คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Books I: Wings I - 1
Books
of Memory
~Wings~
Books
I: Wings I
MEMORIES
OF HOMELAND
SMALL
HOME, SMALL HOUSE
เสียงดังโครมใหญ่ดังกึงก้องป่าขึ้นอีกครั้ง
ต้นไม้ใหญ่อายุนับแสนแกว่งไปมาจากแรงกระแทกอันแสนจะรุนแรง แม้จะอยู่ในใจกลางป่าลึก
แต่สงครามย่อยๆแบบนี้มักจะเกิดขึ้นอยู่อย่างสม่ำเสมอ
สงครามแห่งการดำรงชีวิต....
เด็กหนุ่มผมทองที่อยู่ข้างใต้ต้นไม้ใหญ่นั้นปาดเหงื่ออย่างโล่งอก
หากเขาพลาดพลั้งเมื่อครู่ สิ่งที่ทำให้เกิดรอยแผลใหญ่บนต้นไม้ยักษ์ข้างๆเขา
คงจะไม่พ้นหันมาฉีกร่างเขาแทนแน่ ดาบที่อยู่ในมือก็ดันมาหักเอาเสียได้
เขาจัดการโยนมันทิ้งอย่างไม่ใยดี
ก่อนที่จะคว้าดาบคู่ใจที่ไม่อยากจะใช้ของเขาออกมาใช้อีกครั้ง
สายตาของยักษ์ใหญ่เบื้องหน้าหันมาทางที่เด็กน้อย
หลังจากรู้ว่ามันนั้นจู่โจมพลาดเป้า เด็กหนุ่มผมทองกระโดดถอยเว้นระยะ
ก่อนที่การประจันหน้าจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง
สิ่งที่เหมือนหอกอันยักษ์ของเจ้าร่างโย่งที่อยู่เบื้องหน้าเตรียมพุ่งเข้ามาจู่โจมเด็กน้อย
แต่อีกฝ่ายกลับไม่ทำทีท่าวิตกอะไรนัก เขากลับรอคอยมันอย่างใจจดใจจ่อ
ไม่ช้าไม่นานเจ้าร่างยักษ์ก็พุ่งอาวุธของมันเพื่อเตรียมทะลวงร่างของเด็กน้อยในทันใด
ดวงตาของเด็กน้อยผู้มีสีฟ้าใสกับดำอยู่คนละข้างนี้ จ้องไปที่ตัวมันอย่างเป็นประกาย
ถึงแม้ศัตรูของเขานี้จะรวดเร็วที่สุดในป่าแห่งนี้แล้วก็ตาม
แต่เขาเชื่อว่าเขาจะหลบมันพ้นอย่างแน่นอน และในทันใดนั้นเองที่อาวุธอันยักษ์เตรียมหมายจะทิ่มแทงหน้าอกของเด็กหนุ่ม
เด็กหนุ่มก็รีบเบี่ยงตัวหลบอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะสะบัดดาบออกไป
พร้อมกับฝากแผลลึกยังข้างลำตัวของยักษ์ใหญ่นั้น
แผลที่ปรากฏนั้นทั้งลึกและยาวตั้งแต่ลำคอจรดสันหลัง
ไม่ว่าเจ้ายักษ์นั่นจะตัวใหญ่แค่ไหนก็ตามมันก็ล้มตึงลงในเวลาเพียงไม่นาน
เมื่อเห็นว่าศัตรูที่อยู่ตรงหน้าล้มตึงไปแล้ว เขาจึงค่อยๆเก็บดาบลงไปอย่างช้าๆ
ใกล้ๆกันนั้น
มีศพอยู่ราวสามศพนอนตายอย่างน่าสยดสยอง
ร่างกายของพวกเขาทุกคนถูกบางสิ่งบางอย่างอันคมกริบผ่าร่างของพวกเขาให้แยกออกจากกับเป็นสองซีก
เด็กหนุ่มเดินไปที่ศพนั้นด้วยสายตาที่เย็นชา
ก่อนก้มลงเก็บดาบที่ตกอยู่ใกล้ๆศพทั้งสามนั้นมาใส่ในกระเป๋าสะพายของตน
แล้วก็จึงค่อยๆเดินกลับไปลากเจ้ายักษ์ที่เขาล้มได้เมื่อครู่หายเข้าไปในป่าลึกอย่างช้าๆ
ศพทั้งสามถูกทอดทิ้งอย่างไม่ใยดีในป่าใหญ่แห่งนั้น
น่าแปลกที่แม้ทั้งสามจะมีรูปร่างเหมือนมนุษย์ก็จริง
แต่ก็ยังมีสิ่งหนึ่งที่แตกต่าง
พวกเขาล้วนแต่มีเขาอันน่าขนลุกที่ทิ่มแทงขึ้นออกมาจากศีรษะ แม้มันจะแปลกสำหรับมนุษย์ปรกติแต่ไม่แปลกสำหรับที่นี่
เผ่าพันธุ์มนุษย์มีเขาแห่ง”เอจเอเดน”นี้ ถูกเรียกกันว่า เผ่า”เวิร์ส”
................
