ตอนที่ 1 : บทนำ
บทนำ
เสียงฟ้าร้องที่ดังไปทั่วบริเวณป่าที่มืดมิด เหมือนจะเป็นการบอกว่าฝนกำลังจะตกยังป่าแห่งนี้ พวกสัตว์น้อยใหญ่ได้วิ่งไปหาที่หลบฝนที่กำลังจะตกลงมาจนทำให้ป่าแห่งนี้เงียบสนิท ยิ่งในยามสนทยาแบบนี้มันส่งผลให้ป่าแห่งนี้ยิ่งดูน่ากลัวไปอีก แต่ถ้ามองลึกลงไปภายในป่าที่มืดมิดแห่งนี้ยังมีเงาเล็กๆร่างหนึ่งกำลังรถเข็นไม้ขนาดใหญ่ โดยล้อรถเข็นที่ลากมามันจมลึกลงไปกับพื้นทุกครั้งที่ลากจึงทำให้มีรอยเป็นทางยาวซึ่งแสดงถึงความหนักของสิ่งของที่อยู่บนรถเข็นไม้คันนั้นนั้น แต่เงาเล็กๆที่ลากรถเข็นมาแม้จะมีการหอบเหนื่อยเป็นระยะ เงานั้นกับไม่มีทางท่าทีจะทิ้งรถเข็นคันนั้นไปเลย
เปร้ง
เสียงฟ้าแลบดังขึ้น พร้อมแสงของมันทำให้เห็นสภาพของเงาเล็กๆนั้น เงาร่างเล็กกับเป็นเด็กชายอายุประมาณ 6-7 ปี ผมสีเงิน เสื้อผ้าที่สวมมีการขาดแหว่งเป็นรูเหมือนกับไปเกี่ยวกับอะไรบางอย่างมาแถมไม่ใช้มีแค่รอยเดียวด้วย รอยที่อยู่บนเสื้อของเด็กคนนั้นแทบจะมีชนิดนับไม่ถ้วยเลย ไม่เพียงแค่นั้นเด็กผมเงินคนนั้นยังมีเหงื่อไหลออกมาตลอดเวลา ยิ่งรวมกับเสียงหอบของเด็กคนนั้นมันแสดงถึงความเหนื่อยของเด็กคนนั้นเป็นอย่างดี แต่ท่าทางในการลากรถเข็นไม้กลับไม่มีท่าทีจะหยุดลงแม้แต่น้อย มันแสดงออกให้เห็นว่าเด็กคนนั้นต้องการไปจากที่แห่งนี้โดยเร็ว
เปร้ง
เสียงฟ้าผ่าที่ฟาดลงมาต้นไม้ที่อยู่บริเวณใกล้เคียงจนเกิดเป็นเปลวไฟที่ลุกขึ้น แสงจากเปลวไฟส่องสว่างไปทั่ว มันส่องมายังรถเข็นไม้ที่เด็กคนนั้นกำลังลากมาด้วย สิ่งที่อยู่บนรถเข็นคันนั้นเป็นผู้ใหญ่หนึ่งคนและเด็กเล็กอีกสามคน ผู้ใหญ่ที่นอนอยู่บนแผ่นไม้นั้นเป็นสตรีที่มีอายุประมาณ 25-26ปีร่างกายของเธอเต็มไปด้วยบาดแผล แต่เธอก็ยังคงโอบกอดเด็กอีก 3 คนอยู่ตลอดเวลาเหมือนต้องการบอกว่าเธอจะเป็นผู้พิทักษ์เด็กพวกนี้ไปตราบที่ชีวิตของเธอยังคงหลงเหลืออยู่ เด็กสามคนที่อยู่ในอ้อมกอดของเธอนั้นเป็นเด็กผู้หญิง 2 คน และเด็กผู้ชาย 1คน เด็กผู้หญิงคนแรกเป็นเด็กที่อายุมากที่สุดน่าจะมีอายุประมาณ 4 ปี เด็กผู้หญิงคนที่สองกลับเป็นเพียงเด็กที่อายุไม่เกิน 1 ขวบเลย ส่วนเด็กชายคนสุดท้าย อายุประมาณ 3 ขวบได้ พวกเขาทั้งสามคนกำลังหลับอยู่ภายในอ้อมกอดของหญิงสาวคนนั้นอย่างไม่รู้เรื่องที่กำลังเกิดขึ้นแม้แต่น้อย เด็กทั้งสามสวมใส่เสื้อผ้าที่พอดูแล้วก็รู้ว่าเป็นเสื้อผ้าชั้นดีผิดกับเด็กคนแรกราวฟ้ากับเหว ผุ้หญิงที่เต็มไปด้วยรอยบาดแผลเริ่มที่จะมีอาการไอออกมาให้ได้เห็นแม้เสียงจะไม่ดังนั้นแต่ก็พอทำให้เด็กชายที่กำลังลากรถเข็นหันกลับมามอง ผุ้หญิงคนนั้นไอออกมาเป็นเลือด ไม่นานเธอก็ล้มตัวลงไปด้านข้าง เด็กชายคนนั้นรีบวิ่งมาดูอาการของผู้หญิงคนนั้นก่อนจะพูดออกมาว่า
คุณน้า! คุณน้าเป็นอะไรไปหรือครับ
ผู้หญิงคนนั้นพยามพยุงตัวลุกขึ้นนั่งอีกครั้ง เด็กชายที่เห็นรีบเข้ามาพยุงเธอให้ลุกขึ้นนั่งไม่นานเขาก็พูดออกมาว่า
คุณน้าอดทนไว้นะครับ ผ่านป่าแห่งนี้ไปก็จะเจอหมู่บ้านแล้ว ที่นั่นจะต้องมีหมอที่สามารถรักษาคุณน้าได้อย่างแน่นอนเลย ถ้ายังไงคุณน้าต้องอดทนเอาไว้นะครับอีกไม่นานก็จะถึงแล้วละ
