ตอนที่ 27 : บทที่ 21 คนธรรมดา กับ เงาดำที่(ไม่)ธรรมดา ( 2 ) (รีไรท์)
บทที่ 21
คนธรรมดา กับ เงาดำที่ไม่ธรรมดา(2)
ริวได้แต่ถอนหายใจออกมา เท็ดดี้จึงรีบเปลี่ยนเรื่องพูด “ไอ้ริว ถ้าเกิดองค์ชายเกรทคือเทพอาเทม ถ้าเช่นนั้นเรื่องที่เขียนเอาไว้นิยายอาจจะเป็นจริงแล้วละ”
“น่าจะเป็นอย่างนั้น” ริวตอบออกมา ก่อนจะคิดขึ้นว่า(เฮ้อ ดูท่าเรื่องราวจะวุ่นวายขึ้นไปอีก ถ้าออกจากที่นี้เมื่อไรผมคงบอกลาโลกบ้าๆนี้เสียที)
-ตราบใดที่ยัยหนูเทียน่ายังอยู่ที่โลกนี้ ข้าว่าแกคงทำแบบนั้นไม่ได้ไปตลอดชีวิตนั้นละ-
เทียน่าจ้องมองริวกับเท็ดดี้สลับไป-มา สักพักเธอก็ถามว่า”ตกลงว่าพี่กับคุณเท็ดดี้กำลังพูดเรื่องอะไรกันอยู่หรือ?”
ริวยิ้มแหยๆ ก่อนเล่าเรื่องในนิยายออกไป จากนั้นสรุปออกมาว่า “ในนิยายบอกเอาไว้ว่าองค์ชายเป็นผู้ร่ายคำสาปหายนะ และ ถ้านิยายเป็นเรื่องจริง องค์ชายในนิยายก็อาจจะหมายถึงเทพแห่งสงครามที่ปลอมเป็นองค์ชายเกรทก็ได้ ”
ขณะที่ริวพูดจบ ไลล่าก็ทำท่าจะล้มลง ลีโอเข้าไปพยุงเธอเอาไว้ จากนั้นพูดออกมาว่า “ตอนนี้พวกเรารีบออกไปจากหมอกกันก่อนเถอะ ”
พวกริวออกเดินต่อไปอีกครั้ง พวกเขามาหยุดที่หน้าก้อนหินขนาดตึก 2 ชั้น ไลล่าจ้องมองหินก้อนนั้น ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ๆ เธอกัดนิ้วพร้อมเขียนสัญลักษณ์บางอย่างลงไป
ครืน
ก้อนหินก้อนนั้นแยกตัวออก ก่อนจะเกิดอุโมงค์แสงขึ้นมาระหว่างก้อนหินที่แยกจากกัน เสียงของไลล่าดังขึ้นมา
“ที่นี้ล่ะ ขอเพียงผ่านอุโมงค์แสงนี้ไปก็จะถึงที่หมายแล้ว”
ริวรีบก้าวตรงเข้าไป แต่พอเดินเข้ามาในอุโมงค์แสงเท่านั้นหมอกที่อยู่รอบตัวก็หายไปจนหมด ไลล่าเองก็เริ่มจะมีแรงขึ้น เธอจึงเป็นคนนำพาพวกริวเดินต่อไป
ทางออกอีกด้าน
อุโมงค์แสงพาพวกริวมาปรากฏในสวนที่ร่มรื่นราวกับเป็นคนละโลกกับสิ่งที่พวกเขาเจอมาเลย พื้นดินบางส่วนถูกปูด้วยอิฐสีแดงจนเป็นถนนที่ยาวไปสุดสายตา สองข้างของถนนต่างเต็มไปด้วยต้นแอปเบิ้ล กลิ่นหอมของแอปเบิ้ลแผ่กระจายไปทั่ว สัตว์ป่าน้อย-ใหญ่ต่างเดินไปมาอย่างไม่กลัวมนุษย์แม้แต่น้อย สักพักเสียงของไลล่าก็ดังขึ้นมาว่า
“สถานที่แห่งนี้ไม่เปลี่ยนไปจากตอนนั้นเลย”
ริวทรุดตัวนั่งลงกับพื้นด้วยความเหนื่อยล้า เทียน่าได้แต่ยกผ้าขึ้นมาเช็ดเหงื่อให้พี่ชายด้วยความเป็นห่วง “พี่ไม่เป็นอะไรใช่ไหม”
“ไม่เป็นไรจ๊ะ ขอบใจที่เป็นห่วงนะ” ริวยิ้ม ก่อนจะหันไปมองไลล่า พร้อมพูดว่า “คุณไลล่าครับ ดูเหมือนคุณจะรู้จักที่นี้เป็นอย่างดีเลย หรือว่าคุณเคยอยู่ที่นี้มาก่อนหรือครับ”
ไลล่าทรุดตัวลงนั่งข้างๆริว “ใช่จ๊ะ ที่แห่งนี้คือสถานที่พวกฉัน 7 พี่น้องมาฝึกฝนก่อนที่จะเป็นเทพประจำรัฐนะ”
คำพูดของเทียน่าทำเอาริว เทียน่าต่างเธอด้วยสายตางงๆ ลีโอเองก็มองเธอเหมือนจะถามว่า ทำไมเธอไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้เลย ไลล่าถอนหายใจพร้อมพูดต่อว่า
“ตั้งแต่พวกฉัน 7 พี่น้องได้รับดวงจิตแห่งเทพ ดูเหมือนความทรงจำเรื่องสถานที่แห่งนี้จะหายไปอย่างไม่รู้ตัว แต่หลังจากฟื้นขึ้นมาความทรงจำในส่วนนี้ก็ได้กลับมาอีกครั้งนะ ”
เท็ดดี้จ้องมองไลล่า ก่อนจะมองรอบตัวแล้วพูดขึ้นมา“ดูท่าตอนที่เทพอาเทมมอบดวงจิตแห่งเทพให้ มันอาจจะลบความทรงจำเรื่องสถานที่แห่งนี้ไปด้วยซินะ และ การที่ยัยหนูไลล่าฟื้นขึ้นมาแล้วจำเรื่องนี้ได้ตามปกติ อาจเป็นเพราะตอนที่ตาย ผลของเวทบทนี้ก็ได้สลายไปพร้อมกัน”
ลีโอจ้องมองไลล่า “ถ้าสิ่งที่คุณเท็ดดี้พูดมาเป็นความจริง แสดงว่าสถานที่แห่งนี้คงสำคัญกับเทพอาเทมมาก ไม่แน่นะว่าสถานที่เห็นนี้อาจจะมีความรับอะไรซ่อนอยู่ก็เป็นได้ น้องชายคิดว่ายังไงบ้างละ”
ริวได้แต่โบกมือไปมาเหมือนจะหมายความว่าเขาไม่ขอตอบก็แล้วกัน เทียน่าทำหน้าครุ่นคิดขึ้นมา สักพักเธอเอามือขวาที่กำหมัดทุบใส่มือซ้าย
“เข้าใจแล้วค่ะ ถ้าคุณลีโอและคุณไลล่าถูกผนึกอยู่ก่อนเกิดสงคราม แสดงว่า 2 ใน 7 จอมมารก็คือเทพแห่งสงครามปลอมตัวมา และมังกรปีศาจ 3 ตาในตอนนั้นก็น่าจะเป็นเทพแห่งสงครามเช่นกัน การที่มันแพ้สงครามจนต้องหนีมาที่หุบเขาแห่งนี้เพราะมันมีที่ซ่อนตัวที่ไม่ มีใครตามหาพบยังไงล่ะคะ”
ไลล่า ลีโอต่างมองเทียน่าอย่างชื่นชม มีเพียงริวและเท็ดดี้ที่ยังคงไม่พูดอะไร “ยัยหนูเทียน่า ข้าว่าเทพสงครามหนีมาที่นี้น่าจะเป็นเพราะยัยจอมวางแผนมากกว่า”
“ท่านหญิงมังกรฟ้านะหรือ? ทำไมแกถึงคิดว่าเทพแห่งสงครามต้องหนีมาที่นี้เพราะเธอละ” ริวถามขึ้นมาเพราะเขาเองก็ยังนึกหาสาเหตุที่ทำให้เทพแห่งสงครามหนีมาที่นี้ แทนที่ใช้การปลอมตัวแฝงไปกับผู้คน
“ดวงตาที่ทำให้มองเห็นอนาคตยังไงละ ไม่มีสิ่งใดหนีรอดดวงตาคู่นั้นไปได้หรอก นอกเสียจากที่แห่งนี้ยังไงล่ะ และคนเพียงคนเดียวที่ทราบว่าสถานที่แห่งนี้อยู่ไหน คือยัยหนูไลล่าที่ตายไปแล้ว แต่คนที่จะปลุกเธอให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้ก็มีแต่แกที่มีความสามารถพลังเหนือโลก ญาณธรรมชาติและอาวุธเทพอยู่ในตัวพร้อมกัน คราวนี้รู้หรือยังละว่ายัยนั่นใช้งานคนเก่งแค่ไหน”
ริวยิ้มเฝื่อนๆ ก่อนจะพูดออกมาอย่างไม่เต็มเสียงว่า “ แกกำลังจะบอกว่าสิ่งที่ท่านหญิงมังกรฟ้าต้องการจริงๆ คือการพาพวกเรามาที่นี่นะหรือ?”
