ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ผมนี้ละ ผู้นำองค์กรชั่วที่ร้ายกาจที่สุด

    ลำดับตอนที่ #8 : ข้อบังคับแห่งองค์กรชั่ว ข้อที่ 7

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.09K
      5
      30 ส.ค. 56

     

    เวลาผ่านไปครบ 1 ชม.

    โชลืมตามา ก่อนจะเดินไปเข้าห้องน้ำอีกครั้ง ขณะที่เดินไปนั้นเขาเห็นพวกยูกิต่างนอนหลับตามที่เขาพูดจริงๆ ด้านไอ้เรียวเองก็หลับแบบคอตกอยู่ห่างไปไม่ไกลนัก เขารู้ได้ทันทีว่ามันคงโดนเทียน่าอัดจนหลับไปอีกครั้งแน่ๆ  ส่วนผู้เข้าสอบ 4 คนที่มาจากสนามสอบเดียวกับโช แม้พวกเขาจะจ้องมองโชอย่างโกรธๆ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรมากกว่านั้นแถมพวกเขาทั้ง 4 คนยังดูเหมือนไม่ได้รวมกลุ่มกันด้วย  ส่วนทางด้านกลุ่มชินโตริวก็ใช้วิธีทำสมาธิแบบเดียวกับโช แต่ต่างกันตรงที่พวกเขาต่างนั่งสมาธิพร้อมกันทั้งหมด 4 คนเลย โชที่ทำธุระเสร็จแล้ว เขาก็มานั่งสมาธิต่อ

    เวลา ผ่านไปครบ 4 ชม. 

              โชเดินไปปลุกเทียน่าให้มาเฝ้ายามแทน ส่วนยูกิที่กำลังหลับอย่างสบายใจนั้น เขาจึงไม่อยากจะปลุกเธอขึ้นมาเฝ้า เทียน่าที่ตื่นขึ้นมาเธอมองไปรอบๆห้อง ก่อนจะเห็นโชกำลังจ้องมองยูกิอย่างไม่วางตา เทียน่าที่เห็นแบบนั้น เธอแกล้งไอเล็กน้อย โชที่ได้ยินถึงกับหน้าแดงไม่รู้ตัว เขาจึงรีบเดินไปหาที่นอนในทันที เทียน่าปิดปากกลั้นหัวเราะในสิ่งที่เห็น จากนั้นเธอก็หันไปมองรอบห้องอีกครั้ง ซึ่งผู้เข้าสอบอีก 8 คนยังคงเป็นเหมือนกับตอนที่โชจ้องมอง แต่ที่ต่างคงเป็นสีหน้าเคร่งเครียดของผู้เข้าสอบทั้ง 8คนนั้นเอง โดยเฉพาะผู้เข้าสอบ 4 คนที่มาจากสนามสอบเดียวของโช ดูเหมือนจะแย่กว่า 4 คนจากชินโตริวเทียน่าได้แต่ส่ายหน้ากับสิ่งที่พวกเขาทำ ก่อนจะกลับไปจ้องมองประตูแทนโช

    เวลาผ่านไปครบ 6 ชม. 2 นาที

              เทียน่าเดินไปปลุกโชอีกครั้ง และคราวนี้เธอก็ยังปลุกยูกิที่หลับมา กว่า 6ชม.อีกด้วย โชลุกขึ้นมาปิดขี้เกียจ จากนั้นเขาก็หันมามองยูกิ ซึ่งเธอก็รีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำทันที เทียน่าได้แต่ส่ายหน้าพร้อมพูดว่า

                “พี่คะ เวลาที่ผู้หญิงหลับและเวลาที่ตื่นนอนเป็นช่วงเวลาที่ผู้หญิงไม่อยากจะให้เห็นหน้าที่สุดเลยนะ ยิ่งพี่ไปจ้องมองแบบนั้นด้วยแล้ว พี่ยูกิไม่อายก็แปลกละ”

                โชเกาแก้มเล็กน้อย ขณะที่เป็นแบบนั้น โชก็บอกให้เทียน่าไปปลุกเรียว ส่วนเขาก็หยิบกระเป๋าเงินเดินไปที่เครื่องขายอาหารอีกครั้งก่อนจะเปิดด้านในกระเป๋าที่ว่างเปล่า เขารูดซิบที่อยู่ตรงด้านในสุดออก ซึ่งในนั้นมีธนบัตรใบละ 500 ที่พับอย่างเรียบร้อยอยู่อีก1ใบ  โชสอดธนบัตรเข้าไปในเครื่องขายอาหาร ก่อนจะได้ข้าวแกงกระหรี่ไก่ทอดออกมา 2 จาน  โชยังเอาเงินทอนที่ได้ไปซื้อน้ำกระป๋องอีก 2 กระป๋อง พอโชได้ของทั้งสองอย่างแล้ว เขาก็เดินกลับไปเดิม ซึ่งตอนนี้มียูกิที่ออกจากห้องน้ำแล้วมานั่งรออยู่ ส่วนไอ้เรียวแม้สภาพจะดูไม่ได้(น่าจะเกิดจากถูกเทียน่ากระทืบจนตื่นซะมากกว่า )แต่มันก็ยังอุตสาห์มาเสนอหน้านั่งอยู่ข้างๆกับเทียน่าอีก โชเห็นแล้ว เขาอยากจะเข้าไปกระทืบมันซ้ำเลยด้วย  โชไม่พูดอะไรมาก เขายื่นจานข้าวและน้ำกระป๋องให้กับเทียน่า  ก่อนจะพูดกับเทียน่าว่า

