ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คำสารภาพ(รัก)ของฉัน ที่ช้าไปหน่อย

    ลำดับตอนที่ #2 : ห่างกัน ยังอุตส่าห์ งี่เง่านะ

    • อัปเดตล่าสุด 17 มี.ค. 52


    />

    เอาล่ะ จบไป เกริ่นยาวไปนิด แต่แค่อยากจะเริ่มต้นเรื่องน่ะ ว่าหลังจากวันนั้น ที่เราลากัน ที่เราบอกว่าจะรักกัน เขาบอกว่าจะรักฉัน เขาเปลี่ยนไป มันจริงแท้ แน่นอน แค่ไหน แล้วเรากระทำอย่างไรตอบกลับต่อเขา มันก็เริ่มขึ้นอย่างจริงจัง หลังจากที่เราอยู่ไกลกัน แล้วเรื่องมันก็เริ่มดำเนินแบบนี้แหละ

                    วันแรกที่ไปถึงที่ประเทศใหม่ ที่จะเริ่มทำงานน่ะคะ คือไม่มีโทรศัพท์ ไม่มีอินเตอร์เนท ดิฉันก็ร้อนรน อะไรก็ใหม่ไปหมด พยายามซื้อ บัตรโทรศัพท์ แม่งก็ดันไม่มีโทรศัพท์ในบ้านอีก จะบ้าตาย ให้มันได้อย่างงี้สิคะแต่เอาเป็นว่าสามารถหายืมจากยามที่เฝ้าตึกได้ เลยได้โทรไปบอกที่บ้าน แล้วก็บอกเขาว่าเออฉันมาถึงนะ ยังไม่มีเนตอาจจะไม่ได้คุยกันสักพักนึง ก็จบไป โอเคต่อมาพยายามเรียกร้องจนได้โทรศัพท์ในห้องนะคะ แล้วก้อในที่สุดก็ใช้โทรศัพท์ต่อเนตได้ ก็ต้องซื้อบัตรมา แล้วตอนนั้นนะคะดิฉันก็เริ่มเทรนแล้ว ต้องอ่านหนังสือหนักมาก ตื่นแต่เช้ามาคุยกะเขาวันนึง ตื่นตีห้าครึ่ง เพราะว่ารถบัสมารับ เจ็ดโมงยี่สิบ คุยกันครึ่งชั่วโมง วันนั้นดิฉันบอกว่าเขาว่า เออฉันจะตื่นแต่เช้าแบบนี้มาคุยกะเธอนะ แล้วเจอกันทุกเช้า เออหลังจากพูดคุย เป็นมั่นเป็นเหมาะ ดิฉันก็ไม่เคยเลยจะตื่นมาออนไลน์ตอนเช้า เพราะมันง่วง มันเหนื่อย คำถามแล้วเขาล่ะ? ทางเขาเองก็ทำงาน ตอนสามทุ่มเลิกตีห้า เวลาจับต้นชนปลายก็เป็นหลังเค้าเลิกงาน หรือก่อนไปทำงานไม่ทราบ แต่คือ มันก็เหนื่อยเหมือนกันเพราะว่ามันก็ต้องเรียนหนังสืออยู่ด้วยอ่ะคะ แต่ดิฉันก็ไม่ไปออน กลับจากเทรนมาเปิดเมล์ เชคเนต เชคเอ็ม ก็ได้รับจากเขาทุกวัน ว่าเป็นไร ไม่สบาย ตื่นสาย เป็นห่วง คิดถึง สารพัน สารพัด นู่นนี่นั่น  แล้วดิฉันทำอย่างไรหรอคะ โอ้ยรำคาญจริง จะเขียนไรนักหนาวะ คนเหนื่อยจะตาย อยู่แล้วไม่ได้ว่างนะโว้ย อืม บ่นแบบเนี่ยล่ะคะ แต่ก็ตอบไปดีๆ นะคะ เหนื่อย เทรนหนัก ขอโทษที่ไม่ได้ออน ไรทำนองนี้ สั้น ๆ แล้วก็มีออน เล็กๆ ประปราย แบบห้านาทีก่อนไปเทรน เพราะไม่อยากโดนถาม มันเบื่อน่ะคะตอนนั้น สนทนาพาทีกันหรอคะ ไม่มี ดังนั้นจึงไม่สามารถเล่าอะไรได้มาก

