bombombom
@bombombom
ตอนนี้ยังไม่มีคำขอเป็นเพื่อน
มีเพื่อนๆ เล่น My.iD อีกเยอะเลย ลองไปดูกันเถอะ
dummyaliasname
@dummyusername
dummymsg
ตอนนี้ยังไม่มีข้อความลับ
ตอนนี้ยังไม่มีการแจ้งเตือน
เล่าเรื่องราวของคุณหรือสิ่งที่สนใจผ่านการตั้งกระทู้ ถ้ามีเพื่อนๆ มาตอบจะได้รับการแจ้งเตือนด้วยนะ
เพียงแค่ 3 ขั้นตอนง่ายๆ เพื่อรับแจ้งเตือนบทความมาใหม่ในหมวดที่คุณสนใจ
ตอนนี้ได้ติดตามบทความเรียบร้อย
เมื่อบทความที่ติดตามอัปเดตจะแจ้งเตือนทันที ขอให้สนุกกับการอ่านบทความนะครับ
คุณยังไม่ได้ตั้งรหัสผ่านในบัญชีของคุณ
ตั้งรหัสผ่านตอนนี้เพื่อให้สามารถเข้าสู่ระบบด้วยรหัสผ่านได้
เขียน
สมัคร
บอร์ด
App
วิธีใช้
15
隣に立っている人。。。
(คนที่ยืนอยู่ข้างๆ...)
ติ๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เสียงนาฬิกาปลุกที่น่ารำคาญที่สุดในโลกของไอโฟนที่ตั้งไว้ประจำทำให้ฉันกระเด้งตัวตื่นขึ้นมาโดยอัตโนมัติ...
แต่กลับลุกไม่ขึ้นเพราะมีอะไรบางอย่างขวางทางอยู่ -O-;;; เอ๊ะ อะไรกันล่ะ ฉันอยู่คนเดียวนี่นา แล้วจะมีอะไรมาขวางได้ไงอ่ะ TOT หรือว่า...
“...งึมงำ...งึมงำ”
“กรี๊ดดดดดดดด”
ขาคน!! ขาคนพาดอยู่บนตัวฉัน!
อ๊ะ จริงสิ...ฉันไม่ได้นอนอยู่ในห้องตัวเองนี่นา -O-;;;
“เฮ้ย! อะไร!? อะไร!?!”
ฮายาโตะสะดุ้งพรวดขึ้นมานั่งงัวเงียก่อนจะโวยวายใส่ฉันด้วยน้ำเสียงง่วงงุน “ยัยบ๊อง โวยวายอะไรแต่เช้าน่ะ ตกใจหมด -3-”
“กะ...ก็นายนั่นแหละ เอาขามาพาดตัวฉันทำไม ตกใจหมดเลยนึกว่าผีอำ!”
นายเหยี่ยวกะพริบตาปริบๆ ก่อนจะก้มมองขาตัวเองแล้วค่อยยกมันออกจากตัวฉันแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเอื่อยๆ “ก็แหม...”
“แหมอะไรกันล่ะ -_-^”
“ตอนฝันอยู่ก็ว่าทำไมเตียงมันกว้างดีจัง เลยกลิ้งซะเต็มที่ไปหน่อยอ่ะ -3-”
“เอาซะฉันเกือบตายเลยนะ”
“เว่อร์ชะมัด -3-” ฮายาโตะเกาหัวสีทองของเขาแกรกๆ ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนต่อ “ฉันยังง่วงอยู่เลยอ่ะ เธอไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนแล้วกัน”
“...อือ”
ฉันรับคำก่อนจะลุกไปอาบน้ำอย่างไว เพราะพอเห็นหัวฟูๆ ของฮายาโตะแล้วนึกขึ้นได้ว่าสภาพตอนตื่นนอนของตัวเองก็คงไม่ต่างกัน T_T ให้ตายเถอะ...รู้งี้รีบชิ่งไปเข้าห้องน้ำทันทีที่ตื่นนอนดีกว่า
พออาบน้ำเสร็จฉันก็แต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนจะก้าวออกมาจากห้องน้ำแล้วก็ปะทะเข้ากับกลิ่นหอมๆ ของอะไรบางอย่างที่อบอวลไปทั่วห้อง O_O แถมฟูตงกับโซฟาเบดก็ถูกเก็บเข้าที่เรียบร้อยแล้วอีกต่างหาก
แย่ชะมัด ดันรีบไปอาบน้ำจนลืมเก็บที่นอนจนได้ T_T แบบนี้ก็เหมือนเด็กไม่เรียบร้อยไม่เก็บที่นอนน่ะสิ TT_TT น่าอายชะมัด...
“อ้าว เสร็จแล้วเหรอ ข้าวเช้าใกล้เสร็จพอดีเลย รอก่อนนะ”
ฮายาโตะพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริงอยู่ตรงหน้าเตา... กลิ่นหอมนี่คือกลิ่นของอาหารเช้านี่เองสินะ
ฉันเดินไปนั่งที่โซฟาเบดตัวเดิมพลางมองดูแผ่นหลังของฮายาโตะที่กำลังทำอาหารด้วยท่าทางมีความสุขเหลือเกิน ถึงขั้นทำไปฮัมเพลงไปด้วย ทำเอาคนนั่งดูเผลอยิ้มตามไปด้วยเลยเนี่ย
“ข้าวเช้าฉันชอบแบบวาโชขุ* ไม่เป็นไรใช่มั้ย?”
(NOTE* 和食อาหารแบบญี่ปุ่น)
“อื้อ ขอบคุณมากนะ”
“ใกล้แล้วล่ะ เธอช่วยเคลียร์โต๊ะให้หน่อยดิ >_< กินตรงโซฟานั่นแหละ”
เพราะห้องแคบมากจึงไม่มีที่จะวางโต๊ะกินข้าวแบบในห้องโคเฮซัง ก็เลยกินบนโต๊ะเล็กๆ นี่เลยสินะ เขาคงจะทำการบ้านและอ่านหนังสือที่นี่ด้วยแหละ เพราะนอกจากตัวนี้ก็ไม่มีโต๊ะตัวอื่นแล้ว
ฉันจัดการเก็บของเคลียร์ที่รออาหารที่กำลังจะมาวาง จากนั้นไม่นานฮายาโตะก็เดินมาพร้อมกับถาดเบ้อเริ่มในมือ
“เรียบร้อยยย~ มีข้าวญี่ปุ่นหุงใหม่ร้อนๆ กับปลาแซลมอนย่างซีอิ๊ว ไข่หวาน ถั่วแขกคลุกงา แล้วก็ซุปมิโสะ! ถ้าไม่อิ่มเติมข้าวได้นะ มีเยอะ >O<
ฉันมองเหล่าอาหารจานเล็กจานน้อยที่จัดเรียงอย่างสวยงามดูตั้งใจทำสุดๆ ด้วยความทึ่ง ก่อนจะหันไปมองหน้าฮายาโตะที่ยืนยิ้มยิงฟันอยู่ตรงหน้าผลงานของตัวเองอย่างภาคภูมิใจ
“นี่นายทำทั้งหมดนี่ในเวลานิดเดียวได้ยังไงกัน”
“ของงี้มันขึ้นอยู่กับประสบการณ์~” ฮายาโตะว่าก่อนจะยื่นตะเกียบมาให้ฉัน “เพราะฉันอยู่คนเดียวมานานเลยมีโอกาสได้ฝึกเยอะ แล้วตอนอยู่บ้านก็ช่วยแม่ทำกับข้าวอยู่บ่อยๆ ด้วย”
“สุดยอดไปเลย ฉันยังไม่เคยเข้าครัวจริงๆ จังๆ มาก่อนเลยในชีวิต”
“ก็ไม่แปลกใจหรอก ดูมือเธอสิ เนียนนุ่มซะขนาดนั้น” ฮายาโตะว่าพลางดึงมือฉันไปจับๆ บีบๆ เล่น -O-;;; ฮะ...เฮ้... “เออนุ่มจริงๆ ด้วยแฮะ ยังกับโมจิแน่ะ O_O”
“ปะ...ปล่อยได้แล้ว -3- อย่ามาว่ามือคนอื่นเค้าเป็นโมจินะ -3-///”
“ฮ่าๆ ดูมือฉันสิ ยังกะกระดาษทรายแน่ะ >O<”
นอกจากจะไม่ปล่อยแล้วยังเอามือตัวเองมาลูบๆ ถูๆ อีกต่างหาก T////T ให้ตายเถอะ ถ้าเป็นคนอื่นจะด่าว่าหลอกแต๊ะอั๋งแล้วนะ แต่พอเป็นหมอนี่เลยไม่รู้สึกว่าถูกลวนลามอะไร... เพียงแต่หัวใจมันเต้นแรงขึ้นมาเท่านั้น...
