ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : บทที่ 7 นี่คือการต่อสู้ของจริง กับสิ่งที่ไร้ตัวตน
ริก:
ตอนนี้ผมเพิ่งจะมาสงสัย ว่าสรุปที่ๆผมกับอาเธอร์อยู่มันคือที่ไหนกันแน่?
"ที่นี่ที่ไหน?"ผมถามอาเธอร์ถามแต่เสียงนะ แต่หน้าไม่หันไป
"ถามได้ก็ห้องเก็บของไง" อาเธอร์ยังคงตอบกลับมากวนๆแบบเดิม "เพิ่งเคยมาครั้งแรกจะให้ไปตรัสรู้เร็วขนาดนั้นก็อัจฉริยะเกิ๊น"
"เออ ห้องเก็บของบ้านเมิงใหญ่ขนาดนี้ไง๊ล่ะ" เดี๋ยวกระผม ริกเบนเนอร์จะสาธยาย สิ่งที่เรียกว่า ห้องเก็บของให้ฟังนะครับ
.....พื้นที่พวกผมกำลังนอนๆเหยียบมีความแข็งไม่เบา อากาศที่นี้ดีชะมัด เราน่าจะอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลมากๆของมากที่สุด ทำให้ผมนึกถึง แกรนด์แคนยอน(Grand Canyon)�สิ่งมหัศจรรย์ตามภูมิศาสตร์ของโลกมนุษย์ มันตั้งอยู่ใน สหรัฐอเมริกา ที่มลรัฐอะริโซนา เขาบอกกันว่า
สหรัฐอเมริกาเปิดเผย "ช่วง ค.ศ.1997-2000 เกิดฟ้าผ่าที่แกรนด์ แคนยอน นับได้ 104,294 ครั้ง หรือเฉลี่ย 26,073 ครั้งต่อปี"
แหม แต่ไม่รู้เป็นอะไรนะหรือผมจะเพี้ยนหรือเปล่า? แต่ผมกลับชอบคำว่า "ฟ้าผ่าเปรี้ยงๆติดต่อกันหลายๆครั้งจัง"สงสัยผมจะมีเพื่อนซี้เป็นสายฟ้าซะแล้วล่ะมั้ง 55
ก็ ห้องเก็บของนั้นก็ประมาณ แกรนด์แคนยอนนั้นแหละ ไม่รู้จะกว้างไปไหน
....แต่ที่น่าหนักใจที่สุด คือ พวกเรากำลังมาหาอะไรกันอยู่เนี่ย?
ผมเหล่ตามองอาเธอร์ มันกำลังงุนอยู่กับแผนที่ผืนเก่าที่เราเก็บได้จากสุสานนั้น แล้วผมก็เพิ่งจะมาสังเกตว่า หมู่เมฆกำลังหนาและก็ครึ้มซะด้วย มันลอยตัวเหนือศีรษะของพวกเรา
"เฮ้ เธอร์ ชั้นไม่รู้หรอกนะว่า พวกเรากำลังหาอะไร?หรือว่าชั้นจะใจเด้นแรงไหมเวลาอยู่กับแก?แต่ว่าไอ้ของพรรค์นั้นน่ะ เก็บไว้ตอบหลังซัดเจ้านั้นให้น่วมจะดีกว่าไหม?"ว่าแล้วผมก็ดีดนิ้วดัง เปาะ! ดาบคาตานะ สีดำเล่มและสีเงินประกายอีกเล่ม ปรากฏในมือของผม ที่ฝักของดาบซ่อนปืนเก็บเสียงเอาไว้ด้วยทั้ง 2 ดาบ
"สัญชาตญาณชั้นมันบอกว่า เรากำลังจะเจอศึกหนักนิดหน่อย"พูดไม่พอ ผมยิงปืนประกายสีแดงไป 2 นัด ใส่ไอ้เจ้าตัวที่ดูเหมือนกับ พายุที่ก่อตัวเปนเฮอร์ริเคนขนาดจิ๋วๆ แต่หลายตัว เหมือนแมงกระพรุนเลยแฮะ!!
