่าวว่า 'ดับอนาถ นักร้องหนุ่มสุดหล่อแห่งซูปเปอร์จูเนียร์ ดิ่งพสุธาจากเครื่องเล่นมรณะร่างแหลกเหลว' อ๊ากก ม่ายเล่นนนนนนนนนนนนนนน" ดองเฮเริ่มสติแตกหลังจากคิดตามสิ่งที่เขาพูดออกมา ฮยอกแจส่ายหน้ากับความคิดเหมือนเด็กของดองเฮก่อนจะลากเขาไปต่อแถวที่เครื่องเล่นนั้นทันที
"เฮ้ย! นายฟังชั้นบ้างสิ ไอ้นี่มันน่ากลัวว่าโรลเลอร์โคสเตอร์นั่นน่ะ ฮยอกแจๆ ไม่เอาน้า ไปเล่นอย่างอื่นเห๊ออออออออ" ดองเฮพยายามเกลี้ยกล่อมฮยอกแจ แต่ดูเหมือนจะไร้ผล ชายหนุ่มด้านหน้าเขาเอาแต่หัวเราะ ก่อนจะลากเขาไปที่เครื่องเล่นทันทีเพราะมันถึงตาของพวกเขาแล้ว
ดองเฮขาสั่นทันทีที่ฮยอกแจผลักให้เขานั่งลงบนเบาะนั่งนั้น ก่อนจะดึงเข็มขัดมารัดให้เข้าที่ ดองเฮเกาะที่จับแน่น หลับตาปี๋ทั้งๆที่เครื่องเล่นคนยังนั่งไม่ครบ
"นี่ดองเฮ ชั้นไม่คิดว่าผู้ชายแบบนายจะกลัวอะไรแบบนี้นะ ลืมตาขึ้นสิ ถ้านายหลับตาแล้วค่อยลืมทีหลัง นายอาจช็อคได้น้า คราวนี้ได้ขึ้นหน้าหนึ่งของจริงแน่ๆ" ฮยอกแจเอื้อมมือจากที่นั่งด้านข้างไปเขย่าตัวดองเฮ
"อึ๋ย...กลัวนี่น่า นายไม่ใช่ชั้นนี่ โอ่ย....ชั้นจะหัวใจวายมั้ยเนี่ย" ดองเฮเริ่มรำพึงรำพันต่อ
"ถือซะว่า...ชั้นพานายมาปลดปล่อยทุกอย่างละกันะดองเฮ...ความทุกข์..ความเศร้า...ความเสียใจ...ที่นายมี นายก็ทิ้งมันไปพร้อมกับที่ไอ้เครื่องเล่นนี่ทิ้งตัวลงมานะ พอนายลงมาจากเครื่องเล่นนี้ นายจะได้ลืม..ลืมทุกอย่าง..แล้วก็มีแต่ความสุขที่นายเหลืออยู่..." ฮยอกแจบอกดองเฮอย่างจริงใจ ดองเฮลืมตาขึ้นแล้วจ้องหน้าฮยอกแจ เขาเอื้อมมือไปกุมมือฮยอกแจไว้ข้างหนึ่ง เหมือนเป็นสัญญาว่าฮยอกแจจะต้องไม่ทิ้งเขาไป ซึ่งเป็นขณะเดียวกันที่เครื่องเล่นนี้ค่อยๆเคลื่อนตัวขึ้นสู่ท้องฟ้า...สูงขึ้นเรื่อยๆ...สูงขึ้น...จนเมื่อเครื่องเล่นนั้นหยุดที่ความสูงซึ่งได้ระดับ ดองเฮบีบมือฮยอกแจแน่น และภายในเสี้ยววินาทีนั้นเองเครื่องเล่นดิ่งพสุธานั้นก็ทิ้งตัวลงมาด้วยความเร็วสูงอย่างรวดเร็ว ดองเฮร้องลั่นแต่ก่อนที่เขาจะตั้งสติได้ เครื่องเล่นนั้นก็จอดสนิทที่พื้นภายในเวลาไม่กี่วินาที ดองเฮรู้สึกประหลาดใจ...เขาไม่รู้สึกกลัวเลย เมื่อกุมมือฮยอกแจไว้...และเขาเริ่มจะสนุกกับเล่นบ้าๆเสียวๆที่ฮยอกแจพาเขามาเล่นซะแล้วสิ
"ยะฮู้ววววววววววววววววววววววววววว " ดองเฮตะโกนทันทีที่ขาแตะพื้น
"ไงล่ะ ชั้นบอกแล้วว่าสนุกก็ไม่เชื่อ ไม่น่ากลัวสักนิดเดียว มันส์จะตาย อิอิ" ฮยอกแจยิ้มแล้วหัวเราะก่อนจะเกาะคอดองเฮแล้วพาเขาไปเล่นเครื่องเล่นอื่นๆ
ดองเฮได้เล่นชิงช้าอันใหญ่สมใจ เขารู้สึกสบายใจขึ้น เมื่อลมเย็นๆปะทะหน้าเขาเมื่อเขาอยู่บนชิงช้านั้นที่แกว่งตัวไปไกลและตีวงกว้าง ชายหนุ่มค่อยๆยิ้มออกมากับตัวเอง..บางทีถ้าเขายอมทิ้งความเจ็บปวดที่เขามี..เขาคงจะมีความสุขแบบนี้กับฮยอกแจ..ตลอดไป...
"ชั้นหิวแล้วอ่ะ ฮยอกแจไปซื้อฮอตดอกให้กินหน่อยจิ น้าๆๆๆๆ"ดองเฮเริ่มอ้อนฮยอกแจด้วยความหิวหลังจากที่ตระเวนเล่นเครื่องเล่นมาหลายชนิด
"นายไม่ไปซื้อเองเล่า..อะๆ ไปซื้อให้ก็ได้ อยู่ตรงนี้นะ ห้ามไปไหนล่ะ..." ฮยอกแจกำชับก่อนจะเดินไปที่ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดด้านข้าง
ดองเฮหาที่นั่งแล้วมองไปรอบๆตัวเขา ผู้คนมากมายเดินขวักไขว่ บางคนก็มาเป็นครอบครัว บางคนก็มากับเพื่อนฝูง บางคนก็มาแบบคู่รัก... ดองเฮยิ้มแล้วขยับหมวกให้หลุบต่ำกว่าเดิม เขาไม่ได้ออกมาเที่ยวเล่นแบบนี้นานแค่ไหนแล้วน้า...ตั้งแต่ซูปเปอร์จูเนียร์ดังขึ้นเรื่อยๆ งานของพวกเขาก็มากขึ้นมากขึ้น โดยเฉพาะงานเดี่ยวจนแทบจะไม่มีเวลาออกมาเที่ยวเล่นด้วยกัน..ตอนนี้..คิบอมจะถึงญี่ปุ่นยังนะ..ดองเฮอดคิดไม่ได้ว่าคนคนนั้นจะเป็นอย่างไรบ้าง..เขาควรจะเข้มแข็งและยอมรับความจริงสินะ...เขาต้องเคารพการตัดสินใจของคิบอม...บางทีเขากับคิบอมคงเกิดมาเพื่อที่จะเจอกันแต่ไม่ได้คู่กัน...สวรรค์มักเล่นตลกแบบนี้เสมอ..เพื่ออะไร?