    “เทียน่ารีบกินอาหารซะ ไม่ว่ายังไงพวกเราก็ต้องรีบกินให้อิ่มไว้ก่อนเข้าใจไหม”

                เทียน่าพยักหน้า ก่อนจะรีบกินข้าวโดยไม่สนอะไร  โชเองก็ทำแบบเดียวกัน เรียวและยูกิต่างอึงกับสิ่งที่เห็น แต่ขณะที่พวกเขาจะถามอะไรออกมา โชก็กินเสร็จพร้อมพูดว่า

                “พวกคุณเองก็หาอะไรกินซะ อีกไม่ถึง 30 นาทีประตูห้องจะเปิดแล้ว ระหว่างนี้พวกเราต้องทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย ไม่งั้นได้ยุ่งแน่ๆ”

                “เออ ลูกพี่ครับ ตกลงว่าลูกพี่ทราบเรื่องเวลาประตูจะเปิดจริงๆหรือ? ไหนจะเรื่องสนามสอบรอบต่อไปอีก บอกตามตรงผมเชื่อไม่ลงเลยว่าลูกพี่จะทราบถึงขนาดนั้นนะ”

                “ผมเคยบอกแล้วนี้ว่าผมไม่ทราบ หรือรู้อะไรทั้งนั้น สิ่งที่พอบอกได้คือ ผม เดา เอาเท่านั้นเอง”

                เรียวและยูกิต่างอึงไปอีกครั้ง ไม่นานเรียวก็พูดว่า”เดี๋ยวก่อนซิครับ ถ้าทั้งหมดนี้คือเดาจริง ทำไมลูกพี่ถึงได้เตรียมการซะขนาดนี้ละ “

                โชไม่ตอบ เขาได้แต่เอาน้ำกระป๋องขึ้นมาดื่มช้าๆ ขณะที่เป็นแบบเสียงของเทียน่าก็ดังขึ้นมาว่า”พี่ค่ะ พี่แค่บอกหลักเหตุผลที่ใช้ในการเดาออกไปก็พอแล้ จากนั้นพวกพี่ยูกิจะเข้าใจเรื่องทั้งหมดเอง”

                “เออ เข้าใจละ งั้นก่อนจะเริ่มผมขอบอกเลยนะว่าทุกอย่างเป็นแค่การเดา ดังนั้นผิดพลาดอะไรขึ้นมาผมไม่รับผิดชอบเด็ดขาด สำหรับคำถามแรก เรื่องเวลาเปิดประตูนั้น ผมคาดเดาจากบททดสอบนี้เท่านั้น พวกคุณคิดว่าจุดสำคัญที่สุดของสนามสอบนี้อยู่ที่ไหน”

                “น่าจะเป็นการทดสอบความอดทนต่อสิ่งรอบข้างค่ะ”เทียน่ายกมือขึ้นพร้อมพูดออกมา

                โชส่ายหน้า เป็นการปฏิเสธ ยูกิจึงพูดขึ้นว่า” ถ้านั้นไม่ใช่ งั้นก็คงเป็น การอดทนต่อความกดดันที่ไม่รู้ว่าประตูจะเปิดเมื่อไรใช่ไหมค่ะ”

                โชส่ายหน้าอีกครั้ง เรียวจึงพูดออกมาว่า”งั้นก็คงเป็นการอดทนต่อความง่วงนอนแล้วละ ไม่ทราบถูกไหมครับ ลูกพี่”

                โชส่ายหน้าอีกครั้ง  ก่อนจะพูดว่า”จุดสำคัญของสนามนี้คือ ไม่ว่าจะเป็นคนโง่ขนาดไหนขอเพียงเวลาผ่านไป พวกเขาจะรู้ตัวว่านี้คือสนามสอบต่างหากละ “

                ทั้ง 3 คนต่างทำหน้างงๆ โชจึงพูดต่อว่า”ในเมื่อมีคนฉลาดที่จะเห็นเพียงครั้งเดียวก็จะรู้แล้วว่าห้องพักนี้คือสนามสอบรอบที่ 3  มันก็ต้องมีคนโง่ที่ต่อให้หลับไปแล้ว เขาก็ยังไม่รู้ว่าห้องแห่งนี้คือสนามสอบเลย พวกคุณว่าจริงไหม”

                “อืม/ใช่ค่ะ / ถูกต้องแล้วครับ ลูกพี่”เสียงของพวกเทียน่าดังขึ้นพร้อมกัน

                “สมมุติว่าพวกคุณเป็นคนประเภทนั้น เมื่อคุณนอนหลับไปและตื่นขึ้นมา คุณยังเห็นว่าตัวเองยังอยู่ในที่เดิมทุกประการ ผมอยากจะถามว่า คุณจะคิดทำอย่างไงต่อ ระหว่าง รีบทำตัวเองให้ตื่นเต็มที่ หรือ นอนหลับต่อไปละ”

                “มันก็ต้องรีบทำตัวเองให้ตื่นเต็มที่ซิครับ “เสียงของเรียวดังขึ้นมา

                “ทำไมถึงเลือกทำอย่างนั้นละ”