“ใช่”เสียงตอบรับอันหนักแน่นของเท็ดดี้ดังขึ้นมา
สีหน้าของริวเริ่มที่ซีดเฝือกลงอย่างเห็นได้ชัด เทียน่าเองก็มีสีหน้าไม่ดีไปกว่ากัน เธอมองริว ก่อนจะพูดว่า
“คุณเท็ดดี้ค่ะ ท่านหญิงมังกรฟ้าคงไม่ได้ต้องการให้พี่ริวมาจัดการกับเทพแห่งสงครามหรอกนะ”
คำถามของเทียน่าทำให้ริวต้องโวยวายขึ้นทันที“เธอหยุดคิดไปเลยนะ ยัยตัวแสบ!!”ริวหยุดเล็กน้อย ก่อนพูดต่อว่า
“ถ้าท่านหญิงมังกรฟ้าเป็นอย่างที่น้องพูดจริง พี่ว่าเธอคงเป็นจอมวางแผนที่แย่ที่สุดในแผ่นดินแล้วละ”
เท็ดดี้ส่ายหน้า “ถ้ายัยนั่นเป็นอย่างที่แกว่ามาจริง ข้าคงไม่ต้องเป็นแหวนแบบนี้ ยัยหนูไลล่าและเจ้าลีโอคงยังอยู่ในวิหารแห่งแสง และไอ้เทพแห่งสงครามก็คงไม่หนีมาอยู่ที่นี้หรอก การที่ยัยจอมวางแผนส่งแกมาที่นี้ต้องมีเหตุผลอย่างอื่นแฝงอยู่แน่ๆ”
“ ใครจะไปสนเรื่องแบบนั้นกันฟะ ไม่ว่าจะมีเหตุผลแบบไหนกัน การส่งคนธรรมดามาสู้กับเทพแห่งสงคราม มันก็ปัญญาอ่อนชัดๆ แกคิดว่าน้ำหน้าอย่างผมจะไปสู้เทพแห่งสงครามได้จริงหรือ? ผมว่าแค่โดนลมหายใจของมันเข้าไปผมก็คงไปเกิดใหม่แล้วละ “ริวตะโกนออกมาอย่างเต็มเสียง
“ไอ้ริว แกอย่าดูถูกตัวเองให้มากนัก ข้าเชื่อว่ายัยจอมวางแผนต้องรู้ว่าตัวของแกมีบางอย่างที่ใช้จัดการเทพแห่งสงครามได้แน่ ไม่เช่นนั้นเธอคงไม่ส่งแกให้มายังที่นี้หรอก แกมั่นใจในตัวเองหน่อยซิ”
ริวหน้าเบ้ “ไม่สนโว้ย ใครมันจะไปมั่นใจในสิ่งที่ตัวเองไม่รู้ได้ฟะ ไม่ว่ายังไงผมก็จะกลับบ้านแล้ว ขืนอยู่ที่นี้ต่อไปมีหวังตายสถานเดียว”
เท็ดดี้ได้แต่ถอนหายใจกับสิ่งที่ริวพูด ไลล่าและลีโอก็ทำหน้าบอกบุญไม่รับ เทียน่าจึงได้แต่พูดขึ้นมา
“ถ้าพี่จะกลับก็ไม่เป็นอะไรหรอก แต่พี่จะกลับยังไงล่ะ ถ้าเป็นที่นี้คุณไลล่าก็คงใช้เวทเคลื่อนย้ายไม่ได้ แต่ถ้าอยู่ในหมอกแม้จะใช้เวทเคลื่อนย้ายได้แต่ก็ไม่รู้ว่าจะไปปรากฏที่ไหนอยู่ดีไม่ใช่หรือคะ”
คำพูดของเทียน่าทำเอาริวจุกจนพุดไม่ออก สักพักเธอก็พูดต่อ “อีกอย่างพวกเราก็ยังไม่รู้วิธีแก้คำสาปทายาทจอมมารเลยนะ ถ้ากลับไปทั้งแบบนี้มีหวังพวกลีฟ่าต้องตายแน่ๆ”
“ไอ้เรื่องแก้คำสาปไม่น่าจะมีปัญหานะ คุณไลล่าก็บอกแล้วว่ามีวิธีแก้คำสาป ถ้ายังไงก็ใช้วิธีนั้นก็แล้วกัน”
ไลล่าฝืนยิ้ม ก่อนจะได้ยินเสียงของเท็ดดี้ถามขึ้นมาว่า “ยัยหนูไลล่า วิธีที่เจ้าจะใช้ในการแก้คำสาปคือ ประตูแห่งผู้กล้าใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ”ไลล่าตอบพร้อมพยักหน้าเป็นการยอมรับ
เท็ดดี้ถอนหายใจ “ไอ้ริว สิ่งที่ยัยหนูไลล่าคิดจะทำก็เหมือนกับที่ข้าเคยทำนั่นละ คือเจ้าต้องเข้าไปฝึกฝนในประตูแห่งผู้กล้า จึงจะสามารถช่วยเพื่อนของยัยหนูเทียน่าได้นะ แต่ถ้าทำแบบนั้นยัยหนูมอนตาน่าคงจะตายไปก่อนแล้วละ”
“สรุปว่าไม่ว่ายังไง ผมก็ต้องไปหาเทพอาเทมเพื่อหาวิธีถอนคำสาปใช่ไหม”
“คงอย่างนั้นล่ะ นอกเสียจากว่าเจ้าจะเลิกล้มที่จะช่วยเพื่อนและยัยหนูมอนตาน่า”
“ชิ”เสียงร้องของริวดังขึ้น ก่อนที่จะลุกขึ้นยืนพร้อมกล่าวขึ้นว่า “ในเมื่อไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว พวกเราก็รีบจัดการเรื่องให้มันเสร็จๆเถอะ ขืน ปล่อยไว้นานกว่านี้ผมกลัวว่าตัวเองอาจจะสลบไปก่อนนะ
ไลล่า ลีโอ และเทียน่าต่างอมยิ้มกับคำพูดและท่าทางของริว ไลล่าลุกขึ้นยืนพร้อมชี้ไปที่ถนนสีแดง “แค่เดินตามถนนสีแดงไป พวกเราก็จะพบกับบ้านที่พวกฉันเคยพัก ถ้าเทพอาเทมกลับมาที่นี้จริง เขาก็น่าจะอยู่ที่นั่นอย่างแน่นอนละ”
ริวมองไปถนนสีแดง ก่อนจะก้าวเดินไปตามถนนอย่างไม่ลังเล พวกเทียน่าและไลล่าได้แต่เดินตามไปติดๆ
ปลายทางถนนสีแดง
หลังจากเดินตามถนนมาได้พักใหญ่ ถนนสีแดงก็สิ้นสุดลงปลายทางที่พวกริวเห็นคือบ้านที่สร้างด้วยอิฐสีแดงทั้งหลัง แม้จะไม่ใหญ่โตขนาดคฤหาสน์ แต่ก็ไม่ได้เล็กเหมือนบ้านในโครงการต่างๆ สภาพของบ้านยังดูใหม่เหมือนกับเพิ่งสร้างได้ไม่นาน
“ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม”เสียงพรึมพรำของไลล่าดังขึ้น
ขณะที่ไลล่าพูดจบ ริวทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้นด้วยสีหน้าที่ซีดขาว เทียน่าตรงเข้ามาดูอาการของริว “พี่ค่ะ พี่เป็นอะไรนะ ทำไมหน้าของพี่ถึงได้ซีดแบบนี้”
ริวไม่ตอบ เขาทำได้แค่โบกมือไป-มา เสียงของเท็ดดี้ดังแทรกขึ้นมา “หมดเวลาแล้วล่ะ”
“หมดเวลา? ไม่จริงน่า แล้วแบบนี้พี่ริวจะเป็นอะไรหรือเปล่าคะ”เทียน่าถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
เท็ดดี้หลับตาลง ก่อน ะลืมตาขึ้นอีกครั้งพร้อมพูดว่า “เฮ้อ ข้าลองตรวจสอบสภาพร่างกายของไอ้ริวดูแล้ว ไม่รู้ว่ามันดวงดี หรือว่า ร่างกายมันแปลกกว่าคนอื่นกันแน่ นอกจากเรื่องที่ร่างกายหมดแรงจนไม่มีแรงจะพูดแล้ว ทุกอย่างยังคงเป็นปกติ ขอแค่พักสัก 1-2 วัน ร่างกายก็คงเป็นปกติเองล่ะ”
สีหน้าของเทียน่าดูผ่อนคลายลง ริวได้แต่ลูบหัวเธอเป็นการปลอบใจ ไลล่าส่งยาเม็ดพื้นพลังให้กับริวอีกครั้ง เขาได้แต่กลืนยาโดยไม่ลังเล เวลาผ่านไปอีกพักใหญ่ๆ ร่างกายของชายหนุ่มก็พอจะกลับมามีแรง เขาพยายามจะลุกขึ้นยืนแต่ก็ไม่เป็นผล สุดท้ายเทียน่าจึงได้แต่เข้ามาช่วยให้พยุงริว
“ฉันว่าน้องชายพักอีกสักนิดเถอะ ” เสียงของลีโอพูดแทรกขึ้นมาเมื่อเห็นท่าทางของริวยังดูเหนื่อยมากๆ
ริวฝืนยิ้ม “ผมเองก็อยากจะพัก แต่ถ้าเทพแห่งสงครามรู้ตัวขึ้นมาก่อน พวกเรานี้ละที่จะเดือดร้อน ดังนั้นการเข้าไปทั้งอย่างนี้น่าจะดีกว่า”
ลีโอทำท่าจะพูดต่อ แต่เท็ดดี้ชิงพูดขึ้นมาว่า “เจ้าลีโอ อย่าพูดให้เปลืองน้ำลายเลย ถ้าไอ้ริวตัดสินใจที่จะทำอะไรลงไปแล้ว ไม่ว่าใครก็ห้ามไม่ได้หรอก”