ฮยอกแจเดินหอบถุงใส่ฮอตดอก แฮมเบอเกอร์ ไก่ทอดและเป๊ปซี่อีก 2ขวด ตรงมาที่ดองเฮ เขาสังเกตเห็นดองเฮเหม่อๆ จึงแอบอ้อมไปด้านหลังแล้วค่อยๆย่องเข้าไปใกล้ชายหนุ่มและตะโกนให้ตกใจเล่น
"จ๊ะเอ๋!" ดองเฮที่กำลังเหม่ออยู่ตกใจแทบจะตกเก้าอี้ เขารีบหันมาเตรียมจะอัดคนที่แกล้งให้เขาตกใจ แต่พอเห็นอาหารที่ฮยอกแจถืออยู่นั้น ชายหนุ่มก็เปลี่ยนใจคว้าถุงอาหารมาอย่างรวดเร็วแต่ก็ยังบ่นฮยอกแจไปด้วยขณะที่เปิดถุงอาหาร
"นายนี่ พยายามฆ่าชั้นมาทั้งวันแล้วนะ อยากจะให้ชั้นหวยใจวายตายซะกี่รอบกันฮะ!"ดองเฮว่าแต่ปากก็ยังเคี้ยวอาหารไปเรื่อยๆ
"ไม่ต้องกลัวหน่า ถ้านายหัวใจวาย ชั้นยอมเปลี่ยนหัวใจชั้นให้นายเลย" ฮยอกแจว่าน้ำเสียงของเขาแฝงไว้ด้วยความหมายที่มากกว่านั้น เขาเปิดถุงแล้วหยิบเป๊ปซี่ออกมาหนึ่งขวดก่อนจะเปิดฝาใส่หลอดแล้วยื่นให้ดองเฮ
ชายหนุ่มรับขวดน้ำมาแล้วดื่ม แล้วก็จ้องหน้าฮยอกแจก่อนจะถามว่า
"นายไม่กินล่ะ หรือว่านายแอบใส่อะไรลงไปเลยไม่กล้ากิน ใช่มะ" ดองเฮส่งสายตาจับผิดมาที่ฮยอกแจ ชายหนุ่มได้ฟังดังนั้นก็หัวเราะออกมาด้วยความใสซื่อของดองเฮ
"ชั้นไม่หิวต่างหากล่ะ นายกินไปเถอะ ชั้นอิ่มแล้วน่า..." ฮยอกแจไม่อยากจะบอกเลยว่า แค่มีดองเฮอยู่ข้างๆเขา ไม่ว่าน้ำ..อากาศ..แร่ธาตุ..หรืออะไรก็ตาม..ก็ไม่มีความหมายที่จำเป็นต่อชีวิตเขา...เพราะสิ่งที่หล่อเลี้ยงหัวใจเขาอยู่ทุกวันนี้ก็คือ...ผู้ชายคนนี้...ลี ดองเฮ....
"ชั้นอิ่มละ" ดองเฮเอ่ยขึ้นทันทีที่ยัดแฮมเบอเกอร์คำสุดท้ายเข้าปาก ชายหนุ่มกินเกลี้ยงทุกอย่างไม่มีเหลือ..ก่อนจะแย่งเป๊ปซี่ของฮยอกแจไปดิ่มเพราะขวดของตัวเองหมดแล้ว
"อิ่มซะที กินยังกะหมูแหน่ะ นายน่ะ.."ฮยอกแจแกล้งแซวดองเฮ
"โธ่ ก็ตัวเองไม่กินเอง อย่าบ่นว่าหิวนะ ชั้นจะไม่สนใจเลย"ดองเฮว่าแล้วกระโดดจากม้านั่ง
"นี่นายรู้มั้ยว่าชั้นอยากเล่นอะไรมากที่สุดในสวนสนุก" ชายหนุ่มตั้งคำถาม ฮยอกแจขวมดคิ้วหากันอย่างงงๆ ดองเฮได้รับคำตอบจากสีหน้าของฮยอกแจ ชายหนุ่มยิ้มระรื่นแล้วชี้ไปด้านขวา...
"ไม่..ชั้นไม่เข้านะ..ไม่เอา.." ฮยอกแจพูดทันทีที่เห็นเครื่องเล่นที่ดองเฮชี้ไป
"น่าๆ...จะกลัวอะไร ทีนายยังลากชั้นไปเล่นไอ้เครื่องเล่นบ้าบอพวกนั้นได้เลย..แค่นี้ทำเพื่อชั้นไม่ได้เหรอ.."ดองเฮว่าแล้วทำหน้าน่าสงสารปนน้อยใจ ก่อนจะสงสายตาอ้อนวอนไปให้ฮยอกแจ
"แต่ชั้นไม่ชอบนี้นา...แต่...ก็ได้ ถ้านายอยากเล่น ถือว่าไถ่โทษที่ชั้นลากนายเล่นเครื่องเล่นเสียวๆพวกนั้นละกัน" ฮยอกแจพูดแล้วยืนขึ้น
"วันนี้ฮยอกแจน่ารักที่สุดเลย...อิอิ"ดองเฮบอกแล้วลากมือฮยอกแจไปที่สถานที่นั้น...มันคือ..."บ้านผีสิง".....
"นั่นสิคิบอม ไปถ่ายละครแค่สามเดือนเองไม่ใช่เหรอ ทำไมทำยังกับจะย้ายบ้าน แล้วก็อาเกิง เมื่อกี๊นายพูดผิดนะจ๊ะ มันต้อง'ซะเยอะเลย' ไม่ใช่ 'เยอะซะเลย'พูดให้ถูกหน่อยสิ นายอยู่เกาหลีมากี่ปีแล้วฮะ!" หนุ่มหน้าสวย คิม ฮีชอลหันไปถลึงตาใส่ฮันเกิงเมื่อพูดประโยคหลังกับเขา
"ผมคงคิดถึงพวกพี่มากๆเลยนะครับเนี่ย ตั้งสามเดือน ที่จะไม่ได้เห็นตาโตจนล้นเบ้ากับปากเสียๆของพี่ฮีชอล ไหนจะไม่ได้ฟังเกาหลีสำเนียงประหลาดของพี่ฮันเกิงอีก คิดแล้วก็ใจหาย" คิบอมยิ้มพร้อมกับหยิบหมวกขึ้นมาใส่
"ตะกี๊นายชมหรือด่าชั้นเนี่ย" ฮีชอลหันมาถามตาขวางๆ
"ด่าอยู่แล้วใช่มั้ยรักน้อง เอ๊ย น้องรัก เอ๊ะ หรือว่ารักน้อง อะไรกันนะฮีชอล" ฮันเกิงทำคิ้วขมวดแล้วหันไปถามฮีชอล ส่วนคิบอมได้แต่อมยิ้มหัวเราะคนเดียว
"ฮันเกิงนายน่าจะเอาเวลานั่งเล่น PSP ไปต้มพจนานุกรมเกาหลี-จีนกินนะ ชั้นแนะนำ == " ฮีชอลบอกแล้วหันไปพูดกับคิบอมต่อไม่สนใจฮันเกิงที่ยังคงยืนนึกศัพท์อยู่คนเดียว
"นายต้องโทรมาหาชั้นทันทีที่นายถึงโตเกียวนะ แล้วก็อย่าลืมวันไหนว่างก็ส่งเมลล์มาหาชั้นด้วย ห้ามลืมกินข้าว นอนให้ถึงสี่ชั่วโมง แล้วก็หัดพูดกับคนรอบข้างด้วยนะนาย ชั้นเป็นห่วง" ฮีชอลร่ายยาวใส่คิบอมราวกับว่าเขาเป็นแม่
"คร๊าบบบบพี่ฮีชอลสุดสวย ผมจะทำตามที่พี่บอก" คิบอมยิ้มตอบแล้วกอดฮีชอล
"ทำไมชั้นรู้สึกใจหายแบบนี้ เหมือนจะไม่ได้เจอนายอีกนานเลย ชั้นคิดถึงนายจัง" ฮีชอลเผลอพูดความรู้สึกของตัวเองออกมาทั้งที่ใจจริงตั้งท่าจะเก็กฮาให้คิบอมขำ แต่พอเอาเข้าจริงเขากลับทำไม่ได้ เขาคงไม่เข้มแข็งพอที่จะเป็นพี่ชายที่ดีได้