                “โธ่ ลูกพี่ ต่อให้เป็นคนโง่ขนาดไหน มันคงไม่โง่ถึงขนาดยอมทิ้งโอกาสไปยังสนามสอบต่อไปเพื่อนอนต่อหรอกครับ เพราะ ไม่แน่ว่านาทีต่อไปอาจจะเป็นนาทีที่ประตูเปิดก็ได้ ยิ่งการที่พวกเขาได้นอนไปแล้วด้วย มันยิ่งส่งผลต่อจิตใจว่าห้ามไม่ให้หลับอีกเป็นครั้งที่ 2 ไม่งั้นอาจจะสอบตกได้  ผมพูดถูกไหมละ “

    โชพยักหน้า ก่อนจะพูดว่า”ใช่แล้วละ ผู้เข้าสอบที่เผลอหลับในช่วงแรกต้องคิดแบบเดียวกันกับนายทั้งหมดแน่ๆ ซึ่งผลที่ตามมาคือพวกเขาทั้งหมดจะฝืนตัวเองให้ไม่นอนจนกว่าประตูจะเปิด และ เมื่อเวลาผ่านไป พวกเขาก็จะรู้ด้วยตัวเองว่า ห้องพักนี้อาจจะคือสนามสอบรอบที่ 3 และบททดสอบก็คือการอดทนต่อความง่วงจนกว่าประตูจะเปิดนั้นเอง ซึ่งใครทนไม่ได้และหลับไปอาจจะสอบตกได้ เนื่องจากพวกเขาเข้าประตูไม่ทันเวลาที่กำหนด “

    “ลูกพี่ครับ ผมเข้าใจในสิ่งที่ลูกพี่พูดนะ แล้วไอ้เรื่องพวกนี้มันเกี่ยวอะไรกับเวลาที่ประตูจะเปิดละ”

    “เกี่ยวซิ งั้นเรียว นายพอบอกหน่อยได้ไหมว่า อะไรที่ทำให้คนเรารู้สึกง่วงนอนได้บ้าง เอาสิ่งที่อยู่ในห้องนี้นะ”

    “เออ เพลงเบาๆ แอร์เย็นๆ ความอ่อนเพียรที่สะสมมา เก้าอี้ หรือโซฟาที่แสนนุ่มๆ อ้อ เวลาอิ่มก็จะทำให้ง่วงนอนได้เช่นกันครับ ”

    “ใช่ งั้นอะไรที่ทำให้ตาสว่างได้บ้างละ ”

    “กาแฟ น้ำอัดลมที่มีส่วนผสมคาเฟอีน การออกกำลังกาย  การเคลื่อนไหวร่างกาย ความหิว และถ้าทนไม่ไหวจริงๆก็ต้องเอาน้ำมาล้างหน้าให้ตื่นครับ”

    “เก่งใช้ได้เลยนี้  สิ่งต่างๆในห้องนี้ต่างเป็นสิ่งที่ทำให้นายง่วงนอนได้เกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเพลง อากาศ โซฟาที่แสนนุ่ม อีกทั้งยังมีอาหารและน้ำดื่มที่สามารถซื้อได้ทุกเมื่อ แถมยังอาการอ่อนเพลียที่ได้สะสมมาจากรอบ 1และ 2อีก นายช่วยบอกหน่อยได้ไหม นายจะทำอย่างไรไม่ให้ตัวเองง่วงนอนได้บ้างละ”

    เรียวอึงไปเล็กน้อย ก่อนจะพูดว่า “อย่างแรกเลย ผมคงจะต้องทำให้ตัวเองท้องว่างก่อนละ เพราะเมื่อหิวแล้ว ผมจะนอนไม่หลับ ต่อจากนั้นก็จะพยายามเคลื่อนไหวให้มากที่สุดเพื่อให้ตัวเองตื่นตลอดเวลา แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆก็คงจะเอาเครื่องดื่มเช่น กาแฟ หรือน้ำอัดลมเข้าช่วย และถ้าไม่ไว้จนถึงที่สุด ผมจะลุกขึ้นไปล้างหน้านะครับ”

    “อืม แล้วถ้านายทำสิ่งที่พูดมาติดต่อกัน 5-6 ชม.ละ นายคิดว่านายจะอยู่ในสภาพแบบไหนละ”

    เรียวยิ้มแหยๆ ก่อนจะพูดว่า”ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ผมคงจะโทรมสุดๆเลยละ ไหนจะไม่ได้พักเหนื่อย ไหนจะต้องเคลื่อนไหวร่างกายไม่ให้ง่วง แถมยังอาจจะต้องกินกาแฟต่างน้ำ ทั้งยังกินอาหารไม่ได้อีกเพราะกลัวจะหลับเมื่อท้องอิ่มอีก แบบนั้นมันนรกแท้ๆเลยนะ”

    โชพยักหน้า ก่อนจะพูดว่า”นั้นละเป้าหมายของด่านนี้ และสิ่งที่เป็นตัวกำหนดเวลาเปิดประตูที่นายถามนั้นก็คือ เวลาในตอนนี้ยังไงละ”

    เรียว ยูกิ และเทียน่าต่างทำหน้างงๆ โชจึงบอกให้พวกเขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา จากนั้นเขาก็พูดว่า