เทียน่าพยักหน้าเห็นด้วย ส่วนริวนั้นทำหน้าเบ้ไปเรียบร้อย ลีโอถอนหายใจ “เข้าใจแล้วละ ถ้าเช่นนั้นฉันกับไลล่าจะนำหน้า ส่วนน้องชายกับน้องสาวค่อยตามเข้าไปก็แล้วกัน”
ภายในบ้าน
ภายในบ้านต่างเต็ม ไปด้วยหนังสือที่กองสุ่มกันไม่ต่ำกว่าหมื่นเล่ม บางเล่มก็เปิดกางเอาไว้บนกองหนังสือ บางเล่มก็ตกลงมา แถมพื้นบ้านก็เต็มไปด้วยกระดาษที่กระจายเกลื่อนห้อง ริวที่เห็นสภาพห้องแล้วเขาก็หันไปมองไลล่า ก่อนจะพูดว่า
“ไม่ทราบว่าตอนที่พวกคุณ 7 พี่น้องจากไป บ้านอยู่ในสภาพนี้หรือไม่ครับ”
ไลล่าส่ายหน้า ”ไม่จ๊ะ สภาพบ้านดูดีกว่านี้เยอะ แถมฉันก็ไม่เคยมีหนังสือมากมายขนาดนี้ด้วย ไหนจะกระดาษที่เกลื่อนพื้นแบบนี้อีก“
“ท่าทางเทพแห่งสงครามจะมาอยู่ที่นี้จริงๆนะ แล้วพวกเราจะเอาอย่างไงต่อละ เตรียมสุ่มโจมตีเลยดีไหม หรือว่า........” ลีโอพูดแทรกขึ้นมา
“ไม่จำเป็นต้องทำอะไรทั้งนั้นนะ นางไม่ได้อยู่ที่นี้อีกแล้ว”เสียงของเท็ดดี้ดังขึ้นมา
เทียน่าพาริวไปนั่งที่เก้าอี้ ก่อนจะได้ยินเสียงริวถามขึ้นมา “นายทราบได้ยังไงนะ เท็ดดี้”
“กลิ่นนะ พวกเจ้าดมกลิ่นหอมที่อยู่ในห้องนี้ให้ดีซิ นี่คือกลิ่นของกุหลาบแสงจันทร์ ทุกครั้งที่นางจะจากไปมักจะทิ้งกลิ่นอย่างนี้เอาไว้ มันเป็นสัญลักษณ์ที่บอกว่านางจะไม่กลับมาที่นี้อีกแล้ว และดูจากกลิ่นที่ไม่รุนแรง ข้าว่านางจากไปแล้วไม่ต่ำกว่า 1 เดือนนะ”
“ท่าทางแกจะรู้จักกับนางดีจัง”
เท็ดดี้ถอนหายใจ “เฮ้อ การที่ข้ารู้จักนางดีก็เพราะนางชอบมาคุยกับข้าเวลาที่อยู่คนเดียว และเวลาที่จะจากไปไหน นางก็มักจะทิ้งกลิ่นแบบนี้เอาไว้เสมอนะ จนทำให้ข้ารู้ว่ากลิ่นพวกนี้หมายถึงการที่นางจะไม่กลับมาอีกแล้วนะ“
“เอ่อ แบบนั้นละที่มนุษย์เรียกว่าจีบ “
“ไม่ใช่โว้ย ข้าไม่เคยคิดอะไรกับนางเลยนะ”เท้ดดี้โวยวายขึ้นด้วยสีหน้าที่แดงเป็นลูกตำลึง
“ทั้งสองคนหยุดได้แล้วนะ”เสียงของเทียน่าตะโกนขึ้นมา
ริวได้แต่หันไปมองเธอด้วยสีหน้าเจื่อนๆ เนื่องจากเทียน่า ไลล่า และลีโอต่างกำลังจ้องมองมาที่พวกเขา สักพักเทียน่าก็พูดออกมาว่า
“พี่ค่ะ พี่ช่วยอธิบายเรื่องราวทั้งหมดหน่อยจะได้ไหม พวกหนูงงๆไปหมดแล้วนะ แล้วนางที่พวกพี่กำลังพูดถึงคือใครกันหรือ?”
ริวถอนหายใจ “นางที่พวกเราพูดถึงก็คือเทพแห่งสงครามนั้นละ และ อีกตัวตนหนึ่งของหล่อนก็คือ ลูน่า สัตว์เทพมายาประจำรัฐแห่งรัตติกาลนั้นเอง”
“ไม่จริงน่า!!”เสียงร้องของเทียน่า ไลล่า รวมถึงลีโอต่างก็ดังขึ้นมาพร้อมกัน
ริวยิ้มเจื่อนๆ เพราะการประสานเสียงของพวกเขาทั้ง 3 แทบทำเอาแก้วหูของเขาแทบฉีก แถมแรงที่จะยกมือขึ้นมาปิดก็ยังไม่มีอีก
“มันเป็นความจริงแน่นอน เรื่องนี้พี่เอามาจากในหนังสือนิยายเล่มนั้นละ “
เทียน่าถามขึ้นมาด้วยท่าทางที่ตื่นเต้น “จริงหรือคะ? แต่เนื้อหาในหนังสือนิยายเล่มนั้น ไม่มีส่วนไหนบอกถึงเรื่องนี้เลยไม่ใช่หรือ? แล้วพี่ทราบเรื่องนี้ได้อย่างไร”
“ใช่ เนื้อหาในนิยายไม่ได้เขียนเรื่องของนางเอาไว้ แต่ชื่อผู้แต่งนิยายเรื่องนี้ ใช้นามปากกาว่า ลูน่า สำหรับนิยายแล้ว คนเขียนคือผู้ที่กำหนดเรื่องราวของนิยายทั้งหมด และคนที่ทำแบบนั้นได้ก็มีเพียงเทพอาเทมเท่านั้น”
เทียน่า ลีโอ และไลล่าต่างพูดอะไรไม่ออกเลยเพราะตัวตนของเทพแห่งสงครามดูจะเหนือจากความ คาดหมายของพวกเธอมากนัก สักพักเทียน่าก็ถามขึ้นมาว่า
“ในเมื่อสัตว์เทพมายา ลูน่าจากที่นี้ไปเกือบ 1 เดือนแล้ว ถ้าเช่นนั้นเรื่องการอาละวาดของไลแคนที่หุบเขามังกรก็คงไม่เกี่ยวกับหล่อน แน่ๆ ”
“พี่ไม่ทราบ เอาเป็นว่าพวกเราสำรวจที่นี้กันก่อนเถอะ”
ทุกคนต่างพยักหน้าเห็นด้วย ไม่นานพวกลีโอต่างแยกย้ายกันไปสำรวจบ้านหลังนี้ ริวมองไปรอบๆ ก่อนที่เขาจะสังเกตเห็นกองหนังสือกองหนึ่งที่อยู่สุดมุมห้อง ริวฝืนเดินเข้าไปหากองหนังสือนั้นด้วยความสนใจ พอมาถึงเขาก็จัดการสำรวจหนังสือเหล่านั้นทีละเล่ม จนถึงหนังสือเล่มสุดท้ายที่อยู่ใต้กองหนังสือ ริวเปิดหนังสือเล่มนั้นออก ภายในหนังสือเล่มนั่นกลับมีกล่องเหล็กซ่อนเอาไว้ ริวมองมองกล่องนั้นก่อนจะพูดว่า
“เธอซินะที่ส่งเสียงเรียกผม”
ไม่มีเสียงตอบรับหรือคำพูดใดๆ ออกมาจากหนังสือ มีเพียงแต่เสียงของเท็ดดี้ที่พูดขึ้นว่า“เอ๊ย ริว แกรู้ได้ยังไงว่ามีกล่องเหล็กซ่อนอยู่ในกองหนังสือตรงนี้นะ”
เสียงของเท็ดดี้ทำเอาไลล่า ลีโอ และ เทียน่าต่างหันมาสนใจในสิ่งที่ริวพบ ขณะนั้นเองที่ริวตอบออกไปว่า
“ผมสัมผัสได้ว่า กองหนังสือตรงนี้มันเรียกให้ผมมาหามันนะ และพอเข้ามาใกล้ ความรู้สึกนั้นก็ยิ่งเด่นชัดขึ้น จนผมต้องเปิดหนังสือเหล่านี้เพื่อตรวจสอบเสียงเรียก และผมก็เจอกล่องใบนี้เข้า แต่ที่ไม่เข้าใจคือ พอผมเจอมันแล้ว ความรู้สึกต่างๆที่เคยมีมาก็หายไปหมดเลยนะ “
ไลล่า เทียน่า และลีโอต่างจ้องมองริวด้วยสายตาที่บอกไม่ถูก ไลล่ารีบตะโกนออกมาว่า”ไม่จริงน่า ทำไมถึงสามารถใช้ความสามารถพิเศษในพื้นที่นี้ได้ละ “
“ความสามารถ เหนือโลก ยังไงล่ะ ดูเหมือนความสามารถพิเศษนี้ก็ทำให้ความสามารถอื่นๆ ใช้งานในเขตนี้ได้ด้วย”
“ช่างเป็นการจับคู่ที่ยอดเยี่ยมมากๆเลยนะ ”เสียงของลีโอพูดขึ้นมา ขณะนั้นเองที่เสียงของริวดังแทรกขึ้นมาว่า
“เท็ดดี้แทนที่แกจะพูดมาก แกช่วยมากันหาทางเปิดกล่องหน่อยจะได้ไหม”
พอสิ้นเสียงริวเท่านั้น กล่องในมือก็ถูกเงาบางอย่างที่อยู่ในหนังสือขโมยมันไปต่อหน้าต่อตา เงานั้นพุ่งตัวออกไปนอกหน้าต่าง ไลล่าและลีโอรีบตามเงาออกไปทันที พอออกมาพวกเขาก็เห็นเงาดำกำลังยืนถือกล่องอยู่ตรงทางเข้า
