พันธนการรัก สัญญาแห่งนิรันดิ์

ตอนที่ 6 : ฮีโร่ แอชราส

ตอนที่ 6 ฮีโร่ แอชราส

            คำถามของคิลทำเอาลาล่าต้องอึงไปอีกรอบเพราะการที่เขาพูดแบบนั้นแสดงว่าตั้งแต่เขาเริ่มอ่านหนังสือเกี่ยวกับกฎเล่มนั้น มันก็ทำใช้สมาธิทั้งหมดของเขาไปรวมอยู่ที่หนังสือเล่มนั้นจนทำให้เขาไม่สนใจคนรอบข้างแม้แต่น้อย ลาล่าทำได้แต่มองคิลเพื่อประเมินเขาเสียใหม่ ไม่นานเธอก็พูดออกมาว่า

            “คุณคิลค่ะ ตกลงคุณอ่านหนังสือเล่มนั้นหมดจริงๆเหรอ? “

            คิลพยักหน้าเป็นคำตอบ ลาล่าถึงกับยิ้มแห้งๆออกมา ไม่นานเธอก็พูดออกมาว่า”คุณคิล คุณไม่รู้หรือยังไงว่าปกติแล้ว ทหารรับจ้างที่ได้รับหนังสือเล่มนี้มานั้น แทบจะไม่มีใครอ่านมันซักคนเดียวเลยนะ เพราะไอ้หนังสือที่คุณถืออยู่นั้นมันเป็นกฎสำหรับทหารและอัศวินทั่วไปเท่านั้น ซึ่งมันหมายความว่าไอ้หนังสือเล่มนั้นมันแทบจะไม่มีเกี่ยวกับคุณเลยนะค่ะ”

            คิลมองลาล่าก่อนจะยิ้มและพูดว่า”กฎข้อที่1089 หน้าที่ 897 บรรทัดที่ 5 ย่อหน้าที่ 2 เขียนเอาไว้ว่า ทหาร อัศวิน ทั่วไปรวมไปถึง ทหารรับจ้าง ทุกคนมีสิทธ์ที่จะหาข้อมูล รวมไปถึงการสืบค้นข้อมูล ในห้องสมุดได้เกินกว่าเวลาที่ประชาชนทั่วไปจะสามารถใช้ได้ แค่เพียงกฎข้อนี้ผมว่ามันก็คุ้มค่ากับการที่ผมตั้งใจอ่านถึง 6 ชม.แล้วละครับ หรือว่าคุณลาล่าคิดว่าไม่จริง”

ลาล่าต้องอึงไปอีกรอบ เธอรีบดึงหนังสือในมือของคิลออกมาก่อนจะเปิดไปหน้าที่คิล บอกซึ่งมันก็เป็นจริงอย่างที่เขาพูดทุกประการเลย เธอพลิกหนังสือไปอีกหน่อยก่อนจะถามออกไปว่า

“แล้วหน้า1548 มีกฎข้อไหนอยู่บ้าง คุณลองบอกมาซิ ”

คิลยิ้มเล็กน้อยก่อนจะพูดออกไปว่า”ในหน้านั้นมีกฎเขียนเอาไว้เพียงสองข้อและกฎทั้งสองข้อต่างก็เป็นกฎของการรับภารกิจ

กฎข้อแรกเป็นกฎข้อที่ 1897 ทหารรับจ้างสามารถรับภารกิจได้เหมือนทหารและอัศวินทั่วไป แต่ถ้าเกิดทหารและอัศวินเข้ามารับภารกิจพร้อมกัน ให้วัดกันที่ระดับของคนที่รับภารกิจนั้น  กฎในข้อนี้จะอนุญาตให้ผู้ที่มีระดับสูงกว่าจะได้รับภารกิจไป ยกเว้นแต่ ผู้ที่มีระดับต่ำกว่าจะมีฐานะหรืออภิสิทธ์พิเศษ ซึ่งตรงจุดนี้จะเอามาพิจารณาในการรับภารกิจด้วย