ให้ตายเถอะ...ไม่แฟร์เลย
“เอาล่ะ กินกันเถอะ เดี๋ยวสาย >O<”
ในที่สุดเมื่อท้องเริ่มร้องฮายาโตะก็ยอมปล่อยมือฉันจนได้ ฉันสูดลมหายใจเข้าลึกสุดปอดก่อนจะประกบมือเข้าด้วยกันแล้วพูดขึ้นพร้อมๆ กับเขาว่า “อิทาดาคิมัส!”
หลังจากนั้นเราสองคนก็เงียบไปครู่หนึ่งตอนเริ่มต้นกิน ทั้งที่เป็นอาหารที่หน้าตาดูธรรมดาไม่มีอะไร แต่รสชาติกลับชวนให้รู้สึกเหมือนกำลังกินข้าวอยู่บ้านกับครอบครัว ที่เขาบอกว่าอาหารรสมือแม่มันเป็นอย่างนี้เองเหรอ... ที่จริงฉันก็ไม่เคยกินอาหารรสมือแม่หรอก เพราะว่าแม่ฉันไม่เคยทำอาหารเองเลยสักครั้ง แต่...น่าแปลกที่รู้สึกว่ามันน่าจะเป็นอย่างนี้นี่แหละ...
“อร่อยมั้ย >O<”
กินไปสามคำฮายาโตะก็ถามขึ้นมาด้วยนัยน์ตาเป็นประกาย
“อื้อ อร่อย!”
“แหงล่ะ ฝีมือฮายาโตะซามะซะอย่าง >O<”
“หลงตัวเอง” ฉันแขวะก่อนจะคีบถั่วแขกคลุกงาเข้าปาก อร่อยอย่างที่ไม่เคยกินมาก่อนจริงๆ >_<
“แล้วปกติตอนเช้าเธอกินอะไรน่ะ เผ่ือพรุ่งนี้ฉันจะได้ทำให้”
“ปกติ...ไม่ค่อยได้กินหรอก อย่างมากก็ซื้อขนมปังหรือไม่ก็โอนิกิริที่คอนบินีกิน”
“...นี่เธอใช้ชีวิตอยู่มายังไงกัน”
“ชีวิตแบบคนปกติที่ไม่ค่อยมีเวลาน่ะสิ -3-”
“อาหารเช้าน่ะสำคัญรู้มั้ย!? สำหรับการเริ่มต้นวันใหม่น่ะ! ต้องกินให้ดีๆ กินให้อิ่ม!”
“...ค่า ค่า โอก้าซัง (คุณแม่) -O-”
“เรียกว่าโอนี่ซัง (คุณพี่ชาย) จะดูดีกว่านะ”
“นี่นายมีรสนิยมซิสค่อนจริงๆ ใช่มะ =_=;;;”
“ยัยบ้า =_=^^^ จะหาเรื่องคนทำกับข้าวให้กินหรือไง เดี๋ยวก็ไม่ให้กินหรอก”
“อย่ามายุ่งกับชามข้าวของคนอื่นเค้านะ -3-” ฉันยืดมือหนีฮายาโตะที่ทำท่าจะเข้ามาแย่งชามข้าวของฉันไปจากมือ จากนั้นก็หลุดหัวเราะออกมาพร้อมกันเหมือนเด็กบ้าสองคน
“ฮ่าๆๆๆ รีบกินเข้า เดี๋ยวก็ได้ไปเรียนสายจริงๆ หรอก”
“ค่า ค่า~”
แต่ว่ามีความสุขจัง...รู้สึกสนุกกับการได้ตื่นเช้ามากินข้าวเช้าอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเลย
นี่ก็เป็นเวทมนตร์ของนากามุระ ฮายาโตะเหมือนกันสินะ
สิบห้านาทีต่อมา
“เราไปทางเดียวกันสินะ แต่ฉันลงก่อน” ฮายาโตะพูดหลังจากเดินมาถึงหน้าสถานีนิชิคะไซแล้ว “ดีจังเลยนะ >O<”
“ไม่เห็นจะดีเลย” ฉันตอบกลับไป...แบบไม่ตรงกับที่ใจคิดเท่าไหร่ แต่ให้ยอมรับว่าดีใจมันก็เขินนี่ -_-///
“ยัยเด็กนี่ ไม่น่ารักเลยสักนิด ทำตัวแบบนี้เดี๋ยวก็ไม่มีแฟนหรอก”
“เรื่องของฉันน่า -3-”
ฉันตะแง้วใส่ฮายาโตะที่หัวเราะเหมือนสนุกที่ได้แกล้ง จากนั้นเราก็แตะบัตรเดินเข้าไปในสถานีด้วยกัน...เป็นความรู้สึกที่แปลกใหม่มาก อยู่ดีๆ ก็ได้เดินไปโรงเรียนตอนเช้าพร้อมกับฮายาโตะอย่างนี้...ยังกับฝันไปแน่ะ...
“เย็นน้ีเธอมีไบท์ด้วยใช่มั้ย”
“ฮะ? อ๋อ...อื้อ! มี!”
“ฉันก็มี งั้นเดี๋ยวตอนเลิกงานแวะซุปเปอร์แถวบ้านฉันก่อนนะ ซื้อของสดไว้ทำกับข้าวก่อน”
“ขอโทษนะ...ฉันไปรบกวน...”
“ยัยต๊อง ถึงเธอไม่มาฉันก็ต้องออกไปซื้ออยู่แล้วเฟ้ย มีเธอมาด้วยก็ยิ่งดีจะได้ช่วยกันถือของ” ฮายาโตะพูดก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้ราวกับจะพูดความลับให้ฟัง -O- “อีกอย่างถ้าไปสองคนก็จะซื้อไข่ลดราคาได้สองแพ็กด้วย >O<”
“วิญญาณแม่บ้านโอซาก้าเข้าสิงอีกแล้วเหรอ =_=”
“แถมวันนี้ยังได้คะแนนสามเท่าอีกต่างหาก >_< ต้องซื้อเยอะๆ เอาให้คุ้ม~”
“เฮ้อ...”
ฉันถอนหายใจเสียงดังแบบจงใจ ก่อนจะยืนยิ้มมองดูฮายาโตะบ่นเรื่องการแย่งชิงไข่ลดราคากับพวกแม่บ้านคนอื่นๆ ที่ซุปเปอร์แถวบ้านไปเรื่อยๆ
และทั้งที่บนรถไฟคนแน่นเหมือนกับทุกวัน...กลับไม่รู้สึกอึดอัด เหนื่อย หรือรำคาญเลยสักนิด...
ตรงกันข้ามกลับรู้สึกสนุกกับการขึ้นรถไฟขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ถึงขั้นอยากให้โรงเรียนอยู่ไกลๆ สักชั่วโมงหรือสองชั่วโมงเลยด้วยซ้ำ
ฉันนี่ท่าจะบ้าไปแล้วจริงๆ นะ
[อาโอยามะ อิจโจเมะ... อาโอยามะ อิจโจเมะ...]
“อ๊ะ ถึงสถานีฉันแล้ว” ฮายาโตะที่บ่นมาตลอดทางสะดุ้งโหยงพลางรีบจัดกระเป๋าเตรียมพร้อมวิ่งลงจากรถไฟเต็มที่ “ตั้งใจเรียนนะยัยหนูน้อย อย่าไปทำงานสายด้วย!”
“รู้แล้วล่ะน่า~ นายก็ด้วยล่ะ!”
“อย่าลืมกินข้าวกล่องด้วยนะ!”
“ค่า ค่า โอก้าซังงง~”
“บอกแล้วไงให้เรียกโอนี่ซัง!” ฮายาโตะแว้ดกลับมาก่อนจะโดดลงจากรถไฟทันทีที่ประตูเปิด “ไปล่ะนะ!”
“แล้วเจอกัน!”
ฉันโบกมือตอบกลับไป จากนั้นประตูก็ปิดลง...
รถไฟกลับกลายเป็นแน่นจนทรมานขึ้นมาทันทีที่ฮายาโตะไม่อยู่ ฉันรู้สึกเหมือนเป็นปลาซาร์ดีนตัวหนึ่งที่ถูกอัดอยู่ในกระป๋องและจมอยู่ในซอสมะเขือเทศ -O-;; ไม่สิ มันก็ไม่ได้แน่นต่างจากเมื่อกี้สักเท่าไหร่หรอก
แค่ไม่สนุกแล้ว...ก็แค่นั้นแหละ
10.02PM
“โอสึคาเระะะะ!”