"ผมยังไม่ไปเลยนะ ทำไมคิดถึงแล้วล่ะ" คิบอมตอบแล้วลูบหลังพี่ชาย
"ไม่รู้ โฮๆๆๆๆๆๆ T^T" ฮีชอลคร่ำครวญพร้อมกอดคิบอมแน่น
"อ้าวๆๆ นั่นจะกอดกันจนคิบอมมันตกเครื่องเลยมั้ย รถมาแล้วนะคิบอม รออยู่หน้าอพาร์ทเม้นท์แหน่ะ" ซีวอนที่เดินเข้าจากประตูบอกชายหนุ่มพร้อมกับเตรียมยกกระเป๋าสองใบของคิบอม
"นายลาคนอื่นๆแล้วเหรอ" ซีวอนถามอีก
"อือม์หมดแล้ว ยกเว้น..เอ่อ..เขาคงไม่อยากเจอผมล่ะมั้ง" คิบอมพูดถึงคนคนนั้นพร้อมมองไปยังห้องด้านหลัง
"เอ้า งั้นก็ไปกันเถอะ เดี๋ยวชั้นได้ซิ่งไปส่งนายที่แอร์พอร์ตมันจะไม่ดี ชั้นยังไม่อยากขึ้นหน้าหนึ่ง" ซีวอนบอก ส่วนฮีชอลยังทำหน้ากระซิกๆเหมือนคนจะร้องไห้อยู่เรื่อยๆโดยมีฮันเกิงปลอบอยู่
"อือม์"ชายหนุ่มส่งเสียงแล้วก้มลงหยิบกระเป๋าเป้หนังสะพายข้างอีกมือ เตรียมลากกระเป๋าเดินทางสีดำใบใหญ่
ซีวอน ฮันเกิงและคิบอมช่วยกันลากกระเป๋าที่คิบอมเตรียมย้ายสำมะโรครัวเนื่องจากว่าชายหนุ่มคนของที่มีไปเกือบทั้งหมด ฮีชอลยังคงไม่ยอมปล่อยคิบอม เขาเดินมาควงแขนชายหนุ่มและพรรณนาต่อไปเรื่อยๆ จนฮันเกิงและซีวอนอดกลั้นหัวเราะไม่ได้
เมื่อมาลิฟต์เปิดออกก็ปรากฏร่างของชายคนนึงด้านใน ชายหนุ่มในลิฟต์ยิ้มให้ทุกคน ก่อนจะกดลิฟต์เปิดประตูรอให้พวกเขาลากกระเป๋าเข้ามา
"ว่าไงฮยอกแจ" ฮันเกิงทักเขา
"ชั้นมารอส่งคิบอมน่ะ พี่มากดลิฟต์แทนแป๊ปนึงสิ" ฮยอกแจหันไปบอกฮันเกิงก่อนจะตรงไปหาชายหนุ่มตรงหน้า
"จะไปแล้วสินะ" ฮยอกแจเอ่ยขึ้นยิ้มๆ
"อือม์..." ชายหนุ่มตอบกลับ
"โชคดีนะ ดูแลตัวเองด้วย" ฮยอกแจตอบแล้วอ้าแขนให้คิบอมเข้ามากอดเขา
"ครับ พี่ก็.."คิบอมพูดแล้วตรงเข้าไปกอดฮยอกแจแล้วพูดเบาๆว่า
"ดูแลเขาแทนผมด้วยนะครับ..." ฮยอกแจถึงกับสะอึกกับคำพูดของคิบอม ชายหนุ่มยิ้มเจื่อนๆ แล้วถอยออกมาก่อนจะยิ้มรับแล้วตอบว่า
"แน่นอน ชั้นสัญญา อย่าลืมติดต่อมานะ" ฮยอกแจบอกเขาก่อนจะดินตรงจากลิฟต์ไปที่ห้องพัก
"อ้าว นึกว่าจะไปส่งด้วยกันซะอีก" ฮีชอลพูดเกาหัวงงๆก่อนจะเดินเข้าลิฟต์ตามคิบอมไปแล้วกดปิดลิฟต์
"จะไม่ไปลาเขาเลยเหรอ" ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบในห้องนอนสีขาวที่มีชายหนุ่มอีกคนกำลังนั่งชันเขาก้มหน้านิ่ง
"เขากำลังจะไปแล้วนะ.." ฮยอกแจเอ่ยซ้ำอีก
"อือม์ จะให้ชั้นทำไงล่ะ.."ชายหนุ่มเอ่ยเบาๆ พยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ เขาไม่อยากให้ฮยอกแจรู้ เขาไม่อยากให้ฮยอกแจเห็น เห็น..น้ำตาของเขาเพราะคิบอม...เขาก็แคร์ความรู้สึกของฮยอกแจเหมือนกัน
"ทำตามที่ใจนายอยากจะทำสิ" ฮยอกแจพูดน้ำเสียงนิ่งๆ
"นายจะไม่โกรธชั้นเหรอ ถ้าชั้น..ทำอย่างที่อยากทำจริงๆ" ดองเฮเงยหน้าขึ้นแล้วพูด
"ชั้นเคยบอกแล้วไงว่า..ชั้นรับได้ทุกอย่าง..แค่มีนายข้างๆชั้นก็พอใจแล้ว.."ฮยอกแจพูดน้ำเสียงเศร้าๆ เขารู้อยู่แล้วว่าคำตอบของดองเฮจะต้องเป็นแบบนี้..ต้องเป็นแบบนี้..
ดองเฮเม้มปากแน่น เขาหยุดคิดก่อนจะลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ฮยอกแจเงยหน้าขึ้นมองคนตรงหน้า สายตามีคำว่าขอร้องเขียนอยู่ในนั้น..เขาไม่อยากให้ดองเฮไป..เขาไม่อยาก...แต่เขาก็ไม่เห็นแก่ตัวพอที่รั้งดองเฮเอาไว้
ดองเฮตรงเข้าไปที่ฮยอกแจแล้วกอดเขาแน่นโดยที่เจ้าตัวไม่ทันตั้งตัว.. ชายหนุ่มถึงกับตกใจในปฏิกิริยาของชายในอ้อมกอดของเขา ฮยอกแจรู้สึกใจชื้นขึ้น เขากอดตอบดองเฮด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความรู้สึกของคำว่ารัก...
"ฮยอกแจ ชั้นสัญญาว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้าย...ขอโทษนะ" ดองเฮพูดแล้วผละออกจากฮยอกแจทันทีก่อนจะวิ่งออกจากห้องพักไปพร้อมกระแทกประตูปิดอย่างรวดเร็วเพราะความรีบ
ฮยอกแจยืนค้างอยู่คนเดียว หัวใจของเขาที่เพิ่งรู้สึกเป็นครั้งแรกว่าดองเฮแคร์ความรู้สึกเขาและแอบเข้าข้างตัวเองสักนิดว่าชายหนุ่มอาจจะรักเขาขึ้นมาบ้าง แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกใจหาย...หายไปพร้อมกับตอนที่ดองเฮปล่อยมือจากแผ่นหลังของเขา...
