ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ผมนี้ละ ผู้นำองค์กรชั่วที่ร้ายกาจที่สุด

    ลำดับตอนที่ #3 : ข้อบังคับแห่งองค์กรชั่ว ข้อที่ 2

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.32K
      7
      13 ส.ค. 56

     

    ข้อบังคับแห่งองค์กรชั่ว ข้อที่ 2 จงละทิ้งคนเจ็บและคนที่เดือดร้อนให้ตายไปเพื่อเป็นการตัดปัญหา แต่ถ้าทำไม่ได้จงช่วยเหลือพวกเขาอย่างสุดกำลัง

     

                “บัตรเข้าสอบ เอามาหรือยัง”

                “เรียบร้อยคะ”

                “ปากกา ดินสอละ เอามาไหม”

                “เรียบร้อยคะ”

              “กระเป๋าเงิน กับโทรศัพท์มือถือละ เอามาแน่นนะ”

                “ทั้งหมดอยู่ตรงนี้ไงละ “เสียงที่พูดออกมาคือเสียงของเทียน่าที่กำลังชี้ให้โชได้เห็นถึงกระเป๋าเงินและมือถือของตนเองว่าเก็บไว้ตรงไหน โชซึ่งถือกระดาษแผ่นหนึ่งเอาไว้ เขาเอาเอาปากกาขีดฆ่าในสิ่งที่เทียน่าตอบ ไม่นานเขาก็ถามต่อว่า

                “บัตรประชาชน ATM ละ เอามาด้วยไหม”

                “เรียบร้อยคะ “เทียน่าตอบออกมาทันที โชขีดฆ่ารายการที่เป็นบรรทัดสุดท้ายออก ก่อนจะยิ้มแล้วถามออกมาว่า

                “งั้น ความมั่นใจละ เอามาด้วยไหม”

                “เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ค่ะ”เทียน่าพูดออกมา ก่อนจะชู 2 นิ้วให้วาตะได้เห็น แน่นอนว่าน้ำเสียงที่พูดออกมานั้นเต็มไปน้ำเสียงมั่นใจแบบสุดๆ

                โชที่เห็นแบบนั้น เขาก็เอามือลูปผมเทียน่า ก่อนจะพูดออกมาว่า”งั้นก็ไปได้แล้วละ จำไว้นะอนาคตของตัวเรา คนที่จะกำหนดมันได้ก็คือตัวเองไม่ใช่โชคชะตา  น้องพยายามเข้าละ พี่จะคอยฟังข่าวดีอยู่ที่บ้าน”

                “ค่ะ “เทียน่าตอบออกมาอย่างแข็งขัน ไม่นานเธอก็หยิบกระเป๋าสะพายที่พื้นขึ้นมา ก่อนจะหันหลังเดินเข้าไปในประตูใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังเธอ โชมองเทียน่าที่เดินเข้าไปในประตูใหญ่ ก่อนจะหันไปดูรอบๆ ที่เขาอยู่ในเวลานี้ คือ มหาลัยเฉพาะทางสำหรับHERO นั้นเอง ซึ่งคนทั่วไปเรียกมหาลัยแห่งนี้ว่า U-hero มหาลัยแห่งนี้ก่อตั้งโดย สมาคมHERO และยังบริหารงานโดยHEROอีกด้วย พื้นที่ของมหาลัยนี้กินพื้นที่ 1 ใน 10 ของจังหวัดที่พวกโชอาศัยอยู่เลยก็ว่าได้ แถมระบบรักษาความปลอดภัยก็ถือว่ายอดเยี่ยมที่สุด

    ใน 1 ปีจะเปิดให้คนนอกเข้าไปเยี่ยมชมได้แค่ 2 วันคือ วันที่มีงานประจำมหาลัยหรือพูดอีกอย่างก็คือวันสำเร็จการศึกษานั้นเอง และอีกวันก็คือวันสอบเข้ามหาลัยหรือก็คือวันนี้เอง แม้วันนี้จะเปิดให้ผู้คนเข้าไปเยี่ยมชม แต่โชก็ไม่ยอมเข้าไปในถิ่นของศัตรู(ที่เขาคิดเอาเองแต่ฝ่ายเดียว )อย่างเด็ดขาด

                ดังนั้นโชจึงได้มาส่งเทียน่าแค่ที่ประตูใหญ่ จากนั้นเขาก็ให้เธอเดินเข้าไปเอง แน่นอนว่ามีหลายคนที่ทำแบบเดียวกับเขา แต่คนส่วนใหญ่มักจะเข้าไปส่งถึงที่รายงานตัวของผู้สมัครสอบที่อยู่ข้างใน โชมองเทียน่าเดินไปจนสุดสายตา จากนั้นเขาก็ก้มลงหยิบกระเป๋าสะพายสีดำขึ้นมา ก่อนจะทำท่าจะเดินจากไป ขณะที่เป็นแบบนั้น รถลีมูซีนสีดำก็ทำท่าจะเลี้ยวเข้าประตูใหญ่ โชจึงได้แต่หลีกทางให้รถไปก่อน พอรถคันนี้วิ่งผ่านหน้าโชไปเขาก็คิดขึ้นมาว่า