                    แล้ววันนึงประมาณอาทิตย์นึงได้มั้งคะจำไม่ค่อยจะได้ ก็ได้ฤกษ์ไปซื้อซิมค่ะ จะได้ใช้มือถือสักกะที ขอเม้าท์หน่อยเรื่องมากจริง กว่าจะได้มือถือเนี่ย แม่งจะไรกันนัก กันหนา วุ้ย!  โอเคค่ะ จากนั้นได้เบอร์มาเรียบร้อย ดิฉันก็จัดการส่งข้อความไปบอก พ่อ บอก แม่ เพื่อน แล้วก็แฟนก็ได้ค่ะว่านี่เบอร์ฉัน ไม่มีใครตอบมาเลยสักกะคน เออก็เข้าใจน่ะนะว่าเรื่องของเวลาที่แตกต่าง พ่อ แม่ เพื่อน ให้อภัยค่ะ แต่เอ๊ะ ผู้ชายคนนั้น ทำไมไม่ตอบ? เริ่มฉุนเล็ก ๆ เอ๊ะ ส่งไปใหม่

    เงียบ

    ไม่ตอบ เกิดอะไรขึ้นวะ

    โอ้ยไรวะ ตัวเองอุทาน

    หรือว่า ตาย เริ่มเป็นห่วง เล็ก ๆ เลยจัดการโทรไปหา ค่าโทรไม่ได้ถูก ๆ นะจ๊ะ

    โทรไป กดเบอร์

    รอสาย

    “Hello” ทางนู้นรับสาย เสียงงัวเงีย เดาได้ว่านอนหลับอยู่

    ทำไมไม่ตอบเมสเสจอ่ะ? ได้หรือป่าว? ถาม น้ำเสียงยังดีอยู่ ไม่อยากโวยวายเพราะอยู่ในแท๊กซี่

    ไม่ได้นะ ไม่ได้ เขาตอบกลับมา

    แม่งอารมณ์เสีย ทำไมไม่ได้วะ แล้วทำไงล่ะทีนี่

    โอ้ย อะไรเนี่ย ทำไมมีแต่เธอที่ฉันส่งข้อความไม่ได้ ไหนลองส่งมาหาหน่อย เบอร์ที่โทรนี่แหละว่าส่งมาหาได้ไหมนะ วางล่ะ เริ่มโวยวายเรื่องโทรศัพท์ใส่เขา เออ มานึก ๆ ตอนนี้ไม่มีถามสักคำว่านอนอยู่หรือ กวนไหม แย่เว้ยเห้ย อ่ะต่อ

    เงียบ

    ไม่มีข้อความเข้า เราก็เลยต้องโทรกลับไปใหม่

    ฮัลโหล ไม่ได้ข้อความของเธอนะ หงุดหงิด อย่างร้ายกาจ

    ส่งมาถูกเบอร์แน่นะ เริ่มซัก

    ถูกสิ แล้วเขาก็ทวนเบอร์มา

    ก็ถูกนะ เห้อ ทำไงดีวะเนี่ย

    โถ่เว้ย คนที่ฉันอยากส่งข้อความไปมามากที่สุดกลับทำไม่ได้ ให้มันได้อย่างงี้สิ อืมแค่นี้ก่อนละกัน แพงน่ะโทร ไว้คุยกันนะ พูดอย่างหงุดหงิด

    แล้วเดี๋ยวไว้จะโทรไปหาเองก็แล้วกันนะ have a good day darling” เขาก็พูดแบบนั้น แล้วเราก็ตัดสายไป เพราะว่ามันแพงค้า

