ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ผมนี้ละ ผู้นำองค์กรชั่วที่ร้ายกาจที่สุด

    ลำดับตอนที่ #2 : ข้อบังคับแห่งองค์กรชั่ว ข้อที่ 1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.95K
      8
      13 ส.ค. 56

     

    ข้อบังคับแห่งองค์กรชั่ว ข้อที่ 1 จงโกหกทุกคนที่เห็นว่าจำเป็น แม้ว่าคนผู้นั้นจะเป็นตัวเองก็ตาม

    Lipstick Chance 

              เสียงของเด็กผู้หญิงผมสีทองดังขึ้น เธอชูมือซ้ายที่มีลิปสติกขึ้นเหนือหัว ไม่นานแสงจากลิปสติกก็พุ่งขึ้นฟ้า ก่อนจะตกลงมาที่ผู้หญิงคนนั้น ไม่นานมือซ้ายของเธอก็มีถุงมือสีขาวปรากฏตามออกมา จากนั้นถุงมือสีขาวก็ปรากฏตามที่มือขวา ก่อนที่เท้าทั้ง 2 ข้างของเธอจะเปลี่ยนเป็นถุงเท้ายาวสีขาวเช่นเดียวกับถุงมือ และตามด้วยรองเท้าส้นสูงสีแดงที่ปรากฏออกมาเป็นลำดับต่อไป  ก่อนที่แสงนั้นจะหายไปชุดของเธอก็เปลี่ยนเป็นแบบของสาวน้อยเวทมนตร์  เส้นผมสีทองของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดงอมชมพูที่ดูสวยยิ่งกว่าใคร  ส่วนที่ใบหน้าของเธอก็มีหน้ากากสีขาวในรูปแบบหน้ากากแฟนตาซีขึ้นมาคาดที่ตาเอาไว้ พอทำให้คนมองไม่เห็นว่าเธอเป็นใครกัน (ทั้งที่ทุกคนต่างทราบดีว่าเธอคือใครกัน) พอหญิงสาวแปลงร่างเสร็จ เธอก็เอาลิปสติกแท่งนั้นมาทาปาก จากนั้นเธอก็ทำท่าส่งจูบออกไป พร้อมพูดออกมาว่า

                HERO สาวผู้แสนงดงาม  Angle Lip มาแล้วค่ะ  แม้ฉันจะไม่เก่งมากนัก แต่คนร้ายก็ไม่เคยหนีรอดจากความสวยของฉันซักราย”

                “ชิ”เสียงของชายในชุดเครื่องแบบร้านขายหนังสือแห่งหนึ่งดังขึ้นมาเมื่อเขาเห็นฉากการแปลงกายของAngle Lip ในโทรทัศน์จอยักษ์ที่ติดเอาไว้บนตึกขนาดใหญ่ สักพักภาพส่งจูบของ Angle Lip นั้นก็มีตัวอักษรปรากฏขึ้นมาข้างใต้ว่า ถ้าคุณอยากสวยแบบ Angle Lip โปรดเลือกใช้ Lipstick Angle

                ใช่แล้วสิ่งที่เห็นมาตั้งแต่หญิงสาวแปลงร่างจนถึงท่าทางการส่งจูบล้วนเป็นการโฆษณาให้กับลิปสติกยี่ห้อหนึ่งนั้นเอง พอโฆษณาจบลง เสียงของหญิงสาวบางคนที่เห็นโฆษณานี้ก็พูดออกมาว่า

                 “โอ๋ ฉันต้องไปซื้อลิปสติสยี่ห้อนี้มาใช้บ้างแล้วละ ฉันจะได้สวยเหมือน Angle Lip บ้าง”

                “เหมา แบบนี้ต้องเหมา เพื่อท่านแองจี้  ท่านแองจี้จงเจริญ”เสียงของชายร่างอ้วนอีกคนพูดขึ้นมา พลางเอามือที่มีผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อของตัวเอง

    ชายหนุ่มที่ส่งเสียงในตอนแรกหันไปมองคนที่อยู่รอบๆอย่างไม่ชอบใจนัก เพราะ คนพวกนี้ต่างหลงใหลในสิ่งที่เรียกว่า HERO จนหมดแล้ว  หรือ ถ้าจะพูดให้ถูก พวกเขาต่างกำลังหลงใหลอยู่ในยุคสมัยของเหล่า HERO นั้นเอง การที่เป็นแบบนี้ มันก็เริ่มมาจากกระแสนิยมที่เริ่มต้นเมื่อ 30 ปีก่อน ในตอนที่แฟลตวิงค์โค่งล้มหัวหน้าองค์กรชั่วร้ายที่มีนามว่า Phantom ลงได้นั้นเอง มันช่างบังเอิญเหลือเกินว่าในเวลานั้นมีช่างกล้องคนหนึ่งเก็บภาพเหตุการณ์ทั้งหมดเอาไว้ได้ แน่นอนว่าภาพพวกนั้นถูกน้ำมาถ่ายทอดแก่ประชาชนทั่วโลกได้รับทราบ

    นับแต่นั้นมา กระแสนิยมในตัว HERO ก็เพิ่มมากขึ้น จนกระทั้งในยุคสมัยนั้น บริษัทเอกชน หรือรัฐบาล ต่างสร้างHEROของตัวเองขึ้นมาเพื่อใช้ในการหาเสียง รวมไปถึงการโฆษณาสินค้าของบริษัทต่างๆ แต่ความนิยมนั้นกลับมีได้ไม่นาน เพราะ HERO ที่สร้างขึ้นมาล้วนนั้นไม่มีความสามารถสมกับเป็นHEROแม้แต่น้อย หรือพูดง่ายๆ HEROเหล่านั้นก็ไม่ต่างไปจากดาราทั่วไปนั้นเอง  ในที่สุดเหล่าผู้คลั่งไคล้ในตัวHERO ต่างก็ทนไม่ไหวกับสิ่งเหล่านั้น และในเวลานั้นเองที่แฟลตวิงค์ก็ปรากฏออกมาต่อหน้ามวลชนอีกครั้ง พร้อมเรียกร้องให้มีก่อตั้งสมาคมHEROขึ้นมา แน่นอนว่าความคิดนี้ได้รับการยอมรับและสนับสนุนจากประชาชนอย่างล้นหลาม และนั้นก็คือจุดเริ่มต้นยุคสมัยแห่งเหล่า HERO นั้นเอง

