ตอนที่ 28 : บทที่ 22 คนธรรมดา กับ ความเข้าใจผิดอีกครั้ง (รีไรท์)
บทที่ 22
คนธรรมดา กับ ความเข้าใจผิดอีกครั้ง
สนามสอบรอบที่ 3
สนามสอบรอบนี้เป็นลักษณะคล้าย สนามประลองในสมัยโบราณทั้ง 4 ทิศต่างเป็นที่นั่งสำหรับคนที่เข้ามาชมการสอบ ตอนนี้ที่สนามสอบรอบนี้ต่างเต็มไปด้วยผู้คนที่ต้องการเข้ามาชม ส่วนผู้เข้าสอบต่างอยู่ที่ลานประลองจนหมดสิ้นแล้ว ผู้อำนวยการหันไปมองพระอาทิตย์ที่กำลังจะตกดิน สักพักเสียงของผู้อำนวยการก็ดังขึ้นว่า
“ไม่ทราบว่ามีผู้เข้าสอบคนใดคิดจะส่งสัตว์อสูรเพิ่มขึ้นอีกบ้างไหม”
ไม่มีผู้เข้าสอบคนใดตอบออกมา หรือแสดงท่าทางอะไร ทุกคนต่างจ้องมาที่ผู้อำนวยการเหมือนต้องการ ให้ผู้อำนวยการประกาศผลการสอบรอบนี้ได้แล้ว ขณะนั้นเองที่มีเสียงถอนหายใจเบาๆจากหนึ่งในผู้เข้าสอบดังขึ้นมา ก่อนจะพูดว่า
“ผลสุดท้ายหมอนั่นก็กลับมาไม่ทันซินะ “
“หมอนั่นที่ว่าใครกันหรือ ? ชาง”เสียงของผู้เข้าสอบที่อยู่ใกล้ๆชางดังขึ้นมา ชายคนนี้มีผมสีฟ้าอ่อนราวกับท้องฟ้า หน้าตาคมเข้ม ดวงตาสีดำแฝงได้ด้วยความมั่นใจ เขาสวมชุดสีแดงเลือดนกไปทั้งตัวอีก สักพักชาง ได้พูดออกมาว่า
“ไม่ต้องมาทำเป็นแกล้งโง่ไปหรอก นายน่าจะรู้จักเขามากกว่าฉันนะ ฟิน ”
ฟินหัวเราะเบาๆ“หึๆ นายรู้ได้ไงนะว่าฉันรู้จักคนที่นายพูดถึงนะ”
ชางจ้องมองฟิน ก่อนเอ่ยว่า “ไม่ว่าใครก็รู้ว่า ตระกูลซึซาคุ กับตระกูลเซริวเป็นคู่ปรับกันมาตลอด ยิ่งคนที่เป็นทายาทสายตรงอย่างนายด้วยแล้ว คงต้องได้ศึกษาข้อมูลของชายคนนั้นมาบ้างละ นอกจากนั้นเท่าที่ฉันทราบมา พ่อของนายกับพ่อของชายคนนั้นก็ไม่ถูกกันไม่ใช่หรือ?”
