ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ..ผมไม่ใช่พี่เลี้ยงนายนะเฟ้ย
ในบรรยากาศยามเย็นที่แสนเงียบสงบและรู้สึกถึงความอบอุ่นของฤดูใบไม้ผลิที่เพิ่งจะมาเยือน แต่คงไม่ใช่สำหรับเด็กหนุ่มหัวทองนามว่า สเลน ทรอยยาร์ดเลยแม้แต่น้อย ทำไมน่ะเหรอ? ก็ถ้าไม่มีไอ้สีส้มกับปลอกข้อมือสายจูงสีดำที่ล็อกข้อมือข้างซ้ายเอาไว้มันก็คงจะเป็นยามเย็นดีๆนั้นแหละ!
"บ้านนายอยู่ไหน?" แล้วเหตุผลอะไรที่คนอย่างสเลนต้องบอกด้วย
"จะรู้ไปทำซากอะไรล่ะครับ?" สเลนถามกลับอย่างรำคาญเล็กน้อย "ปล่อยไว้ตรงนี้แหละ ผมกลับบ้านเองได้"
"เกิดนายย้ายโรงเรียนออกวันพรุ่งนี้มันจะวุ่นวาย" อินาโฮะตอบกลับด้วยเหตุผลล้วนๆ
"ใครที่ไหนมันจะบ้าย้ายมาวันแรกแล้วก็ย้ายออกไปวันที่สองล่ะครับ" จากที่รำคาญ สเลนคิดว่าเจ้าหมอนี่คงไม่ได้รับการดูแลที่ดีจากครอบครัวหรือไม่ก็ไม่ยอมไปพบจิตแพทย์ตามที่แพทย์สั่ง
"งั้นนายก็เป็นเด็กใหม่จริงๆด้วยสินะ" อินาโฮะเอียงคอมอง
"เพิ่งรู้หรอครับ" สเลนเอ่ยด้วยน้ำเสียงงอน นี่คุยกันมาจะครบร้อยประโยคแล้วเพิ่งรู้เรอะ? ทำให้อินาโฮะถึงกับแอบยิ้ม
"ที่นี้ก็ปล่อยผมได้แล้ว ผมไม่ใช่หมานะที่จะมีปลอกคอ หรือปลอกข้อมือนะ"สเลนยกข้อมมือข้างซ้ายให้อินาโฮะปลดล็อค อินาโฮะคว้าข้อมือนั่นมาก่อนจะปลดล็อคให้ตามคำขอ สเลนบิดข้อมือเล็กน้อยก่อนจะคว้าตุ๊กตาที่ยังอยู่ในอ้อมแขนอินาโฮะมาถือไว้ มือเอื้อมเปิดเป้ข้างหลังตนคว้าขวดน้ำมาอมไว้ในปาก
"นั้นนายจะทำอะ-" ถามยังไม่ทันจบ สเลนพ่นน้ำนั้นใส่ตุ๊กตา อินาโฮะถอยหนี
"ฉันชนะ ฉันชนะ ฉันชนะ" หลังจากพ่นน้ำออกเสร็จแล้วก็พูดประโยคเดิมซ้ำๆผสามรอบ อินาโฮะขยะแขยง
"สกปรกชะมัด เจ้าค้างคาว" แต่ถึงปากจะบ่นว่าอีกฝ่ายแต่เมื่อเห็นน้ำไหลออกมาจากริมฝีปากบางแล้วเขาก็เผลอคว้าผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดมุมปากให้อีกฝ่ายเฉย
"ทะ...ทำ"
"เงียบแล้วปล่อยให้ผมทำซะ เป็นค้างคาวต้องเชื่อฟังเจ้านาย" พูดด้วยเสียงเรียบจนสเลนอดคิดไม่ได้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่?
"เอ้า เอาไปซักให้ด้วย" อินาโฮะโยนใสมือสเลน "ไม่อยากให้เชื้อแบคทีเรียน้ำลายนายมาติดผ้า" ไหงเป็นคนนิสัยแบบนี้วะ? สเลนคิด "ก็ไม่ได้ขอร้องให้เช็คให้สักหน่อย"
"...." อินาโฮะมองด้วยสีหน้าเรียบเฉยก่อนจะเดินหนีไปทางตรงข้ามกับสเลน หายลับเข้าไปในมุมมืดที่สเลนมองไม่เห็น สเลนกุมผ้าเช็ดหน้าเบาๆก่อนจะมุ่งกลับบ้านของตนเช่นกัน แม้นจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดจะทำอะไรอยู่ แต่เท่าที่สเลนรู้
....คือเจ้าส้มทำอะไรมักหวังผลตอบแทนเสมอ คอยดูเหอะ เดี๋ยววันพรุ่งนี้มันต้องใช้เขาทำอะไรพิเรนท์อีกแน่ อย่าให้หน้าตาหล่อๆของมันหลอกคุณเชียว!!!
