ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] Aldnoah.Zero...ชีวิตประจำวันของ 2 หนุ่ม [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #6 : ..ครั้งแรกของทั้งคู่

    • อัปเดตล่าสุด 16 ต.ค. 57




            ระยะทางที่พวกเขาทั้งคู่กำลังเดินทางไปถึงนั้นช่างดูแสนไกล โรงพยาบาลที่มีแค่ที่เดียวในเมืองที่ห่างไกลจากความเจริญนั้นถูกโอบล้อมไปด้วยทะเลสาบขนาดใหญ่ แต่แล้ว 10 นาทีต่อมา สเลนมองเห็นตึกสูงระฟ้าที่ถูกสร้างออกมาให้เป็นรูปไม้กางเขนหรือเราเรียกอีกอย่างว่า ตึก X-Hospital ไม่รู้ว่าทำไมถึงเรียกแบบนั้น แต่ละตึกจะหันออกไป 4 ทิศ ทิศเหนือ ทิศตะวันออก ทิศใต้และทิศตะวันตก

    ตึก X-Hospital มักจะเป็นข่าวลืมลึกลับที่สเลนเคยอ่านมาผ่านๆเท่านั้น ก็แค่โรงพยาบาลที่สร้างออกมาให้หันไปหาทั้งสี่ทิศ สเลนคิดแค่นั้นจริงๆ

    นายตำรวจเคาน์ครูเทโอ้จอดรถบริเวญหน้าโรงพยาบาลอย่างเร่งรีบ มีหน่วยแพทย์เข็นรถออกมารับร่างหมดสติของอินาโฮะเข้าห้องผ่าตัด ถึงแม้ว่ากระสุนทะลุต้นแขนของอินาโฮะ แต่บาดแผลนั้นไม่ใช่น้อยๆเลย สเลนเป็นคนพันแผลห้ามเลือดให้อินาโฮะ ย่อมรู้ดีว่าบาดแผลนั้นไม่ได้รักษาให้หายง่ายๆด้วย แอลกอฮอล์กับสำลี ตามที่เห็นได้ตามแพทย์แผนปัจจุบันที่อยู่ติดบ้านของเรา

    เมื่อสเลนคิดว่า อินาโฮะปลอดภัยเมื่ออยู่ในมือหมอแล้วก็เผลอยิ้มมาออกมาอย่างโล่งอก         หากอินาโฮะเป็นอะไรไปเขาคงต้องตามไปกระทืบเจ้าคนทำร้ายอินาโฮะแน่ๆ

    แล้วทำไมเขาต้องสนใจอินาโฮะมากขนาดนี้ด้วย ตั้งแต่ตอนที่รู้ว่ามันจะโดนฆ่าแล้ว

    สเลนตั้งสติหน่อย เจ้านั้นมันบังอาจใส่เสื้อสีส้มมาโชว์ต่อหน้าต่อตาเขาเลยนะ

    “งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”เอ่ยล่ำลากับนายตำรวจผมทองคนนั้น ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู จะ 1 ทุ่มแล้วมีหวังยายบ่นเขาหูชาแน่ๆที่กลับบ้านช้าขนาดนี้ แต่ยังไม่ทันจะได้ก้าวเท้าไปไหน ต้นแขนของเขาถูกคว้าไว้ด้วยพละกำลังที่แข็งแกร่ง

    “เดี๋ยวก่อน สเลน” ท่านเคาน์เปิดปากพูดขึ้น สีหน้าสเลนทำเครื่องหมาย ?

    “เธอเป็นเพื่อนเจ้าอินาโฮะสินะ”

    “ก็ไม่เชิงครับ” เชิงว่าเป็นพวกไม่ค่อยถูกกันเท่าไหร่ สเลนคิดในใจ

    “ไหนๆก็ไหนๆแล้วเธอมานอนเฝ้ามันแล้วกัน”

    “แล้วทำไมผมต้องมาเฝ้าเจ้านี่ด้วย!!”ตะโกนกลับใส่หน้าอย่างไม่เกรงกลัว ท่านเคาน์เอาไม้เท้าจิ้มแก้มที่มีแผลของสเลน

    “ก็เป็นนายไม่ใช่หรือไงที่ไปช่วยเจ้าอินาโฮะน่ะ”

    “ว่าแต่คุณรู้จักมันได้ไงครับ”

    “ก็เจ้าอินาโฮะน่ะมันเป็นลูกของเจ้าเมืองนี้น่ะสิ”

    “เล่นมุขแบบนี้ ผมไม่หัวเราะให้หรอกนะ”

    “เอาเถอะ มันมืดมากแล้ว นายจะกลับบ้านไปคนเดียวทั้งที่มืดขนาดนี้หรือไง”