    ชายหนุ่มในชุดพนักงานร้านหนังสือจ้องมองพวกคลั่ง HEROอยู่สักพัก จากนั้นเขาก็เดินจากไปด้วยอารมณ์ที่ไม่ดีนัก ชายหนุ่มคนนี้มีอายุประมาณ 24-25 ปี เขาจัดว่าหน้าธรรมดา รูปร่างสันทัด ไม่อ้วนเกินไปหรือไม่ผอมเกินไป แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดจากชายคนนี้คือ เสื้อผ้าที่เขาสวมใส่นั้นแม้จะเป็นชุดพนักงานทั่วไปแต่ว่าเนื้อผ้ากลับค่อนข้างเก่าพอดู ที่อกซ้ายของเขามีป้ายชื่อเขียนเอาไว้ว่า นาย โช วิชัยชาญ พนักงานขาย ชายหนุ่มค่อยๆเดินมาจนถึงรถจักรยานที่จอดไว้ในที่จอด เขาปลดล้อคโซ่ที่ล็อคจักรยานเอาไว้ ก่อนจะเอาถุงในมือไปคล้องที่แฮนด์ จากนั้นเขาจึงขี่จักรยานออกไป

    โชขี่รถจักรยานจนมาถึงบ้านไม้ 2 ชั้นที่ตั้งอยู่ริมน้ำ ที่ประตูหน้าบ้านมีป้ายขนาดกว้าง 30 ซม. และยาว 60 ซม.ติดเอาไว้ โดยป้ายนั้นเขียนว่า องค์กร Kill World (ที่ตั้งชั่วคราว) โชจัดการจอดรถจักรยานให้เรียบร้อย เขาก็หยิบถุงที่แฮนด์จักรยานก่อนจะเดินตรงเข้าไปในบ้านหลังนั้นอย่างไม่ลังเล พอโชเข้าไปในบ้านเท่านั้น กาละมังขนาดใหญ่ก็ลอยตรงมาที่เขาอย่างไม่ทราบสาเหตุ

    “ตุบ”

    กาลามังกระแทกเข้ากับหน้าของโชอย่างจัง ก่อนจะตามด้วยกาน้ำ ขัน เขียง และรวมถึง มีดทำครัวที่มีตามมาเป็นระยะ โชพยายามหลบไป-มาอยู่พักใหญ่ แต่ดูเหมือนว่าของที่ลอยมานั้นไม่ได้น้อยลงไปเลย   ยิ่งเวลาผ่านไป ของที่ลอยมามากขึ้นเรื่อยๆ แถมของเหล่านั้นยิ่งขยายขนาดมากขึ้นไปอีก เช่น จากมีดบอกผลไม้ก็กลายมาเป็นมีดอีโต้ จากกาละมัง กลายมาเป็น ครกหิน แต่ที่แย่งที่สุดเห็นจะเป็นถังแก๊สขนาดใหญ่ที่ลอยมากระแทกโชตรงๆ(เพราะขืนหลบมีหวังบ้านระเบิดแน่ๆ)

                โชค่อยๆวางถังแก๊สลงอย่างช้าๆ ก่อนจะเปลี่ยนจากการพยายามหลบไปเป็นท่าคลานต่ำกับพื้นแทน เขาค่อยๆคลายไปยังทิศทางที่ของต่างๆพุ่งมา ขณะที่เขาคลานอยู่นั้นเอง เขาก็ไปชนเข้ากับอะไรบางอย่างที่สลบอยู่ตรงหน้าเขา โชมองของสิ่งนั้น ก่อนจะพูดขึ้นมาอย่างตกใจว่า

    “คุณพ่อ! คุณพ่อไม่เป็นอะไรนะ”

     สิ่งที่โชชนในตอนนี้ก็คือร่างกายของคุณพ่อของเขานั้นเอง และ ตอนนี้ที่หัวของพ่อมีเลือดไหลออกมาเนื่องจากถูกอะไรบางอย่างชนเข้า ขณะที่โชกำลังตกใจอยู่นั้น มือของคุณพ่อก็ชี้ไปทางห้องครัว ก่อนจะพูดออกมาเบาๆว่า

    “โชหรือ? พ่อไม่เป็นอะไรหรอก ลูกรีบไปที่ห้องครัวเถอะ แม่กับน้องทะเลาะกันใหญ่แล้วละ ลูกรีบไปหยุดพวกเธอก่อนเถอะ”

     โช มองไปยังทิศทางที่พ่อชี้ไป ก่อนจะตัดสินใจคลานต่อไปอย่างช้าๆ เพราะยิ่งเขาเข้าใกล้ห้องครัวเท่าไร อุปกรณ์ต่อต่างที่อยู่ภายในห้องครัวก็ยิ่งลอยออกมามากเท่านั้น ของที่ลอยผ่านเขาไปล่าสุดคือ เตาแก๊สที่ใช้ทำอาหารนั้นเอง และพอโชไปถึงห้องครัวเท่านั้น สิ่งที่เขาเห็นก็คือ หญิงสาว 2 คน กำลังลอยอยู่กลางอากาศโดยรอบๆตัวของพวกเธอมีออร่าสีแดง(อันนี้เป็นของแม่) และออร่าสีเขียว(อันนี้เป็นของน้องสาว)ปกคลุมอยู่  โชที่เห็นทั้งสองคนแล้ว เขาได้แต่ถอนหายใจ ก่อนจะตัดสินใจยกถุงพลาสติกในมือขึ้น พร้อมพูดว่า

    “ผมซื้อวุ้นโยคัง ยี่ห้อ SKIP มาใครจะกินบ้าง อ้อ ในนี้มีหนังสือรวมภาพHERO ด้วยนะ ใครสนใจจะอ่านบ้างละ”