"ชั้นหวังว่านายจะทำอย่างที่นายพูดได้นะ..ดองเฮ.."ฮยอกแจมองไปที่ประตูก่อนจะเคลื่อนสายตาไปที่ผนังห้องที่แขวนรูปของพวกเขาไว้..ชายหนุ่มจ้องรูปตรงกลางไม่กระพริบตา..รูปเมื่อฤดูใบไม้ร่วงที่แล้ว..เมื่อวันเกิดของดองเฮ...เขา ดองเฮ และคิบอม..ใบหน้าทั้งสามที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม...แต่ตอนนี้ เวลานี้..กลับมีแต่คราบน้ำตาของแต่ละคน ต่างเหตุต่างผลกันไป..เพียงเพราะหัวใจเราเต้นไม่เท่ากัน....
"คิบอมมมมมมมมมมมมมมม!!!" ดองเฮตะโกนไล่หลังรถที่แล่นออกไปสุดเสียง สมาชิกวงซูปเปอร์จูเนียร์ที่มารอส่งต่างหันกลับมามองชายหนุ่มที่ยืนหอบหลังจากวิ่งลงบันไดมาห้าชั้น ฮีชอลเดินตรงไปหาดองเฮแล้วถามขึ้น
"อ้าวดองเฮ นายยังไม่ได้ลาคิบอมมันเหรอ"
"คิบอม..."ดองเฮพึมพำ รู้สึกได้น้ำตาของตัวเองกำลังใจไหล รู้สึกใจหาย ถึงแม้ว่านี่ก็เดือนกว่าแล้วที่เขาและคิบอมลดความสัมพันธ์เหลือเพียงเพื่อนที่ดีต่อกันเท่านั้น แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันนี้ วันที่คิบอมจะหายไปจากชีวิตเขาจริงๆ
"ทำไมไม่ลงมาให้เร็วกว่านี้ล่ะ มันไปแล้วนั่นน่ะ" ซีวอนหันมาย้ำ
"เครื่องออกกี่โมงเหรอซีวอน" เสียงเบาๆจากด้านหลังของพวกเขาดังขึ้น
"เห็นว่าบ่อยสองครึ่งน่ะ" เขาหันไปตอบ ชายหนุ่มเดินไปหาดองเฮแล้วจับมือเขาก่อนจะดึงไปด้านลานจอดรถ
"เดี๋ยวชั้นจะพาไปหาคิบอมเอง มาสิ"ฮยอกแจพูดขึ้นขณะกุมมือของดองเฮไว้ ชายหนุ่มตรงหน้าเขาค่อยๆเงยหน้าขึ้น สายตาของเขางงงวยปนตกใจและรู้สึกขอบคุณ ดองเฮไม่ตอบอะไรแต่ปล่อยให้ฮยอกแจจูงมือเดินไปที่ด้านลานจอดรถ
"ฮยอกแจ...ถามอะไรหน่อยสิ"ดองเฮเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบขณะที่พวกเขากำลังอยู่บนรถโดยมีฮยอกแจเป็นคนขับมุ่งหน้าไปยังสนามบิน
"อะไรเหรอ" เขาตอบสายตายังจ้องอยู่ที่ไฟจราจร
"นายต้องตอบชั้นตามตรงนะ..ชั้นอยากรู้" ดองเฮตั้งเงื่อนไข
"สำหรับนาย...ชั้นยอมตอบทุกอย่าง.."ฮยอกแจตอบไป ดองเฮรู้สึกจุกขึ้นมาทันที เขาไม่รู้ว่าควรจะถามฮยอกแจดีมั้ย เพราะแค่นี้ฮยอกแจก็แสดงออกให้เห็นแล้วว่าเขารักดองเฮมากขนาดไหน
"ทำไมนายถึงพาชั้นมาหาคิบอมล่ะ...นายไม่ได้ไม่อยากให้ชั้นมาเจอเขาเหรอ" ดองเฮถามสายตาจ้องไปยังคนขับรถข้างๆเขา
"ก็ถ้าถามความรู้สึกชั้นแล้ว..ชั้นก็ไม่อยากหรอก..แต่ถ้าถามจากความรู้สึกของนายแล้ว..คำตอบของชั้นก็คือสิ่งที่ชั้นทำอยู่..ชั้นจะรู้สึกยังไงไม่สำคัญ ขอเพียงคนที่จะอยู่ข้างๆชั้นได้มีความสุขและทำตามใจของเขาสักครั้ง ให้ชั้นเจ็บแค่นี้ชั้นก็ยอม..."ฮยอกแจตอบแล้วมองหน้าดองเฮ ชายหนุ่มที่ได้รับคำตอบถึงกับเม้มปาก พูดอะไรไม่ออกและนั่งเงียบไปจนถึงสนามบิน
"รีบไปสิ เดี๋ยวคิบอมมันเข้าเกตไปก่อนจะไม่ทันนะ" ฮยอกแจบอกทันทีที่จอดรถ
"นาย เอ่อ ไม่ลงไปด้วยกันเหรอ" ดองเฮชวน
"ไปเถอะ...ชั้นอยากให้พวกนายมีเวลาเป็นส่วนตัว..เพราะชั้นไม่อยากเป็นส่วนเกิน.."ฮยอกแจตอบแล้วหันไปหยิบ PSP จากเบาะหลังแล้วกดเปิดเครื่องเตรียมนั่งเล่นรอดองเฮ
"งั้น เดี๋ยวชั้นมานะ"ดองเฮบอก แล้วก่อนที่เขาจะเปิดประตูรถ ชายหนุ่มตัดสินใจหันกลับมาแล้วดึงฮยอกแจที่ทำเป็นนั่งกด PSP เข้าไปกอดแน่นแล้วบอกว่า
"ชั้นขอบคุณนายมากๆเลยนะ ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง ชั้นสัญญาว่าชั้นจะตอบแทนนายให้ได้มากที่สุดเท่าที่ชั้นจะทำได้" ดองเฮปล่อยฮยอกแจแล้วเปิดประตูลงจากรถก่อนจะรีบวิ่งไปยังฝั่งผู้โดยสารขาออกของสนามบินอินชอน
ฮยอกแจมองตามหลังดองเฮไปจนเห็นว่าเข้าไปด้านในแล้ว ชายหนุ่มโยน PSP กลับไปที่เบาะหลังแล้วเอาหัวโขกพวงมาลัยรถยนต์
"ไอ้ไก่โง่เอ๊ย เป็นไงล่ะแก แกจะปล่อยเขาไปใช่มั้ย แกจะไม่รั้งเขาไว้เลยเหรอ แกกำลังจะเสียเขาไปแล้วนะ" ฮยอกแจพูดอยู่คนเดียว
"ดองเฮ นายไม่ต้องตอบแทนอะไรชั้นมากหรอก ชั้นขอแค่เศษใจนาย..ก็มากเกินพอแล้ว.."ชายหนุ่มเอ่ยน้ำเสียงเศร้าๆ..ก่อนจะตัดสินใจเปิดประตูรถออกไป
"ชั้นไม่เคยได้อยู่ในชีวิตของเธอ..เป็นอยู่เสมอก็แค่คนที่ไม่เคยมีตัวตน...ในความฝันของเธอ..แค่ผ่านมา..และผ่านไป..
ก็ได้แต่ช้ำ..เมื่อรู้ว่าสิ่งที่ชั้นหวังมานาน..มันเป็นแค่จินตนาการของคนโง่งมงาย..เจ็บแทบตาย..แต่ทั้งใจก็ยังรักเธอ..."
คิบอมนั่งอยู่ที่เก้าอี้ด้านนอกเกตรอให้ผู้จัดการเอาตั๋วเครื่องบินมาให้...ชายหนุ่มนั่งทบทวนความคิดของตัวเอง...นี่เขาตัดสินใจถูกหรือเปล่า?..นี่เขาเดินมาถูกทางใช่มั้ย..นี่คือสิ่งที่เขาต้องการแน่นอนใช่มั้ย..ตั้งแต่วันนั้น..วันที่เขาบอกเลิกดองเฮไป...