“โอสึคาเระซามะ!”
ฉัน และเด็กม.ปลายที่ทำไบท์ด้วยกันวันนี้ทุกคนพูดประโยคซ้ำไปซ้ำมานับสิบครั้งเหมือนทุกที จากนั้นพอทักทายครบทุกคนแล้วก็ได้ฤกษ์เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมตัวกลับบ้าน นี่เป็นกิจวัตรที่ทำแทบทุกวันจนกลายเป็นชีวิตประจำวันไปแล้ว
ถ้าเพื่อนๆ ที่ไทยรู้ว่าฉันมาทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านเหล้าญี่ปุ่นอย่างนี้คงช็อกตาตั้งกันแน่ๆ เพราะทุกคนมักจะมองฉันเป็นคุณหนูสูงศักดิ์ที่ทำอะไรไม่เป็นสักอย่างอยู่เสมอ หารู้ไม่ว่าจริงๆ แล้วฉันคนนี้น่ะทำได้ทุกอย่าง! #หลงตัวเอง
แต่จะว่าไป...จริงๆ แล้ววันน้ีมีบางอย่างที่ไม่เหมือนกับทุกวันอยู่นี่นะ...
“คาเอเดะ!” ฮายาโตะโผล่หน้าออกมาจากห้องครัวแล้วเรียกฉันไว้ก่อนที่ฉันจะทันได้เข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า และหัวใจฉันก็เต้นผิดจังหวะไปทันทีที่เห็นหน้าเขา -O-//// “เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จรอก่อนนะ ฉันใกล้เลิกแล้ว เดี๋ยวกลับพร้อมกัน”
“...อะ...อื้อ -O-///”
“โอเค รอแป๊บนึงนะ!”
จบคำเขาก็ผลุบกลับเข้าไปในห้องครัวต่อ...แต่ฉันนี่ยังใจเต้นตึกตักไม่เลิกรา ก็ฉากแบบนี้น่ะ เหมือนในการ์ตูนเลยไม่ใช่หรือไง... ที่พระเอกบอกให้นางเอกรอก่อนจะได้กลับพร้อมกัน...อะไรอย่างนี้น่ะ
บ้าจริง หยุดเพ้อเจ้อดีกว่าน่าเมเปิ้ล ฝ่ายนั้นเขาก็ไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย -3- ก็แค่...สงสารเลยให้ที่พักระหว่างหนีสตอล์กเกอร์เท่านั้นเอง
อ้อ พอเกิดเรื่องนั้น ฮายาโตะก็ไปเจรจากับเทนโจขอให้ฉันย้ายไปทำในครัวแทนช่วงนี้ จะได้ไม่ต้องออกไปรับลูกค้าข้างหน้า เผื่อหมอนั่นกลับมารังควานอีก
ใจดีสุดๆ ไปเลยใช่มั้ยล่ะ หมอนั่นน่ะ... คิดเรื่องของคนอื่นอย่างจริงจังยังกับเป็นเรื่องของตัวเองตลอดเลย
“โทษทีที่ให้รอ! ไปกันเลยมะ”
“...อะ...อื้อ!”
ฉันพยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุด ขณะที่ฮายาโตะนั้น...เคยร่าเริงยังไงก็ยังร่าเริงเหมือนเดิม
“แถวบ้านฉันมีซุปเปอร์อยู่สองแห่ง ที่นึงถูกมากๆๆๆ แต่ของคุณภาพไม่ค่อยดี อีกที่นึงของดีแต่แพง เพราะงั้นต้องรอซื้อตอนวันลดราคาหรือวันที่ได้แต้มสามเท่าอย่างวันนี้ >O<”
“แล้วเย็นนี้นายจะทำอะไรกินอ่ะ”
“นั่นสิ อะไรดีน้าาา~ เธออยากกินอะไรล่ะ?”
“เอาเมนูที่นายมั่นใจที่สุด”
“ฉันก็มั่นใจทุกเมนูนั่นแหละ”
“...ไม่น่าพูดเลยจริงๆ -_-^”
“แต่เห็นว่าเป็นดินเนอร์มื้อแรกของเธอที่ห้องน้ี งั้นจัดเต็มไปเลยแล้วกัน” ฮายาโตะว่าพลางหยิบสมุดเล่มเล็กๆ ที่ดูเหมือนผ่านการใช้งานมานานหลายปีออกมา “เอ้า เปิดไปที่หน้าเจ็ดที”
“หน้าเจ็ด...?” ฉันทวนคำก่อนจะเปิดไปที่หน้าเจ็ดตามที่เขาบอก...แล้วก็เจอกับ... “จิราชิซูชิ...?”
“เยสเซอร์ :) เคยกินปะ”
“ไม่เคยนะ...”
“ดีเลย งั้นวันนี้จะจัดเต็มให้~” ฮายาโตะตบมือก่อนจะหันมาสั่งฉัน “หน้าที่ของเธอคือ คอยบอกฉันว่าเหลืออะไรบ้างที่ยังไม่ได้ซื้อ เคนะ?”
“อื้อ O_O”
“เอาล่ะ อันดับแรกเราก็ต้องไปแย่งชิงไข่มาให้ได้ก่อน นี่จะเริ่มชั่วโมงเซลล์แล้ว ดังนั้นเราต้องรีบแล้วล่ะ”
“อะ...อื้อ!”
ไม่เคยคิดมาก่อนว่าในชีวิตนี้จะต้องวิ่งไปซุปเปอร์เพื่อซื้อไข่ราคาถูก...แถมยังวิ่งไปพร้อมๆ กับฮายาโตะอีกต่างหาก
“ไปเร็ว!”
“เร็วอยู่เนี่ย!”
“ชักช้าไม่ไหวเลย” ฮายาโตะหัวเราะเยาะ ก่อนจะยิ้มเมื่อเห็นสีหน้าเคียดแค้นของฉัน “ล้อเล่นน่า ระวังล้มล่ะ”
“รู้แล้วล่ะน่า!”
“เอ้า จับมือฉันไว้สิ”
“...!?!”
“เดี๋ยวจะล้มไปซะก่อน วิ่งซะหน้าตั้งขนาดนั้น”
“...ถ้ากลัวล้มก็อย่าพาวิ่งแต่แรกสิ”
“ก็เดี๋ยวไปไม่ทันไข่ลดราคานี่นา”
“อีตาแม่บ้านโอซาก้าเอ๊ย...”
หนึ่งชั่วโมงต่อมา
“เอาล่ะ! จะเริ่มลงมือทำล่ะนะ!” ฮายาโตะพูดหลังจากเอาวัตถุดิบจำนวนมากที่ซื้อมาจากซุปเปอร์เมื่อครู่มาวางเรียงกันไว้บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว “เธอไปนั่งทำการบ้านรอก็ได้ เดี๋ยวเสร็จแล้วจะเรียก”
“ไม่เอาสิ ให้ฉันช่วยอะไรบ้าง”
“ใครเขาให้แขกมาช่วยในครัวกันล่ะ”
“ฉันนี่แหละ”
“เธอเป็นแขก -3-”
“ถือซะว่าเป็นค่าเช่าบ้านแล้วกัน -3- เมื่อกี้นายก็ไม่ยอมให้ฉันจ่ายค่ากับข้าวด้วย”
“ก็เป็นแขกจะให้จ่ายให้ได้ไงเล่า”
“เพราะงั้นนายก็ต้องยอมให้ฉันช่วยงานในครัวสิ พบกันครึ่งทางไง! ฉันจะได้ฝึกทำอาหารไว้ด้วย เดี๋ยวทำงานที่ร้านไม่ได้”
ฮายาโตะนิ่งอึ้งไปกับเหตุผลของฉัน ก่อนจะถอนหายใจออกมายืดยาวไปถึงโอซาก้าอีกครั้ง... “ให้ตายเถอะ เถียงกับเธอแล้วเหนื่อยจริงๆ =_=”
“งั้นก็เลิกเถียงซะสิ -3-”
“เออๆ ก็ได้ อยากช่วยก็ช่วย แล้วอย่ามาบ่นทีหลังนะ =_=”
“ไม่บ่นหรอกน่า ให้ทำอะไร”
“หุงข้าว เคยหุงมั้ย”
“จะยากอะไร ก็เอามาล้างๆ แล้วก็ใส่ไปในหม้อ เติมน้ำเข้าไปแล้วก็กดหุงไง”
“สำหรับสูตรฉันมันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก” ฮายาโตะโบกมือไปมาด้วยท่าทางเหมือนเป็นเชฟใหญ่ จากนั้นจึงหยิบถ้วยใบใหญ่ออกมาจากในตู้ “การหุงข้าวให้อร่อยมันมีเคล็ดลับนะ”
“เคล็ดลับอะไร -O-;; อย่าบอกนะว่าจะให้ฉันหุงในหม้อดินน่ะ ทำไม่เป็นนะ”
“นี่ไง จะสอนให้ ฟังสิ” ฮายาโตะพูดพลางเปิดกล่องใส่ข้าวสารแล้วตวงข้าวออกมาใส่ในถ้วยใบยักษ์ที่หยิบออกมาวางไว้บนโต๊ะเมื่อกี้ “เริ่มจากเทน้ำใส่ในถ้วยแล้วก็เทออกอย่างไวแบบน้ี...”