กฎข้อที่สอง เป็นกฎข้อที่ 1898 กฎข้อนี้เป็นกฎที่เกี่ยวกับการรับภารกิจเช่นเดียวกัน ซึ่งมันเป็นกฎที่บอกเสริมในกฎข้อที่แล้ว ซึ่งมันเกี่ยวกับฐานะและสิทธ์พิเศษ ซึ่งถ้าทหารรับจ้างคนใดมีฐานะเป็น

1.      เชื้อพระวงศ์ของประเทศต่างๆ

2.      เป็นผู้สืบทอดจอมเวทย์ระดับมาสเตอร์

ในกรณีสิทธ์พิเศษ ถ้าเกิดทหารรับจ้างมีฐานะเป็น

1.อัศวินมังกรระดับ 5 ขึ้นไป

2.จอมเวทย์ที่ได้รับการยอมรับจากนครมนตรา

3.นักดาบที่ได้รับการยอมรับเป็นมาสเตอร์

ซึ่งพวกที่มีฐานะตามนี้จะได้รับการรับภารกิจนั้นในทันทีแม้อีกฝ่ายจะเป็นแม่ทัพอัศวินก็ตาม ทั้งหมดนี้คือกฎที่เขียนเอาไว้ในหน้านั้นครับ และนอกจากนี้หน้านั้นยังมีการเขียนอธิบายคำพุดเอาไว้อีกประมาณ 12 บรรทัดครับ ไม่ทราบว่าผมตอบถูกไหมครับคุณลาล่า”

ลาล่าถึงกับทำหนังสือที่เปิดเอาไว้หลุดมือโดยไม่รู้ตัว เธอมองคิลอย่างบอกความรู้สึกไม่ถูก สักพักเธอก็พูดขึ้นมาว่า

“คุณคิล คุณเป็นใครกันแน่ ทำไมคุณถึงได้ทำแบบได้ละ”

คิลยิ้มก่อนจะแบมือออกให้เธอดูจากนั้นก็พูดว่า” นั้นก็เพราะผมจดทุกอย่างที่ผมบอกคุณเอาไว้ในมือนะสิ ดังนั้นผมถึงจำได้นะ อ้อ ส่วนเรื่องคำถามที่คุณถามมานั้น ผมแอบร่ายเวทย์บางอย่างเอาไว้ที่หน้ากระดาษที่คุณถามนั้นนะ มันจึงทำให้คุณลาล่าเปิดได้แต่หน้านั้นยังไงละครับ ซึ่งแน่นอนว่าผมเองก็ท่องจำหน้านั้นเอาไว้ก่อนแล้วด้วย คุณลาล่ารู้สึกสนุกกับสิ่งที่ผมทำไหมครับ”

ลาล่าถึงกับหน้าเปลี่ยนสีไปเลยเมื่อคิล พูดออกมาไม่นานเธอก็พูดออกมาดังๆว่า”คุณคิล มันสนุกมากนักหรือยังไงถึงได้หลอกฉันแบบนี้นะ “

คิลมองลาล่า ก่อนจะพูดว่า”นิดหน่อยนะครับ บอกตามตรงนะผมเห็นคุณลาล่าชอบทำหน้าเหมือนไม่รับรู้อะไรตลอดเวลาเลย ผมก็เลยอยากจะล้อเล่นกับคุณนิดหนึ่งนะ”

ลาล่ามองมาที่คิลด้วยสายตาที่ไม่ค่อยจะเป็นมิตรนัก ไม่นานเธอก็สูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะค่อยปล่อยลมหายใจออกมา สักพักเธอก็กลับเป็นปกติเหมือนกับว่าเหตุการณ์เมื่อสักครู่ไม่เคยเกิดขึ้นเลย คิลมองเธอในเวลานี้ก่อนจะพูดออกมาว่า

“เออ คุณลาล่ากลับเป็นเหมือนเดิมอีกละ คุณไม่รู้สึกเบื่อบ้างหรือยังไง ที่ต้องปั้นหน้าตายตลอดเวลาแบบนี้นะ”

ลาล่ามองคิลก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆแต่ฟังดูน่ากลัวว่า”ไม่นี่ค่ะ อาจเป็นเพราะว่าฉันชอบทำแบบนี้ก็ได้ เอาละฉันขอถามย้ำอีกครั้งก็แล้วกันนะ ว่า คุณคิลมีสถานที่ต้องการจะไปอีกไหมคะ ถ้ามีฉันจะได้พาไปนะค่ะ”