ชายหนุ่มหลับตาเพื่อพักสายตา..แล้วความทรงจำต่างๆมากมายระหว่างเขาสองคนก็แล่นเขามาในสมอง..เมื่อวันที่เขาเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ที่เทรนในค่ายและมีดองเฮช่วยเป็นพี่เลี้ยงให้..วันที่เขาย้ายเข้าไปในหอพักเดียวกับดองเฮและดองเฮยอมให้เขานอนห้องเดียวด้วยเนื่องจากฮีชอลไม่ชอบขี้หน้าคิบอมจึงต้องการครองห้องนอนไว้คนเดียว..วันที่เขาผ่านการคัดเลือกและได้เล่นละคร คนแรกที่เขามาแสดงความดีใจกับเขาก็คือดองเฮ... วันที่เขาป่วยเพราะโหมงานหนักไปคนที่โดดซ้อมจากที่ค่ายแล้วรีบกลับมาดูแลเขาก็คือดองเฮ...วันที่เขาอยากเล่นเกมส์ Ninnijiมากแต่ฮีชอลยึดคอมไปคนเดียว คนที่แอบพาเขาออกไปเล่นคอมด้านล่างหอพักก็คือดองเฮ...วันที่เขาเหงาเพราะคิดถึงที่บ้านคนที่อยู่เคียงข้างเขาก็คือดองเฮ...วันที่เขาทุกข์ใจเพราะไม่มีคนสนใจคนที่เข้ามาปลอบเขาก็คือดองเฮ..วันที่เขามีความสุขคนที่เข้ามาเป็นส่วนนึงในรอยยิ้มของเขาก็คือดองเฮ...วันที่ดองเฮบอกเขาว่า...สิ่งที่เขาทำไปทั้งหมดเพราะเขารักคิบอม.. วันที่คิบอมเองก็รู้ใจตัวเองว่า..เขาก็รักดองเฮเหมือนกัน...
แต่ช่วงเวลาที่ผ่านมา เขากับดองเฮก็ห่างกันเรื่อยๆ ดองเฮอาจจะเอาตัวออกห่างเพราะต้องทำงาน แต่เขาเองนั่นแหล่ะที่เอาใจออกห่างจากดองเฮ...เขาไม่รู้และสับสน..เขาไม่อยากให้ดองเฮเจ็บ..แต่เขารักดองเฮต่อไปไม่ได้อีกแล้ว...และคนที่ดูแลดองเฮได้ดีกว่าเขาก็ปรากฏตัวมาแล้ว...ดองเฮดีเกินไปที่จะมาอยู่กับคนอย่างเขา...
"หึหึ ชั้นคงต้องเริ่มชีวิตใหม่ซะทีสินะ"คิบอมพึมพำแล้วยิ้มออกมา เขาเตรียมที่จะทิ้งความทรงจำของเขากับดองเฮทั้งหมดไว้ที่นี่ ที่เกาหลี..ที่ที่เขาได้พบ..และรักดองเฮ..และที่ที่เขาเป็นคนเลือกจะทิ้งดองเฮไป..
คิบอมสลัดความคิดต่างๆที่มีอยู่แล้วยืนขึ้น เตรียมจะก้าวขาเดินไปที่เกต แต่แล้วเสียงของคนที่เค้าคุ้นเคยก็ดังขึ้น
"คิบอม!!!!!" ดองเฮตะโกนอย่างดีใจที่เห็นคิบอมยังอยู่ ชายหนุ่มวิ่งตรงมาที่คิบอมและสวมกอดโดยที่คนตรงหน้าไม่ทันตั้งตัว ดองเฮกอดคิบอมแน่น..เขาไม่พูดอะไรสักอย่าง..คิบอมเองก็ไม่เอ่ยอะไร..ตอนนี้คงถึงเวลาแล้วที่จะใช้หัวใจคุยกัน...
อีกมุมนึงด้านหนังเสา ฮยอกแจยืนหันหลังและถอนหายใจพิงเสาเมื่อเห็นภาพตรงหน้า.. ตั้งแต่วันนั้นที่ดาดฟ้า..เขาเคยคิดว่า..ดองเฮคงจะตัดใจจากคิบอมได้..และมันคงจะมีสักวันที่เขาจะเป็นเจ้าของหัวงใจของดองเฮ..อย่างสมบูรณ์
"นี่เราเคยได้เขามาด้วยเหรอ?..."ฮยอกแจพึมพำพร้อมกับหัวใจที่เหมือนโดนบีบ..ยืนมองคนที่เขารัก..ในอ้อมกอดคนอื่น..มันเป็นเรื่องที่ฝืนใจมากมายที่จะยืนมองดูและยอมรับความจริง
"นายอยากเป็นข่าวหรือไง แถวนี้ปาปารัซซี่เยอะนะ"คิบอมบอกดองเฮที่ยังคงกอดเขาแน่น ชายหนุ่มในอ้อมกอดของคิบอมเริ่มรู้สึกตัวจึงถอยออกมา แต่ยังคงจ้องหน้าคิบอมอยู่ คิบอมยิ้มออกมา..ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาหมายความว่ายังไง..ดีใจที่ดองเฮมา..หรือว่าอะไร
"อือ ขอโทษนะ.." ดองเฮบอก
"ขอโทษอะไร นายไม่เห็นมีอะไรต้องขอโทษชั้นเลยนี่นา ชั้นซะอีกที่เป็นคนที่ควรจะพูดคำว่าขอโทษ" ชายหนุ่มสีหน้าสลดลงเมื่อคิดถึงเรื่องวันนั้น
"ชั้นไม่รู้สิ..ว่าแต่นายจะไปนานแค่ไหนกันอ่ะ ได้ยินพี่ฮันเกิงโวยวายว่านายขนของไปซะเยอะเลย"
"ชั้นก็ไม่รู้เหมือนกันนะ ตามกำหนดคือ 3 เดือน ระหว่างนั้นชั้นก็ไม่ได้กลับมาที่เกาหลีด้วย ตอนนี้เป็นช่วงพักของ Super Junior ชั้นเลยคิดว่าเวลานี้คงเหมาะแล้ว ถ้าจะไม่มีชั้นสักคน"
"นาย..จะกลับมาใช่มั้ย.." ดองเฮตัดสินใจถาม สายตาของเขาอยากได้คำตอบจากคิบอม
"ชั้นตอบไม่ได้...นายก็ดูแลตัวเองด้วยนะ..แล้วก็รักเขาให้มากๆเหมือนที่เคยรักชั้นนะ.."คิบอมพูดแล้วดึงมือของดองเฮมากุมเอาไว้
"ขอบใจนะคิบอมที่ครั้งนึงที่สอนให้ชั้นรู้จักคำว่ารักและเจ็บปวด แม้ว่า..ชั้นจะไม่เคยรู้เลยก็ตามว่าทำไมนายถึงอยากจะออกไปจากชีวิตชั้น.."ดองเฮตอบแล้วดึงมือออกจากมือของคิบอม เขายิ้มให้คิบอมอย่างจริงใจอีกครั้ง...ด้วยแววตาที่ดูเศร้าเกินกว่าจะบรรยาย
คิบอมเดินหันหลังตรงไปที่เกตพร้อมกับผู้จัดการของเขาที่เตรียมตั๋วเครื่องบินไว้ในมือ คิบอมรับพาสปอร์ตและเอกสารต่างๆแล้วหันมามองดองเฮอีกครั้ง ชายหนุ่มยิ้มให้ก่อนจะโบกมือลาแล้วเดินเข้าเกตไป...