“ฮ่าๆๆ สมกับเป็นชาง เฟยหู่จริงๆ ข้อมูลเกี่ยวกับบรรดาตระกูลใหญ่ทั้งหลายถือว่ายอดเยี่ยมจริงๆ ขนาดเรื่องเล็กน้อยแบบนั้น นายยังทราบอีกนะ”
ชางจ้องมองชายคนที่พูดด้วย ชายคนนี้คือ ฟิน ซึซาคุ ผู้ที่สอบได้คะแนนเป็นอันดับ 2 นั่นเอง และเขาก็ยังเป็นลูกชายของลุงซาคุที่เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ริวต้องมายังโลกนี้ สักพักองค์ชายก็กล่าวขึ้นมา
“ไม่หรอก อย่างน้อยสุดฉันก็ไม่เคยมีข้อมูลของหมอนั่นแม้แต่น้อย และคิดว่าทางนายเองก็คงไม่มีด้วยใช่ไหมละ”
ฟินได้แต่ยิ้มโดยไม่ตอบอะไร รอยยิ้มของฟินทำเอาชางต้องขมวดคิ้ว เพราะการที่ฟินส่งยิ้มแบบนี้แสดงว่า เขาต้องมีข้อมูลที่ชางยังไม่ทราบแน่ๆ ชางมองฟิน ก่อนกล่าวว่า
“เอาเถอะ นายไม่อยากตอบก็ตามใจ แต่บอกไว้เลยนะ ระดับฝีมืออย่างนายสู้หมอนั่นไม่ได้หรอก อย่าไปหาเรื่องใส่ตัวก็แล้วกัน”
“อืม แล้วฉันจะจำไว้ก็ละกัน”ฟินพูดออกมาด้วยสายตาท้าทาย
ชางจึงได้แต่ถอนหายใจออกมา ท่าทางของฟินบ่งบอกว่าคิดจะลองดีกับริวอย่างแน่นอน ขณะนั้นเองที่ผู้อำนวยการประกาศขึ้นต่อว่า
“ในเมื่อไม่มีใครจะส่งมอบสัตว์อสูรแล้ว ผมจะขอจบการสอบรอบ 3 แต่เพียง.......”
ยังไม่ทันที่ผู้อำนวยการจะพูด จบ เงาอันใหญ่โตก็ปรากฏขึ้นเหนือลานประลอง เงานี้เป็นเงาของมังกรขนาดยักษ์ สายตาของทุกคู่ต่างหันไปมองที่มาของเงานั้น ผู้อำนวยการมองขึ้นไปยังเจ้าของเงา พอเขาเห็นเท่านั้น เสียงของผู้อำนวยการก็ตะโกนขึ้นมาว่า
“ ทุกคนรีบหนีเร็ว!”
เสียงร้องตะโกนของผู้อำนวยการดังกึกก้องไปทั่วทั้งสนามขึ้น แต่ผู้เข้าสอบและผู้เข้าร่วมงานยังคงดูงงๆกับสิ่งที่ได้ยิน ขณะนั้นเองที่กษัตริย์โทมัสรีบสั่งการออกมาว่า
“ทหารองค์รักษ์ทุกนายเตรียมพร้อมรับมือทุกสถานการณ์ เป้าหมายคือมังกรที่อยู่ตรงหน้า ส่วนศ.เอมี่รีบสั่งการให้จอมเวทขาวเตรียมพร้อมรับมือกับผู้ที่บาดเจ็บซะ อาจารย์ทุกท่านทำหน้าที่อพยพผู้คนเข้าชมการสอบ และผู้เข้าสอบทุกคนให้รีบออกจากสนามสอบในทันที นี้คือคำสั่ง“
“รับทราบครับ/ค่ะ”
กษัตริย์โทมัสหยุดไปสักครู่ ก่อนจะพูดต่อโดยที่เสียงของพระองค์ดังไปทั่วทั้งบริเวณ “ขอให้ประชาชนรับทราบ ขอให้ทุกคนอพยพออกไปจากที่นี้โดยเดินตามพวกอาจารย์ที่อยู่ใกล้ตัวที่สุด อาจารย์ทุกท่านจะพาพวกท่านไปในที่ปลอดภัยเอง จำไว้อย่าแตกตื่นโดยเด็ดขาด ”
