ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ผมนี้ละ ผู้นำองค์กรชั่วที่ร้ายกาจที่สุด

    ลำดับตอนที่ #9 : ข้อบังคับแห่งองค์กรชั่ว ข้อที่ 8

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.05K
      4
      11 พ.ย. 56

     

    เวลา 18.59 น.

                “ติ๊ด..ติ๊ด...ตี๊ด”เสียงเดินของนาฬิกาข้อมือเดินต่อไปอย่างช้าๆ โดยที่มันไม่รู้เลยว่าเจ้าของมันจ้องมองมันอย่างเอาเป็นเอาตาย และพอมันเปลี่ยนไปที่ 19.00 น. เจ้าของมันรีบเปลี่ยนเป้าหมายจากนาฬิกาไปเป็นประตูที่อยู่ด้านหน้าแทน แต่ทุกอย่างก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เจ้าของนาฬิกาจ้องมองประตูอยู่พักใหญ่ ก่อนจะหันกลับมามองที่ชายอีกคนที่อยู่ใกล้ๆ ชายคนนั้นได้แต่หงายมือไปข้างๆเป็นการบอกว่า เขาเองก้ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมเป็นแบบนี้  

                ชายที่มองนาฬิกาได้แต่ถอนหายใจออกมาแล้วพูดว่า”ลูกพี่ครับ ในเมื่อเป็นแบบนี้ พวกเราควรจะทำอย่างไงต่อดีละ”

                “รอ นั้นคือสิ่งสุดท้ายที่เราจะทำได้นะ”เสียงของชายที่ถูกเรียกว่าลูกพี่ดังขึ้น แน่นอนว่าสีหน้าของเจ้าของนาฬิกาได้แต่ยิ้มแหยๆออกมา ขณะที่เป็นแบบนั้นประตูที่ปิดอยู่ก็ได้เปิดออกมาอย่างช้าๆโดยไม่มีเสียงอะไรเตือนแม้แต่น้อย  ผู้ที่มองประตูอยู่ต่างไม่สนอะไรอีก พวกเขารีบวิ่งเข้าไปในประตูทีละคน ไม่นานลูกพี่ หรือ โชก็เดินตามเข้าไปโดยมีเรียว เทียน่าและยูกิเดินตามมาติดๆ พอพวกเขาผ่านประตูไปแล้ว ประตูก็ปิดลงพร้อมแสงไฟได้สว่างขึ้นมาแทน

                โชมองแสงไฟพวกนั้น ก่อนจะจ้องมองไปข้างหน้าซึ่งสิ่งที่เขาเป็นเป็นทางเดินที่กว้าง 1 เมตร และมีเส้นทางที่ยาวไปจนสุดลูกตา เรียวมองทางเดิน ก่อนจะหันมามองนาฬิกาที่ตอนนี้ บอกเวลา 19.05 น. จากนั้นเขาก็พูดว่า

                “เออ แบบนี้เล่นเอาใจหายเลยนะครับ ผมนึกว่าพีเดาผิดซะแล้ว ”

                “ตุบ”

                “โอ้ย”เสียงของเรียวร้องดังขึ้น เพราะเขาเพิ่งถูกเทียน่าทุบหัวอย่างแรง ไม่นานเสียงของเทียน่าก็ดังตามขึ้นมาติดว่า

                “นี่นาย แทนที่นายจะโทษพี่ไซมอน นายควรโทษนาฬิกาและตัวเองก่อนจะดีไหม นายไม่รู้หรือยังไงว่านาฬิกาข้อมือของนายมันเดินเร็วไป 5 นาทีนะ”

                “เอ๋ ไม่จริงน่า!!”เรียวร้องออกมาด้วยท่าทางงงๆ แต่เมื่อเห็นเทียน่าเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมาให้ดู เขาถึงกับต้องหันไปก้มหัวขอโทษทันที โชได้แต่ยิ้มก่อนจะเดินต่อโดยไม่พูดอะไร ยูกิได้แต่เดินตามโชไปติดๆ จากนั้นก็เป็นเทียน่าและเรียวที่กำลังตามง้อเธออย่างสุดชีวิต

                พวกโชเดินไปตามทางยาวที่ดูจะไร้ที่สิ้นสุด เวลาผ่านไปอีก 10 นาที เส้นทางนั้นก็ยังดูยาวสุดลุกตาเหมือนเดิม ไม่นานเสียงร้องของเรียวก็ดังขึ้นมาว่า