ฮิปโปกริฟขนเงิน
หรือเจ้ากวางยักษ์ขนสีเงินที่มีปีกเล็กๆติดอยู่บริเวณลำตัวที่เด็กหนุ่มกำลังลากอยู่นี้
เป็นสัตว์ที่เรียกได้ว่าล่าได้ยากอันดับต้นๆในป่าแห่งนี้เลยทีเดียว
แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังคุ้มค่าต่อการล่าเป็นอย่างยิ่ง ด้วยรสชาติที่แสนจะเอร็ดอร่อย
แถมด้วยลำตัวขนาดมหึมาที่สามารถกินได้ร่วมสัปดาห์
การที่เด็กหนุ่มสามารถล่ามันได้ในวันนี้ จริงๆเขาควรจะดีใจกับมันเสียด้วยซ้ำไป
แต่ถ้าไม่ติดที่ต้องมาเสียอารมณ์กับเวิร์สสามคนนั่นแล้ว เขาคงจะยินดีกว่านี้
“ชักจะมากขึ้นทุกทีเสียแล้วสิ”
เด็กหนุ่มบ่นพึมพำกับตนเองอย่างเบาๆ
เขาไม่ชอบใจเลยที่จะมีผู้บุกรุกเหมือนสามคนนั้นจะมาบุกรุกเข้ามายังที่ป่าแห่งนี้
ก็เพราะถ้าหากพวกมันรู้ความจริงเกี่ยวกับตัวเขาและรอดไปได้
พวกนั้นก็อาจจะนำเรื่องนี้ไปบอกกับผู้อื่น
และท้ายที่สุดก็ทำให้เขาไม่สามารถอยู่ในที่แห่งนี้ต่อไปได้อีก
ซึ่งมันเป็นเรื่องที่เขายอมไม่ได้อย่างเด็ดขาด
ทว่า นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลที่เพียงพอต่อการฆ่าพวกเขาหรอกมันมีวิธีอยู่หลายวิธีขับไล่พวกนั้นไปโดยไม่ต้องเข่นฆ่าอยู่...
เขารู้สึกยินดีปนเจ็บปวดอยู่ลึกๆที่เวิร์สสามคนนั้นต้องตายลงไป
จริงๆแล้ว ผู้ที่ฆ่าเวิร์สสามคนนั่นไม่ใช่เขาหรอก แต่มันเป็นฝีมือของ”ปีศาจ”ต่างหาก...