กระสุนปลิวว่อนไปในพายุอย่างไร้ค่า ผมสถบออกมาเบาๆ
"มาจนได้สินะ พวกอะนีมอยน่ะ(เทพเจ้าแห่งสายลม)แต่พวกเขาเฮ้....เทวทูตหรอ?"ความสับสนเรื่องรูปร่างของอาเธอร์ชักจะเพี้ยนหนักขึ้นเรื่อยๆนะ
"เทวทูตอะไร๊?แหกตาซะ..มันเหมือนกับ... เอ้าเห้ย!เมื่อกี้ยังเป็นหนวดแมงกระพรุนอยู่เลยนิ"ตอนนี้ผมสงสัยแล้วว่า สรุปมันรูปร่างยังไงกันแน่ หรือสมองผมกับอาเธอร์จะมีปัญหา
"ระวังเงาของตัวเองไว้ให้ดี!!" จู่ๆคำเตือนของอาจารย์กลีสันก็ผุดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
"ดูเงาเอาไว้อาเธอร์"ว่าแล้วผมก็สั่งมันก่อนจะเผชิญหน้า สิ่งไร้ตัวตน ที่พัดโหมกระหน่ำเข้ามาเรื่อยๆอย่างๆไม่มีทางจะลดละ
แล้วระหว่างที่ผมกำลังอัญเชิญจิตแห่งเทพประจำตระกูลผม
คมเขี้ยวของสายลมก็บาดผม ที่ต้นขา ต้นแขน เส้นเอ็นที่ข้อพับขา แล้ว นิ้วมือ!
ฉึก ฉึก ฉึก ฉึก ฉึก!!!
นี่มันกะจะเล่นตัดกำลังตั้งแต่แรกแล้วใช่ไหม? ผมล้มลงไปทั้งที่ยังอยู่ในท่ายืน
เลือดสีแดงอาบไล้ไปทั่วเรือนร่างของผม แสบ!นักนะ
"หึ ไม่ค่อยได้เลือดออกเลยนะช่วงนี้"ผมแสยะยิ้มอย่างบ้าคลั่ง
"เฮ้ยๆริก รอยยิ้มแกโรคจิตมากวะ"อาเธอร์หันมามองอย่างเป็นห่วงนิดๆ
"เอาน่า อาเธอร์ชั้นไม่ได้เล่นมานานแล้วนะ"ผมพูดพลางเลียริมฝีปาก"หาอะไรสนุกๆทำดีกว่า"
.......................................................................................................................................
อาเธอร์:
เป็นห่วงมันชะมัด กลิ่นอายของปีศาจแห่ง "บุปผาที่เฉิดฉายในกระจกเงา"ของเจ้าริกก็ดูจะแรงขึ้นเรื่อยๆ
มันจะสามารถควบคุม ปีศาจตนนั้นได้อีกหรือเปล่าฟระ?เฮ้อ หนักใจ
ผมเลยเรียก ดาบสีขาวบริสุทธิ์ และโซ่คล้องปืนสีเงินออกมา การโจมตีระยะไกลไม่ได้ผลแน่ๆถ้าลมจะแรงขนาดนี้
แล้วผมก็เพิ่งจะสังเกตเห็นว่า
..อะนีมอย หายตัวไปแล้ว???
.........เกิดความโกลาหลขึ้นไปอีก ในตอนนี้ริกกำลังฟาดฟันกับเหล่าอสุรกาย สมุนของอะนีมอย การที่เธอหายตัวไปนี่เป็นเรื่องที่ไม่รื่นรมที่สุดแล้วล่ะ
เราอ่านทางการต่อสู้ของเธอไม่ได้
เราไม่รู้จุดอ่อนของเธอ
แต่ถ้าเราสามารถเอาชนะเธอได้ล่ะก็.....ข้อมูลของคนร้ายก็จะได้มาอยู่ในกำมือ..หึหึ
คิดสิอาเธอร์ อาจารย์กลีสันพูดว่ายังไงบ้าง? เอ๊ะ!เมื่อกี้ริกก็เตือนเขานิ
"ระวังเงาของตัวเองไว้ให้ดี"ผมรีบดูเงาตัวเอง แต่...........