ผู้หญิงคนนั้นยิ้มออกมาอย่างอ่อนล้า ไม่นานเธอก็เอามือมาลูปหัวเด็กชายผมสีเงินพร้อมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนล้าว่า
ขอโทษนะ ท่าทางน้าจะไปต่อไม่ไหวแล้วละ หนูจงพาพวกน้องๆหนีไปเถอะ
เด็กชายผมเงินคนนั้นส่ายหน้าอย่างรวดเร็วเหมือนจะเป็นการบอกว่าเขาไม่มีทางยอมอย่างแน่นอน ไม่นานเด็กคนนั้นก็เอามือทั้งสองข้างไปทาบที่ลำตัวของผู้หญิงคนนั้นไม่นานแสงสีเขียวก็ปรากฏออกมาตรงจุดที่เอามือทาบเอาไว้ แสงสีเขียวที่ออกมาทำให้บาดแผลที่อยู่โดยรอบค่อยๆสมานตัวกันแต่ไม่นานแผลที่กำลังสมานตัวอยู่ก็ฉีกออกอีก ผู้หญิงคนนั้นกระอักเลือดออกมา เธอล้มตัวลงไปด้านข้างอีกครั้ง เด็กชายผมเงินที่เห็นแบบนั้นจึงยิ่งเร่งแสงสีเขียวให้มากขึ้นไปอีก แต่ทุกครั้งแสงสีเขียวสว่างขึ้นจากนั้นเด็กชายผมเงินก็จะมีอาการหอบที่แรงขึ้นทุกขณะเหมือนกับแสงสีเขียวนั้นจะช่วงชิงพลังชีวิตไปจากเด็กชายคนนั้น เธอจึงยกมือขวาขึ้นมารลูปหัวเด็กคนนั้น ก่อนจะพูดออกมาว่า
อย่าเสียแรงเปล่าเลยนะ อารุส แผลที่น้าโดนส่วนใหญ่เกิดจากอาวุธต้องสาปทั้งนั้น พลังในการรักษาธรรมดามันไม่มีทางจะได้ผลหรอก อีกอย่างน้าเองก็ไม่มีพลังที่พอจะมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้วด้วย จงปล่อยน้าไปเถอะ
เด็กผมเงินร้องไห้ออกมาอย่างหยุดไม่ได้ เขาพยายามเร่งแสงสีเขียวให้มากขึ้นแต่มันก็ไม่เป็นผลเลย ไม่นานเสียงของผู้หญิงคนนั้นก็ดังขึ้นมาอีกครั้งว่า
จงอย่าร้องไห้อีกเลย น้าใช้ชีวิตของน้าอย่างมีคุณค่ามากที่สุดแล้ว แต่น้ายังมีสิ่งที่เป็นห่วงอยู่ไม่ทราบว่าหนูพอจะรับปากหน้าได้ไหม
เด็กชายผมเงินมองมาที่ผู้หญิงคนนั้นทั้งน้ำตาก่อนจะพูดว่าไม่ว่าคุณน้าจะให้ผมทำอะไรขอให้บอกมาเลยครับ ต่อให้ผมต้องใช้เวลาทั้งชีวิต ผมก็ต้องทำมันให้สำเร็จจนได้ ผมขอสัญญาด้วยชีวิตและศักดิ์ศรีของผมเลย
ผู้หญิงคนนั้นยิ้มก่อนจะพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่น้ำเสียงที่เธอพูดออกมานั้นเบามากจนทำให้ได้ยินเพียงสองคนเท่านั้น พอพูดจบเด็กชายผมเงินก็พยักหน้าเพื่อเป็นการรับปากเธอก็ยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ เธอยกมือขึ้นอีกครั้งเพื่อลูปหัวเด็กคนนั้น ก่อนจะหยิบของบางอย่างส่งให้กับเด็กชายผมเงินพร้อมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนล้าว่า
หนูจงนำสิ่งนี้ไปมอบให้ชายคนนั้นด้วยนะ แล้วเขาจะรู้ว่าน้าได้เลือกหนูแล้ว น้าขอบใจสำหรับทุกอย่างมากนะ ลูกชายเพียงคนเดียวของน้า
พอเธอพูดจบมือที่เคยลูปหัวเด็กผมเงินก็ตกลงไปราวกับไม่มีแรงอีกเลย เด็กผู้ชายคนนั้นรู้ได้ทันทีว่าคนที่เขารักและนับถือได้จากไปแล้ว เขาร้องตะโกนออกมาทันทีที่ทราบว่า
ไม่น้า!!!!!!! แม่ครับอย่าจากผมไป!!!!!!!!!!!
เสียงร้องตะโกนของเด็กชายดังก้องไปทั่ว แต่ร่างที่ไร้วิญญาณของผู้หญิงคนนั้นก็ไม่อาจจะตอบอะไรเขากลับมาได้อีกแล้ว
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

สนุกมากครับ รอตอนต่อไปนะครับ
น่าสนใจ....จะติดตามผลงานนะค่ะ