“อาฮะ”
“จากนั้นก็เอาน้ำใส่เข้าไปใหม่พอขลุกขลิก ใช้อุ้งมือนวดข้าวไปเรื่อยๆ แบบนี้ จนพอเป็นสีขาวขุ่นเหมือนนมสดก็เททิ้งแล้วเติมน้ำใหม่ นวดอีก แล้วก็เทน้ำทิ้งอีก ทำประมาณห้ารอบนะ”
“ห้ารอบเลยเหรอ จะล้างอะไรถี่ถ้วนขนาดนั้น -O-;;;; ให้ล้างทีละเม็ดเลยมั้ย”
“เออน่า พอทำครบห้าร้อบแล้วก็ใช้ตะแกรงกรองน้ำออก พักไว้สักครึ่งชั่วโมงแล้วค่อยเอาไปหุง”
“ทำไมต้องพักครึ่งชั่วโมงอะ”
“มันจะอร่อยกว่า”
“อร่อยกว่ายังไง ขอคำอธิบาย”
“จะไปรู้เหรอ ก็แม่ฉันสอนมายังงี้ -3-”
“อ้าว”
“เลิกถามมากแล้วไปทำงานสักทีเถอะน่า” ฮายาโตะว่าก่อนจะดันหลังฉันให้เดินไปที่อ่าง จากนั้นจึงหันไปเปิดตู้เย็นหยิบเอาไข่ไก่ออกมา...ไข่ไก่ลดราคาที่ไปไฝว้มาได้สองแพ็กอย่างยากลำบาก...
วันนี้ได้ทำเรื่องใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำตั้งหลายอย่างแน่ะ ว่าไปแล้วก็สนุกดีเหมือนกันนะ >_<
พอล้างและนวดข้าวไปเรื่อยๆ ก็ได้ยินเสียงฮัมเพลงดังมาจากปากฮายาโตะที่กำลังตะแคงกระทะไปมาอย่างคล่องแคล่วว่องไวจนไข่ไหลไปมากลายเป็นแผ่นกลมๆ บางๆ สวยงามมากยังกับโปร O_O จริงสิ...หมอนี่ก็เป็นโปรที่เคยทำงานในร้านข้าวห่อไข่ด้วยนี่นา...
“ลาลาลา~”
“นั่นเพลงอะไรน่ะ”
สุดท้ายพอยืนฟังเงียบๆ มาได้สักพักฉันก็ตัดสินใจถามออกไป ฮายาโตะหยุดฮัมเพลงก่อนจะตอบโดยที่มือยังไม่หยุดหั่นถั่วลันเตาบนเขียงด้วยสปีดเทพ -O-
“ชอบเหรอ เพลงของ FUNKY MONKEY BABYS น่ะ”
“เหรอ...”
“ไว้ทำข้าวเย็นเสร็จจะเปิดให้ฟังนะ แต่จริงๆ ฟังฉันร้องก็เหมือนได้ฟังเพลงจริงแล้วล่ะ >O<”
“ขี้โม้ที่สุด ไม่อยากฟังละ -3-”
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกน่า นี่~ ฟังสิๆ”
ฉัน (แกล้งทำเป็น) หันหน้าหนีฮายาโตะที่ (จงใจ) ร้องเพลงเสียงดังกว่าเดิมเหมือนจะแหกปากใส่กัน หมอนี่ทำแบบนี้บ่อยๆ คนข้างห้องไม่ลุกมาด่าเลยเหรอเนี่ย น่าทึ่งจริงๆ -3-
แต่ว่านะ...หมอนี่ก็ร้องเพราะจริงๆ นั่นแหละ แต่อย่าไปบอกนะ เดี๋ยวจะได้ใจ
“อ๊ะ กรองเรียบร้อยแล้วใช่มั้ย พักไว้สักหน่อยแล้วก็เอาไปหุงในหม้อได้เลย หุงแบบปกติที่เธอทำเป็นนั่นแหละ”
“อือฮึ”
“ตอนนี้อยากลองทำซุปมิโสะมั้ย”
“...ซุปมิโสะก็ทำเองเหรอ O_O”
“...อย่าบอกนะว่าปกติเธอซื้อแบบซองมาแกะใส่ถ้วยแล้วก็ใส่น้ำร้อน =O=”
“ก็ใช่น่ะสิ ใครจะไปนั่งทำซุปเองเล่า”
“ผิด ผิดที่สุด ผิดมากๆ” ฮายาโตะบ่นพึมพำงึมงำก่อนจะยกหม้อออกมาจากในตู้ “มิโสะนี่ทำง่ายมาก ฉันจะสอนให้ เธอก็ลองทำแล้วจำไว้นะ”
“...อะ...อือ -O-;”
“ก่อนอื่นก็ใส่น้ำซุปสต็อกลงไป หรือจะใส่ผงปลาแห้งสำเร็จรูปลงไปก็ได้ จากนั้นก็ตัดคอมบุใส่ลงไปนิดหน่อย เพราะฉันชอบ เธอก็กินซะด้วยล่ะ กินแล้วผมจะสวย”
“เอ๊ะ ใครบอกมา O_O”
“แม่ฉัน”
“ค่ะ -3-”
“เดี๋ยวถ้าเธอได้เจอแม่ฉันจะยิ่งทึ่ง แม่ทำอาหารได้ทุกชนิดบนโลกเลยนา อร่อยมากด้วย เพราะงั้นฉันถึงโตมาแข็งแรงและหล่อแบบนี้ไง >O<”
“หล่อและหลงตัวเองด้วยใช่มั้ย =_=”
“น้ำเดือดแล้ว! ทีนี้ก็ใส่ผักกับเต้าหู้ลงไป เอ้า ใส่สิ”
ฮายาโตะเมินคำด่าของฉันก่อนจะคะยั้นคะยอให้ฉันลงมือทำซุปมิโสะกับเขา ถ้าฉันทำเละขึ้นมาจะโดนจับโยนใส่ลงไปในหม้อซุปมั้ยอ่ะ U_U เกิดมาไม่เคยทำอาหารจริงจังขนาดนี้มาก่อนเลย...
แต่ไม่สิ ยังไม่ได้ลองจะรู้ได้ไง ฉันอาจจะมีความสามารถพิเศษแฝงอยู่ จริงๆ แล้วทำอาหารเก่งกว่าฮายาโตะซะอีก อะไรแบบนี้อ่ะ >O< #เพ้อเจ้อ
“แล้วไงต่อ”
“รอให้ผักนุ่มแล้วก็ลดไฟลงเหลือไฟอ่อนๆ เอามิโสะใส่ตะแกรงแล้วลงไปละลายในซุปทีละนิด เดี๋ยวให้เธอจัดการนะ ฉันจะไปหุงข้าวก่อน”
ฉันพยักหน้าพร้อมกับรับตะแกรงใส่มิโสะมาจากมือฮายาโตะ...ตอนนี้ชักรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นลูกมือของเชฟฮายาโตะขึ้นมาหน่อยๆ แล้ว ถึงฝีมือจะยังไม่ถึงขั้นก็เถอะนะ...
ด้วยเหตุผลลึกลับบางประการ ทำให้เราได้มามายืนทำกับข้าวข้างกันในครัวเล็กๆ ที่แทบไม่มีที่ยืน ทำให้ไหล่ชนกัน เดินชนกันไปมาอยู่ตลอดเวลาแบบนี้...
แต่ถึงจะแคบแต่กลับไม่รู้สึกอึดอัดหรือรำคาญเลยสักนิด ตรงกันข้าม...ทุกครั้งที่ชนกันยิ่งทำให้รู้สึกได้ชัดเจนขึ้นว่าที่ตรงนี้มีเขาอยู่ข้างๆ นะ...
ที่ข้างๆ มีฮายาโตะยืนอยู่นะ...