"ปัดโธ่เว้ยย ไม่มีแสงแบบนี้จะไปมองเห็นได้ยังไง?" แล้วคมมีดที่มองไม่เห้นที่ฟันเข้าที่ไหล่ขวาของผม
ฉึก! ฉึก! ต่อด้วยส่วนที่เป็นข้อพับ
"เมื่อมีแสงย่อมมีเงา" �อย่างแรกคือหาแสงสินะ นั้นไม่ใช่เรื่องยากก็ผมเป็นอัศวินแห่งมนตรานิเรื่องแสงน่ะ จิ๊บๆ (ลืมเรื่องบาดแผลไปซะสนิทเลย แต่ช่างมันเห๊อะ เรื่องแค่นี้ขี้ปะติ้วจะตาย)
ผมเอาดาบไปชี้ไปบนท้องฟ้า พึมพำงึมงำ คาถาสวดนิดหน่อย พายุที่ปั่นป่วนรอบด้านก็มลายหายไปสิ้น เผยแสงอาทิตย์ที่สาดส่องมาอย่างเจิดจรัส
"ได้เวลาเอาคืนแล้วเว้ยยย"
...................................................................................................................................
ริก:
เจ้าเธอร์ฉลาดชะมัด ทีนี้ก้จะได้เห็นเงาของตัวเองแล้ว
เอ๊ะ!!นั้น ข้างหลังไอ้เธอร์เงาของผู้หญิง.......อืมเงาของหนวดแมงกระพรุน.........เทวทูตดิ
โฮ้ย!!ช่างแม่งเรื่องรูปร่างแล้ว แค่่ฟันมันให้ขาดก็จบแล้วใช่ไหม?
ผมรีบตรงดิ่งไปหาอาเธอร์ฟันเงาที่พื้น
ฉัวะ! เหมือนจะได้ผลนะ แต่ร่างนั้นก็กลับสลาบหายไปอีก
"เออๆ อยากจะเล่นก็จะจัดให้ แบบไม่อั้นเลยอ่ะ"ผมพูดพลางเปิดมิติระหว่างเทพกับปีศาจออกมา โลก 2 โลกที่ไม่ค่อยจะถูกกันเท่าไหร่
"วันนี้จะขอใช้พลังของท่านหน่อยนะ ท่านไลน์นิ่ง(สายฟ้า)และท่านบุปผาที่เฉิดฉายในกระจกเงา...เอิ่ม.........= =""ไม่ทราบว่าเมื่อไหร่จะเปลี่ยนชื่อซะที มันอ่านยาวยืดยาดด"แล้วผมก็เพิ่งนึกได้ว่า หาเรื่องกับปีศาจซะแล้ว เฮ้ออ....
ปวดจิต
ท่านไลน์นิ่ง:ไม่ต้องขอ ชั้นก็ให้นายยืมพลังอยู่แล้วจนกว่าจะบรรลุนิติภาวะ นายจะใช้ได้อย่างจำกัดเท่านั้นนะ แล้วก็ พลังแห่งท้องนภาน่ะ อันตรายรอไว้ 18 ปีก่อนแล้วกัน
ท่านบุปผาที่เฉิดฉายในกระจกเงา:เฮ้อ ไลน์นิ่งก็มีสายฟ้าให้เจ้าช็อตเล่นแล้ว เทพปีศาจอย่างชั้นก็คงจะให้ยืมได้แค่ ดิน น้ำ ลม ไฟพวกพลังงานที่อยู่บนพื้นน่ะนะ.....แล้วก็พลังความตรงกันข้ามกับนาย ถ้านายยังซึนเดเระขั้นทวดอยู่แบบนี้อีกล่ะก็ ชั้นสับนายเป็นชิ้นๆแล้วเอาไปให้หมาจิ้งจอกชั้นกินซะ เข้าใจ๋?