    พอสิ้นเสียงของโชเท่านั้น เสียงของผู้หญิงทั้งสองคนก็ดังขึ้นว่า”แม่/หนู จ๊ะ/ค๊ะ

    เสียงของทั้งสองคนดังแทรกขึ้นมา ก่อนจะสลายออร่าสีเขียวและสีแดงให้หายไป แน่นนอนว่าสิ่งที่ตามมาคือ อุปกรณ์เครื่องครัวที่ลอยอยู่ถึงกับล่วงหล่นลงมาทันที แน่นอนว่าผู้รับเคราะห์ก็คือโชที่คลานต่ำอยุ่นั้นเอง

    “โอ้ยๆๆ”

    โชที่โดนอ่างล้างจานตกใส่ลำตัว และหม้อดินเผาตกใส่ขาขวาได้ เขาได้ร้องออกมาอย่างช่วยไม่ได้ โชพยายามจะลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะมองไปรอบๆตัวที่พอจะหาอธิบายได้คำเดียวว่า  เละ  โชมองภาพในห้องครัว ก่อนที่เขาจะหันไปพูดกับแม่และน้องสาวว่า

    “ทั้งสองคนไปรอที่ห้องนั่งเล่นก่อนเถอะครับ เดี๋ยวผมจะจัดการเก็บของทั้งหมดเอง จากนั้นผมค่อยขอฟังเรื่องราวทั้งหมดหน่อยเถอะว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”

    พอโชพูดจบ เขาก็ส่งวุ้นโยคังให้กับคุณแม่ และเขาก็ส่งหนังสือรวมภาพHERO ให้น้องสาว ก่อนจะลงมือเก็บของที่ตกอยู่กับพื้นทีละชิ้น ส่วนแม่และน้องสาวที่ได้ของที่ตัวเองต้องการแล้ว ต่างก็มีอารมณ์ผ่อนคลายลง ไม่นานพวกเธอก็เดินออกจากห้องครัวไปทำธุระที่ตัวเองทำค้างไว้  โชได้แต่ส่ายหน้าก่อนจะถอนหายใจและลงมือทำความสะอาดห้อองครัวแต่เพียงลำพัง

    เวลาผ่านไปประมาณ 3 ชม.

                ณ ห้องนั่งเล่นที่ตอนนี้นาฬิกาชี้บอกเวลา 21.00 น. ตอนนี้ภายในห้องเต็มไปด้วยบรรยากาศอึดอัด คุณพ่อที่ได้รับการปฐมพยาบาลจากโชแล้ว เขานั่งอยู่บนโซฟา โดยข้างๆของคุณพ่อ มีคุณแม่ที่กำลังจ้องมองน้องสาวอย่างไม่ละสายตาเลย  แน่นอนว่าน้องสาวของเขาก็จ้องมองแม่อย่างไม่ลดละเช่นกัน สภาพการตอนนี้เรียกได้ว่าตึงเครียดจนถึงขีดสุด โชที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เขาถอนหายใจก่อนจะเดินไปหยิบวุ่นโยคังอีกชิ้นที่อยู่ในตู้เย็น มาตัดวางใส่จนและมาวางต่อหน้าแม่และน้องสาว ซึ่งแน่นอนว่าบรรยากาศอึดอัดเมื่อสักครู่ถึงกับหายไปในพริบตา โชที่เห็นบรรยากาสดีขึ้นแล้ว เขาจึงหันไปมองคุณพ่อ

    คุณพ่อของโช มีชื่อจริงว่า สมชัย วิชัยชาญ ปัจจุบันนี้คุณพ่อทำงานเป็นพนักงานบัญชีให้กับบริษัทขนาดเล็กแห่งหนึ่ง แต่ในอดีตนั้นคุณพ่อเคยเป็นลูกสมุนหมายเลข 11159 ขององค์กรผู้ก่อการร้าย Kill World ส่วนทางคุณแม่ของโชปัจจุบันนี้เป็นเพียงแม่บ้านทั่วไปที่ชอบวุ้นโยคังเป็นพิเศษเท่านั้น แต่ในอดีตแล้ว เธอชื่อ ลูน่า เทียคอบ บุตรสาวลำดับที่ 3 ของ Phantom ในตอนที่องค์กร Kill World ล้มสลายนั้น คุณแม่ได้ถูกคุณพ่อช่วยพาหนีทำให้แม่รอดตายมาจนได้ และการที่ทั้งคู่หลบหนีมาด้วยกันนั้นทำให้เกิดความรักต่างระดับชั้นขึ้นมา ซึ่งผลลงเอยก็คือการแต่งงานของทั้งสองคนนั้นเอง แต่อย่าถามว่าลงเอยกันได้ยังไงนะเพราะเขาก็ไม่ทราบ ทุกครั้งที่เขาถามคุณพ่อ พ่อมันจะมองไปที่แม่อย่างเอียงอาย ก่อนจะพูดออกมาสั้นๆว่า

    “แกไปถามแม่เถอะ เพราะแม่แกเป็นจัดการทุกอย่างเอง”

    โชมองพ่อและแม่ ก่อนจะหันไปมองน้องสาวที่นั่งอยู่ใกล้ๆ น้องสาวของเขาชื่อ เทียน่า วิชัยชาญ เธอเป็นเด็กสาวอายุประมาณ 17 ปี ที่หาได้ทั่วไป เธอมีผมยาวสีดำสวย ร่างกายสมส่วนแม้เจ้าตัวมักจะบ่นว่าตัวเองมีหน้าอกและพยายามนวดให้มันใหญ่ขึ้นทุกวัน  แต่นั้นก็เป็นธรรมดาสำหรับเด็กวัยรุ่นสมัยนี้ สิ่งที่ทำให้เธอแตกต่างกับคนอื่นนิดหน่อยก็เพราะเธอเป็นผู้มีพลังพิเศษ ซึ่งพลังนี้เธอได้มาจากพันธุกรรมของฝ่ายแม่นั้นเอง  ปัจจุบันนี้เรียกกันคนที่มีพลังพิเศษแบบนี้ว่า New Type( NT )