คิลยิ้มก่อนจะตอบว่า”มีครับ พอดีตอนนี้ผมเริ่มจะหิวแล้ว ไม่ทราบว่าแถวนี้มีร้านอาหารที่อร่อยๆบ้างไหมครับ อ้อ ถ้าเป็นไปได้ผมขอร้านที่ถูกหน่อยนะ พอดีเงินที่ผมมีอยู่มันมีเพียงแค่ 2 เหรียญทอง 10 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดงเท่านั้นนะ”

คิลพูดจบก็ลูปหัวอย่างอายๆ ลาล่ามองคิลในเวลานี้อย่างสนใจไม่นานเธอก็พูดออกมาว่า

“ สำหรับเงินจำนวนที่คุณคิลบอกมานั้น มันคงพอกับร้านอาหารแผงลอยเท่านั้นเองนะค่ะ แต่ถ้าคุณคิลอยากทานอาหารอร่อยๆโดยไม่เสียงเงิน ฉันแนะนำว่าคุณควรกลับไปทานที่คฤหาสน์จะดีกว่านะค่ะ”

คิลส่ายหน้าก่อนจะพูดว่า”ไม่เอาละครับ ผมไม่อยากจะรบกวนพวกคุณอาและคนที่คฤหาสน์มากไปกว่านี้แล้ว เอาเป็นว่าผมขอรบกวนคุณลาล่าช่วยพาผมไปที่ร้านอาหารแผงลอยก็ได้ครับ”

ลาล่ามองคิลก่อนจะพยักหน้าและพูดออกไปว่า”ตกลงค่ะ งั้นฉันจะนำไปเลยนะค่ะ”

พอลาล่าพูดจบก็เดินจากไปทันที คิลที่เห็นลาล่าเดินจากไปเขาถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอก จากนั้นเขาหงายมือที่มีการจดข้อความขึ้นมา คิลมองอักษรเหล่านั้นก่อนจะทำการสะบัดมือเล็กน้อย อักษรที่อยู่บนมือหายไปทันทีที่คิลสะบัดมือ ไม่เพียงแค่นั้นเขาก้มลงไปหยิบหนังสือที่ยื่นให้ลาล่าเมื่อสักครู่ขึ้นมา พอคิลจะหยิบหนังสือเล่มนั้นขึ้นมา สายลมก็พัดผ่านหนังสือเล่มนั้นไปในทันที แต่ที่หน้าแปลกหน้ากระดาษที่ควรติดกันด้วยเวทมนตร์ กลับถูกสายลมที่แผ่วเบาพัดเปิดไปทีละหน้าเหมือนไม่มีเวทมนตร์กำกับอยู่เลย คิลหยิบหนังสือขึ้นมาก่อนจะพูดเบาๆว่า

“โชคดีที่หลอกเธอได้ ไม่เช่นนั้นเราเองก็คงจะเคลื่อนไหวลำบากแน่ๆเลย ผู้หญิงอะไรช่างอดทนเก่งจริงๆ”

คิลที่พูดจบก็รีบเดินตามลาล่าไปทันทีโดยสีหน้าของคิลที่เดินตามลาล่าไปนั้นมันเต็มไปด้วยความหนักใจต่อส่งที่เกิดขึ้นในเวลานี้

ตลาดกลางของเมืองอารีเทล

          ตลาดแห่งนี้เป็นจุดศูนย์รวมแห่งการค้าขายของเมืองก็ว่าได้ ที่ตลาดแห่งนี้นอกจากจะมีอาหารที่เป็นแผงลอยวางขายแล้ว มันยังมีอาวุธชุดเกราะ รวมไปถึงผลึกเวทย์ต่างๆอีกด้วย นอกจากร้านแผงลอยแล้ว บริเวณตลาดแห่งนี้ยังมีร้านค้าต่างๆอีกมากมาย แน่นอนว่ามันรวมไปถึงภัตตาคาร ร้านอัญมณี และร้านหนังสืออีกด้วย ซึ่งตอนนี้หน้าตลาดแห่งนี้ได้มีคนสองคนที่ดูแตกต่างกันราวฟ้าและเหวมายืนอยู่ที่ตลาดแห่งนี้ คนแรกเป็นหญิงสาวผมทองชุดชาวใช้ ส่วนอีกคนเป็นผู้ชายที่ดูยังไงการแต่งตัวของเขาก็เป็นบ้านนอกเข้ากรุง เสียงของผู้หญิงดังขึ้นมาว่า