คร้าบๆๆ ข้าน้อยเสี่ยงริกคนนี้รับบัญชาครับ ขออนุญาตนะคร้าบบบบ
ท่านไลน์นิ่ง:อย่าใช้พลังเจ้าบุปผานั้นมากไปละ คราวที่แล้วเจ้าก็เกือบจะไหม้เกรียมอร่อยเหาะแล้วนี่ ไว้ควบคุมได้ก่อนจึงจะใช้ได้อย่างเต็มที่�
เฮ้อออออออออ....พวกท่านทั้ง 2 นี่ยิ่งกว่าแม่ผมอีกนะเนี่ยย
หลังจากคุยไร้สาระ(?)กับเทพทรงพลังทั้ง 2 เสร็จแล้ว ผมก็ชี้ดาบสีดำ(ปีศาจ)และสีเงิน(เทพ)ไปด้านหน้าของผม
เหล่าลูกน้องอะนีมอยอยู่ตรงนั้น
"อยากจะเกรียมเป็นกลุ่มก็ไม่บอก พี่จะจัดปาร์ตี้ฉลองหนวดแมงกระพรุนให้"
ตูมมมมมมมมมม!!! ตามด้วยลูกระเบิดจากปลายดาบทั้ง 2 ข้าง
ตูม
ตูม
ตุมมมมม!!!!
ท้องฟ้าสว่างวาบบบ!!! ประกายไฟสีทองและสีดำผสมปนเปกระยิบระยับ ร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้ายามสนธยา พาดยาวข้ามนภาเหมือนกับสายรุ้ง
เหลือเพียงขี้เถ้าของเหล่าอสุราที่ค่อยๆโปรยปรายไปทั่วอาณาบริเวณ
ทีนี้ก็เหลือเพียงแค่
....
...
..
..
.
"อะนีมอย ชั้นมารับเธอไปนรกแล้วนะ"
ตอนนี้ผมเพิ่งจะมาสงสัย ว่าสรุปที่ๆผมกับอาเธอร์อยู่มันคือที่ไหนกันแน่?
"ที่นี่ที่ไหน?"ผมถามอาเธอร์ถามแต่เสียงนะ แต่หน้าไม่หันไป
"ถามได้ก็ห้องเก็บของไง" อาเธอร์ยังคงตอบกลับมากวนๆแบบเดิม "เพิ่งเคยมาครั้งแรกจะให้ไปตรัสรู้เร็วขนาดนั้นก็อัจฉริยะเกิ๊น"
"เออ ห้องเก็บของบ้านเมิงใหญ่ขนาดนี้ไง๊ล่ะ" เดี๋ยวกระผม ริกเบนเนอร์จะสาธยาย สิ่งที่เรียกว่า ห้องเก็บของให้ฟังนะครับ
.....พื้นที่พวกผมกำลังนอนๆเหยียบมีความแข็งไม่เบา อากาศที่นี้ดีชะมัด เราน่าจะอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลมากๆของมากที่สุด ทำให้ผมนึกถึง แกรนด์แคนยอน(Grand Canyon)�สิ่งมหัศจรรย์ตามภูมิศาสตร์ของโลกมนุษย์ มันตั้งอยู่ใน สหรัฐอเมริกา ที่มลรัฐอะริโซนา เขาบอกกันว่า
สหรัฐอเมริกาเปิดเผย "ช่วง ค.ศ.1997-2000 เกิดฟ้าผ่าที่แกรนด์ แคนยอน นับได้ 104,294 ครั้ง หรือเฉลี่ย 26,073 ครั้งต่อปี"
แหม แต่ไม่รู้เป็นอะไรนะหรือผมจะเพี้ยนหรือเปล่า? แต่ผมกลับชอบคำว่า "ฟ้าผ่าเปรี้ยงๆติดต่อกันหลายๆครั้งจัง"สงสัยผมจะมีเพื่อนซี้เป็นสายฟ้าซะแล้วล่ะมั้ง 55
ก็ ห้องเก็บของนั้นก็ประมาณ แกรนด์แคนยอนนั้นแหละ ไม่รู้จะกว้างไปไหน
....แต่ที่น่าหนักใจที่สุด คือ พวกเรากำลังมาหาอะไรกันอยู่เนี่ย?