                “โธ่โว้ย ไอ้ทางเดินบ้านี้มันจะยาวไปถึงไหนกัน ”

                โชมองเรียวด้วยท่าทางเซ็งๆ ไม่นานเขาก็เลิกสนใจเรียว ก่อนจะหันไปข้างหน้าตามเดิม ตอนนี้ระยะห่างระหว่างผู้เล่นที่เข้าประตูมาก่อนหน้าเขานั้น ห่างกันประมาณ 50-100 เมตรได้ โชเริ่มคิดจะเร่งฝีเท้าตามให้ทัน แต่ขณะที่เป็นแบบนั้นเสียงของเรียวก็ดังขึ้นมาอีกว่า

                “ไม่ไหวแล้ว! นี่พวกเรากำลังเดินอีกนานแค่ไหนกันนะ อ๊ะ หรือว่าไอ้ทางเดินบ้าๆนี้คือสนามสอบรอบที่ 4 นะ”

                (รำคาญโว้ย ใครก็ได้ทำให้ไอ้บ้านี้หุบปากซักทีจะได้ไหม ไม่เช่นนั้นผมได้หมดความอดทนกับมันแน่)โชคิดขึ้นมาพร้อมกับหันไปมองเรียวอีกครั้ง และขณะที่มองนั้นเอง หมัดของใครบางคนก็จัดการทุบหัวไอ้เรียวอีกครั้ง

                “ตุบ”

                เรียวไม่ทันที่จะส่งเสียงร้องออกมา มันก็ลงไปนอนนับดาวกับพื้นเป็นที่เรียบร้อย จากนั้นเจ้าของหมัดก็จัดการเอาเท้าขวากระทืบซ้ำเข้าไปที่ระหว่างขาอีก 1 ครั้ง เรียวที่นอนนับดาวอยู่ถึงกับหน้าเขียวคลำเพราะการกระทำครั้งนี้ โชกำหมัดแน่นด้วยความสะใจที่เห็นเรียวถูกกระทืบ  สักพักเจ้าของหมัดและเท้าก็พูดขึ้นมาว่า

                “ไอ้บ้าเรียว แกเป็นเด็ก 3 ขวบหรือยังไงถึงได้โววายออกมาอย่างนี้  แกรู้ไหมว่าคนอื่นเขารำคาญแค่ไหน แกหัดหุบปากและเดินไปอย่างเงียบๆบ้างจะได้ไหม”

                เรียวที่จุกจนหน้าเขียว เขาหันมามองโชเพื่อให้ช่วยเหลือ โชได้แต่ส่ายหน้า ก่อนจะพูดว่า”เทียน่า พอได้แล้วละ สิ่งที่พวกเราต้องทำตอนนี้คือเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นอีกเพราะถ้าพวกเรายังเดินด้วยความเร็วขนาดนี้  ไม่รู้เมื่อไรจะถึงทางออกนะ”

                “อืม สำหรับเรื่องหนูเห็นด้วย แต่ไอ้เรื่องการที่เรียวพูดใช่ว่าจะไม่มีเหตุผลนะ การเดินต่อไปโดยไม่ทราบจุดหมายแบบนี้มันปั่นทอนกำลังใจพอสมควรเลย”

                “ใช่ค่ะ ดีนะที่พวกเราได้พักผ่อนมาบ้าง ขืนไม่ได้พักแบบกลุ่มอื่น ฉันคงถอนใจเหมือนกับเรียวไปแล้ว”เสียงของยูกิดังขึ้นมา

                เทียน่าพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะพูดออกมาว่า”เออ อย่างน้อยที่สุด ถ้าพวกเราทราบว่ากำลังจะไปที่ไหน มันคงจะช่วยเรื่องความกดดันในเรื่องการเดินอย่างไร้จุดหมายไปได้นะ”

                เทียน่าพูดจบ เธอก็จ้องมองมาที่โชเหมือนต้องการบอกว่าให้เขาช่วยแก้ปัญหาให้หน่อยซิ โชเองก็ได้แต่ถอนหายใจเพราะดูเหมือนเทียน่าหวังจะเพิ่งเขาแต่อย่างเดียวเลย โชหันมาหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋าสะพาย เทียน่าที่เห็นก็พูดออกมาว่า

                “พี่คะ นี้พี่ยังเก็บกล่องดินสออันนี้เอาไว้อีกหรือ?”