    “ผมไม่ใช่เด็กประถมนะครับ” สเลนแย้ง ทำไมพวกผู้ใหญ่ชอบเห็นเขาเป็นเด็กอยู่เรื่อย

    “นายจะอยู่หรือไม่อยู่”

    “แน่นอนว่า ไม่อยู่สิครับ ผมจะทิ้งยายผมอยู่คนเดียวได้ไง”

    “แต่ยายนายอนุญาตให้นายค้างโรงพยาบาลแล้วนะ”

    “นั้นคุณไปได้เบอร์ยายผมมาจากไหน?” สร้างความงุนงงให้สเลนอีกรอบ เจ้าตำรวจบ้านี่ มันจะมากเกินไปแล้ว นั่นมันของแรร์เลยนะนั้นน่ะ เบอร์ยายเขาเลยนะนั้น

    “ก็แค่ไปตรวจเมืองแล้วช่วยคุณยายท่านหนึ่งเก็บผลไม้ที่ตกพื้น ยายแกก็ให้เบอร์มา แถมยังบอกด้วยว่าอยู่กับหลานชื่อ  สเลน ทรอยยาร์ด แหม บังเอิญจริงๆ”

    “มันจะบังเอิญเกินไปแล้ว”

    “ไม่มีความบังเอิญบนโลกใบนี้หรอกนะ สเลน อ้าวทีนี้ก็เอาเสื้อผ้านี่ไป แล้วก็ไสหัวไปนอนเฝ้าอินาโฮะได้แล้ว”ท่านเคาน์ครูเทโฮ้โยนกระเป๋าให้เขาใบหนึ่ง เท่าที่จำได้ มันกระเป๋าตัวเก่งของเขานี่หว่า แสดงว่าไอ้ตำรวจมันโทรไปหายายเขา ถามที่อยู่ ส่งคนไปเอาเสื้อผ้าเขามา ที่แท้หมอนี่แม่งวางแผนเอาไว้หมดแล้ว

    ไม่น่าเชื่อใจตำรวจเล๊ย

    “ถ้านายไม่นอนเฝ้าอินาโฮะ ฉันจะฟาดหน้าเธอให้เละเลย”

    “แล้วทำไมคุณต้องให้ผมไปนอนเฝ้ามันด้วย อินาโฮะมันเก่งจะตาย นอนโรงพยาบาลไม่กี่วันก็หายแล้ว”

    “ก็เพราะว่ามันนอนไม่กี่วันก็หายแล้วนั้นแหละ แต่เธอคิดว่าคนอย่างอินาโฮะจะยอมทิ้งโรงเรียนไป 1 วันเต็มๆเพื่อนอนเฉยๆไหมล่ะ?”

    เท่าที่จำได้ สีหน้าตอนที่รู้ว่าเด็กของตนโดนทำร้าย อินาโฮะขมวดคิ้วเข้าหากัน แสดงว่ากำลังเครียดอยู่หมือนกันสินะ

    “สำหรับเจ้าอินาโฮะแล้ว ทุกคนในโรงเรียนคือครอบครัว หากใครทำร้ายครอบครัวตัวเอง นายก็คงทนไม่ได้เหมือนกันใช่ไหม?”

    “ก็ใช่” ตอบกลับไปอย่างเลี่ยงไม่ได้

    “ก็นั้นแหละ อินาโฮะมันไม่ยอมทิ้งโรงเรียนไปไหนแน่ๆ ดังนั้นนายเลยต้องมานอนเฝ้ามันแล้วอีกอย่างคือ กันมันไม่ให้หนีออกจากโรงพยาบาลจนกว่าแผลจะหาย”

    ฉิบหายยยยยย!! นี่มันงานหินยิ่งกว่าให้ไปแต่งเป็นเจ้าสาวสุนัขจิ้งจอกอีกก ขืนเขาขัดใจมัน มันจะฆ่าเขาไหมละนั้น สเลนคิดอย่างสงสารตัวเอง ไม่น่ามาช่วยมันเล๊ยย

    “อ้าว ฉันต้องไปแล้ว ฝากด้วยนะ” ท่านเคาน์บอกก่อนจะโบกมือลาพร้อมกับยิ้ม “อย่าหนีล่ะ ฉันสั่งคนรอทักเธอทางเข้าออกโรงพยาบาลหมดแล้ว”

