ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Books of Memory: Wings

    ลำดับตอนที่ #2 : Books I: Wings I - 1

    • อัปเดตล่าสุด 3 พ.ค. 50


     

    Books of Memory

    ~Wings~

    Books I: Wings I

    MEMORIES OF HOMELAND

    SMALL HOME, SMALL HOUSE

     

    เสียงดังโครมใหญ่ดังกึงก้องป่าขึ้นอีกครั้ง ต้นไม้ใหญ่อายุนับแสนแกว่งไปมาจากแรงกระแทกอันแสนจะรุนแรง แม้จะอยู่ในใจกลางป่าลึก แต่สงครามย่อยๆแบบนี้มักจะเกิดขึ้นอยู่อย่างสม่ำเสมอ  

    สงครามแห่งการดำรงชีวิต....

    เด็กหนุ่มผมทองที่อยู่ข้างใต้ต้นไม้ใหญ่นั้นปาดเหงื่ออย่างโล่งอก หากเขาพลาดพลั้งเมื่อครู่ สิ่งที่ทำให้เกิดรอยแผลใหญ่บนต้นไม้ยักษ์ข้างๆเขา คงจะไม่พ้นหันมาฉีกร่างเขาแทนแน่ ดาบที่อยู่ในมือก็ดันมาหักเอาเสียได้ เขาจัดการโยนมันทิ้งอย่างไม่ใยดี ก่อนที่จะคว้าดาบคู่ใจที่ไม่อยากจะใช้ของเขาออกมาใช้อีกครั้ง

    สายตาของยักษ์ใหญ่เบื้องหน้าหันมาทางที่เด็กน้อย หลังจากรู้ว่ามันนั้นจู่โจมพลาดเป้า เด็กหนุ่มผมทองกระโดดถอยเว้นระยะ ก่อนที่การประจันหน้าจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง

    สิ่งที่เหมือนหอกอันยักษ์ของเจ้าร่างโย่งที่อยู่เบื้องหน้าเตรียมพุ่งเข้ามาจู่โจมเด็กน้อย แต่อีกฝ่ายกลับไม่ทำทีท่าวิตกอะไรนัก เขากลับรอคอยมันอย่างใจจดใจจ่อ ไม่ช้าไม่นานเจ้าร่างยักษ์ก็พุ่งอาวุธของมันเพื่อเตรียมทะลวงร่างของเด็กน้อยในทันใด ดวงตาของเด็กน้อยผู้มีสีฟ้าใสกับดำอยู่คนละข้างนี้ จ้องไปที่ตัวมันอย่างเป็นประกาย ถึงแม้ศัตรูของเขานี้จะรวดเร็วที่สุดในป่าแห่งนี้แล้วก็ตาม แต่เขาเชื่อว่าเขาจะหลบมันพ้นอย่างแน่นอน และในทันใดนั้นเองที่อาวุธอันยักษ์เตรียมหมายจะทิ่มแทงหน้าอกของเด็กหนุ่ม เด็กหนุ่มก็รีบเบี่ยงตัวหลบอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะสะบัดดาบออกไป พร้อมกับฝากแผลลึกยังข้างลำตัวของยักษ์ใหญ่นั้น

    แผลที่ปรากฏนั้นทั้งลึกและยาวตั้งแต่ลำคอจรดสันหลัง ไม่ว่าเจ้ายักษ์นั่นจะตัวใหญ่แค่ไหนก็ตามมันก็ล้มตึงลงในเวลาเพียงไม่นาน เมื่อเห็นว่าศัตรูที่อยู่ตรงหน้าล้มตึงไปแล้ว เขาจึงค่อยๆเก็บดาบลงไปอย่างช้าๆ