                ( นั้น มันสัญญาลักษณ์ของสำนัก ชินโตริว นี้ ไม่คิดเลยว่าปีนี้จะมีคนมาสอบเป็นHERO ด้วย)

     

                สำนักชินโตริว เป็นหนึ่งในสำนักที่ถ่ายทอดศิลปะการต่อสู้แบบโบราณที่ติดต่อกันมานานกว่า 400 ปีและสำนักนี้ก็จัดเป็นสำนักที่มีอิทธิพลที่สุดในยุคนี้อีกด้วย เพราะลูกศิษย์ที่จบจากสำนักนี้ต่างทำงานให้กับทุกองค์กรที่มีอยู่ในโลกเลยก็ว่าได้ ขณะที่โชกำลังมองรถให้ขับผ่านไปอย่างช้าๆ พอรถลีมูซีนขับผ่านไป โชก็ออกเดินต่อ เขาต้องเดินไปที่ป้ายรถประจำทางที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 1-2 กิโล แต่ขณะที่เดินอยู่นั้น เขาต้องเดินผ่านปากซอยแห่งหนึ่ง และพอผ่านปากซอยไปเท่านั้น เสียงร้องของใครบางคนก็ดังขึ้นมาจากในซอยว่า

              “โอ๊ย”

                โชที่ได้ยินเสียงนั้น เขาจำเป็นต้องหยุดที่ปากซอย ก่อนจะมองเข้าไปด้านในซอย นั้นทำให้เขาเห็นชายกลางคนกำลังเอามือกุมหน้าอกด้วยอาการที่ทรมาน โชรีบวิ่งเข้าไปหาชายคนนั้นทันที พอโชมาถึงชายคนนั้นก็ชี้ไปทางกระเป๋าที่ตกอยู่ไม่ไกลนัก ก่อนจะเค้นคำพูดออกมาว่า

                “ยา ช่วยหยิบยาให้ที”

                โชที่ได้ยิน เขารีบหยิบกระเป๋ามาเปิดออกทันที ซึ่งภายในกระเป๋าก็มีขวดยาบางอย่างอยู่ โชอ่านฉลากยาที่หน้าขวด ก่อนจะเทยาในขวดออกมา 1เม็ด จากนั้นเขาก็ป้อนยาให้กับชายคนที่กำลังเจ็บหน้าอกเวลาผ่านไปอีกสักพัก ชายกลางคนก็มีสีหน้าดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โชที่เห็นจึงถอนหายใจออกมา สักพักชายคนนั้นก็รู้สึกตัว เขาหันมามองโชก่อนจะพูดออกมาว่า

                “ขอบคุณนะ พ่อหนุ่ม นี้ถ้าไม่ได้พ่อหนุ่ม ฉันคงแย่แน่ๆ”

                “ไม่เป็นไรครับ เวลาเจอคนเดือนร้อนก็ต้องช่วยกันซิครับ”โชตอบออกมาอย่างยิ้มๆ ชายกลางคนก้มหัวเป็นการขอบคุณโชอีกครั้ง จากนั้นเขาก็พยายามจะลุกขึ้นยืนเพื่อที่จะเดินจากไป แต่เขาเดินได้ไม่นานก็ล้มลงอีก โชได้แต่เข้าไปพยุงชายคนนั้นให้นั่งดีๆ ก่อนจะพูดออกมาว่า

                “เออ คุณลุงครับ ผมว่านั่งพักต่ออีกสักครู่ดีกว่านะ”

                “ไม่ได้หรอก พ่อหนุ่ม ลุงต้องเอาของไปให้ลูกนะ ขืนไปไม่ทันลูกของลุงคงเสียใจแย่”เสียงของ

    ชายกลางคนดังขึ้นมา ไม่นานเขาก็พยายามจะลุกขึ้นยืนอีกครั้งแต่ก็ไม่อาจจะยืนได้ โชที่เห็นแบบนั้น เขาก็พูดออกมาว่า

                “ลุงครับ สภาพของลุงในตอนนี้เดินต่อไปไม่ไหวหรอก ถ้าลุงเชื่อใจผม ผมจะอาสาเอาของไปให้ลูกของลุงก็แล้วกัน ส่วนลุงก็พักอยู่ที่นี้ต่อไปก่อนนะ”

                ชายกลางคนมองโช ก่อนจะพูดออกมาว่า”ถ้าพ่อหนุ่มไม่คิดว่าเป็นการเดือดร้อนเกินไปก็เอาตามที่พ่อหนุ่มว่ามาก็แล้วกัน ลุงขอฝากกระเป๋าเงินใบนี้ไปให้ลูกสาวของลุงด้วยนะ”

                ชายกลางคนพูดจบ เขาก็ส่งกระเป๋าเงินที่ดูน่ารักใบหนึ่งให้กับโช  ก่อนจะพูดต่อว่า”ลูกสาวของลุงรออยู่ที่จุดรายงานตัวผู้สมัครสอบ ใน U-hero นะ ถ้าไงลุงวานพ่อหนุ่มรีบเอากระเป๋าในนี้ไปให้ที”