เด็กหนุ่มลากร่างของฮิปโปกริฟขนเงินออกมาถึงยังที่ราบโล่งแห่งหนึ่ง
ที่นั่นเองมีบ้านเล็กๆหลังหนึ่งตั้งอยู่ในบริเวณใจกลาง
ด้วยผลของเวทมนตร์ครอบอาณาเขต
ทำให้ไม่อาจจะมีสัตว์หรือมนุษย์คนใดสามารถมองเห็นหรือเดินฝ่าเข้ามายังพื้นที่แห่งนี้ได้นอกจากผู้ที่มีเวทมนตร์สูงในระดับเขาเพียงเท่านั้น
ที่นี่เอง ที่เรียกได้ว่าเป็น “บ้าน” ของเขา
บ้านอันแสนสงบสุขในใจกลางป่าที่แสนวุ่นวายและอันตรายที่สุดในเอจเอเดนแห่งนี้...
ร่างอันไร้วิญญาณถูกโยนอย่างไม่ใยดีไปยังที่โล่งว่างอันใกล้ๆกับบ้านหลังเล็กแห่งนี้ก่อนที่เด็กหนุ่มจะเดินเข้าตัวบ้านไป
“กลับมาแล้ว” เด็กหนุ่มพูดพร้อมกับยิ้มออกไป
นั่นเป็นรอยยิ้มแรกที่เขามีนักตั้งแต่เดินทางออกจากบ้านหลังนี้ไป
“ช้า”
อีกฝ่ายตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงอันแผ่วเบาและสีหน้าอันดูเหมือนไร้อารมณ์
ภายใต้มุมมืดของบ้านหลังนี้
มันอาจจะแปลกที่แม้ใบหน้าของทั้งสองจะคล้ายกัน
แต่หลายๆสิ่งในร่างกายที่พวกเขามีกลับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
เด็กหนุ่มมีตาข้างซ้ายสีฟ้าข้างขวาสีดำ และมีผมสีทอง ส่วนอีกฝ่ายเป็นเด็กผู้หญิง
ที่มีตาขวาสีแดงตาซ้ายสีดำ พร้อมทั้งผมที่ดำขลับมันต่างกับอีกฝ่ายอย่างสิ้นเชิง
และที่สำคัญเด็กหญิงผู้นี้มีปีก! ปีกสีดำสนิทเฉกเช่นกับเส้นผมของเธอ...
“หิวแล้วใช่ไหมถึงพูดอย่างนั้นน่ะ” เด็กหนุ่มหัวเราะแหะๆออกไป
ในขณะที่เด็กผู้หญิงยังนิ่งเงียบ “งั้นจะทำอาหารให้นะ”
“หนูทำเอง...”
พูดเสร็จฝ่ายเด็กสาวก็เดินออกจากตัวบ้านไปยังซากของฮิปโปกริฟขนเงินที่เด็กหนุ่มเป็นผู้วางไว้นั้น
เด็กสาวเริ่มการแล่เนื้อด้วยการร่ายเวทมนตร์สร้างมีดขึ้นมาแล้วทำการชำแหละเจ้าฮิปโปกริฟตัวนั้นอย่างทันที
ส่วนเด็กหนุ่มเองกฎตามออกมายังนอกบ้านด้วยเช่นกัน
แล้วทำการหยิบดาบที่เขาเก็บมาได้นั้นขึ้นมาทำความสะอาด
สัญลักษณ์นี้มันของกองทัพเวิร์สนี่...