    แต่ความพยามยามของดิฉันก้อเป็นเลิศ แหมแล้วจะหาว่าเป็นคนใจร้ายรึก็ไม่ใช่ ก็เลยตัดสินใจ ส่งข้อความผ่านเบอร์ไทย โรมมิ่ง ทำนองนั้นไป แต่ตอนส่งก้อแอบคิดเหมือนกันนะว่าโอ้ยเปลืองจริงเว้ย

    หลังจากที่ ผช คนนี้ทราบเบอร์ เขาก็หมั่นโทรมาหานะคะ เพราะว่าตอนนั้น เนตก็ต้องซื้อ แพง ยังไม่ได้ wireless ก็จนปัญญา เหมือนกัน จำได้ว่าวันนึงเขาโทรมา วันศุกร์ ซึ่งวันศุกร์เนี่ยเป็นวันหยุดไงคะ พี่แกโทรมาเลยคะตอนหกโมง

    เฮ้ ๆ ยังไม่ตื่นหรอ เดี๋ยวไปสายนะ เสียงตื่นเต้น มาเชียวนะ

    คือวันนี้วันศุกร์ไง ฉันหยุด แล้วก็นอนอยู่ แล้วก็เหนื่อยมาก งัวเงียแล้วก็หงุดหงิดมาก ๆ เกลียดจริงคนโทรมาปลุกตอนนอนเนี่ย

    ขอโทษ จำผิดน่ะ นึกว่าวันนี้เธอต้องตื่นไปเทรน ขอโทษนะ ไปนอนต่อเหอะ ขอโทษ ขอโพยยกใหญ่ เสียงตกใจจริง แอบคิดในใจเออถ้าขอโทษจริง ก้อวางไปเหอะไม่ต้องมาพูดหรอกว่าขอโทษ อืมคิดงั้น จริงๆ นะตอนนั้นน่ะ

    “have a good sl…” พูดไม่ทันจบมั้ง ตัดสายเลยค่ะคุณ แล้วดิฉันก็ปิดเสียง เพราะรู้ว่าต้องโทรมาอีกตอนสาย ๆ ไม่อยากคุย คนจะนอน ไม่แคร์

     

                    ใจร้ายไปหน่อยมั้ย?

     

    โอ้ย เบื่อจัง ที่ต้องคุยกันทุกวันเนี่ย ทำไมต้องคอยเขียนเมล์ ส่งข้อความด้วย ฉันบ่นกับเมทในห้อง

    อ้าว แล้วทำทำไม นี่พูดถึงใครเนี่ย แฟนน่ะหรอ เธอคนนั้นตอบ

    อืม ก็แบบ ทำไปแบบเหมือนเป็นหน้าที่ว่ะ ไม่ได้อยากทำไรหรอก ไม่ทำเดี๋ยวแม่งก้อร้องไห้ เสียใจ เป็นเรื่องราวใหญ่โต ทำนองนั้น ฉันตอบ แบบหัวเสีย

    เลิกสิ ถ้ารู้สึกแบบนั้น เมทให้คำแนะนำ

    ฉันแอบบอึ้งเล็ก ๆ

    เออ ก็คิดอยู่ว่ะ ยังไม่แน่ สงสาร ฉันพูดแบบนั้นแล้วก้อเดินไปเข้าห้อง

     

    รู้สึกแบบนั้นได้อยู่พักนึง แล้วก็มีเหตุการณ์นึงเกิดขึ้น ฉันไปชอบ ผช คนนึง เขาเข้ามาขอเบอร์ ฉันก็ให้ไป เราคุยกัน ฉันชอบเขานะ ผช คนนั้นที่เพิ่งเจอ ฉันเข้าไปใน hi5 ของตัวเอง แก้status ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ไอ้ตาแฟนคนนี่มันใส่ใจนัก เชคอยู่ได้ว่า ทำไมไม่ ตั้งว่า in relationship เอาเหอะ ตอนนั้นฉันหมั่นไส้เลย ไม่ใส่แม่งเลยรำคาญ อ่ะต่อ ชอบ ผช คนนั้น ฉันก็ เขียน journal เกี่ยวกับ ผช คนนั้น อารมณ์ประมาณว่า ชอบ หวังว่าเธอจะชอบฉันด้วย เธอเป็น my sweety อะไรทำนองนี้ ก็ เขาเรียกฉันว่า sweety นี่น่า