                โชที่ได้ยิน เขาถึงกับทำหน้าแหยๆ แต่พอเห็นสีหน้าของชายกลางคนแล้ว เขาจึงจำเป็นต้องพูดออกมาว่า”เข้าใจแล้วครับ ผมจะนำไปส่งให้ แต่ไม่ทราบว่าลูกสาวของลุงชื่ออะไรละครับ แล้วไม่ทราบว่าเธอมีจุดเด่นอะไรบ้าง ”

                “ลูกสาวของลุงชื่อ ยูกิ  ส่วนลักษณะเด่นคือเธอแต่งชุดมิโกะนะ เธออาจจะดูบอบบางแต่ค่อนข้างแข็งแรงเกินใครเลยละ  ถ้าไงพ่อหนุ่มช่วยรีบหน่อยจะได้ไหมเพราะอีกไม่นานการสอบHERO รอบแรกก็จะเริ่มแล้วนะ ลุงกลัวว่าลุกสาวจะไปสอบไม่ทันนะ”ชายกลางคนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงข้อร้อง โชที่ได้ยิน เขาได้แต่พยักหน้าเพราะสีหน้าของชายกลางคนในเวลานี้ต่างแสดงถึงการฝากความหวังไว้ที่เขาโดยตรง พอชายกลางคนเห็นโชรับปากแล้ว เขาก็ยิ้มขึ้นมาอย่างโล่งใจ โชที่เห็นจึงรีบเอาประเป๋าเงินใส่กระเป๋า ก่อนจะวิ่งออกไปทันที

    จุดรายงานตัวผู้สมัครสอบ

              โชวิ่งตรงมาหยุดตรงต้นไม้ที่อยู่ไม่ไกลจากจุดรายงานตัวนัก เขาหยุดพักเหนื่อยพร้อมมองไปรอบๆเพื่อหาคนที่ต้องการ แต่ขณะที่เป็นแบบนั้นเสียงของใครบางคนก็ดังขึ้นมาว่า

                “โธ่โว้ย การทดสอบแบบนั้นใครมันจะสอบผ่านฟะ “

                 โชหันไปมองทางต้นเสียง สิ่งที่เขาเห็นคือ ชาย 2 คนที่กำลังเดินมาทางที่เขายืนอยู่และ 1 ใน 2 คนนั้นก็ดูหัวเสียเป็นอย่างมาก ไม่นานชายอีกคนที่กำลังเดินตามคนหัวเสียมานั้นก็พูดออกมาว่า

                “คุณหนูครับ อย่าเพิ่งหัวเสียซิ คุณหนูเองไม่ใช่หรือที่บอกว่าอยากจะเป็นHEROเพื่อเอาใจนายท่าน และต้องการทำให้นายท่านหายโกรธในเรื่องนั้นนะ  ถ้ายังไงคุณหนูไม่ลองกับไปทดสอบดูใหม่อีกสักครั้งละครับ”

                ชายคนที่หัวเสีย หันมามองคนที่พูด ก่อนจะดึงของบางอย่างที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อข้างซ้ายออกมาขยำ จากนั้นก็ปาลงพื้น ไม่นานเขาก็พูดออกมาว่า

                “แกหุบปากไปเลยนะ แกไม่ได้เป็นคนสอบก็พูดได้นี่  แกรู้ไหมว่าถ้าผิดพลาดอะไรขึ้นมา ฉันอาจจะต้องตายเลยนะ “

                “เออ แต่ว่าถ้าคุณหนูสอบไม่ผ่านขึ้นมา ผมว่านายท่านอาจจะโกรธคุณหนูยิ่งกว่าเดิมก็เป็นไปได้นะครับ”ชายหนุ่มอีกคนบอกออกมาด้วยท่าทางกลัวๆ

                “ช่างหัวตาแก่นั้นซิ ไม่ว่าอย่างไงฉันก็ไม่คิดจะกลับไปสอบอีกแล้ว พวกเราไปเที่ยวกันเถอะ”

                “เออ แต่ว่า...”

              “แกหุบปากไปเลย ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะทำแบบนี้ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น ฉันจะรับผิดชอบเอง”ชายหนุ่มหัวเสียพูดจบ เขาก็เดินจากไป โดยมีชายหนุ่มอีกคนเดินตามไปติดๆ โชที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เขาเดินมาเก็บของที่ชายคนนั้นขยำทิ้ง ก่อนจะคลี่มันออกดูซึ่งสิ่งที่เห็นก็คือบัตรประจำตัวสอบ ที่มีชื่อเขียนเอาไว้ว่า