                ใช่แล้ว สิ่งที่โชนำออกมาจากกกระเป๋าสะพายก็คือกล่องดินสอสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีรูปเจ้าหญิง แม้มันจะดูเก่าไปบ้างแต่สภาพโดยรวมก็ยังถือว่ายังสมบูรณ์เหมือนเดิม ยูกิมองกล่องดินสอนั้น ก่อนจะพูดออกมาว่า

                “คุณไซมอนค่ะ คุณเอากล่องดินสอออกมาทำไมหรือ? อย่าบอกฉันนะว่า กล่องดินสอนี้จะช่วยพวกเราจากสถานการณ์แบบนี้ได้นะ”

                โชพยักหน้า ก่อนจะพูดว่า”ใช่ครับ”

                คำตอบของโชทำเอายูกิ เรียวและเทียน่าอึงไปเลย จังหวะนั้นเองที่โชชี้ไปยังเข็มทิศเด็กเล่นที่ติดตั้งอยู่บนกล่องดินสอ ก่อนจะพูดว่า

                “ทุกคนเห็นเข็มทิศอันนี้ใช่ไหม แม้มันจะเป็นเข็มทิศที่เป็นแค่ของเด็กเล่น แต่มันก็บ่งบอกว่าทิศไหนเป็นทิศเหนือได้เหมือนกันนะ”

                “เออ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับสถานการณ์ของพวกเราในตอนนี้ละครับ”เรียวที่เริ่มหายจุก เขาลุกขึ้นมายืนมองเข็มทิศเด็กเล่นอย่างงงๆ โชจึงพูดต่อว่า

                “จากเข็มทิศอันนี้ มันบอกกับเราว่าพวกเรากำลังเดินไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนืออยู่ยังไงละ “

                ทุกคนที่ได้ยินก็ยังทำหน้างงๆ แต่โชกับยิ้มแล้วพูดต่อว่า”ผมว่าทุกคนคงจำได้ใช่ไหมว่าทิศตะวันออกเฉียงเหนือของU-heroมีอะไรอยู่ “

                “จริงด้วย ถ้าทิศนี้เป็นอย่างที่คุณไซมอนพูดมา นั้นหมายความว่าพวกเรากำลังไปที่ ป่าแห่งการฝึกฝน นี้เอง”เจ้าของเสียงนี้คือยูกิ เธอรีบหยิบแผ่นพับบางอย่างออกมากางให้ทุกคนได้เห็น ซึ่งแผ่นพับนี้ก็คือแผ่นพับที่อธิบายถึงส่วนต่างๆของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ยูกิชี้ไปยังจุดหนึ่งบนแผ่นพับ จากนั้นเธอก็ลากนิ้วไปยังป่าที่อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เส้นทางที่เธอลากผ่านนั้น ไม่มีอะไรแสดงในแผนที่เลยนอกจากสีเขียวที่แสดงถึงป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ สักพักเธอก็พูดออกมาว่า

                “จุดนี้คือสนามฟุตบอลที่พวกเราใช้ทดสอบในรอบที่ 2 และถ้าพวกเราถูกเลื่อนลงมาใต้ดินของจุดนั้น แสดงว่าพวกเราอยู่ห่างจาก ป่าแห่งการฝึกฝนประมาณ 20 กิโล ถ้าเส้นทางนี้เป็นเส้นตัดตรงไปยังป่าแห่งนั้นได้ นั้นเท่ากับว่ามันมีระยะทางประมาณ 5-7 กิโล จากระยะเวลาที่เราเดินมาแสดงว่าพวกเราน่าจะเดินมาได้เกินครึ่งทางแล้วละ”

    โชมองยูกิ เพราะเขาไม่คิดเลยว่ายูกิจะทราบรายละเอียดถึงเพียงนี้ การที่เขาเอาเข็มทิศขึ้นมาเพราะเขาอยากจะช่วยลดแรงกดดันจากทางเดินไร้ที่สิ้นสุดต่างหาก โชที่เห็นทุกคนเริ่มมีกำลังใจแล้ว เขาก็เก็บกล่องดินสอลงในกระเป๋าอย่างทะนุดถนอม เทียน่าที่ได้เห็นแบบนั้น เธอเดินมาหาโช ก่อนจะพูดว่า

    “หนูขอโทษนะค่ะ เพราะหนูแท้ๆเลย”

    โชมองเทียน่า ก่อนจะลูปหัวเธอเบาๆพร้อมพูดว่า”ช่างมันเถอะ เรื่องมันผ่านไปต้องนานแล้ว “