    “เออ!!”ตะโกนกลับไปอย่างหมดอาลัยตายอยาก จนป่านนี้อินาโฮะยังไม่ออกจากห้องผ่าตัด ก็แหงล่ะเพิ่งจะเข้าไปเมื่อ 20 นาทีที่แล้ว สเลนมองซ้ายมองขวา โรงพยาบาลนี้ใหญ่โตก็จริงแต่ก็ให้ความรู้สึกเงียบเหงาแปลกๆ คงเพราะประชากรที่อาศัยอู่ในเมืองนี้มีแค่ 5000 กว่าคน เป็นนักเรียนเสีย 2000 กว่าคน ดังนั้นคนที่เหลือก็คือพวกชาวบ้านและพ่อแม่ของนักเรียนทั้งหลายแล

    สเลนเกิดความสนใจเลยเดินขึ้นไปที่เคาน์เตอร์ ถามพยาบาลสาวเสร็จสรรพว่า อินาโฮะต้องไปนอนชั้นไหน ห้องไหน ด้วยความที่อินาโฮะมีสิทธิพิเศษเลยได้นอนชั้นที่ 10 มีทั้งหมด 12 ชั้น   สเลนเดินเข้าไปในลิฟตืที่กว้างและอ้างว้าง เงียบกริบราวกับไม่เคยมีใครใช้ลิฟต์ตัวนั้นมาก่อน พยาบาลสาวที่เพิ่งคุยกับสเลนเมื่อกี้เกิดอาการเพิ่งนึกขึ้นมาได้ แต่ไม่ทันการเสียแล้ว

    สเลนขึ้นลิฟต์ตัวนั้นไปแล้ว


    บรรยากาศภายในลิฟต์ทำเอาสเลนขนลุกและรู้สึกหนาวซ่านไปทั่วร่างกาย จ้องมองเลขของชั้นที่ลิฟต์กำลังเลื่อนขึ้นไปอย่างกับให้มันเลื่อนขึ้นเร็วๆ พลันจู่ๆลิฟต์ก็มาจอดที่ชั้น 6 ภายใจของสเลยพองโต ในที่สุดก็มีคนขึ้นลิฟตืมาเป็นเพื่อนเขาแล้ว

    ประตูลิฟต์เลื่อนเปิดออกช้าๆ กลิ่นของโรงพยาบาลแตะจมูกของสเลน อากาศเริ่มเล็ดลอดเข้ามาข้างในพื้นที่แคบๆแห่งนี้ สเลนจ้องมองพื้นที่ตรงหน้าอย่างมีความหวัง

    ว่างเปล่า....!!!

    เบื้องหน้าของสเลนว่างเปล่า ทางเดินตรงหน้าของเขาเงียบกริบ มีเพียงแสงไฟที่ส่องกระทบสีของผนังโรงพยาบาลเขียวอ่อนๆจนสเลนรู้สึกเวียนหัว แต่ก็ไม่ละความพยายาม เอามือดันประตูลิฟต์ไว้โผล่หน้าออกไปนอกลิฟต์ 

    เผื่อมีใครอยากแกล้งเขาก็ได้

    แต่เมื่อจ้องมองออกไปนอกลิฟต์มองซ้ายมองขวา

    เวรแล้ว มันเป็นผนังนี่หว่า งั้นก็แสดงว่าไม่มีที่ให้ซ่อนตัวน่ะสิ สเลนรีบเคลื่อนย้ายเรือนร่างเข้ามาในลิฟต์อย่างรวดเร็ว กดรัวๆไปที่ชั้น 10 ก่อนจะที่อีกมือจะกดรัวๆไปที่รูปภาพของประตูปิดเข้าหากัน

    โรงพยาบาลนี้แม่งมีผีหรือไงวะ? คิดในใจอย่างสั่นสะท้านไปทั้งตัว นึกอยากกลับลงไปรออินาโฮะที่ชั้นล่างเสร็จเต็มทน สเลนเปลี่ยนเป้าหมาย เลื่อนมือลงไปกดที่ปุ่มชั้น 1 ที่เขาเพิ่งขึ้นมา

    แต่แล้วกลับกดเลขนั้นไม่ติด สเลนถอยหลังติดลิฟต์ ตัวเลขบนนั้นยังคงเลื่อนขึ้นต่อไป

    ชั้น 10 

    เฮ้อ! รอดตายแล้ว ขณะที่สเลนกำลังก้าวเท้าออกไปจากลิฟต์ตัวนั้น พลันเคลือบตาไปมองด้านบนของลิฟต์ที่อยู่ใกล้ๆกับตัวเลขบอกชั้นของลิฟต์

    "น้ำหนักเกิน"