            “ที่นี่คือตลาดกลางเมืองอารีเทลค่ะ ที่นี่มีตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันมังกรบินเลย ถ้าคุณคิลต้องการอะไรขอให้บอก ฉันจะพาไปซื้อนะค่ะ ”

            คิลมองไปรอบๆก่อนจะยิ้มขึ้นมา ไม่นานเขาก็พูดว่า”แล้วร้านอาหารแผงลอยอันไหน อร่อยที่สุดนะครับ”

            ลาล่าถึงกับอึงไปเล็กน้อย คำถามของคิลเป็นคำถามที่เธอไม่สามารถจะตอบได้เลย เนื่องจากลาล่าไม่เคยมาทานอาหารแผงลอยเลยแม้แต่น้อย ถึงแม้ลาล่าจะเป็นหัวหน้าสาวใช้ในคฤหาสน์ฟาคอล แต่เธอก็ถูกเลี้ยงมาเหมือนคุณหนูของคฤหาสน์หลังนั้นเช่นกัน  ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้เลยว่าเธอจะเคยกินอาหารข้างทางมาก่อน แต่จะให้เธอยอมรับว่าไม่ทราบออกมาได้ยังไง ยิ่งเป็นผู้ชายที่แกล้งเธอเมื่อสักครู่ด้วยแล้ว เธอไม่มีทางบอกออกไปแน่ ลาล่าเงียบไปพักใหญ่ก่อนจะมองไปรอบตัวของเธอ ไม่นานเธอก็ตัดสินใจชี้ไปที่ร้านอาหารข้างทางแห่งหนึ่งที่อยู่ติดกับภัตตาคาร 5 ดาวที่เธอมากินเป็นประจำแทน คิลที่เห็นเธอเลือกร้านได้แล้ว เขาจึงยิ้มก่อนจะพูดออกไปว่า

            “ตกลงว่าร้านนั้น หรือครับ”

            ลาล่าพยักหน้าแบบฝืนๆ คิลดูเหมือนจะสังเกตเห็นท่าทางของเธอแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาตรงเข้าไปที่ร้านนั้นทันที ลาล่าที่เห็นคิลเดินไปแล้วเธอจึงรีบเดินตามไปด้วย สักพักคิลก็นั่งลงที่เก้าอี้เป็นที่เรียบร้อย ส่วนลาล่าก็ยังคงยืนอยู่ข้างเขาเหมือนเดิมแม้ว่าเขาจะบอกให้เธอนั่งลงซะเท่าไรเธอก็ไม่ยอมนั่งลงเลย ขณะที่คิลกำลังคิดว่าควรพูดอะไรต่อดีนั้น ก็มีเสียงเรียกของใครบางคนดังขึ้นมาว่า

            “นั้นคุณลาล่า ใช่ไหมครับ”

            ลาล่าและคิลหันไปมองตามเสียงเรียก สิ่งที่พวกเขาเห็นก็คือชายหนุ่ม 2 คนและหญิงสาวอีก 2 คนแถมหนึ่งในสองหญิงสาวก็คือเซร่านั้นเอง ลาล่ามองคนกลุ่มนั้นก่อนจะพูดออกมาว่า

            “สวัสดีค่ะ คุณฮีโร่ คุณดรีม คุณโรส ยินดีที่ได้พบค่ะ”

            ฮีโร่ยิ้มก่อนจะพูดว่า”ไม่ทราบว่าคุณลาล่ามาทำอะไรแถวนี้หรือครับ แล้วคนที่อยู่ตรงนั้นคือใครกันเหรอ?”