“เดี๋ยวซิ ทำไมต้องหนีด้วย นั้นก็แค่สัตว์อสูรตัวหนึ่งไม่ใช่หรือ?”เสียงของผู้เข้าชมการสอบคนหนึ่งโวยวายขึ้นมา
“ใช่ๆๆๆ แค่ทหารในหน่วยองค์รักษ์ก็คงจัดการมันได้แล้ว ทำไมพวกเราต้องหนีไปด้วย” เสียงของผู้เข้าชมการสอบอีกคนรีบพูดสมทบขึ้นมา กระแสคำพูดในเรื่องนี้ทำเอาผู้เข้าชมการสอบรวมไปถึงผู้เข้าสอบต่างอยากจะดู การต่อสู้ของเหล่าองค์รักษ์จนไม่ขยับเขยื้อนไปไหนเลย
ขณะเดียวกันหนึ่งในห้องพัก VIP ที่มีไว้ให้ขุนนาง ผู้นำคนสำคัญ อาจจะรวมไปถึงผู้ทรงอำนาจทางเศรษฐกิจ ใช้เป็นสถานที่นั่งชมการสอบรอบ 3 และห้องVIP แห่งนี้กำลังรับรองเลดี้ซินแคร์ อยู่นั้นเอง
“เอือก”
เสียงกลืนน้ำลายของใครบางคนใน ห้องดังขึ้นมา ก่อนจะตามด้วยเสียงของคนที่ยืนอยู่ข้างเลดี้ซินแคร์ กล่าวว่า
“นายหญิงครับ ดูด้านหลังของมังกรตัวนั้นซิครับ”
นายหญิง หรือเลดดี้ซินแคร์รีบยกกล้องส่องทางไกลขึ้นมาจับจ้องไปด้านหลังของมังกรยักษ์ ภาพที่เห็นทำให้เธอถึงกับพูดขึ้นมาลอยๆว่า
“ไม่จริงน่า!!! ”
คนที่ยืนอยู่ข้างเลดี้ ซินแคร์กลืนน้ำลายลงไปอีก 2-3 อึก พร้อมกล่าวว่า “นายหญิงครับ ถ้านายหญิงคิดจะรับซื้อเจ้าสิ่งนี้จริงๆ ผมคงต้องขอลาออกตอนนี้เลยนะครับ ”
เลดี้ ซินแคร์ทำท่าหมดแรงพร้อมมองเจ้าของเสียง “วางใจเถอะ คราส ฉันเข้าใจดีว่านายกำลังกลัวอะไร ใครจะไปคิดว่าเด็กคนนั้นจะจับมังกรตัวนี้มาเป็นๆได้ ไม่ว่าใครก็คงไม่กล้ารับซื้อมังกรตัวนี้แน่ๆ”
คราสพยักหน้าเห็นด้วย จังหวะนั้นเองที่กษัตริย์โทมัสตะโกนขึ้นอีกครั้งว่า “ ทุกคนรีบออกไปเดี๋ยวนี้ ใครฝ่าฝืนคำสั่งอนุมัติให้ใช้กำลังบังคับได้myomu”
เสียงคำสั่งของกษัตริย์โทมัสทำเอาทุกคนเงียบลงทันที มังกรขนาดยักษ์ค่อยๆบินลงมาบนเวที การที่เป็นแบบนั้นทำเอาเอลฟ์ แม่มด และคนแคระที่มีอายุเกินกว่า 300 ปีต่างหน้าซีดขาวด้วยความกลัว จากนั้นไม่นานเสียงร้องของใครบางคนดังก้องขึ้นมา
“ไม่จริง!!! นั่นมันมังกรปีศาจ 3 ตาไม่ใช่หรือ? “
คำพูดนั้นทำเอาผู้คนแตกตื่นกันไปทั้งสนามสอบ ทุกคนพยายามวิ่งไปที่ทางออกให้เร็วที่สุด บางคนก็ยกมือขึ้นมาสวดภาวนา แต่บางคนหนักหน่อยถึงกับร้องกรี๊ดออกมาสุดเสียง กษัตริย์โทมัสรีบสั่งให้ทหารทุกคนเตรียมพร้อมรับมือ แต่ขณะที่กำลังจะมีการประจันหน้ากัน เสียงของใครบางคนก็ดังก้องขึ้นไปทั่วทั้งสนามว่า