    ใกล้ๆกันนั้น มีศพอยู่ราวสามศพนอนตายอย่างน่าสยดสยอง ร่างกายของพวกเขาทุกคนถูกบางสิ่งบางอย่างอันคมกริบผ่าร่างของพวกเขาให้แยกออกจากกับเป็นสองซีก เด็กหนุ่มเดินไปที่ศพนั้นด้วยสายตาที่เย็นชา ก่อนก้มลงเก็บดาบที่ตกอยู่ใกล้ๆศพทั้งสามนั้นมาใส่ในกระเป๋าสะพายของตน แล้วก็จึงค่อยๆเดินกลับไปลากเจ้ายักษ์ที่เขาล้มได้เมื่อครู่หายเข้าไปในป่าลึกอย่างช้าๆ ศพทั้งสามถูกทอดทิ้งอย่างไม่ใยดีในป่าใหญ่แห่งนั้น

    น่าแปลกที่แม้ทั้งสามจะมีรูปร่างเหมือนมนุษย์ก็จริง แต่ก็ยังมีสิ่งหนึ่งที่แตกต่าง พวกเขาล้วนแต่มีเขาอันน่าขนลุกที่ทิ่มแทงขึ้นออกมาจากศีรษะ แม้มันจะแปลกสำหรับมนุษย์ปรกติแต่ไม่แปลกสำหรับที่นี่ เผ่าพันธุ์มนุษย์มีเขาแห่งเอจเอเดนนี้ ถูกเรียกกันว่า เผ่าเวิร์ส

    ................

    ฮิปโปกริฟขนเงิน หรือเจ้ากวางยักษ์ขนสีเงินที่มีปีกเล็กๆติดอยู่บริเวณลำตัวที่เด็กหนุ่มกำลังลากอยู่นี้ เป็นสัตว์ที่เรียกได้ว่าล่าได้ยากอันดับต้นๆในป่าแห่งนี้เลยทีเดียว แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังคุ้มค่าต่อการล่าเป็นอย่างยิ่ง ด้วยรสชาติที่แสนจะเอร็ดอร่อย แถมด้วยลำตัวขนาดมหึมาที่สามารถกินได้ร่วมสัปดาห์ การที่เด็กหนุ่มสามารถล่ามันได้ในวันนี้ จริงๆเขาควรจะดีใจกับมันเสียด้วยซ้ำไป แต่ถ้าไม่ติดที่ต้องมาเสียอารมณ์กับเวิร์สสามคนนั่นแล้ว เขาคงจะยินดีกว่านี้

    ชักจะมากขึ้นทุกทีเสียแล้วสิ เด็กหนุ่มบ่นพึมพำกับตนเองอย่างเบาๆ

    เขาไม่ชอบใจเลยที่จะมีผู้บุกรุกเหมือนสามคนนั้นจะมาบุกรุกเข้ามายังที่ป่าแห่งนี้ ก็เพราะถ้าหากพวกมันรู้ความจริงเกี่ยวกับตัวเขาและรอดไปได้ พวกนั้นก็อาจจะนำเรื่องนี้ไปบอกกับผู้อื่น และท้ายที่สุดก็ทำให้เขาไม่สามารถอยู่ในที่แห่งนี้ต่อไปได้อีก ซึ่งมันเป็นเรื่องที่เขายอมไม่ได้อย่างเด็ดขาด

    ทว่า นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลที่เพียงพอต่อการฆ่าพวกเขาหรอกมันมีวิธีอยู่หลายวิธีขับไล่พวกนั้นไปโดยไม่ต้องเข่นฆ่าอยู่...

    เขารู้สึกยินดีปนเจ็บปวดอยู่ลึกๆที่เวิร์สสามคนนั้นต้องตายลงไป จริงๆแล้ว ผู้ที่ฆ่าเวิร์สสามคนนั่นไม่ใช่เขาหรอก แต่มันเป็นฝีมือของปีศาจต่างหาก...