            คิลที่มองพวกเซร่าทั้งสี่คนอยู่ตลอดเวลา เมื่อฮีโร่ถามขึ้นมาเขาจึงพูดออกมาว่า”ผมชื่อ คิล เป็นคู่หมั้นของเซร่าที่อยู่ตรงนั้นนะครับ”

            คำพูดของคิลทำเอาสีหน้าของฮีโร่ รวมไปถึงทุกคนที่อยู่ตรงนั้นเปลี่ยนไปทันที โดยเฉพาะสีหน้าของฮีโร่ดูเครียดออกมาแทบจะในทันทีเลยด้วย เซร่าที่ได้ยินคำพูดของคิลเธอถึงกับพูดออกมาด้วยน้ำเสียงโกรธๆว่า

            “ไอ้บ้า นายพูดอะไรออกมา ใครเป็นคู่หมั้นของนายกันแน่ ฉันไม่เคยยอมรับนายเป็นคู่หมั้นเลยนะ”

            คิลยิ้มเล็กน้อยกับคำพูดของเซร่า ก่อนจะพูดออกมาว่า”ถ้าเรื่องนั้นไม่ต้องห่วงครับ เพราะคุณอาร็อค คุณอามาเรีย รวมไปถึงท่านหญิงโอเรล่าต่างยอมรับผมเป็นที่เรียบร้อยแล้วละ ดังนั้นไม่ว่ายังไงผมก็ถือว่าเป็นคู่หมั้นของคุณแล้วนะครับ” ผมเน้นคำพูดประโยคที่ต้องการให้พวกฮีโร่ได้ยิน เพราะอย่างน้อยๆผมอยากให้พวกเขาได้ทราบตั้งแต่ตอนนี้เลย วันหลังจะได้ไม่วุ่นวายในเรื่องนี้อีกนะ เดี๋ยวผมจะพูดเรื่องราวทั้งหมดออกไปด้วย ผมอยากรู้ว่าเธอจะเลือกยังไง คิลคิดต่อในใจแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา

            แต่หลังจากที่คิลพูดออกไปเซร่าถึงกับหน้าแดงขึ้นมาด้วยความโกรธ ส่วนฮีโร่เองก็มองมาที่คิลด้วยสายตาที่ไม่ชอบใจสุดๆ ฮีโร่พยายามความคุมอารมณ์เอาไว้โดยการกำมือให้แน่นๆเท่าที่จะทำได้ แต่ขณะที่กำมืออยู่นั้นผู้ชายอีกคนในกลุ่มก็เดินเข้ามาแตะไหล่ฮีโร่เหมือนเป็นการบอกให้เขาควบคุมอารมณ์ให้มากกว่านี้หน่อย คิลมองชายคนนั้นเขาก็คืออัศวินผมแดงที่คิลเพิ่งเจอมาเมื่อคืนนั้นเอง ส่วนผู้หญิงอีกคนก็เดินมาหาเซร่าก่อนจะพูดอะไรบ้างอย่างกับเธอเพื่อให้เธอใจเย็นลง คิลที่เห็นเธอ เขาก็จำได้ทันทีว่าเธอคือจอมเวทย์ที่เขาพบเมื่อคืนพร้อมกับอัศวินผมแดงนั้นเอง ไม่นานลาล่าที่เห็นเหตุการณ์เป็นแบบนี้ เธอจึงรีบพูดขึ้นมาทันทีว่า

            “คุณคิลค่ะ ทั้งสามคนนี้คือเพื่อนสนิทของคุณเซร่าค่ะ คนที่มีผมสีแดงมีชื่อว่า ดรีม ยูไลท์  ส่วนคนที่สวมใส่ชุดจอมเวทย์ในขณะนี้มีชื่อว่า โรส เทลร่า นะ ทั้งสองคนเป็นอัศวินพสุธาขั้นที่ 1 นะค่ะ ส่วนคนสุดท้ายก็คือ ..เออ”

            ลาล่าไม่สามารถแนะนำตัวของฮีโร่ออกมาได้เพราะเธอไม่รู้ว่าจะแนะนำตัวของเขายังไงดี แต่ขณะที่เธอกำลังลังเลอยู่นั้น ฮีโร่ก็พูดออกมาว่า

            “ผม ฮีโร่ แอชราช เป็นอัศวินพสุธาขั้นที่ 3 และยังเป็นคนรักของเซร่าด้วยครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”