“ฮายาโตะ! ซุปมิโสะเสร็จแล้วล่ะ”
“โอ้!! เสร็จแล้วเหรอ ลองชิมดูสิ จะได้รู้ว่าอร่อยจริงไม่ติงนัง”
ฉันหยิบช้อนมาชิมก่อนจะกรี๊ดออกมาด้วยความตื่นเต้น “อร่อย! อร่อยจริงด้วยอ่ะ! อร่อยกว่าซุปมิโสะจากซองเยอะเลย”
“แหงสิ เทียบกันได้ไง” ฮายาโตะยืดจมูกอย่างภาคภูมิใจก่อนจะยื่นหน้ามา “ชิมมั่งสิ”
“เอ๊ะ?”
“ป้อนหน่อย”
“...!!” หัวใจฉันเด้งขึ้นฟ้าแล้วลงห้วยไปสามสิบรอบ...ขณะที่พยายามคุมไม่ให้อาการมันแสดงออกมาภายนอกอย่างสุดความสามารถ... ให้ตายเถอะหมอนี่ พูดจาไม่คิดเลยจริงๆ
“อื้อ! อร่อยจริงๆ!” ฮายาโตะชมเปาะหลังจากฉันตักให้ชิมไปแล้วหนึ่งช้อน จากนั้นจึงตบไหล่ฉันดังปั้กจนแทบทรุด TOT “เพราะงั้นวันไหนที่ฉันกลับดึกก็ฝากด้วยนะ!”
“...แล้วถ้าไม่อร่อยจะทำไง O_O”
“ไม่อร่อยก็กิน ก็เธออุตส่าห์ทำให้นี่นา ฮ่าๆ >O<” ฮายาโตะยิ้มร่า จากนั้นจึงขมวดคิ้วแล้วเสริมขึ้นมาว่า “แต่ถ้าถึงขั้นกินแล้วท้องเสียหรือป่วยหนักเข้าโรงบาลก็ไม่ไหวนะ”
“ระดับคุณหนูคาเอเดะ มีเหรอจะทำของที่กินแล้วท้องเสียออกมาน่ะ”
“โอ้!! ความมั่นใจระดับสิบ!”
ทำไมรู้สึกเหมือนโดนด่า =_=
“เอาล่ะ เหลือแค่รอข้าวสุกก็เรียบร้อย อีกนิดนึง... เธอไปเลือกหนังดูสิ”
“หนัง?”
“เวลากินข้าวฉันชอบนั่งดูหนังไปด้วยอ่ะ >O<”
“หนังแนวไหน”
“มีเต็มเลยเห็นมั้ย ฉันเช่ามาเมื่อวันก่อนยังไม่ได้ดูเลยสักเรื่อง อยู่ตรงหน้าทีวีอ่ะ”
ฉันเดินไปตรงหน้าทีวีก่อนจะก้มดูที่ชั้นใต้ทีวี มีดีวีดีวางอยู่ห้าแผ่นด้วยกัน และหนังเหล่านั้นก็คือ... “นี่นายดูหนังรักโรแมนติกของสาวน้อยด้วยเหรอ -O-;;”
“ดูสิ สนุกดีนี่นา >O<”
อืม...จะว่าผิดคาดก็ไม่ได้ผิดคาดอะไรขนาดนั้น คาแรกเตอร์ของหมอนี่ก็พอได้อยู่...ล่ะมั้ง
มีหนังอนิเมะอยู่ด้วยหนึ่งเรื่อง ลายเส้นดูเหงาๆ ยังไงไม่รู้บอกไม่ถูก เห็นแล้วชวนให้นึกถึงสตอรี่บอร์ดของฮายาโตะขึ้นมาเลย...
“ข้าวสุกแล้ว~ เธอจะมาดูวิธีทำจิราชิซูชิมั้ย~”
“ดู!” ฉันวางดีวีดีที่เลือกไว้หน้าทีวีก่อนจะวิ่งกลับไปที่ครัว “ว่าแต่นายไม่ต้องดูสูตรอาหารแล้วเหรอ”
“ไม่อ่ะ ฉันทำจนจำได้ขึ้นใจหมดแล้ว” ฮายาโตะว่าพลางตักเอาข้าวในหม้อออกมาใส่ชามปากกว้างที่วางเตรียมไว้ จากนั้นจึงหยิบขวดซูชิซึ* ขึ้นมาเหยาะคลุกๆ กับข้าว “เธอช่วยเอาอะไรมาพัดๆ มันหน่อย ให้ไอร้อนมันระเหยไป”
(NOTE* น้ำส้มสายชูญี่ปุ่นผสมกับมิริน)
“อื้อ!”
“ดีมากลูกมือ >O<”
“ว่าแต่สูตรอาหารนั่นน่ะ ของคุณแม่นายใช่มั้ย”
“ใช่ รู้ได้ไง”
“เห็นแล้วก็รู้เลยล่ะ”
“ฮ่าๆๆ นั่นสินะ ใช่แล้วล่ะ คุณแม่ทำไว้ เห็นว่าเป็นสูตรตกทอดมาตั้งแต่คุณยาย แล้วคุณแม่ก็เขียนเพิ่มไปเองด้วยบางส่วน จริงๆ ฉันก็มีเขียนเติมไปข้างหลังเหมือนกันนะ อันที่ลายมือเละๆ อ่ะ”
“เพราะงี้นายถึงทำอาหารเก่งสินะ” ฉันพยักหน้าหงึกหงักพลางมองดูฮายาโตะหยิบเอาเห็ดหอมกับแครอทฝอยที่หั่นไว้มาคลุกรวมไปกับข้าวด้วย “แต่ทั้งที่นายทำไบท์ตั้งเยอะแยะก็ยังมีอารมณ์กลับมาทำอาหารกินอีกนะ ปกติฉันนี่เหนื่อยจนหลับไปเลยไม่ได้กินข้าวเย็นหรอก”
“สัญญาไว้แล้วน่ะสิ”
“...สัญญา?”
“สัญญากับคุณแม่ไว้ ว่าจะกินอาหารดีๆ กินให้ครบทุกมื้อ แล้วก็จะไม่ป่วยเด็ดขาด”
“...”
“แม่เคยบอกไว้ว่า ถ้าได้กินอาหารดีๆ ต่อให้ทำงานหนักแค่ไหนก็จะไม่ป่วย เพราะงั้นก็เลยมักจะตั้งใจทำกับข้าวอร่อยๆ ให้ฉันกับพ่อกินทุกวัน”
ฉันมองฮายาโตะที่เล่าไป จัดจิราชิซูชิใส่จานไปยิ้มไปด้วยสีหน้ามีความสุขมากแล้วก็พาลยิ้มตามไปด้วย รับรู้ได้เลยว่าเขาต้องโตมาในครอบครัวที่อบอุ่นมากแน่ๆ ตัวเขาถึงได้อ่อนโยน (เหมือนแม่) ขนาดนี้
“ฉันไม่เคยมีโมเม้นต์แบบนั้นหรอก”
“หืม?”
“เพราะที่บ้านมีพ่อครัวน่ะสิ”
“เหรอ แต่ฝีมือเชฟมืออาชีพยังไงก็ต้องอร่อยอยู่แล้วสินะ” ฮายาโตะว่าพลางหยอดอิคุรา (ไข่ปลาแซลมอน) ลงไปเป็นการปิดท้าย
“อร่อยก็อร่อยอยู่...” ฉันที่รับหน้าที่ตักซุปมิโสะพึมพำขณะค่อยๆ ตักซุปจากหม้อใส่ในถ้วยซุปก้นลึกสองใบ “แต่ไม่สนุกเลยล่ะ เพราะบางทีก็ต้องนั่งกินคนเดียว”
“ทำไมกินคนเดียวล่ะ เธออยู่คนละบ้านกับครอบครัวเหรอ”
“บ้านเดียวกันนี่แหละ แต่เวลาไม่ค่อยตรงกัน”
“งั้นเหรอ แบบนั้นคงเหงาสินะ”
“ชินแล้วล่ะ”
“เพราะเวลากินข้าวคนเดียวฉันนี่โคตรเหงาเลยขอบอก”
“นายอ่ะนะ?”
“ใช่เลย เพราะงั้นเธอมาอยู่ด้วยนี่ดีมากเลยล่ะ ขอบใจนะ >O<”
“...ขอบใจอะไรกันเล่า...นายต่างหากที่ช่วยฉันไว้”
“ฮ่าๆๆ นั่นสินะ งั้นเราก็พึ่งพากันและกันอยู่สินะ” ฮายาโตะยิ้มหวานพลางยื่นมือมายีผมฉัน จากนั้นจึงจัดจานและถ้วยซุปทั้งหมดใส่ถาด “เอ้า ได้เวลากินข้าวแล้วล่ะ เธอเลือกหนังไว้แล้วสินะ?”