“ได้โปรดหยุดก่อนครับ”
พอสิ้นเสียงนี้ ริวก็กะโดดลงมาจากข้างหลังของมังกรปีศาจ 3 ตา จากนั้นตามมาด้วยเทียน่าข้างกายของเธอมีแฟรี่ตัวจิ๋วที่บินตามลงมา ทางด้านชางและฟิน ซึซาคุที่เห็นภาพของริวและสิ่งที่เขาพามาด้วย มันทำเอาพวกเขาพูดอะไรไม่ออกเลย ชางได้แต่ถอนหายใจ ก่อนจะหันมาพูดกับฟินที่ยังคงอึ้งอยู่ว่า
“ฟิน ถ้านายต้องการจะท้าประลองกับชายคนนั้นก็เชิญตามสบายเลย ฉันจะไม่ห้ามนายอีกแล้ว“
ฟินได้แต่ยิ้มแหยๆ ก่อนจะพูดขึ้นมา“นายอย่าพูดเป็นเล่นน่า คนที่จับมังกรปีศาจ 3 ตากลับได้อย่างนี้ ใครมันจะไปชนะได้ฟะ ตอนที่นายสู้กับชายคนนั้นได้ผลเป็นยังไง”
ชางทำหน้าบอกบุญไม่รับ“อย่าเรียกว่าสู้เลย ฉันกับเขาแค่ประลองเวทกันเท่านั้น ฉันทุ่มเทพลังเวทอย่างสุดตัวแต่ก็ยังไม่อาจจะทำอะไรเขาได้แม้แต่น้อย ขนาดมหาเวทอัญเชิญที่เป็นไพ่ตายของฉันยังไร้ผล”
ฟินแสดงสีหน้าตกใจออกมา “ ฉันได้ยินมาแค่ว่านายแพ้ให้กับเขาเท่านั้น แต่ฉันไม่คิดว่านายจะแพ้อย่างหมดรูปแบบนี้นะ”
“หึๆๆ แพ้หมดรูปเหรอ? ถ้าเป็นแค่นั้นก็ดีไป อย่างที่ฉันแพ้ต้องเรียกว่าไม่เจียมตัวต่างหาก นายรู้ไหนว่าสภาพของฉันและเขา ตอนที่ประลองเวทจบเป็นอย่างไร”
ฟินส่ายหน้า ก่อนจะได้ยินเสียงชางพูดต่อว่า “ฉันนอนหมดสภาพ แต่เขากลับไม่เป็นอะไรเลย แถมยังดูเป็นปกติทุกอย่าง ขนาดที่ยังสามารถใช้เวทรักษาชั้นสูงได้อย่างสบายๆเลย “
ฟินเริ่มมีสีหน้าซีดขาวลง เขากลืนน้ำลายลงไป 1อึก “ ระดับของนายกับเขาต่างกันขนาดนี้เลยหรือ? “
ชางไม่ตอบ เขาชี้ไปที่มองไปที่มังกรปีศาจ 3 ตา “ ฉันว่าสิ่งที่นายเห็นในขณะนี้น่าจะเป็นการยืนยันฝีมือของชายคนนั้นเป็นอย่างดีแล้วนะ ถ้านายยังคิดจะทดสอบเขาอีก ฉันก็ไม่รู้จะพูดอะไรแล้วล่ะ”
ฟินกลืนน้ำลายไปอีก 2 อึกด้วยอารมณ์ที่บอกไม่ถูก ก่อนจะหันไปมองริวที่ยืนอยู่กับมังกรปีศาจ 3 ตา ไม่นานเขาก็พูดขึ้นมาว่า
“อย่าเพิ่งลงมือนะครับ มันไม่ได้มาร้าย “
เสียงของริวดังขึ้นในหัวของทุกคนอีกครั้ง ทุกคนต่างหันมามองที่เขาเป็นตาเดียวเหมือนจะถามว่า แกพูดอะไรกันฟะ ริวจึงรีบกล่าวต่อทันที
“ถ้าทุกคนไม่เชื่อ โปรดดูสิ่งต่อไปนี้นะครับ นั่งลง “
