ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คำสารภาพ(รัก)ของฉัน ที่ช้าไปหน่อย

    ลำดับตอนที่ #1 : เกริ่นยาว ๆ

    • อัปเดตล่าสุด 17 มี.ค. 52


    />

    คืออย่างงี้นะ เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ชีวิตจริงของเรา บางครั้งมานั่งนึก ๆ ในสิ่งที่เกิด สิ่งที่ทำกะคนๆนั้นก็แอบตกใจ แอบมองว่า โอ้ยทำไมฉันมันร้ายกาจอย่างนี้วะเนี่ย เออมันก็ทำให้สำนึกขึ้นมาว่า เออมันก็ยังมีคนแบบนี้ที่ทนเราได้เว้ยเห้ย แต่แหมฉันก้อไม่ได้ร้ายกาจเสียซะทุกครั้งนะคะคุณขา อ่ะ เข้าเรื่อง พล่ามยาวเกินเหตุ

                    ต้องเกริ่นหน่อย จะได้เข้าใจว่ามีใครเป็นใครบ้างที่จะโดนกล่าวถึง แน่ๆ คือตัวกรุ ขอโทษเหอะ ภาษาต่ำจริง ๆ แต่มันได้อารมณ์ได้บางครั้ง ทานโทษด้วย อ่ะ แล้วก้อ คนๆนั้น ที่ไม่อยากจะเรียกว่า แฟน ห้าๆๆ ก็มันกระดากนี่หว่า แล้วก้อเพื่อนบางคนเนาะ ต้องบอกก่อนว่า คน ๆ นั้น เออ เขาไม่ใช่คนไทย ดังนั้น ในบางสนทนา อาจมีการตัดตอนออกมา จากปากมันจริง ๆ ลอกมาจาก ไดอารี่ที่ดิฉันเขียนน่ะค่ะ ก้ออ่านกันไป เดี๋ยวจะหาว่ากระแดะทำเป็นพิมพ์ภาษาอังกฤษ ก็เท่านั้นล่ะคะ

                    ต่อผู้ชายคนนั้น อายุเท่ากันกะดิฉันน่ะคะ เป็นคนชาติอะไรไม่สำคัญคิดว่านะ เดี๋ยวก้อรู้แหละ แต่ต้องเอ่ยว่าเป็นคนต่างชาติเพราะว่าบางชอตแอบคิดว่า เอ้ย รึว่าเป็นเพราะความแต่งต่างทางภาษา และวัฒนธรรม (เหตุผลโก้ซะ) ก็ทำนองนั้น แล้วก้อมีเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกะไอ้ชาติพันธุ์เล็กน้อยที่ดิฉันก็แอบจิก กัด ตอด ตลอดเวลา ก็ราวนั้นล่ะคะ โอเคค่ะ เข้าเรื่องจริงจังว่าเราสองคนมารู้จักกันได้อย่างไร