    ถ้าถามว่า NT คืออะไรนั้น NT ก็คือคำเรียกของผู้ที่เกิดมาก็มียีนแตกต่างจากคนปกติ  หรือ ผู้ที่มีพลังพิเศษตั้งแต่กำเนิดนั้นเอง คนพวกนี้ถือกำเนิดขึ้นมาในช่วง 50 ปีที่ผ่านอย่างไม่ทราบสาเหตุ แต่เหล่านักวิทยาศาสตร์ต่างคาดเดาว่า คนที่มีพลังพิเศษเหล่านี้นั้น มีต้นตอมาจากการสืบสายเลือดของคนตระกูลหนึ่ง แต่ก็ไม่มีใครสามารถยืนยันเรื่องนี้ได้ ในตอนแรกคนพวกนี้ยังมีปริมาณน้อยจึงไม่ก่อให้เกิดปัญหาอะไรนัก แต่ในปัจจุบันจำนวน คนที่มีNT ก็เพิ่มจำนวนมากขึ้น จนทำให้การพบผู้มีพลังพิเศษแทบจะเป็นเรื่องปกติประจำวันไปเลย การที่เป็นแบบนั้น มันก่อให้เกิดปัญหาสังคมพอสมควร ยกตัวอย่างๆ แค่การที่แม่ทะเลาะกับน้องสาวขึ้น มันก็แทบจะเป็นสาเหตุทำให้บ้านทั้งหลังระเบิดขึ้นมาแล้ว

    โชมองน้องสาวอยู่พักใหญ่ ก่อนหันไปถามแม่ว่า “คุณแม่ครับ คุณพ่อครับ ตกลงว่ามันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไงครับ   ทำไมแม่ถึงได้มาทะเลาะกับเทียน่าหนักถึงขั้นใช้พลังพิเศษทำร้ายกันแบบนี้ละ นี้ถ้าผมกลับมาไม่ทัน มีหวังบ้านพังหมดแน่ๆ”

    แม่มองโช ก่อนจะหยิบของบางอย่างขึ้นมาวางตรงหน้าเขา ก่อนจะพูดออกมาว่า”โช ดูเองเถอะ แม่ไม่รู้ว่าควรจะโกรธแบบไหนดีแล้วละ”

    โชหยิบเอาของที่แม่วางไว้ต่อหน้าขึ้นมาดู ซึ่งมันเป็นเพียงกระดาษปึกหนึ่งเท่านั้น แต่กระดาษปึกนี้กลับทำเอาโชยิ้มแหยๆออกมา เพราะกระดาษใบนี้คือ ใบสมัครเข้ามหาลัยเฉพาะทางสำหรับผู้ต้องการเป็น HERO แถมใบสมัครนี้ยังมีการเติมรายละเอียดจนไปถึงขั้นเตรียมเอกสารไว้เกือบหมดแล้วอีกด้วย โชดูกระดาษปึกนั้นจนหมด  เขาจึงหันไปมองเทียน่า ไม่นานเขาก็พูดออกมาว่า

    “เทียน่า น้องมีอะไรจะแก้ตัวไหม”

              ขณะที่โชถามแบบนั้นออกไป เสียงของแม่ก็พูดแทรกขึ้นมาว่า”สำหรับเรื่องที่เทียน่าเป็นแฟนคลับของ  Dark Knight (อัศวินรัตติกาล) แม่ยังพอรับได้ ไหนจะชอบสะสมหนังสือเกี่ยวกับHERO แม่ก็ยังพอทนไว้ แต่นี้ถึงขนาดจะไปเป็นHERO เองแบบนี้ แม่ทนไม่ไหวแล้วนะ พวกลูกคือผู้สืบทอดองค์กรชั่วร้ายอันดับ 1 ของโลกนะ โดยเฉพาะเทียน่าจะต้องสืบทอดตำแห่ง Black Rose รุ่น 2 ต่อจากแม่ด้วยไม่ใช่เหรอ? ลูกลืมความหวังที่จะครองโลกของพวกเราหรือยังไงกัน เทียน่า”

                แม่พูดจบก็เริ่มทำท่าจะร้องไห้ออกมา พ่อที่เห็นจึงเข้าไปปลอบแม่อย่างเงียบ เทียน่าเองที่ได้ยินแบบนั้น เธอก็พูดออกมาว่า

    ”แม่คะ แม่อย่าสรุปเอาเองแบบนั้นซิ หนูไม่เคยบอกแม่เลยนะว่าหนูจะสืบทอดตำแหน่งบ้าๆแบบนั้นนะ”

                “เคยซิ ลูกเคยบอกแน่ๆ ถ้าลูกไม่เชื่อแม่มีหลักฐานยืนยันนะ”คุณแม่รีบพูดออกมาทันที จากนั้นไม่นานเธอก็เดินไปหยิบเอากล่องบางอย่างออกมาจากตู้เสื้อผ้า จากนั้นเธอก็ถือกล่องใบนั้นกลับมานั่งที่เดิม

    คุณแม่กลับมานั่งที่เดิม ก่อนจะเปิดกล่องให้พวกโชได้เห็นภายในนั้นมีชุดวาปวิวสีดำอยู่ นอกจากนั้นก็มีเศษกระดาษ และของเล่นเก่าอีกมากมาย ไม่นานแม่ก็หยิบกระดาษที่ค่อนข้างเก่าขึ้นมา ก่อนจะคลี่มันออกให้เทียน่าได้ดู  เทียน่าที่อ่านข้อความในนั้นจบ เธอรีบคว้ากระดาษแผ่นนั้นไปฉีกทันที จากนั้นก็พุดว่า

    “แม่คะนี้มันกระดาษคำสัญญาตั้งแต่ตอนหนูอยู่ อนุบาล 1เองไม่ใช่หรือ? แถมตอนนั้นแม่เองก็บอกให้หนูเขียนด้วย ไม่ว่ายังไงหนูจะไม่มีทางยอมรับสัญญานี้เด็ดขาด”