เสียงมือถือของดองเฮดังขึ้นพร้อมกับแมสเสจที่ถูกส่งเข้ามา ดองเฮกดเปิดข้อความนั้นออกอ่าน...
"ขอบคุณเหมือนกันนะดองเฮ ที่ทำให้ชั้นรู้ว่าในโลกนี้..ยังมีคนนึงที่รักชั้นจริงๆ..."
ใครสักคนบอกเขาทีเถอะ..วันนั้นเขาตัดสินใจถูกแล้วใช่มั้ย?.....
บรรยากาศภายในรถช่างน่าอึดอัด ชายหนุ่มทั้งคู่ต่างคนต่างไม่พูด ไม่รู้เพราะพูดไม่ออกหรือไม่อยากจะพูดกันแน่ ฮยอกแจขับรถไปเรื่อยๆแต่ทางที่เขาไปกลับไม่ใช่เส้นทางปกติที่ไปยังหอพัก ฮยอกแจพาดองเฮมาที่อื่นที่สวนสนุก...ล็อตเต้เวิร์ล
"มาที่นี่ทำไมเหรอ" ดองเฮหันไปถามเขาสีหน้างงๆ
"ใส่นี่ซะ" ฮยออกแจยื่นผ้าพันคอ หมวกไหมพรมสีน้ำตาลและแว่นตากันแดดให้ดองเฮ ก่อนจะหันไปที่เบาะหลังแล้วค้นของตัวเองบ้าง
"ชั้นอยากทำให้นายมีความสุข..กับชั้นบ้างซักครั้ง.."
"อือม์..."ดองเฮรับคำแล้วสวมหมวกและแว่นตา
"มาเถอะ" ฮยอกแจพูดแล้วเปิดประตูรถลงไป
ชายหนุ่มสองคนพยายามซ่อนใบหน้าไว้ใต้หมวกไหมพรมและผ้าพันคอพร้อมทั้งแว่นตา เพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกตของคนทั่วไป พวกเขาเลือกใช้ลิฟต์ตัวในสุดจากลานจอดรถใต้ดินจนมาถึงสวนสนุกในล่มที่อยู่ชั้นบนสุดของล้อตเต้เวิร์ล
"นี่ฮยอกแจ อยากจะเล่นจริงๆเหรอ ถ้าเกิดมีคนจำพวกเราได้ล่ะ" ดองเฮท้วงเขาไว้ก่อนที่ฮยอกแจจะซื้อบัตรเข้าสวนสนุก
"ก็ตอบไปสิว่า พวกเราแค่หน้าเหมือน คิคิคิ ไม่ยอมรับซะอย่างใครจะว่าไงก็ช่าง" ฮยอกแจะบอกแล้วขยิบตาก่อนจะเดินไปต่อแถวซื้อตั๋ว
ชายหนุ่มเดินกลับมาแล้วยื่นตั๋วสีเหลืองพร้อมกับที่คล้องข้อมือให้ดองเฮ เขายื่นมือออกไปรับแต่ฮยอกแจกลับเปลี่ยนใจดึงข้อมือดองเฮมาแล้วติดที่คล้องข้อมือให้แทนก่อนจะเดินจับมือเขาเข้าไปในสวนสนุก
"อยากปลดปล่อยความทุกข์ใจบ้างมั้ย" ฮยอกแจหันมาถาม ดองเฮไม่ได้ตอบเขาแต่พยักหน้า ชายหนุ่มจึงพาเขามาที่เครื่องเล่นโรลเล่อร์โคสเตอร์
"รับรองว่าไอ้นี่จะพานายหลุดโลกไปเลยแน่ๆ"ฮยอกแจดึงดองเฮไปต่อแถวที่ที่นั่งหน้าสุด ก่อนจะกระโดดขึ้นนั่งด้านใน โดยมีดองเฮตามเข้ามา ฮยอกแจเอี้ยวตัวไปรัดเข็มขัดให้ดองเฮก่อนจะพูดว่า
"นายพร้อมหรือยัง"
"ฮยอกแจ นั่งหน้าสุดมันเสียวน้า ไม่กลัวเหรอ" ดองเฮเริ่มมีสีหน้าหวั่นวิตก
"ถ้านายกลัวก็กอดชั้นไว้สิ"ฮยอกแจบอกพร้อมๆกับที่เครื่องเล่นโรวเลอร์โคสเตอร์ตะลุยแดนอียิปต์นั้นจะเคลื่อนตัวออกจากราง
"เฮ้ย จะดีเหรอ งั้นชั้นรัดนายเลยนะ" ดองเฮบอกแล้วเกาะฮยอกแจแน่นพร้อมกับตอนที่เครื่องเล่นความเร็วสูงนี้จะพุ่งตัวลงในแนวดิ่งกับพื้นโลกแล้วกลับมาในแนวระนาบอย่างรวดเร็วก่อนจะวิ่งเลี้ยวโค้งซ้ายขวาอย่างเมามันส์ ดองเฮอ้าปากตะโกนส่งเสียงที่ปนไปด้วยความกลัวและความเสียว ฮยอกแจหันไปมองหน้าใสๆของหนุ่มน้อยคนข้างๆแล้วก็ขำออกมาเบาๆด้วยความตลก ถ้าเขาถ่ายรูปสีหน้าของดองเฮตอนนี้เอาไว้แล้วไปลงที่เว็บแฟนคลับ ดองเฮคงจะมีแฟนคลับเพิ่มอีกเท่าตัว เพราะว่านอกจากรูปนี้จะเป็นรูปที่ดูแล้วฮาชวนหัวเราะจนน้ำตาไหลแต่ก็แฝงไปด้วยความน่ารักตามแบบฉบับของดองเฮที่ไม่มีใครเหมือน ฮยอกแจยิ้มก่อนจะเอื้อมมือของเขาไปจับมือของซ้ายของดองเฮที่เกาะราวแน่น ส่วนมือข้างขวาของดองเฮตอนนี้กำลังรัดเอวบางๆของฮอยกแจด้วยความตกใจ ฮยอกแจหัวเราะชอบใจในใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกลัวของดองเฮ เขากุมมือน้อยๆนั้นไว้แน่น เหมือนจะบอกกับดองเฮว่า...แค่เพียงดองเฮอยู่ข้างเขา...ก็ไม่มีอะไรที่ต้องกลัว...เขาจะดูแลดองเฮเอง..
รถไฟโรวเลอร์โคสเตอร์มรณะจอดเทียบท่าอย่างสวัสดิภาพ ดองเฮแทบจะกระโดดลงจากรถไฟนรกคันนั้น ทันทีที่ขาสองข้างแตะพื้นดองเฮก็เตรียมจะล้วงคอเอาทุกอย่างที่เขาเพิ่งกินออกมาเพราะคลื่นไส้
"นี่นายท้องหรือไง ชั้นยังไม่ได้ทำอะไรซะหน่อย" ฮยอกแจพูดหยอกดองเฮที่เห็นหน้าเรียวของชายหนุ่มตรงหน้ากลายเป็นสีเขียวเพราะเวียนหัวจะอาเจียน
"ฮยอกแจบ้า นายพาชั้นมาเล่นอะไรเนี่ย รู้มั้ย ชั้นไม่ได้ขึ้นไอ้นี่มาชาติกว่าแล้วนะ ตั้งแต่คิ.." ดองเฮที่ตอนแรกลืมชื่อของผู้ชายคนนี้ไปชั่วขณะที่เขาได้มาปลดปล่อยอารมณ์กับผู้ชายตรงหน้า ดองเฮถึงกับชะงักเมื่อรู้ว่าสิ่งที่ตนจะพูดออกไปนอกจากจะทำให้ฮยอกแจเจ็บแล้ว..เขาเองก็จะเจ็บด้วย...