“ฮิๆๆๆๆ”เสียงหัวเราะของเงาดำดังขึ้น มันจัดการยัดกล่องเข้าไปในตัว ลีโอรีบพุ่งเข้าไปหาเงาดำ มันได้เคลื่อนตัวถอยหลังออกไป ลีโอตรงเข้าประชิตพร้อมต่อยหมัดขวาเข้าใส่
“โครม”
เงาดำถูกต่อยจนล้มลง ลี โอมองเงาดำอย่างงงๆเพราะแม้เขาจะต่อยถูกเงาดำอย่างเต็มแรง แต่มันเหมือนกับไม่ได้ต่อยถูกอะไรเลย ขณะนั้นเองที่เงาดำลุกขึ้นมาอีกครั้ง มันค่อยๆเปลี่ยนรูปร่างไปอย่างช้าๆ ไม่นานรูปร่างของมันก็กลายเป็นคุณลีโอ เงาดำในรูปแบบลีโอแหยะยิ้ม พร้อมตรงเข้าไปหาลีโอ มันจัดการชกหมัดขวาเข้าใส่หน้าเขาด้วยกระบวนท่าที่เขาใช้เมื่อสักครู่ทุกประการ ลีโอพยายามจะเบี่ยงตัวหลบแต่หมัดซ้ายของเงาดำได้ถูกต่อยเข้าสู่ลำตัว
ผัวะ
ลีโอทรุดตัวลงไปคุกเข่าเพราะความจุก เงาดำยกเท้าเพื่อกระทืบซ้ำ เขาได้แต่กลิ้งตัวหลบ ก่อนจะลุกขึ้นมาตั้งท่าเตรียมต่อสู้ เงาดำรีบพุ่งตัวเข้าใส่ลีโออีกครั้ง มันกระโดดหมุนเตะ ลีโอรีบยกแขนขึ้นมากัน แต่แรงเตะของเงาดำดูจะเหนือกว่าการ์ดของลีโอ
โครม
ลีโอลอยตามแรงเตะ แต่เขาก็ยังสามารถกลับตัวลงพื้นได้ทันเวลา ลีโอวิ่งเข้าประชิตเงาดำอีกครั้ง เขาเตะเข้าไปที่ก้านคอ เงาดำดูเหมือนจะรู้ว่าลีโอจะทำอะไร มันเบี่ยงตัวหลบก่อนที่ลูกเตะจะมาถึงอีกทั้งยังแทงศอกตรงเข้าที่ลิ้นปี่
อึก
ลีโอถึงกับทรุดตัวลงไปอีกครั้ง เงาดำทำท่าจะโจมตีต่อ จังหวะนั้นเองที่ไลล่ากระโจนเข้ามาร่วมวงอีกคน เธอกระโดดถีบเข้าที่ด้านหลังเงาดำอย่างเต็มแรง
ตุบ
เงาดำถูกถีบจนกระเด็นออกไป ไลล่าอาศัยจังหวะนี้พยุงลีโอให้ลุกขึ้นยืน เงาดำค่อยๆลุกขึ้นมา มันจับจ้องไปที่ไลล่า ก่อนจะแหยะยิ้มและหัวเราะขึ้นมาอย่างถูกใจ
“คิกๆๆๆ”
พอสิ้นเสียงหัวเราะ เงาดำก็ค่อยๆเปลี่ยนรูปร่างไปเป็นไลล่า มันกวักมือเรียกให้เธอเข้ามาโจมตีอีกครั้ง เทพแห่งแสงสว่างขมวดคิ้วพร้อมตั้งท่าแบบนักคาราเต้ เธอดึงหมัดแนบลำตัว เงาดำเองก็ทำแบบเดียวกับเธอ สักพักร่ายกายของเธอก็หายไปจากจุดที่ยืนทันที ด้านเงาดำเองหายไปเช่นกัน
เช้ง
ปัง
ตึง
เสียงปะทะของไลล่าและเงาดำดัง ขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้จะเป็นแบบนั้นแต่ริวกับไม่เห็นการปะทะแม้แต่น้อย เขาพยายามมองไปรอบตัวก็ยังไม่เห็นต้นเสียงเลย เสียงของเทียน่าดังแทรกขึ้น
“ท่าทางคุณไลล่าดูจะเป็นฝ่ายได้เปรียบอยู่เล็กน้อยนะค่ะ”
“อืม ไม่คิดเลยว่ายัยหนูไลล่าจะมีฝีมือการต่อสู้ดีถึงขนาดนี้”เท็ดดี้ตอบทั้งที่สายตายังจับจ้องไปรอบๆ
ริวยังคงจับจ้องไปข้างหน้าเพื่อจะเห็นการต่อสู้ของคุณไลล่าบ้าง แต่ไม่ว่าเขาจะจ้องเพียงใดก็ไม่สามารถมองเห็นการต่อสู้ได้เลย
“เทียน่า ตกลงว่าน้องเห็นการต่อสู้ของคุณไลล่าด้วยหรือ?”
“ค่ะ ”เทียน่าตอบโดยยังจ้องมองการต่อสู้แบบไม่กระพริบตา สักพักเธอก็พูดต่อว่า “ตอนนี้คุณไลล่ากำลังไล่ต้อนเจ้าตัวปลอมอยู่นะ อีกไม่นานคงจัดการได้แน่”
“บึม”
“โครม”
เสียงระเบิดดังไปทั่ว ร่างของไลล่ากระเด็นมาชนกับกำแพงจนทะลุเข้าไปข้างในบ้าน ก่อนจะสลบไปทั้งแบบนั้นส่วนไลล่าตัวปลอมมองมาทางพวกริวอย่างสบายอารมณ์ ริวกลืนน้ำลาย 2-3 อึก
“ไหนบอกว่าคุณไลล่ากำลังได้เปรียบยังไงละ ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ได้ล่ะ”
เทียน่าส่ายหน้าเป็นความหมายว่าไม่ทราบเช่นกัน เท็ดดี้ได้แต่อธิบายแทน “เท่าที่ดูการต่อสู้ เจ้าเงาดำอาจจะมีสามารถเลียนแบบกระบวนท่า นิสัย และตัวตนของผู้ที่มันต่อสู้ด้วย พอเวลาผ่านไปสักพัก มันจะสามารถใช้วิชาเหล่านั้นได้เหนือกว่าคนที่เป็นต้นฉบับเสียอีก”
ริวแสดงสีหน้าเบื่อโลกออกมาให้เห็น “เท็ดดี้ ทีหลังแกช่วยสรุปสั้นๆว่า เงาดำนั้นเก่งกว่าคุณไลล่าก็พอแล้วล่ะ แกจะอธิบายซะยืดยาวทำไมเนี่ย”
เท็ดดี้ได้แต่ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ ขณะนั้นเองที่เสียงตะโกนของใครบางคนก็ดังขึ้นมา “แกตายซะเถอะ”
ริวมองไปตามเสียง เขาเห็นลีโอกระโดดลอยตัวเหนือหัวของเงาดำ สักพักมังกรปีศาจ 3 ตาพุ่งตัวเข้าใส่เงาดำ(ในร่างของไลล่า) เขากางนิ้วเป็นรูปกงเล็บพร้อมหมุนตัวด้วยความเร็วสูง แต่ยังไม่ทันทีลีโอจะสัมผัสตัวของไลล่าตัวปลอม เงาดำได้เปลี่ยนรูปร่างเป็นตัวลีโออีกครั้ง มันยิ้มก่อนจะหายไปจากจุดที่ยืนอยู่
ควับ
การโจมตีของลีโอพลาดเป้าหมาย ไปอย่างน่าเสียดาย จังหวะนั้นเองที่เงาดำได้ปรากฏขึ้นเหนือหัวลีโอ มันพุ่งเข้าใส่ลีโอด้วยท่าเดียวกับที่ลีโอใช้เมื่อสักครู่
“โครม”
ลีโอถูกกระแทกไปชนกับต้นแอปเบิ้ลที่อยู่ไม่ไกลนัก เงาดำก็ไม่ได้ตามเข้าไปซ้ำแต่อย่างไร มันทำแค่จ้องมองลีโออยู่สักพัก เมื่อเห็นว่าลีโอสลบไปแล้ว มันก็กลับไปเป็นเงาแบบเดิม เทียน่าทำท่าจะเข้าไปสู้ด้วย แต่ริวกับร้องห้ามเธอเอาไว้ เทียน่าหันมาขมวดคิ้ว
“พี่มาห้ามหนูไว้ทำไม พี่ไม่เห็นหรือว่าพวกคุณลีโอกำลังแย่ ถ้าหนูไม่เข้าไปช่วยคุณลีโออาจจะตายก็ได้นะ”
ริวไม่ตอบ เขายังคงจ้องเงาดำที่ยังไม่ยอมเคลื่อนที่ไปไหน ไม่นานเขาก็พูดขึ้นว่า “เท็ดดี้ แกบอกว่าเงาดำสามารถเลียนแบบกระบวนท่า นิสัยและตัวตนของผู้ที่ต่อสู้ด้วยใช่ไหม”
“ใช่ “
“แถมมันยังมีสามารถใช้วิชาได้เก่งกว่าต้นฉบับที่มันเลียนแบบอีกใช่ไหม”
“ถูกต้องแล้วล่ะ”เท็ดดี้ตอบ ด้วยสีหน้าไม่เข้าใจว่าริวจะถามเรื่องพวกนี้ทำไม สักพักริวก็ถามขึ้นว่า “ในเมื่อมันเก่งแบบนั้น ทำไมมันถึงไม่ตามไปกระทืบคุณลีโอ หรือคุณไลล่าให้ตายไปเลยล่ะ มันมีเหตุผลอะไรที่ต้องหยุดมองอยู่ห่างๆด้วย”
“โธ่ พี่จะไปสงสัยเรื่องแบบนั้นทำไมกันค่ะ ไม่ว่ามันจะมีเหตุผลอะไรก็ตาม พวกเราก็ควรจะกำจัดมันเป็นอันดับแรกไม่ใช่หรือ?”