    “ตอนที่พวกเราเข้ามาในห้องนี้เวลาไม่น่าจะเกิน 12.00 น. และคนส่วนใหญ่คงจะจัดการเรื่องอาหารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อมาถึงห้องนี้ แต่ช่วงเวลา 6 ชมที่กังวลว่า ไม่รู้ประตูจะเปิดเมื่อไร ทั้งยังต้องต่อสู้กับความง่วงจนไม่กล้ากินอาหารอีก  ความอดทนต่อความหิวและแรงกดดันนี้คงไม่อาจจะยาวนานไปกว่าเวลา 18.00- 20.00 น. เพราะช่วงเวลานั้นเป็นเวลาของอาหารเย็น ดังนั้นก่อนที่ทุกคนจะหมดความอดทนในเรื่องนี้ ผมจึงเดาว่า เวลา18.00-19.00 น.น่าจะเป็นเวลาที่ประตูเปิดออกนั้นเอง “

     เรียว ยุกิ และเทียน่าเงียบลงไปพักใหญ่ ก่อนจะได้ยินเรียวพูดว่า”สุดยอดไปเลย ลูกพี่ แบบนี้มันไม่เรียกว่า เดา แล้วละ ผมว่ามันต้องถูกต้องตามที่พี่พูดแน่ๆ“

    โชส่ายหน้า ก่อนจะพูดว่า”ไม่หรอก ทุกอย่างที่ผมพูดไปเป็นแค่การคาดเดาเท่านั้น เพราะคนแต่ละคนก็มีความคิดเป็นของตัวเอง บางคนอาจจะกินตลอดเวลาเพื่อไม่ให้หลับ บางคนอาจใช้การทำสมาธิเพื่อขจัดความง่วง และ บางคนอาจใช้พลังพิเศษกระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัวตลอดเวลา ซึ่งคน 100 คนต่างมีวิธีการที่ต่างออกไป 100 วิธี ดังนั้นสิ่งที่ผมบอกไปก็เป็นเพียงการ การคาดเดาของผมยังไงละ”

    ยูกิ และเรียวเงียบไปอีกครั้ง ขณะนั้นเองเทียน่าก็พูดขึ้นมาว่า”พี่คะ แม้มันจะเป็นอย่างที่พี่บอกจริง แต่แก่นแท้นของการทดสอบก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยนี้  ทุกคนยังต้องทนมองประตูที่อาจจะเป็นขึ้นเมื่อไรก็ได้ ภายใต้แรงกดดันที่คิดว่าวินาทีต่อไปประตูอาจจะเปิด ทำให้ผู้เข้าสอบทุกคนไม่อาจจะละสายตาไปจากประตูได้นั้น หนูว่าถ้าอยู่ในสภาพนั้นถึง 6 ชม. ทั้งจิตใจและร่างกายก็คงแย่ไปตามกันนั้นละ แม้ต่อให้กินอาหาร หรือไม่กินก็ตาม สภาพร่างกายและจิตใจก็จะถึงขีดสุดอยู่ดี ยิ่งพวกใช้พลังพิเศษกระตุ้นร่างกายยิ่งแย่ใหญ่เพราะมันจะทำให้ร่างกายหมดแรงเร็วกว่าปกติอีกด้วย “

    เรียวและยุกิต่างพยักหน้าเห็นด้วย แต่ไม่นานเรียวก็พูดออกมาอีกว่า”ผมเห็นด้วยกับสิ่งที่เทียน่าบอกนะครับ ต่อให้เป็นคนแบบไหนถ้าอยู่ในสภาพกดดันอย่างนั้น มันก็คงแย่ไปตามกันแน่ๆ”

    “แต่ว่าทางแก้ที่ทำให้ออกจากแรงกดดันแบบนั้นก็มีไม่ใช่หรือ?  อย่างเช่นการผลัดเวรกันนอนและเฝ้ายาม อย่างที่พวกเราทำยังไงละ ฉันคิดว่าคงจะต้องมีคนอื่นคิดจะทำอยู่เหมือนกัน และ ถ้าทำอย่างนั้นทุกคนก็จะสามารถผ่านบททดสอบนี้ได้อย่างง่ายดายเลยละ ”ยูกิแสดงความเห็นออกมา

    เรียวกับเทียน่าต่างพยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดนี้ ผิดกับโชที่ส่ายหน้า พร้อมพูดว่า”เป็นไปได้ยากครับ “

    “เอ๋!! ทำไมคุณไซมอนถึงคิดแบบนั้นละ ฉันว่าวิธีนี้น่าจะมีคนอื่นคิดออกเหมือนกัน เพราะมันไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย แถมยังใช้ได้ผลดีอีกด้วย  แล้วทำไมคุณไซมอนถึงได้บอกว่าเป็นไปได้ยากละคะ”

    โชถอนหายใจ ก่อนจะพูดว่า”ก่อนจะตอบคำถามนี้ ผมขอถามคุณยูกิตรงๆเลยนะ ถ้าคุณไม่ๆได้พบผมในสนามสอบรอบที่ 2  คุณจะกล้าเชื่อใจผู้เข้าสอบที่ผ่านรอบที่ 2 คนอื่นไหมละ และ คุณกล้าจะหลับต่อหน้าผู้ชายที่เข้ามาจีบคุณไหมครับ “