    โชพูดจบก็เร่งฝีเท้าเดินจากไป เทียน่าได้แต่มองโช ก่อนจะเดินตามไปอีกคน ยูกิและเรียวที่เห็นสีหน้าของเทียน่า พวกเธอต่างเร่งฝีเท้าเดินตามไป พอยูกิเข้ามาใกล้เทียน่า เธอถามขึ้นทันทีว่า

    “เออ น้องเทียน่า น้องทราบเรื่องที่เกี่ยวกับกล่องดินสออันนั้นใช่ไหม ถ้าน้องไม่คิดว่ามันจะเป็นการเสียมารยาทมากไป พี่อยากจะขอให้น้องช่วยเล่าออกมาให้ฟังหน่อยจะได้ไหม”

    “ใช่ครับ ผมเองก็อยากฟังเหมือนกัน ผมไม่คิดเลยว่าลูกผู้ชายแสนเท่ อย่างลูกพี่จะใช้กล่องดินสอลายแบบนั้น หรือว่าแท้จริงแล้ว ลูกพี่จะเป็นแต๋วนะ”

    “โครม”

    หมัดของเทียนาตรงเข้าใส่แก้มของเรียวอย่างเต็มแรง จนเขาพุ่งชนเข้ากับกำแพงเลย เทียน่าจ้องมองเรียวด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร ก่อนจะพูดว่า

    “ถ้านายยังพูดบ้าๆแบบนั้นอีกครั้งเดียว ฉันรับรองว่านายไม่มีทางไปสอบที่สนามรอบที่ 4แน่ๆ”

    คำพูดและการกระทำของเทียน่าทำเอายูกิอึงไปพักใหญ่ ส่วนไอ้เรียวนั้นสลบไปอีกรอบเป็นที่เรียบร้อย ไม่นานยูกิก็พูดออกมาว่า”เออ เทียน่า ใจเย็นก่อน เรียวคงไม่ได้คิดแบบนั้นหรอก เขาแค่พูดล้อเล่นไปแบบนั้นเอง”

    เทียน่าที่ได้ยินยูกิพูด เธอเหมือนจะใจเย็นลงบ้างแล้ว เธอจึงหันมาพูดกับยุกิว่า”เออ พี่ยูกิคะ หนูขอโทษที่แสดงปฏิกิริยาแบบนี้ออกมา”

    ยูกิมองเรียวที่นอนนับดาวเป็นรอบที่สอง ก่อนจะพูดออกมาว่า”ไม่เป็นไรจ๊ะ แต่เทียน่าดูท่าจะมีความหลังเรื่อง กล่องดินสอนั้นมาพอดูเลยนะ ไม่ทราบว่าน้องพอบอกพี่ได้ไหมว่ามันเป็นมายังไง ถือว่าเป็นการฆ่าเวลา ก่อนจะถึงสนามสอบรอบต่อไปนะ”

    เทียน่ามองยูกิ ก่อนจะพูดออกมาว่า”ได้ค่ะ เรื่องของกล่องดินสอนั้นเกี่ยวกับน้องสาวของพี่ไซมอนนะ “

    “น้องสาวหรือ? ไม่คิดเลยว่าคุณไซมอนจะมีน้องสาวด้วย”

    เทียน่าได้แต่พยักหน้า ก่อนจะพูดต่อว่า”ใช่คะ เธอมีอายุพอๆกับหนู ส่วนกล่องดินสอที่พี่เห็นเมื่อสักครู่นั้น พี่ไซมอนได้ใช้เงินเก็บของตัวเองไปซื้อให้กับน้องสาว”

    เทียน่าเงียบไปเล็กน้อย ก่อนจะพูดต่อว่า “แม้มันจะดูธรรมดา แต่ในตอนที่น้องของพี่ไซมอนรู้ว่าตัวเองจะได้กล่องดินสอ เธอดีใจอย่างมากเพราะเพื่อนของเธอล้วนมีกล่องดินสอแบบนั้นกันทุกคน เธอเคยขอร้องให้แม่กับพ่อซื้อให้ แต่เนื่องจากฐานะทางครอบครัวจึงไม่สามารถซื้อได้ “

    สายตาของเทียน่ายังจับจ้องโชไม่วางตา ไม่นานเธอก็พูดต่อว่า “ดังนั้นเธอจึงไปขอร้องให้พี่ไซมอนซื้อให้แทน พี่ไซมอนที่เห็นน้องสาวข้อร้องทั้งน้ำตา เขาจึงตัดสินใจใช้เงินเก็บที่เป็นค่ารถและค่าสมัครสอบในการชิงทุนไปซื้อกล่องดินสอนั้นให้กับเธอ และนั้นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เขาไปสอบชิงทุนไม่ได้ แต่กว่าทุกคนในบ้านจะรู้เรื่องนั้น มันก็ผ่านไปกว่า 1 เดือนแล้ว”