ริวไม่ตอบ เขามองเงาดำอย่างไม่วางตา สักพักเขาก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นได้ เท็ดดี้ที่ได้ยินความคิด มันทำหน้าเอ๋อไปเล็กน้อย มันรีบพูดออกมา
“มันอาจจะเป็นอย่างที่เจ้าคิดก็ได้ แต่ถึงไม่ใช่อย่างน้อยที่สุด ช่วงเวลานั่นอาจจะเป็นโอกาสกำจัดเจ้าเงานั่นก็เป็นได้นะ”
เท็ดดี้หยุดเล็กน้อย ก่อนกล่าวต่อ”เฮ้อ ข้านับถือแกจริงๆ ถ้าไม่ใช่แกคงคิดวิธีบ้าๆแบบนี้ไม่ได้แน่ๆ”
ริวทำท่าจะโวยวายออกมา แต่เทียน่าได้พูดแทรกขึ้นมาก่อนว่า “พี่ค่ะ ตกลงว่าพี่กับคุณเท็ดดี้กำลังพูดเรื่องอะไรกันหรือ?”
ริวไม่ตอบ เขาเอาแหวน ดาบไทอัสและกำไลส่งให้กับเทียน่า เธอรับของทั้ง 3 อย่างมาอย่างงๆ แต่ก่อนจะถามอะไร ริวก็ฝืนร่างกายเดินเข้าไปหาเงาดำแล้ว เทียน่าทำท่าจะตะโกนห้าม แต่เท็ดดี้กับพูดขึ้นมาว่า
“ยัยหนูปล่อยเจ้าริวไปเถอะ ถ้าเจ้าเข้าไปห้ามตอนนี้ เจ้าริวได้ตายแน่ๆ”
“คุณเท็ดดี้ค่ะ ตกลงว่าพี่ริวกำลังคิดจะทำอะไรกันแน่”
“วิธีของคนอ่อนแอที่ได้ผลที่สุดในเวลานี้ยังไงล่ะ”คำตอบของเท็ดดี้ทำเอาเทียน่าไปต่อไม่ถูกเลย
จังหวะนั้นเองที่ริวเดินไปหยุดอยู่หน้าเงาดำ ไม่นานมันเปลี่ยนรูปร่างเป็นริว ก่อนจะแหยะยิ้มขึ้นมาอีกครั้ง ริวเองก็ยิ้มเช่นกัน เพราะเขากำลังรอให้เป็นแบบนี้อยู่แล้ว ริวและเงาดำต่างจ้องมองกันอยู่พักใหญ่ โดยที่ไม่มีใครลงมือทำอะไรเลย
“ทำไมเป็นแบบนี้ได้ล่ะ”เทียน่าถามขึ้นมา
เท็ดดี้ยิ้มแหยๆ ก่อนจะพูดว่า “เงาดำกำลังเลียนแบบเจ้าริว การที่มันไม่โจมตีก็เพราะไอ้ริวไม่มีทักษะในการโจมตีแม้แต่น้อย แถมเรื่องพลังกายไอ้ริวในตอนนี้ก็ต่ำแทบติดดิน ดังนั้นเงาดำก็คงแทบจะไม่มีแรงเคลื่อนไหวตัวเช่นกันนะ”
เทียน่าที่ได้ฟัง เธอทำหน้าบอกบุญไม่รับพร้อมกล่าวว่า “สรุปว่าการที่เงาดำเลียนแบบพี่ริวทำให้ มันไม่สามารถทำอะไรได้ใช่ไหมคะ”
“ใช่แล้ว แต่นี้เป็นแค่ขั้นแรก เจ้าริวคิดวิธีที่จะเล่นงานเงาดำขึ้นมาได้ด้วย เดี๋ยวเจ้าคอยดูก็แล้วกัน รับรองเจ้าจะเปลี่ยนนิยามเรื่องการต่อสู้ไปตลอดกาลเลยล่ะ”
ระหว่างที่เท็ดดี้พูดจบ ริวก็หยิบเครื่องเกมขึ้นมาโชว์ให้กับเงาดำ เขาจัดการเปลี่ยนแผ่นเกมเป็นอีกแผ่น ก่อนจะหันเครื่องเกมให้กับเงาดำได้ดู ริวยิ้มพร้อมพูดขึ้นมาว่า
“นี้คือเกมจีบสาวใหม่ล่าสุด และ นี้คือ ริโกะ แฟนสาวของผมยังไงละ”
ภาพในเกมกำลังเป็นภาพของสาวน้อยผมยาว ดวงตาสีฟ้า ท่าทางน่ารัก สักพักฉากในเกมก็เปลี่ยนเป็นฉากวาบหวิว ต่อด้วยฉากอาบน้ำ และปิดท้ายด้วยฉากบอกรักอันสุดแสนโรแมนติก เงาดำรีบเอามือมาจับเกมแต่ริวกับดึงเกมออกมาก่อน จากนั้นเขาก็กดเครื่องเล็กน้อย ก่อนจะโชว์ฉากเด็ดที่มีแต่อายุ18+ จึงจะดูได้ให้เงาดำเห็น มันถึงกับทำท่าน้ำลายไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว เทียน่าที่เห็นปฏิกิริยาของเงาดำ เธอถึงกับทำหน้าบอกไม่ถูก
“นี้มันเรื่องบ้าอะไรกันคะ ทำไมเงาดำนั้นถึงแสดงท่าทางแบบนั่นออกมา”
“เงาดำหลบการโจมตีของเจ้าลีโอและยัยหนูไลล่าได้อย่างง่ายดาย เพราะมันได้เลียนแบบไปถึงนิสัยใจคอของผู้ที่ต่อสู้ด้วย ข้าอธิบายถึงตรงนี้เจ้าพอจะเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดแล้วใช่ไหม”
เทียน่าถึงกับทำสีหน้าบอกไม่ถูกว่าตกใจ หรือเศร้าใจกับสิ่งที่ได้ยิน ผิดกับเท็ดดี้ที่หันไปมองเงาดำด้วยความรู้สึกสงสารมันอย่างบอกไม่ถูก การที่มันเป็นแบบนี้เพราะดันไปเลียนแบบเจ้าริวนั่นเอง สายตาอันละห้อยของเงาดำจับจ้องไปที่เครื่องเกมเหมือนอยากจะเล่นบ้าง ริวหันไปยิ้มให้กับมันพร้อมพูดว่า
“นายอยากเล่นบ้างไหมล่ะ”
เงาดำในร่างของริวพยักหน้ารัวๆ ริวจึงพูดต่อว่า “ถ้าเช่นนั้นเอากล่องเหล็กมาแลกซิ”
เงาดำทำหน้าลังเลอยู่สักพัก ก่อนจะส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว ริวมองพร้อมคิดขึ้น (ช่างสมเป็นตัวเราจริงๆ ขนาดเรื่องแบบนี้ยังเหมือนกันเลย ดีละ ถ้าเป็นอย่างนี้ต้องใช้อาวุธลับหมายเลข 1 แล้วล่ะ)
ริวเอามือหยิบของบางอย่างออกมาจากในกระเป๋าคาด พร้อมชูให้เงาดำได้เห็น สิ่งที่เขาแสดงเป็นรูปถ่ายใบหนึ่ง เงาดำมองรูปภาพด้วยสายตาเป็นประกาย ก่อนจะยืนมือไปคว้าจับรูปภาพทันที ริวปล่อยให้เงาดำเอารูปไปดูโดยไม่ได้ห้ามอะไร พร้อมเข้าไปกระซิบมันว่า
“นี้เป็นรูปตัดต่อที่ใช้ดาราหญิงที่ผมชอบมาเป็นแบบ แม้หน้าจะเป็นของพวกเธอ แต่คอลงมาผมเอามาจาก Play Boy นะ นายชอบไหมละ”
เงาดำพยักหน้ารัวๆ ริวจึงยิ้มพร้อมพูดว่า “ถ้านายชอบผมจะยกให้ก็ได้นะ เพียงแต่ต้องแลกกับกล่องเหล็กนะ”
เงาดำทำหน้าเศร้า ก่อนจะส่งรูปคืนให้ริวทันที เขาจ้องมองมันเหมือนรู้ว่าจะเป็นแบบนั้น ริวแกล้งถอนหายใจก่อนจะหยิบลูกอมในกระเป๋าขึ้นมาอม เงาดำเอานิ้วชี้ขึ้นมาสะกิดริวเหมือนจะบอกว่าขอมันกินบ้าง ชายหนุ่มหยิบลูกอมส่งให้มันหนึ่งเม็ดเช่นกัน ภาพที่เงาดำกำลังกินลูกอมอย่างอร่อยนั้นทำเอาเทียน่า เท็ดดี้ต่างพูดไม่ออก ไม่เพียงแต่พวกเขาเท่านั้น ลีโอและล่าที่พื้นขึ้นมาก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ไลล่าส่ายหน้าด้วยความรู้สึกที่แย่มากๆ ผิดกับลีโอที่อ้าปากค้างกับภาพที่เห็นไปแล้ว สักพักแหวนเจ้าปัญหาก็พูดขึ้นว่า
“ข้าละเชื่อไอ้บ้านั้นจริงๆ มีอย่างที่ไหนไปนั่งพูดคุยกับเงาดำอย่างกับเป็นเพื่อนกันมานานปี คนอย่างพี่ของเจ้าคงหาไม่ได้อีกแล้วล่ะ”
สีหน้าบอกไม่ถูกปรากฏเด่นชัดบนในหน้าเทียน่า “คุณเท็ดดี้ค่ะ ทำไมเงาดำถึงได้ไม่คิดร้ายพี่ริวเลยล่ะ ทั้งที่พี่ริวก็ต้องการกล่องเหล็กเช่นกัน”