    ประตูลิฟต์เลื่อนปิดลงอีกครั้ง สเลนยืนอึ้ง มะ...มันจะน้ำหนักเกินไปไง

    ก็ในนั้นไม่มีใครยืนอยู่เลยนี่!!!! คิดไม่ทันไร วิ่งไปยังห้องที่อินาโฮะต้องมานอนเพื่อพักฟื้นร่างหกาย กระชากประตูเปิดออก ล็อกกลอนลงอย่างหนาแน่น ทรุดตัวลงหายใจหอบเหมือนเพิ่งวิ่งมาราธอนหลายสิบกิโลมา มองสิ่งที่ของที่อยู่ในกระเป๋าเป้ใบนั้น

    สายตาเหม่อมองนาฬิกา

    นั้นเขาอยู่ในลิฟต์ตัวนั้นมาตั้ง 10 กว่านาทีเลยเรอะ หรือลิฟต์มันมีสนิมเลื่อนตัวช้าหรืออะไร?

    สเลนไม่สนใจ.....หรือเอาความจริงคือกำลังคิดว่ามันไม่มีอยู่จริง

    อาบน้ำก่อนดีกว่า....คิดแล้วก็พยายามสลัดเรื่องลิฟต์นั้นออกไป ก้าวขาสั่นๆไปที่ห้องน้ำอย่างเชื่องช้า





    "ตายแล้ว!!" เสียงใสๆของพยาบาลหน้าเคาน์เตอร์ตะโกนลั่นหลังจากเพิ่งคุยกับเด็กหนุ่มหน้าตาดี ผมทองสีออกชาๆเสร็จ

    "มีอะไรงั้นเหรอเธอ?" สาวพยาบาลอีกคนถามอย่างไม่เข้าใจ

    "ฉันลืมบอกเขาว่าให้อ้อมไปขึ้นลิฟต์อีกตัวน่ะ ดูเหมือนเขาจะเข้าลิฟต์ตัวนั้นไปแล้ว" ชี้มือไปยังด้านหน้าของตนก่อนจะเล็งเห็นว่าเลขของลิฟต์กำลังเลื่อนลงมาที่ชั้นหนึ่ง

    "ตายแล้ว พ่อหนุ่มนั้นคงกำลังช็อกแน่ๆเลย" พยาบาลสาวอีกคนหัวเราะเล็กน้อย "ก็มันมี เจ้าที่ ประจำลิฟต์ตัวนั้นอยู่สินะ"

    "นั้นสินะ" พยาบาลคนคนเดิมบอก ก่อนจะอมยิ้มเล็กน้อยที่มีผู้ร่วมชะตาสยองขวัญลิฟต์ตัวนั้นเป้นเพื่อนเธอ ขอโทษด้วยนะพ่อหนุ่ม 5555+




    "ฮัดชิ้วว" ขนาดที่สายน้ำกำลังไหลลงผ่านเรือนร่างงามขาวผ่องของสเลน เขาก็เกิดจามขึ้นมา ใครมันนิทาเขาล่ะเนี่ย? แต่ช่างมันเหอะ ตอนนี้สเลนหิวจะไส้บิดเป็นรูปเลข 8 แล้ว หลังจากชำรพล้างร่างกายเป็นอันเสร็จสิ้น สเลนก้าวเท้าออกมาจากห้องน้ำ อากาศอันหนาวเย็นของเครื่องปรับอากาศปะทะร่างของเขา สเลนไม่ค่อยหนาวเท่าไหร่ เช็ดตัว แต่งเครื่องแต่งกาย แล้วจัดการลงไปข้างล่างเพื่อหาอะไรมาลงท้อง

    เมื่อเขาเดินมาถึงลิฟต์ เขาจ้องมองไปยังลิฟต์ที่อยู่ข้างหน้าตน ก่อนจะตกใจอีกรอบว่ามันไม่มีแค่ลิฟต์เดียวเหมือนชั้นที่ 6 ก็ชั้นที่ 10 มันชั้นพิเศษมีลิฟต์ให้เลือกลงทั้ง 3 ลิฟต์แล้วไอ้ลิฟต์เวรนั้นมันตัวไหนวะ?

    รู้สึกสงสารตัวเองอีกรอบที่ตอนวื่งป่าราบไม่ทันมองให้ดีๆว่ามันตัวไหน?