    เด็กหนุ่มลากร่างของฮิปโปกริฟขนเงินออกมาถึงยังที่ราบโล่งแห่งหนึ่ง ที่นั่นเองมีบ้านเล็กๆหลังหนึ่งตั้งอยู่ในบริเวณใจกลาง ด้วยผลของเวทมนตร์ครอบอาณาเขต ทำให้ไม่อาจจะมีสัตว์หรือมนุษย์คนใดสามารถมองเห็นหรือเดินฝ่าเข้ามายังพื้นที่แห่งนี้ได้นอกจากผู้ที่มีเวทมนตร์สูงในระดับเขาเพียงเท่านั้น

    ที่นี่เอง ที่เรียกได้ว่าเป็น บ้าน ของเขา บ้านอันแสนสงบสุขในใจกลางป่าที่แสนวุ่นวายและอันตรายที่สุดในเอจเอเดนแห่งนี้...

    ร่างอันไร้วิญญาณถูกโยนอย่างไม่ใยดีไปยังที่โล่งว่างอันใกล้ๆกับบ้านหลังเล็กแห่งนี้ก่อนที่เด็กหนุ่มจะเดินเข้าตัวบ้านไป

    กลับมาแล้ว เด็กหนุ่มพูดพร้อมกับยิ้มออกไป นั่นเป็นรอยยิ้มแรกที่เขามีนักตั้งแต่เดินทางออกจากบ้านหลังนี้ไป

    ช้า อีกฝ่ายตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงอันแผ่วเบาและสีหน้าอันดูเหมือนไร้อารมณ์ ภายใต้มุมมืดของบ้านหลังนี้

    มันอาจจะแปลกที่แม้ใบหน้าของทั้งสองจะคล้ายกัน แต่หลายๆสิ่งในร่างกายที่พวกเขามีกลับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เด็กหนุ่มมีตาข้างซ้ายสีฟ้าข้างขวาสีดำ และมีผมสีทอง ส่วนอีกฝ่ายเป็นเด็กผู้หญิง ที่มีตาขวาสีแดงตาซ้ายสีดำ พร้อมทั้งผมที่ดำขลับมันต่างกับอีกฝ่ายอย่างสิ้นเชิง และที่สำคัญเด็กหญิงผู้นี้มีปีก! ปีกสีดำสนิทเฉกเช่นกับเส้นผมของเธอ...

    หิวแล้วใช่ไหมถึงพูดอย่างนั้นน่ะ เด็กหนุ่มหัวเราะแหะๆออกไป ในขณะที่เด็กผู้หญิงยังนิ่งเงียบ งั้นจะทำอาหารให้นะ

    หนูทำเอง... พูดเสร็จฝ่ายเด็กสาวก็เดินออกจากตัวบ้านไปยังซากของฮิปโปกริฟขนเงินที่เด็กหนุ่มเป็นผู้วางไว้นั้น

    เด็กสาวเริ่มการแล่เนื้อด้วยการร่ายเวทมนตร์สร้างมีดขึ้นมาแล้วทำการชำแหละเจ้าฮิปโปกริฟตัวนั้นอย่างทันที ส่วนเด็กหนุ่มเองกฎตามออกมายังนอกบ้านด้วยเช่นกัน แล้วทำการหยิบดาบที่เขาเก็บมาได้นั้นขึ้นมาทำความสะอาด

    สัญลักษณ์นี้มันของกองทัพเวิร์สนี่... เด็กหนุ่มคิดในใจ ถ้ามันหากเป็นอาวุธของชาวบ้านธรรมดามันไม่น่าจะเป็นปัญหาเท่าไหร่ แต่นี่มันกลับเป็นอาวุธของทางกองทัพเวิร์ส สามคนที่เขาเจอในวันนี้ท่าทางจะต้องเป็นทหารของกองทัพเวิร์สแน่ๆ เด็กหนุ่มรู้สึกใจคอไม่ดีเอาเสียเลย