                    การพบปะของเราสองคนมันช่างสุดจะเวอร์ในความคิดของดิฉัน แล้วก็ออกแนวที่ว่า ชายโฉด หญิงเลว เล็กๆ ทำไมน่ะหรอ อ่ะ ก็เพราะว่าตอนนั้น ต่างคนต่างมีแฟน แล้วก้อดันมาคุยกัน เออแล้วก้อถูกใจกัน ชอบกันซะงั้นก็เลยตกลงปลงใจเป็นแฟนกัน แต่อย่างว่าล่ะคะ คนเรามันอยู่ไกลกันน่ะ เรื่องบางเรื่องที่เกิดข้างหลังกันน่ะหรือ เราก็ไม่อาจทราบได้ว่าอีกฝ่ายมัน (แม่ง) จริงใจ ซื่อสัตย์ แค่นั้น เชอะเอาเหอะ นึกทีไรแล้วของขึ้น เหอะๆ ก็เงี้ยแหละอาจเป็นสาเหตุเล็กที่ทำให้ ทุกวันนี้ ผู้ชายคนนั้น ต้องประสบเคราะห์กรรมที่ตัวเองก่ออออออ เริ่มนอกเรื่องอารมณ์เดือดครอบงำ ใจเย็นหนา เรื่องในอดีต แต่ก็เอาเป็นว่าเขายอมรับผิดกับสิ่งที่ทำ เขาบอกว่า หรืออ้างไม่ทราบว่าทำไปเพราะอีกฝ่ายจะคุ้มคลั่ง จะลาตาย ว่ากันไปเรื่อย ไม่ทราบว่าความจริงเป็นอย่างไร แต่เขาก็นะ ร้องห่มร้องไห้ เออๆๆ เอาไงก้อไง ไอ้เราไม่รู้ว่ โง่ ใจดี หรือว่าไง หรือว่าไม่ได้แคร์มาก หรือว่า (เอออันที่จริงตัวเองก็แอบทำเลวเหมือนกันว่ะ) เลยรู้สึกว่า อืม เวรกรรมแม่งมีจริง หลังจากที่เราสองคนเคลียร์ อดีตอันเลวร้ายของกันและกันได้และ ก็อ่ะ คบกัน จริงจังนะ ถ้า(มึง) ทำอีกอย่าหวังว่าจะมีโอกาสหน้า รอบสอง เออ อันที่จริงก็ควรบอกตัวเองด้วยเหมือนกันแหละมั้ง แล้วเขาก้อเปลี่ยนไป มั้ง? ไม่รู้ไม่เคยเห็นก่อนหน้านั้นว่าเป็นไง เพราะตอนนั้น ไอ้เรามันก็ไม่ได้มีแต่เขาด้วย เออพอกัน สรุป (เริ่มสับสนในตัวเองตอนเล่า) แต่แล้วก็มีเหตุให้เราสองคนต้องห่างจากันอีกเพราะว่าดิฉันต้องทำงานน่ะค่ะ ต้องไปอยู่ไกลบ้าน ไกลช่อง ไกลมันด้วย จำได้ว่า วันสุดท้ายที่สนามบิน ที่ ผู้ชายคนนั้นไปส่งดิฉันน่ะคะ เราสองคนไม่ได้พูดไรกันมาก ไอ้ดิฉันก็วุ่นวายนุ่นโน่นนี่เตรียมออกนอกประเทศน่ะคะ พอเสร็จเรื่องเสร็จราวมีเวลาอยู่ประมาณสิบนาทีเห็นจะได้ ที่ได้ยืนคุยกันนิดหน่อยก่อนจากลา อืมไอ้สิบนาทีน่ะ ไม่เศร้าหรอก ไม่ร้องไห้หรอก ยังหัวเราะร่า แต่พอสิบนาที หนึ่งวินี่ดิ ที่รู้ว่า เฮ้ย ต้องเดินก้าวออกจากตรงนั้นแล้วนะ แม่งงงน้ำตาไหลพรากแหมะ แหมะ  แต่ว่าบอกตัวเองไว้แล้วว่าถ้าเดินเข้าเกทไปแล้วเนี่ยจะไม่หันหลังกลับไปมองเด็ดขาด เดินแล้วต้องเดินเลย วู้วว พอบอกเขาว่า Hey I gotta go เออต้องไปแล้วนะเธอ มันก็ดึงเรามากอด แล้วก้อร้องไห้ หอมแก้ม แล้วก้อแบบ take care, I love you ไรทำนองนั้น จำไม่ได้ว่ะ ห้าๆๆ เอออแต่เศร้าแหละ อืม แล้วเราก้อเดินไป มันก็ดึงกระเป๋าที่เราสะพายหลังไป แล้วบอกว่าไม่ให้ไป เออยึกยัก สองสามนาที ก็ต้องไปแล้วล่ะ แล้วก็จากกัน เราก็ไม่ได้หันไปมองจริง ๆ นะ เดิมดุ่ม ๆ หายไปเลย เฮ้ออแล้วก้อไปนั่งร้องไห้บนเครื่องน่ะสิ ก็พี่แก เล่นเขียนจดหมายใส่ในกระเป๋าของเรา แล้วก็มีประโยคภาษาไทยที่เขาพยายามเขียนให้เรา จดหมายยาวเหมือนกัน ประมาณแปดหน้า A4 อ่ะ เออน้ำตาร่วงเผาะ ๆ ตอนอ่าน แล้วก็หลับไป เศร้าโว้ย ตอนนั้น

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×