            คิลยิ้มก่อนจะพูดตอบออกไปว่า”ยินดีที่ได้รู้จักครับ คุณฮีโร่ แล้วไม่ทราบว่าคุณฮีโร่มาทำอะไรแถวนี้หรือครับ”

            คำพูดของคิลทำเอาฮีโร่ รวมไปถึงคนอื่นๆต่างงงไปตามกันเพราะคำพูดของคิลแทบจะไม่มีอาการหึงหวง หรือประชดประชันแม้แต่น้อย มันเหมือนกับว่าเขายอมรับในตัวของฮีโร่ซะมากกว่าด้วย โรสเรียกว่าเป็นคนแรกที่รู้สึกถึงความผิดปกตินี้ เธอจึงถามออกไปว่า

“คุณคิล ท่าทางคุณจะไม่มีอาการหึงหวง หรือโมโห ต่อสิ่งที่ฮีโร่แสดงออกมาเลย ไม่สิควรจะบอกว่าคุณไม่ยินดียินร้ายกับสิ่งที่ฮีโร่บอกออกมาเลยแม้แต่น้อย มันเหมือนกับว่าคุณยอมรับในสิ่งที่ฮีโร่บอกโดยไม่สงสัยอะไรแม้แต่น้อยเลย แถมท่าทางคุณยังไม่เดือดร้อนเลยด้วย ทั้งที่เซร่าเป็นคู่หมั้นของคุณนะ ที่ฉันพูดนั้นถูกหรือไม่คะ”

คิลยิ้มเล้กน้อยกับคำพูดของโรส แต่เขาก็ไม่ตอบอะไรออกไป จากนั้นเขาก็หันไปมอง          เซร่าอย่างงง พร้อมพูดออกไปว่า

” ตกลงว่านี่คุณเซร่ายังไม่ได้ถามเรื่องราวกับพวกอาร็อคอีกเหรอ? มิน่าละคุณถึงได้มองผมด้วยสายตาแบบนั้น เพราะถ้าคุณรู้เรื่องราวทั้งหมดคุณคงไม่มองผมแบบนั้นหรอก เออ ผมไม่เข้าใจจริงๆทำไมคุณอาร็อคถึงไม่ยอมบอกเรื่องนั้นกับคุณ ทั้งที่เรื่องนั้นสำคัญมากขนาดนั้น”

คำพูดของคิลในครั้งนี้ทำเอาทุกคนไม่ว่าจะเป็นฮีโร่ เซร่า ดรีม โรส และลาล่าต่างหันมามองคิลเป็นตาเดียวกัน ไม่นานเซร่าก็สามารถความคุมอารมณ์ได้ เธอจึงถามออกมาว่า

“คิล ที่นายพูดมามันหมายความว่ายังไงกัน “

คิลจ้องมองเซร่า ก่อนจะถอนหายใจออกมาพร้อมพูดว่า”ผมว่าคุณเซร่าน่าจะรู้ตัวเป็นอันดับแรกนะ คุณเคยคิดบ้างไหมทำไมพ่อแม่ของคุณถึงต้องให้คุณหมั้นหมายกับผมทั้งที่พวกเขาก็ทราบว่าคุณมีคนรักอยู่แล้ว และเคยคิดบ้างไหมว่าทำไมพวกเขาต้องให้คุณหมั้นกับคนที่คุณเพิ่งเห็นหน้าเป็นครั้งแรกนะ ถ้าคุณยังไม่เคยคิดผมว่าคุณเซร่าควรเริ่มคิดได้แล้วนะ”

เซร่าเงียบลงไปทันที เพราะเธอยังไม่ได้คิดถึงจุดนี้เลย ไม่สิ ต้องบอกว่าเธอถูกอารมณ์โกรธบดปังจิตใต้สำนึกของเธอ ไม่นานเธอก็พูดออกมาเบาๆว่า

”นั้นสิ ทำไมคุณพ่อและคุณแม่ต้องทำแบบนั้นด้วยละ “

คิลยิ้มเพราะตอนนี้สายตาของเซร่าเริ่มอ่อนลงแล้ว เขามองไปยังคนที่อยู่รอบๆซึ่งตอนนี้ทุกคนต่างสงสัยในสิ่งที่คิลพูดออกมา ไม่นานเซร่าก็พูดออกมาว่า