    สงครามในดินแดนเอจเอเดนนี้ ดำเนินต่อเนื่องมาหลายหมื่นปีแล้ว มันนานจนไม่อาจจะรู้ได้ว่าจริงๆแล้วมันเริ่มต้นขึ้นเมื่อใด แต่น่าจะเริ่มต้นตั้งแต่ยุคเริ่มแรกของเอจเอเดนเลยทีเดียว ที่ดินแดนแห่งนี้นอกจากเผ่าเวิร์สแล้วยังมีเผ่าที่ยิ่งใหญ่ทัดเทียมกับเผ่าเวิร์สอยู่อีกเผ่า นั่นก็คือเผ่าอาร์ช

    เผ่าเวิร์สนอกจากจะมีลักษณะเด่นที่ว่ามีเขาทิ่มแทงออกมาจากศีรษะแล้ว เผ่านี้ยังมีลักษณะเด่นอื่นอีก นั่นก็คือมีรูปร่างที่เพรียว มีผมสีดำ นัยน์ตาสีแดง และหน้าตาที่ดุร้ายในขณะที่เผ่าอาร์ชนั้นจะมีรูปร่างที่บึกบึนและใหญ่โต มีนัยน์ตาสีฟ้าใส ผมสีทอง และปีกสีขาวอันสวยงามที่หลัง สองเผ่านี้เป็นเผ่าพันธุ์ที่คอยปกครองดินแดนนี้อยู่ ทั้งสองเป็นคู่อริกันมาช้านานและมักจะมีเรื่องกระทบกระทั่งกันอยู่บ่อยๆ

    สงครามที่ดำเนินระหว่างทั้งสองฝ่ายแม้จะเกิดขึ้นมาช้านานก็ตาม แต่ก็หาร้ายแรงจนถึงกระทั่งฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กันเลยไม่ ส่วนใหญ่ทั้งสองจะมีแค่การรบกันประปรายในแทบชายแดนกันเพียงอย่างเดียว โดยส่วนใหญ่มักจะส่งตัวแทนที่เป็นเผ่าพันธุ์อื่นออกไปรบแทนอยู่เสมอๆ จึงไม่ทำให้ทั้งสองฝ่ายมีการสูญเสียมากนัก ทว่าการอยู่ใจกลางแนวรบพุ่งกันนั้นเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างยิ่ง แม้ป่าแห่งนี้จะไม่เคยเป็นสมรภูมิของการรบมาก่อน แต่มันก็ยังอยู่ในเขตเสี่ยง เพราะมันตั้งอยู่ระหว่างขายแดนของทั้งสองเผ่า อีกทั้งช่วงนี้มีทหารของเวิร์สเข้ามาป้วนเปี้ยนในป่าแห่งนี้เรื่อยๆ จึงน่ากลัวเป็นอย่างยิ่งที่ป่าแห่งนี้จะกลายเป็นสมรภูมิแห่งใหม่ไปในท้ายที่สุด

    ฮิปโปกริฟที่เด็กสาวทำการแล่นั้นจู่ๆก็พองตัวขึ้นมาอย่างฉับพลันก่อนที่จะระเบิดออกมา ชิ้นเนื้อจากส่วนท้องกระจุยกระจายไปทั่วบริเวณ ชิ้นส่วนเครื่องในกระจัดกระจายไปหมด ไม่เว้นแต่ตัวของเด็กหนุ่มและเด็กสาวที่ต่างก็เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดและเศษชิ้นส่วนของฮิปโปรกริฟตัวนั้นจนแดงฉานไปทั่วทั้งตัว

    ทำอะไรน่ะ? ฝ่ายเด็กหนุ่มถามออกไปอย่างเบาๆ

    กะพลังเวทผิด นั่นคือคำตอบที่ออกมาจากอีกฝ่ายก่อนที่หล่อนจะตั้งหน้าตั้งตาแล่เนื้อฮิปโปรกริฟตัวนั้นต่อ

    เด็กหนุ่มหัวเราะ จริงๆน้องสาวของเขาคนนี้ไม่ได้กะพลังเวทผิดอย่างที่เจ้าหล่อนว่าหรอก น่าจะเพราะเธออยากจะหาเรื่องปวดหัวมาให้กับพี่ชายคนนี้เสียซะมากกว่า

    ................

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×