“นั่นเพราะว่าเจ้าริวไม่มีจิตมุ่งร้ายนะซิ”
“จิตมุ่งร้าย? คุณหมายความว่ายังไงหรือคะ”
เท็ดดี้จ้องมองเงาดำ ก่อนจะพูดว่า “ถ้าข้าเดาไม่ผิดเงาดำนั่นคงทำหน้าที่เฝ้ากล่องเหล็กใบเอาไว้ ขอเพียงมีคนคิดจะฆ่ามันเพื่อแย่งชิงกล่องเหล็กไป มันจะมองคนผู้นั้นเป็นศัตรูในทันที แต่เจ้าริวกับไม่ได้เป็นอย่างนั่น มันรู้ตัวเองดีว่าตัวเองอ่อนแอแค่ไหน ดังนั้นความรู้สึกอยากแย่งชิงกล่องเหล็กจากเงาดำด้วยกำลังจึงไม่มีเช่นกัน เงาดำตนนั้นเลยไม่คิดว่ามันเป็นศัตรูยังไงละ”
เทียน่าถอนหายใจ พร้อมพูดขึ้นว่า” ใช้ความอ่อนแอเข้าสู้ ใช้นิสัยเป็นอาวุธ สมกับเป็นพี่ริวจริงๆ”
จังหวะที่เทียน่าพูดจบ ริวก็หยิบของอาวุธลับชิ้นที่ 2 ออกมาจากกระเป๋าคาดเอว ครั้งนี้เป็นห่วงกลที่เอาไว้ใช้สำหรับเล่นกลเวลาไม่มีอะไรทำ ริวจงใจเล่นกลต่อหน้าตัวเอง(เงาดำ) ไม่นานเขาก็เอาห่วง 3 ห่วงออกจากกันได้ไม่ยากนัก เงาดำดูจะตกใจอย่างมาก ริวจึงจัดการเอาห่วงใส่เหมือนเดิม ก่อนจะหยิบห่วงอื่นๆขึ้นมาเล่น เงาดำจ้องมองการเล่นห่วงกลอยู่พักใหญ่ ก่อนจะสะกิดขอห่วงไปเล่นบ้าง ริวยิ้มพร้อมพูดว่า
“ได้ซิ แต่ผมขอยืมกล่องเหล็กดูหน่อยได้ไหมละ ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนกัน”
เงาดำทำท่าลังเลเล็กน้อย ริวจึงรีบเสนอต่อว่า “เอาน่าผมแค่ยืมดูตรงนี้เฉยๆ ไม่คิดจะเอาของนายไปหรอก ถ้าเอาไปจริง นายก็คงเล่นงานผมได้อยู่แล้วจริงไหมล่ะ”
เงาดำยังคงทำหน้าคิดหนัก ริวจึงยื่นภาพตัดต่อ ห่วงกลอีก 3 อัน และเครื่องเกมไปข้างหน้า พร้อมพูดว่า “ถ้าเช่นนั้น ผมให้ยืมหมดนี้เลย โดยแลกกับการขอยืมกล่องเหล็กดูตรงนี้นะ”
สีหน้าของริวตัวปลอมจับจ้องของทั้งหมดอย่างใจจดใจจ่อ สักพักมันก็พยักหน้าเป็นการตกลง การแลกเปลี่ยนกล่องเหล็กกับอุปกรณ์ต่างๆเป็นไปด้วยดี ริวจัดการสำรวจกล่องเหล็ก ไม่นานเขาก็หาทางเปิดมันออก ภายในนั้นมีสมุดอยู่ 1 เล่ม และลูกแก้วอีก 3 ลูก เขาเอาสมุดและลุกแก้วออกมาจากกล่อง จากนั้นหันไปมองเงาดำที่กำลังเล่นห่วงกลอย่างเคร่งเครียดว่า
“หน้าที่ของนายคือปกป้องกล่องเหล็กใช่ไหม”
เงาดำพยักหน้าโดยสายตายังคงจับจ้องที่ห่วงกล ริวจึงชี้ไปที่สมุดและลูกแก้วที่อยู่ภายในพร้อมพูดว่า
“ถ้าเช่นนั้นไอ้สมุด และลูกแก้วที่อยู่ภายในกล่อง นายเอามาแลกกับของพวกนั่นไหมละ ถ้ายังไม่พอ ผมจะแถมลูกอมให้อีก 3 เม็ดด้วย”
ริวตัวปลอมพยักหน้าทันที ชายหนุ่มจัดการส่งกล่องเหล็กคืนแก่มัน เงาดำก็จัดการเอาห่วงกล ภาพตัดต่อและเครื่องเกมมาไว้ในอ้อมกอดเหมือนไม่ต้องการเสียของพวกนี้ไป ริวทำได้แต่ส่ายหน้าพร้อมคิดขึ้นว่า
(เฮ้อ ตกลงว่าไอ้เงานี้ มันเถรตรงต่อหน้าที่ หรือว่า มันโง่เกินทนกันแน่นะไม่ซิ อย่างมันต้องบอกว่าฉลาดแกมโกงต่างหาก สมแล้วที่เป็นตัวเลียนแบบของผม )
แม้ริวจะคิดแบบนั้น เขาก็เอาสมุดและลูกแก้วเดินกลับมาหาเทียน่า ตอนนี้ไลล่าและลีโอได้กลับมารวมกลุ่มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ริวชูสมุดขึ้นเหมือนกับจะบอกว่าเขาเองก็ได้สิ่งที่อยู่ในกล่องมาแล้ว พวกเทียน่าต่างเข้ามารุมเพื่อถามถึงเรื่องราว หลังจากเล่าเรื่องจบสีหน้าทุกคนต่างหันไปมองเงาดำในร่างริวที่กำลังเล่นห่วงกลอย่างไม่เชื่อสายตา
“เฮ้อ ดูเหมือนว่านางคงออกคำสั่งให้เงาดำรักษากล่องเหล็กด้วยชีวิต ถ้าคิดใช้กำลังแย่งก็คงเจ็บตัวเหมือนพวกลีโอ แต่นางคงคิดไม่ถึงว่าจะมีคนมาตีสนิทเงาดำเพื่อขอแลกของในกล่องเหล็กแบบนี้ ช่างเป็นวิธีที่คาดไม่ถึงจริงๆ”เท็ดดี้พูดด้วยสีหน้าทึ่งในสิ่งที่ริวทำ เทียน่าส่งของทั้ง 3 อย่างคืนให้กับริว ในขณะที่ริวส่งสมุดให้กับเธอแล้วพูดว่า
“เทียน่าพอดูออกไหมว่าสมุดเล่มนี้เขียนอะไรเอาไว้นะ”
เทียน่ารับสมุดมาเปิดดู 2-3 หน้า ก่อนจะส่งให้ลีโอ แต่ลีโอดูได้ไม่นานเขาจำเป็นต้องพูดออกมาว่า “ฉันว่าให้ไลล่าเป็นคนอ่านน่าจะดีกว่านะ เธอค่อนข้างเก่งเรื่องพวกนี้นะ”
ไลล่ารับสมุดมาจากลีโอ เธอจัดการเปิดอ่านทันที พออ่านไปได้สักพักไลล่าถึงกับอึ้งไปกับสิ่งที่เขียนในสมุด ริวทำท่าจะทักเธอที่เป็นแบบนั้น แต่เท็ดดี้กับพูดขึ้นมาว่า
“อย่าเพิ่งไปรบกวนเธอ ท่าทางสมุดเล่มนั้นอาจจะเป็นกุญแจที่พวกเราตามหาอยู่ก็เป็นได้ ระหว่างนี้แกกับคนอื่นก็เข้าไปหาเบาะแสอื่นต่อไปก็แล้วกัน ”
ทุกคนต่างพยักหน้าเห็นด้วย สักพักพวกริวจึงแต่แยกย้ายกันมองไปรอบๆเพื่อหาเบาะแสอย่าง แต่ก็ไม่ได้พบอะไรเพิ่มเติมเลย ขณะที่เขากำลังมองหาอยู่นั้น ริวก็ก้มลงไปเก็บกระดาษที่กระจายอยู่ ซึ่งในกระดาษเหล่านั้นต่างเขียนไปด้วยรูปภาพบางอย่างที่ดูไม่เรื่องเลย ริวจึงคิดขึ้นว่า
(ทำไมรูปในกระดาษพวกนี้ถึงดูคุ้นตาจัง สงสัยต้องเอากลับไปให้คุณแม่ตีความหน่อยแล้วละ เพื่อจะได้เรื่องอะไรขึ้นมาบ้าง )
ริวที่คิดถึงตรงนี้ เขาก็จัดการพับกระดาษใส่กระเป๋าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไลล่าก็เงยหน้าขึ้นมาจากสมุดลงจะพูดว่า
”สมุดเล่มนี้คือบันทึกการทดลอง คำสาปที่ใช้สาปพวกทายาทของพวกเรานะ”
“จริงหรือครับ? ไม่รู้ว่า มันมีวิธีถอนคำสาปบ้างไหม“ริวรีบถามออกมาทันที
ไลล่าพยักหน้าก่อนจะพูดว่า”มีแน่นอน ในนี้เขียนถึงวงเวทที่จะใช้แก้คำสาปเอาไว้อย่างละเอียดเลย ”
“สุดยอดเลย ถ้าเช่นนั้นพวกเรารีบลงมือทำกับเถอะ ไอ้เรื่องบ้าๆนี้จะได้จบลงซะที”