    ไซมอน โรแมน หมายเลข 8958  โชมองบัตรสอบในมืออย่างหน่ายใจเพราะสำหรับชายที่ขยำบัตรสอบทิ้งดูว่าค่าสมัครสอบจะเป็นเรื่องเล็กมากสำหรับเขา แต่ถ้าเทียบกับครอบครัวของโชแล้วค่าสมัครสอบที่จ่ายไปนั้นเพียงพอกับค่าอาหารของครอบครัวของเขา 1 สัปดาห์เลยนะ โชมองบัตรสอบอยู่พักใหญ่ จากนั้นเขาก็นึกขึ้นมาได้ว่าเขามาที่นี้เพราะอะไร เขาจึงรีบมองไปรอบๆ ไม่นานโชก็รีบวิ่งเข้าไปหาหญิงสาวในชุดมิโกะที่อยู่ไม่ไกลนัก พอโชเข้ามาใกล้เธอ เขาถึงกับอึงไปทันทีเพราะยูกิมีหน้าตาที่เรียกได้ว่าสวยมากๆ ดวงตาของเธอเป็นสีดำ ผมที่ยาวสลวยอยู่ด้านหลังแม้เธอจะมัดผมไว้ แต่ก็ทำให้คนที่เธอต่างมองเธอตาเป็นมัน ริมฝีปากของเธอเป็นสีชมพูออก เมื่อนำมารวมกับชุดมิโกะสีขาวแดงแล้วทำให้ผู้ชายที่เธอต่างต้องหยุดมองเธอแทบทุกคน โชเองก็เป็น 1 ในนั้น ไม่นานเขาก็รู้สึกตัว  เขารีบพูดออกมาว่า

                “เออ ไม่ทราบว่าคุณชื่อยูกิใช่ไหมครับ”

                หญิงสาวในชุดมิโกะมองมาที่โชอย่างงงๆ ก่อนจะพูดออกมาว่า”ใช่ค่ะ ไม่ทราบว่าคุณเป็นใครกันคะ?”

                โชยิ้มอย่างโล่งอก ก่อนจะส่งกระเป๋าเงินในมือไปให้ยูกิ ก่อนจะพูดออกมาว่า”คุณพ่อของคุณฝากให้ผมเอากระเป๋าใบนี้มาให้นะครับ”

                ยูกิรับกระเป๋าเงินมา ก่อนจะพูดออกมาว่า”เออ แล้วคุณพ่อทำไมถึงฝากกระเป๋าใบนี้มากับคุณได้ละ”

                โชที่ได้ยินแบบนั้นเขาจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดออกไปให้ยูกิได้ฟัง ก่อนจะพูดปิดท้ายออกมาว่า”คุณ

    ยูกิไม่ต้องห่วงไปนะครับ ตอนที่ผมจากมาคุณพ่อของคุณอยู่ในสภาพที่ดีขึ้นมากแล้ว ผมคิดว่าอีกไม่นานท่านก็คงจะไม่เป็นอะไรแล้วละ ”

                ยูกิที่ได้ยินแบบนั้น เธอก็ถอนใจออกมาอย่างโล่งอก ไม่นานเธอก็โค้งตัวลงให้กับโชหนึ่งครั้ง ก่อนจะพูดออกมาว่า”ขอบคุณมากคะ เออ คุณไซมอนซินะ”

                โชถึงกับอึงไปทันทีทียูกิพูดแบบนั้นออกมา เขามองเธออย่างงงๆ ไม่นานยูกิก็ชี้มาที่บัตรประจำตัวสอบ ในมือของโช ก่อนจะพูดออกมาว่า

                “พอดีตอนฉันโค้งตัวลงไปนั้น ฉันบังเอิญเห็นชื่อที่บัตรประจำตัวสอบของคุณนะ หวังว่าคุณคงไม่โกรธในเรื่องที่ฉันสอดรู้สอดเห็นเกินไปนะ”

                โชได้แต่ยิ้มแหยๆให้กับเธอ ไม่นานเขาก็พูดออกมาว่า”ในเมื่อคุณยูกิได้ของแล้ว ผมก็คงต้องขอตัวเลยละกัน”

    โชรีบพูดตัดบททันทีเพราะเขาไม่ต้องการยุ่งกับยูกิมากไปกว่านี้แล้ว โชรีบหลังหลังเดินไปอีกทาง แต่พอเขาจะเดินจากไปเท่านั้น ยูกิจับชายเสื้อของโชเอาไว้แน่นชนิดว่าโชแทบจะลื่นก้นกระแทกพื้นเลย ถ้าเขายังฝืนเดินต่อไป ไม่นานยูกิก็พูดออกมาว่า

    “เออ คุณไซมอนค่ะ คุไปผิดทางแล้วละ สนามสอบอยู่ทางด้านนี้ต่างหาก “

    ยูกิพูดจบ เธอก็ชี้นิ้วไปอีกทาง โชได้แต่ยิ้มแหยๆออกมา เขาทำท่าจะอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้ยูกิฟังเพราะเขาไม่ต้องการให้เธอเข้าใจผิดไปมากกว่านี้อีกแล้ว แต่ขณะที่กำลังจะเริ่มอธิบาย เสียงของใครบางคนก็ดังออกมาจากลำโพงที่อยู่ไม่ไกลนักว่า