    ยูกิถึงกับอึง ก่อนจะส่ายหน้าเป็นคำตอบ โชจึงพูดต่อว่า”นั้นละเหตุผลที่ผมบอกว่าเป็นไปได้ยาก จริงอยู่วิธีที่ผมบอกมานั้น ทุกคนสามารถคิดได้ แต่การจะทำได้นั้นคุณต้องมีคนที่พอจะเชื่อใจได้สักก่อน แต่ การจะทำแบบนั้น มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย เพราะทุกคนต่างไม่เคยรู้จักกันมาก่อน  และ ถึงแม้คุณยูกิบอกว่าคุณเชื่อใจในคนเหล่านั้นได้  ผมขอถามหน่อยเถอะ คุณมั่นใจแค่ไหนว่าถ้าประตูเปิดแล้ว คนที่คุณเพิ่งรู้จักในสนามรอบที่ 3 นี้จะปลุกคุณให้ผ่านเข้ารอบด้วย คุณยูกิอย่าลืมซิครับ นี้คือการสอบเพื่อจะได้เป็น HERO ในอนาคตนะ ผมเชื่อแน่ว่า ต้องมีคนคิดที่จะกำจัดคู่แข่งออกไป เพื่อเพิ่มโอกาสที่จะสอบผ่านให้สูงมากขึ้น แล้วถ้าคุณยูกิเกิดไปเชื่อใจคนแบบนั้นเข้า คุณคิดว่าจะสอบผ่านไหมละ”

    ยุกิได้แต่นิ่งเงียบเพราะสิ่งที่โชพูดมามันมีโอกาสเกิดขึ้นได้มากจริงๆ แต่ไม่นานเธอก็แย้งขึ้นมาว่า

    ”แต่มันอาจจะไม่เป็นอย่างนั้นทั้งหมดก็ได้นี้คะ อย่างเช่นว่า การผลัดกันเฝ้ายามกับเพื่อนที่มาด้วยกัน ฉันเชื่อแน่ว่าเพื่อนที่พวกเรารู้จักเป็นอย่างดีจะไม่มีทางทรยศ หรือหักหลังกันแน่ค่ะ”

    โชยิ้ม ก่อนจะพูดออกมาว่า”ใช่ครับผมเองก็เชื่อเช่นนั้น แต่ผมขอถามหน่อยนะ เพื่อนที่คุณยูกิว่าอยู่ที่ไหนหรือ?”

    ยูกิต้องเงียบไปอีกครั้งเพราะนามิที่เป็นเพื่อนสนิทของเธอไม่ได้อยู่ตรงนี้ด้วย โชยิ้มก่อนจะพูดว่า”เรียว นายเองก็มีเพื่อนมาสอบด้วยใช่ไหม “

    “ครับ ผมมากับเพื่อน 4 คน”เรียวตอบคำถามของโชอย่างงงๆ

    “งั้นเทียน่าละมีเพื่อนมาสอบด้วยไหม”

    “มีค่ะ หนูมาสอบพร้อมเพื่อนอีก 3 คน“

    โชที่ได้ยิน เขาก็ยิ้มก่อนจะพูดว่า”งั้นเพื่อนที่มาด้วยกันอยู่ที่ห้องนี้บ้างไหม”

              เทียน่าและเรียวต่างส่ายหน้า โชจึงพูดต่อว่า”เออ การที่ เพื่อน 8 คน(เพื่อนเรียว 4 คน+ เพื่อนเทียน่า 3 คน+ นามิ )ของพวกเธอ3 คนต่างไม่อยู่ในห้องนี้เลย ไม่คิดว่ามันแปลกบ้างหรือ? “

                “นั้นสิค่ะ ถ้าแค่นามิคนเดียวฉันยังพอเข้าใจ แต่นี้เพื่อนของเรียวและเทียน่าก็ไม่อยู่ด้วย มันแปลกเกินไปจริงๆนั้นละ”

    “ผมว่าทุกคนอาจจะตกรอบไปหมดแล้วก็ได้”เสียงเรียวดังแทรกขึ้นมา

                ไม่ใช่ค่ะ”เสียงของนามิและยุกิดังออกมาพร้อมกัน 

                “สำหรับคนอื่นฉันไม่ทราบ แต่นามิที่เป็นเพื่อนของฉัน เธอต้องสอบผ่านอย่างแน่นอนเพียงแต่ว่าไม่ได้อยู่ที่สนามสอบนี้เท่านั้นเอง”ยูกิพูดออกมาอย่างหมั่นใจ

                “เพื่อนของฉันก็เหมือนกัน แม้พวกเธอจะซุ่มซ่ามและพึ่งพาไม่ค่อยได้ แต่พวกเธอไม่มีทางพ่ายแพ้แก่พวกวัวกระทิงนั้นหรอก การที่พวกเธอไม่อยู่ที่นี้เพราะสาเหตุอื่นต่างหากละ ถ้านายพูดจาให้ร้ายเพื่อนของฉันแบบนี้อีก ฉันจะไม่พูดกับนายแล้วนะ”เทียน่าก็ยืนยันอย่างหนักแน่น จนเรียวต้องรีบปิดปากไปทันที

                โชที่ได้ยิน เขาถอนหายใจ ก่อนจะพูดออกมาว่า”ถูกอย่างที่เทียน่าพูดนั้นละ ผมก็เชื่อว่าเพื่อนของพวกคุณสอบผ่านทั้งหมด แต่การที่เพื่อนของพวกคุณไม่ได้อยู่ในห้องนี้ก็เพราะ พวกเราทั้งหมดถูกจับแยกออกจากกันต่างหาก”

                “ถูกจับแยก? พี่คะ นี้พี่หมายความว่ายังไงนะ ”