ไลล่ามองริวด้วยสายตาที่บอกไม่ถูก ก่อนจะพูดออกมาว่า”มันไม่ง่ายอย่างนั้นนะซิ การจะเขียนวงเวทนี้ได้จำเป็นต้องใช้ เลือดของเด็กที่มีสายเลือดแห่งราชัน โดยมีเงื่อนไขว่าเด็กคนดังกล่าวต้องเกิดมาโดยไร้พลังเวทจึงจะสามารถชำระล้าง คำสาปได้นะ “
ริวถึงกับเงียบลงทันที สักพักเขาก็พูดขึ้นว่า”สรุปว่าการจะลบคำสาปนี้ได้จำเป็นต้องใช้เลือดของผมในการเขียนวงเวทซินะ”
“ใช่จ๊ะ ถ้าจะพูดให้ถูก คนที่จะใช้วงเวทนี้เพื่อชำระล้างคำสาปได้ก็มีแต่เธอเท่านั้น เพราะเงื่อนไขที่ 2 คือ ต้องใช้วงเวทนี้ร่วมกับดาบไทอัส และลูกแก้วทั้ง 3 ลูกที่อยู่ในกล่องเหล็กด้วย ”
ริวได้แต่ยิ้มแหยๆ เพราะดูเหมือนเงื่อนไขทั้งหมดจะตรงกับเขาทุกประการเลย จากนั้นไม่นานเสียงของไลล่าก็ดังขึ้นต่อว่า
“นี้ยังไม่หมดนะ การจะใช้วงเวทเพื่อชำระล้างคำสาปจำเป็นต้องทำพิธีกรรมในสถานที่แห่งเดียวกับ ตอนที่ร่ายคำสาป แต่ไม่ต้องห่วงนะ ในสมุดเล่มนี้เขียนสถานที่ร่ายคำสาปเอาไว้แล้ว ขอเพียงไปที่นั้นก็พอ”
“เฮ้อ ถือว่ายังมีโชคดีอยู่บ้าง ตกลงว่าในนั้นมีเงื่อนไขเพียงแค่นี้ใช่ไหมครับ “ริวถามออกมาทันที
ไลล่าได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ ก่อนจะพูดว่า “ยังจ๊ะ ยังเหลืออีก 1 ข้อ คนที่เขียนสมุดบอกไว้ว่าการจะใช้วงเวทนี้ได้จำเป็นจะต้องใช้ในเวลาที่ดาวเรียงตัวกัน 7 ดวง“
“แล้วตกลงว่าไอ้วันที่ดาว เรียงตัวกัน 7 ดวง มันเป็นวันอะไร เดือนอะไร และปีอะไรล่ะครับ อย่างน้อยๆ ผมจะได้เตรียมใจที่จะใช้วงเวทบทนี้บ้าง”ใช่ อย่างน้อยๆผมจะได้มีเวลาขุนตัวเองให้อ้วนไว้บ้าง ใครจะรู้ว่าผมต้องเสียเลือดขนาดไหน ถ้าผมเป็นโรคโลหิตจางเพราะเรื่องแบบนี้ ผมก็ไม่รู้ว่าจะหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว ริวคิดต่อในใจ
ไลล่าตวัดมือเพื่อสร้างนาฬิกาบางอย่างขึ้นมา”ขอเวลาสักพักนะ เดี๋ยวฉันจะคำนวณเวลาให้ละกัน แล้วไม่ทราบว่า วันนี้เป็นวันอะไร เดือนอะไร และปีอะไรละ”
“วันนี้เป็นวันที่ 30 เดือนกรกฎาคม ปี 2556 ครับ”
“ถ้าเป็นเวลาของริเดียก็คือ วันที่ 30 เดือน มังกรฟ้า ร.ศ. 7896 ค่ะ”เทียน่ารีบพูดเสริมขึ้นมา ไลล่าหันมายิ้มให้กับเทียน่าเป็นการขอบคุณ
ริวจึงได้แต่พูดเบาๆว่า”โธ่ ถ้าจะเอาเวลาของริเดียก็บอกก่อนซิครับ ”
“เอาน่าไอ้ริว แกอย่าเพิ่งมางอนตอนนี้จะได้ไหม เวลาที่ยัยหนูไลล่าต้องการจะใช้ในการคำนวณต้องเป็นเวลาของริเดียเท่านั้นนะ”เสียงเท็ดดี้ดังขึ้นมา
ระหว่างที่ไลล่ากำลังคำนวณเพื่อตรวจสอบเวลาที่แน่นอนอยู่นั้น ริวจึงหันไปมองลีโอก่อนจะพูดออกมาว่า
“ถ้าเรื่องนี้จบลง คุณลีโอจะเอาอย่างไงต่อละครับ”
ลีโอมองริว “ฉันยังไม่รู้นะ แม้น้องชายจะบอกว่าเรื่องราวมันผ่านมากว่า 300 ปีแล้ว แต่สำหรับฉัน มันเพิ่งผ่านมาไม่ถึง 1 วันเอง“
“นั้นซิครับ ถ้าผมเจอแบบคุณก็คงทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน เอาเป็นว่า ถ้าพวกคุณยังไม่มีเป้าหมาย หรือไม่คิดจะทำอะไรในตอนนี้ พวกคุณก็ไปพักอยู่ที่บ้านผมก่อนก็ละกัน รับรองพวกคุณจะต้องถูกใจโลกมนุษย์แน่ๆ” ริวเอ่ยปากชวนอย่างเต็มใจ
ลีโอยิ้ม ก่อนจะพูดว่า”ฉันขอเก็บไปคิดดูละกัน ขอบใจที่เป็นห่วงนะ น้องชาย”
พอลีโอพูดจบ มันก็เป็นเวลาเดียวกับที่ไลล่าคลายเวทลง สีหน้าของเธอในเวลานี้ดูเครียดจน คนเห็นยังต้องตกใจเลย ริวจึงได้แต่ถามออกมาว่า
”ตกลงได้วันที่ดาวเรียงตัวกันแล้วใช่ไหมครับ”
“ใช่จ๊ะ “
“ไม่ทราบเป็นวันไหนละครับ ผมจะได้เริ่มเตรียมตัวเลย”
ไลล่าจับจ้องไปที่ริว ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงตึงเครียดว่า “วันนี้ เวลา 18.00 น. ดาวทั้ง 7ดวงจะเรียงตัวกันเป็นเส้นตรง และถ้าพลาดโอกาสนี้ไปแล้ว ต้องรออีก 10 ปีถึงจะใช้วงเวทนี้ได้อีกครั้งนะ”
“หา!”เสียงร้องของลีโอ เท็ดดี้ เทียน่าและริวดังขึ้นมาพร้อมกัน
“เดี๋ยวซิค่ะ ถ้าเช่นนั้นพวกเราก็ไม่เหลือไม่ถึงชม. แล้ว อย่างนี้พวกเราจะไปสถานที่ร่ายคำสาปทันเวลาหรือคะ?”เสียงของเทียน่าถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง ผิดกับริวที่หันมาค้อนเทียน่าพร้อมคิดขึ้นมาว่า
(ยัยน้องตัวแสบ เธอห่วงแต่เรื่องแบบนั้นเนี่ยนะ หัดห่วงคนที่ต้องเสียเลือดอย่างพี่ของเธอบ้างซิโว้ย)
เสียงอันเคร่งเครียดของไลล่าดังขึ้นมา “จากตำแหน่งที่เขียนในสมุดเล่มนี้ สถานที่ประกอบพิธีอยู่ห่างจากหุบผามังกรไปไม่ไกลนัก ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับเธอแล้วละว่าจะเอาอย่างไงต่อดี”
ไลล่าพูดจบก็หันไปมองริว เธอชูนิ้วขึ้นมา 5 นิ้ว “5 นาที เธอมีเวลาตัดสินใจแค่นั้นว่าจะทำหรือไม่ทำ”
“เฮ้อ ทำเหมือนกับผมมีทางอื่นให้เลือกอย่างนั้นล่ะ งานนี้ตายเป็นตาย”ริวพูดออกมาด้วย พร้อมเกาศีรษะเหมือนจะบอกว่าเรื่องนี้ไม่ว่ายังไงผมก็ต้องทำอยู่ดี
ไลล่าส่งยิ้มอันอ่อนโยนให้กับ ท่าทางของริว จากนั้นเธอหันไปมองลีโอ “ ลีโอ ฉันคงต้องขอให้คุณแปลงร่างเป็นมังกรแล้ว ตำแหน่งที่จะไปค่อนข้างจะห่างจากที่นี้พอสมควร ถ้าใช้วงเวทเคลื่อนย้าย ฉันกลัวจะเกิดข้อผิดพลาดเหมือนในครั้งแรกนะ ยิ่งสถานที่แห่งนั้นไม่รู้ว่าเปลี่ยนไปขนาดไหนแล้วด้วย ตอนนี้ฉันคงหวังเพิ่งคุณแล้วละ ไม่ทราบว่าคุณพอจะฝืนเปลี่ยนร่างได้ไหมคะ ”
ไลล่าพูดจบก็ยื่นสมุดที่เขียนตำแหน่งให้กับลีโอได้ดู ซึ่งเขามองตำแหน่งเหล่านั้น “ได้ซิ งานนี้ผมขอทุ่มสุดตัวเหมือนกัน ใครมันจะไปปล่อยให้น้องชายรับภาระแต่เพียงผู้เดียวล่ะ ผมขอออกไปเปลี่ยนร่างข้างนอกละกัน ”
ลีโอรีบเดินออกไปทันที ขณะที่ลีโอกำลังจะเดินออกไป ริวจึงตะโกนขึ้นว่า“เดี๋ยวก่อนครับ ถ้าคุณลีโอกลายเป็นมังกรปีศาจ 3 ตาขึ้นมา แล้วเกิดมีคนพบเข้าพวกเราจะไม่แย่กันหรือ? “