"เอ้อ.. ไม่มีไรหรอก ไปนั่งรถเคเบิ้ลกันเถอะ ชั้นอยากไปเล่นเครื่องเล่นข้างนอก อยากนั่งชิงช้าใหญ่นั่นอ่ะ" ดองเฮรีบเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็วแล้วจูงมือฮยอกแจไปทันที ฮยอกแจเดินตามคิบอมไป..สายตาจ้องไปยังมืออันบอบบางที่จูงมือเขาไว้...แล้วคำถามหนึ่งคำถามในหัวของเขาคือ...ดองเฮจะจูงมือเขาแบบนี้ต่อไปอีกนานเท่าไหร่?...จะมีวันนั้นมั้ยที่ดองเฮจะปล่อยมือจากเขาไป...ตลอดกาล..
ทั้งคู่กระโดดขึ้นรถเคเบิ้ลคาสีเขียวที่มีรางทอดผ่านจากภายในสวนสนุกในล่มของล้อตเต้เวิร์ลไปด้านนอกของสวนสนุกกลางแจ้งล้อตเต้เวิร์ล ฮยอกแจย้ายที่นั่งจากฝั่งตรงข้ามไปนั่งข้างๆดองเฮแล้วชี้ให้เขาดูเครื่องเล่นดิ่งพสุธาสองอันที่ตั้งตระหง่านอยู่ข้างแม่น้ำที่ไหลผ่านระหว่างสวนสนุกล็อตเต้เวิร์ลกับโรงแรมล้อตเต้ ฮยอกแจพาดแขนลงบนไหล่ของดองเฮแล้วชวนดองเฮดุเครื่องเล่นที่วางแผนจะเล่น เขาชี้ไปที่อันโน้นอันนี้พยายามกล่อมให้ดองเฮขึ้นเครื่องเล่นหวาดเสียวแต่ละอัน แต่ดองเฮก็จะส่ายหน้าไม่เอาด้วย จนเมื่อรถไฟฟ้าเคเบิ้ลนั้นจอดเทียบท่าสถานี ฮยอกแจดึงดองเฮลงมาจากรถแล้วลากเขาตรงดิ่งไปยังเครื่องเล่นดิ่งพสุธาที่จะปล่อยคนจากความสูงหลายสิบเมตรภายในเวลาไม่กี่วินาทีให้หัวใจวายเล่น
"ฮยอกแจ ชั้นไม่อยากขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ฉบับเช้าวันพรุ่งนี้นะ แฟนคลับของชั้นจะคิดยังไง ถ้าตื่นเช้ามาแล้วเห็นว่าหนังสือพิมพ์กรอบเช้าพาดหัวข่าวว่า 'ดับอนาถ นักร้องหนุ่มสุดหล่อแห่งซูปเปอร์จูเนียร์ ดิ่งพสุธาจากเครื่องเล่นมรณะร่างแหลกเหลว' อ๊ากก ม่ายเล่นนนนนนนนนนนนนนน" ดองเฮเริ่มสติแตกหลังจากคิดตามสิ่งที่เขาพูดออกมา ฮยอกแจส่ายหน้ากับความคิดเหมือนเด็กของดองเฮก่อนจะลากเขาไปต่อแถวที่เครื่องเล่นนั้นทันที
"เฮ้ย! นายฟังชั้นบ้างสิ ไอ้นี่มันน่ากลัวว่าโรลเลอร์โคสเตอร์นั่นน่ะ ฮยอกแจๆ ไม่เอาน้า ไปเล่นอย่างอื่นเห๊ออออออออ" ดองเฮพยายามเกลี้ยกล่อมฮยอกแจ แต่ดูเหมือนจะไร้ผล ชายหนุ่มด้านหน้าเขาเอาแต่หัวเราะ ก่อนจะลากเขาไปที่เครื่องเล่นทันทีเพราะมันถึงตาของพวกเขาแล้ว
ดองเฮขาสั่นทันทีที่ฮยอกแจผลักให้เขานั่งลงบนเบาะนั่งนั้น ก่อนจะดึงเข็มขัดมารัดให้เข้าที่ ดองเฮเกาะที่จับแน่น หลับตาปี๋ทั้งๆที่เครื่องเล่นคนยังนั่งไม่ครบ
"นี่ดองเฮ ชั้นไม่คิดว่าผู้ชายแบบนายจะกลัวอะไรแบบนี้นะ ลืมตาขึ้นสิ ถ้านายหลับตาแล้วค่อยลืมทีหลัง นายอาจช็อคได้น้า คราวนี้ได้ขึ้นหน้าหนึ่งของจริงแน่ๆ" ฮยอกแจเอื้อมมือจากที่นั่งด้านข้างไปเขย่าตัวดองเฮ
"อึ๋ย...กลัวนี่น่า นายไม่ใช่ชั้นนี่ โอ่ย....ชั้นจะหัวใจวายมั้ยเนี่ย" ดองเฮเริ่มรำพึงรำพันต่อ
"ถือซะว่า...ชั้นพานายมาปลดปล่อยทุกอย่างละกันะดองเฮ...ความทุกข์..ความเศร้า...ความเสียใจ...ที่นายมี นายก็ทิ้งมันไปพร้อมกับที่ไอ้เครื่องเล่นนี่ทิ้งตัวลงมานะ พอนายลงมาจากเครื่องเล่นนี้ นายจะได้ลืม..ลืมทุกอย่าง..แล้วก็มีแต่ความสุขที่นายเหลืออยู่..." ฮยอกแจบอกดองเฮอย่างจริงใจ ดองเฮลืมตาขึ้นแล้วจ้องหน้าฮยอกแจ เขาเอื้อมมือไปกุมมือฮยอกแจไว้ข้างหนึ่ง เหมือนเป็นสัญญาว่าฮยอกแจจะต้องไม่ทิ้งเขาไป ซึ่งเป็นขณะเดียวกันที่เครื่องเล่นนี้ค่อยๆเคลื่อนตัวขึ้นสู่ท้องฟ้า...สูงขึ้นเรื่อยๆ...สูงขึ้น...จนเมื่อเครื่องเล่นนั้นหยุดที่ความสูงซึ่งได้ระดับ ดองเฮบีบมือฮยอกแจแน่น และภายในเสี้ยววินาทีนั้นเองเครื่องเล่นดิ่งพสุธานั้นก็ทิ้งตัวลงมาด้วยความเร็วสูงอย่างรวดเร็ว ดองเฮร้องลั่นแต่ก่อนที่เขาจะตั้งสติได้ เครื่องเล่นนั้นก็จอดสนิทที่พื้นภายในเวลาไม่กี่วินาที ดองเฮรู้สึกประหลาดใจ...เขาไม่รู้สึกกลัวเลย เมื่อกุมมือฮยอกแจไว้...และเขาเริ่มจะสนุกกับเล่นบ้าๆเสียวๆที่ฮยอกแจพาเขามาเล่นซะแล้วสิ
"ยะฮู้ววววววววววววววววววววววววววว " ดองเฮตะโกนทันทีที่ขาแตะพื้น
"ไงล่ะ ชั้นบอกแล้วว่าสนุกก็ไม่เชื่อ ไม่น่ากลัวสักนิดเดียว มันส์จะตาย อิอิ" ฮยอกแจยิ้มแล้วหัวเราะก่อนจะเกาะคอดองเฮแล้วพาเขาไปเล่นเครื่องเล่นอื่นๆ
ดองเฮได้เล่นชิงช้าอันใหญ่สมใจ เขารู้สึกสบายใจขึ้น เมื่อลมเย็นๆปะทะหน้าเขาเมื่อเขาอยู่บนชิงช้านั้นที่แกว่งตัวไปไกลและตีวงกว้าง ชายหนุ่มค่อยๆยิ้มออกมากับตัวเอง..บางทีถ้าเขายอมทิ้งความเจ็บปวดที่เขามี..เขาคงจะมีความสุขแบบนี้กับฮยอกแจ..ตลอดไป...
