คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทนำ สามศักราชแห่งความมืดมิด (10/12/53)
บทนำ สามศักราชแห่งความมืดมิด
เมื่อห้าพันปีก่อน จอมมารเทวาตกสวรรค์ลูซิเฟอร์ได้ก่อสงครามกบฐต่อพระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ รวบรวมฑูตสวรรค์จากชั้นต่างๆ มังกรและปีศาจมากมาย โดยใช้โลกเป็นสมรภูมิใช้มนุษย์เป็นกำลังพลหลัก
สงครามดำเนินมาอย่างยาวนาน โลกบอบช้ำเกินเยียวยา ซากศพสารพัดอย่างกองอย่างน่าเอน็จอนาถ ลูซิเฟอร์ก็บุกตะลุยเข้าไปเรื่อยๆอัครเทวดาอาวุโสไม่สามารถต่อกรกับลูซิเฟอร์ได้เลย ไม่ช้าไม่นานสงครามบนโลกมนุษย์ก็สิ้นสุดลงด้วยชัยชนะของเทวาตกสวรรค์
กองทัพของลูซิเฟอร์เข้าใกล้บัลลังก์ของพระผู้เป็นเจ้าเข้าไปเรื่อยๆจนกระทั่งจอมทัพแห่งสรวงสวรรค์อัครเทวดามิคาเอล นำทัพสุดท้ายของเหล่าจอมเทพออกมาต้าน
ลูซิเฟอร์ที่เคยบุตะลุยเหล่าอัครเทวดามาได้มากมายกลับมิอาจต้านถอยร่นกลับไปยังโลกมนุษย์ พระผู้เป็นเจ้ายินดีกับชัยชนะ ประทานพรให้จอมเทพและอารักขเทวดาที่ช่วยต่อต้านพวกปีศาจทำให้กองทัพจอมเทพแข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีก
ฝ่ายเทวาตกสวรรค์เมื่อถูกต่อต้านออกจากเขตแดนสวรรค์ก็รวบรวมกองทัพที่เหลืออยู่และเริ่มทำพันธสัญญากับมนุษย์บางกลุ่มเพื่อสืบทอดอำนาจและความเกลียดชังที่มีต่อสรวงสวรรค์ต่อไปปีศาจเรียกพันธสัญญาที่ตกลงทำกับมนุษย์ว่า goetia (โกเอเทีย) โดยมนุษย์ที่ทำสัญญาGoetia กับพวกปีศาจจะได้รับพลังปีศาจที่มนุษย์ธรรมดาไม่สามารถต่อกรได้โดยแลกกับการฝังตัวตนของปีศาจเข้าไปในร่างกาย
ตัวตนของปีศาจก็คือ สัญชาติญาณของปีศาจ ส่วนหนึ่งของความทรงปีศาจ ลักษณะนิสัยของปีศาจ ความสามารถพิเศษของปีศาจ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นปีศาจเจ้าของพันธสัญญา จะถูกฝังลงไปในตราพันธสัญญาส่วนหนึ่ง
การทำสัญญาอย่างพวกแพ้แล้วพาลของปีศาจทำให้เหล่าเทวฑูตที่กำลังฮึกเหิมกับชัยชนะตามลงมากวาดล้างพวกปีศาจที่โลกมนุษย์
ในการรบครั้งนี้พวกปีศาจไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนแต่ก่อนแล้ว เหล่าเทวฑูตจอมเทพสามารถผลักดันปีศาจกลับสู่ขุมนรกได้สำเร็จ นับเป็นการสิ้นสุดของสงครามศักดิ์สิทธิ์ระหว่างพระผู้เป็นเจ้ากับจอมปีศาจลูซิเฟอร์
ถึงแม้จะจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของเหล่าปีศาจร้ายถูกจองจำปิดผนึกอยู่ในขุมนรก มังกรถูกลดอำนาจลง จนกระทั่งต้องอยู่อย่างหลบๆซ่อนๆ ปีศาจสิบสามชนเผ่าถูกกวาดล้างจากผืนแผ่นดิน ดูเหมือนต่อไปจะเข้าสู่ยุคแห่งความสงบสุขแต่ทว่า
มนุษย์ที่ได้ทำพันธสัญญาปีศาจก็สานต่อสิ่งที่ปีศาจเหล่านั้นได้ทำเอาไว้ด้วย การรวบรวมมนุษย์ผู้ศรัทธาในความมืดอันชั่วร้ายก่อตั้งอาณาจักรต่างๆทั่วโลก ด้วยความที่มีพลังเหนือมนุษย์ทั่วไปทำให้สามารถรวบรวมผู้คนได้เป็นจำนวนมากเหล่าผู้ปกรครองที่ทวยเทพแต่งตั้งไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ อาณาจักรภายใต้เงาของปีศาจเติบโตขึ้นเรื่อยๆ