    เอาก็เอาวะ สเลนเลือกเดินลงบันไดว่าแล้วก็หันหลังให้กับลิฟต์...หลังจากนี้สเลนคงกลัวการขึ้นลิฟต์ไปอีกนาน


    ผ่านไปราว 2 ชั่วโมงกว่าแล้ว คุณหมอเดินมาหาสเลนที่ทั้งปากเต็มไปด้วยแฮมเบอร์เกอร์ที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อแถวโรงพยาบาลว่า อินาโฮะปลอดภัยดีแล้วกำลังนอนอยู่แล้วจะส่งเขาขึ้นไปพักผ่อนที่ชั้น 10 สเลนถือโอกาสติดสอยห้อยไปกับรถเข็นด้วยเลย มีพยาบาล 2 คน เดินเข้ามาอยู่ในลิฟต์กับเขาด้วยแค่นี้สเลนก็สบายใจขึ้นเยอะ

    "เออ..ถามอะไรหน่อยได้ไหมครับ?" สเลนเงียบมานานก้ทำใจกล้าถามออกไป

    "อะไรจ๊ะ?"

    "ไอ้ลิฟต์ตรงหน้าเคาน์เตอร์ มันมีอะไรหรือเปล่าครับ?"

    "อ่อตัวนั้นสินะ ทางทิศเหนือสินะก็ไม่มีอะไรหรอกเป็นเรื่องปกติของที่นี่น่ะ" แต่มันไม่ปกติสำหรับสเลนเลยสักนิด มันต้องมีอะไรแน่ๆ เขาถามอีกรอบ "ผมเจอมาครับ"

    "ไงเป็นประสบการณ์ที่ดีใช่ไหม" ดีกับผีน่ะสิ.......ไม่ได้ให้มาบอกความคิดเห็นนะครับ ห้วย....

    "โรงพยาบาลนี้ก็เป็นแบบนี้แหละ อย่าไปคิดอะไรมากเลย"พยาบาลสาวคนหนึ่งเอ่ยก่อนจะยิ้ม "ก็เข้าใจว่าเด็กแบบเธอชอบอยากรู้อยากเห็น แต่เรื่องนี้อย่ารู้ดีกว่า"

    พูดแบบนี้ยิ่งอยากรู้ครับ

    "อ้าวถึงแล้ว ถ้าอยากหาคำตอบไม่ลองไปที่ลิฟต์ตัวนั้นอีกละ"

    ไปอีกก็บ้าแล้วครับ....... พยาบาลสาวเดินลากเตียงคนไข้เข้าห้อง 310 ไปหรือก็คือห้องของอินาโฮะนั้นแหละ พวกหล่อนจัดการสายน้ำเกลือทุกอย่างเสร็จสรรพก่อนจะเดินออกจากห้อง

    "ฝันดีนะพ่อหนุ่ม" 

    "เช่นกันครับ" สเลนบอกกลับ ก่อนจะกินแฮมเบอร์เกอร์ต่อ จ้องมองร่างไร้สติของอินาโฮะช้าๆก่อนจะลากเก้าอี้มานั่งข้างๆ เห็นแบบนี้แล้วก็นึกถึงผู้เป้นแม่ของเขา เวลาที่เขาป่วยแม่จะมานั่งข้างๆเสมอ กุมมือของเขาแล้วก็ค่อยเช็ดตัวให้

    แล้วในกรณีของเจ้าอินาโฮะเขาต้องเช็ดตัวให้มันด้วยหรือเปล่าเนี่ย แต่มือของสเลนก็เผลอกุมมือของอินาโฮะไปเรียบร้อยแล้ว เขาผละมือออกจากมืออินาโฮะอย่่างรวดเร็ว ใบหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อ

    เขามองนาฬิกา ใกล้จะ 4 ทุ่มแล้ว แต่สเลนยิ่งไม่ง่วงเลยแม้แต่น้อย เขาเปิดโทรทัศน์ จ้องมองภาพที่ถูกฉายอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะคันไม้คันมืออยากทำอะไรสักอย่าง

    ก่อนที่เขาจะค้นพบวา่ เจ้าตำตวรเคาน์ครูเทโอ้ นั้นต้องแอบไปรู้นิสัยเขามาแน่ๆ ก็สเลนน่ะเอาเข้าจริงแล้ว ถึงจะเห็นว่าชอบรำคาญคนอื่นแล้วก็หลีกเลี่ยงที่จะดูแลคนอื่น

    แต่ในความเป็นจริงแล้ว ชอบห่วงชาวบ้านมากกว่าตัวเอง

    นิสัยเหมือนคนตรงหน้าเลย สเลนคิดก่อนจะเสยหน้าที่ปรกหน้าใบนั้นออกเบาๆ                

    เพียงแต่ว่าพวกเขาแต่ละคน แสดงออกคนละแบบเท่านั้น

    สเลนมักจะบอกปัดๆไม่อยากทำแต่จริงๆแล้วก็อยากทำ

    แต่อินาโฮะมักจะไม่แสดงออกทางสีหน้าแต่ก็ทำจริง ไม่อ้อมค้อมเหมือนสเลน นั้นทำให้พวกเขาแตกต่างกันแต่ไม่แตกแยก

    สเลนเดินหาผ้าขนหนูในห้องนั้น ก่อนจะแอบไปเจอกะละมังที่ซ่อนอยู่ในตู้เก็บของในห้องน้ำ รองน้ำใส่กระละมังอย่างอ้อยอิ่ง แล้วทำไมในห้องนี้มันถึงมีของครบแบบนี้ฟระ?