“อื้อ เลือกแล้ว ที่เป็นอนิเมะน่ะ”
“อ๊ะ เธอเลือกเรื่องนั้นเหรอ”
“อาฮะ ทำไมเหรอ หรือว่านายดูแล้ว?”
“จะว่าดูแล้วก็ดูแล้วนะ เรื่องนั้นน่ะเป็นเรื่องโปรดฉัน ดูไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบแล้ว”
“อ้าว งั้นดูเรื่องอื่นก็ได้นะ”
“ไม่เอา ดูเรื่องน้ีแหละ ไม่ได้ดูมาสักพัก คิดถึงอยู่เหมือนกัน... อยากให้เธอดูด้วยแหละ เพราะเรื่องน้ีน่ะสุดยอดมากๆ เป็นงานของชินไคที่ฉันชอบที่สุดเลย” ฮายาโตะจัดการใส่แผ่นเข้าในเครื่องเล่นก่อนจะเดินกลับมาที่โซฟาเบดพร้อมกับรีโมตในมือ “นั่งประจำที่ยัง? พร้อมนะ?”
“โยชชชช~ เริ่มล่ะนะ!”
ฉันชูตะเกียบขึ้นให้สัญญาณ (บ้าจี้ตาม) จากนั้นเราสองคนก็นั่งไหล่ชนกันบนโซฟาเบดตัวเล็ก กินจิราชิซูชิโฮมเมด กับซุปมิโสะโฮมเมดบนโต๊ะตัวเล็กๆ ขณะที่ตาก็จ้องเป๋งไปยังหน้าจอทีวีเก่าๆ เล็กๆ ตรงหน้า...อาหารธรรมดาที่หน้าตาไม่ได้หรูหรานักแต่กลับเต็มไปด้วยรสชาติต้นตำรับของคุณแม่ที่ละมุนละไม กลมกล่อม กินแล้วชวนให้หัวใจรู้สึกอบอุ่นเหมือนได้กลับบ้าน...
กับคนข้างๆ ที่ทำให้หัวใจพองโตไม่หยุดหย่อน...ขณะเดียวกันก็ทำให้รู้สึกปลอดภัยเหมือนเครื่องรางที่พกติดตัวไว้แล้วจะยิ้มได้ไปทั้งวัน...
ฉันจำไม่ได้แล้วว่ารู้สึกสบายใจและมีความสุขมากขนาดนี้ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่...
แต่ว่า...ถ้าอยู่อย่างนี้ไปได้ตลอดก็ดีสินะ...
ถ้ามันเป็นไปได้ล่ะก็นะ...
สองวันต่อมา
“โหหห O_O ข้าวกล่องของคาเอเดะจังน่ากินจังเลย!”
“จริงด้วย >O< พักนี้มีข้าวกล่องมาทุกวันเลย แต่ก่อนเห็นกินแต่ขนมปังแท้ๆ”
ทันทีที่แกะห่อผ้าแล้วเปิดกล่องข้าวออกมา สาวๆ ในห้องก็พากันมารุมล้อมแล้วก็วี้ดว้ายกันใหญ่ ทำหน้าตาชื่นชมอย่างนั้นคงคิดว่านี่เป็นฝีมือฉันสินะ หารู้ไม่...ว่าเป็นฝีมือฮายาโตะล้วนๆ น่ะ -O-;;;
แต่ถ้าบอกว่าฮายาโตะทำให้คงแตกตื่นกันแน่ๆ เพราะฉะนั้นตีเนียนไปละกัน
“ข้าวกล่องระดับนี้ ต้องตื่นแต่เช้ามากมาทำแน่ๆ ฉันน่ะตื่นไม่ไหวหรอก T_T”
“นั่นสิๆ สมเป็นคุณหนูคาเอเดะจริงๆ >_<”
“อยากได้ข้าวกล่องแบบนี้จากคาเอเดะจังบ้างจังเลยยย~”
เสียงจากหนุ่มๆ รอบนอกดังแว่วเข้ามาให้ได้ยิน...ไม่อยากจะบอกว่าถ้าอยากได้ต้องไปขอเอาจากฮายาโตะ ผู้ซึ่งเป็นหนุ่มหล่อผมทองที่ฮอตสุดๆ จากมินามิโคน่ะนะ...
แต่จะว่าไป...มีคนที่รู้ว่าฉันทำอาหารไม่เป็นอยู่คนนึงนี่นา -O-;; และคนคนนั้นก็...
“...ทำอาหารเก่งนี่”
พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงล่องลอยเหมือนคุยกับตัวเอง แล้วก็ทำให้พวกสาวๆ ที่รุมล้อมฉันอยู่พากันกรี๊ด (แบบไม่แอบ)
“อะ...อือ... -O-;;;”
“ฝีมือดีเหมือนเซ็มไปที่ฉันรู้จักเลย”
“งะ...งั้นเหรอ”
“ที่ทำไบท์อยู่ด้วยกันน่ะ”
หมอนี่...จงใจโยนระเบิดมาหรือไง -_-^ ฉันอยากจะแยกเขี้ยวใส่เขา แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะกลัวถูกแฉ... ถึงเขาจะไม่น่ารู้เรื่องที่ตอนนี้ฉันอยู่ที่ห้องของฮายาโตะก็เถอะ...
“อิทาดาคิมัส~”
ฉันพูดเสียงสดใสก่อนจะลงตะเกียบอย่างมีความสุข ข้าวกล่องของฮายาโตะยังไม่เคยซ้ำกันเลยสักวัน ราวกับคุณแม่ที่ตั้งใจทำเบนโตะให้ลูกสาวไปอวดเพื่อนที่โรงเรียนทุกวันยังไงยังงั้นแหละ ทั้งๆ ที่ตอนเช้ามีเวลาไม่มาก เขาก็ยังสละเวลาทำทั้งข้าวเช้าและข้าวกล่องให้ฉันด้วยแบบน้ี...
แบบนี้มันก็เหมือนฉันไปเป็นภาระเพิ่มเติมให้เขาน่ะสิ =O=
มือที่กำลังคีบโคร็อกเกะของฉันถึงกับค้างกลางอากาศเมื่อ (เพิ่งจะ) นึกถึงความจริงข้อนี้ขึ้นมาได้...พอนึกได้หนึ่งข้อก็มาอีกหลายๆ ข้อเลย ไหนจะตอนดึกที่เขาต้องทำมื้อเย็นให้ฉันเพิ่มอีกหน่ึงที่ แล้วยังต้องสละห้องน้ำให้ฉันใช้ก่อน สละฟูตงให้ฉันใช้นอน...ยอมให้ฉันเป็นคนเลือกหนังที่จะดูในแต่ละวัน... แถมบางทียังสละไส้ดินสอให้ฉันใช้ด้วย...
ทั้งที่หมอนั่นก็ลำบากอยู่แล้ว ฉันกลับไปทำให้เขาลำบากมากขึ้นอีก...เขาไม่มีทางพูดอยู่แล้วว่าตัวเองลำบาก เพราะเขาคิดเรื่องคนอื่นก่อนตัวเองตลอด...
ถ้าอย่างนั้น...มันต้องมีอะไรที่ฉันทำเพื่อเขาได้บ้างสิ
“ไอ้เวร! นี่แกได้ข้าวกล่องแห่งรักมาจากอายุมิจังอีกแล้วเหรอ =[]=^^”
“อย่าอิจฉาเว้ย คนกำลังอินเลิฟ >3<”
“ดีจังน้าาาา ฉันก็อยากได้ข้าวกล่องจากคาเอเดะจังมั่ง~”
“ก็ไปขอจากเขาซะสิ อยากรู้เหมือนกันว่าเขาจะตอบว่าไง”
“นั่นแหละ!!”
โครม!!
ฉันเผลอพูดขึ้นมาเสียงดังโดยไม่รู้ตัว...และนั่นก็ทำให้สามหนุ่มที่กำลังเม้ามอยกันอยู่ในมุมของตัวเองสะดุ้งตกใจจนตกเก้าอี้ไปคนนึง อุ๊ปส์... ขอโทษนะคะ _/\_
“อะ...อะไรเหรอคาเอเดะจัง อยู่ดีๆ ก็ตะโกนขึ้นมา -O-;;”
“เปล่า ไม่มีอะไรหรอก พอดีคิดเรื่องโจทย์เลขเมื่อกี้ออกพอดี...”
“อะไรนะ!? ระหว่างพักเที่ยงก็ยังคิดถึงโจทย์เลขอีกงั้นเหรอ จะอัจฉริยะไปแล้วนะ U_U”
“สอบย่อยคราวนี้ฉันตายแน่...”