ไลล่าได้แต่หันมาตอบริวว่า “สำหรับเรื่องนี้พวกเราคงต้องเสี่ยงดวงกันแล้วละ ถ้าไม่ใช่วิธีนี้พวกเราคงไปไม่ทันเวลาแน่ๆ”
“ซวยจริงๆ อุตส่าห์ทำเรื่องมาตั้งมากมาย ผลสุดท้ายต้องมาวัดดวงกับเรื่องแบบนี้เนี่ยนะ”ริวพูดออกมาอย่างช่วยไม่ได้
ไลล่ากับเทียน่าได้ฝืนยิ้มให้กับคำพูดนี้ สักพักไลล่าก็ส่งสมุดหน้าที่มีสัญลักษณ์ไปให้เท็ดดี้ดู ก่อนจะพูดว่า
“คุณเท็ดดี้ค่ะ ฉันรบกวนคุณจำวงเวทอันนี้ที ถ้าไปถึงสถานที่ร่ายคำสาปแล้ว คุณอาจจะต้องใช้เลือดของริวในการวาดวงเวทแทนเขา ขืน มานั่งวาดด้วยมืออาจจะไม่ทันเวลานะค่ะ”
“ข้าเข้าใจแล้วล่ะ ขอเวลาสัก 1 นาทีก็แล้วกัน”เท็ดดี้พูดออกมาทันที
ไลล่าเปิดสมุดค้างเอาไว้อีกสักพักจนเท็ดดี้บอกว่าจำได้แล้ว เธอจึงปิดสมุดลง จากนั้นทั้งเธอ ริวและเทียน่าก็เดินออกจากบ้าน สิ่งที่พวกเขาเห็นในเวลานี้ คือ มังกรในรูปแบบมังกรยุโรปขนาดใหญ่ที่สูงราวๆตึก 5 ชั้น มีปีก 6 ปีก มีเกล็ดเป็นสีน้ำเงินเข้มไปทั้งตัว ปลายหางมีหนาม และที่ใบหน้ามีตาที่ 3 เป็นสีแดงเข้ม ริวที่เห็นลีโอในร่างนี้เขาถึงกับพูดออกมาว่า
“โอ้ นี้มันเท่สุดๆไปเลย ผมกำลังจะได้นั่งบนหลังมังกรจริงๆใช่ไหมเนี่ย”
“แล้วน้องชายคิดว่าไง ล่ะ”เสียงของลีโอพูดขึ้นมา ก่อนจะแบมือขวาเพื่อให้ริวขึ้นไปยืนบนนั้นได้ ริวไม่สนอะไรอีก เขารีบตรงขึ้นไปบนมือ จากนั้นไม่นานลีโอก็เอาริวมาวางบนด้านหลัง พอริวนั่งลงแล้วเทียน่าและไลล่าก็ลอยตัวขึ้นตามมา ลีโอที่เห็นทุกคนขึ้นมาแล้ว เขาก็บินทะยานขึ้นท้องฟ้า เท็ดดี้รีบสร้างกำแพงเวทเพื่อป้องกันกระแสลมให้กับพวกริวที่นั่งอยู่ข้างหลัง ส่วนไลล่าก็เปิดสมุดเล่มนั้นออกดูอีกครั้ง พร้อมพูดว่า
“ตำแหน่งที่เขียนไว้ในหนังสือ ถ้าเป็นการบินตรงไปเลยอาจจะใช้เวลาประมาณ 2- 3 นาที แต่นั่นจะทำให้พวกเราเจอกับเวทป้องกันที่ร่ายปกคลุมหุบผามังกรแห่งนี้นะ ดีไม่ดีอาจจะเจอกับพวกทหารยามด้วย ฉันเลยขอให้ลีโอบินอ้อมไปในจุดอื่นก่อน จากนั้นค่อยวกกลับไปที่เป้าหมายของพวกเรา คาดว่าน่าจะใช้เวลาประมาณประมาณ 15 นาทีจึงจะถึงที่หมายนะ”
เสียงของไลล่าไม่ได้เข้าไปในหัวริวแม้แต่น้อย เขาเอาแต่มองไปลีโอในร่างมังกรด้วยความสนใจ บางครั้งถึงกับเอามีดพับแซะเกล็ดมังกรออกมา เทียน่าได้แต่พูดออกมาว่า
“เสียเวลาเปล่าค่ะ พี่ริวคงจะไม่สนใจอะไรอีกแล้ว ดูจากสีหน้าในเวลานี้ พี่เขาคงถูกใจการขี่มังกรสุดๆเลยล่ะ”
ไลล่าฝืนยิ้ม “ขนาดอยู่ในสภาวะตึงเครียดขนาดนี้ยังมีอารมณ์สนุกได้อีกหรือ? ตกลงว่าพี่ชายของเธอเป็นคนอย่างไงกันแน่นะ”
เทียน่าได้แต่ส่ายหน้าเป็น เชิงว่าเธอก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน สักพักเทียน่าก็ถามขึ้นมาว่า”คุณไลล่าทราบเรื่องวงเวทป้องกัน กับทหารยามที่เฝ้าหุบเผาแห่งนี้ได้ยังไง? เท่าที่หนูทราบเรื่องพวกนี้น่าจะเกิดขึ้นหลังจากที่พวกคุณถูกห่าไปแล้วนี้ ค่ะ “
“ท่านหญิงมังกรฟ้าเคยพูดให้ ฟังนะ เธอบอกว่าบอกถึงจุดที่เฝ้ายาม ทางเข้า-ออกหุบผา และวิธีหลบวงเวทป้องกันเอาไว้หมดทุกระเบียบนิ้วเลย แถมเธอยังบอกว่าฉันอาจจะต้องใช้มันในสักวันหนึ่งนะ“
“อ้า นี้ท่านหญิงมังกรฟ้ามองออกถึงขนาดนั้นเลยหรือ? “
”ใช่จ๊ะ ช่างเป็นคนที่ยอดเยี่ยมจริงๆ“
เทียน่าได้แต่อึงจนพูดอะไรไม่ ออก ขณะนั้นเองริวก็หันไปเห็นเมืองที่อยู่ไม่ไกลนัก ริวรีบตะโกนว่า“ผมว่าพวกเราอ้อมไปหน่อยดีไหม ขืน บินผ่าเข้าไปกลางเมืองหลวงแห่งแสงสว่างอย่างนี้ คนไม่ตกใจก็แปลกแล้วล่ะ”
“น้องชาย ฉันทำแบบนั้นไม่ได้หรอกนะ จุดที่ไลล่าล่าบอกให้ไปดูเหมือนจะอยู่ใจกลางเมืองเลย”เสียงของลีโอดังขึ้นมา
เสียงของเทียน่าดังแทรกขึ้นมาว่า“ไม่จริงน่า! ขืนบินตรงไปทั้งอย่างนี้มีหวังเกิดเรื่องใหญ่แน่ๆ ไม่มีทางอื่นที่ดีกว่านี้หรือยังไงคะ“
ไลล่าส่ายหน้า ก่อนจะพูดออกมาว่า”ดูจากแสงของพระอาทิตย์แล้ว เวลาของพวกเราคงเหลือไม่ถึง 30 นาที ถ้าเกิดต้องลงจอดในที่ลับตาผู้คน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเดินเท้าเข้าไปในเมือง ฉันกลัวว่ามันจะไม่ทันเวลานะสิ ทางเดียวที่จะไปทันเวลาได้คือ บินผ่าเข้าไปในเมืองตรงๆเลย”
ริวที่ฟังได้ถึงตรงนี้ เขาเริ่มจะคิดถึงเรื่องราวบางอย่างขึ้นมาได้ เขารีบถามออกมา”แล้วไม่ทราบว่าพวกเราต้องไปตรงจุดไหนของเมืองละครับ”
ไลล่าชี้ไปยังจุดหมาย ริวและเทียน่าได้แต่มองตามไป ซึ่งพอเห็นปลายทางของนิ้วที่ชี้เท่านั้น ริวก็พูดออกมาว่า
“สถานที่แห่งนั้น นี่มันไม่จริงใช่ไหม ทำไมถึงต้องมาโชคร้ายตอนจบทุกทีเลยเนี่ย”
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ยังไงนายก็ต้องสอบผ่านละนะริวนายหนีโรงเรียนนี้ไม่พ้นหรอก
แต่ ไม่แน่นะ เครื่องเล่นเกมส์ อาจจะพามันมาหา ริวอีกก็ได้ เมื่อ ถ่าน หมด....(เครื่องเกมส์ใช้พลังงานรึป่าวหว่า)
จุดมุ่งหมาย ผมคิดว่า ......... โรงเรียน แน่ๆ เพราะ จอมวางแผน ต้องรู้ เลยต้องจัดการไว้ก่อนแล้ว 555+
1. ลีโอจ้องมองไลล่า"ถ้าสิ่งที่คุณเอ็ดดี้พูดมาเป็นความจริง ..... "จะมีความ 'ลับ' " อะไรซ่อนอยู่ก็เป็นได้"
2. "ท่าทางเทพแห่งสงครามจะอยู่ที่นี่จริงๆนะ แล้วพวกเรา....เตรียม 'สุ้ม' โจมตีเลยดีไหม"
3. "ในเมื่อสัตว์เทพมายา ลูน่าจากที่ 'นี่' ไปเกือบ 1 เดือนแล้ว..."
4. "พี่ไม่ทราบ เอาเป็นว่าพวกเราสำรวจที่ 'นี่' กันก่อนเถอะ"
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 21 มกราคม 2557 / 11:05