"ชั้นหิวแล้วอ่ะ ฮยอกแจไปซื้อฮอตดอกให้กินหน่อยจิ น้าๆๆๆๆ"ดองเฮเริ่มอ้อนฮยอกแจด้วยความหิวหลังจากที่ตระเวนเล่นเครื่องเล่นมาหลายชนิด
"นายไม่ไปซื้อเองเล่า..อะๆ ไปซื้อให้ก็ได้ อยู่ตรงนี้นะ ห้ามไปไหนล่ะ..." ฮยอกแจกำชับก่อนจะเดินไปที่ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดด้านข้าง
ดองเฮหาที่นั่งแล้วมองไปรอบๆตัวเขา ผู้คนมากมายเดินขวักไขว่ บางคนก็มาเป็นครอบครัว บางคนก็มากับเพื่อนฝูง บางคนก็มาแบบคู่รัก... ดองเฮยิ้มแล้วขยับหมวกให้หลุบต่ำกว่าเดิม เขาไม่ได้ออกมาเที่ยวเล่นแบบนี้นานแค่ไหนแล้วน้า...ตั้งแต่ซูปเปอร์จูเนียร์ดังขึ้นเรื่อยๆ งานของพวกเขาก็มากขึ้นมากขึ้น โดยเฉพาะงานเดี่ยวจนแทบจะไม่มีเวลาออกมาเที่ยวเล่นด้วยกัน..ตอนนี้..คิบอมจะถึงญี่ปุ่นยังนะ..ดองเฮอดคิดไม่ได้ว่าคนคนนั้นจะเป็นอย่างไรบ้าง..เขาควรจะเข้มแข็งและยอมรับความจริงสินะ...เขาต้องเคารพการตัดสินใจของคิบอม...บางทีเขากับคิบอมคงเกิดมาเพื่อที่จะเจอกันแต่ไม่ได้คู่กัน...สวรรค์มักเล่นตลกแบบนี้เสมอ..เพื่ออะไร?
ฮยอกแจเดินหอบถุงใส่ฮอตดอก แฮมเบอเกอร์ ไก่ทอดและเป๊ปซี่อีก 2ขวด ตรงมาที่ดองเฮ เขาสังเกตเห็นดองเฮเหม่อๆ จึงแอบอ้อมไปด้านหลังแล้วค่อยๆย่องเข้าไปใกล้ชายหนุ่มและตะโกนให้ตกใจเล่น
"จ๊ะเอ๋!" ดองเฮที่กำลังเหม่ออยู่ตกใจแทบจะตกเก้าอี้ เขารีบหันมาเตรียมจะอัดคนที่แกล้งให้เขาตกใจ แต่พอเห็นอาหารที่ฮยอกแจถืออยู่นั้น ชายหนุ่มก็เปลี่ยนใจคว้าถุงอาหารมาอย่างรวดเร็วแต่ก็ยังบ่นฮยอกแจไปด้วยขณะที่เปิดถุงอาหาร
"นายนี่ พยายามฆ่าชั้นมาทั้งวันแล้วนะ อยากจะให้ชั้นหวยใจวายตายซะกี่รอบกันฮะ!"ดองเฮว่าแต่ปากก็ยังเคี้ยวอาหารไปเรื่อยๆ
"ไม่ต้องกลัวหน่า ถ้านายหัวใจวาย ชั้นยอมเปลี่ยนหัวใจชั้นให้นายเลย" ฮยอกแจว่าน้ำเสียงของเขาแฝงไว้ด้วยความหมายที่มากกว่านั้น เขาเปิดถุงแล้วหยิบเป๊ปซี่ออกมาหนึ่งขวดก่อนจะเปิดฝาใส่หลอดแล้วยื่นให้ดองเฮ
ชายหนุ่มรับขวดน้ำมาแล้วดื่ม แล้วก็จ้องหน้าฮยอกแจก่อนจะถามว่า
"นายไม่กินล่ะ หรือว่านายแอบใส่อะไรลงไปเลยไม่กล้ากิน ใช่มะ" ดองเฮส่งสายตาจับผิดมาที่ฮยอกแจ ชายหนุ่มได้ฟังดังนั้นก็หัวเราะออกมาด้วยความใสซื่อของดองเฮ
"ชั้นไม่หิวต่างหากล่ะ นายกินไปเถอะ ชั้นอิ่มแล้วน่า..." ฮยอกแจไม่อยากจะบอกเลยว่า แค่มีดองเฮอยู่ข้างๆเขา ไม่ว่าน้ำ..อากาศ..แร่ธาตุ..หรืออะไรก็ตาม..ก็ไม่มีความหมายที่จำเป็นต่อชีวิตเขา...เพราะสิ่งที่หล่อเลี้ยงหัวใจเขาอยู่ทุกวันนี้ก็คือ...ผู้ชายคนนี้...ลี ดองเฮ....
"ชั้นอิ่มละ" ดองเฮเอ่ยขึ้นทันทีที่ยัดแฮมเบอเกอร์คำสุดท้ายเข้าปาก ชายหนุ่มกินเกลี้ยงทุกอย่างไม่มีเหลือ..ก่อนจะแย่งเป๊ปซี่ของฮยอกแจไปดิ่มเพราะขวดของตัวเองหมดแล้ว
"อิ่มซะที กินยังกะหมูแหน่ะ นายน่ะ.."ฮยอกแจแกล้งแซวดองเฮ
"โธ่ ก็ตัวเองไม่กินเอง อย่าบ่นว่าหิวนะ ชั้นจะไม่สนใจเลย"ดองเฮว่าแล้วกระโดดจากม้านั่ง
"นี่นายรู้มั้ยว่าชั้นอยากเล่นอะไรมากที่สุดในสวนสนุก" ชายหนุ่มตั้งคำถาม ฮยอกแจขวมดคิ้วหากันอย่างงงๆ ดองเฮได้รับคำตอบจากสีหน้าของฮยอกแจ ชายหนุ่มยิ้มระรื่นแล้วชี้ไปด้านขวา...
"ไม่..ชั้นไม่เข้านะ..ไม่เอา.." ฮยอกแจพูดทันทีที่เห็นเครื่องเล่นที่ดองเฮชี้ไป
"น่าๆ...จะกลัวอะไร ทีนายยังลากชั้นไปเล่นไอ้เครื่องเล่นบ้าบอพวกนั้นได้เลย..แค่นี้ทำเพื่อชั้นไม่ได้เหรอ.."ดองเฮว่าแล้วทำหน้าน่าสงสารปนน้อยใจ ก่อนจะสงสายตาอ้อนวอนไปให้ฮยอกแจ
"แต่ชั้นไม่ชอบนี้นา...แต่...ก็ได้ ถ้านายอยากเล่น ถือว่าไถ่โทษที่ชั้นลากนายเล่นเครื่องเล่นเสียวๆพวกนั้นละกัน" ฮยอกแจพูดแล้วยืนขึ้น
"วันนี้ฮยอกแจน่ารักที่สุดเลย...อิอิ"ดองเฮบอกแล้วลากมือฮยอกแจไปที่สถานที่นั้น...มันคือ..."บ้านผีสิง".....
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น