มังกรปีศาจ 3 ตา ทำตามทันที ริวจึงพูดต่อว่า “ใช้มือขวายกผมขึ้น” มังกรปีศาจ 3 ตาจัดการทำตามที่ริวพูดในทันที ทุกคนที่เห็นภาพต่างอ้าปากค้างไปตามกัน ริวไม่สนใจคนเหล่านั้น เขารีบยกมือขึ้นฟ้า เท็ดดี้อ้าปากพร้อมพ่นไฟออกมา ไฟที่พ่นนี้ก่อให้เกิดเป็นวงกลมขนาดใหญ่ขึ้นกลางลานประลอง เขาหันไปมองมังกรปีศาจ 3 ตา ก่อนจะสั่งการอีกครั้ง
“กระโดดลอดห่วงไฟซะ”
มังกรปีศาจ 3 ตา รีบทำตามทันที พอมังกรปีศาจ 3 ตาลอดห่วงไฟอย่างปลอดภัย เขาก็ชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า ก่อนจะพูดต่อว่า
“บินควงสว่าน 3 รอบ”
มังกรปีศาจ 3 ตาพุ่งตัวขึ้นไปบนท้องฟ้า ก่อนจะควงสว่านตามที่ริวสั่ง จากนั้นก็ร่อนลงมาอยู่ที่จุดเดิม เมื่อมันลงมายังพื้นเวทีแล้ว สายตาของทุกคู่ต่างจับจ้องที่มังกรปีศาจ 3 ตา ริวรีบหันไปมองผู้อำนวยการพร้อมพูดว่า
“ไม่ทราบว่าผมและน้องสาวจะยังมีสิทธ์ส่งสัตว์อสูรเข้าตรวจในการสอบรอบ 3 อยู่ไหมครับ”
ผู้อำนวยการและผู้ที่ได้ยินเสียงของริว ต่างนิ่งงัน ไม่มีใครกล้าส่งเสียงใดๆออกมา จนราวกับโลกนี้ไร้ซึ่งสรรพสำเนียง จนเสียงสั่นๆของผู้อำนวยการได้บอกว่า
“ได้ซิ แต่เธอไม่ต้องเอามันมาตรวจสอบหรอกนะ ฉันว่าคงไม่มีใครในสนามแห่งนี้กล้าไปตรวจสอบมันแน่ๆ ส่วนคะแนนก็เอาไปเต็ม 100 คะแนน ทั้ง 2 คนเลยละกัน ถ้าใครคิดจะคัดค้าน หรือไม่เห็นด้วยขอให้ก้าวออกมานะ”
ไม่มีเสียงตอบปฏิเสธหรือคัดค้านการให้คะแนนของผู้อำนวยการ ตรงกันข้ามทุกคนต่างพยักหน้าเห็นด้วยกับการให้คะแนนในครั้งนี้ ไม่นานพวกผู้คนก็ค่อยๆกล้าเข้ามานั่งที่เดิมอย่างช้าๆ ขณะที่เป็นแบบนั้นเสียงของเท็ดดี้ก็ดังขึ้นในหัวของริวว่า
-แผนการทั้งหมดจะสำเร็จด้วยดีนะ แต่แกก็ทำเกินไปหน่อยนะ เล่นซะมังกรปีศาจ 3 ตา กลายเป็นสุนัขในละครสัตว์ไปเลย-
( เอาน่า แบบนี้ละดีแล้ว ภาพที่ทุกคนรู้จักมังกรปีศาจ 3 ตา คือ ความโหดเหี้ยม ความอำมหิต และความกลัว การที่พวกเขาเห็นภาพพวกนั้นมันจะทำให้ความกลัวและความรู้สึกต่อต้านลดลงไป ไม่มากก็น้อยละ เฮ้อ แต่นี้มันยิ่งกว่าซวยอีกนะ ใครจะไปคิดว่า สถานที่ร่ายคำสาปดันมากลายเป็นสนามประลองรอบ 3 ไปได้ ดีที่ไหวตัวได้ทัน ไม่เช่นนั้น ผมไม่อยากจะคิดถึงผลรับที่จะตามมาเลย)
-แกก็แสบจริงๆ ขนาดเวลาแค่นั้นยังคิดแผนบ้าๆแบบนี้ขึ้นมาได้อีกนะ –
ริวยิ้มเฝื่อนๆ พร้อมคิดตอบไปว่า (คงต้องเรียกว่าโชคช่วยมากกว่านะ ตอนนั้นผมกำลังคิดถึงภาพที่มังกรบินลอดห่วงไฟอยู่พอดีนะ )
-ไอ้บ้า แกคิดเรื่องงี่เง่าแบบนั้นในเวลาอย่างนั้นได้ยังไงฟะ –