    ยูกิยกมือขึ้นมาปิดปากด้วยอาการตกใจ สักพักเธอก็ถามขึ้นว่า”เออ แล้วกล่องดินสอนั้นทำไมถึงได้มาอยู่ที่คุณไซมอนได้ละ”

    “น้องสาวของพี่ไซม่อนใช้กล่องดินสอนั้นจนกระทั้งถึงม.3 เนื่องจากกล่องดินสอนั้นเหมาะสำหรับเด็กประถม พอเธอขึ้นม.ปลายเธอก็ไม่ได้ใช้มันอีกเลย กล่องดินสอจึงถูกเก็บไว้ในห้องเก็บของที่บ้าน จนกระทั้งพี่ไซมอนไปเจอเข้าในกล่องเก็บของ พี่เขาจึงเอาออกมาซ่อมและนำมันไปใช้ในที่ทำงานอีกครั้งนะค่ะ”

    “อืม ที่แท้แบบนี้เอง”ยูกิพูดออกมา ขณะที่ยูกิพูดจบ โชที่อยู่ข้างหน้าก็ตะโกนเรียกพวกเธอให้ตามไป เทียน่าได้แต่พยักหน้าก่อนจะใช้มือจับคอเสื้อของเรียวและลากร่างที่กำลังนอนนับดาวไปกับพื้น

     

    ป่าแห่งการฝึกฝน

              ป่าแห่งการฝึกฝนนั้นเป็นป่าดิบชื้น หรือป่าดงดิบที่เป็นป่าสีเขียวตลอดทั้งปี แถมในป่าแห่งนี้ยังไม่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกตั้งอยู่แม้แต่น้อย ดังนั้นเวลา 19.00 น.พื้นป่าก็ถูกปกคลุมไปด้วยความมืดจนหมดสิ้นแล้ว พวกโชที่เดิมมาตามเส้นทางใต้ดิน พอพวกเขามาถึงทางออก สิ่งแรกที่เห็นคือบรรยากาศที่เงียบและวังเวง สักพักสายตาของพวกโชก็ค่อยๆชินกับความมืด พวกเขาทั้งหมดต่างเห็นว่าบริเวณทางออกต่างมีผู้คนจำนวนมากมาคอยอยู่แล้ว โชเปิดกระเป๋าสะพายเพื่อหยิบไฟฉายออกมาส่องไปรอบๆตัว เรียวได้แต่ยิ้มแหยๆ ก่อนจะพูดว่า

                “ลูกพี่ครับ ตกลงกระเป๋าของพี่เป็นกระเป๋าสี่มิติหรือเปล่า? ทำไมถึงได้มีทั้งไฟฉายและกล่องดินสอ แบบนี้”

                โชหันไปมองเรียว ก่อนจะทำหน้างงๆ แล้วพูดว่า “ทำไมจะมีไม่ได้ละ อย่างกล่องดินสอก็เอาไว้ใช้เก็บพวกอุปกรณ์เครื่องเขียน เวลาไปไหนก็สะดวกในการหยิบ ส่วนไฟฉายที่ใช้อยู่นี้ก็มีไว้ใช้ในงานพิเศษตอนเย็นนี้ แถมไฟฉายรุ่นนี้ก็สามารถชาร์ตไฟด้วยการบีบได้ด้วย รับรองไม่มีทางดับเวลาทำงานแน่ๆ ส่วนราคาก็แค่ 1 Gเท่านั้นเอง เยี่ยมไปเลยใช่ไหมละ”

                ยูกิมองไฟฉายราคา 1 Gพร้อมพูดว่า”งานพิเศษที่คุณไซมอนพูดถึงมันคืออะไรหรือ? ทำไมมันต้องใช้ไฟฉายด้วยละ”

                โชยิ้ม ก่อนจะพูดว่า”ผมทำงานอยู่ในหน่วยงานรักษาความปลอดภัยประจำสถานที่อยู่อาศัยของบุคคลชั้นสูงกลางใจเมืองนะครับ”