    ประเด็นคือ เขียนไป ตอนเช้ามาดู แฟนฉันเข้ามาดู เขานึกว่าฉันเขียนให้ตัวเขาน่ะสิ  ฉันเห็นคอมเม้นที่เขาเขียนไว้ เหมือนว่าดีใจที่เห็นฉันเขียนเรื่องราว หวาน ๆ เกี่ยวกะเขา แต่ไม่ใช่ ฉันเขียนไปถึง ผช คนอื่น!!!! โอ้วววววววววว

     

    จำได้ว่าวันนึง ต้องไปฝึกเทรนที่อีกประเทศนึงใกล้ ๆ กะที่ประเทศที่เราอยู่อ่ะนะ เรารู้ว่ามือถือของเราส่งขอ้ความได้ทั่วโลก ทุกที่ ยกเว้นส่งหาแฟนตัวเอง เห้ออออ แต่ไม่ใช่ประเด็นเพราะว่าตอนรอกลับ เราส่งข้อความไปบอก ผช อีกคนที่เราชอบ ว่า เราคิดถึง มาฝึกที่นี่เป็นอย่างไรบ้าง ถามไถ่ สารทุกข์ สุขดิบกัน

     

    แต่เราไม่ได้ส่งหาแฟน

     

    เมื่อเรากลับมาบ้าน เราเปิดคอม เราเห็นข้อความของเขา เราไม่ตอบ เราเห็นอีเมล์เขา เราไม่ตอบ เพราะเราเหนื่อย แต่เราส่งข้อความไปบอก ผช อีกคนว่าเราถึงแล้วนะ แฟนเราส่งข้อความมาในวันรุ่งขึ้นว่า เนี่ยไม่ได้คุยกันเลย วันนึงเต็ม ๆ เป็นไงบ้าง สบายดีนะ

    เราเห็นข้อความนั้น ได้แต่พูดกับตัวเองว่า วันเดียวเอง ทำเป็นจะเป็นจะตายน่า โอ้ยคนมีเรื่องทำตั้งเยอะแยะนิ จำไม่ได้หรอก ไม่ได้นับกี่ชม

    แต่เราก็ส่งกลับไปเพราะไม่อยากให้เขาเป็นห่วง

    เราจำได้เลยนะ ตอนนั้นน่ะ เวลาโทรศัพท์ดังทีไร เราได้แต่หวังว่ามันจะมาจาก ผช คนนั้นคนที่เราชอบน่ะ

    แล้วพอเป็นแฟนเรา

    โถ่เว้ย อุทานอย่างหงุดหงิดทุกครั้งเลย

     

    ขอโทษนะตัวเอง

     

    จากนั้น ผช คนนั้นก็บอกความจริงว่าเขามีแฟนแล้ว ไอ้เราก็ไม่ได้อะไร แค่แบบ อ้าวเมิง? แต่มองที่ตัวเองก็ เออ ก็พอกันแหละวะ แต่ก็เป็นเพื่อนกันนินะ

     

    แฟนโทรมา

    เราบอกแฟนว่า ให้บอกเราหน่อยว่าเป็น good girl เพราะกลัวเหลือเกิน กลัวใจตัวเองน่ะ มันจะห้ามไม่อยู่

    เราเดาว่าเขาก็คงเดาออกแหละว่า เกิดไรขึ้น เราคุยกันน้อยลง เราชินชา เราขี้เกียจคุย

    จนกระทั่งวันที่เราเริ่มบิน มาถึง ชีวิตก็เริ่มเปลี่ยนแปลง

    ตารางบิน ตารางชีวิตที่ไม่เป็นเวลาก็มีมากขึ้น ก็ ไม่ต้องห่วง ความเครียดก็มีมากขึ้น แน่ ๆ เพราะฉะนั้น ชีวิตรักของเรากะเขาก็ต้องลำบากขึ้นด้วย เป็นสิ่งที่ฉันคิด