(โธ่ แกคิดดูน่า ถ้ามีละครสัตว์ที่มีมังกรร่วมแสดงด้วย มันจะเท่แค่ไหน เฮ้อ นี้ถ้าคุณลีโอยอมตกลงไปอยู่โลกโน้นนะ ผมว่าเชิญเขาจะไปเปิดละครสัตว์ด้วยกันนะ งานนี้มีหวังรับทรัพย์อย่างเดียวแน่ๆ จริงซิ แกจะร่วมด้วยไหม ผมว่าสิงโตมีปีกก็น่าจะขายได้ราคาเหมือนกันนะ)
-อืม มันก็จริงของแก งานนี้รวยเละแน่ๆ ไม่ใช่โว้ย แกเห็นมังกรปีศาจ 3 ตากับข้าเป็นตัวอะไรกันฟะ ถึงได้คิดจะเอาพวกเราไปออกละครสัตว์นะ-
ริวกวาดตามมองรอบตัวดูว่าทุก คนมีปฏิกิริยาอะไรตอบโต้บ้างไหม ขณะเดียวกันเขาก็ตอบเท็ดดี้ออกไป (เอาน่า ผมแค่คิดเล่นๆเท่านั้นนะ อย่าคิดมากไปเลย )
- จริงซิ ทำไมในแผนแกต้องให้ยัยหนูไลล่าปลอมเป็นแฟรี่ด้วยละ ข้าว่าถ้ายัยหนูนั้นปรากฏตัวออกมา มันอาจจะช่วยให้พวกชาวเมืองเชื่อในตัวเจ้ามากขึ้นไปอีกนะ-
สีหน้าของริวตึงเครียดขึ้นมาเล็กน้อย (มันทำไมไม่ได้นะซิ ขืน คุณไลล่าปรากฏออกมา เธอก็ต้องกลับมาเป็นเทพแห่งแสงสว่างอีก ทีนี้ทุกอย่างก็จะกลายเป็นเหมือน 300 ปีก่อนอีกครั้ง ถึงตายผมก็ไม่ยอมให้เป็นแน่ๆ พวกเขาสองคนลำบากเพราะเรื่องบ้าๆมามากพอแล้ว)
เท็ดดี้จ้องมองริวด้วยสายตาชื่นชม มันพูดออกมาเบาๆว่า “ขนาดเวลาน้อยนิดขนาดนั้น แกยังคิดถึงเรื่องคนอื่นอีกนะ ข้าละยอมแกในจุดนี้เลย เอาเถอะรีบดำเนินแผนขั้นต่อไปได้แล้ว”
ริวพยักหน้า ก่อนจะหันไปทางมองรอบตัว ก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงปกติ แต่เสียงที่ออกไปกลับดังก้องไปทั่วทั้งสนาม ว่า
”ทุกท่านคงเห็นแล้วว่า มังกรปีศาจ 3 ตา ถูกผมจับไว้เรียบร้อยแล้ว และ ผมก็ได้รับมอบวิธีแก้คำสาปมาแล้วด้วย”
คำพูดนี้ทำให้เกิดเสียงร้องเฮ ไปทั่วทั้งบริเวณ บางคนถึงกับร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ ริวรอให้พวกเขาร้องไปได้สักพัก ก่อนจะพูดเสียงก้องว่า
“โปรดเงียบก่อนครับ “
ทุกคนเงียบลงทันทีตามที่เขาขอ ร้อง ริวจึงฉวยโอกาสกล่าวต่อว่า “อีกสักครู่ผมจะทำการถอนคำสาปให้เพียงแต่ว่าระหว่างที่ผมทำการถอนคำสาปนี้ ผมต้องการให้ทุกคนอยู่นิ่งๆให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าใครเกิดเคลื่อนไหวขึ้นมาในขณะที่ทำพิธีกรรม ทุกอย่างอาจจะเกิดความผิดพลาดได้ และต้องรอไปอีก 10 ปีถึงจะทำพิธีกรรมนี้ได้อีกครั้ง”