                “เออ สรุปว่าลูกพี่เป็นยามเฝ้าตึก ไม่ก็ หมู่บ้านซินะ”เรียวพูดออกมา

                โชได้แต่ยิ้มรับ จังหวะนั้นเองที่มีบอลแสงปรากฏขึ้นเหนือบริเวณทางออก สายตาทุกคู่ต่างจ้องมองบอลแสงนั้น จากนั้นเสียงบางอย่างก็ดังก้องขึ้นมาว่า

                “ยินดีกับผู้ผ่านการทดสอบรอบ 1และรอบ 2 หวังว่าทุกท่านคงพอใจกับห้องพักผ่อนที่พวกเราจัดเตรียมเอาไว้ให้นะครับ”

                เสียงบ่นของผู้เข้าสอบต่างดังขึ้นมาทันที แถมดูจะไม่มีท่าทีจะจบลงด้วย แต่เสียงนั้นก็ดูจะไม่ฟังคำบ่นแม้แต่น้อย เพราะเสียงนั้นยังคงดังต่อไปอีกว่า

                “ในเมื่อทุกท่านพักผ่อนกันอย่างเต็มอิ่มแล้ว นับจากนี้คือการสอบรอบที่ 4 เอ๊ย รอบที่ 3 การสอบรอบนี้จะเป็นการสอบเดินทางไกล โดยทุกท่านจะต้องเดินจากจุดนี้ไปยังอาคารที่อยู่ในใจกลางของป่าแห่งนี้ ที่นั้นจะเป็นสถานที่ทดสอบในรอบสุดท้าย ส่วนกติกาในรอบนี้มีเพียงข้อเดียวคือ พวกคุณต้องไปถึงที่นั้นก่อนวันใหม่ สุดท้ายนี้ขอให้ทุกท่านโชคดีในการสอบนะครับ อ้อ เกือบลืมบอลแสงที่อยู่เหนือหัวนี้จะสลายไปทันทีหลังจากเวลา 2 นาทีต่อจากนี้  ช่วงเวลานี้ถ้าใครอยากจะจับกลุ่มหรือทำอะไรก็เชิญตามสบายนะครับ”

                พอเสียงนั้นดังจบลง โชรีบหันไปบอกเรียวและยูกิทันทีว่า”พวกคุณรีบมองหาเพื่อนเร็วเข้า จำไว้นะถ้าครบ 1 นาทีแล้วไม่ว่าจะหาเจอหรือไม่ พวกคุณรีบหลับตาลงทันที เข้าใจไหม”

                เรียวและยูกิทำหน้างงๆเหมือนจะไม่เข้าใจในส่งที่โชบอก แต่เทียน่ากับพูดขึ้นมาว่า”ทำตามที่พี่ไซมอนพูดเถอะ แล้วจะดีเอง”

                เทียน่าพูดจบ เอก็มองหาเพื่อนของเธอเหมือนกัน เรียวยังคงทำหน้างงๆ ผิดกับยูกิที่หันไปมองหาเพื่อนคนอื่นๆแล้ว ส่วนโชกับจ้องมองไปยังจุดที่มีคนน้อยที่สุด พร้อมจำรายละเอียดให้ได้มากเท่าที่ทำได้ สักพักยูกิก็เห็นใครบางคนโบกมืออยู่ไม่ไกล ไม่นานคนผู้นั้นก็วิ่งเข้ามากอดยูกิพร้อมพูดออกมาว่า

                “ยูกิ เธอปลอดภัยดีนะ ฉันเป็นห่วงเธอมากเลย”

                ยูกิพยักคนผู้นั้นออกไป พร้อมพูดว่า”ฉันไม่เป็นอะไรหรอก นามิ ทางเธอละเป็นอย่างไงบ้าง”

                นามิยิ้มแหยๆ ก่อนจะพูดว่า”แย่สุดๆ ใครจะคิดว่าห้องพักนั่นจะเป็นสถานที่สอบรอบ 3 ไปได้ เธอรู้ไหมว่าบรรยากาศในห้องพักมันอึดอัดมากแค่ไหน ทางเธอละเป็นอย่างนั้นไหม”

                ยูกิหันไปมองโช พร้อมพูดว่า”สบายมากเลย คุณไซมอนช่วยแก้ปัญหาให้ทั้งหมด”

                นามิหันไปมองโชด้วยสายตาที่สื่อได้ว่า หมอนั้นเก่งถึงขนาดนั้นเลยหรือ? ขณะที่เป็นแบบนั้นโชก็พูดขึ้นมาว่า “ครบ 1 นาทีแล้ว หลับตาได้”

               

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×