เด็กหนุ่มคิดในใจ ถ้ามันหากเป็นอาวุธของชาวบ้านธรรมดามันไม่น่าจะเป็นปัญหาเท่าไหร่
แต่นี่มันกลับเป็นอาวุธของทางกองทัพเวิร์ส
สามคนที่เขาเจอในวันนี้ท่าทางจะต้องเป็นทหารของกองทัพเวิร์สแน่ๆ
เด็กหนุ่มรู้สึกใจคอไม่ดีเอาเสียเลย
สงครามในดินแดนเอจเอเดนนี้
ดำเนินต่อเนื่องมาหลายหมื่นปีแล้ว มันนานจนไม่อาจจะรู้ได้ว่าจริงๆแล้วมันเริ่มต้นขึ้นเมื่อใด
แต่น่าจะเริ่มต้นตั้งแต่ยุคเริ่มแรกของเอจเอเดนเลยทีเดียว
ที่ดินแดนแห่งนี้นอกจากเผ่าเวิร์สแล้วยังมีเผ่าที่ยิ่งใหญ่ทัดเทียมกับเผ่าเวิร์สอยู่อีกเผ่า
นั่นก็คือเผ่า”อาร์ช”
เผ่าเวิร์สนอกจากจะมีลักษณะเด่นที่ว่ามีเขาทิ่มแทงออกมาจากศีรษะแล้ว
เผ่านี้ยังมีลักษณะเด่นอื่นอีก นั่นก็คือมีรูปร่างที่เพรียว มีผมสีดำ นัยน์ตาสีแดง
และหน้าตาที่ดุร้ายในขณะที่เผ่าอาร์ชนั้นจะมีรูปร่างที่บึกบึนและใหญ่โต
มีนัยน์ตาสีฟ้าใส ผมสีทอง และปีกสีขาวอันสวยงามที่หลัง
สองเผ่านี้เป็นเผ่าพันธุ์ที่คอยปกครองดินแดนนี้อยู่ ทั้งสองเป็นคู่อริกันมาช้านานและมักจะมีเรื่องกระทบกระทั่งกันอยู่บ่อยๆ
สงครามที่ดำเนินระหว่างทั้งสองฝ่ายแม้จะเกิดขึ้นมาช้านานก็ตาม
แต่ก็หาร้ายแรงจนถึงกระทั่งฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กันเลยไม่
ส่วนใหญ่ทั้งสองจะมีแค่การรบกันประปรายในแทบชายแดนกันเพียงอย่างเดียว โดยส่วนใหญ่มักจะส่งตัวแทนที่เป็นเผ่าพันธุ์อื่นออกไปรบแทนอยู่เสมอๆ
จึงไม่ทำให้ทั้งสองฝ่ายมีการสูญเสียมากนัก
ทว่าการอยู่ใจกลางแนวรบพุ่งกันนั้นเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างยิ่ง
แม้ป่าแห่งนี้จะไม่เคยเป็นสมรภูมิของการรบมาก่อน แต่มันก็ยังอยู่ในเขตเสี่ยง
เพราะมันตั้งอยู่ระหว่างขายแดนของทั้งสองเผ่า อีกทั้งช่วงนี้มีทหารของเวิร์สเข้ามาป้วนเปี้ยนในป่าแห่งนี้เรื่อยๆ
จึงน่ากลัวเป็นอย่างยิ่งที่ป่าแห่งนี้จะกลายเป็นสมรภูมิแห่งใหม่ไปในท้ายที่สุด
ฮิปโปกริฟที่เด็กสาวทำการแล่นั้นจู่ๆก็พองตัวขึ้นมาอย่างฉับพลันก่อนที่จะระเบิดออกมา
ชิ้นเนื้อจากส่วนท้องกระจุยกระจายไปทั่วบริเวณ ชิ้นส่วนเครื่องในกระจัดกระจายไปหมด
ไม่เว้นแต่ตัวของเด็กหนุ่มและเด็กสาวที่ต่างก็เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดและเศษชิ้นส่วนของฮิปโปรกริฟตัวนั้นจนแดงฉานไปทั่วทั้งตัว
“ทำอะไรน่ะ?” ฝ่ายเด็กหนุ่มถามออกไปอย่างเบาๆ
“กะพลังเวทผิด”
นั่นคือคำตอบที่ออกมาจากอีกฝ่ายก่อนที่หล่อนจะตั้งหน้าตั้งตาแล่เนื้อฮิปโปรกริฟตัวนั้นต่อ
เด็กหนุ่มหัวเราะ
จริงๆน้องสาวของเขาคนนี้ไม่ได้กะพลังเวทผิดอย่างที่เจ้าหล่อนว่าหรอก
น่าจะเพราะเธออยากจะหาเรื่องปวดหัวมาให้กับพี่ชายคนนี้เสียซะมากกว่า
................
ความคิดเห็น