“แสดงว่านายเองก็ทราบเรื่องราวในครั้งนี้สินะ ”

            คิลมองเซร่าก่อนจะพยักหน้าเป็นคำตอบ ไม่นานเซร่าก็พูดออกมาว่า”แล้วไม่ทราบว่านายพอจะบอกเหตุผลนั้นกับฉันได้ไหมละ เพราะถ้าฉันไปถามพวกท่านละก็ พวกท่านต้องไม่ตอบออกมาแน่ๆเลย”

            คิลถอนหายใจก่อนจะมองไปรอบๆตัวจากนั้นก็พูดออกไปว่า”คุณเซร่า คุณแน่ใจว่าต้องการฟังเรื่องราวที่ผมจะพูด ผมขอบอกไว้เลยนะถ้าคุณได้รับฟังเรื่องราวที่ผมพูดออกไปแล้ว คุณอาจจะไม่ได้เป็นอย่างในปัจจุบันนี้อีกแล้วนะ ถ้าเป็นแบบนั้นคุณเซร่าต้องการจะฟังอีกเหรอ?“

            คำพูดของคิลถึงกับทำให้พวกเซร่ารวมไปถึงลาล่าอึงไปตามกัน ดรีมที่ฟังอยู่รีบพูดออกมาว่า

            “ไอ้คิล นายอย่ามาขู่กันเลย แม้ว่าเรื่องราวที่นายเล่ามามันจะเลวร้ายขนาดไหน พวกเราทั้งสี่คนก็จะฝ่าฟันมันไปให้ได้เลย”

            ฮีโร่ที่ได้ยินคำพูดของดรีม เขาก็ยิ้มแล้วพูดออกมาว่า”นั้นสิครับ ไม่ว่าเรื่องราวจะใหญ่โตแค่ไหน พวกเราทั้งหมดจะร่วมกันฝ่าฟันต่อไป ผมเชื่อว่าไม่มีเรื่องอะไรที่แก้ไขไม่ได้ “

            เซร่าและโรสที่ได้ยินคำพุดของคนทั้งสอง พวกเธอก็ยิ้มขึ้นมาก่อนจะทำการพยักหน้าให้กับคำพูดของฮีโร่และดรีม แม้ทั้งสี่คนจะเป็นแบบนั้นแต่ลาล่ากับเห็นเป็นอีกแบบหนึ่งแทน เพราะเธอไม่เข้าใจว่าคิลกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ถึงได้พูดแบบนี้ออกมา ไม่นานลาล่าก็พูดออกมาว่า

            “ถ้าคุณคิลต้องการพูดเรื่องนั้นออกมา ฉันว่าพวกเราควรจะเปลี่ยนสถานที่กันดีไหมค่ะ เพราะท่าทางเรื่องนี้จะสำคัญมากเลย”

            ทุกคนต่างพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของลาล่า ไม่นานเซร่าก็พูดออกมาว่า”งั้นพวกเรา เข้าไปใช้บริการห้องรับรองพิเศษที่ภัตตาคารด้านข้างกันดีกว่าไหม เพราะที่นั้นทั้งเงียบและสงบดีกว่าที่นี่นะ แถมห้องรับรองยังสามารถเก็บเสียงได้ด้วยนะ”

            ฮีโร่ที่ได้ฟังจึงพูดออกมาทันทีว่า”ตกลงตามนั้นเลย เดี๋ยวพวกเราเข้าไปที่ภัตตาคารเลยนะ”

            หลังจากที่ทุกคนตกลงกันได้แล้ว พวกเขาก็เดินเข้าไปในภัตตาคารที่อยู่ข้างในทันที โดยมีพวกเซร่าเดินนำหน้า และตามมาด้วยลาล่า ก่อนจะปิดท้ายด้วย คิล ที่ตอนนี้เดินตามมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แต่มันเป็นรอยยิ้มที่ดูเจ้าเล่ห์และโหดร้าย ทุกครั้งที่ลาล่าหันมามองคิล เขาจะรีบเปลี่ยนสีหน้าเป็นสีหน้าที่ดูใสสื่อในทันที ซึ่งทำให้ลาล่าไม่สามารถจับพิรุธได้เลยแม้แต่น้อย