    “ขอให้ผู้เข้าสอบทุกคนที่ยังไม่ได้เข้าทดสอบให้ไปประจำสนามสอบที่ 3 ทันที ไม่เช่นนั้นจะถือว่าคุณสละสิทธ์ในการสอบ” 

                ยูกิที่ได้ยินแบบนั้น เธอจึงรีบดึงมือของโชไปในทางสนามสอบทันที โชที่ถูกยูกิดึงมือไป เขาพยายามจะสะบัดมืออกแต่มันก็ดูไม่เป็นผลเลย  โชจึงเปลี่ยนไปเป็นพยายามดึงมือออก แต่ก็ไม่สามมารถทำได้ แถมแรงที่ยูกิให้ดึงเขาให้ไปกับเธอนั้นก็มีมากซะจน เขาทำได้แต่เดินตามไปเท่านั้นเอง วาตะที่ได้แต่เดินตามยูกิไปนั้นเขาก็คิดถึงคำพูดของพ่อยูกิขึ้นมาว่า

                (เออ แบบนี้ไม่เรียกว่า ค่อนข้างแข็งแรง แล้ว แบบนี้มันแรงช้างชัดๆ แสดงว่ายัยนี้ก็คงเป็นพวกNT เหมือนกันสินะ ส่วนสายของพลังก็อาจจะเป็นสายเสริมพลังให้กับร่างกายแน่ๆ เออ ตอนนี้คงได้แต่ตามยัยนี้ไปก่อนจากนั้นค่อยหาโอกาสชิ่งหนีที่หลังก็ละกัน)

                โชที่คิดแบบนั้น เขาก็ได้แต่เดินตามแรงดึงของยูกิไป พอเดินมาได้สักพัก พวกเขาทั้งสองคนก็มาหยุดข้างสระน้ำที่มีป้ายเขียนไว้ว่า สนามสอบรอบ 1 สนามที่ 3  ยูกิจึงปล่อยมือของโชแน่นอน มือข้างนั้นถึงกับบวมแดงไปทั่วทั้งมือเลย โชรีบซ่อนมือเอาไว้ข้างหลังเพราะเขากลัวยูกิเห็นแล้วจะรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนผิดที่ทำให้เขาบาดเจ็บแบบนี้  ขณะที่โชกำลังทำแบบนั้น ยูกิก็พูดออกมาว่า

                “เออ ในที่สุดพวกเราก็มาถึงสนามสอบจนได้ ดีนะที่คุณไซมอนเอากระเป๋าเงินมาให้ฉันได้ทัน ขืนช้ากว่านี้ฉันต้องหมดสิทธ์สอบแน่ๆ จริงซิไม่ทราบว่าเมื่อสักครู่ที่ฉันจับมือของคุณนั้น มือของคุณได้รับบาดเจ็บบ้างไหมค่ะ”

                โชมองเห็นสีหน้าของยูกิที่มีเป็นห่วงมือของเขา โชจึงรีบปั้นรอยยิ้ม ก่อนจะพูดเพื่อเปลี่ยนเรื่องว่า “เออ คุณยูกิ คุณจะว่าอะไรไหมถ้าผมจะถามว่าทำไมกระเป๋าเงินใบนั้นถึงได้สำคัญนัก หรือว่าคุณใส่บัตรประจำตัวผู้สอบเอาไว้ข้างในหรือ?”

                “สุดยอด!! คุณไซมอนรู้ได้ยังไงว่าฉันลืมบัตรสอบเอาไว้ในกระเป๋า หรือว่าคุณเป็นพวกมีพลังพิเศษสายอ่านใจคะ”ยูกิถามออกมาด้วยท่าทางตื่นเต้น

                โชที่เห็นแบบนั้น เขาก็แน่ใจว่ายูกิไม่สนใจในมือของเขาแล้ว ไม่นานเขาก็ตอบออกไปว่า”เออ ผมแค่เดาเอานะครับ แบบว่าผมเห็นผู้เข้าสอบคนอื่นๆ เข้าไปในสนามสอบหมดแล้ว แต่คุณยูกิยังรอกระเป๋าเงินอยู่ ผมก็เลยเดาว่าต้องเป็นแบบนั้นนะ”

                ยูกิพยักหน้าอย่างเข้าใจ  สักพักยูกิก็นำหน้าโชเข้าไปในสนามสอบ แน่นอนว่าโชก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะเดินตามไปแต่โดยดี ไม่นานโชและยูกิก็มาถึงสระน้ำที่มีขนาดใหญ่ แม้ด้านกว้างจะไม่มากนัก แต่ความยาวจากฝั่งที่เขาอยู่กับฝั่งที่อยู่อีกด้านนั้นยาวเกินกว่า 500 เมตรแน่  โชจ้องมองสระ ก่อนจะมองไปรอบๆซึ่งเขาเห็นผู้คนกว่า 20 คนที่ยืนอยู่ด้านหน้าสระ และด้านข้างของสระก็มีหน่วยพยาบาลที่กำลังปฐมพยาบาลให้กับคนเจ็บอยู่ แน่นอนว่าคนเจ็บนั้นมีมากกว่า คนที่ยืนอยู่ประมาณ 2-3 เท่าตัวได้ ขณะที่โชกำลังมองสถานการโดยรวม ยูกิเองก็มองไปรอบๆ เพื่อหาอะไรบางอย่าง พอเธอเห็นใครคนหนึ่ง เธอก็จัดการดึงมือของโชไปทันที