    แม่ที่ได้ยินเทียน่าพูดแบบนั้น เธอหยิบชุดในกล่องออกมา ก่อนจะพูดว่า”อ้า แม่ไม่ยอมนะ แม่ตัดชุด Black Rose รุ่น2 พร้อมหน้ากากเอาไว้ให้แล้วด้วย ถ้าหนูไม่ยอมสืบทอด แม่จะทำอย่าไงกับชุดนี้ดีละ”

    ชุดที่คุณแม่หยิบขึ้นมาให้ดู เป็นชุดที่มีลักษณะคล้ายชุดว่ายน้ำโรงเรียน เพียงแต่เนื้อผ้าดูน้อยกว่า แถมด้านหลังของชุดก็มีผ้าคลุมสีดำอีกด้วย  เทียน่าที่ได้เห็นแบบนั้น เธอหน้าซีดลงทันที แต่ไม่นานเธอก็ดึงชุดที่แม่ถืออยู่มาตัดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย สักพักเธอก็ตะโกนออกมาว่า

    “ไม่ว่ายังไงหนูก็ไม่ยอมเป็น Black Rose เด็ดขาด หนูจะเป็น HERO แม่เข้าใจไหมคะ หนูจะเป็น HERO!!!!!  

    เทียน่าที่ตะโกนสุดเสียงแล้ว เธอก็แสดงอาการหอบเล็กน้อย แน่นอนว่าทางคุณแม่เองก็รีบรวบรวมเศษเสื้อผ้าที่ขาด ก่อนจะหันมามองเทียน่าด้วยสีหน้าโกรธขึ้นมาอีกครั้งแล้ว แน่นอนบรรยากาศของทั้งคู่ทำเอาสิ่งของต่างๆในห้องนั่งเล่นเริ่มจะขยับบ้างแล้ว โชเห็นว่าทั้งสองคนเริ่มที่จะอารมณ์เสีย เขาจึงพูดขึ้นมาว่า

    “ทั้งสองคนใจเย็นหน่อยได้ไหม ขืนแม่กับเทียน่าอาละวาลอีกมีหวังบ้านได้พังแน่ๆ และถ้าบ้านนี้พังขึ้นมาเจ้าของบ้านเช่าคงจะเล่นงานพวกเราตายเลยนะ ถ้าเข้าใจที่ผมพูดแล้วช่วยเก็บพลังพิเศษด้วยนะ”

    แม่และเทียน่าที่ได้ยินคำพูดของโช ทำเอาพวกเธอรีบเก็บพลังพิเศษในทันที โชถอนหายใจอย่างโล่ง อกที่บ้านไม่ต้องพังเนื่องจากการทะเลาะของแม่และน้อง ไม่นานโชก็หันไปมองเทียน่า ก่อนจะพูดออกมาว่า

    “เอาละ เทียน่า พี่จะพูดออกมาโดยยกเรื่องทางบ้านทิ้งไปก่อนนะ อย่างแรกเลย น้องคิดว่าจะบอกเรื่องใบสมัครสอบนี้เมื่อไรกัน เท่าที่พี่เห็นการยื่นใบสมัครสอบจะสิ้นสุดในอีก 2 วันเองนะ”

    เทียน่าถึงกับหน้าเจื่อนลงทันที ไม่นานเธอก็พูดออกมาว่า”หนูคิดว่าจะบอกตอนที่สอบผ่านแล้วนะค่ะ พี่โช”

    โชมองเทียน่า ก่อนจะถอนหายใจ ก่อนจะพูดต่อว่า”งั้นเหรอ?  เอาละสมมุติว่าน้องเกิดสอบผ่านได้ตามที่พูด น้องคิดว่าทางครอบครัวจะยอมให้น้องไปเรียนที่นั้นหรือ?”

    เทียน่ามองโช ก่อนจะพูดออกมาว่า”พี่ค่ะ ไหนพี่บอกว่าจะไม่ยกปัญหาทางบ้านเราขึ้นมาพูดไง”

    “ เทียน่า พี่ไม่ได้ล้อเล่นนะ ที่พี่ถามเราแบบนั้นไม่ได้เกี่ยวกับทางบ้านแม้แต้น้อย เท่าที่พี่เห็นในใบสมัคร พี่เห็นว่ามีช่องให้กรอกด้วยว่า น้องจะเข้าพักที่หอของมหาลัยด้วยไม่ใช่หรือ? และ ช่องนั้นยังต้องมีลายเซ็นต์ของผู้ปกครองที่อนุญาตให้อยู่หอพักอีก พี่ว่าแค่ตรงจุดนี้มันก็เป็นปัญหาแล้ว แต่พี่จะไม่พูดถึงก็แล้วกัน เรื่องที่พี่กังวลต่อมาคือเรื่องค่าเล่าเรียน  ค่าหอพัก  ค่ากินอยู่ และค่าอุปกรณ์การเรียนเฉพาะทางของเหล่าHERO อีก น้องจะหาเงินจากที่ไหนมาเป็นค่าใช้จ่ายทั้งหมด อ้อ แล้วอย่าบอกนะว่าน้องจะขอทุนการศึกษา น้องก็น่าจะรู้ดีว่าครอบครัวเราเป็นอย่างไง ดังนั้นเรื่องขอทุนการศึกษา พี่ว่าเราตัดใจซะเถอะ ขืนน้องขอไปพวกเขาก็จะต้องตรวจสอบประวัติของพ่อ-แม่ และผลที่ตามมาคงไม่พ้นการติดคุกแน่ๆ”

    เทียน่ายิ้มเจื่อยๆ ก่อนจะพูดออกมาว่า”เออ หนูคิดว่าจะทำงานไปเรียนไปนะค่ะ”

    “เออ พี่ก็คิดว่าเราคงจะต้องทำแบบนั้น แต่เทียน่ารู้ไหมว่าค่าแรงขั้นต่ำที่กำหนดในปัจจุบันนี้กำหนดไว้ที่ คือ 250 G/วัน แต่เฉพาะค่าเล่าเรียนต่อเทอมของน้องก็ปาเข้าไป 35000 Gแล้ว นี้ยังไม่รวมค่ากินอยู่ ค่าอุปกรณ์ต่างๆและค่าหอพักอีกนะ ถ้าคิดแบบประหยัดสุดๆ ใน 1 ปี น้องต้องใช้ค่าใช้จ่ายกว่า 80000G/เทอม แต่ถ้าน้องบอกว่าจะทำงานไปเรียนไปนั้นก็เท่ากับว่า น้องต้องทำงาน 320 วัน เพื่อจ่ายเงินใน  1 ปีนะ ไม่ทราบว่าน้องคิดถึงจุดนี้บ้างไหม”