                “โอ้ย “

    “มันเจ็บนะค่ะ พี่”เสียงร้องของเทียน่าดังขึ้น เนื่องจากเธอโดนโชดีดหน้าผากไป 1 ครั้ง ก่อนจะได้ยินเสียงของโชพูดต่อว่า

                “ยัยน้องตัวแสบ เธอสมควรโดนแล้วละ เรื่องง่ายๆแค่นี้ยังคิดไม่ออกอีกหรือ? เออ เทียน่าลองคิดถึงสภาพของสนามสอบรอบ 1 และการมายังสนามสอบรอบ 2 ให้ดีๆซิ แล้วน้องจะเข้าใจในสิ่งที่พี่พูดเอง “

                “อะ จริงด้วยซิ ที่แท้เป็นอย่างนี้เอง”เสียงที่พูดออกมาคือเสียงของยูกิ เทียน่าได้แต่หันไปมองเธออย่างงงๆ ยูกิจึงหันพูดกับเทียน่าว่า

                “ในการสอบรอบแรกมีด้วยกัน 3 สนาม  ตามหมายเลขในบัตรประจำตัวสอบ อย่างฉันกับคุณไซมอนต้องไปสอบยังสนามสอบที่ 3 ส่วนพวกเทียน่าเองก็ต้องไปสอบแยกสนามกันใช่ไหมละ”

                “ใช่ค่ะ หนูกับเพื่อนอีก 2 คนไปสอบยังสนามสอบที่ 1 ส่วนอีก 1 คนไปสอบยังสนามสอบที่ 2”

                “ของผมก็เหมือนกัน ผมได้สอบยังสนามสอบที่ 2 กับเพื่อน 2 คน แต่อีก 2 คนกับต้องแยกไปสอบคนละแห่งนะ “

                ยูกิพูดต่อว่า”สมมุติว่าทุกคนสอบผ่านรอบแรกหมด พวกที่สอบผ่านก็จะต้องไปเจอลิฟต์ 3 ตัวเหมือนกันซินะ”

                “ใช่ค่ะ อ้า ที่แท้แบบนี้เอง การที่พวกหนู 3 คนสอบผ่านหมด พวกหนูก็ต้องไปยังลิฟต์พร้อมกัน และเมื่อลิฟต์แต่ละตัวสามารถนั่งได้แค่คนเดียว พวกเราจึงต้องแยกกันนั่งคนละตัวโดยที่พวกเราไม่รู้เลยว่า ลิฟต์ที่พวกเรานั่งจะไปส่งพวกเราในสถานที่แตกต่างกัน “เทียน่าพูดออกมา

                โชที่ฟังถึงตรงนี้เขาก็ยิ้มแล้วพูดว่า” ถูกต้องแล้วละ จากสนามสอบรอบแรกที่มี 3 ทางเลือก จากนั้นแต่ละทางเลือกมีลิฟต์ที่แยกออกไปอีก 3 ทาง ถ้าคำนวณตามหลักคณิตศาสตร์นั้นก็เท่ากับว่าสนามสอบรอบ 2  น่าจะมีประมาณ 3*3 = 9 สนามสอบ  และ จากระบบที่ว่ามานี้จะทำให้คนที่มาด้วยกัน อย่างเพื่อน หรือคนรัก จะต้องถูกแยกจากกันเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ยิ่งเมื่อผ่านการทดสอบรอบสองด้วยแล้ว คนที่ผ่านก็จะยิ่งน้อยลง ดังนั้นคนที่ผ่านมาจนถึงรอบ 3 จึงแทบจะไม่มีโอกาสเป็นเพื่อน หรือ คนรู้จักกันเลย ดังนั้นผมจึงบอกว่าวิธีที่พวกเราใช้นั้นจึงเป็นไปได้ยากยังไงละ”

                ยูกิ ถึงกับเงียบลงไปทันที เพราะตอนนี้เธอหาเหตุผลมาแย้งโชไม่ได้เลย โชได้แต่มองยูกิแล้วพูดว่า

                “ผมถึงได้บอกไงว่าแก่นแท้ของการสอบก็คือ  ความสามัคคีและการเชื่อใจกัน แต่มันไม่ใช่แค่เชื่อใจเพื่อนที่มาด้วยกันเท่านั้น คนสอบต้องเชื่อใจคนที่เพิ่งเจอกันด้วย แต่น่าเสียดาย นอกจากผมแล้วคงไม่มีใครอ่านถึงข้อความนี้ออกแน่ๆ เออ ยัยตัวแสบ คราวนี้เธอเข้าใจหรือยังว่าทำไมพี่ถึงให้คะแนนเธอเพียงเท่านั้นนะ”

                “หนูเข้าใจแล้วคะ พี่ หนูว่าอย่าแค่ 50 คะแนนเลย ตอนนี้ถ้าพี่ให้หนู 30 ไม่ซิ 20 คะแนนหนูยังคิดว่ามันมากเกินไปเลย เดี๋ยวก่อนนะ ถ้าทุกอย่างเป็นอย่างที่พี่บอกจริง ถ้าเช่นนั้นทำไมกลุ่มของสำนักชินโตริวถึงได้มาอยู่ที่นี้ได้ถึง 4 คนละ”

                โชมองไปทางกลุ่มของชินโตริวก่อนจะพูดว่า”นั้นก็หมายความว่า สำนักนี้มีคนสมัครสอบเข้ามามากยังไงละ ไม่แน่ว่าสำนักนี้อาจจะส่งคนเข้าสมัครเกินกว่า 100 คนก็ได้ “