    แน่นอนว่าโชได้แต่ตามเธอไปอย่างช่วยไม่ได้เพราะแรงดึงของเธอเป็นอะไรที่เขาไม่สามารถขัดขืนได้เลย ยูกิพาโชเดินมาหาคนผู้นั้น  พอยูกิเดินเข้ามา คนผู้นั้นก็วิ่งเข้ามาหายูกิ จนโชได้โอกาสสะบัดมือให้หลุดออกแน่นอนว่าครั้งนี้ไม่ทำให้มือเขาเจ็บอะไรมากนัก โชรีบแกล้งหันไปดูสระน้ำเพื่อปกปิดสีหน้าที่เจ็บปวดที่เกิดจากการมือที่บวมแดง ขณะนั้นเองยูกิก็พาคนผู้นั้นมาหาโช พร้อมพูดออกมาว่า

    “คุณไซมอนค่ะ นี้คือเพื่อนของฉันค่ะ”

    โชได้แต่ปั้นหน้ายิ้ม ก่อนจะหันไปตามเสียงของยูกิ และสิ่งที่เขาเห็นคือหญิงสามผมสีทองที่ตัดสั้นจนเธอดูคล้ายทอม ไม่เพียงแค่นั้นเธอยังใส่เสื้อยืด กางเกงยีนมาสอบอย่างไม่อายใครอีกด้วย แต่ที่หน้าแปลกคือแขนของเธอนั้นพันด้วยผ้าขาวอย่างลวกๆ แถมถ้าผ้าขาวนั้นยังมีเลือดซึมไหลออกมา ซึ่งนั้นก็หมายความว่าแผลนั้นเพิ่งเกิดมาได้ไม่นาน โชจ้องมองแผลนั้น จนกระทั้งได้ยินเสียงยูกิพูดออกมาว่า

    “คุณไซมอนค่ะ นี่คือ นามิ เธอเป็นเพื่อนสนิทที่เรียนจบมาจากที่เดียวกันนะ และเธอก็ยังเป็นคนชวนให้ฉันมาสอบเป็นHEROด้วยกันอีกนะ”

                พอยูกิแนะนำตัวนามิเสร็จ ไม่นานนามิก็ยกมือขึ้นก่อนจะพูดออกมาว่า“เออ คุณไซมอนคะ ไม่ทราบว่าคุณพอจะบอกอายุของตัวเองได้ไหม แบบว่าฉันอยากรู้นะว่าคุณอายุเท่าไรนะ”

                “นามิ เธออย่าเสียมารยาทแบบนั้นซิ”ยูกิร้องออกมา แต่นามิกลับยิ้มพร้อมพูดว่า”โธ่ ยูกิ เธอเองก็อยากรู้ใช่ไหมว่าคุณไซมอนอายุเท่าไร”

                “24 ย่าง 25 ครับ “โชตอบออกไปตามตรง ก่อนจะพยายามเคลื่อนตัวไปทางซ้ายเพื่อใช้ตัวของนามิปิดปังมือที่บวมแดงอยู่

                “24ปี !! คุณไซมอนนี่คุณอายุมากถึงขนาดนั้นเฉียว แล้วทำไมคุณถึงได้เพิ่งคิดจะมาเป็นHERO ในตอนนี้ละ ไม่ซิ มหาลัยนี้รับสมัครคนเข้าเรียนที่อายุเยอะขนาดนี้เลยหรือ?”เสียงของนามิพูดออกมาโดยไม่มีความเกรงใจ ยูกิที่ได้ยินถึงกับต้องหันไปก้มหัวขอโทษให้กับโชอีกครั้ง ซึ่งโชเองก็ได้แต่ยิ้มแหยๆ ก่อนจะคิดขึ้นมาว่า

                (อายุมากแล้วมันหนักหัวเธอหรือยังไงกันนะ ยัยทอมบอย อีกอย่างผมก็ไม่ได้คิดจะเป็นHERO สักหน่อย ที่มาอยู่ก็เพราะเพื่อนเธอฉุดมาต่างหากเหล่า )

                ขณะที่โชกำลังคิดแบบนั้น เขาก็เห็นผ้าพันแผลที่แขนของนามิเริ่มมีสีแดงขึ้นไปอีก โชจึงถอนหายใจ ก่อนจะหันไปพูดกับนามิว่า

                “ถ้าคุณอยากรู้คำตอบ ยื่นแขนขวาของคุณออกมาก่อนซิครับ แล้วผมจะตอบคำถามที่ให้”