    เทียน่าที่ได้ยินแบบนั้น หน้าเธอยิ่งซีดนักขึ้นไปอีกเพราะเธอไม่เคยเห็นถึงปัญหาพวกนี้เลย โชที่เห็นแบบนั้นเขาถอนหายใจก่อนบอกให้เธอคิดดูในเรื่องนี้ให้ดีก่อน อีกสักครู่เขาจะถามเธอใหม่ จากนั้นเขาก็หันมามองแม่ พร้อมพูดออกมาว่า

    “คุณแม่ครับ ผมถามหน่อยนะว่าความหวังสูงสุดของคุณแม่ในเวลานี้คืออะไร

                “อืม แม่ต้องการฟื้นฟูองค์กรชั่วร้ายให้กลับฟื้นคืนมาอีกครั้ง และโค่นล้มเหล่าHERO ให้หมดไปจากโลกใบนี้ ส่วนเรื่องครองโลกเอาไว้ทำหลังจากนั้นก็ได้”คุณแม่ตอบออกมาด้วยท่าทางมั่นใจเต็มที่

                โชที่เห็นแบบนั้น เขาจึงพูดออกมาว่า”ถ้างั้นสิ่งแรกที่จำเป็นต้องใช้ในการฟื้นฟูองค์กรชั่วร้ายคืออะไรครับ”

                “เงินยังไงละ ถ้าไม่มีเงินทุกอย่างก็จะดำเนินต่อไปไม่ได้”คุณแม่ตอบออกมาอย่างมั่นใจ โชพยักหน้าให้กับคำตอบของแม่ ก่อนจะพูดต่อว่า

                “ถูกต้องแล้วครับ แล้วคุณแม่ทราบไหมว่าเงินทุนในการฟื้นฟูองค์กรชั่วร้ายในตอนนี้มีสะสมเอาไว้เท่าไรแล้ว”

                คุณแม่ส่ายหน้า โชจึงพูดต่อว่า”จากการทำงานของคุณพ่อ และผม มันทำให้เงินทุนการฟื้นฟูองค์กรชั่วร้ายในปัจจุบันมีด้วยกัน 5 หลักแล้วครับ แต่ถ้าคุณแม่ต้องการฟื้นฟูองค์กร Kill Worldให้เหมือนกับเมื่อ 30 ปีก่อน พวกเราต้องมีเงินทุกเกินกว่า 8 หลักก่อนถึงจะทำได้ แต่ถ้ายังเป็นอย่างปัจจุบันนี้ต่อไป ต่อให้ใช้เวลาถึง 20 ปี พวกเราก็คงไม่สามรถฟื้นฟูองค์กรได้แน่ครับ”

                คุณแม่ที่ได้ยินถึงกับเงียบลงทันที ไม่นานโชก็พูดออกมาว่า “แต่สำหรับเรื่องนี้ผมมีทางออกไว้แล้ว 3 ทาง ซึ่งมันทำให้พวกเรารวบรวมเงินได้เร็วกว่าเดิมแน่ๆ ถ้าทำตามที่ผมพุดรับรองต้องรวบรวมเงินได้ตามเป้าภายใน 2 ปีแน่ๆ”

                “จริงหรือ? โช แล้วมีทางไหนบ้างละ โชรีบบอกแม่มาเร็วซิ”คุณแม่ถามออกมาด้วยความสนใจแบบสุดๆ

                โชพยักหน้า ก่อนจะพูดออกมาว่า” ทางแรกเลย ผมว่าพวกเราไปปล้นธนาคาร ไม่ก็ร้านเพชรกันเถอะ ถ้าทำแบบนั้นผมรับรองได้เงินเพิ่มขึ้น  3-5 เท่าแน่ ดีไม่ดีอาจจะถึง 10 เท่าเลยนะ ถ้าเราไปปล้นธนาคารแห่งชาตินะ”

                “โช!! ลูกบ้าไปแล้วหรือยังไง ขืนทำแบบนั้นมีหวังถูกพวกHERO ไล่ล่าตายเลย ไหนจะพวกตำรวจที่หวังสร้างผลงานนี้ ขืนทำแบบนั้นพวกเราไม่รอดแน่ๆ ที่สำคัญสุดองค์กรของพวกเรา มีข้อห้ามทำการหาเงินด้วยวิธีแบบนั้นเด็ดขาดเลยนะ โชเองก็น่าจะรู้นี้”

                โชที่ได้ยินแบบนั้นเขาแกล้งปั้นหน้าเศร้า ก่อนจะพูดออกมาว่า”ถ้างั้นเปลี่ยนเป็นจับตัวเด็กเรียกค่าไถ่ดีไหมละครับ พอได้เงินแล้ว พวกเราก็จัดการกับเด็กนั้นซะเลย ทีนี้ก็ไม่มีใครรู้แล้วว่าพวกเราเป็นใคร”

                “ตายแล้ว โช แม่ไม่เคยสอนรู้ให้เป็นคนชั่วร้ายแบบนั้นเลยนะ ลูกคิดเรื่องชั่วร้ายแบบนี้ออกมาได้ไงกันเนี่ย จริงอยู่พวกเราเป็นองค์กรชั่วร้าย แต่ต้องเป็นองค์กรชั่วร้ายที่เป็นมิตรกับมนุษย์และธรรมชาติด้วยซิ แถมการฆ่าคนไม่มีความผิดก็เป็นข้อห้ามอันดับแรกขององค์กรเราด้วยนะ อ้อ ส่วนเรื่องเรียกค่าไถ่ก็ดูเหมือนเป็นข้อห้ามที่ 18 ขององค์กรที่ห้ามทำด้วยนะ ดังนั้นไม่ว่ายังไงลุกห้ามทำเด็ดขาดเข้าใจไหม“