     

    สารภาพ บางครั้ง ฉันก็คิดว่า ไม่มีแฟนจะดีกว่ามั้ย อยู่ไปทำไปให้ลำบาก รั้งกันไว้เพื่ออะไรเนี่ย

     

    แต่เขาไม่ยอม เขาไม่เคยคิดแบบนั้น ทุกครั้งเวลาที่เราคุยกัน อ้อ ลืมบอกไปว่าในที่สุดก้อได้ wireless สักกะที จากนี้ไปก็ได้คุยกันไม่ต้องเปลือง อ่ะต่อ เขาบอกว่า เขาไม่เคยคิดแบบนั้นเลยว่าไม่มีฉันแล้วชีวิตจะดีขึ้น ไม่มีทาง

     

    ได้ยินมันก็ดีใจแต่ จริงหรอ? ทำได้จริงหรอ? ทรมาน? แกล้งพูดป่าววะ? ไม่รู้เหมือนกัน

     

    วันนึง คุยกัน อะไรไม่รู้ หงุดหงิดมาก เราจำไม่ได้ว่าเขาพูดว่าไร เราคุยอะไรกัน แต่เราจำได้ว่าเราพูดแบบนี้

    แหม รู้ทุกอย่างบนโลกใบนี้เลยนะ กัดสุดฤทธิ์ค่ะ

    ป่าว ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นนิ เขาพูด

    อ้าวไม่รู้นิ ก็ไม่ได้รู้ทุกอย่างเหมือนเธอนิ โอ้ยจากนี้ไปไม่ต้องมาคุยกันแล้วมั้ง ก็รู้ทุกอย่างของฉันนิ รู้ว่าฉันคิดไง จะทำไร ทำไงต่อไป ไม่จบค่ะ ดิฉันไม่จบ แค่ได้ยินเขาพุดว่า I know สักอย่างแหละ

    ไม่ใช่อย่างนั้น ขอโทษนะ ไม่ได้ตั้งใจจะหมายความว่าอย่างนั้น เขาขอโทษ ทั้งที่ไม่มีใครผิด

    ฉันเงียบ

    อารมณ์เสีย

    หงุดหงิด

    อืม ไปเหอะ ขี้เกียจคุย คุยไปเดี๋ยวก็ทะเลาะกันอีก รำคาญ ไว้สามชั่วโมงค่อยกลับมาคุยกันใหม่ แล้วก็ ออฟไลน์หนีไปเลยค่ะ

     

    เขาก็เปลี่ยนชื่อ เอ็ม ชื่อเขา ชื่อฉัน รักกัน  แล้วก้อขอโทษ ขอโพย ไรไม่รู้ ตอนนั้นไม่สนใจ มองว่างี่เง่า ทั้งที่คนที่งี่เง่า คือฉัน

     

    กลับมาคุยกันใหม่ก้อไม่เลิกกวนตีนเขาอยู่ดี ถามคำ ตอบคำ แล้วก็เดินหนีไปอาบน้ำ

    กลับมา ก็มาเปรย ๆ พูดว่า

     

    นี่ ฉันไม่รู้นะว่าเป็นไร แต่ว่าเดี๋ยวนี่คุยกันทีไรก็รุ้สึกแย่ ทุกที แล้วดูเธอสิ ก็ร้องไห้ ฉันทำให้เธอเสียใจก็มาก ฉันว่า ฉันไม่ควรคู่กะเธอหรอก พูดหน้าตาย

    ทางนั้นหรอ คือตอนคุยเนทกัน ก้อคุยผ่านสไกป เห็นหน้าตา เอาล่ะ เริ่มแหละ สีหน้า ท่าทางเริ่มใจไม่ดี เหมือนกลัวว่าฉันจะบอกเลิก