ผมเหล่ตามองอาเธอร์ มันกำลังงุนอยู่กับแผนที่ผืนเก่าที่เราเก็บได้จากสุสานนั้น แล้วผมก็เพิ่งจะมาสังเกตว่า หมู่เมฆกำลังหนาและก็ครึ้มซะด้วย มันลอยตัวเหนือศีรษะของพวกเรา
"เฮ้ เธอร์ ชั้นไม่รู้หรอกนะว่า พวกเรากำลังหาอะไร?หรือว่าชั้นจะใจเด้นแรงไหมเวลาอยู่กับแก?แต่ว่าไอ้ของพรรค์นั้นน่ะ เก็บไว้ตอบหลังซัดเจ้านั้นให้น่วมจะดีกว่าไหม?"ว่าแล้วผมก็ดีดนิ้วดัง เปาะ! ดาบคาตานะ สีดำเล่มและสีเงินประกายอีกเล่ม ปรากฏในมือของผม ที่ฝักของดาบซ่อนปืนเก็บเสียงเอาไว้ด้วยทั้ง 2 ดาบ
"สัญชาตญาณชั้นมันบอกว่า เรากำลังจะเจอศึกหนักนิดหน่อย"พูดไม่พอ ผมยิงปืนประกายสีแดงไป 2 นัด ใส่ไอ้เจ้าตัวที่ดูเหมือนกับ พายุที่ก่อตัวเปนเฮอร์ริเคนขนาดจิ๋วๆ แต่หลายตัว เหมือนแมงกระพรุนเลยแฮะ!!
กระสุนปลิวว่อนไปในพายุอย่างไร้ค่า ผมสถบออกมาเบาๆ
"มาจนได้สินะ พวกอะนีมอยน่ะ(เทพเจ้าแห่งสายลม)แต่พวกเขาเฮ้....เทวทูตหรอ?"ความสับสนเรื่องรูปร่างของอาเธอร์ชักจะเพี้ยนหนักขึ้นเรื่อยๆนะ
"เทวทูตอะไร๊?แหกตาซะ..มันเหมือนกับ... เอ้าเห้ย!เมื่อกี้ยังเป็นหนวดแมงกระพรุนอยู่เลยนิ"ตอนนี้ผมสงสัยแล้วว่า สรุปมันรูปร่างยังไงกันแน่ หรือสมองผมกับอาเธอร์จะมีปัญหา
"ระวังเงาของตัวเองไว้ให้ดี!!" จู่ๆคำเตือนของอาจารย์กลีสันก็ผุดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
"ดูเงาเอาไว้อาเธอร์"ว่าแล้วผมก็สั่งมันก่อนจะเผชิญหน้า สิ่งไร้ตัวตน ที่พัดโหมกระหน่ำเข้ามาเรื่อยๆอย่างๆไม่มีทางจะลดละ
แล้วระหว่างที่ผมกำลังอัญเชิญจิตแห่งเทพประจำตระกูลผม
คมเขี้ยวของสายลมก็บาดผม ที่ต้นขา ต้นแขน เส้นเอ็นที่ข้อพับขา แล้ว นิ้วมือ!
ฉึก ฉึก ฉึก ฉึก ฉึก!!!