    เหมือนเตรียมชัดๆ - -

    สเลนคิด ทำไมอะไรๆมันลงรอยไปหมดแบบนี้ น่าจะมีอุปสรรคแบบหากระละมังใส้น้ำไม่เจอแล้วเขาก็เผลอง่วง หลับไปโดยไม่ต้องแตะตัวอีกฝ่ายน่ะ อยากเป็นแบบนั้นน เข้าใจไหมม?

    แต่คงไม่ทันเสียแล้ว

    สเลนบิดผ้าให้หมาดพอสมควร จู่ๆก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น

    "อ้ว ยายสวัสดีครับ"ที่แท้ก็ยายของเขาเอง

    "ไงสเลนหลานรักเอ้ย! แฟนแกเปนไงบ้าง"

    "แฟนอะไรครับ? ถ้ายายหมายถึงพัดลมล่ะก็ในห้องนี้ไม่มีพัดลมครับ" ยายเล่นมุขไรเนี้ย เล่นกลับแล้วกัน

    "อ้าว อย่ามาทำมึน เห็นนายตำรวจสุดหล่อบอกฉันว่าแกจะต้องไปดูแลแฟนแกที่บาดเจ็บหนัก ฉันเลยอนุญาตนะเนี่ย" อ้าวยาย....ถ้าไปนอนค้างบ้านเพื่อนไม่ให้หรือไง?

    "อะไรกันครับ ไม่ใช่แฟน เพื่อนน่ะครับ"

    "งั้นก็กลับบ้าน!!!" อะไรวะ ยายเป็นอะไรเนี่ยย สเลนแอบรู้สึกดีใจก่อนจะนึกขึ้นมาได้

    "อย่าหนีล่ะ ฉันสั่งคนทักรอเธอทางเข้าโรงพยาบาลหมดแล้ว"

    ไอ้ตำรวจบ้าเอ้ย!! ทั้งหมดนี่เป็นแผนเอ็งชัดๆ สเลนไม่อยากให้ยายไมเกรนขึ้นเลยตอบกลับไปอย่างขมขื่นว่า

    "อ่อ ล้อเล่นครับ แฟนผมนั้นแหละ ขอตัวก่อนนะครับ" รีบกดดวางสายก่อนจะถอนหายใจออกมายาว มองเจ้าคนที่นอนหลับปุ๋ยสบายบนเตียงอย่างเคียดแค้น

    หนอยเจ้าส้ม!! แกต้องเป็นคนวางแผนแน่ๆ ไอ้แผนที่ทำอะไรไม่ได้น่ะมีแต่แกเท่านั้นแหละ! แล้วไอ้ตำรวจนั้นก็ดันร่วมแผนกับมันด้วย ว่าแต่มันทำไปเพื่ออะไรฟร้าา?

    อยากแกล้งเขา

    ข้อนี้แน่ๆ สเลนมองร่างบนเตียงก่อนจะยิ้ม ไม่ทงไม่ทำแม่งแล้วไอ้เช็ดตัวเนี่ย    สเลนยิ้มกริ่ม มือยกโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง เลื่อนหาเบอร์ที่แสนคุ้นเคยก่อนจะกดโทรออก

    "ครับ สเลนเองครับ"

    "จัดมาเลยครับสัก 10 ตัว เอาตัวใหญ่ๆนะครับ ครับ ขอบคุณครับ"

    วางสายลงก่อนจะยิ้ม 

    อยากให้เขาอยู่นอนเฝ้าตัวเองก็บอกมาเถอะ แต่โทษทีนายไม่ได้บอกว่าห้าม เอาอะไร มานอนเป็นเพื่อนด้วยนี่นะ ไม่นานหลังจากนั้นคนจากร้านที่สเลนเพิ่งสั่งของเรียกให้สเลนลงไปรับของด้านล่าง ถึงแม้จะ 4 ทุ่มแล้ว และทางโรงพยาบาลก็ไม่อนุญาตให้ใครเข้าเยี่ยมแต่เมื่อเห็นว่า เป็นสเลน หนุ่มผมทองผู้มานอนเฝ้าอินาโฮะ เจ้าของเมืองแล้วก็เลยอนุโลมให้

    สเลนเห็นเครื่องแบบตำรวจอยู่ไม่ไกลจากตัวเขา

    แม่งมาเฝ้าจริงๆด้วย!