     

    ถามจริงเหอะถ้ามีใครพูดงี้กะเรา เราก็ไม่ทนหรอก ด่ากลับมั้ง แล้วทำไมตานี้มันทนวะเนี่ย

     

    พุดไรไม่เข้าใจ ไม่รู้เรื่องหรอก เธอไปนอนเหอะดึกแล้ว ไล่ให้ไปนอนอีกแหนะ

    คงกะว่าฉันจะเป็นปกติล่ะสิ หลังจากนอน เพราะบางครั้งฉันก็เป็นบ้า พอนอนแล้วก็ลืม

     

    อืม ฉันก็ไปนอน แต่ก้อยังคุยกันน่ะนะ ตอนอยุ่บนเตียงไรงี้

    เออ แต่พูดจริง ๆ นะฉันว่าเราอยู่ห่างกันไม่ดีหรอก ทรมานว่ะ ฉันเองก็ทรมาน เพราะว่าห่างจากเธอ แล้วนี่ก็ทำร้ายเธอมาก ฉันไม่อยากให้เธอเจ็บจริง ๆ ฉันคิดว่าฉันควรปล่อยเธอไป ฉันก็พุดต่อไม่ยอมหยุด ทั้ง ๆ ที่รู้ว่า ทางนั้นน่ะ เริ่มจะร้องไห้และ

    “sleep darling I think you’re tired, you want me to tell you a story?” เป็นสิ่งที่เขาตอบเรามา ยังอุตส่าห์มีกะจิตกะใจจะเล่านิทานกล่อมให้หลับอีกนะ พยายามเปลี่ยนเรื่องสุดชีวิต

     

    โมโหเล็กว่า เอ้ยเธอ เข้าใจมั้ยว่าจะสื่ออะไร

    break up น่ะ เข้าใจมั้ยคะคุณ

     

    ไม่อ่ะ นอนเองได้ ก้อเลยตึง หลับตา คิดนุ่นคิดนี่ แอบเห็นทางคอมว่ามันยังนั่งอยู่ไม่ยอมไปไหน ทางนุ่นก็ดึก มันก้อควรจะนอนเหมือนกัน หรือไปทำไรก้อไปเหอะมานั่งจ้องคอมทำไมวะ

    ทำไมไม่นอน ฉันถาม เพราะรุ้ว่าต้องไปทำงานมั้ง? หรือป่าว เอาเหอะ รุ้แต่ว่ามันน่าจะเหนือ่ย ง่วงเหมือนกัน

    ไม่ เพราะกลัวว่าถ้าฉันหลับไป ตื่นขึ้นมา จะไม่ได้เจอเธอ ฉันกลัวว่าเธอจะหายไป โอ้วว พูดออกมา เสียงเครือ ๆ

     

    รู้สึกไรมั้ยตอนนั้น รู้สึกค่ะ รู้สึกว่า น้ำเน่า แล้ว ทำไมไม่ยอมเข้าใจ

     

    ไปนอนเหอะ ฉันกล่าว

    ไม่อ่ะ เธอนอนเหอะ ฉันยังไม่ง่วง เขาก็ดื้อตอบมา

    ก็ได้... ฉันเงียบไปสักพักแล้วโพล่งมาว่า เธอบอกเลิกกะแฟนเก่าเธอไงหรอ

    เธอทำให้ฉันไม่มีความสุข เขาตอบมาเบา ๆ

    โอเค จะได้จำไว้ ฉันพูดแบบนั้น

     

    นอนหลับตาอยู่พักนึง

    ฉันคิดว่าฉันมันไม่ดี แล้วก็ทำร้ายเธอมากเกินไป ฉันไม่อยากทำให้เธอร้องไห้อีกแล้ว ฉันจะปล่อยเธอไป ฉันลุกขึ้นนั่งแล้วก็บอกเขา