เสียงพุดคุยของผู้เข้าสอบและ ผู้เข้าชมการสอบต่างดังขึ้นมา ริวทิ้งช่วงเล็กน้อย ก่อนพูดต่อว่า “นอกจากนั้น หลังจากคำสาปถูกถอนแล้ว ขอให้ทุกคนอยู่ในความสงบ ห้ามไปทำร้ายทายาทจอมมาร หรือมังกรปีศาจ 3 ตาอย่างเด็ดขาด เพราะคำสาปนี้เกิดจากความอาฆาตพยาบาท ถ้าพวกคุณทั้งหมดไม่ปล่อยวางความแค้น จิตคิดร้าย และเรื่องราวในอดีต คำสาปพวกนี้จะกลับมาอีก เมื่อถึงตอนนั้นพวกคุณคิดจะโทษใครก็คิดเอาเองเถอะ”
“แบบนี้พวกเราก็ไม่มีโอกาสจะแก้แค้นนะซิ”ใครบางคนตะโกนถามขึ้นมา
ริวยิ้ม ก่อนจะพูดว่า ”แก้แค้น! ถ้าคุณเห็นว่าการแก้แค้นสำคัญกว่าเรื่องราวในอนาคตก็เชิญตามสบาย แต่ผมบอกไว้เลยนะว่าคำสาปที่กลับมาจะร้ายกาจกว่าเดิม 10 เท่า อีกทั้งผู้ที่เป็นคนลงมือจุดฉนวนนี้จะต้องรับผลไปทั้งตระกูล และอาจจะลุกลามไปถึงคนที่รู้จักอีกด้วย ถ้าใครคิดว่าไม่สมควรถอนคำสาปให้ส่งเสียงคัดค้านได้เลย แต่ถ้าคุณไม่กล้าพอ ขอแค่คุณกระดิกนิ้วเพียงนิ้วเดียวเวลาทำพิธีกรรม ทุกอย่างก็จะกลับไปเป็นอย่างที่คุณต้องการ”
-หึๆ เข้าใจโกหกนะ รับรองไม่มีใครกล้าทำอะไรไม่ดีอีกแน่ๆ-
เสียงทุกเสียงถึงกับเงียบลงทันที ขณะนั้นเองที่แฟรี่บินมาเกาะข้างหูของริว แฟรี่ตัวนั้นพูดออกมาว่า “เหลืออีก 2 นาทีจะได้เวลาที่ดาวเรียงตัวกันแล้ว รีบเตรียมวงเวทเถอะ”
ริวรีบหยิบมีดพับออกจากกระเป๋า สักพักมีดพับกลายเป็นดาบไทอัส ริวถอนหายใจก่อนจะตัดสินใจใช้ดาบปาดลงไปที่ฝ่ามือข้างมือขวา พอเลือดไหลออกมาเขารีบเอาฝ่ามือขวาไปนาบกับพื้นเวที เลือดจากฝ่ามือก็กระจายตัวออกไปราวกับมีชีวิต หน้าของริวเริ่มซีดขาวลงเรื่อยๆ จนเสียงของเท็ดดี้ดังขึ้นมาว่า
-ริว แกไหวหรือเปล่า? –
(ทำต่อไปเท็ดดี้ ไม่ต้องสนใจผม ขืน ชักช้าแล้วไม่ทันเวลาขึ้นมา ผมมีหวังเสียเลือดแบบเปล่าประโยชน์แน่ๆ)
เท็ดดี้ได้แต่รับคำก่อนจะใช้เลือดของริวทำการวาดวงเวทต่อไป ไม่นานก็วาดวงเวทสำเร็จ หน้าของริวในเวลานี้แทบไม่เหลือเลือดฝาดบนใบหน้าเลย เขาหยิบเอาลูกแก้ว 3 ลูกออกมาวางบนพื้น ก่อนจะพยายามลุกขึ้นยืน แต่เขาก็ไม่อาจจะทำได้ เทียน่าพยายามจะวิ่งเข้ามาช่วยพยุง แต่ริวกับตะโกนขึ้นมาว่า
“อย่าขยับนะ เทียน่า พิธีกรรมได้เริ่มไปแล้ว ไม่ว่ายังไงพี่ก็จะทำให้สำเร็จ”
เทียน่าได้แต่หยุดนิ่งเอาไว้ เพราะถ้าเธอเคลื่อนไหวตอนนี้สิ่งที่ริวทำมาทั้งหมดจะต้องสูญเปล่าไปแน่ๆ ริวพยายามลุกขึ้นยืนอีกครั้ง เขารีบชูดาบไทอัสขึ้นฟ้า จากนั้นเขาก็พูดตามเสียงของเท็ดดี้ที่อยู่ในหัว ว่า