                “เอ๋!! ถ้าพี่พุดมาเป็นจริงนั้นก็หมายความว่า สำนักชินโตริว ส่งคนกว่า 100 คนมาเพื่อช่วยไอ้บ้านั้นให้สอบผ่านเลยนะ แบบนี้มันจะขี้โกงเกินไปแล้วนะ”

                “ทำไงได้ละ น้องก็เคยได้ยินไม่ใช่หรือว่า คนมีเงินทำอะไรก็ไม่หน้าเกลียด อีกอย่าง มันไม่มีกฏข้อไหนระบุว่า ผู้เข้าสอบห้ามช่วยเหลือกันนี้ ดังนั้นการที่พวกเขาทำแบบนี้ก็ไม่ผิดหรอก อย่างมากก็แค่         น่าเกลียดไปบ้างนะ”

                เทียน่าได้แต่ยิ้มแหยๆ แน่นอนว่ายูกิและเรียวก็มีท่าทางไม่ต่างกัน ไม่นานเรียวก็ถามออกมาว่า”เออ แล้วเรื่องการสอบรอบต่อไป ลูกพี่ทราบได้อย่างไรครับว่ามันต้องเตรียมตัวแบบนี้นะ “

                “เออ ผมก็บอกแล้วไม่ใช่หรือว่า ไม่ทราบ เลย ผมแค่เดาเอาเท่านั้นเอง”

                “ตกลงครับ เดาก็เดา แต่ลูกพี่ใช้หลักอะไรในการเดาละ “

                “เออ ก่อนอื่นเลย นายคิดว่าการสอบในรอบนี้จะมีคนตกสักกี่คนละ”

                เรียวที่เจอคำถามนี้ เขาถึงกับอึง ขณะที่เป็นแบบนั้นยุกิกับพูดแทรกขึ้นมาว่า”ไม่น่าจะมีค่ะ ไม่ว่าแรงกดดันจากสนามสอบรอบนี้จะมากแค่ไหน แต่คนที่สอบผ่านรอบ 1และ 2 มาได้นั้นจะไม่มีทางสอบตกด้วยเงื่อนไขง่ายๆแบบนั้นแน่”

                “ถูกต้องครับ ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่จุดประสงค์ที่มีสนามสอบนี้ไม่ใช้การคัดคนออก แต่เป็นการทำให้เกิดสภาพที่เป็นอยู่ต่างหากละ”

                “พี่คะ หนูไม่เข้าใจที่พูดนะ ทำไมสนามสอบถึงต้องทำแบบนั้นด้วยละ มันดูไม่มีความหมายเลยไม่ใช่หรือ?”เทียน่าถามออกมา

                โชยิ้ม ก่อนจะพูดว่า”สมมุติว่าน้องต้องการจะทำเนื้อตุ๋นยาจีนสักหม้อ น้องจะต้องเสียเวลาเตรียมเครื่องปรุง ทั้งยังเสียเวลาในการตุ๋น ยิ่งต้องการจะทำให้อร่อย น้องต้องเสียเวลาในการปรุงและควบคุมไฟอย่างใจจรดจ่อเลย คำถาม ถ้าน้องทำอาหารหม้อนี้เสร็จแล้ว น้องจะทำอะไรละ ระหว่าง กินเนื้อตุ๋นหมอนั้น หรือ เทเนื้อตุ๋นทิ้งไปละ”

                “มันก็ต้องกินซิค่ะ ใครมันจะบ้าไปเทอาหารที่อุตสาห์ลงแรงทำขึ้นมาได้ละ “

                “แล้วคนอื่นละ คิดเหมือนกันกับเทียน่าไหม”

                ยูกิและเรียวก็พยักหน้าเห็นด้วยกับเทียน่า โชที่เห็นแบบนั้นก็พูดต่อว่า”การสอบรอบที่ 3 ก็เหมือนกัน มันเป็นขั้นตอนที่เตรียมไว้สำหรับรอบที่ 4 นะ งั้นลองคิดถึงสภาพของคนที่สอบผ่านรอบ 3 ดูซิว่าจะเป็นอย่างไง”

                “โทรมสุดๆ จนแทบไม่อยากสอบต่อครับ ลุกพี่”เรียวตอบออกมาอย่างหน้าตาย

                “อาจจะแย่ แต่ก็คงพอจะสอบต่อได้ค่ะ”ยุกิตอบออกมาด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีนัก

                “คิดว่าพอทนได้ แต่ก็คงไม่สบายมากนัก ”เทียน่าตอบโดยที่สายตายังคงจ้องมองกลุ่มของชินโตริว

                โชพยักหน้า ก่อนจะพูดว่า” มันอาจจะเป็นอย่างนั้น หรือไม่ใช่ก็ได้ แต่ที่แน่ๆคือคนสอบผ่านรอบที่ 3 ต้องอยู่ในสภาพอิดโรยพอสมควร และพวกเขาอาจจะสอบต่อได้อีก 1-2 รอบเท่านั้น ดังนั้นการสอบรอบ 4 จึงน่าจะเป็นการสอบรอบสุดท้ายในภาคปฏิบัติ “