    ทันทีทันใด เขาร้องไห้

    เขาสั่นหัวแล้วก็พึมพัมว่า ไม่ ไม่ ไม่

    เข้าใจมั้ย ฉันถาม

    ไม่ ไม่ เขาก็ตอบอยู่แค่นั้น เริ่มร้องไห้หนัก

    เราอยู่ไกลกัน ทรมาน ไม่ดีหรอก ฉันบอกเขา ฉันยังนิ่ง ไม่ร้องไห้สักแอะ

    แต่ทางนู้น เรียกได้ว่าฟูมฟาย

     

    ทำไมถึงเลิก ทำไมถึงขอเลิก เอาจริง ๆ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม เขาก็ไม่ได้ทำไรผิด เพราะเราอยู่ไกลกัน? เพราะอยากทำร้ายใจเขาเล่น? ไม่รู้จริง ๆ ทำไปเพื่อไร จริง ๆ นะ

     

    อย่าทิ้งฉันนะ ทางนุ้นเริ่มพุดไม่รู้เรื่อง ร้องไห้ ท่วมจอ หยุดไม่อยุ่ ฉุดไม่ไหว

    แล้วก็ไรต่อมิอะไรสารพัด พรั่งพรูออกมา

     

    ใช่ฉันขอเลิกกับเขา ทำร้ายใจกันให้สุด ๆ เพราะตอนนั้นฉันคงสับสนมั้งว่า จริง ๆ เรารักคนนี้หรือป่าว หรือว่าแค่ต้องการคนคุย อืม น่าจะเป็นเหตุผลนี้ เลยอยากจะรู้ว่าเออถ้าไม่มีเขาเราจะเป็นไร คิดว่าน่าจะเพราะสาเหตุนี้แหละ

    สิ้นข้อควาที่เขาพูดว่า “don’t leave me” พร้อมทั้งน้ำตาหลายแกลอน เหมือนสติกลับ เริ่มรู้สึกว่า ว่า กรุทำไรวะ

     

    เลยสรุปว่าคืนนั้นไม่ได้เลิก ปรับความเข้าใจกันได้ เขาบอกกับฉันว่า ตอนเจอกันครั้งหน้า เขาวางแผนจะขอฉันแต่งงาน อ่ะก็ว่ากันไป เรื่องอนาคตน่ะนะ

     

    แล้วคืนนั้นก็จบไป

     

    ภาพเขาร้องไห้อย่างหนัก มันร้องไห้หนักมาก จริงๆ เขาร้องไห้หนัก หนักเสียจนฉันคิดว่าเขาจะล้มตายตรงนั้น นึกว่าแม่งจะเป็นโรคหัวใจเฉียบพลัน เฮ้ออ

     

    รุ่งเช้าสำนึกผิด เลยเขียนอีเมล์ไปไม่เชิงขอโทษหรอก เพราะไม่ได้คิดว่าตัวเองทำผิดนิ แต่เขียนไปบอกว่าเออ เห็นเธอร้องไห้แบบนั้นแล้วจะขาดใจแทน แล้วก็สัญญาว่าจะไม่ทำแบบนั้นอีกนะ บอกเขาว่าเขาเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เรามีความสุขได้ในแต่ละวัน

     

    ใช่ตอนนั้นตัวเรามันคงเบลอ ไม่ได้รู้สึกหรอกว่า ถ้าขาดคน ๆ นี้ไปคงจะแย่ นึกสภาพ กลับมาบิน เพื่อนในห้องบางครั้งก็ไม่อยู่ พ่อ กะแม่ ก้อไม่ได้มาออนไลน์ ตลอดเวลา เพื่อน พ้อง ก็มีงาน มีการต้องทำ แต่คน ๆ นี้ ไม่ว่ากลับมาเมื่อไร เวลาไหน ไม่เคยขาด เราไม่รู้ว่าเขาจัดสรรเวลาอย่างไร ถึงมีเวลาให้เราตลอดจริง ๆ เราไม่เคยรู้สึกเลยว่า เราขาดเขา จริง ๆ นะ ก้อเงี้ย พึ่งพาสำนึกตอนนี้ ตอนมองย้อนกลับไป ตอนนั้นก็มองว่ามันน่ารำคาญ