นี่มันกะจะเล่นตัดกำลังตั้งแต่แรกแล้วใช่ไหม? ผมล้มลงไปทั้งที่ยังอยู่ในท่ายืน
เลือดสีแดงอาบไล้ไปทั่วเรือนร่างของผม แสบ!นักนะ
"หึ ไม่ค่อยได้เลือดออกเลยนะช่วงนี้"ผมแสยะยิ้มอย่างบ้าคลั่ง
"เฮ้ยๆริก รอยยิ้มแกโรคจิตมากวะ"อาเธอร์หันมามองอย่างเป็นห่วงนิดๆ
"เอาน่า อาเธอร์ชั้นไม่ได้เล่นมานานแล้วนะ"ผมพูดพลางเลียริมฝีปาก"หาอะไรสนุกๆทำดีกว่า"
.......................................................................................................................................
อาเธอร์:
เป็นห่วงมันชะมัด กลิ่นอายของปีศาจแห่ง "บุปผาที่เฉิดฉายในกระจกเงา"ของเจ้าริกก็ดูจะแรงขึ้นเรื่อยๆ
มันจะสามารถควบคุม ปีศาจตนนั้นได้อีกหรือเปล่าฟระ?เฮ้อ หนักใจ
ผมเลยเรียก ดาบสีขาวบริสุทธิ์ และโซ่คล้องปืนสีเงินออกมา การโจมตีระยะไกลไม่ได้ผลแน่ๆถ้าลมจะแรงขนาดนี้
แล้วผมก็เพิ่งจะสังเกตเห็นว่า
..อะนีมอย หายตัวไปแล้ว???
.........เกิดความโกลาหลขึ้นไปอีก ในตอนนี้ริกกำลังฟาดฟันกับเหล่าอสุรกาย สมุนของอะนีมอย การที่เธอหายตัวไปนี่เป็นเรื่องที่ไม่รื่นรมที่สุดแล้วล่ะ
เราอ่านทางการต่อสู้ของเธอไม่ได้
เราไม่รู้จุดอ่อนของเธอ
แต่ถ้าเราสามารถเอาชนะเธอได้ล่ะก็.....ข้อมูลของคนร้ายก็จะได้มาอยู่ในกำมือ..หึหึ
คิดสิอาเธอร์ อาจารย์กลีสันพูดว่ายังไงบ้าง? เอ๊ะ!เมื่อกี้ริกก็เตือนเขานิ
"ระวังเงาของตัวเองไว้ให้ดี"ผมรีบดูเงาตัวเอง แต่...........
"ปัดโธ่เว้ยย ไม่มีแสงแบบนี้จะไปมองเห็นได้ยังไง?" แล้วคมมีดที่มองไม่เห้นที่ฟันเข้าที่ไหล่ขวาของผม
ฉึก! ฉึก! ต่อด้วยส่วนที่เป็นข้อพับ
"เมื่อมีแสงย่อมมีเงา" �อย่างแรกคือหาแสงสินะ นั้นไม่ใช่เรื่องยากก็ผมเป็นอัศวินแห่งมนตรานิเรื่องแสงน่ะ จิ๊บๆ (ลืมเรื่องบาดแผลไปซะสนิทเลย แต่ช่างมันเห๊อะ เรื่องแค่นี้ขี้ปะติ้วจะตาย)
ผมเอาดาบไปชี้ไปบนท้องฟ้า พึมพำงึมงำ คาถาสวดนิดหน่อย พายุที่ปั่นป่วนรอบด้านก็มลายหายไปสิ้น เผยแสงอาทิตย์ที่สาดส่องมาอย่างเจิดจรัส
"ได้เวลาเอาคืนแล้วเว้ยยย"
...................................................................................................................................
ริก:
เจ้าเธอร์ฉลาดชะมัด ทีนี้ก้จะได้เห็นเงาของตัวเองแล้ว
เอ๊ะ!!นั้น ข้างหลังไอ้เธอร์เงาของผู้หญิง.......อืมเงาของหนวดแมงกระพรุน.........เทวทูตดิ
โฮ้ย!!ช่างแม่งเรื่องรูปร่างแล้ว แค่่ฟันมันให้ขาดก็จบแล้วใช่ไหม?