                นามิที่ได้ยิน เธอทำท่างงๆแต่ขณะที่เธอลังเลว่าควรจะยื่นแขนออกไปดีหรือไม่นั้น โชก็จับมือขวาที่ไม่ได้รับบาดเจ็บก่อนจะชูแขนข้างนั้นขึ้นมา ยูกิที่เห็นแขนของเพื่อนว่ามีผ้าพันแผลเปื้อนเลือดพันไว้ เธอถึงกับเอามือปิดปาก นามิเองที่เห็นแขนของตัวเองถูกยกขึ้นมา เธอพยายามจะดึงมือกลับแต่ก็ไม่เป็นผล โชมองผ้าพันแผลนั้นอยู่พักใหญ่ ก่อนจะพูดออกมาว่า

                “ไม่ได้เรื่อง ใครกันที่พันผ้าแบบนี้ ไม่เพียงแต่ผ้าจะไม่ช่วยหยุดเลือดแล้ว ดีไม่ดีอาจจะทำให้แผลติดเชื้อหนักกว่าเดิมด้วย “

                โชที่พูดจบ เขาก็ปล่อยมือของนามิลง นามิได้แต่ร้องออกมาเล็กน้อยเพราะแขนเอไปกระทบเข้ากับลำตัวจนทำให้เลือดไหลออกมากขึ้น เธอจ้องมองโชก่อนจะพูดออกมาว่า

                “นี่นาย ทำอะไรของนายนะ รู้ไหมว่ามันเจ็บ อีกอย่างนายเป็นหมอหรือยังไงถึงได้กล้าพูดแบบนั้นออกมานะ”

                โชส่ายหน้า ก่อนจะเอามือไปล้วงกระเป๋าสะพายสีดำเพื่อหยิบอะไรบางอย่างขึ้นมา จากนั้นเขาก็พูดออกมาว่า”ไม่ใช่ครับ ตอนนี้ผมมันก็แค่พนักงานในร้านหนังสือก็เท่านั้นเอง เพียงแต่ผมเคยทำงานเป็นPast – Time เป็นบุรุษพยาบาลมาพักใหญ่ก็เลยพอจะรู้เรื่องการทำแผลบ้าง ถ้าคุณนามิไม่อยากจะให้แผลเลือดออกมากไปกว่านี้ คุณก็ยกแขนขึ้นมาซะ ผมจะทำแผลให้ใหม่”

                โชพูดจบ เขาก็หยิบเอาผ้าพันแผลขึ้นมาจากกระเป๋าสะพายสีดำ ไม่เพียงแค่นั้นเขายังมีทั้งน้ำยาล้างแผล และยาใส่แผลสดอีกด้วย นามิและยูกิถึงกับอ้าปากค้างไปเลยที่เห็นของพวกนี้ ไม่นานยูกิก็พูดขึ้นมาว่า

    ”เออ คุณไซมอน นี้คุณพกพาของพวกนี้ไปไหนมาไหนด้วยหรือคะ?”

    “มันเป็นความเคยชินนะครับ”โชตอบออกไปตรงๆเพราะเขามันจะเจอปัญญาเกี่ยวกับบาดแผลบ่อยมาไม่ว่าจะเรื่องงานตอนเป็นบุรุษพยาบาล หรืออุบัติเหตุที่เกิดจากความวู่วามของน้องสาวกับแม่  และผู้ที่เคราะห์ร้ายจากเหตุการณ์พวกนั้นประจำก็คือ เขาและพ่อ ดังนั้นในกระเป๋าสะพายของโชจะมีอุปกรณ์ทำแผลจนถึงอุปกรณ์เย็บแผลเอาไว้เป็นประจำ

    นามิที่เห็นอุปกรณ์ทั้งหลาย เธอก็ยื่นมือไปให้กับโชแต่โดยดี โชค่อยๆเอาผ้าที่พันแผลออกอย่างเบาๆ และพอเขาเห็นแผลที่นามิโดน เขาก็พูดออกมาเบาๆว่า

    “ปลาปิรันย่าหรือ?”

    คำพูดของโชทำเอานามิและยูกิอึงไปพักใหญ่ ไม่นานยูกิก็พูดออกมาว่า”คุณไซมอนค่ะ นี้คุณแค่เห็นแผลก็ทราบแล้วหรือว่าโดนตัวอะไรทำร้ายมานะ”

    โชพยักหน้าแต่ไม่ตอบ ไม่นานเขาก็เอามือที่แดงหยิบของบางอย่างออกจากกระเป๋า ของสิ่งนั้นคือหลอดใส่ยาทาแผล โชหันไปพูดกับนามิว่า

    “คุณนามิครับ แผลของคุณนั้นเกิดจากโดนปลาปิรันย่ากัดเอา เพียงแต่ปลาปิรันย่าที่กัดคุณนั้นเป็นปลาที่ถูกเลี้ยงมาแบบพิเศษซึ่งทำให้ฟันของมันมีสารบางชนิดที่จะทำให้เลือดไม่แข็งตัว ดังนั้นผมจำเป็นต้องขอทายาเพื่อหยุดเลือดที่ไหลออกมาก่อนนะครับ”