ทันใดนั้นเองเหล่าทวยเทพผู้เคยมาขับไล่ปีศาจยังโลกมนุษย์ก็ลงมาทำพันธสัญญากับกับมนุษย์ที่ตนเลือก แล้วก่อร่างสร้างอิทธิพลต่อต้านเงาของปีศาจร้าย
พันธสัญญาของทวยเทพไม่ต่างกับพันธสัญญาของปีศาจคือจะฝังตัวตนของเทพองค์นั้นเอาไว้ เรียกพันธสัญญานี้ว่า DollofGod (ดอลลอฟก๊อด) ตุ๊กตาของเทพเจ้า เปรียบเสมือนตัวแทนของพระผู้เป็นเจ้าบนโลกมนุษย์เพื่อต่อกรกับเงาของปีศาจที่ครอบงำผู้คน
แรกเริ่มในการทำพันธสัญญา มนุษย์ที่ได้ถือตราพันธสัญญาของทวยเทพได้รวบรวมผู้คนเพื่อยุติการขยายของเงาแห่งความมืดมน
จนเกิดเป็นสงครามศักดิ์สิทธิ์ขึ้นในโลกมนุษย์ บางที่แสงสว่างเป็นผู้กำชัย บางแห่งความมืดเป็นผู้ปกรครอง แต่ทว่าสงครามศักดิ์บนโลกมนุษย์ไม่เคยจบสิ้น DollofGod กับ Goetia ยังทำสงครามกันทั้งโจ่งแจ้งและในมุมมืดของโลก ในระหว่างที่มนุษย์ธรรดากำลังดำรงชีวิตอยู่ แสงสว่างและความมืดได้ทำสงครามกันไม่ได้หยุดมาเป็นเวลากว่า ห้าพันปีมาแล้ว
ในแต่ยุคแต่ละสมัย มนุษย์ที่ถือครองพันธสัญญา Goeatia จะมีอยู่ 2 คนที่ได้ถือครองตราพันธสัญญาของราชันตกสวรรค์ ลูซิเฟอร์ และตราพันธสัญญาของจอมมารแห่งอเวจี ซาตาน
สองพันธสัญญาชิ้นนี้คือกลไกในการขับเคลื่อนของฝ่ายเทวาตกสวรรค์ หรือก็คือมนุษย์ผู้ใดได้ถือตราพันธสัญญาชิ้นใดชิ้นหนึ่งจากสองชิ้นนี้จะกลายเป็นผู้นำของเหล่าผู้ถือครองพันธสัญญา Goetia อื่นทันที
ความพิเศษของพันธสัญญาปีศาจสองชิ้นนี้ก็คือผู้ถือจะสูญเสียตัวตนของตนเองไปจนเกือบหมดสิ้น วิญญาณของราชันมารทั้งสองจะแทนที่ ความทรงจำของราชันปีศาจจะไม่เสื่อมสลาย ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าใด เพื่อที่จะได้ล้างแค้นพระผู้เป็นเจ้าไปตลอดกาล
“สวัสดีเหล่าผู้ถือครองพันธสัญญาปีศาจทุกท่านที่ยังเหลืออยู่นะขอรับ”เสียงดังกังวาลดูทรงอำนาจจากชายหนุ่มผอมบางใบหน้าหล่อเหลาประดุจเทพบุตรสวมเครื่องประดับโอ่อ่า
“มีอะไรก็ว่ามาอย่ามามากพิธีให้ยุ่งยาก”ที่นี่คือห้องประชุมขนาดมโหฬาร ชายหนุ่มเจ้าของเครื่องประดับยืนอยู่บนแท่นหินที่ลอยได้ตรงกลาง ล้อมรอบด้วยด้วยอัฒจันทร์วงกลมกว้างขวาง ตามแต่ละจุดมีการตกแต่งพิเศษแตกต่างกันเป็นจุดๆโดยรอบ บางอันก็ใหญ่บ้างเล็กบ้าง บางอันก็ตกแต่งโอ่อ่าบางที่ก็ว่างเปล่าสกปรกราวกับไม่มีใครมานั่งมานานปี เสียงที่กล่าวอย่างไม่เกรงใจมาจากอัฒจันทร์ที่โอ่อ่าทางฝั่งซ้าย
“ยังมีมารยาททางสังคมน้อยเหมือนเดิมเลยนะขอรับ เอาเถอะๆ ยังไงกระผมก็ไม่ถืออยู่แล้ว”ใบหน้างดงามเผยรอยยิ้มชั่วร้าย อย่างมั่นใจ
“ที่เรียกมาวันนี้คงไม่ได้เรียกมาเพื่อมาเช็คความเป็นอยู่ของผู้ถือครองพันธะสัญญาเฉยๆหรอกนะ ไม่งั้นผมคนนึงที่จะไม่ยอมกลับไปมือเปล่า”เสียงไพเราะดุจกระดิ่งเงินมาพร้อมกับจิตสังหารเข้มข้น
+++++++++++++
(10 /12/53)
ยังไม่จบ
ความคิดเห็น