“ภูติแห่งไฟขอให้มาสถิตอยู่ ทางทิศเหนือ ภูติแห่งดินจงมาพิทักษ์อยู่ทางทิศใต้ ภูติแห่งน้ำจงปรากฏทางทิศตะวันออก ภูติแห่งลมจงมอบกระแสลมให้ทิศตะวันตก ตรงกลางก่อกำเนิดเทพเจ้า ผู้อารี”
พอสิ้นคำพูดของริวเท่านั้น ลูกแก้วที่วางบนวงเวทก็ส่องประกายออกมา ลูกแก้วทั้ง 3 ลูกพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า พลังเวทอันมหาศาลหลั่งไหลออกมาจากลูกแก้วทั้ง 3 ลูก บรรยากาศโดยรอบกลายเป็นกลางคืนในทันที ผู้คนโดยรอบต่างมองเหตุการณ์นั้นอย่างลืมเลือนเวลา ฟิน ซึซาคุที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เขาถึงกับคิดขึ้นมาว่า
(ระดับพลังเวทของหมอนั่นก้าว ข้ามไปถึงชั้น ควบคุมฟ้า-ดิน ได้แล้วหรือ? แบบนี้ใครจะไปสู้ได้ พ่อไหนบอกว่าหมอนั้นเป็นพวกไร้พลังเวทไง แต่จากที่เห็น มันต้องมีพลังเวทไม่ต่างไปจากสัตว์เทพเลยนะ พ่อคิดจะฆ่าผมหรือยังไง ถึงได้ให้มาจัดการกับไอ้หมอนี่)
ระหว่างที่ฟินกำลังคิดแบบนั้น ดาว 7 ดวงเรียงตัวบนหัวของริว แสงของมันส่องสว่างลงมายังดาบไทอัส ริวรีบปักดาบลงไปยังวงเวท ดาบไทอัสที่สัมผัสวงเวทจนก่อให้เกิดเป็นแสงสีม่วง ก่อนจะกลายเป็นสีคราม สีน้ำเงิน สีเขียว สีเหลือง สีแสด และมากลายเป็นสีแดงในที่สุด แสงสว่างนี้พุ่งตรงขึ้นฟ้าก่อนจะแตกกระจายไปทั่วทั้งบริเวณ หลังจากที่แสงหายไป ร่างเงานับแสน นับล้านก็ปรากฏออกมาบนท้องฟ้าเมืองหลวงแห่งแสงสว่าง สักพักร่างเงาเหล่านั้นก็กลายร่างเป็นวิญญาณ ก่อนจะมีเสียงที่ดังขึ้นว่า
“ขอบคุณ ที่ช่วยปลดปล่อยพวกเรา”
เสียงนี้ดังไปทั่วทั้งเมือง วงเวทบางอย่างปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า เหล่าวิญญาณทุกดวงค่อยๆลอยขึ้นไปบนแสงนั้นไป ริวจ้องมองวิญญาณขึ้นไปตามแสงจนหมดสิ้น สักพักทุกอย่างก็กลับคืนสภาพเดิม ดวงตาของเขาเริ่มมืดลงทุกขณะ ไม่นานริวก็ล้มลงไปกับพื้น
-ไอ้ริว!!!-
“พี่ค่ะ!!!”
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

55555+ ในที่สุดก็หายงง ทันที เอิ๊กๆ (เมื่อดูที่แป้นพิมพ์ 555+)
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 3 พฤษภาคม 2557 / 23:21
... กรรม มังกรปีศาจ 3 ตา กลายเป็นตัวอะไรไปแล้วเนี่ยริวคุง