    โชไม่รอให้นามิอนุญาต เขาตัดสินใจรักษาแผลในทันที นามิถึงกับหลับตาลงด้วยความกลัวภาพที่เห็น แต่ไม่นานเธอก็ลืมตาขึ้นเพราะเธอไม่รุ้สึกเจ็บแม้แต่น้อย โชเริ่มลงมือล้างแผลและใส่ยาที่แผลอย่างช้าๆ ในที่สุดเขาก็ใช้เวลาประมาณ 5 นาทีในการพันแผลจนเสร็จ  ซึ่งตั้งแต่เริ่มทำจนถึงตอนนี้นามิแทบจะไม่มีความรู้สึกเจ็บแม้แต่น้อย โชจัดการเก็บของทั้งหมดลงกระเป๋า ก่อนจะพูดว่า

    “ผมปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้แล้วนะครับ ถ้าไม่ไปกระทบกระเทือนอะไรมากนักผมคิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไรหรอกครับ อ้อ ส่วนคำตอบเรื่องที่คุณถามนั้น ตามกฎหมายปัจจุบัน มาตราที่ 258 ในหมวดที่เกี่ยวกับHERO  ผู้ที่จะเป็นHERO จะต้องมีอายุอยู่ในช่วงตั้งแต่ 15 – 50 ปี เท่านั้น ถ้าน้อยกว่า หรือมากกว่านั้นจะไม่สามารถเป็นได้ ดังนั้นผมคิดว่ามหาลัยนี้ก็คงใช้หลักการนี้ในการเลือกรับHERO เช่นเดียวกันนะครับ”

    คำตอบของโชทำเอานามิยิ้มแหยเพราะเธอไม่คิดว่าโชจะตอบแบบจริงจังอย่างนี้ ไม่นานยูกิที่เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่แรกก็พูดขึ้นมาว่า

    “เท่าที่ฉันเห็นคุณน่าจะแน่นเรื่องกฎหมายมากพอตัวเลย ไหนจะเรื่องตัวยาที่ใช้ในการหยุดเลือดอีก นี่ยังไม่รวมสายตาที่มองรอยแผลเพียงแวบเดียวก็ทราบแล้วว่าโดนตัวอะไรกัน คุณไซมอนนี้คุณเป็นใครกันคะ   

    โชได้แต่ยิ้มแหยๆ ก่อนจะตอบว่า”ผมเป็นคนธรรมดาทั่วไปนะครับ เพียงแต่ผมผ่านงานมาเยอะกว่าคนทั่วไปเลยทำให้รู้เยอะกว่าคนอื่นนิดหน่อยนะครับ“

    ยูกิมองโช ก่อนจะพูดออกมาว่า”เข้าใจแล้วคะ ในเมื่อคุณไซมอนไม่อยากตอบก็ไม่ต้องตอบก็ได้ เพียงแต่ว่าคุณช่วยแบมือขวาของคุณให้ฉันดูหน่อยจะได้ไหม”

    “โชที่ได้ยินแบบนั้น เขาได้แต่ยิ้มแหยๆ ออกมาเพราะยุกิรุ้แล้วว่ามือขวาของเขาได้รับบาดเจ็บเพราะเธอ โชจึงได้แบมืออกไปตามที่เธอขอ ยุกิที่เห็นแบบนั้นเธอจ้องมองดชด้วยสายตาที่บอกไม่ถูก จากนั้นเอก็เอามือทั้งสองข้างจับที่มือขวาที่บวมแดง ก่อนจะพูดเบาๆว่า

    Healing

    แสงสว่างสีขาวจากมือของเธอค่อยๆทำให้มือขวาที่บวมแดงอยู่ค่อยๆยุบลงจนเป็นปกติ  โชที่เห็นแบบนั้นจึงพูดขึ้นมาว่า

    Psychic Healing ( การรักษาด้วยพลังจิต)หรือ? เป็นไปไม่ได้ก็ในเมื่อNT 1 คนจะมีพลังพิเศษแค่ 1อย่างนี้แล้วทำไมเธอถึงมี 2อย่างละ”

    ยูกิที่ได้ยินแบบนั้นเธอยิ้มก่อนจะพูดออกมาว่า”ฉันมีแค่อย่างเดียวคะ ซึ่งนั้นก็คือ Psychic Healing ( การรักษาด้วยพลังจิต) เท่านั้น”

    “แล้วไอ้แรงช้างที่เธอใช้ฉุดลากผมมาที่นี้ละเป็นอะไร”

    “อ้อ นั้นไม่ใช่พลังพิเศษหรอกคะ มันเป็นความสามารถเฉพาะตัวที่มีมาตั้งแต่เกิดแล้วละ เรียกว่าพรสวรรค์ก็คงได้”

    โชได้แต่ยิ้มแห้งๆออกมา ก่อนที่เขาจะได้ยินเสียงนามิพูดขึ้นมาว่า”เออ ขอโทษที่ขัดจังหวะโลกส่วนตัวของทั้งสองคนนะ ตอนนี้ที่พวกเราควรทำเป็นอันดับแรกคือการสอบให้ผ่านด่านนี้นะ ไม่ใช่มาจีบกันแบบนี้”

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×