                พวกยูกิต่างพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดนี้ ไม่นานโชก็พูดต่อว่า”จากการสอบ 3 รอบ ทุกรอบต่างมีแก่นแท้อยู่ที่ ความสามัคคีและการเชื่อใจกัน ดังนั้นรอบที่ 4 น่าจะไม่ต่างกันนัก ดังนั้นการสอบรอบที่ 4 น่าจะเป็นอะไรที่ค่อนข้างจะหนักกว่า 3 รอบที่ผ่านมา อีกทั้งต้องใช้ความสามัคคีและการเชื่อใจกันจึงจะผ่านไปได้ ซึ่งวิธีที่ผมคิดได้ก็มีหลายอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการจับกลุ่มเพื่อประลองกันเอง หรือการให้ต่อสู้เป็นกลุ่มกับพวกอาจารย์ที่สอน หรือ การหนีออกจากห้องปิดตาย และอื่นๆอีกมาก จนไม่รู้ว่าอันไหนถูกและอันไหนผิดนะ”

                โชถอนหายใจ ก่อนจะพูดต่อว่า”ดังนั้นแทนที่ผมจะกังวลเรื่องพวกนั้น  สู้ผมเตรียมให้พร้อมทุกสถานการณ์ไม่ดีกว่าหรือ? อย่างเรื่องอาหารที่พวกผมกินเมื่อสักครู่ พวกคุณมั่นใจไหมว่ารอบที่4 จะมีอาหารให้กินแบบนี้อีก”

                เรียว กับยูกิต่างส่ายหน้าพร้อมกัน โชจึงพูดต่อว่า” ดังนั้นแทนที่จะหวังน้ำบ่อหน้า ผมว่าพวกเราสู้กินอาหารให้อิ่มและทำธุระให้เสร็จไปเลยไม่ดีกว่าหรือ?  อีกทั้งพวกผมก็เตรียมน้ำและอาหารแห้งเอาไว้ พร้อมแล้วด้วย  ถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นจริงๆ พวกผมก็ยังจะอยู่ต่อไปได้อีก 2-3 วันดดยไม่พึงใคร แต่ถึงไม่มีเหตุการณ์แบบนั้น อาหารและน้ำก็ยังสามารถช่วยเหลือผู้เข้าสอบคนอื่นๆที่อาจจะไม่ได้กินอาหารเหมือนพวกเราก็ได้ ดังนั้นการขนของพวกนี้อาจจะหนักไปบ้างแต่ผมคิดว่ามันคุ่มค่าที่จะทำเป็นอย่างมาก ไม่ทราบว่าใครมีปัญหาอะไรอีกไหมละ”

                เรียวและยูกิถึงกับพูดไม่ออกกับสิ่งที่โชพูด ไม่ใช่ว่าคำตอบของโชจะเป็นอะไรที่มันยากจนเกินความเข้าใจ แต่มันกลับเข้าใจง่ายซะจนพวกเขาลืมคิดไปเท่านั้นเอง ไม่นานเรียวก็ลุกขึ้น ก่อนจะพูดออกมาว่า

                “ลูกพี่ครับ ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมพี่ถึงใช้คำพูดว่า เดา เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในอนาคตนั้นไม่แน่นอนการที่เราเตรียมพร้อมทุกสถานการณ์จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด “

                โชพยักหน้าให้กับคำพูดนี้ของเรียว ซึ่งเรียวเองก็จ้องมองโชด้วยสายตาที่นับถือขึ้นไปอีก ไม่นานเขาก็หันไปพุดกับยุกิว่า       

                “ลูกพี่หญิงครับ พี่จะเอาอะไรบ้างไหม ผมจะไปซื้ออาหารที่เครื่องขายอาหารนะ ”

                “ไม่เป็นไรจ๊ะ ฉันจะจัดการเองได้ นายรีบไปทำธุระของนายให้เสร็จเถอะ“

                เรียวพยักหน้าก่อนจะเดินจากไป ยูกิเองก็มองมาที่โช ก่อนจะพูดว่า”ถ้ายังไง ฉันขอตัวไปจัดการธุระส่วนตัวให้เรียบร้อยก่อนนะค่ะ”

                ยูกิพูดจบก็ลุกขึ้นเดินจากไปอีกคน จะเหลือเพียงแต่เทียน่าที่จ้องมองโช ก่อนจะส่ายหน้าแล้วพูดว่า

    “เออ หนูว่า พี่เหมาะกับการเป็นHERO มากกว่าหนูอีกนะ ไหนจะความรอบคอบ การให้กำลังใจคนรอบข้าง การมองการไกล การวิเคราะห์และประเมินผล รวมไปถึงการเตรียมพร้อมต่อทุกสถานการณ์อีก ที่สำคัญสุด ทุกย่างก้าวที่พี่เดินผ่าน พี่ล้วนคิดถึงแต่ความปลอดภัยของคนอื่น คนแบบพี่นี้ละ สมกับเป็นHERO จริงๆ”

    “บรืม! ยัยน้องตัวแสบ เธออย่ามาพูดอะไรน่าขยะแขยงแบบนั้นซิ แค่คิดถึงเรื่องที่เธอพูด พี่ก็สั่นไปทั้งตัวแล้ว ต่อให้ตายพี่ก็ไม่คิดจะเป็นHERO หรอกนะ”

    เทียน่ามองโช ก่อนจะส่ายหน้าเล็กน้อย พร้อมพูดว่า”เออ เสียดายของจริงๆนะเนี่ย”

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×