    สเลนแบกกล่องขนาดใหญ่ก่อนจะขึ้นลิฟต์(ที่ไม่ใช่หน้าเคาน์เตอร์) ขึ้นบนห้อง

    เปิดกล่องนั้นออก แล้วจัดการวางมันไปทั่วๆเตียงของอินาโฮะ ถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐานด้วยความสะใจน้อยๆ ก่อนจะเดินไปที่โซฟาแล้วเปลือกตาก็ค่อยๆหลับลงอย่างเหนื่อยล้า


    แสงแดดยามเขาส่องกระทบเปลือกของเจ้าเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลแดง ดงตาเริ่มปริอเปิดขึ้นก่อนจะเปลี่ยนเป็นสะดุ้งด้วยความตกใจ

    ไอ้หน้าไหนมันริเอา ค้างคาว มาล้อมรอบตัวเขาไปหมด

    อินาโฮะขมวดคิ้ว ใช้เท้าเขี่ย ว่าที่ ตุ๊กตาค้างคาวหน้าตาน่าเกลียดตัวหนึ่งลงจากเตียง ก่อนจะตกใจอีกรอบที่มันไปโผล่อยู่บนหัวอีกตัว 

    ใช้ความพยายามอย่างมากในการเขี่ยพวกมันออกทีละตัว เวลาในการเขี่ยนานเป็น 5 กว่านาที อินาโฮะซ่อนสีหน้ารังเกียจไว้เต็มที่ เมื่อจัดการตุ๊กตา ค้างคาว เรียบร้อยแล้วผมก็ถึงกับหอบเล็กน้อย

    ไม่น่าเชื่อว่าพอเจอของที่เกลียดจะทำให้เขารู้เหนื่อยกับมันมากขนาดนี้ มองหาต้นตอของใครก็ตามที่บังอาจเอา ค้างคาว มาแกล้งเขา

    พลันสายตาคมกริบมองไปยังเรือนร่างขาวนวลที่หลับอย่างสบายบนโซฟาสุดหรูที่ใหญ่พอๆกับเตียง ผ้าห่มสีน้ำเงินคลุมเรือนร่างนั้นเอาไว้ อินาโฮะมองสายน้ำเกลือของตนเองก่อนจะกระชากมันออก

    ของไ่ม่จำเป็น

    ค่อยๆเอาเท้าแตะลงบนพื้นแสนเย็นเยียบ ก้าวเท้าไปหาอีกฝ่ายอย่างเงียบกริบราวกับนินจา ก้มลงมองใบหน้านั้นอย่างใกล้ชิด ยิ้มที่มุมปากเบาๆ

    "แกล้งผมแบบนี้ใช่ไหม ค้างคาว"กระซิบแผ่วเบา ถึงขณะที่อีกฝ่ายไม่รู้ตัว อินาโฮะโน้มหน้าเข้าไปใกล้อีกฝ่ายจนจมูกชนกันเบาๆ แต่ถึงกระนั้นเจ้าคนที่เหนื่อยกลับนอนหลับต่ออย่างไม่รู้สึกถึงภัยที่จะตามมมา

    อินาโฮะยิ้ม เขาไม่เคยทำแบบนี้กับใครมาก่อน จะมีแต่เจ้าค้างคาวคนแรกนี่แหละที่เขาจะทำด้วยเป็นคนแรก
    ใช้มือประคองใบหน้านั้นเข้ามาใกล้ตนๆ ประทับริมฝีปากบนปากนวลสีชมพูอ่อนๆอย่างแผ่วเบา ก่อนจะค่อยๆกดให้แนบแน่นกันมากขึ้นอย่างรู้สึกชื่นชอบ ใช้มือบิดปากให้เปิดออกอย่างน้อยๆ ก่อนจะตวัดลิ้นเข้าไปเข้าใน ขบริมฝีปากบางนั้นอย่างนึกสนุก แล้วก็พบว่าสเลนกำลังลืมตาขึ้นมามองอย่างตกใจ

    สเลนออกแรงผลักอีกฝ่าย แต่แรงของคนที่เพิ่งวิ่งหลายกิโล เจอผีในลิฟต์ไหนจะบ้าวิ่งลงบันไดไปเอาของตอน 4 ทุ่มกว่า จะมีแรงสู้คนที่นอนแม่งตั้งแต่ 1 ทุ่มได้อย่างไร