     

    เฮ้อ ชีวิต

     

    แล้วไง เราก็ปกติสุขอยู่ได้ระยะหนึ่ง นับจากเกิดเรื่องอันนั้นขึ้น เราสองคนไปนัดเจอกันที่ สเปน เพราะฉันได้วันหยุดที่นั่นตอนไปบิน เจอกันได้ สองวันหนึ่งคืน เขาบินมาหาเรา แม้เป็นเวลาสั้น ๆ ที่ก็ทำให้เรามั่นใจว่า อืม การได้เจอเขา ทำให้เรามีความสุขจริง ๆ นะ

     

    อ่ะ แต่แล้ววันนึง เราบังเอิญได้เจอกะคนที่เราชอบ หลังจากที่ไม่ได้คุยกันมานาน เพราะตั้งใจว่าจะไม่ทำอะไรไม่ดี พวกเราคุยกัน แลกเปลี่ยนตารางบิน ฉันงี้ดีใจสุด ๆ ยิ้มหน้าบาน

    ตั้งชื่อเอ็มว่า I wish we could be in the same sky

    แบบเดิม แฟนคิดว่าตั้งให้เขา

     

    แต่ไม่ใช่อ่ะคะ

     

    แล้วก็คุยกันไป คุยกันมา พลั้งเผลอบอกไปว่าเจอ ผช คนนี้ไรทำนองนี้ เขาก็ซัก ๆๆ

    ใช่ ฉันชอบเขา แต่ไม่ได้อะไรนะ แค่ชอบ ๆ กันแบบเพื่อน ในที่สุดฉันก็บอกไป

    แล้วข้อความเอ็มอันนี้ ก้อหมายถึง ผช คนนั้น เขาถามเสียงเครียด ๆ

    อืม ใช่ ฉันได้แต่ตอบความจริง เสียเบา ๆ

    เขาถอนหายใจยาว ๆ ฉันบอกได้เลยว่า เขาเสียใจ

    แต่ว่า ไม่ได้อะไรแล้วนะ ไม่ได้มีไรกัน ไม่ได้คุยกันแล้ว อ้าว กรุดันพลั้งพูดแบบนั้นไปอีก

    อืม เคยคุยกันมาก่อน คือคนที่เขียนถึงใน hi5 ใช่มั้ย เขากัดฟันถาม

    ก็ ใช่ ให้ทำไงล่ะก้อพูดความจริงอ่ะ

    แต่ไม่ได้ชอบแล้ว แค่รู้สึกดีอ่ะ จริง ๆ มันจบไปแล้ว ฉันก็บอกเขาไปแล้วว่าฉันมีแฟนแล้ว ทางนั้นก็มีแฟนแล้วเหมือนกัน ไม่ยุ่งหรอก ฉันกล่าวต่อ

    เขาได้แต่พยักหน้า แล้วก็บอกว่า

    อืม ไม่เป็นไร ฉันเข้าใจ ช่างเหอะ ผ่านไปแล้ว ก็ให้มันผ่านไป แต่ว่าเจ็บเนอะ เป็นสิ่งที่เขาตอบ แล้วก็เปลี่ยนเรื่องคุยกันไป เขาได้แต่ขอร้องให้ฉันเปลี่ยนชื่อเอ็มเพราะว่ามันโหดร้ายที่จะมองเกินไปหน่อย เขาว่าแบบนั้น

     

    เปลี่ยนก็ได้

     

    ท่าทีอินเลิฟมีได้ระยะหนึ่งเพราะรุ้สึกว่าเป็นคนเลว อีกทั้งเราสองคนก็วางแผนว่าจะเจอกันอีกครั้งที่ ปารีส

     

     จนกระทั่ง แฟนเก่ามัน เข้ามาส่งข้อความในเอ็มใหฉัน นานปี ไม่เคย แต่ทำไมมาทำล่ะ?

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×