                โชได้แต่ยิ้มแห้งๆออกมาเพราะตั้งแต่เด็กจนโต เขามักจะถูกแม่สั่งสอนเกี่ยวกับองค์กรชั่วร้ายว่าต้องทำอย่างไงบ้าง บอกตามตรงในตอนแรกที่ได้กฎข้อห้ามต่างๆขององค์กร(ที่มีกว่า 300 ข้อ) เขาแทบจะถามแม่กลับไปเลยว่านี้มันองค์กรชั่วร้าย หรือ องค์กรผู้พิทักษ์โลกกันแน่เพราะกฏแต่ละข้อขององค์กรล้วนเป็นมิตรต่อชาวโลกและรักษาสิ่งแวดล้อมสุดๆ ไม่นานโชก็พูดออกไปว่า

                “เออ ในเมื่อ 2ทางแรกคุณแม่ไม่ยอมรับ ผมคงเลือกทางที่ 3แล้วละ แม่ครับ ทางเลือกที่ 3 นี้ผมรับรองว่าไม่ผิดกฎขององค์กรแน่ๆ แต่ก่อนที่ผมจะพูดออกไป แม่จะต้องสัญญากับผมนะว่าก่อนผมจะพูดเสร็จ แม่ห้ามพูดแทรกหรือบ่นอะไรออกมาอย่างเด็ดขาดนะ ถ้าแม่ไม่รับปาก ผมจะถือว่าตัวเองไม่ได้พูดเรื่องนี้ออกมาก็ละกัน”

                “ได้ แม่รับปากรับก็ได้นะ โช แต่ถ้าหนทางที่ 3 ยังผิดกฎองค์กรอีกละก็แม่ไม่ยอมจริงๆนะ”คุณแม่พูดออกมาด้วยสีหน้าจริงจังสุดๆ

                โชที่ได้ยินแบบนั้นแล้ว เขาก็พูดออกมาว่า”ผมคิดจะสร้างHERO ขึ้นมาในองค์กรของเรานะครับ”

                คำพูดของโช ทำเอาเทียน่าและคุณแม่ตาโตขึ้นมาทันที จะมีก็แต่คุณพ่อที่มองมาที่โชด้วยสายตายิ้มๆ  โชไม่ยอมเสียโอกาสเขารีบพูดต่อไปว่า

                “การที่ผมพูดแบบนี้ก็เพราะ HERO เป็น 1ในอาชีพที่ทำเงินได้ดีที่สุดในเวลานี้เลยนะ ยิ่งเป็นHERO ระดับสูงก็จะได้เงินเดือนเหยียบ  6 หลักต่อเดือน ไหนจะได้ค่าหัวของพวกอาชญากรที่จับได้อีก”

                คำพูดของโชทำเอาแม่เริ่มคิดเรื่องนี้ขึ้นมาอย่างจริงจัง เขาจึงเริ่มพูดต่อว่า”นอกจากนั้น ถ้าเรามีHERO เป็นของเราเอง เราก็จะได้รับรู้ข่าววงในที่HERO ไม่ก็จุดอ่อนของเหล่าฮีโร่ที่ปกปิดไว้ยังไงละ  แถมถ้าHEROที่พวกเราปั้นขึ้นมา เกิดเป็นขวัญใจประชาชน เรื่องจะฟื้นฟูองค์กรชั่วร้ายก็ไม่ใช่ความฝันแล้วละเพราะเราจะมีHERO เป็นฐานเสียงในการสนับสนุนพวกเรายังไงละ นี่จึงเรียกว่าใช้ดาบของพวกมันทำลายพวกมันยังไงละครับ คุณแม่คิดว่าแผนการนี้เป็นอย่างไงละ”

                แม่มองมาที่โช ก่อนจะถอนหายใจพร้อมพูดออกมาว่า”เออ โช ที่ลูกพูดมาทั้งหมดก็เพื่อช่วยน้องใช่ไหมละ “

                “ไม่ใช่ครับ เป้าหมายของผมคือการฟื้นฟูองค์กรชั่วร้ายให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และผมก็คิดว่าทางนี้น่าจะเหมาะสมที่สุดก็เท่านั้นเอง”โชพูดออกมา

                แม่มองมาที่โช ก่อนจะหันไปมองเทียน่าพร้อมพูดว่า”เอาเถอะ แม่เองก็คิดว่าทางนี้น่าจะเป็นหนทางที่ดีเหมือนกัน เพราะไม่เพียงแต่ได้เงินมาโดยไม่ผิดกฎองค์กรชั่วร้าย แถมยังได้ช่วยจัดการกับอาชญากรให้กับสังคมด้วย แม้แม่จะไม่ชอบใจนักแต่ก็พอจะรับได้กว่าวิธีอื่นที่ลูกพูดมานะ”

                เทียน่าที่ได้ยินแบบนั้น เธอถึงกับยิ้มขึ้นมา ไม่นานเสียงของคุณแม่ก็ดังต่อว่า”เอาเป็นว่าแม่ยอมรับหนทางนี้ก็ได้ เพียงแต่ว่าแม่ให้เวลาแค่ 3 ปีนะ ถ้าภายใน 3ปี เทียน่ายังไม่ได้เป็นHERO ตามที่ลูกพูด เทียน่าจะต้องยกเลิกความคิดนี้นะ แต่ถึงพ่อกับแม่จะออกเงินค่าเทอมให้ แต่เรื่องเงินค่าใช้จ่ายและค่าหอ  เทียน่าต้องหาเอาเองนะ เพราะเงินเดือนของพ่อและเงินค่าทำงานพิเศษของโชก็แทบจะไม่พอกับค่าใช้จ่ายในบ้านแล้ว ยิ่งมารวมกับค่าเทอมของลูก แม่กลัวว่ามันจะทำให้ครอบครัวเราอยู่แบบประหยัดแบบเดือนชนเดือนเท่านั้น ดังนั้นถ้าลูกไม่ช่วยในเรื่องนี้ ทางบ้านก็คงจะส่งลูกไปเลยไม่ไหวหรอกนะ เทียน่า 