ผมรีบตรงดิ่งไปหาอาเธอร์ฟันเงาที่พื้น
ฉัวะ! เหมือนจะได้ผลนะ แต่ร่างนั้นก็กลับสลาบหายไปอีก
"เออๆ อยากจะเล่นก็จะจัดให้ แบบไม่อั้นเลยอ่ะ"ผมพูดพลางเปิดมิติระหว่างเทพกับปีศาจออกมา โลก 2 โลกที่ไม่ค่อยจะถูกกันเท่าไหร่
"วันนี้จะขอใช้พลังของท่านหน่อยนะ ท่านไลน์นิ่ง(สายฟ้า)และท่านบุปผาที่เฉิดฉายในกระจกเงา...เอิ่ม.........= =""ไม่ทราบว่าเมื่อไหร่จะเปลี่ยนชื่อซะที มันอ่านยาวยืดยาดด"แล้วผมก็เพิ่งนึกได้ว่า หาเรื่องกับปีศาจซะแล้ว เฮ้ออ....
ปวดจิต
ท่านไลน์นิ่ง:ไม่ต้องขอ ชั้นก็ให้นายยืมพลังอยู่แล้วจนกว่าจะบรรลุนิติภาวะ นายจะใช้ได้อย่างจำกัดเท่านั้นนะ แล้วก็ พลังแห่งท้องนภาน่ะ อันตรายรอไว้ 18 ปีก่อนแล้วกัน
ท่านบุปผาที่เฉิดฉายในกระจกเงา:เฮ้อ ไลน์นิ่งก็มีสายฟ้าให้เจ้าช็อตเล่นแล้ว เทพปีศาจอย่างชั้นก็คงจะให้ยืมได้แค่ ดิน น้ำ ลม ไฟพวกพลังงานที่อยู่บนพื้นน่ะนะ.....แล้วก็พลังความตรงกันข้ามกับนาย ถ้านายยังซึนเดเระขั้นทวดอยู่แบบนี้อีกล่ะก็ ชั้นสับนายเป็นชิ้นๆแล้วเอาไปให้หมาจิ้งจอกชั้นกินซะ เข้าใจ๋?
คร้าบๆๆ ข้าน้อยเสี่ยงริกคนนี้รับบัญชาครับ ขออนุญาตนะคร้าบบบบ
ท่านไลน์นิ่ง:อย่าใช้พลังเจ้าบุปผานั้นมากไปละ คราวที่แล้วเจ้าก็เกือบจะไหม้เกรียมอร่อยเหาะแล้วนี่ ไว้ควบคุมได้ก่อนจึงจะใช้ได้อย่างเต็มที่�
เฮ้อออออออออ....พวกท่านทั้ง 2 นี่ยิ่งกว่าแม่ผมอีกนะเนี่ยย
หลังจากคุยไร้สาระ(?)กับเทพทรงพลังทั้ง 2 เสร็จแล้ว ผมก็ชี้ดาบสีดำ(ปีศาจ)และสีเงิน(เทพ)ไปด้านหน้าของผม
เหล่าลูกน้องอะนีมอยอยู่ตรงนั้น
"อยากจะเกรียมเป็นกลุ่มก็ไม่บอก พี่จะจัดปาร์ตี้ฉลองหนวดแมงกระพรุนให้"
ตูมมมมมมมมมม!!! ตามด้วยลูกระเบิดจากปลายดาบทั้ง 2 ข้าง
ตูม
ตูม
ตุมมมมม!!!!
ท้องฟ้าสว่างวาบบบ!!! ประกายไฟสีทองและสีดำผสมปนเปกระยิบระยับ ร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้ายามสนธยา พาดยาวข้ามนภาเหมือนกับสายรุ้ง
เหลือเพียงขี้เถ้าของเหล่าอสุราที่ค่อยๆโปรยปรายไปทั่วอาณาบริเวณ
ทีนี้ก็เหลือเพียงแค่
....
...
..
..
.
"อะนีมอย ชั้นมารับเธอไปนรกแล้วนะ"
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น