เช้าวันต่อมาไวเหมือนโกหก เป็นวันที่อากาศแจ่มใสมว๊ากกกกกกกกกกกก ท้องฟ้าปลอดโปร่ง ต้นไม้พลิวไหวไปตามแรงลมเบาๆ เหล่ามวลบุปผาเปล่งประกายตามริมข้างทาง สายลมเป้็ใจพัดพากลิ่นอายของทะเลที่อยู่ใกล้ๆโรงเรียนส่งกลิ่นหอมๆแสนเย้ายวน
สเลนเป็นเด็กรักธรรมชาติ ดังนั้นเขาจึงมักจะปั่นจักรยานเสือหมอบมาโรงเรียน แถมก่อนหน้านั้นเขาได้แวะไปหาต้นไม้ต้นหนึ่ง ต้นที่เขาคิดว่ามันคือ ความหวัง ทุกอย่างของเขาสำหรับการมาใช้ชีวิตในเมืองแห่งนี้ มันสุงใหญ่และอยู่ท่ามกลางทุ่งดอกไม้ ใกล้ๆบริเวณนั้นมีหุ่นรูปปั้นสุนัขจิ้งจอก 2 ตัว เขาไหว้มันแม้จะไม่รู้ว่าเหตุใดถึงต้องไหว้มันก็ตาม
ก่อนหน้านี้สเลนเป็นเด็กที่อาศัยอยู่แต่ในเมือง พอมาเรียนในที่ๆห่างไหลจากเทคโนโลยีแล้วเขารู้สึกสบายใจ ดังนั้นวันนี้เขาจะไม่ยอมให้อะไรก็ตามามาขัดความสุขของเขา...ถึงแม้ว่าภัยที่ร้ายแรงที่สุดจะเป้นเจ้าส้มก็เถอะ ก็ลองดูสิ แล้วเจ้าส้มจะรู้ว่าเขาจะเล่นงานอีกฝ่ายกลับเช่นไร
"สดชื่นจริงๆเล๊ยย" ร้องตะโกนแข่งกับสายลมที่เข้ามาปะทะที่ใบหน้า สเลนยิ้มอย่างสดใส อย่างน้อยก็คงจะสดใสก่อนที่เขาจะขึ้นไปห้องโฮมรูม
"อรุณสวัส-" พูดทักทายห้องเรียนยังไม่ทันจบ กลับพบใครบางคนนั่งอยู่ในห้องเรียบร้อยแล้ว
นั่นมัน..!!!!!!
"อ้าว เด็กใหม่สวัสดีจ๊ะ" เสียงไพเราะหูขนาดนี้ คงเป็นใครไปไม่ได้
"สะ...สวัสดีครับ เซลัมซัง เหอะๆมาเช้านะครับ" สเลนไม่รู้จะทักทายผู้หญิงยังไงก็ได้แต่แถไปตามน้ำก่อน
"เย็นนี้ว่างไหมเอ่ย?" จู่ๆเซลัมซังก็เอ่ยปากถามซะงั้น เย็นนี้งั้นเหรอ สเลนคิด เขาไปสัญญาณกับเจ้าส้มว่าจะไปหามันนี่ แต่เอาเถอะ นี่เป็นเพื่อนผู้หญิงคนแรกของโรงเรียนนี้ เขาจะต้องสานสัมพันธ์อันดีกับเธอเอาไว้
เพื่อเจ้าส้มมันคิดจะใช้เขาทำอะไร เขาจะได้หาข้ออ้างว่าเซลัมซังนัดเอาไว้
ฮ่าๆ ฉลาดมากสเลน มีเซลัมซังเป็นได้ทั้งเพื่อนทั้งข้ออ้าง 5555
"เออ....ก็ว่างนะครั-"
"สเลนผมจองตัวแล้วครับ" เสียงทุ่มลึกดังขึ้นมาจากด้านหลังของสเลนไม่ต้องหันไปดูก็รู้ว่าใคร?