ฉันขอโทษเพื่อนๆ ในใจที่ต้องโกหกออกไป ก่อนจะรีบกินเบนโตะที่เหลือจนหมดอย่างรีบเร่ง เพื่อจะทำรีเสิชไว้สำหรับแผนการสุดยอดของฉัน
แผนนั้นคืออะไรน่ะเหรอ...เย็นน้ีเดี๋ยวรู้กันเลย~ >O<
รับรองว่าเซอไพรส์สุดๆ!
ตกเย็น
[วันน้ีฉันกลับดึกนะ โทษที เธอกินข้าวไปก่อนเลย ไปกินที่ร้านหรือไม่ก็ซื้ออะไรมาทำกินเองง่ายๆ ก็ได้ แต่ห้ามเป็นข้าวกล่องเย็นชืดหรือโอนิกิริจากคอนบินีนะ!]
เซอไพรส์สุดขีด T_T กะจะเซอไพรส์เขาแต่กลับเจอเซอไพรส์ซะเอง...ให้ตายสิ
“กลับดึกของนายนี่กี่โมงน่ะ”
[ยังไม่รู้เลย อย่าคิดจะรอเชียวล่ะ นอนไปก่อนเลย]
“งานอะไรของนายเนี่ย ทำไมต้องกลับดึกขนาดนั้น”
[งานของผู้ใหญ่ เด็กไม่เกี่ยว] ฮายาโตะพูดด้วยน้ำเสียงลึกลับก่อนจะหัวเราะใส่ [ไม่ต้องห่วงหรอกน่า พรุ่งนี้เช้าจะกลับไปทำข้าวเช้าให้กินแน่ๆ]
“ตาบ้า...ฉันไม่ได้ห่วงเรื่องนั้นสักหน่อย”
[ฮ่ะๆ ฉันรู้ ขอบใจนะ แต่ฉันต้องไปแล้วล่ะ อย่าลืมส่งรูปมื้อเย็นของเธอมาให้ฉันดูด้วยล่ะ!]
“...อื้อ กัมบัตเตะเน๊ะ (พยายามเข้านะ)”
ฉันพูดก่อนจะวางสายแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่กับข้าวของที่กองพะเนินอยู่บนโต๊ะ... ทั้งหมดคือของที่เขียนไว้ในสูตรอาหารของคุณแม่ที่ฮายาโตะเคยให้ดูเมื่อวันก่อนนั่นเอง...
เพราะฉันตั้งใจจะทำเนื้อตุ๋นมันฝรั่งให้เขากินเย็นนี้เพื่อเซอไพรส์เขา แต่เขาดันกลับดึกซะงั้น...
ฉันมองวัตถุดิบที่กองอยู่บนโต๊ะ...จากนั้นเสียงของฮายาโตะเมื่อวันก่อนก็แวบเข้ามาในหัว
'เพราะงั้นวันไหนที่ฉันกลับดึกก็ฝากด้วยนะ!'
'...แล้วถ้าไม่อร่อยจะทำไง O_O'
'ไม่อร่อยก็กิน ก็เธออุตส่าห์ทำให้นี่นา ฮ่าๆ >O<'
จริงสิ...ไหนๆ ฉันก็ต้องทำกับข้าวกินเอง (ตามคำสั่งของฮายาโตะ) อยู่แล้วนี่นา งั้นก็ทำไว้สองที่แล้วเก็บที่นึงเข้าตู้เย็นรอให้เขากลับมาอุ่นกินเผื่อเขาหิวตอนดึกไง >_< ฉลาดจริงๆ คุณหนูเมเปิ้ลเนี่ย!
เอาล่ะ! ลงมือเลยดีกว่า!
12.32PM
'Mailbox 0 message'
เมื่อตัวเลขบนหน้าจอยังกลมดิ๊กอยู่เหมือนเดิม ฉันก็ได้แต่ถอนหายใจแล้วโยนไอโฟนกลับไปบนโซฟาตามเดิม...ก่อนจะหยิบมันมาดูอีกครั้งเมื่อผ่านไปได้ราวหนึ่งนาที
ที่จริงเขาก็บอกไว้แล้วว่ากลับดึก...กินข้าวก่อนเลย นอนไปก่อนเลย ไม่ต้องรอ...
แต่ไม่ว่ายังไงก็อยากรอพูดคำว่า 'โอสึคาเระ (เหนื่อยหน่อยนะ!)' กับเขานี่นา แล้วก็...อยากให้ลองชิมเนื้อตุ๋นมันฝรั่งที่ฉันตั้งใจทำแทบตายด้วย
แต่ฉันก็ส่งรูปไปให้เขาดูแล้วล่ะ คิดว่าเขาน่าจะเห็นแล้วด้วย แค่ยุ่งจนไม่มีเวลาตอบเท่านั้นแหละ ก็งานอีกงานนึงที่ทำให้ต้องกลับดึก...มันก็น่าจะเป็นงานที่คาบุกิโจรึเปล่านะ...?
ถึงจะอยากรู้ แต่จู่ๆ จะไปถามเขาก็ไม่ได้อยู่แล้ว เพราะเขาไม่รู้ว่าฉันเจอเขาที่คาบุกิโจคืนนั้นนี่นา
[นานแค่ไหนก็จะรอ! เพราะฉะนั้นต้องมาให้ได้นะ!]
เสียงของนางเอกในละครรอบดึกที่บังเอิญเปิดทีวีแล้วแรนด้อมเจอดังบาดใจ และนั่นก็ทำให้ฉันตัดสินใจนั่งรอต่อไปอีกหน่อย เผื่อว่าเขาอาจจะกำลังกลับมาแล้ว
เพราะเขาบอกว่ากินข้าวคนเดียวเหงา...ดังนั้นฉันก็อยากจะอยู่รอนั่งเป็นเพื่อนเขา ถึงจะไม่ได้ช่วยอะไรมาก แต่อย่างน้อย...มีคนรอรับอยู่บ้านมันก็น่าจะรู้สึกดีกว่ากลับมาเจอบ้านมืดๆ เงียบๆ ไม่ใช่เหรอ ฉันที่ต้องอยู่คนเดียวมาตลอดเข้าใจดี ถึงในบ้านจะมีแม่บ้านอยู่ด้วยก็ไม่เหมือนอยู่กับคนในครอบครัวหรอก
ด้วยเหตุนั้น...รอต่อไปก็แล้วกัน! คงจะไม่เกินตีสองหรอกน่า...
...
ติ๊ดๆๆๆ
ฉันสะดุ้งตื่นเมื่อนาฬิกาปลุกดังสั่นประสาทขึ้นมา... พอเอื้อมมือไปปิดก็พบว่าตอนนี้เป็นเวลาตีสี่กว่าแล้ว...
ที่ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ก็เพราะง่วงมากจนกลัวจะเผลอหลับยาว ไม่ได้อยู่รอรับฮายาโตะ แต่จนป่านนี้ก็ยังไม่มีวี่แววว่าฮายาโตะจะกลับมาเลย แม้แต่เมล์สักฉบับก็ไม่มี
เขาเป็นนักเรียนม.ปลายนะ มีงานอะไรที่ยอมให้เด็กไฮสคูลทำงานจนถึงเช้าแบบน้ีด้วยเหรอ?
ฉันลุกขึ้นไปล้างหน้าที่ห้องน้ำก่อนจะเช็คมือถืออีกรอบด้วยความรู้สึกสังหรณ์ใจอย่างบอกไม่ถูก จากนั้นจึงได้ยินเสียงดังมาจากข้างนอก...เสียงนี้มัน...ฝนตกเหรอ?
เมื่อเปิดผ้าม่านออกก็เห็นว่าฝนตกอยู่จริงๆ ด้วย หรือว่าหมอนั่นกลับบ้านไม่ได้เพราะติดฝนน่ะ? ไม่สิ ไม่รู้ด้วยว่าทำงานอยู่แถวไหน ถ้าอยู่ไกล เวลานี้ไม่มีรถไฟแล้วเขาจะกลับบ้านยังไงล่ะ แท็กซี่ก็ไม่น่าใช่เพราะหมอนั่นประหยัดเงินจะตาย... หรือว่าจะรอจนเช้าแล้วค่อยกลับรถไฟเที่ยวแรกกันนะ
ฉันคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย...จนกระทั่งมีแสงไฟจากหน้ารถแยงมาเข้าตา...
รถงั้นเหรอ รถหรูด้วยสินั่น...ฉันรู้ได้ทันทีว่ารถคันนั้นมีราคาหลายล้าน แต่คนขับรถราคาหลายล้านจะพักอยู่อพาร์ตเมนต์เก่าๆ นี่น่ะเหรอ?