    อินาโฮะไม่ยอมถอนริมฝีปากออก เขาจับอีกฝ่ายให้เข้ามาใกล้เขามากกว่าเดิมก่อนที่จะล้มตัวลงนอนทับอีกฝ่ายบนโซฟาตัวนั้น เมื่อเห็นว่าสเลนเริ่มจะหายใจไม่ออกก็ถอดถอนออกอย่างนึกเสียดายเล็กน้อย

    "นะ...นายทำบ้าอะไรเนี่ย" สเลนหน้าแดงระเรื่ออย่างกับมะเขือเทศ อินาโฮะยิ้ม 

    "ก็นายอยากแกล้งผมทำไม" อินาโฮะเอ่ยเสียงเรียบแต่ไม่ได้ขยับตัวไปไหน "นี่เป็นการลงโทษของสัตว์เลี้ยงที่บังอาจมาแกล้งเจ้านาย"

    "ผมไปเป็นสัตว์เลี้ยงนายตอนไหน?" สเลนเถียงกลับ "ออกไปจากตัวผมสักที"

    "โทษที"อินาโฮะกล่าวสั้นๆ "ผมเป็นคนตรงๆไม่อ้อมค้อม"

    "เรื่องนั้นรู้อยู่แล้ว" สเลนบอกก่อนจะพยายามผลักหน้าอีกฝ่ายให้ออกไป

    "ถ้ารู้อยู่แล้วก็ดี"อินาโฮะบอก "ตอนนี้ผมกำลังติดใจขออีกรอบแล้วกัน" ไม่ทันได้เปิดปากเถียงอะไรอีกฝ่ายกลับ อินาโฮะโน้มหน้าลงมาอีกครั้งประทับริมฝีปากที่สเลนจะไม่มีวันลืมไปอีกชั่วชีวิต

    ก็นั้นมันจูบแรกของเขาเลยนะนั้นแถมยังมีจูบที่สองตามมาอีก

    แ่แล้วสเลนกลับรู้สึกจะชอบสัมผัสที่อีกผ่ายมอบให้ ทั้งนุ่มนวลและมีกลิ่นของยาฆ่าเชื้อเต็มไปทั่วร่างของอินาโฮะ มือที่ลูบใบหน้าของสเลนทำให้เขารู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก มันอ่อนโยนและนุ่มนวล ไม่เหมือนเจ้าประธานที่กวนบาทา และเจ้าระเบียบแถมยังทำหน้าตายใส่คนอื่นไปทั่วเลยแม้แต่น้อย ในตอนนี้อินาโฮะไม่เหมือนคนที่นิสัยบ้าอำนาจก็ไม่มีมาในรสจูบนี้

    สเลนค่อยๆเอื้อมมือไปกอดอีกฝ่าย แต่แขนก็ไม่ยอมทำงานตามที่สมองคิด แขนของเขาเลยค้างอยู่ข้างลำตัว ดิ้นเล็กน้อยเพื่อบอกผู้กระทำว่ามันนานเกินไปแล้ว แต่ก็พยายามยกมือขึ้นมาจับมือที่ลูบแก้มเขาเบาๆ สเลนหลับตาแน่น เขากำลังทำอะไรอยู่?

    อย่าบอกนะว่าเขาชอบผู้ชาย!!

    อินาโฮะผละออกจากสเลนก่อนจะเอ่ยถาม "อาบน้ำด้วยกันไหม?"

    ====================================================

      เพิ่งว่างนิดหน่อยจากการไปติวอาเซียนเพื่อไปแข่งค่ะ แหม โรงเรียนก็นะ อุตส่าได้หยุดอยู่บ้านยังอุตส่ามีความสามารถลากตัวข้าน้อยไปแข่งขันตอบปัญหาอาเซียน (ภาษาอังกฤษ) โขกหัวตาย 555555 (โทรมาปลุกตั้งแต่ 7 โมงเช้า บร๊ะเจ้าาาา!! )

    หลังวันที่ 15 จะพยายามามาอัพให้ตลอดต่อเนื่องนะค่ะ (เพราะวันที่ 15 ตุลาคมนี้ต้องไปแข่งแล้ว โฮะๆ) ต้องขอโทษทุกท่านจริงๆนะคะ
    ขอบคุณที่เข้ามาอานนะคะ

    X-Hospital ใครที่สนใจว่ามันมีที่มีอย่างไร เชิญชมคลิปวีดิโนี้ค่ะ อ่อขอเตือนนะคะ ไรเป็นคนชื่นชอบเรื่องผีนะ ทำใจก่อนดูด้วยนะคะ ^^ 

    http://alive.in.th/watch_video.php?v=H1W26295WWBR

    ผีน่ารักดีคะ 55555555555







     

      SQWEEZ SQWEEZ THEME
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×