ไอ้ส้มมม นี่แกจะขัดขวางความสงบสุขของชาวบ้านทำต่อยหอยอะไร๊
"เห..งั้นเหรอค่ะ งั้นเอาไว้วันอื่นก็ได้นะ สเลนคุง" เซลัมซังยิ้มอย่างเจิดจรัส โอ้นางฟ้าน้อยๆของผม สเลนคิดอย่างหน่ายๆ เกือบจะเป็นข้ออ้างให้ผมหลุดพ้นจากนรกทั้งเป็นแล้วว
"หึ...ไม่มีวันอื่นหรอกครับ เซลัมซัง" อินาโฮะกล่าวเสียงเรียบก่อนจะดึงแขนของสเลนให้ไปด้วยกันกับเขา "เพราะผมจองตัวเขาทุกวันทุกวินาที" ทิ้งประโยคบ้าๆที่ทำเอาเซลัมซังอ้าปากค้างก่อนจะลากเขาออกไปไหนก็ไม่รู้
เวลานี้ก็ใกล้จะ 7 โมงครึ่งแล้ว เด็กนักเรียนเริ่มทยอยเข้ามามากขึ้นแต่มือที่จับแขนของสเลนก็ยังคงแน่นไม่ปล่อยเลยแม้แต่น้อย จนคนรอบข้างแอบซุบซิบนินทากัน
"ปล่อยแขนผมออกเดี๋ยวนี้นะครับ" สเลนบอกก่อนที่จะหันซ้ายหันขวามองผู้คนที่แอบอมยิ้มกับท่าทางชองเขา
"คนอื่นมองหมดแล้วเห้นไหมนั่น เดี่ยวเขาก็เข้าใจผมผิดหรอก"
"เข้าใจผิดว่าอะไรล่ะ?" อินาดฮะหันหน้ามาถาม
"เข้าใจผิดว่าผมเป็นพี่เลี้ยงนายไง!!" สเลนโพลงออกมา "แบบนั้นต้องเสียชื่อเสียงตระกูลผมแน่ๆเลย"
"สมองนายใช้เมล็ดถั่วคิดหรือไง" อินาโฮะด่าเบาๆ "เงียบๆแล้วก็ตามมา"
"เออ ผมถามอะไรหน่อยได้ไหม?" เมื่อสเลนได้ยินคำตอบก็มองไปรอบๆตนอีกครั้ง "ทำไมมีแต่สาวๆที่มองพวกเราแปลกๆล่ะครับ?"
"สงสัยพวกนั้นไม่เคยเห้นผมลากใครไปไหนมาไหนมั้ง" อินาโฮะตอบ "แต่เท่าที่ดูมันก็แปลกจริงๆนั้นแหละ"
"พอจะรู้ไหมครับ?"สเลนยังคงถามต่อไปด้วยความอยากรู้ อินาโฮะมองไปที่กลุ่มเด็กสาวกลุ่มหนึ่ง
"เท่าที่เคยได้ยินมา สายตาแบบนั้น....."อินาโฮะเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะหันมาอธิบายให้สลเนฟังขณะที่กำลังก้าวขาไปด้วย
"เขาน่าจะเรียกว่าการ จิ้นน่ะ" อินาโฮะบอก "นี่ก็แค่การเดาของผมเฉยๆ"
"แล้วจิ้นนี่คือ"
"ไม่รู้หรือไง?? ก็สมกับเป็นค้างคาว จิ้นมาจากคำว่า Imagine ที่แปลว่า จินตนาการ โดยมักจะหมายถึง คน2คน ที่พวกเขาชอบมโน..."
"ไม่ต้องสาธยายยาวครับไม่อยากฟัง"สเลนตัดประโยคอินาโฮะก่อนจะ เหล่มองไปรอบๆอีก "เจ้าส้มคิดว่าพวกเขาจิ้นพวกเราเป็นอะไรหรอครับ?"
อินาโฮะหยุดเดิน หันกลับไปมองเด็กสาวกลุ่มเดิมที่ยังคงมองมาที่พวกเขาอย่างไม่ละสายตา จะจ้องกันมากเกินไปแล้ว??
"พวกเขาคงจิ้นให้ผมเป็นพระราชา" อินาโฮะบอกเสียงเรียบ
ไอ้คนบ้าอำนาจเอ้ย! สเลนคิดก่อนจะใช้นิ้วที่ว่างชี้มาที่ตัวเอง "แล้วผมล่ะคิดว่าอะไร?"
อินาโฮะครุ่นคิดแวบหนึ่งก่อนจะบอกด้วยเสียงเรียบ ไม่มีโทนสูงโทนต่ำตามเคย
"ส่วนนายก็เป็นราชินีไง"
==================================================
บทนี้ สเลนเป็นคนขึ้นต้นค่ะ มาเขียนต่อหลังจากเพิ่งเล่นเกมส์เสร็จคะ (เหอะๆ)
ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะคะ ^^ ขอขอบคุณคอมเม้นแรกที่ทำให้อยากแต่งต่อเอาตอนดึกๆขนาดนี้
อ่านตั้งแต่ตอนตี 5 ท่าช่างเป็นคนที่สุดยอดอะไรเยี่ยงนี้ >w<
◊ SQWEEZ SQWEEZ THEME
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น