                คำพูดของแม่ในช่วงแรกทำเอาเทียน่ายิ้มออกมา แต่ไม่นานเธอก็ทำหน้าเศร้าไปอีกเพราะค่าหอและค่ากินอยู่ต่อเทอมนั้นก็เป็นอะไรที่เธอไม่สามารถหามาจ่ายเลย  โชที่เห็นเทียน่าทำหน้าแบบนั้นเขาก็รู้ว่าเธอกำลังกังวลเรื่องเงิน โชจึงลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินไปยังชั้นบน ไม่นานเขาก็กลับลงมาพร้อมสมุดฝากเงินและตราประทับ โชยื่นของเหล่านั้นให้กับเทียน่า พร้อมพูดว่า

                “เทียน่า น้องเอาเงินนี้ไปใช้เป็นค่าเล่าเรียนเถอะ “

                เทียน่าและคุณแม่ต่างมองมาที่โชอย่างงงๆ ไม่นานเทียน่าก็หยิบสมุดฝากเงินมาเปิดดูพอเธอเห็นยอดเงินเท่านั้น เธออึงไปเล็กน้อยเพราะเงินในบัญชีมีไม่ใช่น้อยๆเลย ไม่นานเธอก็พูดออกมาว่า

                “พี่โช เงินพวกนี้มันอะไรกันคะ”

                “เงินค่าเล่าเรียนมหาลัยของน้องยังไงละ “โชพูดออกมาอย่างยิ้มๆ

                เทียน่ามองโชด้วยสายตาดีใจอย่างสุดซึ่ง ไม่นานคุณแม่ก็ขอสมุดฝากเงินไปดู พอเธอเห็นยอดเงิน เธอก็ถามขึ้นมาว่า

    ”โช ลูกไปเอาเงินพวกนี้มาจากไหนกันนะ”

                โชยิ้ม ก่อนจะพูดว่า”มันเป็นเงินเก็บของผมนะครับ แม่ก็รู้นี้ครับว่าพอจบม.6แล้วผมก็ออกมาช่วยทำงานเพื่อค่าใช้จ่ายของทางบ้าน แต่พอว่างจากงานประจำผมจะไปหารายได้เสริมเพื่อเก็บเงินจำนวนนี้ ผมรู้ว่าสักวัน เทียน่าต้องอยากเรียนต่อมหาลัยเฉพาะทางของเหล่าHERO แน่ๆ ผมก็เลยเริ่มเก็บเงินจากการทำงานเพื่อนำมาให้น้องได้ใช้ในวันนี้นะครับ”

                แม่และเทียน่าได้แต่จ้องมองโชด้วยสีหน้าที่บอกไม่ถูก เพราะพวกเธอไม่เคยรู้ว่าโชจะมองกาลไกลถึงเพียงนี้ คนเดียวที่มองโชด้วยสายตาสงสารก็คือคุณพ่อที่นั่งเงียบมาตั้งแต่ต้น ขณะที่เป็นแบบนั้นโชก็พูดว่า

    ”เทียน่า พี่จะช่วยค่าเล่าเรียนทั้งหมดให้แต่ถ้าเราสอบไม่ผ่านขึ้นมา เรื่องทั้งหมดถือว่าเป็นโมฆะนะ”

                เทียน่ารีบพยักหน้าทันที ก่อนจะพูดออกมาว่า”รับทราบคะ หนูจะต้องสอบผ่านให้ได้เลย ถ้ายังไงหนูขอตัวไปอ่านหนังสือก่อนเลยนะ เออ พี่โชคะ หนูขอขอบคุณพี่มากจริงๆค่ะ”

              เทียน่าพูดจบ เธอก็รีบเดินขึ้นไปข้างบนทันที แม่ที่เห็นเทียน่าไปแล้ว เธอก็หันมามองโช ก่อนจะพูดออกมาว่า

                “เออ ท่าทางแม่จะหลงกลโชอีกจนได้นะ ดีนะที่โชเป็นฝ่ายเดียวกับแม่ ขืนโชเป็นHERO ขึ้นมาแม่ว่าพวกองค์กรชั่วร้ายคงต้องไม่มีอยู่บนโลกนี้แน่ๆ “

                โชได้แต่ยิ้มออกมาเพียงเล็กน้อย แม่จึงถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ก่อนจะพูดว่า”เออ แต่ก็เอาเถอะในเมื่อทุกอย่างลงเอยด้วยดี แม่ก็ขอขอบใจแทนเทียน่าด้วยละกัน 

              คุณแม่พูดจบก็ลุกขึ้นเดินไปยังห้องครัวเพื่อกินวุ้นโยคังที่เหลือต่อ  ซึ่งมันทำให้ในห้องนั่งเล่นเหลือเขากับพ่อเพียงสองคน ไม่นานพ่อที่เงียบมาตลอดก็พูดออกมาว่า

                “โช ลูกแน่ใจนะว่าจะทำแบบนี้นะ เงินจำนวนนั้นมันเป็นเงินที่ลูกเก็บไว้เพื่อเป็นทุนการศึกษาของตัวเองไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมลูกถึงยกให้น้องไปซะละ”

                โชยิ้ม ก่อนจะลุกขึ้นยืนพร้อมพูดออกมาว่า”เพราะเธอเป็นน้องของผมยังไงละ แค่นั้นก็เพียงพอแล้วละครับ อีกอย่างเงินจะหาอีกเมื่อไรก็ได้ ส่วนเรื่องการเรียนนั้นขอเพียงเรามีความพยายามทุกที่เราก็สามารถเรียนได้ ไม่จำเป็นต้องไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเพียงอย่างเดียวสักหน่อยนี้ครับ”

                พ่อยกชาขึ้นมาจิบอีกครั้ง ก่อนจะพูดออกมาว่า”นั้นสินะ ลูกนี้ช่างสมกับเป็นผู้นำรุ่นที่ 3 แห่งองค์กรชั่วร้ายจริงๆ ”

               

               

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×