ฉันขมวดคิ้วให้กับความไม่เข้ากัน...ก่อนจะอึ้งไปชนิดแทบหยุดหายใจ เมื่อมองเห็นคนที่เพ่ิงจะก้าวลงจากรถมา...
ถึงจะเซ็ตผมไม่เหมือนทุกที...แถมยังใส่ชุดสูทจัดจ้านแบบสุดๆ แต่ผู้ชายคนนั้นก็คือฮายาโตะไม่ผิดแน่...
ฮายาโตะก้าวลงมาจากรถ จากนั้นคนที่นั่งอยู่ฝั่งคนขับก็ก้าวตามลงมา เป็นสาวสวยในชุดเดรสหรูราคาแพงสมกับราคารถ และถึงแม้ฝนจะตกอยู่เธอก็ไม่ได้สนใจ กลับถลาเข้าไปกอดคอฮายาโตะก่อนที่เขาจะโน้มใบหน้าลงไปจูบเธอ...
จูบ...
ริมฝีปากบางสวยของฮายาโตะหยักยิ้มเย็นชาที่มุมปาก...เป็นรอยยิ้มแบบที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน จากนั้นเขาก็ก้มลงไปจูบเธออีกครั้งก่อนจะปล่อยมือจากเอวบางของเธอคนนั้นแล้วหันหลังเดินกลับเข้ามาในตึก
ขณะที่ฉันยังยืนช็อกอยู่ตรงหน้าต่าง...ฮายาโตะก็เดินขึ้นมาถึงหน้าประตูห้องแล้ว
ปึ้ง~
ประตูถูกเปิดออกอย่างแรงกว่าทุกที จากนั้นกลิ่นน้ำหอมฉุนจัด...ผสมกับกลิ่นของแอลกอฮอล์รุนแรงก็ตรงเข้ามาปะทะจมูกฉัน นี่เขาดื่มเหล้ามางั้นเหรอ...ดื่มไม่ใช่น้อยด้วย จนถึงขั้นเดินเซไปชนกับราวแขวนเสื้อแบบนั้น...
“...ทาไดมะ...นี่เธอยังตื่นอยู่อีกเหรอ”
“ง่วงชะมัด...ฉันนอนก่อนล่ะนะ”
ฮายาโตะพูดด้วยน้ำเสียงยืดยาน แถมยังสลับคำไปมาจนแทบฟังไม่รู้เรื่อง ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนฟูตงเลยโดยไม่พูดอะไรอีก
ฉันได้แต่ยืนกะพริบตาปริบๆ อยู่ที่เดิม กับความรู้สึกช็อกจนตัวชาไปหมด...ภาพตอนที่เขาจูบผู้หญิงคนเมื่อกี้ยังเล่นซ้ำรีเพลย์ไปมาอยู่ในหัวไม่จบไม่สิ้น ถึงแม้ฮายาโตะจะหลับไปแล้วก็ตาม
ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร...เป็นอะไรกับนาย...แล้วทำไมนายถึงจูบเธอ...
ทำไม...ที่หัวใจฉันถึงรู้สึกเจ็บจี๊ดได้ขนาดนี้แค่เห็นเขาจูบผู้หญิงคนอื่น...
“แค่ก...”
ฉันสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินเสียงฮายาโตะไอค่อกแค่กก่อนจะพลิกตัวไปมาด้วยท่าทางอึดอัด... จริงด้วยสิ ใส่สูทจัดเต็มขนาดนั้นคงจะนอนไม่สบายตัวสินะ ถ้าอย่างนั้นก็...
“...ขอเสียมารยาทนะคะ”
ฉันพึมพำเสียงเบาทั้งที่รู้ว่าฮายาโตะคงไม่่รู้เรื่องแล้ว จากนั้นจึงค่อยๆ ถอดเสื้อสูทตัวนอกของเขาออกให้ ตามด้วยดึงเสื้อเชิ้ตออกจากกางเกง พร้อมกับดึงเข็มขัดออกให้ด้วย ถอดให้ได้แค่นี้แหละ ที่เหลือคงถอดไม่ได้เดี๋ยวเขาจะตื่นมาช็อก
และตอนที่ฉันเดินไปหยิบไม้แขวนเสื้อมาแขวนเสื้อสูทให้เขา...ฉันก็เห็นอะไรบางอย่างที่เสียบอยู่ในกระเป๋าเสื้อนอกของเขา...
เพียงเท่านี้สิ่งที่ฉันสงสัยมาตลอดก็ได้คำตอบในที่สุด
[[ To Be Continued ]]
เจ้าหญิงผู้เลอโฉม
อู้วววววว >////< หายไปนานฮายาโตะกลับมาอีกทีฮอตมั้ยล่ะ ฮี่ๆๆๆ
เห็นบ้าๆ อย่างนี้ก็เป็นหนุ่มที่เต็มไปด้วยความลับนะเออ :P
คุณหนูเมเปิ้ลสตรองของเราจะทำไงต่อไป
และจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างสองคนนี้ >/////<
ใครอยากอ่านต่อ รีบเมนต์ด่วนเลยจ้าาา >O<
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
นิยาย Dek-D
App ที่จะทำให้คุณอ่านนิยายจนวางมือถือไม่ลง!ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ที่
กรณีที่ผลงานชิ้นนี้เป็นผลงานที่แต่งโดยผู้ลงผลงานเอง ลิขสิทธิ์ของผลงานนี้จะ เป็นของผู้ลงผลงานโดยตรง ห้ามมิให้คัดลอก ทำซ้ำ เผยแพร่ ก่อนได้รับอนุญาต จากผู้ลงผลงาน
กรณีที่ผลงานชิ้นนี้กระทำการคัดลอก ทำซ้ำ มาจากผลงานของบุคคลอื่นๆ ผู้ลง ผลงานจะต้องทำการอ้างอิงอย่างเหมาะสม และต้องรับผิดชอบเรื่องการจัดการ ลิขสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว
ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏอยู่ในผลงานที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการส่งเข้าระบบ โดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่งเด็กดีดอทคอมมิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น ผู้ใดพบเห็นการลงผลงานละเมิดลิขสิทธิ์ หรือ ไม่เหมาะสมโปรดแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการทันที Email: contact(at)dek-d.com ( ทุกวัน 24 ชม ) หรือ Tel: 0-2860-1142 ( จ-ศ 0900-1800 )
เดาทางไม่ออกจริงๆค่ะว่าจะจบแบบไหนน
อ๊ากกกก ค้างอย่างแร๊งงงงง !
สรุปปป ฮายาโตะคิดกับเมเปิ้ลแค่น้องสาววจริงงๆรือออ รู้สึกว่าเล่มนี้ราคาไม่ใช่ปัญหาเรยอะะะ รู้สึกดีที่เล่มมโตตกริ๊กริ๊>_< ถึงแม้ตังกินข้าวจะไม่ค่อยมีก็เถอะะ-.,-
ป ลิง อยากให้มีโมเม้นฟินๆของโคเฮผ่านมาบ้างจังงงง>..<
ป ลิง 2 ถึงเล่มมนี้จะเป็นทีของฮายาโตะะะ แต่ทำไมมเขินนโคเฮฮ นางงเท่อะะะะ ฮืออออออ TuT
ป ลิงง 3 ฮายาโตะน่าร้ากกกมากกกกกก เฮฮาร่าเริงง แต่ก็มีโหมดจริงจังงง แต่ส่วนมากกจะรั่วววว ถถถถถ=..=
ป ลิงงงง 4 ออกไวๆนาคาาาาา อยากอ่านใจจะขาดดดดด ไม่น่าอ่านเพิ่มเรยยย โอ้ยยยยยยย ค้างงคาาาาาาค่าาาาT_T
สุดท้ายยยยย ใครรู้บ้างว่าเพลงแรกกกที่อยู่หน้าเว็บฮายาโตะะ ชื่ออะไรรร เพราะะง่ะะะ คิดถุงงงงเฟร่ออออออฮืออออออออ ToT #วิบัติเพื่ออถรรสสส
ไอว้อนนนนนยูวววววววฮายาโตะะะะของเดี๊ยนนนนน T0T ~
#เกือกกลอยยย กิ้กิ้-..-
เราจะรอคุณฮายาโตะออกมาเป็นเล่มนะคะ ต้องการมากเลย หลงรักหนุ่มญี่ปุ่นเข้าให้แล้วค่ะ ><
ปล.ติดตามนิยายพี่อายตลอดเลย ชอบการเขียนของพี่มากค่ะ เขียนต่อไปเรื่อยๆนะคะ กัมบัตเตะเนะ!
คิดถึงฮายาโตะ T3T